คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องน่ารู้จากนิยายนาโนฮะ : Storage - Armed Device ของพวก Omit Parasiten
เรื่องน่ารู้ในนิยาย Fate's Secret Heart ตอนที่ 1
: Storage - Armed Device ของพวก Omit Parasiten
ในนิยาย Fate's Secret Heart นั้น จะพบว่าเหล่าตัวร้ายที่เป็นทีมเก็บกู้ มีดีไวซ์ในลักษณะของ Storage Device โดยจะเป็นดีไวซ์ที่ทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายมากกว่าที่จะช่วยออกความเห็นด้วยอย่างพวก Intelligent Device อย่างบาร์ดิชของเฟท แต่ถึงกระนั้น ดีไวซ์เหล่านี้ก็ยังมีสภาพเป็น Armed Device ด้วย ซึ่งภายในภารกิจเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยอย่าง ลอสท์ โลเกีย อาจต้องเจอกับสถานการณ์ที่ต้องใช้คาถาและความรุนแรงด้วย ทั้งจากการบุกทะลวงในพื้นที่อันตราย หรือการพบเจอกับพวกคนร้ายที่พยายามคิดจะขโมยลอสท์ โลเกียไปขายในตลาดมืด หรือใช้ไปในทางไม่ดี
ดีไวซ์เหล่านี้จึงถูกออกแบบผสมผสานกันของลักษณะ Storage และ Armed เป็น Storage - Armed Device แต่ทั้งนี้โครงการดีไวซ์ดังกล่าวยังเป็นรุ่นต้นแบบ จึงใช้พื้นฐานของดีไวซ์ตามปกติ มาเสริมพลังเข้าไปนั่นเอง ( ในเรื่องจะใช้ศัพท์รุ่นว่า Regular Devicer )
โดยในเรื่องจะปรากฎดีไวซ์ในรุ่นนี้อยู่ทั้งหมด 5 ด้ามด้วยกัน
1. จูดาเคน ( Judaken ) ดีไวซ์รูปลักษณะของนาฬิกาข้อมือสีขาวคาดน้ำเงินของ ลูมิน่า ลิลีเนีย ซึ่งความสามารถของมันคือการเพิ่มพลังการเคลื่อนไหวให้กับผู้ใช้งาน และความรุนแรงในสกิลของผู้ใช้ประเภทการต่อสู้ประชิดตัว หากจะกล่าวในเชิงผู้คลุกคลีกับเรื่องนาโนฮะแล้ว ก็เหมือนกันนำดีไซน์นาฬิกาของเอริโอ้คุง มาผสมผสานพลังการต่อสู้ของกิงกะนั่นเอง ( เน้นพริ้วไหวสวยงามมากกว่าแลกตรงๆ อย่างซุบารุ )
โดยชื่อ จูดาเคน ( Judaken ) เป็นการแผลงเสียงมาจาก คำว่า Judgement ( และชื่อ ลูมิน่า ก็นำมาจากชื่อยี่ห้อรถ CHEVROLET LUMINA นั่นเอง )
2. ครามาล ซิน ( Cramal Sin ) ดีไวซ์รูปลักษณ์คล้ายหอกที่มี 2 ปลายแหลม ฉาบทาด้วยสีขาวสลับกับน้ำเงิน พิมพ์สไตล์เดียวกับจูดาเคน (รวมถึงอีก 3 ด้ามที่เหลือก็มีลวดลายลักษณะเดียวกัน ) โดยปลายแหลมทั้งสองนั้นสามารถปล่อยกระแสพลังงาน และยิงออกมาราวกับปืนใหญ่พลังแม่เหล็กได้ ส่วนในโหมดต่อสู้ ก็สามารถใช้คมหอกนั้นฟาดฟันได้ โดยไม่ต้องหวั่นเกรงถึงแรงปะทะที่อาจทำให้ครามาล ซินเสียหายได้เพราะได้ทำการเสริมแกนกลางให้มีความแข็งแรงมากกว่าดีไวซ์ปกติทั่วไป แต่โดยทั่วไป หญิงร่างเล็กอย่างคาเรน ก็มักจะใช้ในรูปแบบแรกมากกว่า
ครามาล ซิน มีที่มาของชื่อมาจากการแผลงศัพท์คำว่า Criminal law และเป็นดีไวซ์ประจำตัวของเจ้าหน้าที่คาเรน เครอาร์ ( ส่วนชื่อของเธอก็มาจากชื่อรถรุ่น KIA CARENS )
