ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] SuG 39 Cafe' Fic

    ลำดับตอนที่ #10 : 008 : Secret Love (Manabu X Shin [Kagrra]) ตอนต่อจ๊ะ

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 53


    Secret Love 
    Manabu (Screw) X Shin (Kagrra)
    ตอนต่อจาก I wanna

    ..........

     

    ผมไม่เข้าใจพวกผู้ใหญ่.........

     

    ผู้ใหญ่ที่คิดว่าตัวเองถูกต้องทุกอย่าง........ แต่สิ่งที่ตัวเองคิดเหนือกว่าใคร เหนือกว่าเด็กๆอย่างพวกผม

     

    ก็จริงอยู่ ผมมันเด็ก ผมทำอะไรโดยไม่คิดก็จริง เพราะผมเด็ก บางอย่างก็ทำไปโดยไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมา ผมไม่สามารถคิดอะไรเกินที่เด็กอย่างผมจะคิดได้

     

    ผมรู้ว่าผู้ใหญ่ผ่านอะไรมามากมาย คิดอะไรได้มากมายกว่าผม.....

     

    แต่พวกเขาไม่คิด พวกเขาไม่เข้าใจหรอกถึงความบริสุทธิ์และความจริงใจของเด็ก เด็กอย่างผมนี่ล่ะ

     

    ชีวิตวัยเด็ก ทำอะไรก็ได้ ทำผิดก็ได้แค่การตักเตือนและระวังตัว

     

    เด็กอย่างผมไม่กลัวหรอกนะที่จะบอกจะพูดอะไร ผมรู้สึกรัก ผมรู้สึกเกลียด รู้สึกโกรธใครผมสามารถแสดงออกมาตรงๆได้อย่างไม่เกรงกลัว ผมเข้าใจความรักที่ผมสร้างขึ้นเองได้ดี มากกว่าผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจตัวเองแบบคุณ

     

    ตั้งแต่วันนั้น...... ผมวันที่ผมมีเรื่องกับชินซัง

     

    ผมไม่ได้คุยกับเขาอีกเลย........

     

    เห..... เดี๋ยวนี้ไม่ไปหาที่ห้องเลยนะ น้องมานาบุ.... อิชชิซัง นักร้องนำของวงคางุระทักทายผมพร้อมกับโบกมือไปมาให้ อ่า ใช่ นับตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านไปเป็นเวลา 3 เดือน รึ 4 เดือนกว่าๆแล้วนี่แหละ ที่ผมไม่ได้ไปที่ห้องนั้นอีกเลย

     

    พอดีงานยุ่งน่ะครับ แหะๆ เจียดเวลาไปไหนไม่ได้เลย ผมก็ว่าไป จริงๆแล้วเวลาพักมีมากโข เพียงแต่เอาเวลาไปทำอย่างอื่นก็เท่านั้นเอง ผมไม่มีอะไรที่จะต้องไปหาคนๆนั้นแล้วนี่

     

    ถึงจะเจอกัน ถึงจะเดินสวนทาง แต่เขาไม่เคยแม้แต่จะมาสบตาผมอีกเลย เราสองคนคงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันจริงๆแล้วล่ะ ให้ตายเถอะ......

     

    สิ่งที่ผมทำลงไปมันเป็นสิ่งที่ผิด ? มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำใช่มั้ย ?  มันเป็นสิ่งที่เด็กอย่างผมไม่ควรคิดกับคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าอย่างนั้นเหรอ ?

     

    ถึงแม้อยากจะกลับไปขอโทษ แต่ก็ไม่มีแม้แต่ความที่อยากจะไปตายเอาดาบหน้า กลัว ที่ความรู้สึกแบบนั้นจะกลับมาอีก

    จะทำยังไงดีนะ......

     

    ใครก็ได้ช่วยผมคิดที......

