ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องสมุด

    ลำดับตอนที่ #9 : ฤดูกาลต่างๆในแต่ละประเทศ และ อาจจะมีข้อมูลเพิ่มเติม และการขอ วีซ่า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 236
      0
      12 ส.ค. 55

    ประเทศญี่ปุ่น

    ฤดูใบไม้ผลิ (Haru) เดือน มีนาคม - พฤษภาคม

    ในประเทศญี่ปุ่น การผลิบานของดอกซากุระเป็นเครื่องหมายที่บอกถึงการสิ้นสุดของฤดูหนาวและการ มาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ ในแต่ละเขตทุกคนต่างเฝ้ารอการผลิบานของดอกซากุระ เริ่มจากทางเหนือของเกาะโอกินาวา ไปจนถึงเกาะฮอกไกโด นับจากปลายเดือนมีนาคมจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ในเทศกาลชมดอกไม้ (Ohanami) ชาวญี่ปุ่นนิยมใช้โอกาสนี้ออกไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนฝูงใต้ต้นซากุระ นับว่าเป็นเทศกาลที่ชาวญี่ปุ่นเฝ้ารอในแต่ละปี ในสวนสาธารณะหรือห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ จะมีการประดับตกแต่งด้วยดอกซากุระ รวมถึงมีการทำขนมเป็นรูปดอกซากุระ และนำซากุระมาเป็นส่วนผสมอีกด้วย หากินได้เฉพาะในเทศกาลนี้เท่านั้น



    ฤดูร้อน (Natsu) เดือน มิถุนายน - สิงหาคม

    ในช่วงฤดูร้อนนี้ ฝนจะตกทั่วประเทศญี่ปุ่น ยกเว้นที่เกาะฮอกไกโด เมื่อช่วงเวลาที่ฝนตกนี้สิ้นสุดจะเป็นช่วงของฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่ข้าวออกรวง จะมีวันที่กลางวันยาวที่สุด เรียกว่า เกะชิ (Geishi)ซึ่งมักจะตรงกับวันที่ 21 มิถุนายนของทุกปี ฤดูร้อนนี้ยังเป็นฤดูแห่งเทศกาลดอกไม้ไฟ ผู้คนนิยมใส่ชุดยูกาตะทั้งชายหญิงออกไปชมพลุไฟตามชุมชนต่าง และมีการเต้นรำพื้นเมือง (Bon Odori) กันอย่างสนุกสนาน



    ฤดูใบไม้ร่วง (Aki) เดือน กันยายน - พฤษจิกายน

    ในเดือนตุลาคม ใบไม้จะมีสีสันสวยงาม ในขณะที่การผลิบานของดอกซากุระเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ สัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงก็คือดอกเบญจมาศ ในฤดูนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่สบายที่สุดและเหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวใน ญี่ปุ่น บริเวณที่มีการเปลี่ยนสีสันของใบไม้ผู้คนนิยมไปท่องเที่ยว อาทิ เขต AOMORI และบริเวณอะราชิยามาในจังหวัดเกียวโต ชาวญี่ปุ่นนั้นให้ความสำคัญต่อการเปลี่ยนฤดูเป็นอย่างมาก ดังนั้นในแต่ละฤดูจะมีการท่องเที่ยวเพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติในแต่ละฤดู กันอย่างมาก



    ฤดูหนาว (Fuyu) เดือน ธันวาคม - กุมภาพันธ์

    ปลายเดือนตุลาคม มวลอากาศบริเวณไซบีเรียเริ่มก่อตัว การพัดของลมหนาวที่มีชื่อว่า โคการาชิแสดงถึงการมาเยือนของฤดูหนาวที่บริเวณเกาะฮอกไกโด โดยตอนเหนือจะมีอากาศหนาวกว่าภาคอื่น ๆ และมีการจัดเทศกาลหิมะประจำปี ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่าง ๆ เดินทางมาชมการแข่งขันออกแบบหิมะในรูปแบบต่าง ๆ ในช่วงสิ้นปี ครอบครัวชาวญี่ปุ่นต่างฉลองด้วยอาหารมื้อพิเศษ เรียกว่า “OSECHI RYOURI” โดยอาหารที่รับประทานจะมีความหมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง รวมถึงด้านสุขภาพและอายุยืนยาว ชาวญี่ปุ่นยังนิยมไปสักการะที่ศาลเจ้าเพื่อเป็นสิริมงคล ช่วงกลางคืนของวันที่ 31 ธันวาคม วัดทุกแห่งในประเทศญี่ปุ่นจะตีระฆัง 108 ครั้ง ตามประเพณีที่เรียกว่า โจะยะ โนะ คาเนะ (Jyoya no kane)

    และถ้าคุณ ต้องการ จะไป เที่ยว ญี่ปุ่น แต่ยัง ไม่มีที่ พัก ไปที่ เวป นี่ ค่ะ

    http://www.siamkane.com/japan-travel/hotel_reservation.html

    เครดิตhttp://www.siamkane.com/jstory_view.php?id=992

    ประเทศออสเตรเลีย

    ฤดูกาล
    ฤดูร้อน - ธันวาคม กุมภาพันธ์
    ฤดูใบไม้ร่วง - มีนาคม พฤษภาคม
    ฤดูหนาว- มิถุนายนสิงหาคม
    ฤดูใบไม้ผลิ- กันยายน พฤศจิกายน

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

    สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย

    แผนกวีซ่าออสเตรเลีย
    Thai CC Tower ชั้น 34 Unit 2&3
    889 สาทรใต้ กรุงเทพ 10120
    อยู่ตรงข้าม สถานี รถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์
    เปิดทำการเวลา 8.30 – 16.30 น.
    วันจันทร์ วันศุกร์
    Help Lines : 02 672 3476-77
    E mail : info@vfs.co.th
    Web site : http://www.vfs.co.th

    สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย
    37 ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ 10120
    ประเทศไทย
    โทร : 02-287-2680 # 3273
    โทรสาร : 02-679-1023
    Web: http://www.austembassy.or.th


    การขอวีซ่าออสเตรเลีย(AustraliaVisa)

    ในการขอวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อที่ ประเทศออสเตรเลียนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภท คือ
    1. วีซ่านักท่องเที่ยว เหมาะสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเรียนไม่เกิน 12 สัปดาห์ และไม่มีโครงการที่จะศึกษาต่อ

    การขอวีซ่านักท่องเที่ยว
    แบบฟอร์มการยื่นวีซ่า 48 R
    แบบฟอร์มการตรวจสุขภาพ 26/160 (เฉพาะนักเรียนที่สมัครเรียนตั้งแต่ 5 สัปดาห์ขึ้นไป)
    ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า 2,150 บาท ชำระเป็นแคชเชียร์เช็ค หรือ แบงค์ดราฟท์สั่งจ่าย สถานทูตออสเตรเลียกรุงเทพฯ
    เอกสารในการยื่นขอวีซ่า
    1. หลักฐานทางการศึกษา
    2. หลักฐานการทำงานและการเงิน
    3. รูปถ่าย 4 X 4 cm.
    4. จดหมายจากหน้าจ้างยืนยันการลางาน
    5. นักเรียน นักศึกษา หลักฐานการลงทะเบียนกับโรงเรียน
    6. จดหมายเชิญชวนหากเดินทางมาเยี่ยมญาติ
    ไม่มีค่าประกันสุขภาพ เมื่อนักเรียนเจ็บป่วยจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก
    ระยะเวลาของวีซ่าจะอยู่ได้ ครั้งละ 3 เดือนเท่านั้น
    การเข้า ออกประเทศออสเตรเลีย ขึ้นอยู่กับชนิดของวีซ่าที่ทางสถานทูตออกให้
    การต่ออายุวีซ่าเมื่อจบหลักสูตรสามารถต่อวีซ่าที่ประเทศออสเตรเลียได้หรือ ไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถานทูตที่ประเทศออสเตรเลีย
    ไม่สามรถทำงานได้ในระหว่างศึกษาอยู่
    ระยะเวลาเรื่องการพิจารณาวีซ่า 10 วันทำการไม่รวมวันหยุด นับจากวันที่ส่งเอกสารเข้าสถานทูต

    2. วีซ่านักเรียน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อที่ออสเตรเลียเป็นระยะเวลานาน กว่า 3 เดือนขึ้นไป โดยได้ทำการสมัครเข้าเรียนและได้รับการตอบรับการเข้าเรียนเต็มเวลา ณ สถาบันการศึกษาในประเทศออสเตรเลีย โดยหลักสูตรการศึกษาทุกหลักสูตรและสถาบันวิชาชีพที่ตอบรับนักเรียนต่างชาติ ให้เข้ารับการศึกษาต้องขึ้นทะเบียนกับทางรัฐบาล
    ออสเตรเลียเรียบร้อยแล้ว

    เครดิต http://campus.sanook.com/education/oversea/read_03753.php#askmore

    ประเทศอเมริกา

    สภาพภูมิอากาศ
    สหรัฐอเมริกามี 4 ฤดูกาล คือ

    • ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน สิงหาคม อากาศร้อนคล้ายเมืองไทย แต่ถ้ามีลมพัด ลมจะเย็นสบายกว่า
    • ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน พฤศจิกายน อากาศจะเริ่มเย็น เพราะจะเข้าฤดูหนาว ฤดูนี้เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวมากที่สุด
    • ฤดูหนาว เดือนธันวาคม กุมภาพันธ์ อากาศหนาวมาก อุณหภูมิตั้งแต่ – 30C ถึง10C
    • ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม พฤษภาคม อากาศอบอุ่น

    เมืองทางแถบตะวันออก ของประเทศอากาศในช่วงฤดูหนาว และฤดูร้อนจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน ส่วนทางด้านชายฝั่งตะวันตกค่อนข้างจะมีฝนตกบ่อย มีหิมะตกพอสมควร ปริมาณแสงแดดก็มีไม่มากนัก ทางตอนกลางของประเทศมีหิมะตกพอสมควรถึงหนักมาก แสงแดดค่อนข้างมาก

    หมายเหตุ : ในฤดูใบไม้ร่างจะมีการหมุนเข็มนาฬิกา ให้เวลาเดินหน้าเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง โดยจะหมุนในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม และในฤดูใบไม้ผลิ จะหมุนเข็มนาฬิกาให้เวลาถอยหลัง 1 ชั่วโมง โดยจะหมุนในวันอาทิตย์แรก ของเดือนเมษายน

    เครดิต http://www.ieoworktravel.com/?p=377

    วีซ่า อเมริกา

    1. หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

    2.คำร้องขอวีซ่า OF – 156 ซึ่งกรอกอย่างสมบูรณ์เป็นภาษาอังกฤษ สามารถขอรับเอกสารดังกล่าวบริเวณด้านหน้าหรือท่านสามารถ ข้อมูลการขอวีซ่าล่าสุด (7 มีนาคม 2552) ชมทาง อินเตอร์เน็ทได้ที่
    http://thailand.us-visaservices.com/Forms/default.aspx

    3. ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียม ตัวจริงทั้ง 2 ส่วน จากที่ทำการไปรษณีย์ ( ท่านสามารถชำระค่าธรรมเนียม ได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ทุก แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยกเว้นไปรษณีย์สาขาย่อย) อัตราค่าธรรมเนียม 100 เหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่าค่าเงิน
    บาทไทยในปัจจุบัน แต่ไม่สามารถเรียกคืนเงินได้กรณี ไม่ได้รับอนุมัติวีซ่า

    4. รูปสี ขนาด 1-1/2 X 1-1/2 นิ้ว หรือ 4 ซ.ม. X 4 ซ.ม. ( พื้นสีอ่อน และ ไม่รับรูปถ่ายด่วนหรือโพราลอยด์ )

