[Fic Talesrunner] Wait Forever Love
ผู้เข้าชมรวม
846
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทุกๆ ปี.. ที่ผมได้แต่รอคอย.. เธอ..
ทุกๆ เดือน.. ที่ผมได้แต่เฝ้ารอ.. เธอ..
ทุกๆ วัน.. ที่ผมต้องมาฝืนใจตัวเอง.. ไม่ให้คิดถึงเธอ..
ทุกๆ นาที.. ที่ผมเข้าใจว่าชีวิตผมไม่สามารถมีสุขได้.. เมื่อไม่มีเธอ..
ทุกๆ วินาที.. ที่ผมรักเธอตลอดเวลา..
...ทำไมเธอถึงไม่บอกลากันสักคำ...
...เธอไปโดยที่ฉันไม่รู้เลย...
...เมื่อไรเธอจะกลับมา...
...นับตั้งแต่วันนั้น... ก็10ปีมาแล้วสินะ...
...เธอหายไปที่ไหนกัน...
...ฉันอยากเจอเธออีกครั้ง...
“ราฟ... ราฟ... ราฟฟฟฟ!!!!”
“อะ!.. มีไรงั้นเหรอ”
“นี่นายเหม่ออีกแล้วนะ.. เข้าใจว่านายเศร้า แต่นี่เรากำลังเดินทางอยู่นะ” ชายหนุ่มเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อนผิวแทนเอ่ยกับเพื่อนของเขาเมื่อเห็นว่าเขาเหม่อลอยมาตั้งนานแล้ว
“โทษทีๆ งั้นไปต่อเถอะ” ทันทีที่ชายหนุ่มเรือนผมสีขาวเงินตื่นจากภวังค์ก็รีบเดินออกไป
ชายหนุ่มที่มองเพื่อนของเขาอย่างหนักใจ ก่อนที่จะรีบเดินตามเพื่อนของเขาไปหวังให้ทัน
..นายยังคงเสียใจกับเรื่องนั้นอยู่สินะ.. ขืนปล่อยไปแบบนี้ต่อไป คนที่จะแย่น่ะ ก็คือนายนะราฟ..
..นี่.. ฉันจะต้องรออีกนานมั้ย.. กว่าจะได้พบเธอ..
..อยากบอกว่าฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน..
..ตอนนี้เธอยังอยู่ที่ไหนกัน..
“เฮ้~! ราฟ! งานนี้หนุกเปล่า เพื่อนายโดยเฉพาะเลยนะโว้ย! ยินดีด้วยล่ะท่านราฟยศสูงที่สุดในเทลแลนด์”
“เว่อร์ไปน่า~ เนสสึ”
“เอาน่าๆ มาฉลองที่นายได้เป็นผู้ที่เก่งที่สุดของที่นี่แล้ว คัมปาย~” เนสสึพูดพร้อมกับชนแก้วในมือของตัวเองกับแก้วของราฟ
..ถึงจะเก่งที่สุด แค่ยังพาเธอที่หายไปกลับมาไม่ได้.. มันจะมีความหมายอะไรกัน..
ชายหนุ่มเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อนได้เฝ้ามองเพื่อนของตัวเองอยู่ห่างๆ ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าเพื่อนของเขาคิดอะไรอยู่ก็ตาม เขาก็ขอเฝ้ามองไว้เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องระหว่างที่เขากำลังเป็นอยู่ตอนนี้
“ฉันขอตัวแปปนะ”
“ตามสบายท่านราฟ”
“อย่ามาล้อเล่นหน่อยเลย”
“เออๆ แล้วเจอกันราฟ”
จากนั้นราฟก็เดินออกจากงานมาที่ระเบียงกว้างห่างจากห้องที่จัดงานขึ้นมาหน่อย ทำให้เสียงต่างๆเบาขึ้น ค่ำคืนที่มีดวงดาวมากมายเต็มท้องฟ้า ทำให้ร่างสูงยิ้มบางๆมองท้องฟ้าในยามค่ำที่แสนสวยงามก่อนที่ค่อยๆปิดตาลง ให้ความคิดในใจของเขาลอยไปกับสายลมที่พัดผ่านร่างสูงเบาๆ ก่อนจะกลับมาทำสีหน้าซึมเศร้าเหมือนเดิม
..ถ้ามีเธอดูอยู่ด้วย ก็คงดีสินะ..
