ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic][SuG] The Heart Door (Yaoi) (Chiyu X Shinpei)

    ลำดับตอนที่ #15 : SF Special 001 : Alone (Yuji X Masato)

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 55


    Alone      (The Heart Door Special SF)

    (Yuji X Masato)

     

    By PapikoVoice

     

     

     

    คงไม่มีอะไรแย่กว่านี้อีกแล้ว…....

     

    เพื่อน...... ก็ถูกทิ้ง...

     

    แฟน..... ก็บอกเลิก

     

    ครอบครัว....... ก็ไม่เข้าใจกัน

     

    ในเวลานี้ คนที่จะพอพึ่งได้..... คงมีแต่ตัวเขาคนเดียว.......

     

    ชายหนุ่มอายุ 16 คนหนึ่งเดินถือแฮมเบอร์เกอร์ที่ยังไม่ได้ถูกแกะออกจากห่อท่ามกลางสวนสาธารณะแห่งหนึ่งอย่างโดดเดี่ยว อากาศที่ร่มรื่นและเสียงเพลงเบาๆ กลับไม่ได้ช่วยทำให้เขาสดชื่นขึ้นมาเลย เพราะปัญหาต่างๆที่รุมเร้าเข้ามา....

     

    จะทำยังไงดีนะ.....

     

    เฮ้อ....... สุดท้ายก็ต้องมากินเบอร์เกอร์คนเดียวสินะเนี่ย.... แย่ที่สุดเลยเขาบ่นอุบอิบ ในขณะที่กำลังแกะห่อกระดาษสีขาวที่ห่อหุ้มเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่อยู่ข้างใน

     

    เขาค่อยๆแกะมันออกมาทีละน้อย ก่อนที่จะยัดมันเข้าไปในปาก

     

    หมับ..........

     

    แต่แล้ว....เขาก้รู้สึกว่าเบอร์เกอร์ที่มันอยู่ในมือนั้น ได้หลุดลอยหายไป..... โดยใครสักคนที่วิ่งผ่านมา และฉวยมันผ่านไป

     

    แค่เบอร์เกอร์เนี่ยนะ.......

     

    เฮ้ !!!! นายหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ !!!!” สิ่งที่เขานึกได้ตอนนี้ก็คือวิ่งไล่ตามคนๆนั้นไปให้เร็วที่สุด เบอร์เกอร์ชิ้นเดียว ราคาไม่เท่าไหร่ มันไม่ได้สำคัญมากนักหรอก แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องวิ่งเพื่อเอามันกลับคืนมาก็เพราะ....

     

    เขาไม่มีเงินจะซื้อข้าวกินแล้วน่ะสิ –‘

     

    บ้าที่สุดเลย..... หยุดเดี๋ยวนี้นะ.......” เขาพยามยามวิ่งตามสุดความสามารถ ทั้งๆที่ขาก็ไม่ได้ยาว สูงก็ไม่ได้สูง อีกฝ่ายเอง รู้สึกจะไม่ได้ต่างกัน

     

    ใกล้จะถึงตัวแล้ว.........

     

    หมับ.......

     

    เขาจับคอเสื้อหัวขโมยเอาไว้ได้......... และพยายามที่จะรั้งเอาไว้ไม่ให้ไปไหน..... ไม่ยอมหรอก......... เบอร์เกอร์ชิ้นนั้น..... ต้องได้กิน......

     

    เอาคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ !!!!” เขาพยายามพูดเสียงดังให้ทุกคนได้ยิน ก่อนที่จะได้เห็นหน้าหัวขโมยคนนั้น...... ที่ท่าทางดูสำนึกผิดนิดๆ

     

    อืม..... ไอ้นี่.......” มีเสียงเล็ดลอดออกมาเล็กน้อย....... หัวขโมยคนนั้นหันมาเผชิญความจริงกับเขาอย่างกล้าหาญ ฉันขอได้มั้ย...... ฉันไม่มีเงินซื้อข้าว

     

    เขาเห็นหน้าหัวขโมยคนนั้นแล้ว ถึงกลับอึ้งไปหน่อย เป็นผู้ชายตัวไม่ได้สูงต่างจากเขาเท่าไหร่หรอก แต่ดูตัวใหญ่กว่า มีผมสีบลอนๆ ท่าทางก็แต่งตัวดี แต่ทำแววตาน่าสงสารเหมือนลูกหมาขอข้าว –‘

     

    หา...... ฉันเอง..... ก็ไม่มีเหมือนกันเขาพูดออกไปตามความเป็นจริง หัวขโมยคนนั้นถึงกับหงอยลงไปเลยทีเดียว ท่าทางแบบนี้ ก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกสงสาร ถ้าจะให้ไป แล้วเขาล่ะ ??? 