    5. หลักฐานถิ่นที่อยู่ของท่านภายนอกสหรัฐ : การยื่นขอวีซ่าประเภทธุรกิจ/ท่องเที่ยว หมายถึงผู้ยื่นคำร้องกำลังขอ วีซ่าเข้า สหรัฐฯ เป็น การชั่วคราว ก่อนที่ทางเราจะออก วีซ่าเข้าเมืองชั่วคราว ผู้ยื่นขอวีซ่าต้องแสดงให้เป็นที่พอใจ ต่อเจ้าหน้าที่กงสุลว่าท่านไม่มี ความ
    ประสงค์ที่จะเข้าไปอยู่ในสหรัฐฯ เป็นการถาวร ผู้ยื่นคำร้องจะทำได้ โดยการแสดงหลักฐานความผูกพัน ทางครอบครัว เศรษฐกิจ
    และสังคมอื่นๆ ที่มีอยู่ภายนอกประเทศสหรัฐฯ ญาติพี่น้อง นายจ้าง หรือ เพื่อนไม่สามารถ "รับประกันการเดินทางกลับ ของ ผู้ยื่นขอ
    วีซ่า แทนการยื่นหลักฐานดังกล่าวได้" ทางเจ้าหน้าที่กงสุล ต้องพิจารณาจากสถานการณ์ ของบุคคลผู้ยื่นขอวีซ่า ว่า
    ผู้นั้น มีคุณสมบัติ จะได้รับวีซ่าด้วยตนเองหรือไม่ โดยไม่คำนึงว่า ผู้ใดออกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ข้อสำคัญคือเจ้าหน้าที่กงสุลพิจารณา การออกวีซ่าบนพื้นฐาน ของพระราชบัญญัติ การตรวจคนเข้าเมือง และสัญชาติสหรัฐฯ กฎหมายฉบับนี้ระบุว่า "เมื่อใดก็ตามที่บุคคลใด ยื่นคำร้องขอวีซ่า......ภาระการพิสูจน์จะตกอยู่กับกับบุคคลผู้นั้น ในการที่จะแสดงว่า ตนมีคุณสมบัติ" กฎหมายเข้าเมืองของสหรัฐฯ กำหนด ให้เจ้าหน้าที่กงสุล ปฏิเสธคำร้อง ของผู้ยี่นขอวีซ่า หากบุคคลดังกล่าวไม่สามารถแสดงหลักฐาน ที่เชื่อได้ว่า มิได้มีความประสงค์ต่อ การเป็นบุคคลเข้าเมืองถาวร เนื่องจากสภาพแวดล้อมแห่งครอบครัว สังคม และอาชีพ ของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป ทางเราจึงไม่สามารถระบุได้ว่า เอกสารใดที่ท่าน ยื่นแล้ว สามารถรับประกันได้ว่า ท่านจะได้รับวีซ่า อย่างไรก็ตามหลักฐานต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างที่เจ้าหน้าที่กงสุล จะขอดูอยู่เสมอๆ
    หลักฐานการทำงาน: ผู้ขอวีซ่าอาจยื่นจดหมายจากนายจ้าง ระบุถึง (1) วันที่เริ่มทำงาน (2) เงินเดือน และ/หรือเงินค่าตอบแทน อื่นๆ (3) ตำแหน่งงานชั่วคราวหรือถาวร และ (4) ระยะเวลา ที่ท่านได้รับอนุญาตให้ลางานได้ กรณีข้าราชการ และลูกจ้างของรัฐบาลไทย ควรมีใบอนุมัติการลาหยุดงานมาแสดง ผู้ขอวีซ่าที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ควรแสดงหลักฐานพิสูจน์ การเป็นเจ้าของกิจการของตน ผู้ที่จะ เดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อทำธุรกิจ เช่น ฝึกงาน หรือ เข้าร่วมประชุม ควรมีจดหมายจากบริษัทต่างประเทศที่ท่านกำลังจะไปติดต่อมาแสดง ด้วย ในรายที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ควรแสดงหลักฐานการศึกษาจากสถานศึกษาของท่าน สำหรับผู้เยาว์จะต้องแสดงหลักฐานทาง เศรษฐกิจของบิดา-มารดา

    หลักทรัพย์: ผู้ยื่นคำร้อง ควรยื่นแสดงเอกสารทางการเงิน เพื่อพิสูจน์ว่าตน มีฐานะทางการเงินเพียงพอ ที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่าย ในการเดินทาง หลักฐานดังกล่าว อาจเป็น สมุดบัญชีเงินจากประจำ บัญชีกระแสรายวัน บัญชีออมทรัพย์และ /หรือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน ท่านควรยื่นแสดงเอกสารต้นฉบับเท่านั้น ทางสถานทูตจะไม่เก็บสำเนาเอกสาร

    หลักฐานอื่นๆ: ท่านสามารถใช้ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ภาพถ่ายพิธีสมรส และสูติบัตร เพื่อยืนยันความผูกพันทางครอบครัว หากท่านมีอาชีพ เป็นนายแพทย์ ทนายความ วิศวกร หรือสมาชิกสมาคมวิชาชีพอื่นใด ท่านควรนำใบอนุญาต การประกอบอาชีพนั้นๆ มาแสดง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการยื่นคำร้องขอวีซ่า

    เวลาทำการของสถานฑูต
    07.00 น. – 09.00 น. จันทร์ศุกร์ เปิดรับคำร้องสำหรับเข้าเมืองชั่วคราว
    14.00 น. – 15.30 น. จันทร์ศุกร์ รับหนังสือเดินทางที่ผ่านการอนุมัติ(โดยทั่วไปจะเป็นวันถัดจากวันยื่นคำร้อง )
    หมายเหตุ : การยื่นวีซ่า ท่านสามารถมอบหมายให้พนักงานส่งเอกสาร พนักงานขับรถ เพื่อน ญาติ หรือบุคคลอื่น ทำการยื่นใบคำร้องขอวีซ่าแทนท่าน และสมาชิกในครอบครัวของท่านได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทรศัพท์ 02-205 - 4055

