ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The X[S]ense รหัสคดีลึกลับ

    ลำดับตอนที่ #2 : The X[S]ense ตอน.ปฐมบทห้วงเวลา 1.2

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 56


     

    The X[S]ense รหัสคดีลึกลับ

    ตอน.ปฐมบทห้วงเวลา 1.2

     

                    เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เขาทิ้งตัวลงบนโซฟาในห้องรับแขกที่คอนโด เขาเห็นอะไรแบบนั้นอาจจะเพราะเขากำลังเหนื่อยก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นสีหน้าก็ยังบ่งบอกถึงความนิ่งงันอยู่อย่างเคย พรุ่งนี้เขาต้องไปยื่นใบรายงานตัวที่โรงเรียน วันนี้เขาต้องพักให้เต็มที่

     

     

     

     

     

     

                    เสียงของนักเรียนที่ทยอยกันมาเพราะวันนี้นอกจากจะรายงานตัวก็ถือว่าเป็นวันเปิดภาคการศึกษาใหม่ของที่นี่ เขาใส่ชุดนักเรียนมาเตรียมพร้อมรับกับสิ่งใหม่ๆ เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเป็นจุดเด่นของที่นี่ สายตาของเด็กสาวมองเขาอย่างหลงใหลแต่เขาก็ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเหล่านั้น

    กันต์!!” ที่นี่ยังมีใครรู้จักผมอีกงั้นเหรอ เขาถูกมือหนึ่งกอดตรงบ่าอย่างสนิทสนม เมื่อหันไปมองก็เจอกับคนที่เคยรู้จักมาก่อนหน้านั้น การันต์หรือไนท์ที่เคยเจอกันที่สนามบินมาเรียนที่นี่ด้วย

    นายเรียนที่นี่ด้วยอ่ะ...ดีเลย อ่ะ...เขายื่นเอกสารเกี่ยวกับกิจกรรมรับน้องให้ดู ผมรับมาแต่โดยดี

     

     

     

    ขอบใจ

     

     

    นายอยู่ห้องไหนเหรอไนท์ถามผมอีกหน เขาเป็นคนคุยเก่งกว่าผม และผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาอันตราย

     

    “A....นายล่ะไนท์ทำตาโตก่อนจะมองผมอย่างไม่เชื่อ

     

     

    นายเหรอห้องA....ฉันอยู่ห้องBอ่ะเห็นนิ่งๆแบบนี้กันต์คงจะเก่งไม่เบานะ ขนาดเขาใช้คะแนนยื่นยังได้แค่ห้องบีเลย แต่การเรียนในโรงเรียนระดับคนรวยมากมายขนาดนี้ การมีเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อนจริงๆที่ไม่ใช้ความรวยข่ม

    หลบสิเสียงหนึ่งดังขึ้นระหว่างพวกผมอีกครั้ง

     

     

    เด็กใหม่ว่ะคนพวกนี้คงเป็นรุ่นพี่ของโรงเรียนแน่ๆ เราก็ไม่ได้ยืนขวางทางหรอกแต่จากที่เห็นพวกนี้คงเป็นนักเลงถิ่น ผมก็หลบให้เพราะไม่อยากมีเรื่องตั้งแต่วันแรกที่มาเรียน

    ที่ออกจะกว้าง...ไม่เดินทางอื่นอ่ะแต่มีบางคนที่ผมคิดว่าคงอยากมีเรื่อง ผมหันไปหาคู่กรณีแทนผม คนๆนี้ที่มีแถบสีแดงบนหัวและตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าเขาเองก็มี มันเป็นสีดำ และของไนท์เป็นสีฟ้า มันคือเครื่องหมายอะไรกันนะ

     

     

     

    มึงอยากมีปัญหาเหรอวะพวกรุ่นพี่เดินเข้ามาใกล้เด็กคนนั้น แต่จู่ๆไนท์ที่ยืนอยู่ข้างผมกลับวิ่งไปขวางหน้าพวกนั้นแทนพร้อมกางแขนจนสุดกั้นไม่ให้คนพวกนั้นเข้ามามีเรื่อง

     

     

     

    ผมขอโทษแทนเพื่อนด้วยครับ....อย่ามีเรื่องกันเลยคนที่อยู่ด้านหลังเด็กแว่นนี่ทำเอางง แต่พวกรุ่นพี่คงไม่ปล่อยอะไรง่ายๆ เขาตรงเข้ามากระชากคอเสื้อก่อนดึงแว่นตาเขาแล้วโยนทิ้งไป