     

    จะกลับไปที่บ้านเอาเงินตอนนี้รับรองได้ถูกสากกะเบือ ไม่ก็ตะหลิวลอยมาต้อนรับแน่

     

    ฮือๆ.... งั้น..... ฉันจะไปเอาใหม่ก็ได้....” หัวขโมยจิตใจดีคืนเบอร์เกอร์ชิ้นนั้นให้ แล้วก็ทำท่าจะเดินจากไป.......

     

    เดี๋ยวสิ....” ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป ต้องรีบหยุดยั้งไว้ซะก่อน เขารีบคว้ามือหัวขโมยคนนั้นเอาไว้ เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ขนาดนี้..... กินไม่หมดหรอกยังไงก็โกหก แบ่งกันคนละครึ่งก็ได้

     

    จริงเหรอ......” อีกฝ่ายตาโตขึ้นมาทันที

     

    อืม......”

     

     

    ฉันชื่อ.....มาซาโตะ....นายล่ะเขาถามขึ้นทันทีที่หาที่นั่งในสวนสาธารณะได้แล้ว เป็นม้านั่งสีน้ำตาลเล็กๆดูคลาสสิก แล้วก็จัดการแบ่งเบอร์เกอร์ให้คนละครึ่ง.... เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่อยู่ แต่แบ่งครึ่ง ดูก็รู้ว่าคงไม่อิ่มแน่ๆ

     

    ฉัน..... เรียกฉันว่าชีทเค้กดีกว่า >< เบอร์เกอร์อร่อยมาเลย ขอบคุณนะหา..... มีสั่งให้เรียกแบบนี้อีก.... สงสัยจะไม่อยากบอกชื่อจริงๆ

     

    ทำไมนายถึง....ไม่มีเงินล่ะ

     

    นายเองก็เหมือนกันแหละน่ะ..... มันมีย้อนถาม.......

     

    ฉัน.....ไม่กล้ากลับบ้านน่ะ..... ที่บ้านมีเรื่องกันไหนๆก็ไหนๆแล้ว จะบอกความจริงไปรึจะโกหกก็คงมีค่าเท่ากัน เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องบอกอะไรให้กับคนแปลกหน้าฟัง

     

    ฮะฮะ....ฉันเองก็ไม่ต่างจากนายหรอกอีกฝ่ายพูด ทำเอาเขาถึงกลับต้องให้ความสนใจกับคนแปลกหน้าคนนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าท่ามกลางความรู้สึกที่สับสนแบบนี้ เขาที่เดินเตรดเตร่นอกบ้านอยู่คนเดียวเพราะไม่อยากกลับไป กลับต้องมาเจอคนๆหนึ่งซึ่งกำลังประสบชีวิตแบบเดียวกัน

    ก็คงเข้าใจสินะ.....

     

    ไหนๆก็ไหนๆแล้ว นายจะไปที่ไหนต่อล่ะอีกฝ่ายถาม นั่นสิ..... ไม่ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะไปที่ไหน แค่คิดว่าออกจากบ้านมาได้แล้วก็เป็นพอ....

     

    ไม่รู้สิ..... นายจะไปไหนล่ะมาซาโตะตอบ เผื่ออีกฝ่ายจะมีเป้าหมายไปไหน แล้วเขาอาจจะไปเจออะไรดีๆบ้างก็ได้

     

    ไปเรื่อยๆแหละ.....” ตอบอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางมาก แต่ก่อนอื่น.......หาอะไรกินก่อนเถอะ

     

    “.............”

     

     

    เพียงกดปุ่มไม่กี่ปุ่ม..... กระดาษพิเศษ 2 – 3 ใบก็ออกมาจากตู้ ATM ในแหล่งการค้าแห่งหนึ่ง จากที่ไม่มีเงิน มาซาโตะนึกได้ว่าเขาติดบัตร ATM มาในกระเป๋าด้วย แต่ไม่ทันได้คิด เพราะเงินที่ถูกเก็บไว้ในธนาคาร เขาตั้งใจที่จะเก็บเอาไว้ แต่นึกๆดูแล้ว มันคงไม่มีประโยชน์

     

    มีเงินก็ไม่บอกตั้งแต่แรกนะ นึกว่าจนกันจริงๆซะอีกอีกฝ่ายว่า

     

