ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
การต่อสู้กับมิลฟิโอเล่เป็นไปอย่างน่ากลัวแต่ผลที่ได้รับก็คือประสปความสำเร็จอยู่ดี ความลับที่จะได้กลับอดีตถูกเปิดเผยจากเด็กชายที่ชื่ออิริเอะ โชอิจิ ที่โดนบาซูก้าทศวรรษยิงมาโผล่ที่โลกในอีก 20 ปีข้างหน้า
เบียคุรันได้ตายไปแล้ว พวกของสึนะที่ได้ร่วมสู้รบในศึกครั้งนี้ก็กลับมาอย่างปลอดภัยทุกคน
แต่ทว่าหลังจากกลับมาโกคุเทระก็เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องตลอด ร่างบางนั่งกอดเข่าและดูเหม่อลอยทำให้ยามาโมโตะที่รู้เรื่องมาจากสึนะก่อนที่จะสู้กับมิลฟิโอเล่ต้องหาทางทำอะไรบางอย่าง เค้าตัดสินใจเดินเข้ามาหาร่างบางในห้อง แล้วนั่งลงข้างๆพลางลูบผมสีเงิน ร่างบางหันมามองเค้าแล้วยิ้มบางๆให้จากนั้นเอนกายพิงไหล่แกร่งอย่างเหนื่อยอ่อน
" เดี๋ยวเราก็จะได้กลับบ้านแล้วโกคุเทระ ชั้นทำซูชิของชอบให้นายดีมั้ย " ยามาโมโตะกล่าวอย่างร่าเริงให้ร่างบางรู้สึกดีขึ้นมือแกร่งโอบรอบตัวของร่างบางไว้ ทำให้ร่างบางรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มาจากตัวของร่างสูงแต่ถึงแม้จะอบอุ่นขนาดนี้เค้ากลับนึกถึงคนๆนั้น คนที่มีแต่จะทำให้เค้าเจ็บทั้งตัวและหัวใจ
" อือ " ร่างบางตอบรับ ตอนนี้เค้าอยากกลับบ้านเหลือเกิน อย่างน้อยร่างสูงในโลกอดีตก็คงไม่มายุ่งกับเค้าอีก
" วันนี้ชั้นขอออกไปข้างนอกหน่อยสิ อยากจะดูว่าในอีกยี่สิบปีข้างหน้าบ้านเมืองมันจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน " ร่างบางพูด
" งั้นชั้นพาไปนะ "
" ไม่ต้อง นายอยู่ที่นี่แหละ ชั้นจะรีบไปแล้วรีบมา " ร่างบางบอกแล้วแกะมือของยามาโมโตะที่โอบไว้ออก แล้วเดินออกจากห้องไปปล่อยให้ยามาโมโตะมองตามด้วยความเป็นห่วง
ภายในเมืองดูเปลี่ยนไปจริงๆทุกอย่างดูทันสมัยขึ้นกว่าเก่า ร่างบางเดินดูไปทุกที่ที่เค้าเคยไปในโลกอดีต สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่โรงเรียนมอต้นที่เค้าเคยเรียน เวลานี้เด็กนักเรียนกลับบ้านไปหมดแล้ว ร่างบางเดินไปยังตึกที่เค้าเคยเรียนและเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง ทุกอย่างในห้องเรียนดูใหม่หมด ร่างบางมองไปนอกหน้าต่างและเห็นสนามเบสบอลทำให้นึกถึงยาโมโตะแล้วนึกยิ้มออกมา มองไปยังสนามฟุตบอลก็ทำให้เค้าจำได้ว่าตัวเองเคยเตะลูกฟุตบอลไปโดนรุ่นที่สิบที่ตนเคารพรักจนสลบเหมือดไป
แต่เหมือนสายตาดันไปหยุดอยู่ตรงดาดฟ้าที่คนผู้นั้นชอบขึ้นไปบ่อย แต่ก็ถึงกับทำให้ร่างบางผงะถอยหลังในเมื่อคนที่อยู่บนนั้นคือผู้พิทักษ์แห่งสายหมอก ที่เค้าเพิ่งหนีมาได้อย่างหวุดหวิด
" มุคุโร่ " ร่างบางเอ่ยชื่อนี้ด้วยน้ำเสียงที่สั่น สายตาสองสีจับจ้องมาที่ร่างบางอย่างรู้สึกได้ ร่างโปร่งที่นั่งชันเข่ามองเค้าพร้อมทั้งแสยะยิ้มให้ ร่างบางไม่รอช้ารีบหันหลังออกวิ่งไปให้พ้นจากที่นี่ทันที
พลั่ก!!!!