    ไอแว่นนี่ใครวะผมเห็นท่าไม่ดีแล้ว ทำไมหมอนี่ต้องมากันเขาด้วย ติ๋มๆแบบนี้จะไปสู้อะไรมันได้

     

     

     

    มีเรื่องอะไรกันสักพักอาจารย์คนหนึ่งก็เดินมาหยุดเวทีมวยนี้ พวกรุ่นพี่ยอมปล่อยแต่โดยดีก่อนจะจากไปแต่ทิ้งรอยยิ้มหยันให้กับอีกคนข้างหลังไนท์ ผมเดินจากไปจากพื้นที่ตรงนั้นอย่างเฉยชา ไนท์กำลังหาแว่นเพราะเขามองไม่เห็นและตาพร่าเลือน

    อ่ะ แว่นนายเขารับมันมาจากมือของคนที่เขาเพิ่งถลาเข้ามาช่วยชีวิตไว้หมาด ผมยิ้มให้เขาก่อนจะมองหาเพื่อนอีกคนที่มาด้วยกัน

    นายนั่นน่ะไปแล้วล่ะผมหันไปมองคนที่ตอบคำถามผม แต่ผมไม่ได้ถามหรอก

     

     

     

    อ๋อ...นายไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะผมพูดก่อนจะจัดเสื้อสูทให้มันเข้าที่เหมือนเดิม

     

    ฉันเคยชนหมอนั่นที่สนามบินเมื่อวานนะถ้าจำไม่ผิด...ดูเขาไม่ค่อยจะแยแสอะไรเลยชายคนที่ยืนข้างผมพูด ผมก็เคยรู้สึกแบบนั้นนะตอนแรก แต่ผมเป็นคนเห็นหลอดแก้วสีดำบนหัวของเขาและผมคิดว่าเราวามคนต้องมีอะไรพิเศษมากแน่ๆ ผมมีความสามารถพิเศษอยู่หนึ่งอย่างคือการอ่านใจผู้อื่นและเห็นอนาคตล่วงหน้าได้ ที่ผมช่วยผู้ชายคนข้างๆนี้ก็เพราะรู้สึกเหมือนเป็นพวกเดียวกัน แต่ดูเหมือนเขายังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร

     

     

    อ๋อฮ่าๆๆ....ว่าแต่นายชื่ออะไรเหรอ

     

     

    หือ...ก้องน่ะ...ป้ายชื่อบอกว่าเขาชื่อก้องภพ แต่ที่ถามเพราะอยากเปลี่ยนเรื่องคุยมากกว่า กันต์จะรู้มั้ยว่าตัวเขาเองน่ะไม่ธรรมดา เขาอ่านใจและมองอนาคตของพวกเดียวกันไม่ออกเลย หรือเราสามคนมากจากที่เดียวกันแต่คนล่ะห้วงเวลา เขาสะบัดหัวไล่ความคิดก่อนจะเดินเข้าไปในหอประชุม

     

     

     

     

     

     

                    มันน่าเบื่อที่ต้องใช้ชีวิตในกรอบ ผมคิด...แต่มันมีอะไรมากกว่า ผมมองเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาซึมๆ ผมจ้องเธอที่เดินผ่านไปอย่างไร้เลื่อนลอยและเธอก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม ใบหน้าเธอนั้นดูซีดเซียวและไร้เรี่ยวแรง เธอมองผมด้วยดวงตาเศร้าศร้อยชนิดที่คนเย็นชาอย่างผมรู้สึกหดหู่ตาม

    ช่วยฉันด้วยผมเห็นเธอไม่ได้ขยับปากพูด แต่ทำไมผมถึงได้ยิน หลอดแก้วสีขาวมันว่างเปล่า สีจางจนไม่เป็นรูปเป็นร่าง ผมยังคงมองใบหน้าเปื้อนน้ำตานั้นนิ่งพลางหาคำตอบในสิ่งที่เห็น

     

     

    กันต์...