    “...พอดีเงินพวกนี้ตั้งใจจะเก็บไว้ซื้อกีตาร์ตัวใหม่น่ะมาซาโตะตอบไปอย่างไม่ปิดบัง สีหน้าของเขาดูเหมือนเสียดายเล็กน้อยที่ต้องเอามันออกมาก่อน อีกฝ่ายก็พอเดาออกได้ว่า เงินพวกนี้คงเก็บเอาไว้มานานมากแล้ว แต่มันคงไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ

     

    เห...... ทำไมล่ะ

     

    ก็.....ทางบ้านฉัน.....เขาไม่ให้ฉันเล่นกีตาร์อีกแล้วน่ะสิเขาบอกอย่างไม่ปิดบังอีก แปลกนะ เรื่องทางบ้านที่เขาแทบไม่อยากพูดกับใคร แต่ทำไมกับคนแปลกหน้าคนนี้เขาจึงบอกไปได้ ทั้งๆที่แค่นึกถึงก็ไม่อยากจะนึกถึงแท้ๆ เหตุการณ์ล่าสุดตอนที่อยู่ในบ้าน ครอบครัวทะเลาะกันเพียงแค่ผลการเรียนเขาตกลง เพียงเพราะเวลาส่วนใหญ่ เขาทุ่มเท่ให้กับการเล่นกีตาร์ ทั้งๆที่นั่นเป็นสิ่งที่เขารักแท้ๆ

     

    ท่าทางแบบนี้..... นายรักมันมากใช่มั้ยล่ะอีกฝ่ายถามซึ่งก็ตรงกับความเป็นจริง มาซาโตะถึงกลับหน้านิ่ง ใช่ เพราะเขารักมัน เวลามีเรื่องอะไร การจับกีตาร์จะเป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจเบิกบานได้ อย่างนี้นายก็ยังตัดใจไม่ได้ง่ายๆหรอก

     

    “............”

     

    ฉันเองก็เล่นดนตรีอยู่ ฉันเข้าใจ การเล่นดนตรีหรือทำอะไรหลายๆอย่าง มันอาจทำให้ผลการเรียนตกลง ฉันเจอประจำแหละ ฉันพอเข้าใจว่าพ่อแม่นายอยากให้นายได้ดี... แต่การทำแบบนี้มันก็ไม่ถูกนะ.... ถ้ากีตาร์เป็นสิ่งที่นายรัก การที่ตัดนายกับมันออกไป มันจะทำให้นายทรมานเปล่าๆ

     

    นั่นสินะ...... ฉันไม่รู้จะทำยังไง...ก็เลยออกมาเดินเล่นนอกบ้านแบบนี้น่ะนับเงินที่กดออกมาไปพลางๆ จำนวนเยอะน่าดูเหมือนกัน

     

    ง่ายๆอีกฝ่ายพูดอย่างร่าเริง....... “ไปเที่ยวกันเหอะก่อนที่จะจับมือมาซาโตะแล้วพากันเดินไปที่ไหนสักทีนึง...

     

     

    ทั้งคู่เดินผ่านสถานที่แห่งหนึ่ง มันใหญ่กว้างมาก มันเป็นโรงเรียน ที่ติดอันดับแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

     

    ฉันกะจะสอบเข้าโรงเรียนนี้ล่ะมาซาโตะว่าพร้อมกับชี้นิ้วไปที่อาคารใหญ่ๆที่อยู่ตรงหน้า แต่ท่าทางของเขาก็ดูมีกังวลอยู่ ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า

     

    โรงเรียนใหญ่ดีนะ..... นายจะเข้าม.ปลายล่ะสิอีกฝ่ายว่า ทำให้รู้อะไรบางอย่างมากขึ้น งั้นนายก็อยู่รุ่นเดียวกับฉันล่ะ

     

    หือ..... นายก็จะเข้าม.ปลายเหมือนกันเหรอมาซาโตะถามด้วยความสงสัย นึกมาตลอดว่าคนๆนี้จะอายุน้อยกว่าแท้ๆ แต่กลับเป็นรุ่นเดียวกัน

     

    อืม..... แต่ฉันคงไม่หวังโรงเรียนใหญ่โตแบบนี้หรอก ฉันเป็นเด็กเกเรน่ะ แหะๆท่าทางไม่เห็นจะบอกแบบนั้นเลยแหะ เด็กเกเรในมุมมองของมาซาโตะเป็นเด็กที่ชกพวกตีกัน แล้วก็โดดเรียน ไม่มีมารยาท ไม่เห็นจะมีหน่อมแน้มแบบอีตานี่บ้างเลย ==’

