คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 1. จุดเริ่มต้นของความรัก ?
1. จุดเริ่มต้นของความรัก ?
เมื่อวันที่เหงา .. ผมยิ้มได้เมื่อเธออยู่เคียงข้าง
เมื่อวันที่ท้อ .. ผมยิ้มได้เมื่อเธอให้กำลังใจ
และทุกวันที่ผมมีความสุข ก็คือวันที่ผมได้อยู่เคียงข้างเธอ
นี่คือ .. ความรักใช่ไหม ?
สิบหกนาฬิกาสี่สิบห้านาที เสียงเอะอะโวยวายเด็กนักเรียนในชุดมัธยมปลายเกือบสี่สิบชีวิตในร้านหมูกระทะข้างโรงเรียนที่ดังมาตลอดสองชั่วโมงครึ่งเริ่มจะเบาบางลง วันนี้เป็นวันสุดท้ายในการสอบปลายภาคของนักเรียนชั้นมอห้า เรียกได้ว่าเป็นวันปล่อยผีกันเลยทีเดียว
นิสาเดินไปหยิบจานหมูสไลด์มาเพิ่มอีกถาดให้เพื่อนๆ แล้วนั่งลงดื่มน้ำ เธออิ่มนานแล้ว แต่เธอก็ยังอยากฟังเพื่อนๆคุยล้อกันระหว่างกินมากกว่าจะรีบกลับ อีกอย่าง เธอยังต้องรอใครอีกคนกินให้อิ่ม ก่อนที่จะเดินไปส่งเธอถึงบ้านเหมือนทุกวัน เธอมองแก้มป่องที่เต็มไปด้วยเนื้อย่างของภูวดลแล้วหัวเราะคิก
แก้มสองข้างของชายหนุ่มแดงเรื่อน้อยๆเพราะความร้อนจากเตา เหงื่อเม็ดใสเริ่มผุดตามใบหน้า ท่าทางหน้าตาใสซื่อแบบนี้ เป็นสิ่งที่นิสาเห็นแล้วคิดว่า..น่ารัก น่ารักกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก
เหมือนมีสัมผัสที่หก ภูวดลกลืนเนื้อย่างดังเอื้อกลงคอในทีเดียวแล้วหันมองจานเปล่าของนิสา
“อิ่มแล้วหรือ”
“อื้ม สาอิ่มนานแล้วล่ะ”
“อ้าว แล้วสาก็ไม่บอกภูมิ..”
ภูวดลใช้ส้อมจิ้มหมูย่างเข้าปากอีกสามชิ้นส่งท้าย ก่อนจะลุกขึ้นหยิบกระเป๋าของตนและนิสา
“ป่ะ... ภูมิก็อิ่มแล้วล่ะ เรากลับกันเถอะ”
สาพยักหน้า ลุกขึ้นบอกลาเพื่อน กลุ่มชายหนุ่มหน้าทะเล้นสี่ห้าคนชี้ตะเกียบตะโกนข้ามโต๊ะทั้งๆที่อาหารยังเต็มปาก
“โหย ไปส่งถึงบ้านเลยว่ะ ไปส่งกูมั่งดิไอ้ภูมิ”
“เออ ส่งกูมั่งดิ ส่งกูบ้าง กูถังแตก”
“หวานจนผึ้งตอมหึ่งเลยว่ะ”
“กินไปเหอะน่า ไอ้พวกบ้า เดี๋ยวกินไม่ทันก็โบ้ยความผิดมาอีก”
ภูวดลตะโกนข้ามโต๊ะกลับไป
“แต่กูชักเลี่ยนว่ะ”
นายหัวโจกทำท่าเหมือนจะอ้วกเรียกเสียงหัวเราะดังขึ้นรอบโต๊ะ นิสาก็หัวเราะตามเขาไปด้วย ภูวดลส่ายศีรษะ มือกระชับสายกระเป๋าทั้งสองใบ
“เฮ้อ... ช่างหัวพวกมันเหอะ ไปกันยังสา”
“จ๊ะ รถมาแล้วด้วย”
แท็กซี่เหลืองเขียวแล่นมาจอดช้าๆ ภูวดลเปิดประตูให้นิสาขึ้นรถก่อน แล้วตนจึงขึ้นตาม
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
แดดยามเย็นของวันส่องผ่านหน้าต่างรถ กระทบใบหน้าด้านข้างของหญิงสาว ภูวดลรู้สึกว่าเขาช่างโชคดีเหลือเกิน ที่ได้มานั่งข้างผู้หญิงที่สวยน่ารักนิสัยดีที่สุดของโรงเรียน ใบหน้าเรียวได้รูป ตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนเช่นเดียวกับเรือนผมยาวละเอียด จมูกโด่งรั้นนิดๆ ริมฝีปากชมพูอ่อนตามธรรมชาติ และผิวขาวเนียนเรียบ น่าสัมผัส
