คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 : ความรักคือ?
" ทำไม... เธอถึงพยายามที่จะพูดคุยกับเรา... "
" ทำไม... แม้จะต้องเจอภัยอันตราย แต่ก็ยังฝืนที่จะทำ... "
" ทำไม... เธอที่ปะทะกับเราจนพ่ายแพ้ไป แต่กลับไม่ย่อท้อ... "
" ทำไม... จึงมีความมุ่งมั่นได้มากขนาดนั้น... "
" ทำไม... รู้สึกเจ็บใจ!? นี่ฉันแพ้ที่หัวใจหรอกหรือ? "
" จูเวลซี๊ดที่บ้าคลั่งกลางเมืองหลวง ทำให้บาร์ดิชต้องบาดเจ็บ... เป็นเพราะความผิดของเรา... เพราะเราไม่หนักแน่นเพียงพอสินะ... "
" หากเธอมุ่งมั่นอย่างเต็มร้อยแล้วล่ะก็... ฉันจะขอมุ่งมั่นกว่าเธอให้จงได้!! "
แสงที่สาดส่องออกมาอย่างรุนแรง เฟทใช้ฝ่ามือทั้งสอง ประกบกุมจูเวลซี๊ดนั้นเอาไว้ในอุ้มมือ พร้อมกับภาวนาให้ตนเองนั้นทำสำเร็จ " หยุดสิ.. หยุดสิ... ได้โปรด... หยุดสิ... ( หากเธอสามารถดลบันดาลให้ฝันเป็นจริงล่ะก็ กรุณาช่วยหยุดการบ้าคลั่งนี้ลงด้วยเถอะ... ) "
ในที่สุด ผลึกพลอยสีน้ำเงินนี้ก็สงบลง... แต่กลับกลายเป็นว่าหญิงสาวต้องล้มทั้งยืน โชคดีที่อัลฟ์ยังประคองรั้งตัวของเธอไว้ได้ ก่อนที่จะจากลาไปพร้อมกับจูเวลซี๊ดหมายเลขที่ 19 ...
" ( ในครานี้ ฉันพิสูจน์ตัวเองแล้วล่ะ ว่าหัวใจแห่งความมุ่งมั่นของฉันก็เทียบเท่ากับเธอ... ขอโทษนะ นาโนฮะ... ) "
= Hika Zerora Project =
Mahou Shoujo Lyrical Nanoha : Fanfiction
Fate's Secret Heart - { 3 } ความรักคือ?
หากได้อยู่ภายในยานอาสร่าที่ลอยลำอยู่ในห้วงมิตินั้น มิอาจล่วงรู้ถึงเวลากลางวันหรือกลางคืนได้เลย ลูกเรือภายในยานจึงจำเป็นต้องพกนาฬิกาติดตัวไว้อย่างน้อย 1 เรือน เพื่อใช้ตรวจสอบเวลา ณ ปัจจุบัน โดยต่างตั้งหน้าปัดให้ตรงกับเวลามาตรฐานของมิดชิลด้า
และเช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่เอมี่ ที่มักทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ จนกระทั่งโครโน่ได้มอบของขวัญเป็นนาฬิกาแบบผู้หญิงเรือนสีขาวให้เมื่อเดือนก่อน ซึ่งสามารถร้องเตือนเวลาให้กับเธอได้อีกด้วย และในยามนี้มันก็ได้ทำหน้าที่ตนเองอีกครั้งหนึ่ง
" จ้าๆ ฉันรู้นะโครโน่ เธออยากจะบอกว่าอย่าหักโหมใช่ไหม " เอมี่พูดกับตัวเองหลังได้ยินเสียงเตือนจากนาฬิกาเรือนนั้น แต่มือทั้งสองยังดีดแป้นคีย์บอร์ดอย่างไม่ลดละ ดวงตายังจับจ้องไปที่หน้าต่างจากจอมอนิเตอร์ ที่กำลังประมวลผลเพื่อสืบค้นเรื่องราวของดวงดาวลึกลับนาม " เรนเดอุส "
" เอาล่ะ ค้นหาเสร็จแล้ว ไหนขอดูข้อมูลหน่อยซิ " เอมี่ใช้นิ้วกระแทกปุ่ม Enter เพื่อออกคำสั่งให้แสดงผลการค้นหาทั้งหมด ซึ่งข้อมูลนั้นทำให้เธอต้องตกตะลึงในทุกบรรทัด " อะไรกันเนี่ย !?! "
สิ่งที่ปรากฏคือประวัติของดาวเรนเดอุส จากแฟ้มบันทึกลับการแกะอักษรจารึกจากโบราณวัตถุในสมัยเบลก้า เชื่อว่าดวงดาวดวงนี้มีอายุเก่าแก่พอๆ กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์อัลฮาซาร์ด... ในอดีตเป็นดวงดาวทีมีวงโคจรตีเกลียวกับดาวซิเรเรี่ยน จึงทำให้มีโอกาสเกิดสุริยุปราคาทุกๆ 6 เดือน ความสำคัญเมื่อครั้งในอดีต จัดว่าเป็นดวงดาวนัดพบระหว่างพ่อค้าโลกมืดทั้งหลาย และเป็นแหล่งรวมอบายมุขมากมาย แต่เศรษฐกิจภายในกลับดีเลิศ จากแร่โลหะหายากที่ใช้ในการผลิตอาวุธ ส่งผลให้มีผู้คนมากมายเข้ามาอาศัยจับจองผืนดินตั้งเป็นถิ่นฐานของตนเอง
แต่วัฒนธรรมของชาวเรนเดอุสกลับยึดถือมั่นในระบบกษัตริย์และอัศวิน โดยเชื่อว่าบ้านเมืองใดที่มีกษัตริย์ที่ดีเลิศและอัศวินที่เก่งกาจ จึงจะอยู่รอดในโลกแห่งนี้ได้ และด้วยการเป็นดวงดาวแห่งอบายมุข การพนันต่างๆ จึงเป็นที่แพร่หลาย แม้กระทั่งกษัตริย์บางพระองค์ถึงขนาดใช้บ้านเมืองของตนเองลงเดิมพันธ์ในการต่อสู้ระหว่างอัศวินของพระองค์เลยทีเดียว
" และดาวดวงนี้ ได้ถูกทำลายลงโดยคำสั่งอันเป็นเด็ดขาดของราชาศักดิ์สิทธิ์ โอลิเวีย และยานรบของพระองค์ เปลแห่งราชา... " เอมี่จับจ้องหน้าจอที่กำลังประมวลผลวิถีของสะเก็ดดาวจากการะเบิด ซึ่งแน่แนอนว่าดาวที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ นั่นคือ ดาวซิเรเรี่ยนที่อยู่ใกล้เคียงนั่นเอง
" ทำไมจึงต้องมีรับสั่งให้ทำลายดวงดาวเรนเดอุสด้วยล่ะ " เอมี่รีบสอบถามกับระบบคอมพิวเตอร์ของยานอาสร่า แต่หน้าจอกลับแสดงผลว่า ไม่สามารถค้นหาได้ เพราะข้อมูลที่ต้องการนั้น ถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้ว...
