ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] SuG 39 Cafe' Fic

    ลำดับตอนที่ #4 : 004 : I wanna be... (Manabu X Shin) [Kagrra]

    • อัปเดตล่าสุด 23 มิ.ย. 53


    * ฟิคนี้พิเศษนิดหน่อยค่ะ เรื่องแรกที่แต่งนอกเหนือจากฟิคซักกุนะคะ

    แปลกนิดหน่อย แต่อ่านไปเหอะ - - 

    .
    ..
    .
    ..

    U’Manabu X Shin

    (Screw & Kaggra)

     

    หลังจากที่พวกเราสมาชิกวงร๊อคญี่ปุ่นชื่อดังในค่าย PSC นามว่าวงสกรู (วงตะปูก็ได้ - - ) ได้มารวมตัวล้อมวงในกันในห้องซ้อมเพื่อสนทนาเรื่องราวต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องวง ดนตรี แนวเพลง แฟนคลับ และเรื่องจิปาถะอื่นๆ

    แต่จู่ๆ ใครสักคนก็พูดขึ้นมาดื้อๆว่า

     

    ตอนนี้พวกนายแอบมีความรักกับใครบ้างหรือเปล่า ^+++^” จิน หัวหน้าวงและมือกลองได้เอ่ยขึ้น ทำเอาผมถึงกลับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ

     

    ถามบ้าอะไรวะเนี่ย ทั้งๆที่คิดอยู่แล้วเชียวว่าไม่น่าจะมีคำถามแบบนี้

     

    มีจนได้

     

    ถามอะไรบ้าๆนายเนี่ย คาสึกิมือกีตาร์ที่คู่กับผมตอบอย่างร้อนตัวยังไงไม่รู้ พร้อมกับหน้าแดงเล็กน้อย

     

    เหรอ.... ฉันไม่ควรถามงั้นเหรอเนี่ย แล้วนายจะหน้าแดงทำไมฮะคัส จินว่า ใช่.... คาสึกิดูท่าทางร้อนตัวแปลกๆ รึว่าจะมีอะไร

     

    แล้วยูโตะล่ะ ???” เบียวนักร้องนำหันไปถามมือเบสที่นั่งใกล้ๆ ยูโตะตอบแบบหน้านิ่งมาก

     

    ฉันไม่ตอบ

     

    งั้นมานาบุล่ะ ??” เบียวหันมาถามผมที่นั่งติดกับคาสึกิอีก นั่นไง โดนผมจนได้ อย่าตอบแบบไอ้หมอนี่นะ พร้อมกับชี้ไปที่ยูโตะที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

     

    ก็....... ตอบว่าไรดีวะ คนเราก็ต้องมีความรักสิ.... ฉันเองก็มีนะ ฉันรักเสียงดนตรี.........

     

    ไม่ใช่เฟ้ยยยยยยยย ไอ้บุ !!!!!” จินตะโกนขึ้นมาเสียงดังทำเอาผมสะดุ้งอีกรอบ ผมตอบผิดคำถามหรือไง ผมว่าผมตอบถูกแล้วนะ 

     

    แล้วที่สำคัญ ใครใช้ให้เรียกผมว่าไอ้บุ คนทั้งโลกมีชื่อเรียกที่แสนน่ารักให้ผมนะ ทุกคนเรียกผมว่า มานะจัง

     

    แกนี่ทำไมถึงได้อินโนเซนต์ขนาดนี้ฟะ =[]=” ยูโตะว่าผมอีกอ่ะ  

     

    ฉันหมายถึงความรักแบบว่า ชายกับหญิง ชายกับชายเฟ้ยยยยยยยย อ๊ากกกกก ฉันจะบ้าตายกับไอ้บุ

     

    ก็ความรักแบบนั้นผมไม่มีนี่หว่า แล้วจะให้ผมตอบว่าอะไร ตอบแบบยูโตะก็ไม่ได้

    แล้วจะให้ฉันตอบว่ารักใครล่ะ ??? พ่อแม่เหรอ รึเพื่อนฝูง ????”