     

     

    (ณ ผับแห่งหนึ่ง)

    รุ่นพี่อาโอยครับผมเรียกรุ่นพี่วงกาเซ็ทโตะที่ดื่มเหล้าอยู่ที่บาร์ข้างๆผม เป็นบาร์เล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทเท่าไหร่ ตอนนี้มีหลายคนที่มาอยู่ที่นี่ ถัดไปข้างหลังนั่นเป็นเรโนะกับเรียวงะ ได้ยินพวกเพื่อนๆในวงกำลังจิ้นสองคนนี้กันอยู่ ข้างๆโต๊ะของสองคนนั่นเป็นจิยุกับมาซาโตะวงซักกุ

     

    แต่ไม่น่ามีใครที่จะพอปรึกษาได้นอกจากคนๆนี้แหละ

     

    ว่าไงน้องบุ นี่เขาเรียกผมเหลือแค่ บุกันแล้วเหรอเนี่ย - - ‘

     

    ในโลกนี้จะมีความรักที่เป็นไปไม่ได้อยู่หรือเปล่า?” ผมถามอ้อมไป จริงๆผมอยากจะปรึกษาเรื่องของผมนี่แหละ แต่ผมไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง คือ..... มันเป็นเรื่องของคนสองคน ที่ไม่น่ามารักกัน อะไรประมาณนี้ล่ะครับ

     

    หือ?... นี่ถามใหม่ๆ ฉันงงกับคำถามนาย นายต้องการจะถามอะไร??” ดูท่าทางรุ่นพี่จะงงกับคำถามของผมมาก ผมก็งงที่ตัวเองถามออกไปเหมือนกัน เอางี้นะ..... เอาตรงๆเลย นายกำลังมีปัญหาอะไร.....

     

    จริงๆก็คือ.... ผมไม่กล้าเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาใคร.... เพื่อนๆของผม.... แต่ละคนก็...... รั่วๆทั้งนั้น ไว้ใจไม่ได้ตั้งแต่หัวหน้าจินยันนักร้องนำ คือ.... ผมแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งในบริษัท แต่ว่าเราอายุห่างกันตั้งเกือบ 10 ปี.....ผมเล่าออกไป แต่ไม่อยากจะเอ่ยชื่อ กลัวคนอื่นจะรู้น่ะสิ

     

    แล้วไง.... รุ่นพี่ถามแล้วก็กระดกแก้วเบียร์เข้าจนหมดแก้ว

     

    ผมเป็นเมะ.... คือ.... ผมรู้ว่าเขาหวังดีกับผม ผมรู้ว่าเขาเองก็รู้ตัวว่าผมชอบเขา แต่ว่า.... ผมดันไปทำให้เขาโกรธ นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ผมก็ยังมองหน้าเขาไม่ติด..... ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไง ทั้งๆที่ผมรู้ว่าผมไม่ควรที่จะไปรักเขา..... ผมไม่รู้ผมจะจำกัดความรู้สึกแบบนี้ออกไปได้ยังไง

     

    นี่นายจะบอกว่า.... นายไม่ควรที่จะไปรักเขา หมายความว่านายเสียใจงั้นเหรอที่นายรู้สึกแบบนั้น รุ่นพี่ถาม ทำเอาผมสะอึก พูดต่อไม่ออก ผมเสียใจงั้นเหรอที่ผมรู้สึกว่าผมรักเขา มานาบุ.... นายน่าจะไปฟังเพลงความรักของบอดี้แสลมสัก ร้อยหมื่นพันรอบนะ....... ประชดซะ - -

     

    ฉันพอจะเดาออกที่นายพูดมาน่ะ..... แต่นายยังเด็กจริงๆนั่นแหละ...... จะบอกให้นะ..... ความรักน่ะ ไม่ว่าจะเกิดมาในรูปแบบไหน.... ไม่ว่าจะเริ่มต้นยังไงไม่ว่าจะจบลงแบบไหน ไม่ว่าจะสมหวังหรือเศร้า ทุกข์ระทมขนาดไหนก็ตาม แต่เพราะความรักที่แฝงไปด้วยความหวัง ทำให้คนๆหนึ่งมีชีวิตอยู่ได้.... ในใจแล้วนายมีความสุขใช่มั้ยล่ะที่ได้รู้สึกแบบนั้นน่ะ..... วันๆหนึ่งแค่ได้เห็นคนที่นายรักผ่านไป นายก็มีความสุข นั่นแหละคือความรัก เอ.... นั่นสินะ แต่ถ้ามันมีมากเกินไป จนมันครอบงำจิตใจ นั่นก็ไม่ดีนะ 555+

     

    แล้วผมควรจะทำยังไงล่ะครับ??”