ในฟ้าใสของเช้าวันใหม่ เฟทในชุดนักเรียนสีขาวสะอาดตา ได้ก้าววิ่งเพื่อไล่หลังเพื่อนสี่สาวที่กำลังเดินนำหน้าเธอไปไม่ไกลนัก ซึ่งประกอบด้วย อาริสะ ชิซึกะ ฮายาเตะ และนาโนฮะนั่นเอง
" อ้าวเฟทจังนี่นา วันนี้มาสายนะ " อาริสะเอ่ยแซวใส่เฟท
" ขอโทษๆ พอดีฉันเองยังไม่ค่อยชินเวลาบนโลกน่ะ " เฟทเอ่ยน้ำเสียงติดขัดเล็กน้อยจากอาการกระหืดกระหอบ
" เรากำลังปรึกษากันอยู่ว่าจะไปทำมื้อเย็นทานกันที่บ้านนาโนฮะจังล่ะ " ชิซึกะอธิบาย ทำให้เฟทสอบถามอย่างสงสัย " เห แบบนี้เราจะไม่เป็นการไปรบกวนคุณลุงคุณป้าเค้าหรอ " โดยในที่นี้เธอได้หมายถึงคุณพ่อและคุณแม่ของนาโนฮะ
" อ๊ะ! ฉันยังไม่ได้บอกเฟทจังสินะ คือคุณพ่อคุณแม่ฉัน และพี่ๆ เค้าจะไม่อยู่บ้านสักระยะน่ะ " นาโนฮะคลายความสงสัย " เพราะว่าคุณแม่ฉันได้ตั๋วไปเที่ยวเกาะคิวชูตั้ง 15 วันแหน่ะ ทุกคนเลยไปกันหมดเลย "
" ที่นั่นขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำแร่ด้วยนะ " ฮายาเตะยกตัวอย่างสาธยายเสียจนทำให้เหล่าสาวๆ ออกอาการวี๊ดว้าย อยากไปกับบ้างเสียแล้ว
" แต่เพราะว่านาโนฮะจะรอเจอแต่เฟทจัง เลยไม่ยอมไปเลยล่ะ " ฮายาเตะหยอกล้อจนนาโนฮะเริ่มเขินอาย ส่วนเฟททำตาโต ใบหูกระดิกเล็กน้อยด้วยความสนใจ
" เพราะใกล้จะสอบแล้ว คุณพ่อคุณแม่เลยให้อ่านหนังสืออยู่กับบ้านตังหาก!! " นาโนฮะบอกปัดไป แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าตนเองก็รู้สึกคิดถึงเฟทจังที่ไม่ได้พบกันเกือบสามสัปดาห์อยู่ด้วยเช่นกัน สายตาแอบจ้องมองเฟทที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนๆ อยู่ " ( วันนี้เส้นผมสีทองของเธอก็ยังทอประกายสวยงามเช่นเดิมเลยนะ ) " เธอนึกชมเฟทอยู่ภายในใจ
ในช่วงเย็นของวันเดียวกันนั้น ระหว่างที่เสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้น และทุกคนกำลังเก็บอุปกรณ์การเรียนเข้ากระเป๋า จู่ๆ ประตูห้องเรียนก็ถูกเลื่อนเปิดอย่างแรง ตามด้วยภาพเด็กผู้ชายแสกผมสีทองที่ทำหน้าต่างตื่นๆ ผู้หนึ่งก้าวเข้ามา สร้างความมึนงงให้กับเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ในห้อง ไม่เว้นพวกของนาโนฮะด้วยเช่นกัน
เสียงเซ็งแซ่ระงมไปทั่วห้อง ก่อนที่เด็กชายผู้นั้นจะหันมาทางเฟท แล้วเดินเข้ามาใกล้และจ้องเขม็ง ทำเอาเฟทต้องตื่นตัวกับท่าทีที่ไม่ไว้วางใจนี้ " ฟะ... เฟท ทะ... เทสทา... ทาบาสโก้ ฮาร์ลาโอว์น ใช่หรือ... หรือเปล่า? "
" หา~ !?! " เฟทอุทาน
จากคำพูดนั้น ทำให้บรรยากาศชวนตึงเครียด กลายเป็นตลกขบขันในพริบตา! เฟทหน้าแดงก่ำจากการถูกหัวเราะเยาะ ส่วนอาริสะที่ออกอาการขำจนน้ำตาเล็ดได้ร้องตะโกนแซวเพิ่มอีกว่า " เพื่อนเรากลายเป็นซอสพริกไปแล้ว!! "
ส่วนทางด้านเด็กชายเมื่อหันไปทางพวกนาโนฮะที่จับกลุ่มกันอยู่ และพยายามกลั้นหัวเราะจนตัวงอนั้น เขาจึงรีบจับมือเฟทไว้ และฉุดเธอออกจากห้องไปโดยไว จนเฟทแทบคว้ากระเป๋าของตัวเองไว้ไม่ทันเลยทีเดียว
" นี่ เดี๋ยวสิ " เฟทร้องขอให้หยุดหลังจากที่วิ่งออกมาสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเด็กชายผู้เผลอตัวก็ได้ทำการปล่อยมือของเฟทออกอย่างตกใจ " เหวอ!! นี้เธอจับมือฉันไว้ทำไม "
" นายนั่นแหละมาฉุดมือฉันทำไม!? " เฟทออกอาการไม่พอใจ " แถมยังทำให้ฉันโดนเพื่อนในห้องล้อเลียนอีก "
" ก็ฉันไม่รู้นี่ว่าที่คุณครูให้ไปตามคนชื่อประหลาดๆ จะเป็นเธอนี่นา " เด็กชายอธิบายให้ฟัง
" เห... คุณครูให้มาตามฉันหรอ " เฟทถามย้ำไปเพื่อความมั่นใจ เพราะเธอคิดว่าตนเองมิได้ทำอะไรผิดกฎแต่อย่างใด ทำไมจึงถูกตามตัวให้มาพบล่ะ?