     

       

    ขอบคุณที่เลี้ยงนะมาซาโตะคุงพวกเขาก้าวออกมาจากมินิมาร์ทแห่งหนึ่งพร้อมกับไส้กรอกในถุงพลาสติกคนละถุง น้ำอีกคนละแก้ว ไม่ต้องสงสัยว่าใครเป็นคนจ่าย

     

    แบ่งแฮมเบอร์เกอร์ แล้วก็ยังเลี้ยงไส้กรอกฮอตดอกอีก น้ำอีก ไว้ใจได้รึเปล่านะคนๆนี้ ชื่อเสียงก็ไม่ยอมบอกซะด้วยสิ (แต่บอกให้เรียกชีทเค้ก ==;) 

     

    อร่อยจริงเล้ยยยยย ^O^” ท่าทางดีใจเหมือนเด็กๆเลย ให้ตายสิ...... อย่าบอกเชียวนะว่าวันนี้จะเป็นวันจ่ายเงินน่ะ ==’

     

    อืมๆ

     

    นี่มาซาโตะลองกินดูมะ....ฮอตดอกไก่อร่อยน้า~~~~” ถึงจะซื้อฮอตดอกเหมือนกันแต่ซื้อคนละอย่างกัน

     

    ไม่ดีกว่าปฏิเสธตามแบบฉบับยุ่น ==;

     

    นานะ....กินเหอะ เดี๋ยวฉันป้อนนั่น มีตื้อ ก็ได้..... “อ้าปากนะ” (ทำตาม) “อ้ำ ^^”

     

    ทำเหมือนเด็กไม่รู้จักโตไปได้ ==;

     

    อร่อยมั้ยมาซาโตะอีกฝ่ายถาม......

     

    ร้อน…… แต่อร่อยดีมาซาโตะว่า ทั้งๆที่ใจจริง อายอยู่นิดๆที่โตจนป่านนี้แต่ยังเล่นป้อนข้าวป้อนขนมกันอยู่อีก

     

    “5555+” อีกฝ่ายหัวเราะ งั้นก็ไปเที่ยวกันต่อเหอะ ^^”

     

    เที่ยว..........

     

     

    โอ้เอชะมัดเลยนายนี่เสียงอีกฝ่ายบ่นๆๆๆๆๆๆไปตลอดทางที่รถแข่งในตู้เกมส์สีน้ำเงินวิ่งแซงรถสีแดงไปอย่างลิบลิ่ว รถสีแดงพยายามตามให้ทันแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นมือใหม่ ทำให้ตามไม่ทันสีน้ำเงินซึ่งดูยังไงก็มืออาชีพชัดๆ

     

    นายแหละจะเร็วไปไหน.....” มาซาโตะพูดไปมือก็ยังบังคับที่บังคับรถในเกมส์ไป ให้ตาย โผล่มาก็บอกอยากเล่นเกมส์ตู้ปาจิงโกะขึ้นมาเลยเชียว ==;

     

    ฉันจะชนะแล้วนะ

     

    ชนะไปเหอะมาซาโตะพูดอย่างตัดใจตั้งแต่เริ่มเกมส์ ก็เขาไม่เคยเล่นเกมส์จริงจังกับใครแบบนี้มาก่อน พอเริ่มเกมส์ปุ๊บแววแพ้ก็เริ่มลอยมา

     

    ตู้เกมส์ขึ้นตัวอักษรสีเขียวเบอเริ่มว่า “The Winner” พร้อมกับรูปรถสีน้ำเงิน

     

    เย้ !!!! ชนะแล้วววววววว !!!!!!!!”

     

    “==’”

     

     

     

    ทางขวาหน่อย ทางขวา ขว๊า~~~~~~” เสียงลุ้นที่ดังขึ้นมาทำเอามาซาโตะถึงกับอายคนทั่วทั้งบริเวณนั้น ให้ตายสิ ทำไมไม่มาจับเองเล่าตุ๊กตาน่ะ

     

    ต่อจากตู้เกมส์ปาจิงโกะ ก็คือตุ๊กตาในตู้ โดยที่อีกฝ่ายบอกว่าอยากได้ตุ๊กตามาเมะชิบะ (แม่ : ฟิคผิดเรื่องรึเปล่าหนู ==’) แต่เนื่องจากมาซาโตะเป็นคนจ่ายเงิน ก็เลยต้องเล่นเอง

