คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เกลียด!!!
หลังจากว่ายมาได้พักหนึ่งเสียงร้องจากด้านหลังก็ดังขึ้น ทำให้ยออุนที่ว่ายอยู่ข้างหน้าหันมามองก็พบโชริบกำลังตะเกียกตะกายอยู่เหมือนคนจมน้ำครูฝึกเองก็เห็นเช่นกันแต่ก็ไม่มีใครเข้าไปช่วยสักคน แต่แล้วเด็กอีกคนก็คือทงซูว่ายเข้ามาช่วยโชริบไว้ ยออุนเห็นดังนั้นก็ว่ายต่อไปโดยตัดใจไม่เข้าไปยุ่ง
เด็กส่วนใหญ่ว่ายขึ้นฝั่งมาได้แล้วและยออุนก็มาถึงเป็นคนแรกและยังยืนได้ในขณะที่หลายคนนอนแผ่หลาหมดแรงอยู่บนพื้นไปแล้ว เขานึกขึ้นได้ก็หันมองมองหาอีกสองคนซึ่งก็คือทงซูกับโชริบ ยออุนวิ่งออกไปดูอย่างหวาดหวั่นกลัวว่าทั้งคู่จะเป็นอะไรไป แต่พอมองหาไม่เจอเขาก็ถอดใจแต่เพียงชั่วครู่เขาก็เห็นความทุลักทุเลของทั้งคู่ที่พยายามว่ายข้ามฝั่งมาก็รู้สึกโล่งใจ เมื่อทั้งสองมาถึงฝั่งครูฝึกก็เดินเข้ามา
“ไม่ผ่าน” คำกล่าวเรียบนิ่งของครูฝึกพูดพร้อมมองเด็กทั้งสองคนที่นอนหอบหมดแรงอยู่
“ก็ยังดีกว่าตายนั่นล่ะ” ทงซูว่าแต่โชริบกลับก้มหน้าเพราะคิดว่าตนเองทำได้ไม่ดีพอ ครูฝึกที่เห็นทงซูพูดอย่างนั้นก็ตะคอกเสียงดัง
“เจ้าคิดว่าเจ้ามาเล่นอยู่รึไง!!!ที่นี่คือที่ไหนหา”
“แล้วทำไมต้องให้ข้าทิ้งเพื่อนเพื่อจะเป็นนักรบอะไรนั่นด้วยล่ะ สำหรับข้าถ้าการทิ้งเพื่อนเพื่อจะให้ได้เป็นนักรบล่ะก็ มันก็ไม่ต่างอะไรจากการเป็นนักฆ่านั่นแหละ” ทงซูเองก็โพล่งออกมาอย่างเดือดดาลเช่นกันจนยออุนที่เดินอยู่หันกลับมามอง
‘นักฆ่างั้นเหรอ’
“วันนี้ไม่ต้องกินข้าว” ครูฝึกว่าก่อนจะเดินจากไปพลางอมยิ้ม
‘ฮยองนิม ลูกชายท่านช่างเหมือนท่านอะไรขนาดนี้นะ’
เย็นวันนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้กินข้าวเย็น จึงนอนอยู่แต่ในที่พักอย่างหิวโหย ก็วันนี้ฝึกทั้งวันแต่กลับไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยโชริบเองก็เช่นกัน
“อุนนา..” ในโรงอาหารเด็กหนุ่มอีกคนที่ชอบมองยออุนบ่อยๆแถมยังเคยหาเรื่องเขาด้วยมานั่งตรงที่ทงซูเคยนั่ง ยออุนเห็นก็ไม่สนใจเขายังคงกินต่อไปโดยไม่แม้แต่จะหันมาทัก เด็กอีกสองคนที่ดูจะเป็นเพื่อนของเจ้าคนที่เคยหาเรื่องเขาก็เข้ามานั่งใกล้เขาด้วยอีกทั้งยังผลักคนที่นั่งใกล้ยออุนออกไป
“หนิ ข้าว่าเจ้าคงแกร่งที่สุดในหมู่พวกเราใช่มั้ยล่ะ” เด็กหนุ่มพูดขึ้น “ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่เหรอ”