     

    นั่นสินะ..... นายควรทำยังไง ในเมื่อมันเป็นเรื่องของคนสองคน นายกับคนๆนั้น...... ความรักนะ มันไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้หรอกนะ..... ผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันยังรักกันได้เลย..... แล้วก็ไม่มีขีดจำกัดเรื่องอายุด้วย ขอแค่นายมั่นใจว่าความรักของนายนี่เกิดขึ้นเป็นความรักที่มั่นคงและออกมาจากใจจริงของนาย นายแสดงออกให้เขารับรู้ไปเลยว่าจริงๆแล้วนายรักเขาขนาดไหน ถ้าเขาเองก็ชอบนายเหมือนกัน ก็แฮปปี้

     

    แต่เขาคงไม่ได้มองผมแบบที่ผมมองเขาหรอก ผมว่า..... ใช่สิ เขามีคนๆนั้นอยู่แล้วนี่ อากิยะ  

     

    อย่าเพิ่งตัดสินใจแบบนั้นสิ....... คนบางคน ถึงจะอายุขนาดไหน แต่ความรู้สึกก็เหมือนเด็กๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร.... น่าหัวเราะใช่มั้ยล่ะ..... จะบอกอะไรให้อีกนะ.... ในบริษัทเราน่ะยังมีเรื่องแปลกๆอีกเยอะ..... อย่าง.... อ๊ะ อย่าให้ฉันพูดเลย เก็บไว้เป็นความลับสนุกดี 555+ นั่น..... คนเรา กำลังจะบอกอะไร ก็ตัดสินใจไม่บอกซะยังงั้น

     

    งั้น.... ฉันจะบอกอะไรเป็นอย่างสุดท้ายแล้วกัน..... ความรักน่ะไม่มีใครผิดใครถูกหรอกนะ เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ห้ามไม่ให้เกิดก็คงไม่ได้..... ไม่งั้นโลกของเราคงไม่เกิดเรื่องวุ่นวายถึงขนาดนี้หรอก

     

    อ่า.... นั่นสินะ......

     

    การที่ผมได้มาปรึกษาใครสักคน แล้วผมก็คิดว่าผมคงปรึกษาถูกคน...... อาโอยซังถึงจะดูเป็นคนรั่วๆ แต่เพราะผมเชื่อว่าถ้าผมได้ปรึกษาเขา เขาคงจะรักษาความลับได้และคงให้คำปรึกษาที่ดีเยี่ยมสำหรับผม.... แต่นะ คงเพราะมีคนมาปรึกษาเขาหลายคนสิท่า ถึงได้มีความลงความลับอะไรให้สนุกขนาดนั้น.....

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    นายรักเขาใช่หรือเปล่าฮะชิน..... อากิยะพูดขึ้น ขณะนั้นมีเพียงเขาสองคนที่อยู่ด้วยกัน..... เด็กที่ชื่อมานาบุน่ะ

     

    เปล่าซะหน่อย...... ชินตอบ พยายามหลีกเลี่ยงคำถามนั่น ใครจะไปชอบเด็กแบบนั้นล่ะ นายนี่ก็บ้า.... เออ นี่ตอนเย็นกินอะไรกันดี

     

    นายไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง.... ฉันถามจริงๆนะ ฉันสังเกตนายสองคนนานแล้ว นายบอกความจริงมาดีกว่าน่า

     

    ก็ฉันบอกว่าไม่ไงล่ะ นายจะอยากรู้ไปทำไมหนักหนา ชินเริ่มอารมณ์เสียนิดๆ ทั้งๆที่พยายามเปลี่ยนเรื่องคุยมาหลายครั้งแล้ว แต่เพื่อนเขาคนนี้ก็ยังจะถามคำถามเดิมๆ ซ้ำซากๆ

     

    ที่ฉันถามเพราะ ฉันอยากรู้คำตอบไงล่ะ นายก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ปิดไม่มิดหรอก ชิน.......

