ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : กำเนิดทารกผู้ครองโลก
                      “ประกาศ!  ประกาศ!  ทุกคนจงฟังให้ดี พรุ่งนี้จะมีการคัดเลือกคู่อภิเษกสมรส ให้กับเจ้าหญิงแอนเนียส ถ้าใครต้องการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการให้เจ้าหญิงคัดเลือก  ให้เตรียมของมีค่าที่สุดในชีวิตไปมอบให้กับเจ้าหญิง”  ชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาประหลาดประกาศด้วยท่าทางน่ากลัว
    ระหว่างที่ชายคนนั้นประกาศมีเสียงฮือฮากันในหมู่ฝูงชนทั้งหลายที่มาฟังประกาศ แต่มีชายคนหนึ่งท่าทางเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ผมสั้นตรงสีดำสนิท ไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับการประกาศครั้งนี้ แต่ใจเขากลับคิดว่า ‘พรุ่งนี้จะนำอะไรไปมอบให้กับเจ้าหญิงดีหละในเมื่อบ้านเราไม่มีเงิน และของมีค่าใดเลยที่จะนำไปมอบให้กับเจ้าหญิง  แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกได้ถึงอะไรบางอย่าง สิ่งที่พ่อและแม่ของเขามอบให้ไว้ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต สิ่งที่ท่านมอบให้นั้นก็คือดาบ ดาบนี้มีด้ามจับเป็นสีทอง มีมังกรสีทองพันรอบด้ามจับ ส่วนตัวดาบนั้นทำด้วยเหล็กที่มีความแข็งเป็นพิเศษที่ไม่มีอะไรทำให้มันหักได้เลย แต่มีสิ่งหนึ่งสามารถทำให้มันหักได้นั้นก็คือดาบคู่แฝดของมันที่เหมือนกันทุกประการที่ทำให้มันหักได้  ก่อนที่พ่อกับแม่ของเขาจะเสียชีวิต ท่านได้บอกที่ซ่อนของดาบนี้ไว้ ผู้ที่สามารถนำมันออกมาได้ต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตที่เรียกว่า Inconclusive (พลังโน้มนาวจิตใจ) แต่ปัญหาก็คือเขาจะนำพลังที่ชื่อว่า ‘Inconclusive’ ออกมาใช้ได้อย่างไรกัน’ คีแกรนคิดในใจ
    เย็นวันนี้ชายผู้มีชื่อว่า ‘คีแกรน’ ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาสวยมาก ตาสีฟ้า จมูกโด่ง ผิวขาวเนียน และผมตรงของเขาถูกรวบไว้อย่างเรียบร้อย ผู้หญิงคนนั้นกำลังจะถูกรถคันนึงชนเข้า คีแกรนจึงแสดงความเป็นสุภาพบุรุษรีบวิ่งเข้าไปช่วย และมันก็สำเร็จผู้หญิงคนนั้นไม่ถูกรถชนและคีแกรนก็ไม่เป็นอะไร คีแกรนมองผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าทางสงสัยเลยถามผู้หญิงคนนั้นออกไปว่า
    “คุณครับทำไมไม่ดูรถหละครับเดี๋ยวก็ถูกรถชนหรอก”
    “ขอโทษทีนะคะ ฉันไม่เคยข้ามถนนมาก่อนเลยค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นตอบด้วยท่าทางตื่นตกใจ
    “อ่าว! คุณไม่เคยข้ามถนนมาก่อนหรอกหรอครับเนี่ย ขอโทษนะครับว่าแต่ทำไมคุณถึงไม่เคยข้ามถนนเลยหละครับ”  คีแกรนถามด้วยความสงสัย