     

    ไอ้...... ปวดหัวเฟ้ยยยยยยยย

     

    ในวงเราไม่มีใครแบบว่า....... รักเพศเดียวกันเลยรึไงวะ ไม่สนุกเลย เบียวเอ่ยขึ้นมาเบาๆ เฮ้ยยยยยยย ถามแบบนี้หมายความว่ายังไงน่ะ อย่าบอกนะว่าเบียวรักผู้ชายยยยยยยยยยยยยย

     

    ไม่เอานะ พวกวิปริตผิดเพศแบบนี้ ผมไม่เอาเป็นเพื่อน ><  

     

    ผมไม่เอา TT

     

     

    ทำไมพวกนั้นถึงชอบพวกเพศเดียวกัน ????  

     

    ผมเดินออกจากห้องซ้อมพลางคิดถึงเรื่องที่พวกนั้นคุยกันหลังจากนั้น ผมหูอื้อไปหมดจับใจความสำคัญไม่ได้เลย พวกนั้นพูดถึงเรื่องวงรุ่นพี่ในค่ายที่ชอบกันเอง ไม่ว่าจะเป็นพวกเสือหง่า โชปอน เรอุ๊ จิทยูท (???) มันน่าสนุกตรงไหนว่าชอบผู้ชายด้วยกันเองนี่

     

    ตัวก็ใหญ่กว่าไม่ก็เท่าๆกัน

     

    เวลาจูบงี้ ทำอะไรกันงี้ น่าขยะแขยงจะตาย - -

     

    ชอบกันเข้าไปได้ไงวะ.....

     

    รึพวกผู้ชายด้วยกันมันจะมีอะไรดึงดูดบางอย่าง - -

     

    สำหรับผม คนในค่ายเดียวกันคงไม่มีแรงดึงดูดผมพอมั้ง (คิดในแง่ดีนะ) อย่างผมน่ะ มันต้องแบบว่า ดูเป็นผู้ใหญ่ๆ นิ่งๆ เฉยๆ แต่จริงๆแล้วคุยสนุกสนานบ้าๆบอๆ มีมั้ยเนี่ย - -   

     

    ผมมองไปข้างหน้าเรื่อยๆ แต่แล้วผมก็รู้สึกว่าตัวเองเดินสวนใครสักคน

     

    ใครสักคนที่ผมคิดว่าตรงตามที่กล่าวไว้ข้างบนพอดีเลย

     

    ว่าไง..... มานะจัง..... เดินผ่านไม่ทักเลยนะ คนๆนั้นหันหลังกลับมาทักผมที่เกือบจะทำผิดมารยาทซะแล้ว ให้ตายจริงผมนี่

     

    โทษทีครับ.... เหม่อไปหน่อย แหะๆ

     

    ไม่เป็นไรๆ คราวหลังมองๆบ้างล่ะ เดี๋ยวพวกผู้ใหญ่จะโกรธเอานะชินซังมือกีตาร์วงคางุระว่าพร้อมกับใช้มือขยี้หัวผมเล็กน้อยอย่างเอ็นดู แย่จังเลยแฮะ พอโดนผู้ใหญ่ว่าแบบนี้

     

    แต่ผมกลับรู้สึกอะไรบางอย่างนะ รู้สึกว่ามือที่ชินซังขยี้หัวผมมันอบอุ่น.......

     

    ทำเอาใจผมที่เต้นตามจังหวะปกติเต้นผิดปกติไปจนทำให้รู้สึกได้

     

    ความรู้สึกแบบนี้....

     

    อย่าบอกเชียวนะว่า.....

     

     

    ดีครับชินซัง ^^” ผมทักทายผู้ชายที่อายุมากกว่าผมที่แสนจะคุ้นเคยทันทีที่เข้าไปในห้องซ้อมของวงคางุระ นี่เป็นวันที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ผมชอบแอบเอาเวลาว่างๆแวบมาห้องซ้อมของวงรุ่นพี่แบบนี้ จนเพื่อนๆร่วมวงของผมเริ่มบ่น วงคางุระเป็นวงรุ่นพี่ที่ผมนับถือจริงๆนี่นา แล้วชินซังก็เป็นมือกีตาร์ที่ผมต้องการคำปรึกษาอะไรบางเรื่องด้วย