     

    แล้วที่นายถามแบบนี้ นายอยากให้ฉันพูดงั้นเหรอ!!!  ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรพูด ฉันอายุขนาดนี้แล้วแต่กลับไปชอบเด็กหนุ่มแบบนั้น นายหัวเราะฉันใช่มั้ยล่ะพาลอารมณ์เสียไปด้วย

     

    ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ สงสัยต้องให้ผู้กุมความลับของบริษัทจัดการแล้วมั้งงานนี้ อากิยะพูดลอยๆเหมือนไมได้ตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน แต่คนที่ได้ยิน ก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด

     

    นายกำลังพูดถึงอะไร?”

     

    ปะ....เปล่าหรอก อากิยะรีบแก้ตัวทันที แค่นี้ก็รู้แล้วว่าชิน หมอนี่ไม่ได้สนใจอะไรสักอย่างแม้แต่เรื่องที่กำลังฮอตฮิตสุดๆในตอนนี้

     

    นายจะพูดอะไรก็พูดมาสิ อีกฝ่ายเร่ง

     

    เรื่องของความรัก ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่สมควรพูดหรอกนะ ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง..... ทั้งๆที่นายพูดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ แต่จริงๆแล้ว นายยังสู้เด็กไม่ได้เล........ เฮ้ยยย อากิยะรีบตัดบททันทีเมื่อได้ยินเสียงโครมครามกันข้างนอก ชินและอากิยะรีบวิ่งออกไปทันที ญี่ปุ่นมุงเต็ม ใครบางคนกำลังทะเลาะกัน

     

    ถ้านายคิดว่าฉันทำผิด.... โอเค..... ถ้าคำพูดของฉันนายยังไม่ฟัง ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน !!!” 

     

    จะพูดว่าเลิกกันงั้นสิ!!~”  

     

    ก็ต้องแหงอยู่แล้ว รึว่านายไม่เข้าใจ!!”

     

    แย่ล่ะสิ กลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อีฟ

     

    เฮ้ย....สองคนนั่นคบกันเหรอไม่เห็นรู้เรื่องเลย- ฮิโรโตะ

     

    ความลับ หึหึ จิน

     

    นี่ๆๆ จินๆๆๆๆ อาคิยะรีบเรียกหัวหน้าวงสกรูให้หยุดเดินทันที หลังจากที่ทำท่าจะเดินกลับห้องซ้อม ใครทะเลาะกันวะ

     

    อ๋อ..... ฟังแล้วอย่าตกใจนะ จุ๊จุ๊....จริงๆ.... พยายามหรี่เสียงให้เบาลง ยูจิวงซักกุกับเรียวงะวงวิวิด..... สองคนนั้นคบกันอยู่ -3-“

     

    เห O_O!!!!!” คนที่ได้ยินถึงกลับตกใจ เฮ้ยย จิงดิ! คบกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

     

    ความลับ ฮิฮิ..... ว่าแล้วอาโอยแห่งวงกาเซ็ทก็เดินผ่านหน้าไป เฮียๆ มาเลย 2000

     

    ไรวะ..... ทำหน้างงๆ (เป็นใครก็งง)

     

    เฮียแพ้พนันผมนะ.... สองคนนั่นตีกันแล้วไม่เห็นหรือไง -3-“

     

    เรื่องยังไม่จบเฟ้ย แกคอยดูต่อไปจิน.....

     

    -3-“ จินทำหน้าบึ้งทันที ทำเอาอาคิยะถึงกับงง

    นี่พวกแกพนันอะไรกันอยู่

     

    ความลับ.... ผมไปก่อนนะ บายๆว่าแล้วก็รีบเดินกลับห้องไปเลยทันที ทำเอาอากิยะและชินถึงกับงง

     

    ความลับอะไรของมันวะ - - *”

     

     

    -*- ไม่อยากจะเชื่อเลย.... เหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันที่ผมไปพบโดยบังเอิญ ค่ายนี้นอกจากเรื่องของผมแล้วยังมีคู่แปลกๆเหมือนกันอีกเหรอเนี่ย..... แต่เด็กพวกนั้นกล้ากันจัง มาตีกันหน้าห้องซ้อมของซักกุ รู้กันทั่วบริษัทเลย

     

    เฮียโอย.... ไหนละคนละพันของผมนะ.... ได้ยินเสียงใครคุ้นๆดังมาจากซอกห้องเก็บของ.... เฮ้ย บริษัทนี้มีจิ๊กโก๋ตั้งแต่เมื่อไหร่

     

    เออๆ สองพันนี้หมดตัวแล้วนะเฟ้ย นี่เบี้ยวเจ้าจินมันมา ผมหลบอยู่ทันทีเพื่อดูเหตุการณ์ตรงหน้า อาโอยวงกาเซ็ท ยูจิวงซักกุแล้วก็ข้างๆนั่น เรียวงะวงวิวิด อะไรวะเนี่ย???