    “พ่อแม่ฉันให้ฉันอยู่แต่ในบ้านหนะค่ะ ท่านไม่เคยให้ออกไปไหนเลย ถ้าฉันจะเรียนหนังสือหรืออยากจะเรียนอะไรก็แล้วแต่ท่านก็จะจ้างครูมาสอนที่บ้านในทันที เพราะเหตุนี้และทำ
ให้ฉันไม่รู้จักโลกภายนอกเลยได้แต่อยู่ในบ้าน ฉันเลยหนีออกมาเพื่อสัมผัสกับโลกภายนอกบ้างไงคะ”
ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูเศร้าสร้อยเหมือนกับเธอกำลังจะร้องให้เพียงแต่ว่าไม่มีน้ำตาไหลออกมาเท่านั้นเอง
    “จริงสิ คุยกันมาตั้งนานผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย คุณชื่ออะไรหรือครับ?” คีแกรนถามด้วยท่าทางอยากรู้
    “ฉันชื่อ.....อืม” ทำไงดีหละถ้าเราบอกชื่อจริงของเราไปเค้าก็ต้องรู้สิว่าเราเป็นใครงั้น เราใช้ชื่อนี้แทนดีกว่า
    “ฉันชื่อโลนลี่ที่แปลว่าโดดเดี่ยว เพราะว่าฉันเป็นลูกคนเดียวหนะค่ะ”โลนลี่กว่าจะคิดชื่อนี้ได้เกือบทำให้คีแกรนรู้แล้วว่าที่จริงโลนลี่เป็นใคร เกือบแย่แหนะ
    “เอ่อ..คุณครับผมขอโทษครับผมมีธุระหนะครับขอตัวก่อนนะครับ” คีแกรนเพิ่งนึกได้ว่าเขาต้องไปเอาดาบ
    “ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันว่าแต่ คุณชื่ออะไรหรอค่ะ”
    “คีแกรนครับ ผมไปก่อนนะครับ” คีแกรนตะโกนบอกกับโลนลี่ขณะที่ คีแกรนกำลังรีบวิ่งเพื่อไปยังเขาลูกหนึ่งที่มีดาบที่เขาต้องการซ่อนอยู่ที่นั่น
    ณ เขาเฮบเวน (แปลว่าสวรรค์)
    ภูเขาแห่งนี้มีชื่อว่าเฮบเวน ที่มีชื่อนี้เพราะว่าประชาชนทั่วไปเชื่อกันว่าสมัยก่อนภูเขาแห่งนี้เคยเป็นทีอยู่เหล่าเทวดา และ นางฟ้าทั้งหลาย และยังมีตำนานเล่าต่อไปอีกว่า ภูเขาแห่งนี้มีดาบที่ทรงพลังอยู่ 2 เล่ม เทวดาคารอสเป็นผู้สร้างดาบนี่ขึ้นมา ดาบ 2 เล่มนี้เป็นดาบที่มีความคล้ายกันทุกประการแต่มีอันนึงหายไป ส่วนอีกอันยังถูกฝังอยู่ที่เดิมนั้นก็คือภูเขาแห่งนี้
    ซึ่งคีแกรนกำลังมุ่งหน้าไปยังที่ซ่อนของดาบเล่มนั้นอยู่ เพื่อนำดาบไปมอบให้เจ้าหญิง
แอนเนียส ระหว่างการเดินทางขึ้นไปยังที่ซ่อนของดาบนั้น คีแกรนกำลังคิดว่าเขาจะเอาพลัง ‘Inconclusive’ ออกมาใช้ได้ยังไงกันนะ คีแกรนยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว เพราะว่าคิดยังไงคีแกรนก็คิดวิธีที่จะนำพลังออกมาใช้ไม่ออกอยู่ดี
    พอถึงที่ซ่อนของดาบ คีแกรนได้แต่ยืนมองดาบนั้นอย่างสงสัย
    “เฮอะ! เราจะทำยังไงดีหละ”
    บังเอิญคีแกรนดันเผลอเอามือไปจับดาบเข้า ทำให้เกิดแสงวูบวาบทั้งในมือของคีแกรนและที่ดาบ มีสิ่งหนึ่งปรากฏขึ้นบนมือของคีแกรน สิ่งนั้นก็คือกุญแจสีทองที่สามารถนำไปไขเอาดาบออกมาได้
   
คีแกรนจึงรีบนำกุญแจในมือไปไขใต้ที่วางดาบอย่างบรรจง พอกุญแจลงล็อคก็มีเสียงดัง ‘แกร็ก’ พอสุดเสียงดาบก็ลอยขึ้นมาอยู่บนมือของคีแกรนแล้วแสงก็ดับวูบลงทันที คีแกรนจึงรีบวิ่งลงจากเขาเช้าวันรุ่งขึ้นจะได้นำดาบไปมอบให้กับเจ้าหญิงแอนเนียส
    เช้าวันรุ่งขึ้นเวลา 8.30น.