    เครดิต http://www.vacationzone.co.th/zone/index_usavisa.php

    ประเทศอังกฤษ

    ภูมิอากาศและฤดูกาล สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปของสหราชอาณาจักร จัดอยู่ในประเภทค่อนข้างหนาวและมีความชื้นสูง เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศเป็นเกาะ มีกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นไหลผ่าน โดยทางตอนเหนือจะหนาวมากกว่าทางตอนใต้ และจะมีฝนตกทางภาคตะวันตกมากกว่าทางภาคตะวันออก อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดในช่วงฤดูหนาวคือ 2-4 องศาเซลเซียส และสูงสุดในช่วงฤดูร้อนคือ 18-22 องศาเซลเซียส
    ประเทศสหราชอาณาจักรมี ฤดูกาลทั้งหมด 4 ฤดูคือ
    ฤดูใบไม้ผลิ : เดือนมีนาคม-พฤษภาคม
    ฤดูร้อน : เดือนมิถุนายน-สิงหาคม
    ฤดูใบไม้ร่วง : เดือนกันยายน-พฤศจิกายน
    ฤดูหนาว : เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์

    เครดิต http://inter.thepbodint.ac.th/topmenu.php?c=listknowledge&q_id=256

    เอกสารที่ใช้ในการขอ Visa ประเทศอังกฤษ


    1.ใบสมัคร VAF9 (PBS Tier 4 General Student) กรอก o­nline แล้วปรินท์ออกมา
    2.Appendix 8 – กรอกด้วยมือ
    3.หนังสือเดินทาง ที่มีอายุเหลือก่อนเดินทางมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป และมีหน้าว่างเหลืออยู่ทั้งสองด้าน พร้อมสำเนาหน้าแรก
    4.หนังสือเดินทางเล่มเก่าทุกเล่ม (ถ้ามี)
    5.บัตรประชาชนตัวจริง และ สำเนาที่ต้องแปลรับรองเป็นภาษาอังกฤษ
    6.ทะเบียนบ้านตัวจริงและ สำเนาที่ ต้องแปลรับรองเป็นภาษาอังกฤษ
    7.รูปถ่ายสี 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบที่ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน เป็นรูปหน้าเต็ม มีความชัดเจนสูง และมีพื้นหลังเป็นสีขาว
    8.หลักฐานการศึกษาที่ผ่านมาล่าสุด เช่น ประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร หรือ Transcript เป็นภาษาอังกฤษ พร้อมสำเนา
    9.ใบรับรองการตรวจร่างกายปลอดเชื้อวัณโรค (TB) จากสถาบัน IOM พร้อมสำเนา
    10.หลักฐานการศึกษาด้านภาษาอังกฤษ (ข้อใดก็ได้)
    # ผลสอบ test ภาษาอังกฤษ
    # จดหมายจากโรงเรียน มหาวิทยาลัย ว่าเคยเรียนภาษาอังกฤษ
    # จดหมายจากสถาบันภาษา
    11.หลักฐานทางด้านการเงิน - PBS 10 คะแนน
    # Statement ที่มีชื่อผู้สมัครอยู่ จะเป็นบัญชีที่เป็นชื่อร่วมก็ได้ พร้อมสำเนา
    # ต้องมีเงินอยู่ในบัญชีไม่น้อยกว่า 28 วัน มากกว่า 7200 ปอนด์ หรือ 400,000 บาท* ไม่รวมค่าโครงการ
    12.Visa letter ตัวจริง (จดหมายตอบรับจากโรงเรียน) – PBS 30 คะแนน (Agency จัดหาให้ ประมาณ 7 วันหลังจากจ่ายค่าโครงการ Work and Study in UK)

    # หลักฐานการจ่ายเงินค่าโครงการ Work and Study in UK
    #
    หลักฐานการจองที่พักอาศัย (accommodation)
    13.
    ค่าธรรมเนียมวีซ่า 7,450 บาท ในรูปของตั๋วแลกเงิน หรือแคชเชียร์เช็ค* สั่งจ่าย ในนาม “British Embassy Bangkok” (ค่าธรรมเนียมอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเงิน)

    เอกสารทุกชนิด ต้องเป็นภาษาอังกฤษ และ ต้องมีทั้งตัวจริงและสำเนา

    ขั้นตอนและวิธีการยื่นขอ VISA ประเทศอังกฤษ

    1. กรอกใบคำร้องได้ที่ www.vfs-uk-th.com/thai submit และพิมพ์แบบฟอร์ม
    2. จองวันเพื่อไปยื่นเอกสารผ่าน website
    3.
    การยื่นขอ VISA สามารถยื่นขอ VISA ประเทศอังกฤษได้ที่ บริษัท วีเอฟเอส (ประเทศไทย)จำกัด โดยทุกคนต้องไปยื่นขอคำร้องด้วยตนเอง เนื่องจากจะถูกเก็บข้อมูลทางชีวภาพ คือ ทำการสแกนนิ้วมือ และถ่ายรูปดิจิตอล

    สถานที่ยื่นขอ VISA

    บริษัท วีเอฟเอส (ประเทศไทย) จำกัด
    เลขที่ 183 อาคารรีเจ้นท์ เฮ้าส์ ชั้น 2 (ติดกับ AUA) ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

    เวลาทำการของศูนย์รับคำร้อง

    เวลาในการยื่นคำร้อง : จันทร์ ศุกร์ เวลา 8.30 น. - 15.00 น.
    เวลาในการรับหนังสือเดินทาง : จันทร์ ศุกร์ เวลา 15.00 น. – 16.00 น.

    ** ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับการขอ VISA สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ 02-800 8050 หรือ www.vfs-uk-th.com/thai

    ** สามารถติดตามผลวีซ่าได้จาก www.vfs-uk-th.com/thai/tracks.aspx

    ระยะเวลาในการยื่นคำร้อง และการติดตามผล

    โดยปกติถ้าไม่เรียกสัมภาษณ์ จะให้เวลาเพียง 3-5 วันทำการ แต่ถ้ามีการสัมภาษณ์ให้เผื่อเวลาไว้ประมาณ 1 เดือน