     

    ว่าแต่....เฮีย.... ให้พวกผมสองคนทะเลาะกันทำไม..... เฮียยังไม่บอกผมเลยนะ

     

    เพื่อให้.....คู่รักแถวๆนี้สมหวังน่ะ......... อ้อแล้ว......... เล่นบททะเลาะกันสักวันสองวันนะ แล้วค่อยคืนดีกัน เจ้าจินจะได้แพ้พนัน

     

    อีกและ..... นี่เห็นผมเป็นกามเทพหรือไงเนี่ย มีแต่เหตุผลเดิมๆ -  - “

     

    เอาน่า.... หรือจะให้...... อาโอยซังหยิบอะไรออกจากกระเป๋า เป็นลักษณะแผ่นๆ แบนๆ เหมือนรูปภาพ ไอ้พวกนี้หลุดออกสื่อสาธารณะชน จนถึงตอนนั้น นายไม่รอดแน่ 55+

     

    ครับผม...... (_ _ll)”

     

    เข้าใจแล้วใช่มั้ย....หึหึ.... ในบริษัทของเรามีเด็กคนนึงมีคิดอยู่เสมอว่า..... ความรักมีบางอย่างที่เรียกว่าความรักต้องห้าม ในขณะที่เด็กอีกคนนึงเชื่อมั่นว่า ความรักไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ เอาล่ะ.... ถึงเวลาคนเด็กสองคนต้องเรียนรู้จักความรักที่แท้จริงกันเสียที

     

     

    เกิดอะไรขึ้นกันนะ........... ตลอดช่วงเวลาที่เกิดความรู้สึกนี้ขึ้น ควรจะทำยังไงต่อไป ไม่รู้เลย

     

    ความรู้สึกที่เรียกว่าความรัก......... ความรักที่ได้ชื่อว่ารักต้องห้ามมันมีจริงหรือเปล่านะ ความรักที่เป็นไปไม่ได้ มันช่างเจ็บปวด แต่กลับรักษาอาการบาดเจ็บของมันไม่ได้

     

    ทั้งๆที่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว

     

    อีกเมื่อไหร่กันนะ อีกนานเท่าไหร่ ความรู้สึกนี้จะจางหายไป

     

    กับความรักที่เป็นไปไม่ได้แบบนี้

     

    อีกเท่าไหร่กันนะ.......

     

    ไม่ต้องพูดเรื่องนี้เลยนะชิน.... ฉันไม่อยากนึกถึงมัน!” ในระหว่างที่ชิน มือกีตาร์ตัวเล็กของวงคางุระกำลังเดินทางกลับมาเข้าห้องซ้อมของตัวเอง ก็เกิดเดินสวนกับรุ่นน้องวงหนึ่ง มือกีตาร์ที่มีเรื่องกันจนลือกันเมื่อวันก่อนกับนักร้องนำเดินคู่กัน

     

    ก็ฉันอยากรู้นี่..... จริงๆนายมีปัญหาอะไร...... ฉันก็เห็นพวกนายคุยกันดีๆ แล้วจู่ๆมาเกิดเรื่องแบบนั้น ฉันก็งงนะ

     

    ดีงั้นเหรอ..... จริงๆแล้ว ฉันกับเขาไม่ควรที่จะรักกันตะหากล่ะ...... ใช่สิ มันไม่มีอะไรเข้ากันได้เลย นิสัยของฉันกับเขาก็เข้ากันไม่ได้ อายุก็ห่างกัน วงก็คนละวง สังคมก็ไม่เหมือนกัน เลิกกันไปก็ถูกแล้วนี่

     