    “วันนี้จะมีการคัดเลือกผู้ที่จะได้อภิเษกกับเจ้าหญิงแอนเนียส ทุกคนที่มาวันนี้กรุณาเข้าแถวให้เรียบร้อยเพื่อความเป็นระเบียบและความสะดวกต่อเจ้าหญิง เจ้าหญิงจะเสด็จแล้ว” ชายแก่สวมเสื้อทักซิโดสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ผมสีขาวสั้นเกรียน ประกาศด้วยท่าทางเรียบเฉย
    “เจ้าหญิงเสด็จแล้ว” ชายแก่คนเดิมประกาศ
    “คาราวะเจ้าหญิงแอนเนียส” ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน
    “ทุกคนนั่งได้ วิธีที่ฉันจะคัดเลือกผู้ที่จะอภิเษกด้วย ฉันจะอ่านใจผู้ที่มารับการคัดเลือกทีละคน ฉันจะได้รู้ว่าคนที่มารับการคัดเลือกนั้นจริงใจกับฉันหรือไม่?” เจ้าหญิงพูดอย่างช้าๆตามแบบฉบับของเจ้าหญิง
    เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ทุกคนนำของที่ตัวเองคิดว่ามีค่าที่สุดในชีวิตมามอบให้กับเจ้าหญิงแอนเนียส แต่เจ้าหญิงไม่มีท่าทางใดที่บอกว่าพอใจชายคนใด จนกระทั่งมาถึงคีแกรน ทุกคนต้องตกตะลึกกับสิ่งที่คีแกนนำมามอบให้เจ้าหญิง เพราะว่าทุกคนเชื่อว่าดาบนั้นไม่มีอยู่จริงเป็นแค่ตำนานหลอกๆเท่านั้น และเกิดเสียงฮือฮากันในหมู่ฝูงชนเต็มไปหมด ทำไมคีแกรนถึงนำดาบนั้นมาได้ในเมื่อคนที่จะนำดาบนี้มาได้ต้องเป็นผู้ที่มีพลังInconclusiveที่เทพคารอสสร้างขึ้นเท่านั้น
    เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที ทุกคนเงียบเสียงลงรอจนเจ้าหญิงแอนเนียสพูด เนื่องจากเจ้าหญิงแอนเนียสจะทักทายทุกคนที่เข้ามารับการคัดเลือกหลังจากที่มอบของมีค่าให้เจ้าหญิงแอนเนียสแล้ว
    “สวัสดีค่ะคีแกรน ฉันไม่นึกเลยว่าคุณจะมาด้วย”
    “ครับ คุณไม่ได้ชื่อโลนลี่คุณคือเจ้าหญิงแอนเนียส”
    “ฉันขอโทษค่ะ ที่ฉันโกหกเพราะว่าถ้าฉันไม่โกหกฉันจะรู้หรอว่าคุณเป็นคนยังไง”
    “ครับผมไม่กล้าโกรธเจ้าหญิงหรอกครับ”
    “คีแกรนคุณพูดเหมือนเมื่อวานไม่ได้หรอ”
    “ผมขอตัวก่อนนะครับ” พอพูดจบคีแกรนก็รีบเดินออกมายังที่เดิมที่เขาเคยยืนอยู่ทันที พอเดินมาถึงที่คีแกรนก็ก้มหน้าก้มตาไม่มองใครเลย
    “เอาหละทุกคนฉันจะประกาศว่าจะไม่มีใครได้แต่งงานกับฉันทั้งนั้นแต่ไม่ต้องห่วงเรื่องของที่นำมาหรอกนะฉันจะคืนให้ทุกคน ถึงฉันจะไม่เลือกแต่งงานกับใครเลยแต่ฉันขอเลือกคีแกรน
ให้เข้าเป็นเพื่อนของฉันแทน ฉันอยากจะรู้จักกับผู้ชายคนนั้นเพราะว่าฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนดี ไม่แน่ในอนาคตฉันอาจจะเลือกแต่งงานกับเขาก็เป็นได้” หลังจากเจ้าหญิงแอนเนียสพูดจบทุกคนถึงกับอึ้ง เพราะทุกคนคงไม่ถึงว่าจะเป็นผู้ชายบ้านมีฐานะจนไม่มีอะไรเลย จะได้เป็นเพื่อนกับเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ และสวยงามขนาดนั้น เป็นบุญของนายคีแกรนจริงๆเลย พอเจ้าหญิงพูดอย่างนั้นทำให้ทุกคนสนใจนายคีแกรนมากขึ้นทำให้นายคีแกรนรู้สึกกลัวขึ้นมาเพราะมีสายตาจดจ้องมายังเขามากมายรวมทั้งคนที่ทำงานในพระราชวังด้วยเช่นกัน