" จะรีบไปใหนเหรอครับฮายาโตะ หลังจากการต่อสู้กับมิลฟิโอเล่นั่นผมก็ไม่มีโอกาศได้เจอกับคุณอีกเลยนะครับ คิดถึงเป็นบ้า " ร่างโปร่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าร่างบางมองร่างที่ล้มลงไปกองกับพื้นเพราะชนเข้ากับเค้าอย่างจังพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูสุภาพแต่แฝงไว้ด้วยความน่ากลัวไว้
" ไอ้บ้า หลีกไปไม่งั้นชั้นจะระเบิดให้แกกลายเป็นจุนไปซะ " ร่างบางตะคอกพร้อมๆกับชักไดนาไมต์ออกมาเต็มมือ
" มุกเด็กๆอีกแล้วเหรอครับ หือ ไหนดูหน่อยซิ " ร่างโปร่งเดินเข้ามาใกล้ร่างบางที่ยืนตัวแข็ง มุคุโร่ดึงไดนาไมต์ออกมาจากมือบางหนึ่งอันแล้วจุดมันโยนออกไปนอกหน้าต่างราวกับของเล่น
!!!!ตูมมมมมมมม!!!!!
ระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวจนถึงขั้นสะเทือน ร่างบางที่มองการกระทำของร่างโปร่งถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก
" ดอกไม้ไฟเองเหรอครับเนี่ย " พูดพร้อมส่งยิ้มยะเยือกมาให้ร่างบางที่กำลังเดินถอยหลังอย่างหวาดกลัว แต่มุคุโร่เพียงก้าวช้าๆมาหาเค้าเท่านั้นแต่ทำให้ร่างบางอยากจะตะโกนร้องให้คนมาช่วยแล้ว ไดนาไมต์หลุดจากมือหล่นลงพื้นอย่างไร้ค่า
" ไปกับผมดีๆ ดีกว่านะครับ อย่าให้ต้องใช้กำลังเลย "
" คุณเคียว เสียงระเบิดเมื่อครู่ "
" ผมรู้แล้ว มาจากนามิโมริ " ร่างสูงกำลังมุ่งหน้าไปโรงเรียนเก่าด้วยความรู้สึกเป็นห่วงคนที่รักที่สุด
' เจ้าสัตว์พืชไร่นั่น ต้องมาที่นั่นแน่ ' ร่างสูงคิดในใจ
ทางด้านฐานทัพวองโกเล่ก็เป็นห่วงฮายาโตะที่หายไปนานเช่นกัน
" ใกล้ได้เวลากลับอดีตแล้ว ทำไมโกคุเทระยังไม่กลับมาอีกนะ " สึนะบ่นอย่างเป็นห่วง
" เค้าบอกจะไปดูรอบๆเมืองน่ะ แต่ตอนนี้ทำไมยังไม่กลับมาอีกนะ " ยามาโมโตะกล่าวอย่างร้อนรน สึนะที่เห็นดังนั้นจึงสั่งให้จางนีนิใช้เครื่องตรวจหาโกคุ
เทระทันที
" พบแล้วครับ จากพลังของแหวนที่จับได้ ท่านโกคุเทระน่าจะอยู่ที่โรงเรียนนามิโมริครับ "
ไม่รอให้จางนีนิพูดต่อ สึนะและยามาโมโตะก็ตรงไปที่นั่นทันทีโดยมีรีบอร์นตามไปด้วย
" อย่านะ! ปล่อย " ร่างบางพยายามขัดขืนร่างโปร่งที่ตอนนี้ดันเค้าไว้กับโต๊ะและพลิกตัวให้อยู่ในท่าคว่ำ
" หว้า จะอดใจไม่ไหวแล้วล่ะสิ งั้นขอมัดจำไว้ก่อนนะครับ " มุคุโร่กล่าวแล้วก้มตัวลงสูดความหอมจากตัวของร่างบาง ร่างบางที่ถูกเอามือไพล่หลังทั้งสองข้างได้แต่ดิ้นอย่างสิ้นหวัง
' เคียวยะ นายปล่อยให้คนๆนี้ทำร้ายชั้นอีกแล้ว ใครก็ได้ช่วยด้วย ' ร่างบางร่ำร้องอยู่ภายในใจ
ร่างโปร่งถอดกางเกงร่างบางออกอย่างชำนาญ แล้วรูดซิบกางเกงตัวเองก่อนจะกระแทกแกนกายจนสุดในคราเดียวเรียกเสียงร้องจากร่างบางอย่างเจ็บปวด
" อ้ากกกก "