" ใช่แล้วล่ะ เธอคงหยุดบ่อยล่ะสิ คุณครูเลยสั่งให้พวกเราต้องเรียนคาบพิเศษหลังเลิกเรียน นับแต่วันนี้ไปจนถึงสอบเลยล่ะ " เด็กชายแสดงท่าทีไม่สบอารมณ์เล็กน้อย " เอาล่ะ ไหนๆ ก็เป็นเพื่อนร่วมเรียนกันแล้ว ฉันชื่อ คาโอรุ จุน ยินดีที่ได้รู้จักนะ เฟท เทสทาบาสโก้!! "
" เทสทารอสซ่า!! " เฟทตะโกนอย่างฉุนเฉียว ในหัวพลางคิดว่าหากทำได้จะฟาดหัดหมอนี่ด้วยบาร์ดิชสักคราคงจะดี
ในการเรียนเสริม เฟทและคาโอรุจะต้องเรียนวิชาที่ตกหล่นถึงสองคาบเรียนต่อวัน ซึ่งในช่วงระหว่างคาบคุณครูก็จะให้พักได้สิบห้านาที ซึ่งคาโอรุถือโอกาสนี้สานคืนสัมพันธ์อันดีกับเฟท
" นี่ เธอรังเกียจฉันอยู่ใช่ไหม " คาโอรุจุนตะโกน ก่อนที่จะได้รับการตอบกลับจากเฟทว่า " เปล่าสักหน่อย... " โดยทั้งสองนั่งอยู่คนละฟากของห้องเรียนจนต้องตะเบ็งเสียงคุยกันเลยทีเดียว
" เอาล่ะ ฉันขอโทษจริงๆ ยอมรับว่าตอนนั้นมันตื่นเต้นน่ะ " คาโอรุเดินเข้ามาอธิบายเฟทที่ตรงหน้าโต๊ะของเธอ สองมือเท้าแขนลงไปบนสมุดโน้ตของหญิงสาว
" ท่าทีวางก้ามแบบนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนเค้าชอบหรอกนะ " เฟทจ้องตาเขม็ง " ตอนที่เข้ามาเรียกชื่อฉันผิดยังดูน่ารักกว่าเลย "
" หา!! จริงหรอ " คาโอรุถอยออกเล็กน้อย ก่อนที่จะลองยิ้มให้กับเฟท ซึ่งดูแล้วน่าขนลุกยิ่งนัก " แบบนี้ล่ะ เป็นไงบ้าง "
" นี่ หากเธอคิดจะจีบฉันโดยทำให้ฉันประทับใจล่ะก็ ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะ " เฟทยิ้มให้โดยคาดคิดว่าคงจะทำให้เด็กชายล้มเลิกความตั้งใจ... แต่ผิดถนัด เมื่อเขาตอบมาว่า " ใครบอกว่าฉันชอบเธอกัน บู่~ ๆ " คาโอรุออกท่าทางล้อเลียนให้กับอาการเสียหน้าของเฟท จนหญิงสาวหมดความอดทน และต้องลุกขึ้นจากโต๊ะมายืนเผชิญหน้ากับคาโอรุ
" ไม่ชอบฉันแล้วเธอชอบใคร!! " เฟทเผลอถามไปด้วยความโมโห พร้อมกับแอบใช้เวทย์มนตร์ยิงใส่คาโอรุให้รู้สึกเหมือนไฟช็อต ทำให้เขาตกใจกลัว
" โอ๊ย เธอทำอะไรน่ะ ฉันเจ็บนะ " คาโอรุถอยกรูจนหลังชนฝา ส่วนเฟทก็รุกก้าวประชิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว
" จะเอาอีกไหมล่ะ " เฟทขู่ฟ่อพร้อมจับจ้องด้วยสายตาอันดุดัน " ไม่งั้นก็บอกมา เธอชอบใคร!! "
" โอเคๆ บอกแล้วๆ " เด็กชายทำหน้าจ๋อย พลางหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วถอนหายใจ... " คนที่... ผมสีน้ำตาล และติดกิ๊บติดผมกากบาทสีแดงน่ะ "
" ฮายาเตะจังหรอ!?! " เฟทโพลงออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ ก่อนที่จะหันไปหัวเราะคิกคักจนท้องคัดแข็ง ทั้งจากความไม่น่าเชื่อในรสนิยมของตานี่ และทั้งดีใจให้กับฮายาเตะจังเพื่อนรักที่มีคนแอบชอบอยู่ด้วย
" นี่อย่าหัวเราะให้เวอร์นักสิ " คาโอรุเริ่มเสียความมั่นใจ ซึ่งเฟทเองก็ยังไม่หยุดได้แต่ปาดน้ำตาที่ซึมออกมา ก่อนที่คุณครูจะกลับเข้ามา จึงทำให้ทั้งสองต้องร่ำเรียนในบทเรียนต่อไป
ในวันถัดมา... ภายในห้องรับรองของศูนย์บัญชาการใหญ่ของ TSAB ซึ่งเหล่าอัศวินแห่งเบลก้าทั้งสี่ และยูโน ได้นั่งสนทนากับโครโน่ผ่านจอมอนิเตอร์โฮโลแกรม ในระหว่างที่รอการส่งมอบตัวผู้ต้องหาจากสถานกักกัน สู่การควบคุมของยานอาสร่า
" ทั้งนี้คงต้องขอขอบคุณคุณเลตี้เสียมากกว่านะ ที่ทำให้พวกเราได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง " โครโน่บอกกับเหล่าอัศวิน ผ่านระบบสนทนาระยะไกล
เมื่อประตูของห้องเปิดออก ผู้ที่มาถึงคือกัปตันรินดี้ ที่กำลังสนทนากับสุภาพสตรีผู้หนึ่ง ซึ่งเธอคือมิตรสหายเก่า พลเรือเอก เลตี้ โลวแรน นั่นเอง... ทั้งหมดยืนตรงเพื่อทำความเคารพ ก่อนที่จะนั่งลง แล้วรินดี้จึงเริ่มกระทำสัญญารับมอบตัวผู้ต้องหาทันที
" ที่จริงพวกเธอไม่น่าจะถูกพิจารณาคดีเป็นครั้งที่สองเลยนะ " เลตี้บ่นอุบหลังจากที่เก็บเอกสารที่ได้รับลายเซ็นจากรินดี้เข้าซอง " แต่เพราะว่าพวกสภาสูงอยากจะลิดรอนพวกอำนาจเก่าลงน่ะ หลังจากที่นายพล เกล กราแฮม ถูกปลดประจำการณ์ไป นอกจากจะนำพวกเธอมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองแล้ว ต่อไปนี้พวกเราหากคิดจะทำอะไรก็คงไม่สะดวกเหมือนก่อนแล้วล่ะ "
" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปด้วยดีอย่างแน่นอน " ซิกนั่มกล่าวด้วยวาจาที่แสดงออกด้วยความมั่นใจ
" ส่วนในคดีลอสท์ โลเกียลึกลับที่พวกเธอจะต้องพบเจอนั้น ฉับได้รับรายงานจากโครโน่แล้วล่ะ งานหนักใช่เล่นนะเนี่ย " เลตี้ส่ายหัวแสดงความเป็นห่วงแทน " แถมพวกสภาสูงยังทำเหมือนตัดหางปล่อยวัด ให้อาสร่ามารับผิดชอบคดีนี้แต่เพียงผู้เดียวอีก ดูไม่ชอบมาพากลไงไม่รู้... แต่เอาเถอะ หากฉุกเฉินต้องการกำลังเสริมจริงๆ ล่ะก็ ฉันพอจะให้หยิบยืมกองกำลังได้อยู่สัก 20 - 30 นายล่ะนะ "
ทางด้านยูโนเหลือบเห็นรินดี้นั่งนิ่งมานานจนผิดสังเกต จึงได้ลองสอบถามไป " คุณรินดี้เป็นอะไรหรือเปล่าฮะ "
