ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One Boy Three Girls in love รักสี่เศร้า ของหนึ่งเขาและสามเธอ

    ลำดับตอนที่ #2 : ฉันไม่ใช่ผู้หญิง

    • อัปเดตล่าสุด 21 ม.ค. 56


    ตอนที่ 2 ฉันไม่ใช่ผู้หญิง

     

    ไอ้ไนท์โว้ยย ฉันกลับมาแล้ว พร้อมกับขนมแสนอร่อย ฉันเดินเข้าห้องพร้อมกับถุงขนมในมือ หลังจากที่ฉันไปดูหนัง กินข้าว ฟังเพลง สารพัดหลายหลายอย่างที่ไปกับเอมมี่แฟนสาวของฉัน


    "ไอ้ตูน/ตูน" แต่ภาพที่ฉันเห็นหลังจากเปิดประตูทำให้ฉันตะลึงนิดหน่อย แต่ฉันก็คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่เป็นแฟนกัน จะจูบและนอนทับกัน


    "เฮ้ย โทษทีวะ คิดว่าคงมาไม่ถูกจังหวะ" ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ น้อยมากที่จะมีโอกาสเห็นไอ้ไนท์จูบกับผู้หญิง นี่เป็นครั้งแรกตลอดที่ฉันคบกับมันมา 15 ปี มันแปลกมากจนทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

     

    "มันไม่ใช่อย่างที่แกเห็นโว้ย" ทั้งสองคนคงอายมาก ไนท์พยายามอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าฉันเข้ามา

     

    "แหม ไม่เห็นต้องอายเลยไอ้ไนท์ เรื่องธรรมดาวะ" มันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดโดยไอ้ไนท์


    "บอกว่าไม่มีอะไรไงวะ" ไนท์ทำเสียงดุ "ฉันบอกว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่"


    "เออ ไม่ใช่ก็ได้วะ" ท่าทางของไนท์ตอนนี้บังคับให้ฉันต้องเชื่อสิ่งที่เพิ่งอธิบาย  "แต่...หน้าแดงใหญ่เลยนะแอม" ฉันหันไปแซวแอม


    "บอกว่าไม่ใช่แล้วเมิงจะแซวทำไมวะ" ไนท์ดึงถุงขนมที่อยู่ในมือฉันปาลงพื้น "ส่วนเธอ กลับไปได้แล้วแอม"

    "แต่...ข้าว....."


    "บอกให้ไปก็ไป" แอมพูดยังไม่จบประโยค ไนท์ ใช้สายตาจิกไปที่แอม สีหน้าแอมตอนนี้เต็มไปด้วยความงง น้ำใสๆ ตอนนี้คลออยู่ที่เบ้าเตรียมที่จะไหลลงใบหน้าเนียน ก่อนที่หยดน้ำจะไหลลงมา ก่อนที่หยดน้ำที่เอ่อจะไหลอาบแอ้ม เธอเลือกที่จะเดินออกจากสถานการณ์ตึง 


    "เป็นอะไรวะไอ้ไนท์ เออ...ไว้มีสติแล้วค่อยคุยกัน" ฉันเดินเข้าห้องด้วยความงงเช่นเดียวกับแอมที่ต้องวิ่งร้องไห้ออกจากห้องไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะหาเหตุผลอะไรมาอ้างอิงก็ไม่พอที่จะสนับสนุนให้คนอย่างไนท์โมโหขนาดนี้

     
    "ไอ้ตูนเปิดประตูดิ" เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงคนที่เสียสติไปเมื่อครู่ก็มาเคาะประตูห้อง


    "ได้สติแล้วเหรอแก"


    "ขนมอร่อยดีนี่หว่า" คนที่โมโหร้ายเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว ตอนนี้ยืนเคียวขนมอย่างอารมณ์ดี


    "เคลียร์กับแอมยัง" ฉันถามมันเพราะกลัวว่ามันจะไม่รู้จักคิด แล้วปล่อยให้แอมร้องไห้เสียใจอีก

     
    "รีบร้อยวะ"


    "แต่แกเป็นอะไรวะ ทำอย่างนี้กลัวนะโว้ย" ฉันรู้ดีว่าถามไปคงไม่ได้คำตอบจากคนที่ถูกถาม แต่ฉันก็อยากรู้จริงๆ ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ไนท์โมโหขนาดนั้น ฉันยังคงเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจต่อไป และตอนนี้ความสงสัย และความรู้สึกที่ฉันเคยคิดว่าฉันเป็นคนที่รู้จักไนท์ดีที่สุด มันเริ่มกลายเป็นความไม่แน่ใจว่าฉันรู้จักผู้ชายคนนี้ดีเป็นเพราะความสงสัยที่พอกพูนขึ้นทุกวันๆ