    ฉันว่ามันไม่เป็นแบบนั้นนะ..... ฉันเคยได้ยินมาว่า ความรักนะเป็นสิ่งสวยงาม ไม่แบ่งกั้นชนชั้นหรือไม่ว่าจะอะไรก็ตาม มันไม่มีความคำว่าเป็นไปไม่ได้หรือความรักต้องห้ามบนโลกนี้หรอกนะ นายจะเอาแค่นั้นมาเป็นข้ออ้างมันไม่ได้หรอก

     

    ชิน...นายไม่เข้าใจหรอก...... ไม่เข้าใจอะไรเลย ในเรื่องของเทพนิยาย ในนิทานหลอกเด็ก ในความฝันของมนุษย์เราคอยนึกถึงแต่ว่าความรักไม่มีสิ้นสุด แต่นายมองดูสิ เอาเข้าจริง มันไม่มีหรอกนะว่าความรักที่เกิดขึ้นจะโรแมนติกหรือจะยืนยงอยู่ตลอดชีวิต..... โอเค ฉันห้ามตัวเองไม่ให้รักเขามันก็ไม่ได้ แต่ว่านายลองมองโลกแห่งความเป็นจริงสิ คนที่ไม่ควรคู่กันก็ไม่ควรคู่กันแบบนั้นอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ!!!!!”

     

    ไร้สาระสิ้นดี...... ชินวงคางุระได้ยินบทสนทนานั้นผ่านๆไป ได้ยินเสียงน้อยลงๆจนปะติดปะต่อคำพูดต่อไปไม่ได้อีก เหมือนจะเป็นคำพูดแบบผู้ใหญ่ แต่ไม่ว่าจะฟังยังไงก็เป็นแค่ความคิดของเด็กๆ ของวงน้องใหม่อย่างวิวิดที่ประสบพบเจอกับประสบการณ์ความรักเพียงน้อยนิด

     

    ในความเป็นจริงแล้ว คำเชื่อในคำพูดของชินที่เป็นนักร้องนำมากกว่า เพราะเขาเองก็เชื่อว่า ความรักไม่มีสิ่งที่ปิดกั้น ไม่มีกฏเกณฑ์ใดๆที่สามารถมาห้ามความรักได้ และเขาก็เชื่อว่าก่อนที่จะเกิดการทะเลาะกันเมื่อวันก่อน เรียวงะ มือกีตาร์ก็คงคิดเช่นนั้น แต่เพราะว่าทุกอย่างได้เปลี่ยนไป ทำให้เปลี่ยนความคิดกลายเป็นอดติกับความรักไปก็ได้......

     

    ถ้าไม่มีความรักต้องห้ามบนโลกใบนี้

     

    ถ้าไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้

     

    แล้วสิ่งที่เขาคิด เขาพูดกับตัวเองมาโดยตลอดมันคืออะไรล่ะ??

     

    คนที่คอยพูดว่า เขากับชินมันคนละชั้นกันเพียงเพราะอายุที่ห่างกันหลายปี เพียงเพราะวงที่ต่างกัน เพียงเพราะคิดว่าเขากับเขาคนนั้นไม่คู่ควรกัน เพียงเพราะความคิดที่อยู่ในกรอบเพียงแค่นั้น กลับทำให้คนสองคนต้องแตกร้าวกันแบบนั้นหรือ.....

     

    ไม่ใช่แค่เรียวงะเท่านั้นที่อคติกับความรัก

     

    แต่รวมถึงเขาด้วย!

     

     

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 2 3 วันที่ผ่านมา ทำให้ผมเริ่มเชื่อว่า....... ในบริษัทเราก็มีอะไรแปลกๆ ลึกลับที่ผมยังไม่รู้อีกเยอะ ท่ามกลางความสัมพันธ์ของเพื่อนในวงและเพื่อนนอกวง หรือต่างวง ผมอาจไม่เคยสังเกต แต่หลังจากที่ผมเห็นอาโอยซังกับเรียวงะและยูจิในวันนั้น เหมือนมีอะไรเป็นความลับ ที่ไม่อาจให้คนภายนอกอย่างผมล่วงรู้ได้ ผมหลบซ่อนอยู่อย่างดีและพยายามให้ตัวเองเงียบที่สุด และผมสังเกตเห็นมาซาโตะวงซักกุป้วนเปี้ยนในบริเวณนั้นเหมือนเคยชิน แถมที่แปลกกว่านั้นคือพี่จินมือกลองวงผมก็อยู่แถวนั้นท่าทางลับๆล่อๆ แต่ผมอยู่ไม่นานก็หลีกตัวออกมา.....     