    หลังจากที่เจ้าหญิงแอนเนียสประกาศเสร็จเจ้าหญิงก็เชิญทุกๆคนที่มาวันนี้รับประทานอาหารร่วมกัน แต่ส่วนหนึ่งที่ผิดหวังก็กลับบ้านไป ช่วงเวลารับประทานอาหารนั้นคนที่จ้องมองคีแกรนอยู่บางคนก็ลดสายตาลงมองอาหารแทน อาหารวันนี้ดูท่าทางหน้ากินทุกอย่างสีสันสวยงาม พอได้ลิ้มรสชาติก็ปรากฏว่าอร่อยมาก
    เวลาผ่านไปนานแสนนานตอนนี้เวลาบ่าย 3 โมง ทุกคนก็เริ่มทยอยกลับบ้าน ส่วนคีแกรนยืนรอพบเจ้าหญิงแอนเนียสอยู่ที่ห้องโถงเพื่อที่จะทำความเข้าใจเรื่องเมื่อวานแต่คีแกรนรอนานเสียจนคิดว่าเจ้าหญิงคงไม่ออกมา คีแกรนจึงตัดสินใจกลับบ้าน
    2 ปีต่อมา
    คีแกรนและเจ้าหญิงแอนเนียสคบหากันมานานจนทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันบนความผิดหวังของใครหลายๆคน ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันในวันที่ 29 กุมภาพันธ์
    พอทั้งคู่แต่งงานกันมาแล้ว 2 ปี เจ้าหญิงแอนเนียสก็มีลูกทั้งหมด 2 คน ทั้งคู่เป็นคู่แฝดกัน คนแรกเป็นผู้ชายมีตาสีฟ้ามีชื่อว่า ‘ชารอน’ คนที่2 เป็นผู้หญิงเป็นผู้หญิงที่มีตาสีชมพูอ่อน มีชื่อว่าแอเรียส ทั้งคู่ถูกเลี้ยงดูอย่างดีโดยเจ้าหญิงแอนเนียสและคีแกรน
    พอชารอนและแอเรียสอายุได้ 3 ขวบ คีแกรนและแอนเนียสจึงจ้างครูมาสอนให้จนอ่านออกเขียนได้ ทั้งคู่เติบโตขึ้นทุกวัน ชารอนมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักผจญภัย ส่วนแอเรียสอยากเป็นคนสร้างเกมส์ ถึงตอนนี้ครอบครัวนี้มีความสุขมาก ชารอนและแอเรียสเชื่อฟังคีแกรนและแอนเนียส ทุกกอย่าง
    ไม่นานแอนเนียสก็เสียชีวิต การเสียชีวิตของแอนเนียสทำให้ครอบครัวนี้เหมือนขาดอะไรไป ทำให้ทุกคนเศร้าโศกเสียใจกันใหญ่ รวมทั้งประชาชนมากมาย ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้ชารอนพยายามฝึกการต่อสู้เพื่อจะได้เป็นนักผจญภัยในภายหน้า ส่วนแอเรียสพยายามเรียนสร้างเกมส์ให้ได้หลายๆเกมส์ เพื่อทำความฝันของแม่ที่สั่งเสียไว้ให้เป็นจริง  ด้านคีแกรนก็พยายามทำหน้าที่พ่อที่ดีต่อไปและพยายามทำหน้าที่แม่ด้วยเช่นกัน
    นานมากแล้วชารอนและแอเรียสก็โตขึ้นทุกวันแต่ทั้งคู่ไม่เคยลืมแม่ของเขาเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา
   
“นี่กี่ปีแล้วเนี่ยพี่ชารอนที่แม่ไม่ได้อยู่กับเรา” แอเรียสถามชารอนด้วยอาการคิดถึงแม่
    “นั่นสิเนอะแอเรียสพี่ว่า 7 ปีแล้วมั้งใช่มะ” ชารอนตอบด้วยอาการเหมือนกับน้องสาว
    “คิดถึงแม่จังเลยเนอะพี่ชารอน”
    “พี่ก็คิดถึงแม่เหมือนกัน”
    “พ่อคะ”