“สิบสี่” ยออุนตอบแล้วยังกินต่อไปโดยไม่ใส่ใจจนคนมองเริ่มจะหมั่นไส้ในความหยิ่งจองหองจึงกระชากมือที่กำลังใช้ตะเกียบคีบอาหารจนอาหารร่วงลงไป ยออุนเสมองอย่างรำคาญ
“เจ้าอยากตายนักรึไง” สายตาดุกำลังจ้องอีกฝ่ายเพื่อให้อีกฝ่ายปล่อยมือที่จับเขาไว้เสียแน่น อีกฝ่ายเพียงแค่แค่นหัวเราะออกมาเพียงเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
“เฮอะ...ข้าเกลียดเวลาที่เจ้าทำตัวอวดดีเหลือเกินนะยออุน ข้า ยง กอล และยังแก่กว่าเจ้าสองปีเจ้าควรจะเรียกข้าว่ายังไงเหรอฮึ”
“คนที่เคยแพ้ข้าจำเป็นต้องเรียกพี่ด้วยเหรอ” ใบหน้าหวานกัดฟันกรอด ทั่วทั้งโรงอาหารตอนนี้เต็มไปด้วยความมาคุจนทุกคนต่างก็หยุดกินแล้วมองมายังจุดเกิดเหตุ ยงกอลเองที่โดนดูถูกต่อหน้าทุกคนเลือดขึ้นหน้าทันควัน เขาลากยออุนออกไปข้างนอกทันที อุนเองที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็เริ่มจะออกแรงต่อสู้แต่กลับโดนเด็กหนุ่มอีกสองคนที่เป็นเพื่อนยงกอลทุบเข้าที่ท้ายทอยจนแทบจะไม่มีแรง สุดท้ายโดนเหวี่ยงไปอยู่บนพื้นก่อนสายตาโมโหจะจ้องมองคนทั้งสามที่หาเรื่องเขา
“ข้าไม่ชอบสายตานี่เอาเลยนะเนี่ย” ว่าพลางกระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายขึ้นมาจ้องอย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่าแต่ก็ต้องตะลึงในใบหน้าหวานล้ำนั้น ยงกอลใช้มืออีกข้างจับเส้นผมนิ่มเล่นส่วนตาจับอยู่ที่ใบหน้าหวาน ก่อนจะเลื่อนมาหยุดอยู่ที่ปากอมชมพูนั่น ยออุนที่จ้องกลับอย่างไม่วางตาใช้มืออีกข้างหมายจะฟาดอีกฝ่ายแต่ยงกอลก็กดร่างเล็กจนนอนราบไปกับพื้นหญ้าทันที
“พวกเจ้าคิดว่าไง” ยงกอลกล่าวโดยไม่หันไปมองเพื่อนทั้งสองก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย ยออุนที่กำลังตกใจแทบจะทำอะไรไม่ถูก
“ก็ดีนะ อวดเก่งดี ดูสิว่าจากนี้ไปจะกล้าหือกับพวกเราอีกมั้ย” เด็กอีกคนว่าก่อนจะเดินไปจับข้อมืองบางแทนยงกอล
“ปล่อยนะ!!!” ยออุนดิ้นด้วยแววตาที่ยังคงโกรธแค้น เด็กอีกคนตรงเข้ามาจับขาของยออุนอีกแรงจนตอนนี้เขาแทบดิ้นไปไหนไม่ได้อีก ยงกอลลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเริ่มปลดชุดตัวเองอย่างหลวมๆ ทำให้ยออุนเห็นดังนั้นแววตาก็เปลี่ยนมาตระหนกฉับพลัน