จู่ๆขอบตาก็เริ่มมีของเหลวใสๆอุ่นๆเอ่อขึ้นมา แล้วไหลรินอาบใบหน้าเรียวหล่อของเขา พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า พระจันทร์เต็มดวงที่ส่องสว่างสะท้อนแสงกับน้ำตาของเด็กหนุ่ม ความเศร้าที่มีตลอดมาที่เขาสูญเสียคนสำคัญในชีวิตของเขาไป อยากย้อนเวลาไปในอดีตอันแสนสุขของเขาที่มีเธออยู่ข้างกาย.. แต่ก็ไม่มีวันที่จะเกิดขึ้น
จู่ๆเขาก็นึกถึงเหตุการณ์วันแรกที่เข้ามาอยู่ที่นี่..
‘สวัสดีครับ ผมพึ่งย้ายมาใหม่ ชื่อราฟ ฝากตัวด้วยนะ’
‘อืม..’
‘เย็นชาจังเลยแฮะ’ ถึงในใจคิดอย่างนั้น แต่เขาก็เผลอยิ้มจากใจให้เธอโดยไม่รู้ตัว
และตอนที่เขาสัญญาไว้กับเธอ
‘ฉันจะเป็นเพื่อนของเธอเอง!’
‘อะไรของนาย’
‘ก็ฉันจะเป็นเพื่อนเธอเอง เพราะงั้นฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ และจะขอปกป้องเธอด้วยชีวิตฉันเลย’
‘อย่าลืมคำสัญญาของนายเองแล้วกันล่ะ’
‘แน่นอน!’
สัญญา.. ที่ไม่มีวันลืม..
หลังจากที่เขาระบายรู้สึกเสร็จ เขาก็เดินขึ้นบันไดไปยังห้องของตน แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสลูกบิด เขาก็หันไปมองห้องข้างๆเขา ห้องที่ว่างเปล่ามานานหลายปี เพราะเจ้าของห้องนั้นได้หายตัวไปตั้งแต่10ปีก่อน น้ำตาที่น่าจะแห้งไปแล้วก็เริ่มกลับมาอีกรอบ แต่เขาต้องกลั้นใจไม่ร้องออกมา แต่แล้วต้องสะงัก..
กึกๆ
เสียงมาจากห้องที่คิดว่าไม่มีใครอยู่แล้วตอนนี้ ร่างสูงที่ได้ยินดังนั้นจึงเดินมาที่ประตูห้องข้างๆทันที ในหัวของเขาในตอนนี้มีเพียงขอความหวัง.. หวังว่าหลังประตูบานนี้มีสิ่งที่เขาอยากเจอตลอด10ปี ก่อนเปิดออกอย่างแผ่วเบา..
ฟิ้ว~
เสียงลมที่พัดเบาๆจากหน้าต่างที่ถูกเปิดออก บรรยากาศในห้องที่มืด มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องจากนอกหน้าต่างสะท้องถึงสิ่งที่อยู่ในห้อง เส้นผมสีส้มยาวที่พัดปลิวไปตามลม ชวนคนที่เห็นต่างอยากสัมผัส เด็กสาวตรงหน้าค่อยๆหันมาทางร่างสูง ดวงตาสีม่วงสะท้อนแสงจากดวงจันทร์ดูเปร่งประกายราวอัญมณีที่ใครมองมันเมื่อไรก็เหมือนถูกต้องมนต์ สายลมที่หยุดพัดกับการมาเยือนของเด็กสาวผมสีส้มทรงทวิลเทล ชุดสีดำที่เป็นสีประจำตัวของเธอ ถึงสัดส่วนจะต่างไปจากเดิมมาก เพราะผ่านมาตั้ง10ปี ก็ยังจำได้ดีสำหรับชายหนุ่มที่รอคอยเธอมาตลอด ตอนนี้เขาแทบอยากจะพุ่งเข้าหาร่างบางแทบทันที ความรู้สึกที่อัดอึดมาตลอดเวลา ทั้งคิดถึง ห่วงหา โกรธเคือง เศร้าใจ จนเผลอทำตามหัวใจตัวเองโดยการเข้าไปโอบกอดคนตรงหน้าแน่น แล้วน้ำตาที่ฝืดเก็บมันไว้ ก็ไหลออกมา ราวกับว่าเขาไม่อยากเสียคนตรงหน้าไปเป็นครั้งที่2อีกแล้ว
“ยินดีต้อนรับกลับนะ.. มากิ..”
Fin.
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ผลงานอื่นๆ ของ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ
ความคิดเห็น