    “มีอะไรเหรอแอเรียส”
    “พ่อคิดถึงแม่มั้ยคะ”
    “พ่อเองก็คิดถึงแม่ของลูกๆเหมือนกันแต่ทำไงได้ก็แม่ไม่ได้อยู่กับเราแล้วนะ” พ่อตอบแล้วทำท่าทางเหม่อลอยเหมือนพ่อกำลังคิดอะไรอยู่ซักอย่าง
    “ลูกรู้มั้ย แม่ของลูกหนะเป็นคนดีนะแม่เขาบอกกับพ่อว่าต้องสอนให้ลูกเป็นคนดีให้ได้นะ”
เท่านั้นแหละทำให้ชารอนและแอเรียสก็น้ำตาคลอแล้วเข้าไปกอดพ่อของเขาอย่างแนบแน่น
    ระหว่างที่ชายคนนั้นประกาศมีเสียงฮือฮากันในหมู่ฝูงชนทั้งหลายที่มาฟังประกาศ แต่มีชายคนหนึ่งท่าทางเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ผมสั้นตรงสีดำสนิท ไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับการประกาศครั้งนี้ แต่ใจเขากลับคิดว่า ‘พรุ่งนี้จะนำอะไรไปมอบให้กับเจ้าหญิงดีหละในเมื่อบ้านเราไม่มีเงิน และของมีค่าใดเลยที่จะนำไปมอบให้กับเจ้าหญิง  แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกได้ถึงอะไรบางอย่าง สิ่งที่พ่อและแม่ของเขามอบให้ไว้ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต สิ่งที่ท่านมอบให้นั้นก็คือดาบ ดาบนี้มีด้ามจับเป็นสีทอง มีมังกรสีทองพันรอบด้ามจับ ส่วนตัวดาบนั้นทำด้วยเหล็กที่มีความแข็งเป็นพิเศษที่ไม่มีอะไรทำให้มันหักได้เลย แต่มีสิ่งหนึ่งสามารถทำให้มันหักได้นั้นก็คือดาบคู่แฝดของมันที่เหมือนกันทุกประการที่ทำให้มันหักได้  ก่อนที่พ่อกับแม่ของเขาจะเสียชีวิต ท่านได้บอกที่ซ่อนของดาบนี้ไว้ ผู้ที่สามารถนำมันออกมาได้ต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตที่เรียกว่า Inconclusive (พลังโน้มนาวจิตใจ) แต่ปัญหาก็คือเขาจะนำพลังที่ชื่อว่า ‘Inconclusive’ ออกมาใช้ได้อย่างไรกัน’ คีแกรนคิดในใจ
    เย็นวันนี้ชายผู้มีชื่อว่า ‘คีแกรน’ ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาสวยมาก ตาสีฟ้า จมูกโด่ง ผิวขาวเนียน และผมตรงของเขาถูกรวบไว้อย่างเรียบร้อย ผู้หญิงคนนั้นกำลังจะถูกรถคันนึงชนเข้า คีแกรนจึงแสดงความเป็นสุภาพบุรุษรีบวิ่งเข้าไปช่วย และมันก็สำเร็จผู้หญิงคนนั้นไม่ถูกรถชนและคีแกรนก็ไม่เป็นอะไร คีแกรนมองผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าทางสงสัยเลยถามผู้หญิงคนนั้นออกไปว่า
    “คุณครับทำไมไม่ดูรถหละครับเดี๋ยวก็ถูกรถชนหรอก”
    “ขอโทษทีนะคะ ฉันไม่เคยข้ามถนนมาก่อนเลยค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นตอบด้วยท่าทางตื่นตกใจ
    “อ่าว! คุณไม่เคยข้ามถนนมาก่อนหรอกหรอครับเนี่ย ขอโทษนะครับว่าแต่ทำไมคุณถึงไม่เคยข้ามถนนเลยหละครับ”  คีแกรนถามด้วยความสงสัย
    “พ่อแม่ฉันให้ฉันอยู่แต่ในบ้านหนะค่ะ ท่านไม่เคยให้ออกไปไหนเลย ถ้าฉันจะเรียนหนังสือหรืออยากจะเรียนอะไรก็แล้วแต่ท่านก็จะจ้างครูมาสอนที่บ้านในทันที เพราะเหตุนี้และทำ