รินดี้ตกใจเล็กน้อยเมื่อมีคนเอ่ยทัก พลางหันไปทางยูโน " อ้อ เปล่าจ้ะยูโน " รินดี้เผยยิ้มออกมา
" พักนี้เธองานยุ่งตลอดเลยนี่ ไหนๆ ก็มาถึงนี้แล้ว ไม่แวะพักทานข้าวกันสักหน่อยหรอ " เลตี้เอ่ยชวนเพื่อนเก่า รวมถึงเหล่าอัศวิน และยูโนคุงด้วย ก่อนที่เลตี้จะให้ผู้ดูแลในบังคับบัญชาจัดเตรียมอาหารเอาไว้ในห้องอาหาร แล้วหลังจากนั้น ทุกคนก็ยกขบวนไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน
เมื่อนั่งลงบนโต๊ะอาหารแล้ว รินดี้ก็ได้จ้องมองไปยังเหล่าอัศวินทั้งสี่ ที่กำลังหยอกล้อกันเอง และยูโนคุงอย่างสดใสร่าเริง พลางนึกในใจถึงบางสิ่งบางอย่าง " ( ฉันคงตัดสินใจในคราวนั้นผิดไปสินะ พวกเขาถึงต้องเจอกับเรื่องราวเช่นนี้... ดังนั้นฉันจะดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด ) " เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จึงยิ้มหวานให้กับวีต้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ ซึ่งเด็กหญิงก็ได้ออกอาการงวยงงกับท่าทีที่แสดงออกมาของกัปตันรินดี้อันมีต่อเธอ
เมื่อกลุ่มอัศวิน ยูโน และรินดี้ ได้ร่ำลาเลตี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงออกเดินทางไปสมทบกับโครโน่ ที่พักรออยู่ ณ ห้องรับรองของสถานีเคลื่อนย้ายผ่านมิติฉับพลัน เพื่อกลับไปยังยานรบอาสร่า โดยข้างๆ โครโน่นั้นมีชายหนุ่มผมหยักศกสีน้ำตาลอีกคนติดตามมาด้วย
" สวัสดีครับ ผมชื่อ สเวน แซฟไฟร์ ครับ " ชายหนุ่มเข้าไปแนะนำตัวกับทุกคน ก่อนที่จะตามด้วยบทเสริมจากโครโน่ " เขาเป็นคู่หมั้นของเจ้าหน้าที่แคสก้า ที่พักรักษาตัวอยู่บนยานของเราครับ "
" ขอเชิญคุณสเวนไปกับพวกเรา ทางนี้ค่ะ " รินดี้นำพาทุกคนกลับมายังยานรบอาสร่า โดยใช้เครื่องเคลื่อนย้ายผ่านมิติฉับพลัน... และเมื่อทุกคนมาพร้อมหน้ากันในสะพานเดินเรือของยานอาสร่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะนั้นเอง เอมี่ได้วิ่งมาและกระซิบบางอย่างให้รินดี้ฟัง
รินดี้ออกอาการตกใจเล็กน้อยจากคำพูดของเอมี่ ก่อนที่จะหันมาออกคำสั่งกับทุกคน " โครโน่วานพาซิกนั่มและเพื่อนๆ ไปลงทะเบียนให้เรียบร้อยนะ แล้วก็... ยูโนคุงจ้ะ รบกวนพาคุณสเวนไปที่ห้องรับรองหน่อยนะ " ทุกคนจึงแยกย้ายตามหน้าที่ของตนเองไป
ส่วนทางด้านรินดี้ และเอมี่ ได้เดินไปที่จอมอนิเตอร์ ซึ่งจับภาพของเจ้าหน้าที่แคสก้าที่รู้สึกตัวแล้ว แต่ทว่า... " จากที่แพทย์ได้ตรวจสอบร่างกายของเจ้าหน้าที่แคสก้านั้น หากไม่นับเรื่องรอยแผลจากการต่อสู้ล่ะก็ ที่น่าเป็นห่วงมีอยู่สองเรื่องค่ะ... หนึ่งก็คือลิงเกอร์คอร์ของเธอนั้นมีขนาดเล็กลง... ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง... คือเธอสูญเสียความทรงจำทั้งหมดค่ะ " เอมี่อธิบาย
" เธอไม่สามารถจำชื่อของตนเองได้งั้นหรอ " รินดี้สอบถามเพิ่มเติม
" เปล่าค่ะ เธอลืมทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งการพูดค่ะ!! " เอมี่กล่าวด้วยความรู้สึกสงสาร ส่วนทางรินดี้ได้ทราบดังนั้นจึงให้เอมี่ไปตามโครโน่มาปรึกษาทันที
ในห้องพยาบาลของยานอาสร่า เจ้าหน้าที่แพทย์ได้อนุญาตให้ทั้งหมดสามารถเข้าเยี่ยมเจ้าหน้าที่แคสก้าได้ แต่บัดนี้หญิงสาวที่อยู่บนเตียงคนไข้นั้น มีสภาพที่ไม่ต่างจากหุ่นตั้งโชว์ที่แข็งทื่อและไม่แสดงอากับกิริยาใดเหมือนมนุษย์ที่มีชีวิตออกมาเลย
" แคสก้า! " สเวนรีบเข้าไปสวมกอดและโอบฝ่ามือของเธอไว้ แต่ดวงตาอันเลื่อนลอยของหญิงสาวนั้นเพียงขยับมามองชายหนุ่มอย่างผิวเผินเพียงเท่านั้น
" แคทจัง... นี้ผมเองนะ... สเวนไง จำได้ไหม? " ชายหนุ่มยื่นสองมือจับบ่าของหญิงสาว และจ้องมองเธอ แต่ก็ไร้การตอบสนองใดๆ กลับมา สเวนได้แต่เพียงซบหน้าลงไปและพยายามข่มกลั้นน้ำตาเอาไว้ และอาจจะเป็นเพียงสัญชาตญาณที่ต้องการปลอบขวัญเพื่อนมนุษย์กระมัง แคสก้าจึงเพียงเลื่อนฝ่ามือมาลูบเส้นผมของชายหนุ่มเพียงเท่านั้น
ทั้งหมดได้แต่เพียงยืนมองภาพอันบาดใจตรงหน้า แม้ว่าซิกนั่มจะลองกระซิบสอบถามทางชามาลว่าสามารถทำการรักษาแคสก้าได้หรือไม่ แต่ชามาลลองใช้ดีไวน์ คลาร์ วินด์ ที่เป็นลักษณะของพลอยน้ำเงินและเขียวบนแหวนสีทอง ที่สวมไว้ที่นิ้วชี้และนางทั้งสองข้าง ตรวจสอบดูแล้วก็ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด เธอจึงบอกขอโทษกับซิกนั่มไป " หากฉันมีพลังมากกว่านี้ล่ะก็... อาจจะช่วยคุณแคสก้าได้ "
" ไม่ต้องขอโทษหรอก ชามาล ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ทุกอย่างหรอก " ซิกนั่มเอ่ยปลอบกับเธอ ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันออกมาเพื่อให้แคสก้าได้พักผ่อน ซึ่งสเวนก็ได้วางรูปถ่ายที่ตนเองถ่ายไว้คู่กับแคสก้าใว้ข้างเตียง โดยรูปนั้นประกอบด้วยรอยยิ้มของสเวน และแคสก้า ที่หวานแหววกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม... ต่างจากสถานการณ์จริงที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง
" ทั้งที่พวกเราหมั้นกันไว้ ว่าอีก 2 เดือนจะเข้าวิวาห์แล้ว แต่ทำไมเธอถึงต้องเจออะไรแบบนี้ด้วย! ทำไม!! " สเวนชกกำแพงอย่างแรงด้วยความเจ็บใจ รินดี้จึงต้องเข้าไปปลอบโยน และพาเขาไปพักที่ห้องรับรอง... ส่วนทางโครโน่เองก็เหลือบเห็นแคสก้าได้ยกรูปข้างเตียงมาจ้องมองอย่างสงสัย ก่อนที่จะปล่อยมันทิ้งลงไปกับพื้น มือทั้งสองยกขึ้นมาบีบข้างศีรษะ และหวีดร้องอย่างทุรนทุราย
" ในขณะนี้พวกมันลงไปบนโลกมนุษย์แล้ว พวกเราคงต้องรีบเตือนพวกนาโนฮะไว้ ให้ระมัดระวังมิให้ตกเป็นเหยื่อของพวกมัน " โครโน่หันมาปรึกษากับยูโนและเหล่าอัศวิน " และพวกเราต้องการทราบในสิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับศัตรูของเราทั้งหมดในตอนนี้ด้วยนะครับ " โครโน่จึงให้เอมี่จัดเตรียมห้องประชุมเพื่อหารือเป็นการเร่งด่วน
ยามเย็นของวันถัดไป เมื่อเสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้นอีกครั้ง คาโอรุก็เปิดประตูเข้ามาทันที เป็นอันรู้กันกับเฟทว่าทั้งสองจะต้องเรียนพิเศษเพิ่มเติมด้วยกัน เฟทจึงไม่รอช้ารีบเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋า แล้วหันไปร่ำลากับพวกเพื่อนๆ ของเธอ " วันนี้ต้องเรียนพิเศษด้วยล่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะ ไว้พบกันพรุ่งนี้จ้ะทุกคน "
ในช่วงพักของคาบเรียนพิเศษ ทั้งสองยังคงพูดคุยกันถึงเรื่องของความรักที่คาโอรุมีต่อฮายาเตะ โดยวันนี้ฝ่ายชายได้นำหนังสือสอนจีบสาวเล่มสีชมพูขึ้นมาโชว์ให้เฟทดูด้วย " นี่ไงๆ ดูเล่มนี้สิ อ่านแล้วดีมากๆ เลยล่ะ "
เฟทหรี่ตาลง จับจ้องอย่างไม่ไว้วางใจ " นายอ่านอะไรแบบนี้ด้วยหรือเนี่ย " แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังรับหนังสือเล่มนั้นมาจากคาโอรุแล้วเปิดอ่านอย่างตั้งใจ
" นี่รอสซ่าจัง ฉันอยากจะให้เธอช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม " เสียงเด็กชายดูขึงขังขึ้น เฟทจึงละสายตาและหันมาทางเขา " จะให้ฉันช่วยอะไรอ่ะ? "
" คือเราอยากจะรู้ว่า... เธอคนนั้น... อ่า ยากามิซังเค้ามีคนที่ชอบแล้วหรือยัง? " คาโอรุแสดงท่าทีเขินอาย
" นายนี่ท่าทางชอบเขาจริงๆ สินะ... " เฟทลองสอบถามต่อไป " ชอบฮายาเตะที่ตรงไหนหรอ? "
เด็กชายพลางนึกครู่หนึ่ง แล้วจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง " ในวันนั้น...ฉันเห็นแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังจูงมือกันเดินข้ามถนน แต่แล้วจู่ๆ สัญญาณไฟให้คนข้ามถนนก็เปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง... ผู้เป็นแม่ข้ามมาจนถึงฟุตบาทแล้ว แต่ลูกสาวของเธอกลับสะดุดล้มอยู่กลางถนน ผู้เป็นแม่ก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แล้วข้างหน้าก็มีรถที่กำลังจะขับชนเด็กคนนั้น... ไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะไปช่วยเลย... แม้แต่ฉันเอง... "
" แต่ทว่า ทันใดนั้น... เด็กผู้หญิงที่นั่งรถเข็นผู้ป่วยได้รีบเข้าไปใกล้ และรีบฉุดดึงมือของเด็กที่ล้มขึ้นมาได้ทันอย่างฉิวเฉียด! ผู้เป็นลูกปลอดภัยอยู่ในอ้อมอกของเด็กผู้หญิงที่นั่งรถเข็นผู้ป่วยคนนั้น... " คาโอรุเผยยิ้มออกมา " ผู้เป็นแม่รีบขอบคุณเด็กที่นั่งรถเข็น รวมถึงฉันเองก็ประทับใจในความกล้าหาญของเธอผู้นั้นด้วยล่ะ แม้ตัวเองจะเจ็บป่วย แต่ก็ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค แถมยังช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเต็มที่อีกด้วย "
" ฉันเก็บความประทับใจนั้นไว้ และยิ่งได้รู้ว่าเธอคนนั้นเป็นนักเรียนของโรงเรียนเราก็ยิ่งทำให้ฉันอยากรู้จักกับเขาล่ะ... และพยายามอวยพรให้เขาหายป่วยเร็วๆ แล้วในที่สุด ยากามิซังก็หายป่วยและกลับมาเดินได้อีกครั้งแล้วด้วย ดีใจมากๆ เลย " คาโอรุเล่าอย่างออกอรรถรส ซึ่งเฟทก็รู้สึกตื่นเต้นไปกับวีรกรรมของฮายาเตะเพื่อนรักด้วยเช่นกัน
" ดีจังเลยน๊า~ " เฟทเอ่ยออกมาด้วยความดีใจไปกับแม่ลูกคู่นั้น พลางเปิดหนังสือสอนจีบสาวต่อ แต่แล้วก็พบว่า ในเล่มมีการสอนวิธีการจูบในแบบต่างๆ พร้อมรูปประกอบด้วย ทั้งจูบลา จูบทักทาย จูบแบบประทับริมฝีปาก และจูบแบบ...
" ว๊าย~!?! " เฟทรีบปิดหนังสือทันใดเมื่ออ่านมาจนถึงการจูบแบบดีฟ คีส หรือการจูบแบบแลกลิ้น... สองแก้มแดงระเรื่อ และเผลออุทานออกมา เธอรีบหันมาถามกับคาโอรุ " นะ.. หนังสือเล่มนี้เค้าสอนแบบนี้ด้วยหรอ "
" อ้อ เรื่องจูบใช่ไหม มันเป็นอะไรที่เป็นพื้นฐานสำหรับคนที่รักกันเลยนะ " คาโอรุอธิบาย " เค้าว่าเวลาจูบกับคนที่เรารักจะรู้สึกดีมากๆ และจะมีความสุขที่สุดเลยล่ะ "