    วิธีรับหนังสือเดินทาง

    ท่านสามารถรับหนังสือเดินทางของท่านได้โดยมีทางเลือก 2 ทางดังนี้:
    1. มารับพาสปอร์ตที่ศูนย์ยื่นคำร้องวีซ่าฯ ณ ที่ๆท่านมาสมัคร ผู้สมัครต้องนำ
    ใบเสร็จตัวจริง
    สำเนาหนังสือเดินทางที่มีตราแสตมป์ ของบริษัท วี เอฟ เอส (ไทยแลนด์) จำกัด
    2. ในกรณีให้ผู้อื่นมารับแทน เอกสารที่ต้องเตรียมมามีดังนี้
    ใบเสร็จตัวจริงออกให้โดยศูนย์ยื่นวีซ่าประเทศอังกฤษ ณวันที่ท่านมาสมัคร
    หน้าพาสปอร์ตที่มีตราแสตป์ของบริษัท วี เอฟ เอส (ไทยแลนด์) จำกัด
    หนังสือมอบอำนาจจากผู้สมัคร หากผู้สมัครอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถให้ผู้ปกครองมารับหรือเซ็นต์มอบอำนาจแทนได้
    ถ่ายสำเนาบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง (สำหรับชาวต่างชาติ) ของบุคคลที่มารับแทน วัน - เวลารับหนังสือเดินทาง : วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา 15:00 – 16:30 น. (ยกเว้นวันหยุด)
    3. รับหนังสือเดินทางโดยใช้บริการ บริษัทจัดส่งเอกสารจีดีเอ ผู้สมัครสามารถเลือกใช้บริการจัดส่งหนังสือเดินทางไปยังศูนย์รับเอกสารของ บริษัทจี ดี เอ ที่ใกล้ที่สุดโดยบริษัทจัดเอกสารจี ดี เอ จะเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งหนังสือเดินทางของผู้สมัครที่แจ้งความจำนงใช้ บริการไปศูนย์ให้บริการที่ผู้สมัครเลือกไว้

    หมายเหตุ: ค่าบริการจัดส่งเอกสารต้องชำระพร้อมกับค่าธรรมเนียมวีซ่าในวันที่ท่านมาทำการสมัคร ค่าบริการจัดส่งคืนหนังสือเดินทาง:
    ในพื้นที่เขต กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล : 180 บาท
    ในต่างจังหวัด : 310 บาท (เชียงใหม่, ชลบุรี, สมุทรสาคร, ภูเก็ต และปริมณฑล)
    ภาคอีสาน (อุดรธานี) : 440 บาท
    ประเทศลาวและกัมพูชา : 700 บาท

    สนใจสอบถามรายละเอียดโครงการ Work and Study in UK
    พี่ต้น โทร. 085-440-4884
    Au Pair Thailand สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต

    ชั้น 3 โซน Campus Park ฝั่งเซ็นทรัล ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต

    เลขที่ 94 ถนนพหลโยธิน ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130

    e-mail : rangsit@aupairthailand.com

    http://www.workstudyuk.com/

    http://workstudyuk-rangsit.hi5.com/

    เครดิต http://blog.eduzones.com/workandstudy/26985

    ประเทศอิตาลี

    ภูมิอากาศ
    เมื่อเทียบกับประเทศยุโรปอื่นๆ อิตาลีจัดได้ว่าอยู่ในเขตอบอุ่น มีแสงอาทิตย์ส่องสว่าง อากาศดีแจ่มใส แต่จริงๆแล้ว ด้วยรูปทรงยาวยื่นลงไปในทะเล โดยส่วนบนติดกับเทือกเขาแอลป์ ทำให้อิตาลีมีภูมิอากาศที่หลากหลาย ทางตอนเหนืออากาศเย็น มีหิมะตกในช่วงหน้าหนาวทว่าร้อนจัดในช่วงหน้าร้อน ในขณะที่ทางใต้อากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี โดยมีลมจากแอฟริกาพัดพาเอาความร้อนและชื้นเข้ามาในช่วงฤดูร้อน
    ฤดูกาลในอิตาลีมี 4 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง
    ช่วงเวลาที่ควรไปเยือนเวลาที่เหมาะกับการไปเยือนอิตาลีที่สุดคือ

    • ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เดือนเมษายน-มิถุนายน เพราะอากาศกำลังสบาย ทางตอนเหนือไม่หนาวและทางใต้ไม่ร้อนจนเกินไป และยังเป็นช่วงที่ถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น
    • ช่วงฤดูร้อน เดือนกรกฎาคม-กันยายน
    • ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เดือนตุลาคม-ธันวาคม
    • ช่วงฤดูหนาว เดือนมกราคม-มีนาคม

    ในอิตาลีจะคึกคักมากและมีนักท่องเที่ยวมากมายทุกหนแห่งที่พักและอาหารมีราคาแพงจึงควรหลีกเลี่ยงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวอาจมีฝนตก

    เครดิต http://www.meetawee.com/home/travel-info/europe-info/italy-europe-info.html

    การขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปประเทศอิตาลี

    สถานเอกอัคราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทยได้มอบหมายให้บริษัทวีเอฟเอสโกลบอล เป็นตัวแทนรับคำร้องขอวีซ่าในกรุงเทพมหานคร

    ขั้นตอนการขอวีซ่าธุรกิจ

    ชาวต่างประเทศที่มีความประสงค์จะเดินทางไปยังสาธารณรัฐอิตาลีจะต้องเสดง เอกสารต่างๆ ตามรายการที่สถานทูตกำหนดเพื่อแสดงวัตถุประสงค์และระยะเวลาในการพำนักใน ประเทศอิตาลีของท่านในส่วนนี้ของเว็บไซต์ท่านจะพบข้อมูลเกี่ยวกับการขอวีซ่าธุรกิจเท่านั้น

    ระยะเวลาดำเนินการ

    หลังจากท่านยื่นคำร้องสถานทูตจะใช้เวลาในการพิจารณาวีซ่าประมาณ 15 วันทำการ หรือในบางกรณีอาจใช้เวลาประมาณ 30 วันทำการ

    สถานทียื่นคำร้องขอวีซ่า

    ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าอิตาลี อาคารเมอร์คิวรี่ ชั้น 9 ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ (ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลม)

    เวลาทำการ �วันจันทร์ 10.00-12.00 น.� �วันพุธ 14.00-16.00 น. �วันศุกร์ 10.00-12.00 น.