     

    @ มหาลัย


    "เมื่อไหร่เมิงจะเลิกเรียกกรูว่าการ์ตูนซะทีวะ"


    "ก็มันชินนี่หน่า ทำไม กลัวเอมมี่ว่าเอารึไง คนนี้รู้สึกว่าจะจริงจังเหลือเกินนิ"


    "ไม่ต้องมาประชดเลย กรูให้เมิงเรียกได้คนเดียวนะโว้ย" แค่เมิงคนเดียวกรูก็อายคนแล้ว แหมสาวมาดแมนอย่างเราไม่เข้ากับชื่อแบบนี้เอาซะเล้ย


    "เออ งั้นแยกกันตรงนี้แหละ กรูเรียนตึก 4 " ไอ้ไนท์บอกฉันเมื่อมาถึงทางแยกประจำของเรา ตึกเรียนของฉันกับไนท์จะอยู่คนละฝั่งซึ่งถูกกั้นด้วยสระมรกต แน่นอนละเพราะเราสองภาควิชาไม่ถูกกัน


    "กรูยังไม่มีเรียนวะ กะไปหอสมุดก่อน แล้วตอนเย็นเจอกันที่หอสมุดนะโว้ย แต่!!!  มึงลืมอะไรไปอย่างรึป่าว" ฉันเตือนอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะลืมบางอย่างที่เราทำด้วยกันประจำก่อนจะแยกกันไปเรียนในแต่ละวัน


    "นึกว่าลืมซะแล้ว กะจะชิ่งไม่ทำ" ไนท์พูดปนหัวเราะ


    "ไม่ทำไม่ได้หรอก เดี๋ยววันนี้มึงไม่ความสุขในการเรียน" ว่าแล้วไนท์ทำท่าแทรกหมัดสุดเท่ ก่อนที่เราจะแยกกันไปเรียนหรือทำอะไรสักอย่างเราต้องทำแทรกหมัด สิ่งนี้แหละที่ลืมไม่ได้ ยิ่งเป็นหนุ่มสุดฮอตอย่างเราสองคนทำมันยิ่งเพิ่มความเท่เข้าไปอีก ไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอกนะ แต่มันเรื่องจริง


    ฉัน กับไนท์เรียนคณะเดียวกันแต่ต่างสาขา ฉันเรียน วศ.อุตสาหการ ส่วนไนท์เรียน วศ.เครื่องกล ตอนนี้เราอยู่ปี 3 แล้ว แน่นอนไนท์เรียนเก่งมาก ซึ่งต่างกับฉันที่เรียนไม่เอาไหน เวลาใกล้จะสอบแบบนี้ไนท์จะต้องติวให้ฉันตลอด เพราะมีบางวิชาที่เราเรียนเหมือนกัน อย่างวันนี้ไนท์ก็ต้องมาติวให้ฉันกับเพื่อนในห้อง 5555+ เมื่อเพื่อนเราเก่งเราก็ต้องแบ่งเพื่อนคนอื่นใช้งานมันด้วย อิอิ

    @หอสมุด


    ##แฟนใครไม่รู้ยิ่งดูยิ่งน่ารัก ขอมองเธอซักพักจะเป็นรัยมัย##


    "ฮัลโหล ใครอะ" ฉันรับสายโดยที่ไม่ได้มองหน้าจอโทรศัพท์ว่าใครโทรมา


    "นี่มี่เองตูน" เอาอีกแล้วน้องมะมี่ของฉันโทรมาทุกครั้งที่เธอว่าง


    "เออมีรัย นี่ไม่มีเรียนเหรอโทรมาเนี้ยะ" ถึงจะรักจะชอบแต่ก็รำคาญจ้าาา


    "ไม่มีแล้ว วันนี้มี่มีเรียนเช้า บ่ายไม่มี"


    "แล้วโทรมามีอะไรรึป่าว" ไม่มีธุระทีหลังอย่าโทร อยากจะพูดต่อเหลือเกิน แต่ขืนพูดไปเจ้าหล่อนต้องวิ่งแจ่นมาที่นี่แน่นอน

    "ตูนกินข้าวรึยังคะ ไปกินข้าวกัน"