     

    เห็นห้องซ้อมฉันเป็นบ้านหลังที่สองรึไง มาบ่อยเชียว ชินซังแกล้งแซวผมเล่นๆ แน่นอนสิ ผมเห็นที่นี่เป็นบ้านผมไปแล้ว บ้านที่แสนจะอบอุ่นเสียด้วย

     

    ฉันก็เห็นนายเหมือนลูกไปแล้วด้วย 555555+ อาคิยะซังหัวเราะขึ้นมาเสียงอย่างดังทำเอาผมต้องหันความสนใจไปมอง

     

    คราวนี้มีเรื่องอะไรล่ะ ชินซังว่า เพราะผมมักจะหาข้ออ้างในการมาหาเขาแบบนี้อยู่เสมอ จริงสิ คราวนี้เป็นเรื่องอะไรดี

     

    แนวดนตรีเหรอ เรื่องนั้นเอาไปแล้วนี่นา

     

    ไม่เข้าใจเนื้อเพลงเหรอ นั่นน่ะนานโขแล้วนะ

     

    เล่นดนตรีแบบไหนดี นั่นน่ะ ก็เอาไปหลายครั้งแล้วนี่

     

    งั้นข้ออ้างคราวนี้จะเป็นอะไรดี ???

     

    กีตาร์ครับ..... ชินซังดูให้ผมหน่อยสิ สายมันผมว่าแปลกๆ โชคดีที่แบกกีตาร์ตัวโปรดมาด้วย ก็จัดการใช้ให้มันเป็นประโยชน์ซะเลย

     

    ผมเข้าไปนั่งใกล้ๆชินซังที่นั่งซ้อมเพลงอยู่กลางห้องทันทีแบบเคยชิน ก่อนที่จะเอากีตาร์ที่ผมเอามาให้เขาดูสาย แน่นอนว่าตัวนี้ผมตั้งใจว่าถ้าออกไปแล้วจะไปเปลี่ยนสาย แต่ก่อนหน้านั้น จับให้มันเป็นประโยชน์ซะเลย

    อ้อๆ ได้สิๆ..... นายนี่เป็นกีตาร์แท้ๆนะ เขาพูดพร้อมกับยิ้มนิดๆให้ผม ทำเอาหัวใจผมเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะเลย

     

    ผมพอรุ้นะว่ามันไม่สมควรเท่าไหร่ที่ผมจะมารู้สึกแบบนี้กับคนที่อายุมากกว่า มากๆเลย

     

    แต่ผมรู้สึกไปแล้ว

     

    รู้สึกไปแล้วว่ารัก

     

    ถึงจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

     

    มันคือความรักของผม

     

    มือกีตาร์แต่แก้ปัญหาเองไม่เป็นนี่แย่ชะมัด อาคิยะซังพูดจาเหมือนแดกดันผมเหมือนเคย ไม่รู้ผมรู้สึกไปเองคนเดียวรึเปล่านะ ผมรู้สึกว่าเขาไม่ชอบผม คอยขัดขวางผมตลอด ท่าทางเขาไม่แสดงออก แต่ผมรู้สึกว่ามันใช่

     

    เหมือนเขาจะรู้ว่าผมชอบชินซัง

     

    ชินไปข้างนอกเป็นเพื่อนหน่อยสิ...... แล้วอาคิยะซังก็พูดขึ้นมาอีก เป็นแบบเดิมที่ผมเจอเป็นปกติ บอกแล้ว เขาขัดขวางผมตลอดอ่ะ

     

    นายไม่เห็นรึไง ฉันอยู่กับมานะจังอยู่นะ ชินซังเขาเข้าข้างผม

     

    โหย...... ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ ฉันพึ่งนายได้คนเดียวนะ ???”