     

     

     

                    ผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว แต่มีบุคคลอื่นเดินเข้ามาแทน ทั้งคู่ดูมีสีหน้าตื่นๆหรือเพราะเห็นผู้หญิงคนเมื่อครู่กัน แต่ไนท์ก็ทำหน้าตื่นกลัวอะไรบางอย่าง เขามาพร้อมกับผู้ชายที่จะมีเรื่องกับรุ่นพี่พวกนั้น

    นายคุยกับใครน่ะชายแปลกหน้าคนนั้นถามเขา

     

     

    ผู้หญิงคนนั้นน่ะ...เธอนอนอยู่หน้าอาคารเก้านะไนท์พูดอะไรผมไม่เข้าใจ แต่แล้วผมก็โดนลากไปโดยไม่ทันตั้งตัว ผมที่ลากกันต์อยู่มองหน้าก้องอย่างงงๆ เราทั้งคู่บอกได้เลยว่าเห็นเหมือนกัน ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งจะกระโดดลงมาจากตึกเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี่เอง และเขาก็กำลังเดินตามหากันต์และเห็นว่ากันต์กำลังอยู่กับผู้หญิงคนนั้น

    นั่นไงก้องชี้ไปยังผู้หญิงที่นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด รูปร่างที่ตกลงมาจากชั้นบนของตึกทำให้ดูผิดรูปผิดร่างดูแล้วสยดสยองเหลือคณา เขาเห็นใบหน้าที่มีเส้นผมปิดอยู่แต่ก็พอมองเห็นว่าเป็นเธอจริงๆ สายตานั้นจ้องมองมายังเขานิ่ง

     

     

    เธอเป็นเด็กนักเรียนรุ่นพี่เราน่ะไนท์พูด ตอนนี้พวกอาจารย์เริ่มจะเอาเชือกมากั้นตรงพื้นที่อันตรายนี้แล้ว แต่กันต์ไม่อยู่กับที่ตรงนั้นอีก เขาวิ่งเข้าไปยังตัวศพและเริ่มตรวจหาหลักฐานอะไรที่พอจะบอกเหตุได้

    กันต์ผมเรียกคนที่วิ่งออกไปอย่างตกใจ

     

     

    นายเข้ามาในนี้ไม่ได้ รีบออกไปเดี๋ยวนี้อาจารย์ตวาดลั่นใส่ผม พวกเขาไม่แม้แต่จะกล้าแตะตัวศพที่เลือดท่วม ผมหาทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ ก่อนจะพบอะไรที่ในมือหญิงสาวที่กำแน่น เขาต้องแงะมันออกมาก่อนจะพบกระดาษแผ่นหนึ่งและแหวน ในกระดาษเขียนตัวเลขที่เขาไม่รู้ว่าความหมายคืออะไร

     

     

    ออกมาเร็วไนท์มาคว้าตัวผมก่อนจะถูกพวกอาจารย์ทำโทษ เขาเห็นสายตาของรุ่นพี่ที่เพิ่งมีเรื่องกับเราไปอย่างไม่เข้าใจ หัวโจกกลุ่มนั้นมองเขาอย่างเย้ยหยันเหมือนเคย ก่อนจะหันตัวกลับเดินออกไปจากที่เกิดเหตุ

     

     

     

     

     

     

    นายคงไม่เกิดบ้าทำอะไรอย่างนั้นลงไป....เห็นอยู่ว่าคนเยอะขนาดนั้นก้องพูดขึ้นและผมก็มองหน้าเขาเหมือนคนแปลกหน้า ฉันก้องภพ...เรียกก้องก็ได้เขาไม่ได้สนใจชื่อหมอนี่หากสนใจหลอดแก้วสีแดงนั่นต่างหาก

    วันแรกของการเปิดภาคเรียนแท้ๆไนท์พึมพำ ไม่ใช่แค่เราที่รู้สึกแย่กับเหตุการณ์นั้น แต่ผมกลับรู้สึกสงสัยมันมากกว่า หลักฐานนี่จะบอกอะไรกับเขาและทำไมเขาต้องทำมันด้วย

     

     

     

    ไอหลอดแก้วบนหัวนี่มันคืออะไรวะผมหยุดกึกกับความคิดเมื่อก้องภพพูดขึ้น ทั้งผมและไนท์จ้องมองก้องเป็นตาเดียวและซักพักไนท์ก็มองหน้าผม

    นายก็รู้ด้วยใช่มั้ยเขาถามผม ผมไม่ตอบแต่มองสิ่งที่อยู่ในมือตัวเอง

     

     

    พวกเราเป็นใครกันคำถามที่ถูกตั้งขึ้นมาลอยๆซึ่งผมเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้เลย หลังสร็จเรื่องนี้เราค่อยมาสืบหาอีกทีแล้วกัน ก้องภพยังคงทำหน้าสงสัยและมองหลอดแก้วสีแดงบนหัวตัวเอง

     

     

    คดีแรกของท่านจะพิสูจน์ว่าท่านคู่ควรที่จะมีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่ ท่านเซนเสียงหัวเราะโหยหัวของหญิงชรานั้น....ทำไมถึง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×