     

    ให้ตายเหอะ ไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย

     

    ขวาอีกนิดดิ ขวาๆๆๆๆๆ ให้ตาย นายนี่มันห่วยจริงๆพอเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ไหว (จะเครีย) แล้วอีกฝ่ายก็เริ่มเข้ามาเป็นฝ่ายบังคับเครื่องบ้าง โดยที่เขาคุมมือมาซาโตะไว้อีกชั้นนึง มันต้องแบบนี้

     

    เครื่องจักรบังคับลงไปหยิบตุ๊กตาถั่วสีเขียวจากในตู้ขึ้นมาได้ และทำให้มันออกมาจากตู้

    สำเร็จแล้ว........

     

    ได้ซะที เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆดีใจไม่แพ้เด็กๆเลย มาซาโตะหยิบมันขึ้นมาจากตู้ ก่อนที่จะส่งให้

     

    ฉันให้ละกัน

     

    เอ๋..... ไม่เอาหรอก นายเอาไปเหอะอีกฝ่ายปฏิเสธ

     

    อ้าว.....ก็เห็นนายอยากได้นี่นา

     

    ฉันไม่เอาอ่ะ..... นายเป็นคนจ่าย นายเอาไปเหอะอีกฝ่ายปฏิเสธไม่เอาสุดฤทธิ์ พวกเขาเป็นผู้ชายทั้งคู่นะ จะให้มาถือตุ๊กตาน้อมแน้มอะไรแบบนี้มันก็......

     

    แต่สุดท้ายมาซาโตะก็ต้องเป็นถือมันอยู่ดี ==’

     

     

    ณ ร้านกิ๊ฟช็อฟแห่งหนึ่ง

     

    บ้าบอชะมัด มาถึงก็เข้าร้านแบบนี้เนี่ยนะ ==;

     

    นี่ๆ อันนี้เหมาะกับนายดีนะอีกฝ่ายหยิบกิ๊บติดผมรูปแมวสีดำขึ้นมา ก่อนที่จะให้มาซาโตะดู

     

    ไอ้เนี่ยเนี่ยนะเหมาะ ==

     

    ตรงไหน.....

     

    ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะ

     

    งั้น...... อ๊ะ.... อันนั้นไง สวยดีเขาชี้ไปที่สร้อยคอรูปกระจกมีด้ามโบราณ เหมาะกับคนแบบนายดี

     

    อันนี้น่ะเหรอเหมาะ ==’

     

    มีรูปหวีด้วย.... เอามั้ยจะได้คู่กัน ^^”

     

    “............”

     

    เอาน่า... น่านะ....... นายเอากระจก ฉันเอาหวี โอเค๊~~~~”

    “......==.........”

     

     

    โอ๊ย !!!!!! 

     

    ความเจ็บแล่นเข้ามากะทันหัน เมื่อมาซาโตะเผลอไปเดินชนใครเข้าสักคน ซึ่งเกิดจากความไม่ได้ดูให้ดีเสียก่อน พวกนั้นมากันเยอะมาก เป็นผู้ชายร่างใหญ่ท่าทางนักเลง มาเฟีย มาซาโตะถึงกลับกลัวเลยทีเดียว 

     

    ผมขอโทษครับมาซาโตะว่าอย่างรีบเร่ง ก่อนที่จะเดินออกห่างๆเพราะความกลัว

     

    แต่ก็โดนฉุดเอาไว้ ไม่ให้ผ่านไปได้ง่ายๆ

     

    คิดว่าจะผ่านฉันไปได้งั้นเหรอพ่อหนุ่ม...... แค่ชนไม่ใช่ความผิดจะหายไปนะเฟ้ยยยผู้ชายคนนั้นว่า แล้วคนที่เดิมตามแต่ละคนก็มีแต่คนตัวใหญ่ๆอย่างกะยักษ์ทั้งนั้น

     

    ว๊ากกกกกกกกก มัตจังทำอะไร !!!!!” --à เรียกแบบสั้นๆง่าย ยูจิที่เพิ่งมาเห็นเพราะไปไหนมาไม่รู้ ถึงกลับตกใจเรียกซะเสียงดัง ก่อนที่จะเข้ามาหามาซาโตะที่กำลังตกใจกลัว

     

    ผมขอโทษครับ..... นี่ไปกันเหอะยูจิพยายามโค้งขอตัวด้วยความตกใจไม่แพ้กัน ก่อนจะจับมือมาซาโตะไปที่อื่น