ให้ฉันไม่รู้จักโลกภายนอกเลยได้แต่อยู่ในบ้าน ฉันเลยหนีออกมาเพื่อสัมผัสกับโลกภายนอกบ้างไงคะ”
ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูเศร้าสร้อยเหมือนกับเธอกำลังจะร้องให้เพียงแต่ว่าไม่มีน้ำตาไหลออกมาเท่านั้นเอง
    “จริงสิ คุยกันมาตั้งนานผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย คุณชื่ออะไรหรือครับ?” คีแกรนถามด้วยท่าทางอยากรู้
    “ฉันชื่อ.....อืม” ทำไงดีหละถ้าเราบอกชื่อจริงของเราไปเค้าก็ต้องรู้สิว่าเราเป็นใครงั้น เราใช้ชื่อนี้แทนดีกว่า
    “ฉันชื่อโลนลี่ที่แปลว่าโดดเดี่ยว เพราะว่าฉันเป็นลูกคนเดียวหนะค่ะ”โลนลี่กว่าจะคิดชื่อนี้ได้เกือบทำให้คีแกรนรู้แล้วว่าที่จริงโลนลี่เป็นใคร เกือบแย่แหนะ
    “เอ่อ..คุณครับผมขอโทษครับผมมีธุระหนะครับขอตัวก่อนนะครับ” คีแกรนเพิ่งนึกได้ว่าเขาต้องไปเอาดาบ
    “ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันว่าแต่ คุณชื่ออะไรหรอค่ะ”
    “คีแกรนครับ ผมไปก่อนนะครับ” คีแกรนตะโกนบอกกับโลนลี่ขณะที่ คีแกรนกำลังรีบวิ่งเพื่อไปยังเขาลูกหนึ่งที่มีดาบที่เขาต้องการซ่อนอยู่ที่นั่น
    ณ เขาเฮบเวน (แปลว่าสวรรค์)
    ภูเขาแห่งนี้มีชื่อว่าเฮบเวน ที่มีชื่อนี้เพราะว่าประชาชนทั่วไปเชื่อกันว่าสมัยก่อนภูเขาแห่งนี้เคยเป็นทีอยู่เหล่าเทวดา และ นางฟ้าทั้งหลาย และยังมีตำนานเล่าต่อไปอีกว่า ภูเขาแห่งนี้มีดาบที่ทรงพลังอยู่ 2 เล่ม เทวดาคารอสเป็นผู้สร้างดาบนี่ขึ้นมา ดาบ 2 เล่มนี้เป็นดาบที่มีความคล้ายกันทุกประการแต่มีอันนึงหายไป ส่วนอีกอันยังถูกฝังอยู่ที่เดิมนั้นก็คือภูเขาแห่งนี้
    ซึ่งคีแกรนกำลังมุ่งหน้าไปยังที่ซ่อนของดาบเล่มนั้นอยู่ เพื่อนำดาบไปมอบให้เจ้าหญิง
แอนเนียส ระหว่างการเดินทางขึ้นไปยังที่ซ่อนของดาบนั้น คีแกรนกำลังคิดว่าเขาจะเอาพลัง ‘Inconclusive’ ออกมาใช้ได้ยังไงกันนะ คีแกรนยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว เพราะว่าคิดยังไงคีแกรนก็คิดวิธีที่จะนำพลังออกมาใช้ไม่ออกอยู่ดี
    พอถึงที่ซ่อนของดาบ คีแกรนได้แต่ยืนมองดาบนั้นอย่างสงสัย
    “เฮอะ! เราจะทำยังไงดีหละ”
    บังเอิญคีแกรนดันเผลอเอามือไปจับดาบเข้า ทำให้เกิดแสงวูบวาบทั้งในมือของคีแกรนและที่ดาบ มีสิ่งหนึ่งปรากฏขึ้นบนมือของคีแกรน สิ่งนั้นก็คือกุญแจสีทองที่สามารถนำไปไขเอาดาบออกมาได้
   
คีแกรนจึงรีบนำกุญแจในมือไปไขใต้ที่วางดาบอย่างบรรจง พอกุญแจลงล็อคก็มีเสียงดัง ‘แกร็ก’ พอสุดเสียงดาบก็ลอยขึ้นมาอยู่บนมือของคีแกรนแล้วแสงก็ดับวูบลงทันที คีแกรนจึงรีบวิ่งลงจากเขาเช้าวันรุ่งขึ้นจะได้นำดาบไปมอบให้กับเจ้าหญิงแอนเนียส
    เช้าวันรุ่งขึ้นเวลา 8.30น.