เขารู้จักกับนิสามาตั้งแต่เพิ่งเข้ามอสี่ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผู้ชายถึงไม่ค่อยเข้าใกล้เขา ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็เอาแต่คอยมองเขาอยู่ห่าง เพื่อนคนแรกที่เข้ามาคุยด้วยคือนิสา
แรกๆ เขาที่อยู่โรงเรียนชายล้วนมาตลอดก็ตื่นเต้นน่าดูเหมือนกัน... จากนั้นเราสองคนก็ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดจนเพื่อนๆเริ่มล้อ ถึงแม้ว่าเราจะยืนยันว่าเป็น”แค่เพื่อน”กันก็ตาม ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เขาก็ยังคิดเสมอว่า นิสาคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาในโรงเรียนผู้ดีแห่งนี้
“ภูมิ... ภูมิฟังสาอยู่รึเปล่า”
เสียงใสๆดึงสติของชายหนุ่มกลับมา
“ขอโทษที เมื่อกี้สาว่าอะไรนะ”
เขานึกโทษตัวเองที่เอาแต่เหม่อมองใบหน้าของนิสาจนคิดไปเรื่อยเปื่อย
“ก็.. สาถามว่า ซัมเมอร์นี้ภูมิจะไปที่ไหนหรือเปล่า”
“เออใช่ ภูมิคิดว่าจะหาที่เรียนพิเศษเตรียมเอ็นท์ปีหน้าน่ะ สาเรียนด้วยกันนะ”
หญิงสาวคลี่รอยยิ้มเศร้าบางๆ แล้วส่ายหน้า
“สาเรียนด้วยไม่ได้ล่ะ คุณพ่อจะให้สาไปเรียนซัมเมอร์ที่อังกฤษน่ะ"
เมื่อเหลือบเห็นสีหน้าตกใจแวบหนึ่งของเพื่อนสนิท นิสาก็รีบพูดต่อ
“แค่เดือนครึ่งเท่านั้นแหละ แป๊บเดียว เดี๋ยวสาก็กลับมาแล้วล่ะ”
พยายามยิ้มให้ดูร่าเริง แต่ชายหนุ่มร่างบางกลับก้มหน้าแล้วเริ่มจมอยู่กับความคิดตัวเอง เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรต่อหญิงสาวก็ก้มหน้าตามบ้าง
ชั่ววินาทีที่ความเงียบเข้าปกคลุม ภูวดลรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจของตัวเอง มันเต้นดังเสียจนกลัวว่าคนข้างๆจะได้ยิน เขาค่อยๆเงยหน้าสบตากับนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนนั่น แววตาของนิสานั้นอ่อนโยนเสมอ
“สาจะไปวันไหนหรือ”
“...วันอาทิตย์หน้าจ๊ะ”
เหลืออีกห้าวัน ภูวดลคิดในใจ เขาตัดสินใจชั่วพริบตาให้ลุงคนขับจอดรถ แล้วหันกลับมาแย้มรอยยิ้มแสนหวานให้หญิงสาว
“เราเดินกลับบ้านกันเถอะนะสา”
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ควักเงินจ่ายค่ารถ แล้วคว้ากระเป๋าของเขาและเธอลงรถไป
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