     

    แต่ก็ถูกดึงไม่ให้ไปด้วย เพราะฝ่ายนั้นไม่ยอม

    คิดว่าแค่นี้แล้วเรื่องจะจบเหรอ...... “

     

    ละ...ละ....แล้ว เพื่อนผมไปทำอะไรเหรอครับยูจิถามเสียงสั่นด้วยความกลัวออกนอกหน้าไม่แพ้กัน เหงื่องี้ตกอย่างเห็นได้ชัด

     

    หมอนี่มันเดินชนฉัน....... ฉันไม่คิดแค่คำขอโทษแล้วมันจะจบหรอกนะ

     

    ผมขอโทษครับ...... ให้ผมกราบเลยก็ได้ยูจิพยายามกล่าวขอโทษอย่างสุภาพแบบเด็กบ้านนอกคอกนาที่สุดแล้ว แต่ดูเหมือนยังไงอีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้ผ่านไปง่ายๆอยู่ดี

     

    รู้มั้ยฉันเป็นใคร จู่ๆจะให้ผ่านไปง่ายๆ ก็ไม่สมกับเป็นฉันน่ะสิ 5555+” ท่าทางจะเป็นมาเฟียใหญ่ คราวนี้ยูจิถึงกลับหมดความอดทนที่จะพยายามขอโทษอีก ในเบื่อทำแบบนั้นแล้วมันไม่เป็นผล

     

    คุณเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะ...... ยังจะมาพูดจาแบบไอ้พวกเด็กมุมตึกปลายแถวอยู่ได้ยูจิว่า คราวนี้มาแบบว่าตัวต่อตัว ไม่กลัว (จริงๆคงสั่น ==’)

     

    นาย......” มาซาโตะตกใจอีกรอบเมื่อจู่ๆ นายคนนี้ก็จะหาเรื่องตาย เขาพยายามเตือนสติยูจิด้วยความกลัว ยูจิไม่ตอบอะไร แต่กลัวโอบไหล่อีกฝ่ายให้มาใกล้ตัวเขามากขึ้น

     

    รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

     

    นายพูดอะไร....... อยากหาเรื่องตายงั้นรึ

     

    ผมไม่กลัวหรอก...... ผมไม่สนหรอกนะว่าคุณเป็นใคร...... รู้แต่ว่าผมขอโทษแทนแฟนผมแล้ว..... ทุกอย่างก็จบ ลูกผู้ชายทั่วโลกเขาก็ทำกันแบบนี้

     

    “..............”

     

    ในเมื่อคุณไม่ยอม จะใช้กำลังกับผมก็ได้นะ เพราะความผิดมันไม่ได้อยู่ที่ผม...... ผู้ใหญ่อย่างคุณตะหากล่ะที่ไม่ยอมปล่อยแม้แต่เด็กมัธยมที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

     

    “5555555555+++ กล้าดีนี่พ่อหนุ่ม แบบนี้ล่ะที่ฉันชอบอีกฝ่ายหัวเราะขึ้นเหมือนพอใจ ==’ อะไรกันแน่นะเนี่ย สนใจมาเข้าร่วมแก๊งค์ฉันมั้ยหนู....... “

     

    “==’ ผมไม่เอาปฏิเสธได้แบบ ครั้งเดียวจบ

     

    “555+ ตามใจนายละกัน ตกลงนั่นเพื่อนหรือแฟน ??” ท่าทางเหมือนถูกคอกันไปแหล่ว

     

    ตอนนี้เพื่อนครับ.... แต่ไม่นานก็จะกลายเป็นแฟน แหะๆ คุณนี่ถามอะไรเนี่ย เดี๋ยวเขาก็เขินกันหมดพอดี =w=”

     

    “5555+ ดีๆ น่ารักดีนะพวกนายเนี่ย ฉันไปก่อนล่ะ โชคดีว่าแล้วอีกฝ่ายก็บอกลูกน้องที่เดินตามก่อนที่จะจากไปอย่างง่ายดาย......

     

    ยูจิถึงกลับถอนหายใจเฮือกใหญ่ นึกว่าจะตายซะแหล่วว

     

     

    ซื้อมาจนได้......