    หมายเหตุเมื่อท่านมายื่นคำร้องขอวีซ่าที่ศูนย์รับคำร้องท่านต้องชำระค่าธรรมเนียมการ ขอวีซ่าและค่าดำเนินการเป็นเงินสดซึ่งค่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวท่านไม่สามารถเรียกคืนได้

    ถ้าหากท่านเดินทางมายื่นคำร้องด้วยตนเองท่านไม่จำเป็นต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าแต่หากท่านต้องการทำการนัดหมายก็สามารถทำได้เช่นกัน

    ทำการนัดหมาย กรุณาคลิกที่นี้

    เอกสารที่ใช้ประกอบคำร้องขอวีซ่า(สำหรับวีซ่าธุรกิจเท่านั้น)

    สำหรับการขอวีซ่าธุรกิจกรุณาเตรียมเอกสารดังนี้

    1.แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าที่กรอกข้อมูลครบถ้วนและลงนามผู้ขอวีซ่าแล้ว (ดาวน์โหลดแบบฟอร์มกรุณาคลิกที่นี่)

    2.รูปถ่ายปัจจุบันขนาดเดียวกับที่ใช้ทำหนังสือเดินทาง� 2 รูปเย็บด้วยแม็กมากับแบบฟอร์มคำร้อง

    3.หนังสือเดินทางที่มีอายุคงเหลือ 90 วันนับจากวันหมดอายุของวีซ่าและมีหน้าว่างอย่างน้อยหนึ่งหน้า

    4.เอกสารการจดทะเบียนของบริษัทไทย

    5.จดหมายจากบริษัทไทยที่ชี้เเจง

    ��������������� – วัตถุประสงค์ของการเดินทาง

    ��������������� – อาชีพและสถานะของผู้ยื่นคำร้อง

    ��������������� – รายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมและความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทสัญชาติอิตาเลียน

    6.จดหมายเชิญจากบริษัทสัญชาติอิตาเลียนที่มีการลงนามโดยผู้มีอำนาจรับผิดชอบของบริษัทนั้นเเฟกซ์ถึงสถานทูตหรือสถานกงสุล (ส่งฉบับจริงถึงผู้ยื่นคำร้องด้วย)

    7.หลักฐานแสดงสถานะทางการเงิน เช่น สำเนาบัตรเครดิต

    8.ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุในการเดินทางต่างประเทศวงเงินเอาประกันขั้นต่ำ 30,000 ยูโร ที่ครอบคลุมการส่งตัวผู้ป่วยเพื่อไปรับการรักษาทางอากาศด้วย (ฉบับสำเนา)

    9.ตั๋วเครื่องบินไป-กลับที่มีการยืนยันการเดินทางแล้ว

    10.ในการเดินทางไปร่วมงานแสดงสินค้าหรืองานสัมนาต่างๆ ในประเทศอิตาลีหากมีค่าใช้จ่ายผู้ยื่นคำร้องต้องแสดงหลักฐานค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วย

    เอกสารประกอบอื่นๆ

    ก)หลักฐานการจองที่พักหรือหนังสือรับรองรับรองในกรณีที่บริษัทอิตาเลียนจัดหาที่พักให้

    ข)สำเนาฉบับถ่ายเอกสารย้อนหลังสองปีของวีซ่าที่ออกให้โดยประเทศในกลุ่ม เชงเก้น,สหราชอาณาจักร,สหรัฐอเมริกา,ไอร์แลนด์,ออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์หรือสห พันธรัฐสวิส.

    หมายเหตุ เอกสารที่สถานทูตกำหนดข้างต้นไม่สามารถรับรองการได้รับวีซ่าของท่านแต่อย่างใด

    อัตราค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า

    ท่านสามารถชำระค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าได้สองสกุลเงิน คือ สกุลยูโรและสกุลบาท

    สกุลยูโร(€)

    สกุลบาท(THB)

    วีซ่าธุรกิจ (ประเภทซี)

    60

    2400

    หมายเหตุ �อัตราค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าสกุลเงินบาทได้รับการกำหนดโดยสถานทูตดังนั้นอัตราดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

    นอกจากค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าข้างต้น ผู้ยื่นคำร้องจะต้องชำระค่าบริการ 500 บาท(รวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม) ต่อการยื่นคำร้องหนึ่งฉบับนอกจากนั้นหากท่านเลือกใช้บริการส่งเอกสารกลับแก่ท่านทางไปรษณีย์จะมีค่า บริการเพิ่ม 200 บาท (รวมภาษีมูลค่า เพิ่ม)ในกรณีที่คำร้องขอวีซ่าของท่านได้รับการปฏิเสธท่านจะต้องเดินทางไปรับ หนังสือเดินทางของท่านด้วยตนเองที่แผนกวีซ่า สถานทูตเอกอัคราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทยและค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าและค่าดำเนินการต่างๆทั้งหมด ท่านไม่สามารถเรียกคืนได้

    เครดิต �http://www.thaitch.org/italy/visa-for-italy/?lang=th

    ประเทศ ฝรั่งเศส

    ฤดูกาลในฝรั่งเศส...
    ��������

    ในฝรั่งเศสมี 4 ฤดูกาล
    1.ฤดูใบไม้ผลิ จะเริ่มราววันที่ 21มีนาคม - 21 มิถุนายน ฤดูนี้อากาศดีมาก ต้นไม้ผลิดอกสวยงามมาก
    2.ฤดูร้อน จะเริ่มราวๆ วันที่ 22 มิถุนายน - 22 กันยายน อากาศดีและร้อน เป็นฤดูแห่งการพักผ่อน ในเดือนสิงหาคม โรงงาน ร้านค้า มักจะหยุดให้พนักงานพักผ่อน ผู้คนนิยมไปทะเล
    3.ฤดูใบไม้ร่วง จะเริ่มราวๆ วันที่ 23 กันยายน - 23 ธันวาคม อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเทา ฝนเริ่มตั้งเค้า ลมพัดแรง ใบไม้ผลัดใบทิ้งเพื่อรอรับฤดูหนาวที่ใกล้เข้ามา
    4.ฤดูหนาว จะเริ่มจากวันที่ 23 ธันวาคม - 23 มีนาคม อากาศหนาวจัดหิมะตก ไม่มีใบไม้เหลือบนต้นไม้เลย