" อ๊า ยังแน่นเหมือนเดิมเลยนะครับ " มุคุโร่พูดอย่างไม่อาย
" ฮึก ฮึก ฮึก " ร่างบางร้อง อีกกี่ครั้งที่เค้าต้องทนรับความเจ็บปวดแบบนี้ ร่างกายเค้าแทบจะรับไม่ไหวอีกแล้ว ร่างโปร่งยังคงกระแทกแกนกายอย่างไม่หยุดยั้ง แม้ว่าร่างบางเกือบจะทรุดลงไปแต่มือหนาก็จับเค้ากลับมารับความทรมานเหมือนเดิม จนเลือดสีสดไหลมาตามช่องทางนั้นและดวงตาเริ่มจะปิดสนิทอีกครั้ง พลันก็ได้ยินบางอย่างมากระทบโสตประสาทอย่างไม่ตั้งใจ
" เลิกทำเรื่องอุจาดภายในโรงเรียนชั้นซะที " เสียงเรียบเอ่ยขึ้น ทำให้มุคุโร่หันไปมองก่อนจะถอนแกนกายออกมาอย่างเสียดายแล้วรูดซิบกางเกง
" อ้ะ!! " ร่างบางสะดุ้งก่อนจะล้มพับลงไปนอนหอบอย่างหมดแรงอยู่บนพื้นห้อง ร่างสูงเห็นหยดเลือดที่ไหลมาตามขาของร่างบางรู้สึกแค้นคนที่ทำให้ร่างบางต้องเป็นแบบนี้ แถมเจ้านั่นยังทำทีท่าว่าเรื่องเมื่อครู่เป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งทำให้เค้าอยากจะแยกส่วนของหมอนี่ซะ
" คุณมาขัดจังหวะเราทำไม ผมกับฮายาโตะกำลังมีความสุขกันอยู่เลย " มุคุโร่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
" เคียว...ยะ...ฮึก " ร่างบางเรียกชื่ออย่างแผ่วเบา แต่คนที่ได้ยินกลับได้ยินอย่างถนัดนัก ฮิบาริเดินตรงเข้ามาที่ๆร่างบางนอนอยู่ เค้าเดินผ่านมุคุโร่ราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่บริเวณนั้น นั่นทำให้มุคุโร่ไม่พอใจที่สุด
ฮิบาริช้อนตัวร่างบางขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะหันมาใช้หางตามองมุคุโร่แล้วพูดอย่างท้าทายว่า
" ลงมาสู้กันข้างล่าง ชั้นจะขย้ำแกโทษฐานทำร้ายคนที่ชั้นรัก " ฮิบาริพูด นั่นทำให้ใจดวงน้อยของร่างบางเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัว มุคุโร่ยิ้มอีกครั้งก่อนจะสบถเบาๆแต่ก็ตอบตกลง เพราะถ้าฆ่าฮิบาริได้เค้าจะได้ตัวร่างบางเช่นกัน
" ขอโทษที่ให้นายรอนาน " ฮิบาริบอกกับร่างในอ้อมแขน
" ........." ร่างบางส่งยิ้มให้เป็นคำตอบ ก่อนที่ร่างสูงจะพุ่งตัวออกไปทางหน้าต่างลงไปยังพื้นเบื้องล่างตามมาด้วยมุคุโร่ ร่างสูงวางร่างบางไว้ที่ใต้ต้นไม้พอให้ห่างไกลจากรังสีการต่อสู้ ก่อนจะเดินไปสู่สนามต่อสู้เบื้องหน้า
" โกคุเทระ!!! "
" โกคุเทระ นายไม่เป็นไรใช่มั้ย " เสียงเรียกอย่างเป็นห่วงของบุคคลทั้งสองปลุกให้ร่างบางลืมตาขึ้นจากความเหนื่อยอ่อน
" รุ่นที่สิบ ยามาโมโตะ "
" เลือดหนิ " ยามาโมโตะพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
" หมอนั่นทำร้ายนายใช่มั้ย " สึนะถามเสียงเฉียบขาดพลันความอดทนก็ขาดผึงลงทันใด ไฟดับเครื่องชนเกิดติดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ฮายาโตะที่มองเห็นตกใจไม่แพ้กัน รวมถึงยามาโมโตะและรีบอร์นด้วย