3. พานิชเชอร์ ( Panisher ) โดยส่วนตัวผู้แต่งชอบดีไวซ์ชิ้นนี้มากที่สุด รูปลักษณ์นั้นเป็นเสมือนมีดคอมแบทที่เหล่าทหารใช้กัน แต่ดีไซน์ให้มีความโค้งมน และมีส่วนป้องกันนิ้วมือคล้ายสนับอยู่ด้วย ( หากจิตนาการกันไม่เห็นภาพอันเนื่องจากฝีมือการรบรรยายไม่ถึงขั้นของข้าพเจ้าล่ะก็แนะนำให้ลองหาภาพของมีดที่คาเมน ไรเดอร์คาบูโตะใช้ คล้ายๆ กัน ต้องขออภัยใน ณ ที่นี้ ) ซึ่งลักษณะการถือโดยส่วนตัวของพรีเมซ่า ฟอร์เอทิด้านั้น จะถือให้ปลายแหลมหันออกจากนิ้วก้อย และชี้ลงพื้น การเข้าโจมตีจึงเป็นแบบพุ่งเข้าหาและฟาดฟันในแนบนอนเพื่อสร้างบาดแผลฉกรรจ์
พานิชเชอร์ ( Panisher ) นั้นเดาศัพท์ที่มาได้ไม่ยาก นั่นคือ Punisher นั่นเอง
4. คาล - โวซ ( Cal - Wos ) ของเจ้าหน้าที่แคสก้า ลามิไนท์ ดูเหมือนจะเป็นดีไวซ์ที่มีรูปลักษณ์คล้ายคทาเวทย์เป็นที่สุด อันส่วนยอดของตัวคทานี้จะมีแกนกลางเป็นลูกแก้วสีแดงขนาดใหญ่ ทำให้นึกถึงเรจจิ้ง ฮาร์ทขึ้นมาทันใด ซึ่งความสามารถนอกจากจะใช้ยิงระยะไกลคล้ายกับครามาล ซิน แล้ว ก็ยังบรรจุเวทย์มนตร์จำพวกเพิ่มพลังให้กับผู้อื่นอยู่ด้วย จึงเหมาะที่จะให้ผู้ใช้งานไปในเชิงกู้ภัยและสนับสนุน และ คาล - โวซ( Cal - Wos ) มีต้นศัพท์มาจากคำว่า Gallows
5. ซาซอร์ด ( Sasword ) ดีไวซ์ที่มีรูปลักษณ์ของดาบคาตานะของญี่ปุ่น ด้ามดาบเป็นสีขาว และมีลายสีน้ำเงินเสมือนถัดร้อยซ้อนกันไปตลอดตัวด้าม และมีฝักดาบสีขาว แต้มด้วยแถบสีน้ำเงินคาดอยู่ที่เอวของเรนกัส อาบีส ซึ่งการโจมตีจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อมีการเสียบตัวดาบกลับเข้าฝัก เพื่อชาร์ทพลังงานเวทย์ใส่ตัวคมดาบ และเมื่อพลังงานถูกกดดันจนถึงขีดสุด แล้วถูกชักออกมาเพื่อฟาดฟัน ก็จะนำพาพลังงานยิ่งยวดเหล่านั้นเสริมในทวงท่าฟาดฟันโจมตีด้วย ก่อให้เกิดพลังทำลายอันมหาศาล ซึ่งการกระทำเช่นนี้ได้ ตัวคมดาบจึงผลิตด้วยแร่เหล็กชนิดพิเศษที่สามารถทนความร้อนสูง และการอัดชาร์ทพลังงานเวทย์อย่างยิ่งยวดได้
ทั้งนี้ ที่มาของชื่อ Sasword นั้นคือการแผลงเสียงศัพท์อย่างห้วนๆ จากคำว่า Assassinate Sword ( และได้แรงบันดาลใจจากคาเมน ไรเดอร์ตัวหนึ่งในซีรีย์คาบูโตะ )
จุดสังเกตเล็กน้อย ศัพท์ที่มาของชื่อดีไวซ์ในรุ่น Regular Devicer นั้น ได้นำมาจากการศาลในยุคโบราณอันป่าเถื่อนอยู่นั่นเอง
ในช่วงต้นได้แนะนำเกี่ยวกับดีไวซ์ทั้ง 5 กันไปแล้ว ก็จะขออธิบายระบบโดยรวมของรุ่น Regular Devicer เป็นลำดับต่อไป
สำหรับระบบการใช้งานนั้น จะขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานเป็นหลัก โดยตัวดีไวซ์จะบรรจุคำสั่งในสายการต่อสู้แบบเบลก้าใหม่ หรือการผสมผสานระหว่างสายเบลก้าโบราณ กับสายมิดชิลด้า ซึ่งในนิยาย Fate's Secret Heart ที่อยู่ในช่วงรอยต่อของ A's To Striker นั้น สายเบลก้าใหม่ นับว่ายังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลาย ผู้ที่สำเร็จการศึกษาได้นั้นมีน้อยมากเมื่อเทียบกับสายมิดชิลด้า เพราะในเวลานั้นเวทย์มนตร์สายเบลก้าจะถูกต้องห้ามไว้ว่าเป็นเวทย์มนตร์ที่ทรมาณผู้ใช้งานจนอาจเกิดอัตรายขึ้นได้ จึงมีการลดทอนทวงท่าทางฝั่งเบลก้าลงให้แสดงผลอยู่ที่ 40% และมิดชิลด้าที่ราวๆ60% วงแหวนเวทย์ที่ปรากฎจึงเป็นลักษณะทรงกลมแบบมิดชิลด้านั่นเอง