“อย่างเจ้าข้าจะทำให้เจ้าไม่กล้าอวดดีกับข้าอีก ยออุน” ว่าพลางก็ตรงเข้าคร่อมร่างเล็กทันที
“จะทำอะไร” เสียงสั่นๆนั้นยงกอลจับได้ก็รู้แล้วว่าเจ้านี่ก็กลัวเป็นเหมือนกันถ้าไม่มาดูถูกเขามีหรือเขาจะทำแบบนี้
“กลัวเหรออุน หึ สายไปรึเปล่า” ว่าจบก็ซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างแรง เพื่อนอีกสองคนที่จับยออุนแน่นหัวเราะอย่างสะใจที่เห็นยออุนดิ้นพล่าน ยงกอลบีบคางเล็กแน่นก่อนจะฉกริมฝีปากบางนั่นอย่างแรงจนเริ่มมีเลือดซึมออกมา อุนดิ้นพลางร้องไห้เพราะความกลัวและโกรธที่ทำอะไรไม่ได้
“ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะของพวกนั้นทำให้ยออุนทั้งใจเสียแต่กลับทำอะไรไม่ได้ ยงกอลแกะผ้าพันเอวของยออุนแต่ปากก็ยังทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง ลิ้นเล็กที่พยายามหนีแต่ก็ถูกต้อนจนจนมุม ยออุนที่เริ่มรู้ว่าจะเจออะไรต่อไปก็กลัวมากขึ้น
“ข้าจะฆ่าเจ้าแน่” ปากบางดิ้นหลุดจากการรุกรานของอีกฝ่ายพูดพลางกดเสียงลงต่ำ ยงกอลไม่สะท้านอยู่แล้วเขาแค่นหัวเราะก่อนจะค่อยๆดึงผ้าคาดเอวของอีกฝ่ายออกอย่างแช่มช้า
แต่แล้วผู้คุมที่เดินเวรยามกลางดึกทำให้ยงกอลชะงักการกระทำก่อนจะหันไปมองสลับกับร่างด้านใต้ที่โดนปิดปากไม่ให้ส่งเสียงร้องออกไป
“ยงกอล พอแค่นี้เถอะ” เสียงเตือนของเพื่อนดังขึ้นทำให้ยงกอลได้สติก่อนจะหันมากล่าวกับยออุนที่ยังคงถูกปิดปากอยู่ว่า
“ถ้าคราวหน้ายังทำเป็นเก่งอีก ไม่จบแค่นี้แน่ยออุน” แล้วทั้งสามก็ปล่อยร่างเล็กก่อนจะวิ่งจากไปปล่อยให้ยออุนมองตามหลังอย่างโกรธแค้น น้ำตาเม็ดหนึ่งร่วงตกลงอย่างห้ามไม่ได้
‘ข้าเอาคืนแน่ ข้าจะอ่อนแอไม่ได้อีกต่อไป’
ทางด้านทงซูที่ไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เย็นก็เริ่มรู้สึกหิว เลยเดินไปตรงที่นอนของโชริบแล้วเรียกเบาๆ
“โชริบอา ....ไปหาของกินกันเถอะ”
“อือ...ไมเอาอ่ะ ถ้าถูกจับได้มีหวังแย่แน่” โชริบนอนตะแคงข้างให้ทงซูและหลับต่อไปโดยไม่หันมาสนใจอีก แม้ว่าทงซูจะพยายามแค่ไหนอีกฝ่ายก็ไม่มีท่าว่าจะลุกขึ้นมาเลย จนจำยอมเดินไปโรงอาหารคนเดียว แต่เขาก็เหลือบมองที่นอนข้างโชริบที่ว่างอยู่
‘ยออุนยังไม่กลับมาเหรอ’