" มีพวกที่ไม่ได้รับเชิญเพิ่มมาอีกสองคนแล้ว " ฮิบาริที่กำลังสู้กับมุคุโร่อย่างเอาเป็นเอาตายกล่าวเสียงเรียบ
" พวกชั้นจะพาโกคุเทระกลับไป แต่ก่อนกลับขอสะสางอะไรซะก่อน " ยามาโมโตะที่กำลังเดือดชักดาบชิงุเระโซเอ็นออกมาทำให้มันมีประกายไฟดับเครื่องชนสีฟ้า ทั้งเค้าและสึนะเดินเข้าไปร่วมวงต่อสู้พร้อมกันโดยที่ร่างบางไม่สามารถห้ามได้อีกแล้ว
" เกิดนองเลือดก็คราวนี้แหละ ฮิบาริ " รีบอร์นกล่าวแล้วหันมองฮิบาริอย่างทำใจในสภาพที่เห็น
" พวกนายจะรังแกโกคุเทระไปถึงไหน วันนี้ชั้นจะมาเรียกร้องแทนเค้าให้ " สึนะกล่าวอย่างเยือกเย็นไม่แพ้กัน ฮิบาริเหลือบมองโกคุเทระที่อยู่ด้านหลังแวบนึงก่อนจะกล่าวว่า
" เจ้าสัตว์กินพืชนั่นเป็นของชั้น "
" ไร้เหตุผล!! " ยามาโมโตะพุ่งเข้าหาฮิบาริทันทีที่พูดจบ ทั้งคู่สู้กันอย่างดุเดือด สึนะเองก็กำลังสู้กับมุคุโร่ที่ใช้ภาพมายาพิภพมนุษย์ ร่างบางที่มองดูการต่อสู้หนักใจอย่างมากที่ไม่รู้จะหยุดการต่อสู้นั่นได้ยังไง
" ถ้าผมชนะ ฮายาโตะไม่พ้นมือผมแน่ วองโกเล่ คุณแน่ใจเหรอว่าจะฆ่าผมได้ " คำพูดเยาะเย้ยของมุคุโร่กล่าวอย่างอวดดี
" งั้นก็ลองตายรอบที่สองดูสิ ชั้นจะทำให้วิญญานของนายให้แหลกคามือไปซะ " คำพูดของสึนะที่เอาจริงทำให้มุคุโร่ถึงกับเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันใด เค้านึกถึงตอนที่เบียคุรันตายขึ้นมาทันที แต่สีหน้าก็กลับมาเป็นแววตาเจ้าเล่ห์อีกเหมือนเคย
" ถ้าคุณฆ่าผมได้น่ะนะ "
" นายรักโกคุเทระรึเปล่า " ยามาโมโตะที่สู้กับฮิบาริถามขึ้นมาอย่างกระทันหัน ทอนฟาปะทะเข้ากับดาบทำให้ทั้งคู่เผชิญหน้ากันตรงๆอีกครั้ง ฮิบาริแปลกใจกับคำถาม แต่ก็ตอบว่า
" จะตายอยู่แล้วยังมาถามเรื่องไร้สาระพรรค์นั้นอีก " ฮิบาริสะบัดดาบออกทันที
" ตอบให้ตรงคำถามฮิบาริ " ยามาโมโตะยังคาดคั้นต่อไปแต่สิ่งที่ได้รับคือความเงียบ ฮิบาริยังคงต่อสู้ไม่ลดละ
จนเวลาล่วงมาหลายชั่วโมงจนขณะนี้การต่อสู้ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เพราะดูเหมือนทั้งสี่จะสู้กันมั่วไปหมดไม่เป็นคู่กันแล้ว สุดท้ายทั้งสี่กระโจนมากันคนล่ะมุม สึนะที่ประสานสายตากับยามาโมโตะเหมือนวางแผนอะไรบางอย่าง
" เจ้าสองคนนั่นคิดจะทำอะไร " รีบอร์นที่มองเหตุการณ์อยู่สงสัย ไม่แพ้ร่างบางที่อยู่ข้างๆเช่นกัน
ในที่สุดสึนะก็ใช้พลังนั่น เช่นเดียวกับยามาโมโตะ มุคุโร่กับฮิบาริก็เช่นกัน
" ไม่นะ " ร่างบางพึมพำอย่างตกใจ
" พวกนั้นกะเผด็จศึกหรือเนี่ย " รีบอร์นเองก็ตกใจเช่นกัน