     

    ราคาไม่เท่าไหร่หรอก เพราะมันเป็นของถูก

     

    แต่ก็สวยดี

     

    หันหลังมาสิ......เดี๋ยวฉันใส่ให้นะอีกฝ่ายว่า... มาซาโตะหันหลังให้ตามที่บอก เขาเอาสร้อยที่ซื้อเอาไว้คู่กันออกมา ก่อนที่จะค่อยๆใส่ให้มาซาโตะ

     

    มือที่อบอุ่นนั่นสัมผัสที่ต้นคอเบาๆทำเอาใจสั่น

     

    ให้ตายสิ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย

     

    เรียบร้อยแล้วไม่นานเท่าไหร่ก็มีความรู้สึกว่ามีอะไรสัมผัสที่คอเบาๆ มาซาโตะก้มลงไปที่ เห็นสร้อยรูปกระจกที่ซื้อมา เหมาะมากเลยใช่มั้ยล่า

     

    มาซาโตะหันหน้ามาหาอีกฝ่ายทันที อืม.... ขอบใจนะ

     

    ฉันบอกแล้ว....ว่าอันนี้แหละสวยท่าทางภูมิใจกว่าคนซื้ออีกนะเนี่ย อ๊ะเดี๋ยว มีอะไรติดผมหน้านายน่ะ

     

    อีกฝ่ายค่อยๆโน้มตัวไปใช้มือปัดๆที่ผมนุ่มสลวยนั่นเบาๆ แสงไฟตอนค่ำที่บ่งบอกว่าใกล้จะมืดแล้ว พร้อมกับบรรยากาศที่ไม่วุ่นวาย มีเสียงเพลงเบาๆ เป็นสัญญาณสู่ค่ำคืนแห่งความโรแมนกะติก (????)

     

    ทั้งสองสบตากันเล็กน้อย (คนเขียนอายแทนว่ะ) --à จะมายุ่งทำไม ==’

     

    ก่อนที่บรรยากาศจะพาไป... อีกฝ่ายโน้มตัวลงไปเบาๆขณะเดียวกันมาซาโตะเองก็ค่อยๆหรี่ตาลง ถึงแม้ไม่บอกแต่ก็พอรับรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป อีกฝ่ายค่อยๆโน้มตัวลงไป ริมฝีปากของทั้งคู่แตะกันเบาๆก่อนที่....

     

    ทุกอย่างจะกลายเป็นเพียงแค่ความฝัน

     

    พี่ฮะ !!!!” เสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาทำให้ทั้ง 2 สะดุ้งจนต้องผละจากกัน เด็กผู้ชายคนนั้นหน้าตาคล้ายๆกับคนๆนี้ที่ให้เรียกตัวเองว่าชีทเค้ก คล้ายกันจนเหมือนกับจะเป็นฝาแฝด เด็กนั่นทำท่าแบบอึ้งๆ ก่อนที่จะยินเสียงฝีเท้าตามมาครึกโครม

     

    กินจิ !!!” อีกฝ่ายอุทานด้วยน้ำเสียงตกใจ

     

    มาอยู่นี่เอง !!!! พ่อตัวดี !!!!!” ผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งที่วิ่งตามมาข้างหลังเด็กคนนี้ มีสีหน้าโมโหเกรี้ยวโกรด คิดบ้าอะไรของแกถึงหนีมาโตเกียว !!!!! รู้มั้ยว่าทั้งบ้านวุ่นวายกันแทบตาย !!!!!!!”

     

    ผมขอโทษฮะอีกฝ่ายทำท่าทางเหมือนเด็กน้อยที่พึ่งสำนึกผิด แต่ดูท่าทางจะไม่ได้รับการให้อภัยง่ายๆ

     

    ไม่ต้องมาขอโทษเลย กลับบ้านกับพ่อเดี๋ยวนี้ !!!!!~” คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นพ่อกระชากข้อมือไปอย่างแรง แบบไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บสักแค่ไหน

     

    ใจเย็นๆสิคะคุณ..... ทำแบบนั้นลูกก็กลัวหมดสิคนเป็นแม่ดูเหมือนจะใจเย็นลงบ้างเพราะความดีใจที่ได้เจอลูกชาย

     

    ทำให้มันกลัวบ้างซะก็ดี !!!!! มันจะได้รู้ว่าไม่ควรทำแบบนี้อีก !!!!! กินจิ ตามพ่อมาด้วย !!!!!!” พวกเขาโผล่มาจากไหนไม่มีใครรู้ได้ รู้แต่เพียงแค่ว่า พวกเขามาแล้วก็เอาตัวอีกฝ่ายกลับไปที่ไหนสักแห่ง ไม่ได้สนใจมาซาโตะที่ยังยืนนิ่งอยู่คนเดียวและถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวอีกครั้ง

     

    ทั้งหมดเป็นเพียงความฝันสินะ

     

    เป็นใครก็ไม่รู้ ไม่รู้จักชื่อ ไม่รู้จักอะไรเลย เพียงแค่ว่า ใน 1 วันที่ผ่านมาเป็นวันสนุกมาก

     

    จริงๆ

     

     

      ณ โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง......