     

    อะไรวะ

     

    อาไรนะนั่นน่ะ อาคิยะซังจะชวนชินซังไปข้างนอก

     

    แล้วผมล่ะ

     

    แกล้งกันได้ดีนักนะ

     

    น่านะ ชินไปเหอะ เขาไม่มัวพูดพร่ำทำเพลง ดึงแขนชินซังให้ลุกขึ้นและดึกออกนอกห้องทิ้งผมเอาไว้คนเดียวในห้อง

     

    =[]=

     

    TT

     

    จะเอาชินซังของผมไปไหน

     

    ดูสิ โอบไหล่กันออกไปเชียว เห็นแล้วรู้สึกอิจฉาชะมัด

     

    ผมพอเดาออกว่าทั้งคู่ต้องไม่ใช่เพื่อนธรรมดากันแน่ๆ

     

    ต้องมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่แน่

     

    แล้วผม ทั้งๆที่รู้ก็ยังจะตามไปกวนใจชินซังอีก ผมนี่มันแย่จริงๆ ที่ดันไปชอบขัดขวางคนสองคนที่กำลังคบๆกันอยู่ แย่จริงๆเลยล่ะ

     

    แต่ผมก็ยัง....

     

    แต่อยากเป็นคนคุณคอยให้ความสนใจบ้าง

     

    ก็เพียงเท่านั้น

     

    ชินซัง..... ผมพูดชื่อชินซังออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกสับสนในใจ ผมยังไม่ทันที่จะได้บอกเรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้แล้วแท้ๆ พรุ่งนี้วันที่ 23 มิถุนายน วันที่สำคัญมากของผม

     

    และผมอยากให้เป็นวันที่สำคัญสำหรับเขาด้วยเหมือนกัน

     

    วันเกิดของผม....

     

     

    เมื่อวานไม่ทันได้บอก

     

    แต่วันนี้เตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว

     

    จะต้องบอกให้ได้

     

    อย่างน้อยผมก็อยากให้เขาอวยพร สักนิดให้กับผม

     

    ไม่ต้องให้ถึงกับเป็นคนสำคัญ แค่อยากให้ผมอยู่ในสายตาเขาเท่านั้น

     

    ผมเดินเข้าไปยังห้องซ้อมของคางุระตามปกติ เพื่อที่จะไปทักทายกับชินซังในนั้นเหมือนเคย

    แต่แล้ว.....

     

    ผมก็เห็นเงาอะไรบางอย่าง......

     

    เงาเหมือนคนสองคนกำลังกอดกัน ในห้อง......

     

    ผมพยายามมองออกไป ภาวนาในใจว่าอย่าให้ใช่ คนๆนั้นที่ผมคอยมองเขาอยู่ตลอด.....

     

    แต่สิ่งที่ผมนึกเอาไว้.....

     

    อาคิยะซังกำลังกอดกันชินซังในห้องนั้น.......

     

    หัวใจของผม ความรู้สึกที่ผมพกมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม หัวใจที่เต็มไปด้วยความหวังตั้งแต่น้อยนิด จนไปถึงมากมายไม่อาจบรรยายได้

     

    มันหายไปในพริบตาเดียว

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    ผมออกจากบริษัทไปนั่งดื่มเหล้าในคลับเพียงคนเดียว เสียเวลาที่ผมขออนุญาตเจ้าเพื่อนๆของผมว่าวันเกิดอยากทำอะไรให้ตัวเองเพียงคนเดียวบ้าง เพราะพวกผมไปฉลองกันตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว จินต้องรีบกลับไปบ้านเก่าเพราะมีปัญหาอะไรบางอย่างในครอบครัว ทำให้ไม่มีเวลาฉลองตอนเย็น

     

    ทั้งๆที่ผมตั้งใจที่จะทำให้ชินซังอวยพรอะไรเล็กๆน้อยให้ผม ให้ผมได้นอนหลับสบาย ในวันเกิดของผมบ้าง เป็นของขวัญให้ตัวเอง

     

    แต่มันกลับกลายเป็นว่า......

     

    ผมผิดเองใช่มั้ยที่ไปชอบเขา ผมผิดใช่มั้ยที่ไปรักเขา......

     

    ทุกอย่าง..... ผมสร้างมันขึ้นมาเอง

     

    และผมก็ต้องเสียใจเอง

     

    แล้วผมมานั่งดื่มเหล้าคนเดียวเพื่ออะไร

     

    ทั้งๆที่รู้ว่าทำไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา........

