คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : The X[S]ense ตอน.ปฐมบทห้วงเวลา 1.2
The X[S]ense รหัสคดีลึกลับ
ตอน.ปฐมบทห้วงเวลา 1.2
เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เขาทิ้งตัวลงบนโซฟาในห้องรับแขกที่คอนโด เขาเห็นอะไรแบบนั้นอาจจะเพราะเขากำลังเหนื่อยก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นสีหน้าก็ยังบ่งบอกถึงความนิ่งงันอยู่อย่างเคย พรุ่งนี้เขาต้องไปยื่นใบรายงานตัวที่โรงเรียน วันนี้เขาต้องพักให้เต็มที่
เสียงของนักเรียนที่ทยอยกันมาเพราะวันนี้นอกจากจะรายงานตัวก็ถือว่าเป็นวันเปิดภาคการศึกษาใหม่ของที่นี่ เขาใส่ชุดนักเรียนมาเตรียมพร้อมรับกับสิ่งใหม่ๆ เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเป็นจุดเด่นของที่นี่ สายตาของเด็กสาวมองเขาอย่างหลงใหลแต่เขาก็ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเหล่านั้น
“กันต์!!” ที่นี่ยังมีใครรู้จักผมอีกงั้นเหรอ เขาถูกมือหนึ่งกอดตรงบ่าอย่างสนิทสนม เมื่อหันไปมองก็เจอกับคนที่เคยรู้จักมาก่อนหน้านั้น การันต์หรือไนท์ที่เคยเจอกันที่สนามบินมาเรียนที่นี่ด้วย
“นายเรียนที่นี่ด้วยอ่ะ...ดีเลย อ่ะ...” เขายื่นเอกสารเกี่ยวกับกิจกรรมรับน้องให้ดู ผมรับมาแต่โดยดี
“ขอบใจ”
“นายอยู่ห้องไหนเหรอ” ไนท์ถามผมอีกหน เขาเป็นคนคุยเก่งกว่าผม และผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาอันตราย
“A....นายล่ะ” ไนท์ทำตาโตก่อนจะมองผมอย่างไม่เชื่อ
“นายเหรอห้องA....ฉันอยู่ห้องBอ่ะ” เห็นนิ่งๆแบบนี้กันต์คงจะเก่งไม่เบานะ ขนาดเขาใช้คะแนนยื่นยังได้แค่ห้องบีเลย แต่การเรียนในโรงเรียนระดับคนรวยมากมายขนาดนี้ การมีเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อนจริงๆที่ไม่ใช้ความรวยข่ม
“หลบสิ” เสียงหนึ่งดังขึ้นระหว่างพวกผมอีกครั้ง
“เด็กใหม่ว่ะ” คนพวกนี้คงเป็นรุ่นพี่ของโรงเรียนแน่ๆ เราก็ไม่ได้ยืนขวางทางหรอกแต่จากที่เห็นพวกนี้คงเป็นนักเลงถิ่น ผมก็หลบให้เพราะไม่อยากมีเรื่องตั้งแต่วันแรกที่มาเรียน
“ที่ออกจะกว้าง...ไม่เดินทางอื่นอ่ะ” แต่มีบางคนที่ผมคิดว่าคงอยากมีเรื่อง ผมหันไปหาคู่กรณีแทนผม คนๆนี้ที่มีแถบสีแดงบนหัวและตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าเขาเองก็มี มันเป็นสีดำ และของไนท์เป็นสีฟ้า มันคือเครื่องหมายอะไรกันนะ
“มึงอยากมีปัญหาเหรอวะ” พวกรุ่นพี่เดินเข้ามาใกล้เด็กคนนั้น แต่จู่ๆไนท์ที่ยืนอยู่ข้างผมกลับวิ่งไปขวางหน้าพวกนั้นแทนพร้อมกางแขนจนสุดกั้นไม่ให้คนพวกนั้นเข้ามามีเรื่อง