โซ่ชิงช้าสะท้อนแสงสุดท้ายของวันเข้าตา นิสาและภูวดลรีบหลับตาแล้วเอามือป้องพร้อมกัน ปฏิกิริยาโดยธรรมชาตินี้นั้นทำให้ทั้งคู่หันมาสบตาแล้วก็หัวเราะกันอย่างไม่มีเหตุผล อีกแค่ไม่กี่ก้าวก็จะถึงบ้านของนิสาแล้ว ภูวดลถอนหายใจ เขาอยากจะรั้งเวลานี้ไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นรถเข็นขายน้ำ “เย็นซ่าส์ ซาสี่” เขายิ้มแล้วหันไปชวนคนข้างๆ
“สากินซาสี่ด้วยกันก่อนไหม”
นิสาพยักหน้าติดกันหลายๆครั้ง ภูวดลหัวเราะน้อยๆก่อนเดินไปสั่ง
“อืม... เอาแอปเปิ้ลกับเลม่อนเพิ่มเยลลี่ครับ”
หญิงสาวเดินมายืนข้างๆแล้วใช้ศอกกระทุ้งแขนเพื่อนสนิทเบาๆ
“แหม ภูมิรู้ใจสาจังนะ”
ชายหนุ่มยื่นแก้วเลม่อนเยลลี่ให้หญิงสาวแล้วโน้มตัวลง
“แน่นอนอยู่แล้ว คุณเจ้าหญิง”
ทั้งคู่เดินไปกินน้ำไป แสงอาทิตย์ที่ค่อยๆลับขอบฟ้าเหมือนนาฬีกาบอกเวลาสิ้นสุด ใช่แล้ว นิสาเป็นเหมือนเจ้าหญิงของโรงเรียน ทั้งด้วยหน้าตาและฐานะ เขารู้ว่าผู้ชายกว่าครึ่งโรงเรียนต่างหมายปองเธอ และผู้หญิงอีกครึ่งโรงเรียนก็ชื่นชมเธอ ถึงแม้จะมีอีกครึ่งที่อิจฉาเธออยู่ด้วยก็เถอะ ทั้งๆอย่างนั้นเขาก็ยังริอาจที่จะ...
“ภูมิ...”
เสียงหวานๆดึงชายหนุ่มกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง
“วันนี้ภูมิดูเหม่อๆจัง”
“งั้นหรือ ภูมินี่แย่จัง”
ภูวดลยิ้มแหยๆแล้วเอามือตีหัวตัวเองเบาๆ แต่หญิงสาวไม่หัวเราะด้วย
“สารู้นะ ภูมิมีอะไรจะบอกสาก็ว่ามาเถอะ ไม่เห็นต้องปิดสาเลย”
ภูวดลนิ่งอึ้ง นัยน์ตาสีดำขลับหวานเชื่อม จ้องสะท้อนใบหน้าขาวเนียนและตาสีน้ำตาลแสนอ่อนโยนที่เขาฝันหา
“สารู้จริงๆหรือ”
“อะ... อืม จริงซิ เราก็รู้จักกันมาตั้งนาน ภูมิมีเรื่องอะไรในใจสาก็รู้หมดแหละ เว...เวลาภูมิมีเรื่องคิดมาก ภูมิก็ชอบจะเหม่ออย่างนี้ประจำใช่ไหมล่ะ”
หญิงสาวหลบสายตาตอบ อยู่ๆเธอก็รู้สึกเขินขึ้นมา เพราะอะไรกันนะ... สงสัย ต้องเป็นเพราะตาที่หวานเชื่อมคู่นั้นแน่ๆ
แล้วก็ถึงหน้าบ้านของนิสา แสงแดดยังเหลือรำไรพอให้เห็นหน้ากันบ้าง ภูวดลรวมรวบความกล้าครั้งสุดท้าย แล้วจ้องลึกไปยังนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน
“ในเมื่อ... สารู้แล้ว... แล้วสาคิดว่า”
ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย พยายามให้เบาที่สุด
“...เรามาเป็นแฟนกันดีไหม”
พูดแล้วอยากจะกัดลิ้นตัวเอง... ภูวดลคิดคำเอาไว้มากมาย แต่พอเอาเข้าจริง กลับพูดได้แค่คำที่เชยเฉิ่มที่สุดอย่าง... “เรามาเป็นแฟนกันดีไหม” เสียงหัวใจของชายหนุ่มดังจนกลัวว่าคนข้างๆจะรำคาญเสียงหัวใจของเขาจนตอบปฏิเสธเขาหรือเปล่า ตอนนี้เขาต้องหน้าแดงแน่ๆ เสียฟอร์มจัง มือข้างที่ไม่ได้ถือแก้วน้ำก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ถ้าเขาเอามือเช็ดกางเกงตอนนี้มันคงดูน่าเกลียดซินะ แล้วเขาจะเอามือไปวางไว้ที่ไหนดีล่ะ...