ร่างบางที่ไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้วิ่งออกมาทันที ทำให้รีบอร์นไม่ทันจะห้ามปรามใดๆ ร่างบางวิ่งเข้ามายังสนามการต่อสู้ที่มีการเดิมพันเพื่อเค้าหวังเพียงให้การต่อสู้นี้สิ้นสุดลงได้วิ่งเข้าไปตรงกลางโดยที่ทั้งสี่ปล่อยพลังสุดตัวของตัวเองออกมา ร่างบางที่วิ่งมากางแขนห้ามต้องเบิกตาโพลงเพราะพลังทั้งหมดที่ถูกปล่อยมาทั้งสี่ทิศโดนเค้าอย่างจัง
สามง่ามแทงถูกบริเวณท้อง ดาบถูกเสียบมาจากด้านหลังตัวเค้าจนมิดด้าม ไฟที่ถูกปล่อยมาอย่างแรงปะทะกับด้านหลังของร่างบางจนกระอักโลหิตคำโตออกมา สุดท้ายคือท่อนเหล็กถูกแทงเข้าที่อกซ้ายจนทะลุไปถึงข้างหลัง
ทุกคนต่างตกใจแทบสิ้นสติเมื่อจู่ๆคนที่เข้ามารับเอาพลังทั้งหมดคือร่างบางเอง ทั้งสี่ชักอาวุธของตัวเองออกพร้อมๆกับร่างของร่างบางกระตุกอย่างแรง มือทั้งหลายต่างไขว่คว้าร่างนั้นไว้ แต่มือที่ไวกว่าของฮิบาริกลับรับร่างนั้นไว้ได้เร็วกว่าคนอื่น
" อ่อก " ร่างบางกระอักเลือดอย่างห้ามไม่ได้ ในขณะที่ฮิบาริประคองร่างนั้นไว้
" ฮายาโตะ ฮายาโตะ " ร่างสูงพยายามเรียกสติของร่างบางคืนมา ทั้งสามคนที่มองอยู่ถึงกับอึ้งมองร่างบางที่กระอักเลือดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
" คะ เคียว ย ยะ " ร่างบางยื่นมือไปจับใบหน้านั้นพร้อมทั้งยิ้มให้ ในตอนนี้ร่างสูงกำลังร้องไห้ถ้าเพียงสังเกตุเห็น เค้าทิ้งมาดนั้นไปแล้ว
" ชั้น ยะ อยากอยู่ กับ นะ นาย ยัง ไม่ อยาก อัก ตาย ตอน นี้เลย " ร่างบางพูดพร้อมกับกระตุกอีกครั้ง น้ำตาไหลอาบแก้ม
" ชั้นจะพานายไปหาหมอ " ฮิบาริเตรียมจะลุกขึ้นแต่ร่างบางฉุดไว้
" ชั้น ไม่ไหว ละ แล้ว อย่าา พะ ยายาม อีก เลย " ร่างบางเอ่ยอย่างยากลำบาก
" กะแล้วว่าเรื่องต้องออกมาเป็นแบบนี้ " รีบอร์นว่า
" ชั้น อยาก จะบอกวะ ว่า ชั้น ระ รัก นายย " ร่างบางพยายามเอ่ยประโยคที่เค้าอยากพูดมากที่สุดแล้วรั้งต้นคอของร่างสูงมาจูบเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งร่างสูงเองก็ตอบรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ จนกระทั่งทั้งคู่ละจากกัน
" ชั้น ไม่ได้ ต้องการ ให้ นาย บอก ระ รักตอบ หรอก นะ " ร่างบางยิ้มอย่างอ่อนโยนให้แก่ร่างสูงและพยายามเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าคมคาย
ร่างบางหันมามองสึนะและยามาโมโตะและอีกคนก็คือมุคุโร่ ทั้งสามเข้ามาหาร่างบางทันที
" มุคุ โร่ ชะ ชั้นไม่เคย โกรธ นายเลย นะ ไม่ต้องทำหน้า แบบนั้น " ร่างบางพูดเมื่อเห็นว่าร่างโปร่งสีหน้าสลด มุคุโร่ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วยื่นให้ร่างบาง มันเป็นจี้สามง่ามที่เค้าตั้งใจให้ร่างบางในวันเกิด
" ขอชั้นสวมให้นายได้มั้ย " มุคุโร่พูด ร่างบางพยักหน้า ทุกคนจึงช่วยกันพยุงเพื่อให้มุคุโร่ใส่ได้ง่ายขึ้น