ทงซูเดินย่องเข้าไปในโรงอาหารอย่างเงียบเชียบ เขาหันซ้ายหันขวาและเมื่อไม่พบใครก็จุดคบไฟข้างๆให้สว่างเพียงเล็กน้อยเพื่อจะหาของกินได้ แต่ก็ต้องร้องออกมาเสียงดังเมื่อเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ตรงด้านหน้า
“เย้ยยย...จะ..เจ้า...ใครน่ะ” เขาถามไปพลางทั้งที่กลัว ดึกดื่นปานนี้ใครจะมานั่งอยู่ในโรงครัวที่มืดๆนี่กัน แล้วก็คว้าอะไรบางอย่างใกล้ตัวเดินเข้าไปหาคนที่นั่งกอดเข่าอยู่เบื้องหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ
‘ผีรึป่าววะ’ หัวใจแห่งความกลัวผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ‘อะไรกัน ข้าคือ เพค ทง ซูนะ’ นึกพลางปลอบตัวเองในใจอย่างเงียบเชียบ ถ้าเจ้านี่เป็นผีนะเขาจะตะโกนให้ลั่นค่ายเลย
แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆก็เห็นเด็กผมยาวสวมชุดฝ่ายทีมสีแดงก็ให้รู้สึกคุ้นตานัก เด็กคนนั้นนั่งกอดเข่าก้มหน้าจนมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง ทงซูเข้าไปนั่งใกล้ๆเพราะนี่คงไม่ใช่ผีแล้วล่ะ ยิ่งเข้าไปใกล้ก็เห็นว่าที่ผมของเด็กชายมีหญ้าติดอยู่และกลิ่นหอมอ่อนๆที่ชวนให้นึกถึงอีกคนขึ้นมา มือของเขาเอื้อมไปหมายจะหยิบหญ้าที่ติดเส้นผมของอีกฝ่ายออกให้แต่พอจะแตะใบหน้าที่ก้มอยู่ก็เงยหันขวับมาทางเขาซะจนตกใจ ดวงตาที่แข็งกร้าวจ้องมายังทงซูเขม็งแต่พอรู้ว่าเป็นใครแววตานั้นก็พลันเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองตามเดิมก่อนจะนั่งกอดเข่าแล้วซุกหน้าลงกับเข่าตัวเอง
“ยะ..ยออุน” ทงซูเรียกเบาๆ เขาพลันเห็นดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาก็ตกใจจึงไปนั่งตรงหน้าของอีกฝ่าย
“เจ้าเป็นอะไรน่ะ” ทงซูถามอีกครั้งแต่ยออุนเพียงแค่เหลือบขึ้นมามองทงซูก่อนจะลุกเดินจากไปแต่กลับโดนมือของอีกฝ่ายดึงรั้งไว้ก่อน
“อย่ามายุ่งกับข้า” เสียงเรียบเอ่ยโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง ทงซูจึงเดินไปข้างหน้าอีกฝ่ายแทน
“เจ้าร้องไห้ทำไม” ทงซูถามเพราะเป็นห่วงแต่นั่นกลับทำให้โทสะของยออุนเพิ่มมากขึ้น เขาพยายามอย่างยิ่งไม่ให้ตัวเองเผลอทำร้ายทงซูลงไป ในมือกำกระบี่ไว้แน่น สีหน้าทงซูก็จริงจังไม่แพ้กันพยายามจ้องตอบอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ ยออุนจะผละออกไปอีกครั้งแต่แรงดึงจากข้อมือที่ทงซูไม่ยอมปล่อยทำให้ยออุนต้องเซมาปะทะกับอกอีกคนอย่างเสียไม่ได้
