คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 การพบกัน
ตอนที่ 1 การพบเจอกันหลัง300ปี
อา....เหงาจังเลย
ไม่มีใครมาที่นี่นานเท่าไหร่แล้วนะ?
เฮ้อ คงต้องรอต่อไปสินะ
เหงา.... น่าเบื่อ ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิดเดียว วันๆได้แต่อยู่ในท่าเดิมๆ ขยับก็ไม่ได้ แถมยังไม่มีใครผ่านมาคุยด้วยสักคน ต้องเหงาไปอีกนานเท่าไหร่น้า............ ผมน่ะถูกมัดแขวนไว้ด้วยสายไฟระโยงระยางพวกนี้มานานมากๆแล้ว นานจนผมลืมไปแล้วว่าวันนี้คือวันอะไร วันที่เท่าไหร่ และเวลาเท่าไหร่แล้ว
ตู้ม!!ปัง ปัง ปัง ปัง
เสียงระเบิดตามด้วยเสียงกระสุนดังขึ้นปลุกผมออกจากภวังค์ แต่ว่า...ต่อให้อยากเงยหน้ามาดูแค่ไหน ผมก็ไม่สามารถเงยขึ้นมาดูได้ เรี่ยวแรงทั้งหมดของผมนั้นไม่เหลือเสียแล้ว หมด....ไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ? ฝุ่นควันลอยขึ้นบดบังวิสัยทัศน์ของผมหมด ถึงแม้ว่าจะเห็นแค่พื้นก็เถอะ
“หยุดนะ อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา”เสียงหวาน สูง นุ่มและใสของใครบางคนดังขึ้น ตกลงนั้นเสียงผู้ชายหรือผู้หญิงล่ะนั่น? ให้ตายเถอะ แยกออกยากชะมัด เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ตัวผมเรื่อยๆ
“อ๊ะ คนเหรอ?หรือเรพลิลอยด์?”เสียงเดิมนั้นพึมพำเบาๆพร้อมชะงักฝีเท้า คนเหรอ มันคืออะไร แล้วไหนจะเรพลิลอยด์อีก มันคืออะไรนะ? ทั้งๆที่อยู่มานานแต่ทำไมผมไม่รู้อะไรเลยนะ? ผมได้แต่คิดก่อนจะถอนหายใจเบาๆแต่ดังพอที่บางสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเค้าจะได้ยิน
“นี่คุณครับ คุณ ตื่นสิเป็นอะไรรึเปล่าครับ”แรงเขย่าจากมือบางเล็ก และอบอุ่นที่จับต้องแขนทั้งสองข้างของผม ผมพยายามรวบรวมแรงทั้งหมดปรือตาขึ้นช้าๆ ตอนแรกภาพทั้งหมดดูเบลอมากจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ผ่านไปสักครู่ภาพก็เริ่มชัดขึ้นแล้ว
ภาพที่ผมเห็นคือภาพของใครบางคนที่ดูคุ้นตาแต่ว่านึกยังไงก็นึกไม่ออก ดวงตาสีมรกตน่าหลงใหลนั่น ริมฝีปากสีเชอร์รี่น่าสัมผัส ดวงหน้าหวานแม้จะใส่เกราะอยู่ทำเอาผมสงสัยอย่างเดียวว่าคนตรงหน้าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่
“ยังไม่ตายสินะ แต่ว่า ทำไมคุณมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะครับ?”คนตรงหน้าเอ่ยพลางตัดสายไฟออก ตัวผมหล่นตุ้บลงบนคนที่ตัดสายไฟออกโดยไม่ได้ตั้งใจ
“โอ้ย หนักชะมัด หนักขนาดนี้ เรพลิลอยด์แหง”คนที่ถูกทับพึมพำเบาๆพร้อมทำหน้ามุ่ย ”นี่คุณช่วยลุกออกไปทีเถอะนะครับ มันหนัก” ก็อยากจะลุกอยู่หรอกนะ แต่ว่ามันลุกไม่ขึ้นนี่หว่า ไม่มีแรงแม้จะพูดด้วยซ้ำไปเฟ้ย
“หรือนี่คุณไม่มีแรงรึไง? จริงสิ พลังงานคุณน่าจะใกล้หมดแล้วล่ะมั้ง”คนข้างล่างผมขยุกขยิกไปมาอย่างน่ารำคาญ พลังงานอะไรฟะ ไม่รู้เรื่องเลย คิดแล้วหงุดหงิดชะมัด พลันสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นกระป๋องอะไรสักอย่างที่มีตัวEใหญ่เขียนแปะเอาไว้ คนข้างล่างยื่นเข้ามาจ่อปากของผม ทำเอาผมงงเลยทีเดียว ผมมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่แฝงไว้ด้วยคำถามมากมาย