    “วันนี้จะมีการคัดเลือกผู้ที่จะได้อภิเษกกับเจ้าหญิงแอนเนียส ทุกคนที่มาวันนี้กรุณาเข้าแถวให้เรียบร้อยเพื่อความเป็นระเบียบและความสะดวกต่อเจ้าหญิง เจ้าหญิงจะเสด็จแล้ว” ชายแก่สวมเสื้อทักซิโดสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ผมสีขาวสั้นเกรียน ประกาศด้วยท่าทางเรียบเฉย
    “เจ้าหญิงเสด็จแล้ว” ชายแก่คนเดิมประกาศ
    “คาราวะเจ้าหญิงแอนเนียส” ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน
    “ทุกคนนั่งได้ วิธีที่ฉันจะคัดเลือกผู้ที่จะอภิเษกด้วย ฉันจะอ่านใจผู้ที่มารับการคัดเลือกทีละคน ฉันจะได้รู้ว่าคนที่มารับการคัดเลือกนั้นจริงใจกับฉันหรือไม่?” เจ้าหญิงพูดอย่างช้าๆตามแบบฉบับของเจ้าหญิง
    เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ทุกคนนำของที่ตัวเองคิดว่ามีค่าที่สุดในชีวิตมามอบให้กับเจ้าหญิงแอนเนียส แต่เจ้าหญิงไม่มีท่าทางใดที่บอกว่าพอใจชายคนใด จนกระทั่งมาถึงคีแกรน ทุกคนต้องตกตะลึกกับสิ่งที่คีแกนนำมามอบให้เจ้าหญิง เพราะว่าทุกคนเชื่อว่าดาบนั้นไม่มีอยู่จริงเป็นแค่ตำนานหลอกๆเท่านั้น และเกิดเสียงฮือฮากันในหมู่ฝูงชนเต็มไปหมด ทำไมคีแกรนถึงนำดาบนั้นมาได้ในเมื่อคนที่จะนำดาบนี้มาได้ต้องเป็นผู้ที่มีพลังInconclusiveที่เทพคารอสสร้างขึ้นเท่านั้น
    เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที ทุกคนเงียบเสียงลงรอจนเจ้าหญิงแอนเนียสพูด เนื่องจากเจ้าหญิงแอนเนียสจะทักทายทุกคนที่เข้ามารับการคัดเลือกหลังจากที่มอบของมีค่าให้เจ้าหญิงแอนเนียสแล้ว
    “สวัสดีค่ะคีแกรน ฉันไม่นึกเลยว่าคุณจะมาด้วย”
    “ครับ คุณไม่ได้ชื่อโลนลี่คุณคือเจ้าหญิงแอนเนียส”
    “ฉันขอโทษค่ะ ที่ฉันโกหกเพราะว่าถ้าฉันไม่โกหกฉันจะรู้หรอว่าคุณเป็นคนยังไง”
    “ครับผมไม่กล้าโกรธเจ้าหญิงหรอกครับ”
    “คีแกรนคุณพูดเหมือนเมื่อวานไม่ได้หรอ”
    “ผมขอตัวก่อนนะครับ” พอพูดจบคีแกรนก็รีบเดินออกมายังที่เดิมที่เขาเคยยืนอยู่ทันที พอเดินมาถึงที่คีแกรนก็ก้มหน้าก้มตาไม่มองใครเลย
    “เอาหละทุกคนฉันจะประกาศว่าจะไม่มีใครได้แต่งงานกับฉันทั้งนั้นแต่ไม่ต้องห่วงเรื่องของที่นำมาหรอกนะฉันจะคืนให้ทุกคน ถึงฉันจะไม่เลือกแต่งงานกับใครเลยแต่ฉันขอเลือกคีแกรน
ให้เข้าเป็นเพื่อนของฉันแทน ฉันอยากจะรู้จักกับผู้ชายคนนั้นเพราะว่าฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนดี ไม่แน่ในอนาคตฉันอาจจะเลือกแต่งงานกับเขาก็เป็นได้” หลังจากเจ้าหญิงแอนเนียสพูดจบทุกคนถึงกับอึ้ง เพราะทุกคนคงไม่ถึงว่าจะเป็นผู้ชายบ้านมีฐานะจนไม่มีอะไรเลย จะได้เป็นเพื่อนกับเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ และสวยงามขนาดนั้น เป็นบุญของนายคีแกรนจริงๆเลย พอเจ้าหญิงพูดอย่างนั้นทำให้ทุกคนสนใจนายคีแกรนมากขึ้นทำให้นายคีแกรนรู้สึกกลัวขึ้นมาเพราะมีสายตาจดจ้องมายังเขามากมายรวมทั้งคนที่ทำงานในพระราชวังด้วยเช่นกัน