“อุนนา มีอะไรก็บอกข้าสิ” เสียงอบอุ่นของอีกฝ่ายทำให้ยออุนที่แกร่งดั่งหินผาแทบจะปล่อยให้ความอัดอั้นในใจออกมาเสียจนสิ้น น้ำตาไหลลงมาแทบจะไม่ขาดสาย ทงซูรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมีเรื่องไม่สบายใจก็ดันให้รางเล็กนั่งลงก่อนจะกอดปลอบร่างเล็ก ยออุนเริ่มรู้สึกถึงหนังตาที่หย่อนลงเพราะความเหนื่อยอ่อน ไม่นานก็หลับคาอกของทงซูไป
“อุนนา..อุนนา” ทงซูเขย่าเรียกอีกฝ่ายเบาๆเมื่ออีกฝ่ยยังไม่มีการตอบสนอง เขาเชยคางมนขึ้นมาก่อนจะมองอย่างเครียจๆและสงสัยว่าเจ้าคนนี้ไปเจออะไรมาทำไมถึงเป็นเอาซะขนาดนี้ มือนั้นปาดน้ำตาที่หางตาอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน เรี่ยวแรงที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนทงซูอุ้มยออุนกลับเข้าไปในที่พักตามเดิมก่อนจะวางลงข้างๆโชริบที่หลับสนิทแล้วห่มผ้าให้อีกฝ่าย จากนั้นก็ลุกไปยังที่นอนของตัวเอง แต่ไม่วายยังนึกถึงยออุนและลุกมาดูเป็นระยะๆอย่างเป็นห่วง
การกระทำของทงซูดันไปเข้าตาของยงกอลที่เจ้าตัวก็นอนไม่หลับเช่นกัน เขาเห็นทงซูอุ้มร่างเล็กมาโดยที่อีกฝ่ายดูเหมือนหลับอยู่เหมือนสิ้นเรี่ยวแรงก็รู้สึกผิดขึ้นในใจ เพราะตั้งแต่เขากลับมาก็ไม่เห็นยออุนกลับมาด้วยเลยนึกว่ายออุนจะเอาเรื่องที่เขาแกล้งไปฟ้องครูฝึก แต่ขณะคิดเพลินๆทงซูก็ดันตื่นขึ้นมาเพราะความหิว เขาจึงคิดว่ายออุนคงจะไปอยู่ที่โรงอาหารไม่ยอมกลับมาแน่ ยงกอลลุกขึ้นเหลือบมองยออุนที่นอนหลับสนิทอยู่อีกฝั่งอย่างเป็นกังวล
เช้าวันต่อมาการฝึกก็ยังคงเป็นเช่นเดิมแต่วันนี้ยออุนก็ดูนิ่งเฉยเหมือนเดิม เขาใส่รองเท้าอย่างที่เคยทำทุกวัน ทงซูรีบวิ่งมาหายออุนทันทีที่ใส่เสร็จ
“อุนนา....เจ้าสบายดีใช่มั้ย”
ยออุนเพียงแค่เงยหน้ามองเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“อือ” คำตอบสั้นๆทำให้ทงซูเป็นห่วงเลยเอามือไปเพื่อจะอังหน้าผากของอีกฝ่าย ส่งผลให้ยออุนแทบจะไม่อยากเชื่อสายตา
“ตัวไม่ร้อน...งั้นก็..อะแฮ่ม..ไปฝึกต่อเหอะ” ทงซูเองก็เขินเป็นเหมือนกันเมื่อเห็นว่าการกระทำของตนถูกมองมาจากใบหน้าหวานนั้น โชริบเองที่อยู่ข้างๆยออุนมองสองคนสลับไปมาอย่างสงสัยก่อนจะถามว่า
“หนิ พวกเจ้าเป็นคู่แข่งกันไม่ใช่เหรอ”