     

    เฮ้อ...... ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีนะ......

     

    ผมเดินป้วนเปี้ยนในบริษัทหลังจากเลิกงาน..... ผมรู้ว่าผมควรจะออกไปข้างนอก แต่อากาศมันหนาว ผมยังนึกไม่ออกว่าผมจะไปไหน เพื่อนๆของสลายโต๋กันหมดแล้ว จะไปกินชาบูชาบูก็เงินไม่พอ จะไปกินบะหมี่ข้างทางก็เบื่อ หรือจะไปเดินเล่นซื้อปลาหมึกย่างแถวชิบูย่ากินดีนะ รึว่าจะเดินเล่นในห้างดูสินค้าเล่นๆดี

     

    ...... ในระหว่างที่ผมเดินไป ผมก็ประจันหน้าเข้ากับใครบางคนด้วยความบังเอิญ คนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้

     

    ผมเมินหน้าหนีโดยทันที..... ให้ตายสิ ไปซื้อปลาหมึกย่างดีกว่า

     

    ....... ในระหว่างที่ผมหันหลังกลับ ก็รู้สึกเหมือนมีใครมาดึงมือผมไว้......

     

    เดี๋ยวสิ....มานาบุ.... นี่เป็นคำพูดแรกในรอบ 10 ปี (เวอร์ไป) ที่ผมได้ยินเขาพูดกับผม...... ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับนาย

     

    ผมหันหน้ากลับมาทันที ผมจริงจังนะ.... คุยอะไร..... มีเรื่องอะไรจะมาคุยกับผมอีก....... ถ้าจะให้ผมตัดใจจากคุณ..... คุณเตรียมดีใจไว้เถอะ ผมตัดใจได้แล้ว

     

    ....จะ......จริงเหรอ

     

    จริงสิครับ...... เพราะผมรู้ตัว..... ยังไงที่ทำได้ก็คือแค่ตัดใจ แล้วผมก็ทำใจได้แล้ว ก็พูดเท่ๆไปงั้นเอง จริงๆ มันตัดใจไม่ได้หรอกครับ มันไม่ได้ทำง่ายขนาดนั้นหรอก

     

    ถ้านายทำได้ง่ายขนาดนั้น..... แสดงว่านายก็ไม่ได้รักฉันจริงๆสินะ..... ดีแล้วล่ะ เรื่องมันจะได้จบลงเสียที ^^” เหมือนจะยิ้ม หึ..... กำลังหัวเราะผมใช่มั้ยล่ะ ใช่ ผมไม่ได้รักคุณ ไม่ได้รัก ถ้าเป็นแบบนั้น ผมคงไม่ต้องมาทรมาณจิตใจแบบนี้หรอก

     

    ครับ.....ผมก็ว่าแบบนั้น...... ผมฝืนพูดไปแบบนั้นเอง ฝ่ายนั้นเอาแต่ยิ้ม...... ใช่ เขาคงจะดีใจสินะ ที่ผมบอกแบบนี้ แต่ผม ไม่อยากให้เรื่องของผมกับเขาเป็นแบบนี้ต่อไป อย่างน้อยก็ไม่อยากให้เป็นแบบที่เป็นมา

     

    แต่แล้ว...... ผมก็สังเกตอะไรบางอย่าง....

     

    ตาของชินซังเริ่มแดง แล้วก็มีน้ำใสๆไหลออกมา.....

     

    อะไรน่ะ???

     

    ร้องให้เหรอ???? ทำไมล่ะ????