“ผมขอโทษแทนเพื่อนด้วยครับ....อย่ามีเรื่องกันเลย” คนที่อยู่ด้านหลังเด็กแว่นนี่ทำเอางง แต่พวกรุ่นพี่คงไม่ปล่อยอะไรง่ายๆ เขาตรงเข้ามากระชากคอเสื้อก่อนดึงแว่นตาเขาแล้วโยนทิ้งไป
“ไอแว่นนี่ใครวะ” ผมเห็นท่าไม่ดีแล้ว ทำไมหมอนี่ต้องมากันเขาด้วย ติ๋มๆแบบนี้จะไปสู้อะไรมันได้
“มีเรื่องอะไรกัน” สักพักอาจารย์คนหนึ่งก็เดินมาหยุดเวทีมวยนี้ พวกรุ่นพี่ยอมปล่อยแต่โดยดีก่อนจะจากไปแต่ทิ้งรอยยิ้มหยันให้กับอีกคนข้างหลังไนท์ ผมเดินจากไปจากพื้นที่ตรงนั้นอย่างเฉยชา ไนท์กำลังหาแว่นเพราะเขามองไม่เห็นและตาพร่าเลือน
“อ่ะ แว่นนาย” เขารับมันมาจากมือของคนที่เขาเพิ่งถลาเข้ามาช่วยชีวิตไว้หมาด ผมยิ้มให้เขาก่อนจะมองหาเพื่อนอีกคนที่มาด้วยกัน
“นายนั่นน่ะไปแล้วล่ะ” ผมหันไปมองคนที่ตอบคำถามผม แต่ผมไม่ได้ถามหรอก
“อ๋อ...นายไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ” ผมพูดก่อนจะจัดเสื้อสูทให้มันเข้าที่เหมือนเดิม
“ฉันเคยชนหมอนั่นที่สนามบินเมื่อวานนะถ้าจำไม่ผิด...ดูเขาไม่ค่อยจะแยแสอะไรเลย” ชายคนที่ยืนข้างผมพูด ผมก็เคยรู้สึกแบบนั้นนะตอนแรก แต่ผมเป็นคนเห็นหลอดแก้วสีดำบนหัวของเขาและผมคิดว่าเราวามคนต้องมีอะไรพิเศษมากแน่ๆ ผมมีความสามารถพิเศษอยู่หนึ่งอย่างคือการอ่านใจผู้อื่นและเห็นอนาคตล่วงหน้าได้ ที่ผมช่วยผู้ชายคนข้างๆนี้ก็เพราะรู้สึกเหมือนเป็นพวกเดียวกัน แต่ดูเหมือนเขายังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร
“อ๋อฮ่าๆๆ....ว่าแต่นายชื่ออะไรเหรอ”
“หือ...ก้องน่ะ...” ป้ายชื่อบอกว่าเขาชื่อก้องภพ แต่ที่ถามเพราะอยากเปลี่ยนเรื่องคุยมากกว่า กันต์จะรู้มั้ยว่าตัวเขาเองน่ะไม่ธรรมดา เขาอ่านใจและมองอนาคตของพวกเดียวกันไม่ออกเลย หรือเราสามคนมากจากที่เดียวกันแต่คนล่ะห้วงเวลา เขาสะบัดหัวไล่ความคิดก่อนจะเดินเข้าไปในหอประชุม
มันน่าเบื่อที่ต้องใช้ชีวิตในกรอบ ผมคิด...แต่มันมีอะไรมากกว่า ผมมองเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาซึมๆ ผมจ้องเธอที่เดินผ่านไปอย่างไร้เลื่อนลอยและเธอก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม ใบหน้าเธอนั้นดูซีดเซียวและไร้เรี่ยวแรง เธอมองผมด้วยดวงตาเศร้าศร้อยชนิดที่คนเย็นชาอย่างผมรู้สึกหดหู่ตาม
‘ช่วยฉันด้วย’ ผมเห็นเธอไม่ได้ขยับปากพูด แต่ทำไมผมถึงได้ยิน หลอดแก้วสีขาวมันว่างเปล่า สีจางจนไม่เป็นรูปเป็นร่าง ผมยังคงมองใบหน้าเปื้อนน้ำตานั้นนิ่งพลางหาคำตอบในสิ่งที่เห็น
“กันต์...”
ผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว แต่มีบุคคลอื่นเดินเข้ามาแทน ทั้งคู่ดูมีสีหน้าตื่นๆหรือเพราะเห็นผู้หญิงคนเมื่อครู่กัน แต่ไนท์ก็ทำหน้าตื่นกลัวอะไรบางอย่าง เขามาพร้อมกับผู้ชายที่จะมีเรื่องกับรุ่นพี่พวกนั้น
“นายคุยกับใครน่ะ” ชายแปลกหน้าคนนั้นถามเขา
“ผู้หญิงคนนั้นน่ะ...เธอนอนอยู่หน้าอาคารเก้านะ” ไนท์พูดอะไรผมไม่เข้าใจ แต่แล้วผมก็โดนลากไปโดยไม่ทันตั้งตัว ผมที่ลากกันต์อยู่มองหน้าก้องอย่างงงๆ เราทั้งคู่บอกได้เลยว่าเห็นเหมือนกัน ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งจะกระโดดลงมาจากตึกเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี่เอง และเขาก็กำลังเดินตามหากันต์และเห็นว่ากันต์กำลังอยู่กับผู้หญิงคนนั้น
“นั่นไง” ก้องชี้ไปยังผู้หญิงที่นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด รูปร่างที่ตกลงมาจากชั้นบนของตึกทำให้ดูผิดรูปผิดร่างดูแล้วสยดสยองเหลือคณา เขาเห็นใบหน้าที่มีเส้นผมปิดอยู่แต่ก็พอมองเห็นว่าเป็นเธอจริงๆ สายตานั้นจ้องมองมายังเขานิ่ง
“เธอเป็นเด็กนักเรียนรุ่นพี่เราน่ะ” ไนท์พูด ตอนนี้พวกอาจารย์เริ่มจะเอาเชือกมากั้นตรงพื้นที่อันตรายนี้แล้ว แต่กันต์ไม่อยู่กับที่ตรงนั้นอีก เขาวิ่งเข้าไปยังตัวศพและเริ่มตรวจหาหลักฐานอะไรที่พอจะบอกเหตุได้
“กันต์” ผมเรียกคนที่วิ่งออกไปอย่างตกใจ
“นายเข้ามาในนี้ไม่ได้ รีบออกไปเดี๋ยวนี้” อาจารย์ตวาดลั่นใส่ผม พวกเขาไม่แม้แต่จะกล้าแตะตัวศพที่เลือดท่วม ผมหาทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ ก่อนจะพบอะไรที่ในมือหญิงสาวที่กำแน่น เขาต้องแงะมันออกมาก่อนจะพบกระดาษแผ่นหนึ่งและแหวน ในกระดาษเขียนตัวเลขที่เขาไม่รู้ว่าความหมายคืออะไร
“ออกมาเร็ว” ไนท์มาคว้าตัวผมก่อนจะถูกพวกอาจารย์ทำโทษ เขาเห็นสายตาของรุ่นพี่ที่เพิ่งมีเรื่องกับเราไปอย่างไม่เข้าใจ หัวโจกกลุ่มนั้นมองเขาอย่างเย้ยหยันเหมือนเคย ก่อนจะหันตัวกลับเดินออกไปจากที่เกิดเหตุ
“นายคงไม่เกิดบ้าทำอะไรอย่างนั้นลงไป....เห็นอยู่ว่าคนเยอะขนาดนั้น” ก้องพูดขึ้นและผมก็มองหน้าเขาเหมือนคนแปลกหน้า “ฉันก้องภพ...เรียกก้องก็ได้” เขาไม่ได้สนใจชื่อหมอนี่หากสนใจหลอดแก้วสีแดงนั่นต่างหาก
“วันแรกของการเปิดภาคเรียนแท้ๆ” ไนท์พึมพำ ไม่ใช่แค่เราที่รู้สึกแย่กับเหตุการณ์นั้น แต่ผมกลับรู้สึกสงสัยมันมากกว่า หลักฐานนี่จะบอกอะไรกับเขาและทำไมเขาต้องทำมันด้วย
“ไอหลอดแก้วบนหัวนี่มันคืออะไรวะ” ผมหยุดกึกกับความคิดเมื่อก้องภพพูดขึ้น ทั้งผมและไนท์จ้องมองก้องเป็นตาเดียวและซักพักไนท์ก็มองหน้าผม
“นายก็รู้ด้วยใช่มั้ย” เขาถามผม ผมไม่ตอบแต่มองสิ่งที่อยู่ในมือตัวเอง
“พวกเราเป็นใครกัน” คำถามที่ถูกตั้งขึ้นมาลอยๆซึ่งผมเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้เลย หลังสร็จเรื่องนี้เราค่อยมาสืบหาอีกทีแล้วกัน ก้องภพยังคงทำหน้าสงสัยและมองหลอดแก้วสีแดงบนหัวตัวเอง
‘คดีแรกของท่านจะพิสูจน์ว่าท่านคู่ควรที่จะมีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่ ท่านเซน’ เสียงหัวเราะโหยหัวของหญิงชรานั้น....ทำไมถึง
ความคิดเห็น