“ไปกันเถอะ” ยออุนตัดบททันทีก่อนจะลุกจากไป เขาเดินผ่านยงกอลที่มองดูการกระทำเมื่อครู่ก็รู้สึกอิจฉาอยู่เนืองๆบวกกับยออุนเดินผ่านเขาไปราวกับอากาศธาตุก็รีบเดินตามหลังยออุนไปที่ลานฝึกก่อนจะกระชากร่างเล็กให้หันกลับมา
“ยออุน...ทำไมเจ้าไม่ไปฟ้องครูฝึกล่ะ”
“ไม่จำเป็น เพราะข้าจะจัดการเจ้าเอง” สายตาแข็งกร้าวจ้องตอบยงกอลออกไปก่อนจะสะบัดแขนตัวเองออกแต่แล้วยงกอลก็ดึงตัวอีกฝ่ายเข้าไปกอดซะแน่นจนยออุนดิ้นอีกครั้ง
“ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้เลย..ปล่อยนะ” เสียงหวานเอ่ยย้ำแต่ยงกอลก็กอดแน่นกว่าเดิม เขาแค่รู้สึกผิดที่ทำอย่างนั้นกับร่างเล็กไป เขารู้ว่าหากสู้กันจริงเขาก็ต้องแพ้ให้กับยออุนอยู่แล้ว
ทางด้านทงซูกับโชริบที่เดินตามออกมาเห็นยออุนโดนยงกอลสวมกอดอยู่โดยที่ยออุนนั้นหยุดดิ้นไปนานแล้วเหลือเพียงสายตาที่ว่างเปล่าเท่านั้น
“ยะ ยง กอล เจ้าทำอะไรอุนน่ะ” เสียงตะโกนของทงซูทำให้ยงกอลคลายอ้อมกอดจากร่างเล็กออกไป ยออุนไม่สนใจกลับเดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจอีก ทงซูวิ่งมาตรงหน้ายงกอลทันทีอย่างไม่ชอบใจที่ทำไมต้องกอดร่างนั้นด้วย ความรู้สึกหวงบังเกิดขึ้นภายในจิตใจ
“เจ้าชอบหาเรื่องยออุนอยู่เรื่อยไม่ใช่เหรอ ทำไมยังมายุ่งกับอุนของเราอีก” ทงซูว่าพลางทำท่าเหมือนจะโกรธแทนยออุนซะอย่างนั้น โชริบที่มองก็พอจะเดาออกว่าเจ้านี่หวงเจ้าหน้าหวานนั่นแน่
“เกี่ยวอะไรกับเจ้า” ยงกอลว่าจบก็เดินไปลานฝึกอีกคน
“จะ เจ้า..ย๊า ยงกอล กลับมาตอบคำถามข้าเดี๋ยวนี้นะ”
“ทงซูอา เจ้าหวงยออุนเหรอ” โชริบที่เห็นท่าทีอดไม่ได้จึงถามขึ้น ทงซูที่เหมือนได้สติหันขวับมามองเพื่อนข้างๆเหมือนคิดอะไรได้
“บ้าเหรอเจ้า..ข้าแค่รู้สึกไม่ชอบมาพากลก็แค่นั้น เจ้าสองคนนั่นเป็นคู่แข่งกันนะ”
“เหมือนเจ้าด้วยไม่ใช่เหรอ” โชริบดักทางจนทงซูแทบสำลักน้ำลายตัวเองแทบไม่ทันก่อนจะเดินจากไปอีกคนปล่อยให้ทงซูโวยวายอยู่คนเดียวตามหลัง
ในระหว่างการฝึกยุทธ์ของวันนี้ยงกอลมองร่างเล็กที่อยู่เบื้องหน้า ในขณะที่ทงซูเองก็หันไปมองยออุนบ่อยๆ โชริบเห็นทั้งคู่เอาแต่มองมองยออุนก็รู้สึกแปลกๆ เกิดเรื่องใดกับยออุนรึเปล่า เขาคิดภายในใจ
‘อุนนา ข้าอยากจะขอโทษเจ้าเรื่องเมื่อวานนะ’ ยงกอลคิด
‘เจ้ายออุนมีเรื่องอะไรนะ’ ทงซูคิดก่อนจะโดนเขกด้วยไม้หน้าสามจนต้องร้องโอดครวญก็เขาดันเหม่อซะนี่
ความคิดเห็น