( อาจจะสงสัยว่าเวลทย์สายมิดชิลด้ามาแบบประชิดด้วยไหม ก็อาจจะกล่าวได้ถึงท่า A.C.S. Strikeframe ของเรซิ่ง ฮาร์ทที่เป็นการสร้างคมหอกแหลมพุ่งเข้าไปโจมตี ในช่วงท้ายของภาค A's นั่นเอง )
ดังนั้นเมื่อคำสั่งส่วนใหญ่เป็นเวทย์สายมิดชิลด้า ก็ควรที่จะมีชื่อท่าเป็นภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องเช่น Protection หรือ Device Shooter แต่ในนิยายกลับปรากฏศัพท์แปลกๆ ขึ้นมาแทน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
ต้นเหตุคือเหล่าแมลง Omit Parasiten ที่เข้าสิงอยู่ในร่างของทีมเก็บกู้นั่นเอง โดยพวกมันเป็นลอสท์ โลเกียชนิดหนึ่ง ที่สามารถ "แฮค" ระบบของดีไวซ์ ให้สามารถรับพลังงานจากทั้งร่างที่สิงอยู่ ( Host ) และลิงเกอร์ คอร์ของพวกมันเองได้ ในกรณีลิงเกอร์ คอร์ของร่างที่สิงอยู่หมดพลังงานลงไป และเพื่อแฮคดีไวซ์บางรุ่นที่จะรับสัญญาณแต่ผู้ที่ปลดผนึกมันเท่านั้น สามารถรับคำสั่งจากเหล่า Omit Parasiten ได้ ( เช่นพวกIntelligent Device ที่จะเชื่อฟังแต่คำสั่งของผู้เป็นนาย เช่นเรซิ่ง ฮาร์ท หรือหนังสือแห่งความมืด เป็นต้น )
เมื่อแฮคแล้วจะเกิดอะไรขึ้น... เมื่อคำสั่งเวทย์จาก Omit Parasiten เป็นคำสั่งในแบบเบลก้า แต่ดีไวซ์อย่างมิดชิลด้าเกิดไม่รองรับคำสั่งนั้นโดยตรง ก็จะพยายามถอดรหัสและแปลคำสั่งออกมาเป็นท่าที่ใกล้เคียงที่สุด ซึ่งถ้าในยามปกติคงเกิดความผิดพลาดหรือ Error ขึ้นอย่างแน่นอน
และเมื่อดีไวน์พยายามแสดงผลเวทย์แบบเบลก้า ในลักษณะของมิดชิลด้า การออกเสียงชื่อท่าจึงเกิดความบิดพริ้วไป โดยในรุ่น RegularDevicer นั้น ทวงท่าคำสั่งจะถูกสลับตำแหน่ง "อักษรสระ" ในประโยคแบบคู่ๆ กันเกิดขึ้น เช่น
Fire Buster : ในคำว่า Fire จะสลับ ตัว i กับ e และ Buster จะสลับ u และ e ไป
กลายเป็น Feri Bestur ( ลูมิน่า และพรรคพวกใช้ยิงใส่เฟทในนิยายตอนที่ 1 )
หรือหากในกรณีในคำมีอักษรสระเป็นจำนวนเลขคี่ ที่ไม่สามารถสลัยคู่ได้ ก็จะแสดงผลดังนี้
Devicer Shooter : คำว่า Devicer จะเลื่อนสระขึ้นมาแทนตัวหน้า 1 ตำแหน่ง เช่น i จะแทน e ตรง De และ e ตัวหลังก็จะขยับมาแทน i ตรง vi และ e ตรง De จะย้ายไปอยู่ตรงคำว่า cer ส่วน Shooter ก็จะขยับในแบบเดียวกับคำแรก
กลายเป็น Divecer Sho Etor ซึ่งอาจจะมีการแบ่งคำเพื่อออกเสียงได้ง่ายขึ้น
สำหรับการแนะนำเกี่ยวกับเรื่อง Device รุ่น Regular Devicer ก็ได้จบลงไปแล้ว ในตอนต่อไปจะนำอะไรมาแนะนำนั้น ต้องติดตามกันให้ได้นะครับ
ความคิดเห็น