ชายหนุ่มลุ้นสุดหัวใจ แต่ที่เขาไม่รู้คือในความเงียบนั้น เสียงหัวใจที่ดังกังวานไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว
นิสาไม่คิดว่าสิ่งที่ภูวดลคิดมาตลอดทางกลับบ้านจะเป็นเรื่องนี้ แม้เธอและเขาจะรู้จักกันมานาน แต่ก็รู้จักกันในฐานะเพื่อนสนิทเท่านั้น ...อย่างน้อย นั่นก็เป็นสิ่งที่ชายหนุ่มตรงหน้ามักจะพูดกับเหล่าเพื่อนของเขาอยู่เสมอ...
แฟนกันงั้นหรือ คนที่เป็นแฟนกันคือคนที่รักกันซินะ ...ภูมิ ...รัก หญิงสาวพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นและหลงคีย์เพราะความตื่นเต้น เธอค่อยๆเรียบเรียงคำพูด เอ่ยช้าๆทีละคำให้แน่ใจว่าตนเองได้ยินเสียงนั้นด้วย
“คือ... สาก็ไม่แน่ใจนะ ว่านี่เรียกความรักหรือเปล่า แต่สาเชื่อว่า ตลอดเวลาที่สาอยู่กับภูมิ สามีความสุขนะ”
“
ภูมิก็เหมือนกัน” ชายหนุ่มยิ้มให้
“งั้นก็ตกลง... เรามาเป็นแฟนกันนะ!”
หญิงสาวแย้มรอยยิ้มกว้างอย่างสดใส นั่นเป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดของนิสา ภูวดลบอกกับตนเอง ส่วนยิ้มของเขานั้น เขากลัวว่าถ้าปากเขามันยังยิ้มได้กว้างกว่านี้แก้มเขาต้องปริออกมาจริงๆแน่ แต่ให้ตายเถอะ ตอนนี้เขาหุบยิ้มไม่ลงจริงๆ
“ขอบคุณมากนะสา”
นิสาหัวเราะคิก
“สาต่างหากล่ะที่ต้องขอบคุณภูมิ... ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีนะ”
“อื้ม ราตรีสวัสดิ์ครับ หลับฝันดีนะ”
ภูมิโบกมือ แล้วมองสาเดินกลับเข้าบ้านจนลับสายตา เขาเหม่อมองประตูเปล่าๆอยู่อีกห้านาที กว่าจะรู้ตัว แล้วหันหลังเดินกลับ รู้สึกตัวลอยเหมือนจะบินได้
ระหว่างทางเขาคิดทบทวน แล้วยิ้มกว้าง นิสาตอบรับเขาแล้ว! เขากระโดดสุดตัวแล้วตะโกนออกมาดังๆ
“เยส!!”
- to be continue -
ความคิดเห็น