    เครดิต http://pirun.ku.ac.th/~b5046414/1.html

    การขอวีซ่า ใน ฝรั่ง เศส

    ระเบียบใหม่ของการยื่นเรื่องขอวีซ่า

    เพื่อให้การตรวจสอบเอกสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว แผนกวีซ่าจะรับยื่นเรื่องขอวีซ่าสำหรับประเทศฝรั่งเศส (ผู้ยื่นอาจเป็นผู้เดินทางเองหรือตัวแทน) โดยการนัดหมายเท่านั้น ระเบียบใหม่นี้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2551 และผู้ดำเนินการร้องขอสามารถรับหนังสือเดินทางคืนได้ช่วงบ่ายของวันทำการตั้งแต่เวลา 14.00 น. ถึง 15.30 น.เท่านั้น

    การนัดหมายสามารถทำได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปทางเว็บไซต์ และไม่มีการนัดหมายทางโทรศัพท์
    สำหรับการนัดหมาย คลิกที่นี่ ()

    หมายเหตุ�: ขั้นตอนข้างต้นไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทท่องเที่ยวซึ่งสามารถนัดหมายได้ที่เว็บไซต์ซึ่งทางสถานทูตฯได้ทำจดหมายแจ้งไปแล้ว กรณีที่ยังไม่ได้รับข้อมูลดังกล่าว สามารถติดต่อรับข้อมูลได้ที่อีเมล์นี้visas@ambafrance-th.org

    ผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางรีบด่วน กรุณาส่งเมล์มาที่ visas@ambafrance-th.org(แผนกวีซ่าจะพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป)

    ขั้นตอนดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับผู้เดินทางที่ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ หรือผู้ที่ยื่นคำร้องขอวีซ่าสำหรับบุตรบุญธรรมคำร้องทั้งสองประเภทนี้สามารถยื่นได้ในวันทำการระหว่างเวลา 8.30 น.-12.00 น.

    เครดิต http://ambafrance-th.org/article1240 ถ้าต้องการจะนัดหมายก็เข้ามาในนี้

    ประเทศ นิวซีแลนด์

    ประกอบด้วย 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูร้อน ธันวาคม - กุมภาพันธ์ ฤดูใบไม้ร่วง มีนาคม พฤษภาคม ฤดูหนาว มิถุนายน สิงหาคม ฤดูใบไม้ผลิ กันยายน พฤศจิกายน เนื่องจากตั้งอยู่ในโซนอากาศอบอุ่น ทำให้มีอากาศอบอุ่นชุ่มชื้นตลอดปี ฤดูร้อนอากาศค่อนข้างเย็น ฤดูหนาวไม่หนาวจัดมาก มีฝนตกตลอดปี ได้รับอิทธิพลจาก - ลมประจำที่พัดผ่าน คือลมฝ่ายตะวันตก - กระแสน้ำอุ่นออสเตรเลียตะวันออก อากาศแตกต่างกันดังนี้ - เกาะเหนือมีอากาศอบอุ่นชื้นทั่วเกาะ - เกาะใต้ชายฝั่งตะวันตกฝนชุกกว่าชายฝั่งตะวันออก - เกาะใต้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงย่างเข้าสู่ฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุมอยู่ทั่ว และมีมากที่ Mt.Cook

    เครดิต http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C

    การขอวีซ่า นิวซีแลนด์

    เอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อไปขอวีซ่านิวซีแลนด์
    1. กรอกแบบฟอร์ม NZ1017 สำหรับ Visitor นะครับ ดาวน์โหลดได้จากลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ มีทั้งหมด 20 หน้า แต่กรอกจริง ๆ ซัก 10 หน้านิด ๆ มั๊งครับ มีหลายหน้าที่ผมว่าไม่ได้จำเป็นต้องกรอก และ ที่สำคัญอย่าลืมกรอกใบสุดท้ายด้วยนะครับ เป็น Application Checklist จะได้ดูว่าข้อมูลของเรากรอกครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือยัง
    http://www.immigration.govt.nz/NR/rdonlyres/3CEE1C20-BA66-45ED-ABE7-7697DDC12F73/0/1017.pdf

    2. ผมว่าการกรอกแบบฟอร์มพวกนี้มีหลาย ๆ ข้อไม่รู้จะตอบอะไร ผมแนะนำว่าให้ดาวน์โหลดคู่มือการตอบใบสมัครที่นี่ไปดูเทียบเคียงด้วยก็ดี ครับ ดาวน์โหลดคู่มือการกรอกเอกสารคลิกที่นี่เลยครับ
    http://www.immigration.govt.nz/NR/rdonlyres/AC468617-95B4-48ED-9CBA-586A97836AFE/0/1018.pdf

    3. หนังสือเดินทางมีอายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ในกรณีที่มีเล่มเก่าอยู่ก็ติดไปด้วยนะครับ

    4. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 รูป

    5. สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)

    6. ใบรับรองการทำงานของบริษัทที่ทำงานอยู่ (ดูตัวอย่างการเขียนหนังสือรับรองได้จากที่ลิงค์ด้านล่างนี้นะครับ) สำหรับข้าราชการจะต้องมีจดหมายรับรองจากต้นสังกัด และสำเนาบัตรประจำตัวราชการ 1 ชุด
    http://www.holidaythai.com/board/topic/39

    7. ในกรณีที่เป็นเจ้าของกิจการให้เตรียมสำเนาทะเบียนการค้าไปแทน

    8. หลักฐานการเงินโดยใช้หนังสือรับรองการเงินจากทางธนาคาร หรือถ้าไม่ต้องการเสียเวลาไปขอเอกสารใด ๆ จากธนาคารก็ให้เอาสมุดเงินฝากของเราไปปรับให้เป็นยอดล่าสุดซะ แล้วก็ถ่ายเอกสารเอาไปให้เค้าได้เลยครับ เอาย้อนหลังไปซัก 6 เดือนนะครับ (ผมใช้วิธีหลังเนี่ยแหละง่ายดี แต่ไม่แนะนำสำหรับคนที่ไม่ค่อยจะเอาบุ๊คไปปรับนะครับ ประเภทยอดรวมมาทีเดียวเป็นแสนเป็นล้านเนี่ย ไปขอเอกสาร statement ทางธนาคารมาดีกว่าครับ แต่ถ้าปรับสม่ำเสมออยู่แล้วเอาไปใช้ได้เลยครับ)