" จะ... จริงหรอ " เฟทค่อยๆ แง้มเปิดดูรูปในหนังสืออีกครั้ง ภายในหัวจู่ๆ ก็ผุดรูปของตนเองกับนาโนฮะที่กำลังจูบกัน " ว๊าย~!?! " เธออุทานอีกครั้งหนึ่ง รู้สึกใบหน้าร้อนฉ่ากว่าเดิม แต่ในขณะนั้นผู้เป็นครูก็ได้เข้ามาพอดี เธอจึงรีบเก็บหนังสือเล่มดังกล่าวลงกระเป๋าของตนเอง
ถัดมาในอีกวันหนึ่ง ซึ่งในเวลานี้เป็นช่วงพักเที่ยงของวัน ที่ม้านั่งบนดาดฟ้าของอาคารเรียนถูกพวกนาโนฮะปรับเปลี่ยนให้เป็นสถานที่สำหรับนั่งทานอาหารมื้อเที่ยง โดยเฟทเป็นคนที่มาสายที่สุดในวันนั้น ซึ่งเธอได้คิดถึงคำพูดของคาโอรุเมื่อเย็นวาน จึงคิดว่าอาจจะขอแอบไปสอดแนมเสียหน่อยว่า ฮายาเตะมีคนที่แอบชอบแล้วหรือยัง
เฟทค่อยๆ ฉากหลบเข้าไปที่พุ่มไม้ทางด้านหลังของม้านั่ง ตามแบบที่ฝึกฝนมาจากมิดชิลด้า ในหลักสูตรเจ้าหน้าที่สืบสวน ซึ่งในขณะนั้น อาริสะ ชิซึกะ นาโนฮะ และฮายาเตะกำลังทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย รวมถึงเรื่องสนทนาก็เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เฟทกำลังอยากรู้ด้วย นั่นคือเรื่องของคนรัก
" ไม่รู้ทำไมหนุ่มๆ ที่ฉันดูตัวด้วยทุกคนถึงต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ " อาริสะบอกอย่างอารมณ์เสีย พร้อมร่ายยาวเกี่ยวกับความเป็นลูกคุณหนูไม่สมชายชาตรีของบรรดาผู้ชายที่เข้าพิธีดูตัวเหล่านั้น " แต่ละคนที่คุณแม่เลือกมามีแต่รวยๆ อย่างเดียวเลย แย่มากๆ เลยล่ะ ฉันชอบพวกหนุ่มๆ สไตล์นักกีฬามากกว่าล่ะ แล้วที่สำคัญ ต้องผิวสีแทนเท่านั้น!! " อาริสะเน้นย้ำเป็นพิเศษ
" ยอดไปเลย... " ฮายาเตะเอ่ยขึ้นมา และในจังหวะนั้นเองอาริสะจึงยอมถามกลับไป " แล้วฮายาเตะจังล่ะ มีคนที่ชอบแล้วหรือยัง "
" มีแล้วๆ " ฮายาเตะตอบทันควัน ซึ่งทุกคนก็สะดุ้งไปกับคำตอบนั้น รวมถึงเฟทด้วย แต่แล้วคำอธิบายของเด็กสาวคันไซผู้นี้คือ " ก็ซิกนั่ม ชามาล วีต้าไง " ฮายาเตะนับนิ้ว " อ้อใช่ เกือบลืมไปแล้วล่ะว่ามีซาฟิร่าด้วยนะ " ( ซาฟิร่าเผลอจามแรงๆ อยู่ในห้องพักผ่อนของยานอาสร่า )
" ฮะๆ แหม ฮายาเตะจังนี่ก็... " ซึซิกะแอบหัวเราะเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยประสบการณ์ของตนเองบ้าง " ส่วนฉันก็... นี่จ้ะ " พลางเปิดรูปให้ดูจากโทรศัพท์มือถือ ในจอปรากฏภาพของชายหนุ่มผมทองรูปหล่อ ดูใจดีและดูภูมิฐานในมาดของนักธุรกิจ " นี้คู่หมั้นของฉันล่ะ คุณแม่บอกว่าถ้าเรียนจบแล้วจะจัดงานแต่งงานให้ด้วย "
" ว้าว ชิซึกะ ยอดกว่าอาริสะอีกนะเนี่ย!! " ฮายาเตะตบไหล่เบาๆ ของเด็กสาวผมสีม่วง ทำเอาอาริสะออกอาการอึ้งกิมกี่ เพราะเธอแทบไม่เชื่อว่าเพื่อนรักของเธอจะก้าวหน้าไปจนถึงขั้นนั้นแล้ว " แล้ว... นาโนฮะล่ะ มีคนที่ชอบแล้วหรือยัง? "
คำถามนี้ทำเอาทั้งนาโนฮะและเฟทที่แอบซุ่มสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที จู่ๆ เฟทก็รู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะกับความรู้สึกที่สับสนของตนว่า ในหนึ่งก็อยากได้ยินคำตอบของนาโนฮะ แต่อีกใจก็มิอยากได้ยินชื่อของคนอื่นถูกเอ่ยออกมาจากปากของนาโนฮะเช่นกัน
" ฉันหรอ... ก็... " นาโนฮะยกมือขึ้นเกาหัวอย่างขัดเขิน ส่วนเฟทลุ้นใจแทบขาด " ยังไม่มีใครหรอกจ้า " เฟทโล่งออกและเผยยิ้มออกมา
" จริงหรอ... แล้วนี้รูปใครน๊า~ " ฮายาเตะเผลอหยิบกระเป๋าสตางค์ของนาโนฮะออกมาเปิดดู ในนั้นมีรูปเด็กผู้ชายผมสีน้ำตาลอ่อนอยู่ด้วย " ว๊ายๆ นี้ใครอ่ะ " ชิซึกะรีบสอบถามอย่างกระตือรือร้น ส่วนเฟทแทบจะลุกจากพุ่มไม้เข้าไปดูให้ชัดๆ
" อ้อ นี้... เค้าชื่อยูโนคุง... ยูโน สไตร์คเออร์ เป็นเพื่อนสนิทของฉันเองล่ะ " นาโนฮะพูดแก้ตัว
" ยูโน... ชื่อเหมือนคนเกาหลีเลย " อาริสะพูดขึ้นมา ส่วนฮายาเตะเอ่ยอย่างติดตลกว่า " เหมือนเฟอร์เร็ตมากกว่า!! "
เฟทรีบออกจากพุ่มไม้นั้น และวิ่งลงบันไดไปโดยไม่อยู่สอดแนม เพื่อรับรู้สิ่งใดอีกต่อไป...
ในช่วงเย็น เหมือนเช่นทุกวันที่เฟทจะต้องไปเรียนพิเศษ จึงรีบเก็บกระเป๋า แต่ในระหว่างนั้น นาโนฮะก็เดินเข้ามาทักเธอ " เฟทจัง... "
" เฟทหันมามองดวงตากลมโตของนาโนฮะ พลางคิดถึงสิ่งที่รับรู้เมื่อเที่ยงวันที่ผ่านมา " อะไรหรอ... " เฟทตอบด้วยความรู้สึกเจ็บแน่นในหน้าอกแปลกๆ
" เอ่อ... วันนี้อาริสะกับชิซึกะเค้าต้องไปซ้อมดนตรี ส่วนฮายาเตะต้องออกไปจ่ายตลาดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเมืองข้างๆ " นาโนฮะเอ่ยอย่างตั้งใจ " เฟทจัง คืนนี้ไปตัวหนังสือที่บ้านฉันกันนะ "
เฟทรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที แต่ทว่า... " ฉันต้องเรียนพิเศษอ่ะ กลัวว่าจะเป็นถึงค่ำหน่อย "
" อื้มๆ ไม่เป็นไรหรอกจ้า " นาโนฮะยิ้มให้ และเกี่ยวก้อยเฟทขึ้นมา เด็กสาวผมทองมองตาลอยตามนิ้วที่พันกันนั้น จนกระทั่งจ้องประสานกับแววตาน่ารักของนาโนฮะตรงหน้า... " สัญญานะว่าจะต้องไปหา แล้วฉันจะรอจ้ะ "
" นี่ๆ ได้คำตอบแล้วหรือยัง " พอถึงช่วงพักจากการเรียนพิเศษปุ๊บ คาโอรุก็รีบยิงคำถามใส่เฟททันที