     

    อ๊า~~~~ คลาดห้องกันจนได้นะคาสึกิเสียงผู้ชายอีกคนทำท่าทำทางแบบเสียดายนิดๆที่ต้องอยู่คนละห้องกับแฟน

     

    “TT”

     

    อยู่โรงเรียนใหม่แล้วสินะ ก็คงได้เจออะไรใหม่ๆ

     

    เพื่อนใหม่

     

    ชีวิตใหม่ๆ

     

    ได้อยู่ห้อง D เลย แน่ะ..... มัตตันอยู่ห้องอะไรเหรอคาสึกิที่เป็นอดีตเพื่อนร่วมห้องถามขึ้น ระหว่างดูรายชื่อ

     

    มาซาโตะยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนที่จะยิ้มตอบ ห้อง A น่ะ

     

    โหดีจังเลยอยู่ตั้งห้อง A ฉันสิอยู่ห้อง F ไม่มีเพื่อนที่รู้จักด้วยเลย...... แล้วไอ้ชื่อที่อยู่ข้างหน้าเนี่ย ยูจิๆใครก็ไม่รู้

     

    ฉันอยู่ห้องเดียวกับเจ้าจิยุยังไม่พูดเลย ==”

     

    จิยุ.... อ้อ เพื่อนตอนอยู่ชมรมดนตรีน่ะเหรอมาซาโตะว่าหลังจากที่ได้ยินชื่อคุ้นๆอยู่ เพราะเคยอยู่โรงเรียนเดียวกันมาก่อน

     

    “...............” 

     

    เอาเหอะ....... อยู่โรงเรียนใหม่ ถึงจะต้องเหงาในช่วงแรกๆไปบ้าง แต่กับการที่ได้รู้จักคนใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆมันก็คงจะทำให้ลืมเรื่องเศร้าๆไปได้บ้าง

     

    ป่านนี้เจ้าหมอนั่นจะไปอยู่ไหนแล้วนะ

     

    เอ๋...... เกิดอะไรขึ้นเนี่ย

     

    ทำไมข้างหน้ามันมืดไปหมดเลย

     

    เหมือนมีใครมาเล่นปิดตาอะไรแถวนี้

     

    “.....Hello ใครเอ่ย~~~~~~ จำฉันได้รึเปล่าเนี่ยเสียงผู้ชายที่พูดนั่นฟังดูคุ้นหู อย่าบอกนะว่าเป็น......

     

    อีกฝ่ายเอามือที่ปิดตาออก ทำให้มาซาโตะรีบหันกลับไปดูว่าใคร

     

    นาย !!!! ชีทเค้ก !!!!!” --- ตั้งแต่เขียนมาเพิ่งเรียกชื่อ

     

    ฮี่ๆ เจอกันอีกจนได้น้า~~~~~~~~” ใช่เขาจริงๆด้วย ท่าทางยังร่าเริงเหมือนเดิม...... “ฉันมาเรียนที่โตเกียวแล้วนะ จะได้เจอกันบ่อยๆแล้ว ^+++^”

     

    ยูจิ !!! มัวทำอะไรอยู่นายน่ะ จะเข้าห้องเรียนแล้วนะเสียงผู้ชายอีกคนไล่หลังมา

     

    แป๊บนึงนะ~~~~~ ลืมบอกชื่อไปหันกลับมาบอกมาซาโตะ ฉันชื่อยูจินะ....... ขอโทษที่ตอนนั้นไม่ได้บอกชื่อจริง แหะๆ

     

    อื้ม...... ยูจิ.....” มาซาโตะเรียกก่อนที่จะยิ้มให้

     

    ในที่สุดก็ได้เจอกันอีก.......

     

    ++END++

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะลงภาค 2 ต่อจากภาคแรกคืออันนี้เลยนะคะ 555+ เพราะงั้นไรเตอร์จึงยังไม่กดปิดเรื่องค่ะ ขี้เกียจเปิดเรื่องใหม่ (เพื่อ??)

    รอว่าเมื่อไหร่จะแต่งภาค 2 จบซะทีนะ 55


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×