“อ้าปากสิครับ เดี๋ยวพลังงานจะทยอยเข้าไปเอง”เขาไปยังไง?ช่างมันละ ทำตามก็ได้เฟ้ย ผมค่อยๆเผยอริมฝีปากออก จู่ๆก็รู้สึกถึงแรงที่ค่อยๆกลับมาเรื่อยๆ จนในที่สุดขีดอะไรไม่รู้4-5ขีดข้างๆกระป๋องที่ผมเห็นตอนแรกเรืองแสงอยู่3ขีดจากทั้งหมด10ขีดดับแสงไปหมด ผมรู้สึกเหมือนคนกินข้าวไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่ แต่ก็พอมีแรงที่จะลุกขึ้นออกจากตัวคนโดนทับเนิ่นนาน
“ฮู้ว ขอบคุณที่ลุกนะครับ” ผมหนักขนาดนั้นเลยเรอะ? ”คุณชื่ออะไรเหรอครับ?ผมชื่อเอ็กซ์นะ แล้วคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นานรึยังครับ?”คำถามถูกยิงออกมาเป็นชุด ทำเอาผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะค่อยๆตอบออกไป แต่ว่าผมมีเสียงด้วยเหรอ? ไม่ได้พูดมานานเลยลืมเสียงตัวเองไปแล้วสินะ เฮอะๆ
“ตอบข้อที่หนึ่งชั้นชื่อซีโร่ ข้อที่สอง ไม่รู้ ข้อที่สามนานมากจนลืมไปแล้วว่านานเท่าไหร่แล้ว”เสียง เสียงของผม โอ้ ขอบคุณพระเจ้าที่ผมยังมีเสียง เสียงของผมดูทุ้ม นุ่ม แข็งกร้าว
“เห นานแล้วเหรอครับ”เอ็กซ์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะพึมพำเบาๆ “แต่จะว่าไปชื่อซีโร่นี่คุ้นๆแฮะ” เอ็กซ์นั่งนึกอยู่สักพักโดยไม่รู้ตัวว่ามีเงาตะคุ่มโผล่มาด้านหลัง เงามือใหญ่ที่เป็นเครื่องจักรทั้งหมดฟาดลงมาหมายจะให้โดนเอ็กซ์
ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวอะไรเลยสักนิด รู้แค่ว่าผมหยิบแซด เซเบอร์ข้างกายขึ้นมาก่อนจะกระโจนไปตัดแขนนั่นทันที วินาทีนั้นเอ็กซ์หันมามองผมด้วยสายตาตกตะลึง มือของเค้าเปลี่ยนเป็นบัสเตอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เอ็กซ์ยกมันค้างแต่ยังไม่ยิง ดวงตาสีมรกตคู่นั้นเบิกโผล่ง ผมลอยตัวลงจากอากาศ
เมื่อเท้าของผมแตะพื้นเพียงเล็กน้อย ผมถีบตัววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว วิ่งเข้าไปหาเงานั่นก่อนจะเบิกตาขึ้นเมื่อเห็นว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ เมคานิลอยด์ขนาดยักษ์ เลนส์ดวงตาสีแดงข้างเดียวจ้องมาที่ผมก่อนจะยกมืออีกข้างที่เหลือมาปัดตัวผม แต่ใครจะไปอยู่เฉยๆให้มันปัดล่ะ ผมถีบตัววิ่งขึ้นไปตามแขนของมัน เมื่อวิ่งมาถึงหัวไหล่ของมันด้วยเวลาอันรวดเร็วจนมันตามไม่ทัน ผมถีบตัวอีกครั้งก่อนจะลอยตัวขึ้นไป หันปลายดาบเข้าหาเมคานิลอยด์ พุ่งตัวลงไปทะลวงมันด้วยความเร็ว เจ้าเมคานิลอยด์ค้างอยู่อย่างนั้นก่อนจะค่อยๆล้มลงกระแทกพื้นเสียงดังสะนั่น
เอ็กซ์วิ่งเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว เคาวิ่งมาพร้อมช่วยพยุงตัวผมที่ใช้พลังที่ได้รับมาจนหมดเกลี้ยงและกำลังจะหมดสติไป ผมปรือตามองเอ็กซ์ช้าๆ
“ซีโร่ หลับไปก่อนเถอะ” เอ็กซ์กล่าวงอย่างนุ่มนวลและแผ่วเบา สติของผมค่อยๆหลุดลอยออกไปช้าๆ สิ่งที่ผมเห็นป็นภาพสุดท้ายคือใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของเอ็กซ์ที่ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างประหลาด
ความคิดเห็น