" อื้ม รู้แล้วล่ะ " เฟทตอบทันควัน
" จริงหรอ ยากามิเค้ามีคนที่ชอบแล้วยัง " คาโอรุตื่นเต้นที่จะทราบคำตอบนั้น
" มีแล้วล่ะ " เฟทเอ่ยแกล้งเขา
" ไม่จริงน่า!?! " เด็กชายหน้าถอดสี ซึ่งทำเอาเฟทหัวเราะไม่หยุดกับพฤติกรรมแปลกๆ ของคาโอรุ " ฮะๆ ล้อเล่นๆ เขายังไม่มีใครที่ชอบหรอก "
" จริงหรอ!! เยี่ยมไปเลย!!! " คาโอรุดีใจจนลืมตัวว่า มือได้จับต้นแขนของเฟทและเขย่าตัวของเธอไปหลายที
" ฉันเจ็บนะ " เฟทตวาด ทำให้คาโอรุต้องขอโทษเธอยกใหญ่ เพราะไม่อยากโดนไฟช็อตอีกแล้ว " ลืมตัวไปหน่อย ตามสไตล์ของคนที่มีความรักน่ะ "
" คนที่มีความรักเค้าไม่เป็นแบบเธอหรอก " เฟทยังออกอาการแง่งอนอยู่
" เป็นสิ " คาโอรุเอ่ย " คนที่มีความรักนะ โลกทั้งโลกจะเป็นสีชมพู หัวใจจะเต้นโครมคราม มองสิ่งใดก็จะเห็นเป็นหน้าคนที่เราแอบชอบ ความรู้สึกคิดถึงจะเอ่อท่วมท้นอยู่ในอก และอยากที่จะอยู่เคียงข้างคนที่เรารักตลอดเวลาเลยล่ะ... ดังนั้นเวลาแสดงออกถึงความรักก็มักจะเป็นอะไรที่แปลกๆ แบบนี้ล่ะ ในหนังสือเค้าว่าเอาไว้ " คาโอรุหยิบหนังสือสอนจีบสาวให้เฟทไป " เธอลองอ่านดูสิ จะได้เข้าใจคำว่ารักมากขึ้น
" ฉันเข้าใจอยู่แล้วล่ะ " เฟทตอบน้ำเสียงราบเรียบ แต่มือก็หยิบคว้าหนังสือนั้นลงกระเป๋าของตนเอง
ในช่วงเลิกเรียนแล้ว เฟทกับคาโอรุได้บอกลากันในทางแยกด้านหน้าโรงเรียน จากนั้นเฟทเองก็ได้รีบก้าวเดิน เพื่อหวังให้ไปถึงบ้านนาโนฮะโดยเร็วที่สุด แต่แล้วความรู้สึกแปลกๆ ก็ได้ฉุดรั้งให้เฟทต้องหยุด ซึ่งในขณะนี้เธอยืนอยู่กลางถนนอย่างเปล่าเปลี่ยว... สายลมพัดกลิ่นแห่งความมุ่งร้ายไม่หยุดหย่อน
" ( ศัตรู... งั้นหรือ!? ) " เฟทคว้าผลึกรูปสาวเหลี่ยมสีเหลืองขึ้นมา... แต่แล้วจู่ๆ เธอก็โดนบางอย่างคล้ายอวัยวะส่วนหนึ่งของแมลง แต่มันแลดูโปร่งใส ฟาดเข้าอย่างแรงที่ชายโครง ซึ่งทำให้เฟทกรีดร้อง และลอยละลิ่วไปในตึกที่กำลังก่อนสร้างที่อยู่ใกล้กัน
" แค่กๆ ... " เฟทรู้สึกจุกเสียด แต่ก็พยายามพยุงตัวขึ้นมา ซึ่งเธอได้ยินเสียง ฉึ่บ! จากทางด้านบน และเมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไปก็พบว่า คานเหล็กที่ยกขึ้นสูงจากปั้นจั่น ได้ร่วงกราวลงสู่ตัวเธอ
" ฮ่าห์~! " เฟทกระโดดหลบได้ทันก่อนที่คานพวกนั้นจะทำร้ายเธอ หญิงสาวตะโกนก้อง " บาร์ดิช แบเรีย แจ๊คเก็ต เซ็ตอัพ!! "
ผลึกแก้วสามเหลี่ยมในมือเฟทส่งเสียง "= Setup... Error!! ="
" หา!?! " เฟทตื่นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แล้วเธอกลับเห็นเงาใสๆ ตรงหน้า ค่อยๆ ปรากฏเป็นร่างของผู้ที่เธอเคยประมือมา นั่นคือเจ้าหน้าที่ลูมิน่า ซึ่งเธอพุ่งเข้ามาพร้อมฟาดขาเตะใส่เฟทอย่างรุนแรง ซึ่งเฟทก็ยกท่อนแขนขึ้นประสานเพื่อกันการโจมตีเอาไว้ แต่นั่นก็ทำให้เธอต้องลอยละลิ่วไป
" อ๊า~!! " แผ่นหลังของเฟทปะทะชนกับผนังของทางลงไปลานจอดรถชั้นใต้ดินของอาคารแห่งนี้อย่างจัง ก่อนที่ร่างของเด็กสาวจะค่อยๆ ร่วงลงสู่พื้น... เธอข่มความเจ็บเอาไว้ และพยายามมองไปที่เงาทางด้านข้างก็พบว่า คาโอรุได้นั่งพิงกับผนังในสภาพสงบไม่ได้สติอยู่
" สวัสดีสาวน้อย " เสียงชายผู้หนึ่งดังขึ้นตรงหน้าของเธอ ก่อนที่เรนกัสจะค่อยๆ เผยร่างของตัวเองออกมาจากการหายตัว ตามด้วยหญิงสาวอีกสามคน ซึ่งเหล่าพวกเธออยู่ในสภาพที่เหนื่อยอ่อนเต็มทน
" เรนกัส ที่นี่สนามพลังรุนแรงมาก " หญิงสาวผมสีม่วง ซึ่งตัวเล็กที่สุดในบรรดาทั้งหมด เฟทจำได้ว่าเธอชื่อคาเรน ได้เอ่ยบอกบางสิ่งออกมา " ขนาดดีไวซ์ของพวกเรายังใช้งานไม่ได้เลย "
" ที่นี่ไม่เหมาะที่จะสังเวย เพื่อให้ ควีน ตื่นขึ้นมา " หญิงสาวผมบลอด์ สีน้ำตาลแดงพูดบอกข้อความแปลกประหลาดชวนงวยงงอีกครั้งกับเรนกัส ก่อนที่จะหันมาทางเฟทที่ยังลุกไม่ขึ้น มือกุมไหล่ด้วยความเจ็บปวด " ยังไงเธอผู้นี้ก็ถูกตีตราจากพวกเราแล้ว หนีไม่รอดหรอก ไว้ให้เจอในที่ๆ เหมาะสมดีกว่า "
" เรื่องนี้ไว้ให้ควีนของเราตดสินใจดีกว่า " เรนกัสซึ่งตอนนี้มีสภาพไม่ต่างไปจากศพเดินได้ ใบหน้าซีดเผือก และผิวกายแห้งหยาบ ต่างจากสามสาวที่นั่งคุกเข่าอย่างหอบเหนื่อยอยู่ข้างๆ เขาค่อยๆ ปลดกระดุกเสื้อช่วงท้องของตนเองออก ซึ่งเฟทแทบไม่เชื่อสายตากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา
ช่องท้องของเรนกัส ถูกคว้านออกจนเห็นอวัยวะภายในของมนุษย์อย่างชัดเจน แต่สิ่งมีชีวิตคล้ายเม็ดถั่วได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยภายในช่องว่างนั้น มันมีดวงตากลมโตเพียง 1 ข้าง และกำลังใช้ขาจำนวนมากคล้ายแมลง กำลังกัดแทะอวัยวะภายในของเรนกัส น่าแปลกที่ชายผู้นี้กลับไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด
ดวงตาของ 'สิ่งมีชีวิตในช่วงท้องของเรนกัส' นั้นจับจ้องไปที่เฟท มันพยายามที่จะผลักดันตัวเองให้เข้าใกล้เฟท ซึ่งเด็กสาวได้ถอยกรูด้วยความกลัวจนหลังชนผนัง...
จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนจากทางด้านบน " เจ้าหน้าที่เฟท หนีไป!! " ทั้งหมดเงยหน้าขึ้นไปมอง บนท่อน้ำดับเพลิงสีแดงนั้นปรากฏร่างของสัตว์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเฟทเห็นดังนั้นจึงคว้าร่างของคาโอรุ และแบกอุ้มเขาไว้ด้านหลัง
สัตว์ขนาดเล็กนั้นกระโดดเข้าใส่เรนกัส จนเขาเซไปด้านหลัง และมันได้ใช้ขายันใส่เป็นที่สปริงตัว พาตนมาอยู่ตรงหน้าเฟท เผยรูปร่างเป็นเฟอร์เร็ตตัวหนึ่ง " รีบไปสิ!! " เฟทลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งขึ้นไปยังลานด้านบน และเมื่อเห็นว่าพวกของเรนกัสกำลังจะตามขึ้นไป เฟอร์เร็ตตัวนั้นก็ได้พุ่งไปกดสวิชต์ให้ประตูเหล็กเลื่อนลงมาปิดทันใด
" ยูโน!! " เฟทตะโกน แต่ทว่าประตูเหล็กนั้นได้ปิดกั้นโดยสมบูรณ์ จึงมิอาจทราบได้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไป แต่อาการบาดเจ็บของคาโอรุก็มิอาจไว้วางใจ เธอจึงตัดสินใจพาเขาไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด
ที่โรงพยาบาล เฟทถูกปฐมพยาบาลเล็กน้อย ส่วนคาโอรุนั้นยังไม่ได้สติ แต่คุณหมอก็ได้บอกกับเฟทว่า อาการของเขาไม่น่าเป็นห่วง เพียงบาดเจ็บที่บริเวณขาและศีรษะเพียงเล็กน้อย ซึ่งคุณหมอก็วิเคราะห์อาการดูแล้ว เหมือนว่าเขาจะวิ่งหนีอะไรบางอย่าง แล้วสะดุดกับหลุมท่อน้ำทิ้งข้างทาง แล้วหัวไปโขกกับอะไรบางอย่างแถวๆ นั้น อาจจะเป็นเสาบอกทางกระมัง ซึ่งเฟทลองนึกภาพตามแล้วก็คาดการณ์ว่ามีโอกาสเป็นไปได้มากทีเดียว
" จุนคุงเค้าอาจจะต้องนอนพักรักษาตัวสัก 1 คืน ส่วนอาการของหนูไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง สามารถกลับบ้านได้เลยจ้ะ " คุณหมอสาวผู้ใจดีหันมาบอกกับเฟท พลางลูบผมสีทองที่ยาวสลวยสวยงาม ซึ่งเฟทเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเองนั้นนัดกับนาโนฮะเอาไว้ เธอจึงรีบวิ่งตรงไปยังบ้านตระกูลทาคามะจิทันที
เฟทหยุดพักหายใจอยู่ที่หน้าประตูรั้วของบ้านตระกูลทาคามะจิซึ่งในขณะนี้มืดสนิท เฟทเกรงว่าจะเกิดอันตรายใดๆ ขึ้นกับนาโนฮะ จึงรีบเปิดประตูบ้านเข้าไป และวิ่งขึ้นไปยังห้องของนาโนฮะทันที
" นาโนฮะ!! " เฟทพบว่าภายในห้องที่มืดสนิทนี้ เด็กสาวผู้รอคอย ได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเสียแล้ว โดยฟุบลงไปกับโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆ อย่างอ่อนล้า ภายในห้องที่ไร้แสงใดๆ นอกจากประกายของจันทราบนท้องฟ้าที่สาดส่องเข้ามา
" นาโนฮะ... " เฟทเดินเข้ามาใกล้และคุกเข่าทั้งสองข้างลง พลางจ้องมองเพื่อนรักด้วยความรู้สึกสำนึกที่ตนเองมิอาจมาได้ทันเวลานัดหมาย ภาพนิ้วที่เกี่ยวก้อยสัญญากันเมื่อยามเย็นได้ผุดขึ้นมาทำร้ายจิตใจของหญิงสาว " ขอโทษที่ทำให้เธอต้องรอคอยอยู่เสมอเลยนะ... "
เด็กสาวผมทองค่อยๆ ช้อนร่างของนาโนฮะอย่างแผ่วเบา ค่อยระมัดระวังมิให้เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมา และค่อยๆ ปล่อยวางร่างลงบนเตียงอันอ่อนนุ่ม ในเวลานี้เพียงภาวนาให้เธอได้หลับใหลอย่างสบายกายและใจ
ดวงตาสีแดงของเฟทจับจ้องบนใบหน้าของนาโนฮะในยามหลับตาพริ้ม เพื่อจดจำความประทับใจนี้ไว้ในจิตใจ... ที่จริงเธอเองก็ไม่ทราบว่าทำไมจึงตนเองจึงมีพฤติกรรมแปลกๆ กับนาโนฮะเช่นนี้... เท่าที่จำได้ เมื่อต้องแยกห่างกับนาโนฮะทีไร หัวใจจะโหยหาแต่เด็กสาวผู้นี้ ร้อนรุ่มอยู่ในทรวงอกจนกระวนกระวาย ในความนึกคิกจะปรากฏแต่ภาพของนาโนฮะในอิริยาบถต่างๆ อันน่าประทับใจมากมาย บางครั้งก็จะสอดแทรกภาพของตัวเองลงไปเพื่อเติมเต็มจินตนาการ และในคราใดที่ทราบว่านาโนฮะเสียใจ เรากลับยิ่งเสียใจยิ่งกว่าราวคนเสียสติ...
เฟทนึกถึงคำพูดของคาโอรุที่ว่า คนที่มีความรักมักจะทำอะไรแปลกๆ ออกมา... แต่ทำไมตัวเราจึงแสดงออกแต่กับนาโนฮะ!? ทั้งที่เราก็เป็นเพื่อนกัน แต่เรากลับไม่ทำเช่นนี้กับฮายาเตะ อาริสะ และชิซึกะเลย... เฟทค่อยๆ ก้าวคลานขึ้นไปบนเตียง ฝ่ามือค่อยๆ วางท้าวน้ำหนักของตนเองเอาไว้อย่างแผ่วเบา คร่อมร่างของนาโนฮะเอาไว้
" หรือนี้คือ... ความรัก? " เฟทหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาทันใด หัวใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ " ความรักแบบความสัมพันธ์ของชายหญิง... แต่ทำไมเราจึง... กับนาโนฮะได้ล่ะ!?! " เฟทที่ไม่เข้าใจตนเอง กวาดดวงตาจ้องต่ำลงมาที่ริมฝีปากสีชมพูที่เผยอออกเล็กน้อย... ยิ่งทำให้คิดถึงภาพจินตนาการเมื่อช่วงเย็นวาน หลังจากที่อ่านหนังสือเล่มนั้นของคาโอรุ
" หากได้จูบ... จะรู้สึกดีมาก... มีความสุขที่สุดเลยหรอ... " เฟทรวบรวมความกล้าทั้งหมดเอาไว้ แล้วค่อยๆ เลื่อนใบหน้าลงไปใกล้กับนาโนฮะ ดวงตาสีแดงค่อยๆ หลับพริ้มลง... " ( ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ แม้ว่าคนที่เธอชอบจะไม่ใช่ฉัน... แม้นาโนฮะจะรับการกระทำของฉันไม่ได้... ขอเพียงให้ฉันได้ลิ้มลองกับความสุขที่สุดในชีวิตนี้ของเฟท เทสทารอสซ่า แม้ในช่วงวินาทีสั้นๆ นี้ด้วยเถอะ... ขอโทษนะ นาโนฮะ... ) "
เหลือระยะห่างอีกไม่กี่เพียงมิลเมตรระหว่างริมฝีปากสีชมพูอ่อนทั้งสอง... แต่เฟทก็ต้องตกใจ! เมื่อมีเสียง แกรก! เกิดขึ้นด้านบน เธอรีบเงยหน้าขึ้นมอง บานหน้าต่างถูกเปิดออก สายลมโชย ได้พัดเข้ามาปะทะกับใบหน้าของเฟทจนเส้นผมสีทองสยาย... และพัดพาหัวใจของเฟทลงไปอยู่ถึงตาตุ่มที่ขาอย่างหวาดเสียว " ยะ... ยูโน!! " เฟทอุทานชื่อของเฟอร์เร็ตที่อยู่ตรงหน้าต่างนั้นออกมา
เฟทภาวนาให้เหตุการณ์ที่ได้พบเจอ... เหตุการณ์ที่ได้กระทำลงไปทั้งหมด... เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของความฝันยามนิทรา...
To Be Continue...
ความคิดเห็น