     

    ที่ผมต้องเสียเพราะผมทำตัวเองแท้ๆ ไม่ได้มีใครมาทำผมซะหน่อย

     

    ทั้งๆที่คิดอยู่แล้วว่าชินซังต้องคบกับอาคิยะซังแต่ก็ยัง..........................

     

    ความรู้สึกนี้มันจะเกิดขึ้นก็ไม่แปลก..........

     

    ................

     

    ผมพยายามหาอะไรบางอย่างที่มันน่าจะติดกับตัว พอรู้สึกได้ว่าผมลืมอะไรบางอย่าง

     

    ลืมจริงๆด้วย

     

    ตายจริง

     

    ต้องรีบกลับไปเอา.....

     

     

    ที่นี่ที่ไหน......

     

    มึนหัวไปหมดเลย..........

     

    อะไรเนี่ยห้องซ้อมอะไรอ่านว่าสกรูๆ........

     

    ดื่มหนักแล้วล่ะมั้งเรานี่ - -

     

    จำได้ว่าที่เริ่มรู้สึกตัวว่ามีสติเป็นครั้งสุดท้ายคือ ลืมกุญแจห้องเอาไว้ที่ห้องซ้อม จากนั้นก็เลยรีบเดินกลับมาที่บริษัท ซัดไปหลายแก้ว เลยเบลอ.....

     

    ไม่ดีเลยแฮะ วันเกิดแท้ๆนะ

     

    แต่ดันอกหักซะได้.....

     

    แล้ว...... ประตูทางออกอยู่ไหนล่ะเนี่ย ?????

     

    ในสายตาของผมตอนนี้ ทุกอย่างเหมือนถูกระบายด้วยสีน้ำ มองอะไรไม่ชัดเลย

     

    กรรมของผมล่ะ.....

     

    ทำไงดีวะเนี่ย......

     

    อะไรเป็นอะไรมั่งก็ไม่รู้........

     

    อ้าว..... มานะจังยังไม่กลับอีกเหรอ ดึกแล้วนะ เสียงของใครบางคนที่แสนคุ้นหูดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทำเอาสติที่มันหายไปของผมเริ่มกลับมาแล้วนิดนึง

     

    ผมหันไปตามเสียงนั่น

     

    เห็นหน้าใครสักคนลางๆ แต่ถึงจะเห็นหน้าไม่ค่อยชัด ผมก็จำได้ขึ้นใจว่าเป็นใคร

     

    ชินซาง ผมเรียกชื่อเขาด้วยสติที่เลือนรางเต็มทน..... ให้ตายสิ ตามันจะหลับให้ได้ แขนขาอ่อนแรงไปหมด

     

    ทำไมมีกลิ่นเหล้าหึ่งเลยล่ะ นี่นายดื่มมารึไง เขาทำน้ำเสียงเหมือนดุผมนิดๆ อะไรกันเนี่ย ดวงไม่ดีซะเลยนะ ทั้งๆที่เป็นวันเกิดผมแท้ๆ 

     

    วันนี้วันเกิดนายใช่มั้ย..... จริงสิ ฉันยังไม่ได้อวยพรให้นายเลยนะ จู่ๆก็เหมือนพลังงานของผมหมดลง จนแทบไม่มีแรง ผมล้มลงแล้วไปโดนชินซัง จนล้มทับไปทั้งคู่ 

     

    ผมในตอนนี้อยู่ในสภาพคล่อมตัวชินซังอยู่.....

     

    นายเป็นอะไรรึเปล่ามานะจัง..... ทำไมเหมือนไม่มีแรงเลยล่ะ ชินซังมองหน้าผมอย่างสงสัย + ห่วงนิดๆ โอเคผมรู้ว่าคุณห่วงผม ในฐานะอะไรไม่รู้ แต่...... อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้นสิ

     

    เดี๋ยวความรู้สึกที่มันเพิ่งเปลี่ยนไปมันจะกลายเป็นเหมือนเดิมนะ ถึงตอนนั้นมันจะทรมานมากเลย

     

    มานะจัง........ น้ำเสียงที่เหมือนจะห่วงใยผมอีก.... ได้โปรดเถอะ อย่าทำแบบนั้นกับผมเลย

     

    เป็นอะไรมารึเปล่า.....ไหวมั้ย ท่าทางเขาเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของผมเท่าไหร่ ผมไม่อยากมองหน้าเขาในตอนนี้เลย มันทำให้ตัวผมเองรู้สึกเจ็บปวด

     

    ได้โปรดเถอะ....