    9. เด็กนักเรียนให้ไปขอหนังสือรับรองจากโรงเรียน (ตัวจริง) หรือสมุดรายงานประจำตัวนักเรียน เห็นน้อง nooknick บอกว่าเสียตังค์ 10 บาทเองครับค่าใบรับรองจากโรงเรียน ใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน ก็ได้แล้วครับ

    10. เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง (บิดาหรือมารดา) ในกรณีที่เด็กเดินทางไปกับบิดาจะต้องมีหนังสือยินยอมจากมารดา หรือถ้าเด็กเดินทางกับมารดาจะต้องมีหนังสือยินยอมจากบิดา (ซึ่งหนังสือยินยอมจะต้องออกจากทางอำเภอเท่านั้น)

    11. ในกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล แล้วถ้าชื่อหรือนามสกุลไม่ตรงกับพาสปอร์ต หรือ เอกสารใด ๆ ที่เรานำไปยื่นก็ให้นำใบเปลี่ยนชื่อ นามสกุลไปด้วยนะครับ แต่ถ้าเอกสารทั้งหมดตรงกับชื่อหรือนามสกุลที่เปลี่ยนทั้งหมดก็ไม่จำเป็นอะไร

    12. ผู้ใหญ่อายุเกิน 70 ปี ควรจะต้องมีใบรับรองแพทย์ จากโรงพยาบาลที่กำหนดไว้ และต้องซื้อใบประกันสุขภาพ (จากบริษัทประกันภัย)

    13. เตรียมตังค์ค่าสมัครไปด้วยครับ 3,000 บาท จ่ายทันทีที่ยื่นครับ หรือ จ่ายด้วยบัตรเครดิตก็ได้ครับ

    14. ไม่ต้องตื่นเต้นมากครับ เพราะว่าวีซ่านิวซีแลนด์ไม่ได้ยากขนาดนั้นครับ ไม่เหมือนวีซ่าอังกฤษ เมกา หรือ เชงเก้นครับ ทำใจสบาย ๆ ครับ เตรียมเอกสารตามที่แจ้งไปให้ครบ ผ่านชัวร์ครับ

    การยื่นเอกสารขอวีซ่า ประเทศนิวซีแลนด์เราสามารถส่งไปทางไปรษณีย์ได้ แต่ผมไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ ถ้าเรามีเวลาก็ขับรถไปซะหน่อย แต่ถ้าเราอยู่ไกล ๆ ต่างจังหวัดก็ไม่เป็นไรครับส่งทางไปรษณีย์แทนได้ครับ เดินทางมาคงไม่สะดวก แต่ถ้าเราไปยื่นด้วยตัวเองบางทีทางเจ้าหน้าที่เค้าดูเอกสารแล้วเค้าต้องการ โน่นเพิ่มนี่เพิ่ม เค้าจะได้แจ้งเราได้ทันที ส่วนเอกสารที่เค้าต้องการเพิ่มเติมก็สามารถแฟกซ์เข้าไปได้เลยครับ ถ้าเรายืนอยู่ตรงหน้าเจ้าหน้าที่ ก็ถามเค้าได้เลยครับว่าเดี๋ยวให้คนแฟกซ์เอกสารเข้ามาเดี๋ยวนี้เลยได้หรือ เปล่า แล้วก็ขอเบอร์แฟกซ์เค้าได้เลย ผมก็ทำแบบนี้เหมือนกัน พอดีเอกสารขาดไป 1 อย่าง เลยโทรให้คนส่งแฟกซ์เพิ่มเติมเข้าไปให้ทันทีน่ะครับ

    ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าจะเป็นประโยชน์ในการยื่น ขอวีซ่านิวซีแลนด์

    - เวลาทำการสถานฑูต จันทร์-ศุกร์ เวลายื่น-รับ เวลายื่น 08.30 น. - 12.00 น. และ เวลารับ 14.00 น. - 15.00 น.
    - ใช้เวลา 5 วันทำการ ( ในช่วงเวลาท่องเที่ยวจะใช้ 7 วันทำการ แต่ถ้าเป็น Group ใช้เวลา 10 วัน เดินทางพร้อมกันเกิน 4 คน สถานทูตมักจะให้ยื่นเป็นกรุ๊ปและใช้เวลา 10 วันทำการ โดยวีซ่าที่ได้มาจะไม่ประทับตราในพาสปอร์ตแต่จะออกเป็นจดหมาย APPROVE ให้ และคณะจำเป็นต้องเดินทางไฟล์ทเดียวกัน เพราะจดหมายจะมีฉบับเดียว )
    - เอกสาร และเวลาที่ใช้ในการยื่นวีซ่า อาจจะไม่เป๊ะ ๆ ตามที่ผมแจ้งก็เป็นได้แล้วแต่กรณีของแต่ละบุคคล แต่ถ้าโดยทั่วไปก็ประมาณนี้ส่วนระยะเวลาการพิจารณาถ้าปกติก็ 5 วัน เค้าจะมีใบนัดรับวีซ่าให้เราหลังจากที่ยื่นเอกสาร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางสถานทูต

    ที่อยู่สถานฑูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย
    EMBASSY OF NEW ZEALAND : สถานฑูตนิวซีแลนด์
    ที่ตั้ง : M Thai Tower, ชั้น 15 ตึก All Seasons Place 87 ถนนวิทยุ ลุมพินี กรุงเทพ
    เบอร์โทร (02) 254 - 2530
    แฟ๊กซ์ : (02) 253 - 9045
    เวลายื่น - รับ : 08.30 น. - 12.00 น.
    และเวลา : 14.00 น. - 15.00 น. <-- แต่พยายามอย่าไปเกินบ่าย 2 ดีกว่าครับ เพราะว่าบางทีคนเยอะ

    เครดิตhttp://www.holidaythai.com/board/topic/675

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×