" ขอบใจนะ " ร่างบางยิ้ม
" ไอ้เจ้าบ้า เบสบอ บอล อย่า ทำหน้าแบบ นั้น " ร่างบางหันมาแขวะยามาโมโตะ
" ฮึก ฮือออ ชั้นขอโทษ " ยามาโมโตะเสียใจอย่างบอกไม่ถูกได้แต่ก้มหน้าร้องไห้กุมมือบางไว้แน่น
" รุ่นที่ สิบ "
" ชั้นอยู่นี่โกคุเทระ " สึนะรับคำทันที
" ดูแล ตัวเองด้วยนะ ครับ ผมคงไม่ อาจ ดูแล รุ่นที่สิบ ได้ อีกแล้ว "
" อย่าพูดแบบนั้น นายอยู่กับชั้นเสมอ อยู่ในใจของชั้น ตลอดไป " ไฟดับเครื่องชนมอดไป สึนะยิ้มให้โกคุเทระแม้ว่าครั้งนี้จะเป็นการยิ้มให้คนที่ตนเองรักเป็นครั้งสุดท้าย ร่างบางยังคงยิ้มเหมือนเคยให้เค้า
" อัก อึก " ร่างบางกระตุกถี่ยิ่งขึ้น ฮิบาริที่รู้สึกว่าเวลากำลังจะหายไปพูดบางสิ่งจากใจจริงออกมาให้ร่างบางได้รับรู้ก่อนจะหมดสติไป
" ฮายาโตะ ชั้นรักนายนะ ได้ยินมั้ย ฮายาโตะ ชั้นรักนาย " ฮิบาริพูดพลางจับร่างที่กระตุกเอาไว้ ร่างบางมองเค้าด้วยรอยยิ้ม มือบางเอื้อมจะจับใบหน้าหล่ออีกครั้ง แต่แล้วดวงตาสีมรกตก็ปิดลงพร้อมๆกับมือที่หล่นลงมาอยู่ข้างตัว ร่างแน่นิ่งไป ทุกคนร้องเรียกชื่่อของร่างบางซ้ำไปมาหวังจะให้ฟื้นขึ้นมาด้วยปาฎิหาริย์อีกครั้งแต่ทว่าร่างที่นอนแน่นิ่งกลับไม่ไหวติงอีกแล้ว รีบอร์นใช้มือเล็กแตะมือของฮิบาริไว้แล้วบอกว่า
" นายพาเค้าไปเถอะ "
ฮิบาริช้อนตัวร่างบางขึ้นมา ทุกคนไม่มีใครคนใดห้ามอีกแล้วได้ปล่อยให้ทั้งคู่จากไปเงียบๆ
' ฮายาโตะ ชั้นรักนาย '
ทุกคนได้กลับโลกอดีตได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย แต่กลับรู้สึกเงียบเหงาเพราะไม่มีร่างบางอีกแล้ว
" ............. " ผู้คุมกฏของนามิโมริที่ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แท้แล้วเค้ากลับรู้ทุกอย่างเค้ามองดูกลุ่มของสึนะที่ไม่เห็นวี่แววองใครอีกคนที่ชอบพรรณาเป็นมือขวาของเจ้าเปี๊ยกนั่น ในใจกลับรู้สึกสลาย รู้สึกเหมือนสูญเสียบางสิ่งที่สำคัญไป รู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวยิ่งกว่าเก่า
เย็นของวันนี้เค้ากลับไปที่ศาลเจ้าไปในห้องหนึ่งที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเดินมาห้องนี้ทำไม ห้องนี้เป็นห้องที่โล่ง แต่เค้ากลับเห็นสิ่งนึงวางอยู่บนแท่นอย่างโดดเดียว เมื่อเข้าไปใกล้ก็พบว่ามันคือป้ายวิญญาน ที่สลักชื่อคนๆนั้นไว้
' โกคุเทระ ฮายาโตะ '
" สุดท้ายนายก็จากชั้นไปจริงๆ แม้ชั้นในอนาคตจะบอกรักนาย แล้วชั้นในยุคนี้ล่ะ ชั้นยังไม่ได้บอกนายซักครั้ง " ฮิบาริกล่าวออกมาขณะพูดกับแผ่นไม้ตรงหน้า พลันน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้อีกต่อไป
" ฮิบาริ " รีบอร์นที่เห็นมองอย่างสงสาร ที่ถึงแม้ว่าความสงสารจะไม่อาจมีในหมู่นักฆ่าก็ตาม
จบ........
ความคิดเห็น