     

    ..ขอโทษนะ..... สุดท้ายก็ร้องออกมาจนได้....... เขาพยายามปาดน้ำตาออก เหมือนจะแสดงความเข้มแข็งให้ผมดู ขอโทษนะ.... ทั้งๆที่นายบอกว่าตัดใจจากฉันแล้ว.....แต่ฉัน......... ฉันมันบ้า...... ที่เพิ่งมารู้ตัวเองว่ารักนายเหมือนกัน

     

    ....... ผมงี้แทบอึ้งเลยเมื่อได้ยินคำพูดของเขา..... คนที่ปฏิเสธผม คนที่ถือทิฐิตัวเองว่าผมกับเขาไม่คู่ควรกัน แล้วทำไมตอนนี้ เขาถึงมาพูดแบบนี้กับผมล่ะ

     

    ชินซัง......จริงๆผม....... จู่ๆผมก็อยากจะลบคำพูดที่ผมพูดกับเขาก่อนหน้านี้ออกไป...... ผมก็รักชินซัง ไม่เปลี่ยน ผมขอโทษ เมื่อกี้ ผมโกหก

     

    ...จริงเหรอ........

     

    ครับผม

     

    และหลังจากนั้นถัดมา...... ผมก็กลายเป็นแฟนของชินซัง แต่เราสองคนคบกันลับๆ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ ในตอนแรกมีแค่เราสองคนก็จริง แต่ในวันนั้น..... กลับมีคนที่ยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น รู้อีกคนจนได้........

     

    และเพราะอะไรไม่รู้.....เหมือนกับว่าทำเป็นกระบวนการ........ ผมกับชินซังถูกแบล็กเมย์ด้วยภาพต่างๆนาๆของเราสองคน =~=

     

    ผมคิดไปเล่นๆว่าในค่ายของเรามีบุคคล 2 3 คนตั้งกระบวนการอะไรสักอย่าง แล้วดูเหมือนคนพวกนี้จะรู้เรื่องทุกอย่างในบริษัท ทั้งๆที่ผมอยากสืบ แต่ว่าหาตัวจับยากทีเดียว......

     

    นี่...ถ้าสมมุติว่า คนพวกนั้นเอาภาพของพวกเราไปเผยแพร่ นายจะทำอย่างไงจู่ๆชินซังก็ถามผมขึ้น ผมรู้สึกไม่ดีเลย เหมือนกับว่าชีวิตรักของผมตอนนี้อยู่ในกำมือของใครสักคน.....

     

    กลัวเหรอครับ..... ที่คนอื่นจะรู้เรื่องของเรา ผมถาม อ่า.... ผู้ใหญ่อย่างชินซังคงแคร์อะไรกับเรื่องแบบนี้สินะ ขอโทษที ที่ผมไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่สนใจหรอกครับ คนนอกจะว่ายังไงก็ช่าง คนที่รู้ดีที่สุด คือเราสองคน เหมือนจะน้ำเน่า แต่สิ่งที่ผมพูดไปมันเป็นความจริง ถึงคนทั้งโลกจะรู้ว่าเราสองคนคบกัน แต่คนที่เข้าใจความรักนี้ มีแค่ผมกับเขาเท่านั้นที่รู้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์หรอก

     

    อืม...นั่นสินะ

     

    หือ...... มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ?” ได้ยินเสียงอาโอยซังดังขึ้นมา.......

     

    ครับ...... ก็อย่างที่ผมเล่าให้ฟัง...... อาโอยซังคิดว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไงครับ ^^” เดินคู่มากับมาซาโตะวงซักกุ.....

     

    อืม..... ฉันคิดว่า.......... ให้คนอ่านติดตามตอนต่อไปละกัน ถ้าบอกให้รู้ มันก็หมดสนุกกันพอดี 55

     

    นั่นสินะครับ...... แต่ว่า.... ผมรู้สึกเหมือน.... จะร่ำรวยอีกแล้วสิ 55+

     

    ผมมองสองคนนั้นเดินสวนไปด้วยท่าทีงง ชินแฟนของผมก็ไม่แพ้กัน...... ผมมีความรู้สึกว่าในบริษัทแห่งนี้ยังมีอะไรหลายเรื่องที่ผมยังไม่รู้ และผมก็เคยคิดว่า.... มีคนที่เก็บกุมความลับเหล่านั้นอยู่ และคนพวกนั้นอาจจะใช้เรื่องนี้ไปเล่นสนุกกันเหมือนการพนัน

     

    หวังว่า...มันคงไม่มีจริงๆหรอกนะ....

     

    ผู้กุมความลับของพีเอส คอมปานี..........

     

    --THE END--

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×