    "ยัง แต่เอมมี่ไปกินเฮอะ เรากะอยู่อ่านหนังสือ อีกอย่างมหาลัยเอมมี่กะเราก็ไม่ใช่ว่าจะใกล้กัน ไปกินกับเพื่อนเฮอะ งั้นแค่นี้นะเราอ่านหนังสืออยู่"ฉันบอกปัดไปอย่างรำคาญคนปลายสาย

    "งั้นไม่เป็นไร ตูนตั้งใจอ่านหนังสือละกัน แต่...อย่าอ่านจนลืมกินข้าวละ" น้ำเสียงของปลายสายเปลี่ยนจากเว้าวอนสดใส เป็นน้ำเสียงที่ขุ่นแต่ปราศจากอาการเคืองอย่างเข้าใจคนที่ปฎิเสธ 


    "แค่นี้นะ ทานข้าวให้อร่อยละกัน ตูนวางนะ" ฉันรีบกดตัดสายป้องกันการอ้อน ฉันรู้เจ้าหล่อนต้องให้ฉันไปหาหลังเลิกเรียนแน่ หากฉันห่วงแต่ความรุ้สึกของเจ้าหล่อนฉันต้องโทรไปบอกที่บ้านเตรียมค่าเทอมเพื่อเรียนต่อปี 4 ปี 5 เป็นแน่


    "เฮ้ย แฟนโทรมาเหรอวะ โวว อิจฉาวะ" เข็มเพื่อนผู้หญิงที่นั่งข้างฉันแซว


    "ตูน แกเป็นทอมจริงเหรอวะ" เพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามมือเท้าคางถามอย่างจริงจัง


    "ทำไมวะ ฉันเป็นทอม ชัดเจนปะ ต้องพิสูจน์ปะ" ฉันตอบน้ำเสียงจริงจังเกมเล่น


    "ก็ป่าว แกเป็นทอมก็เท่ดี มากด้วย แต่...ถ้าแกเป็นผู้หญิงฉันว่าคงสวยมาก ดูตา จมูก โดยเฉพาะปาก...." คนที่พูดจ้องมาที่ปากของฉัน สีหน้าแดงระเรื่อเกมแก้มขาวนวลตามประสาลูกชายชายเจ้าของบริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย และสายตานั้นก็สามารถทำให้หน้าฉันร้องผ่าวขึ้นมาได้เหมือนกัน จะวายังไงละก็ฉันเองก็เป็นผู้หญิงนะ


    "เฮ้อ ทั้งสองคนพอเลย แกสองคนจีบกันปะวะเนี้ยหน้านี่แดงเป็นยังกับลูกเบอรี่"


    "ป๊าววว" เสียงประสานของฉันกับคนที่นั่งหน้าแดง และตอนนี้ยังไม่ละสายตาไปจากปากฉัน


    “ไอ้ตูนนะไม่เท่าไหร่นะ เซนตาแกละออกจากปากไอ้ตูนได้แล้วมั้ง ถึงมันจะไม่ได้คิดอะไรกับแกนะ มันก็ต้องมีเขินบ้างละวะ จ้องขนาดนั้น กินเข้าไปเลยดีปะ” คำพูดของเข็มช่วยให้สายตาของไอ้เพื่อนบ้าเซนละความสนใจจากปากของฉันได้

    “ขอบใจวะเข็ม ฉันก็กลัวเหลือเกินว่าไอ้เซนมันจะเอาปากฉันไปกิน” ฉันหันไปขอบใจคนที่ช่วยเหลือ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกะแนะกะแหนคนก่อเรื่อง

    “คุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ” เสียงคนที่เราสามคนกำลังตั้งตาคอบแทรกขึ้น

    “คนมาสายไม่มีสิทธ์รู้วะไอ้ไนท์”

    “เอาเป็นว่าเรามาติวกันเลยดีกว่าไหม”

    เราไม่ยอมเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ เราทั้งสามคนตั้งใจฟังไนท์ซึ่งตอนนี้สวมวิญญาณเป็นอาจารย์สอนเราอยู่ บางอย่างที่ฉันและเพื่อนไม่ใจ และคิดว่ามันเป็นเรื่องยาก ไนท์สามารถอธิบายให้เราเข้าใจ และดูง่ายขึ้นมาทันที และผู้ชายคนนี้ก็กลายเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์เหลือเกิน ถ้าหากว่าไนท์ยังไม่มีแฟน ถ้าหากว่าฉันไม่ใช่เพื่อนสนิท หากว่าฉันเองก็ยังไม่มีแฟน และที่สำคัยหากฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงบริสุทธิ์ธรรมดา ฉันจะมีสิทธ์เป็นผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างไนท์ได้ไหมนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×