    หลังจากที่เจ้าหญิงแอนเนียสประกาศเสร็จเจ้าหญิงก็เชิญทุกๆคนที่มาวันนี้รับประทานอาหารร่วมกัน แต่ส่วนหนึ่งที่ผิดหวังก็กลับบ้านไป ช่วงเวลารับประทานอาหารนั้นคนที่จ้องมองคีแกรนอยู่บางคนก็ลดสายตาลงมองอาหารแทน อาหารวันนี้ดูท่าทางหน้ากินทุกอย่างสีสันสวยงาม พอได้ลิ้มรสชาติก็ปรากฏว่าอร่อยมาก
    เวลาผ่านไปนานแสนนานตอนนี้เวลาบ่าย 3 โมง ทุกคนก็เริ่มทยอยกลับบ้าน ส่วนคีแกรนยืนรอพบเจ้าหญิงแอนเนียสอยู่ที่ห้องโถงเพื่อที่จะทำความเข้าใจเรื่องเมื่อวานแต่คีแกรนรอนานเสียจนคิดว่าเจ้าหญิงคงไม่ออกมา คีแกรนจึงตัดสินใจกลับบ้าน
    2 ปีต่อมา
    คีแกรนและเจ้าหญิงแอนเนียสคบหากันมานานจนทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันบนความผิดหวังของใครหลายๆคน ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันในวันที่ 29 กุมภาพันธ์
    พอทั้งคู่แต่งงานกันมาแล้ว 2 ปี เจ้าหญิงแอนเนียสก็มีลูกทั้งหมด 2 คน ทั้งคู่เป็นคู่แฝดกัน คนแรกเป็นผู้ชายมีตาสีฟ้ามีชื่อว่า ‘ชารอน’ คนที่2 เป็นผู้หญิงเป็นผู้หญิงที่มีตาสีชมพูอ่อน มีชื่อว่าแอเรียส ทั้งคู่ถูกเลี้ยงดูอย่างดีโดยเจ้าหญิงแอนเนียสและคีแกรน
    พอชารอนและแอเรียสอายุได้ 3 ขวบ คีแกรนและแอนเนียสจึงจ้างครูมาสอนให้จนอ่านออกเขียนได้ ทั้งคู่เติบโตขึ้นทุกวัน ชารอนมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักผจญภัย ส่วนแอเรียสอยากเป็นคนสร้างเกมส์ ถึงตอนนี้ครอบครัวนี้มีความสุขมาก ชารอนและแอเรียสเชื่อฟังคีแกรนและแอนเนียส ทุกกอย่าง
    ไม่นานแอนเนียสก็เสียชีวิต การเสียชีวิตของแอนเนียสทำให้ครอบครัวนี้เหมือนขาดอะไรไป ทำให้ทุกคนเศร้าโศกเสียใจกันใหญ่ รวมทั้งประชาชนมากมาย ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้ชารอนพยายามฝึกการต่อสู้เพื่อจะได้เป็นนักผจญภัยในภายหน้า ส่วนแอเรียสพยายามเรียนสร้างเกมส์ให้ได้หลายๆเกมส์ เพื่อทำความฝันของแม่ที่สั่งเสียไว้ให้เป็นจริง  ด้านคีแกรนก็พยายามทำหน้าที่พ่อที่ดีต่อไปและพยายามทำหน้าที่แม่ด้วยเช่นกัน
    นานมากแล้วชารอนและแอเรียสก็โตขึ้นทุกวันแต่ทั้งคู่ไม่เคยลืมแม่ของเขาเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา
   
“นี่กี่ปีแล้วเนี่ยพี่ชารอนที่แม่ไม่ได้อยู่กับเรา” แอเรียสถามชารอนด้วยอาการคิดถึงแม่
    “นั่นสิเนอะแอเรียสพี่ว่า 7 ปีแล้วมั้งใช่มะ” ชารอนตอบด้วยอาการเหมือนกับน้องสาว
    “คิดถึงแม่จังเลยเนอะพี่ชารอน”
    “พี่ก็คิดถึงแม่เหมือนกัน”
    “พ่อคะ”
    “มีอะไรเหรอแอเรียส”
    “พ่อคิดถึงแม่มั้ยคะ”
    “พ่อเองก็คิดถึงแม่ของลูกๆเหมือนกันแต่ทำไงได้ก็แม่ไม่ได้อยู่กับเราแล้วนะ” พ่อตอบแล้วทำท่าทางเหม่อลอยเหมือนพ่อกำลังคิดอะไรอยู่ซักอย่าง
    “ลูกรู้มั้ย แม่ของลูกหนะเป็นคนดีนะแม่เขาบอกกับพ่อว่าต้องสอนให้ลูกเป็นคนดีให้ได้นะ”
เท่านั้นแหละทำให้ชารอนและแอเรียสก็น้ำตาคลอแล้วเข้าไปกอดพ่อของเขาอย่างแนบแน่น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น