     

    ชินซัง.......

     

    “!!!!!!!!” ทุกอย่างเงียบขึ้นทันทีที่ผมโผตัวเข้าไปประกบปากของชินซัง ก่อนที่ตัวผมจะถูกแรงของเขาผลักออกมา......

     

    .......... ผมมองหน้าเขาอย่างงงๆเล็กน้อย นี่ผมทำอะไรลงไป..... ใจของผมสั่งอีกอยาก แต่เอาเข้าจริงทำอีกอย่างงั้นเหรอ ???

     

    ท่าทางชินซังเขาโกรธผมมากๆเลยด้วย

     

    นายทำอะไรของนายน่ะ !!” ชินซังขึ้นเสียงใส่ผมอย่างดัง ทำเอาผมตกใจ ฉันเป็นผู้ใหญ่นะ อย่าล้อเล่นแบบนี้สิ

     

    ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำ ที่ผมรู้สึกทั้งหมดมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ  ผมไม่ได้ทำเล่นๆ

     

    นายจะสื่ออะไร...... นายจูบฉัน แล้วบอกว่านายไม่ได้ล้อเล่นงั้นเหรอ

     

    ผมรู้ว่าผมไม่ควรทำแบบนั้นกับคุณ...... ผมขอโทษ...... คุณเป็นผู้ใหญ่กว่าผม ผมไม่ควรที่จะทำยังงั้นกับคุณ ผมพยายามพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนสำนึกผิด แต่ดูแล้วเหมือนเขาไม่ให้อภัยผมง่ายๆ

     

    ใช่..... ฉันโตกว่านาย ฉันเป็นใหญ่แล้ว ฉันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่นายน่ะยังเด็ก..... เด็กก็ต้องอยู่ส่วนเด็ก ผมไม่ใช่เด็กนะ ผมอายุ 20 กว่าแล้ว ผมโตแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเองด้วย

     

    ผมโตแล้ว สิ่งที่ผมทำผมรู้ทุกอย่างว่ามันคืออะไร

     

    ฉันจะบอกว่านายเลิกคิดแบบที่นายกำลังคิดอยู่เถอะ...... แล้วกลับไปหาชีวิตของนาย..... เราสองคนน่ะ ควรที่จะอยู่ในส่วนของใครของมันมากกว่า ชินซังลุกขึ้น ก่อนที่จะเดินจากไป ไม่คิดที่จะอวยพรวันเกิดให้ผมสักคำ

     

    ผมรู้ว่าที่ผมทำมันคืออะไร

     

    ผมยังเด็ก ความรู้สึกที่ผมรับรู้ได้ ผมพร้อมที่จะแสดงความรู้สึกนั้นออกมาเสมอ

     

    และผมก็โตพอแล้วที่จะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ผมไม่ควรที่จะไปรักผู้ชายที่อายุมากกว่าคราวลุงอย่างนั้น และผมก็รู้ว่าผลที่ออกมาก็คือผมต้องสละความรู้สึกรักนั่นทิ้งไปในท้ายที่สุด

     

    ผมเข้าใจหมดทุกอย่าง

     

    มีแต่ผู้ใหญ่แบบคุณนี่แหละ ที่ไม่เข้าใจอะไรเลย

     

    ไม่เข้าใจแม้แต่ความรู้สึกของตัวเอง.....

     

    To be Con......


    *สุดท้ายนี้ ฟิคตอนต่ออาจจะนานหน่อยนะคะ ยังไงก้รอด้วย

    HBD มานะจัง ณ สกรู

    ขอให้มีความสุขนะคะ


    ปล. ทำไมเดี๋ยวนี้มีแต่ฟิควันเกิด - - 
    ปล2. วันเกิดแต่ละคนไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×