ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : เทคนิค (ไม่) ลับ "ร่วมขจัดตัวเกียจคร้านในตัวเอง"
แบบทดสอบความเกียจคร้านในตัวเอง :"D
1.ฉันคิดอยู่เสมอว่าจะต้องทิ้งความเกียจคร้านของตัวเองออกไป < "Yes" or "No" >
่2. คนรอบข้างชอบพูดกับฉันว่า "เธอขี้เกียจมาก" < "Yes" or "No" >
3. ฉันชอบผลัดวันประพรุ่งเวลาทำงาน และชอบอ้างว่า "ไม่มีเวลา" < "Yes" or "No" >
4. ฉันไม่ชอบการทำความสะอาดเอาเสียเลย < "Yes" or "No" >
5. ฉันไม่มีความหวังในอนาคตหรือจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน < "Yes" or "No" >
6.ฉันมีเวลาเล่นเกมมากกว่าเวลาเรียน < "Yes" or "No" >
7. ฉันคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถหรือพรสวรรค์ < "Yes" or "No" >
8. ฉันเคยพยายามหลุดพ้นจากความเกียจคร้านแต่ก็ต้องล้มเหลวทุกครั้ง < "Yes" or "No" >
9. ฉันเข้ากับเพื่อนๆได้ยาก < "Yes" or "No" >
10. ฉันแทบจะไม่เคยสนใจเลยว่าอนาคตตัวเองจะเป็นอย่างไร < "Yes" or "No" >
ผลการทดสอบ
ตอบ "Yes" 1-3 ข้อ แสดงว่าคุณเป็นคนขยัน เย้ๆๆ แปะๆๆ ปรบมือๆ
ขอให้ปฏิยัิติตัวแบบนี้ต่อไป และรักษาสิ่งที่เป็นอยู่ให้สม่ำเสมอ รับรอง รุ่งแน่นอน
ตอบ "Yes" 4-6 ข้อ แสดงว่าคุณเกือบขยันแล้ว
พยายามอีกสักนิด ก็จะกลายเป็นคนขยันแล้ว
ตอบ "Yes" 7 ข้อขึ้นไป แสดงว่าคุณเป็นคนขี้เกียจ
รีบสลัดความเกียจคร้านออกไปก่อนที่จะสายเกินไปนะ
#: แบบทดสอบมาจากหนังสือ ไม่อยากถ้าอยากเป็นคนขยัน
ผลออกมาเป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ?? ใครที่ออกมาว่าเกือบขยันหรือขี้เกียจ ตอนนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะสลัดมันทิ้งนะคะ :"D
ก่อนจะไปเรียนรู้กลวิธีต่างๆ รุ้งว่าเรามารู้จักกับคนขี้เกียจก่อนดีกว่า เอ๊ะ!! อย่าเพิ่งเข้าใจว่ารุ้งจะยกตัวอย่างใครนะ รุ้งแค่จะเอาจุดที่เหมือนๆกันของคนขี้เกียจมาให้ฟัง จะได้สำรวจตัวเองกัน (เพราะมันมีประโยชน์ต่อขั้นแรกของการเปลี่ยนตัวเอง)
ความเหมือนของคนขี้เกียจ
1. ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง
2. ไม่รักษาเวลา
3. ชอบแก้ตัวมากกว่ายอมรับผิดและขอโทษ
4.มีความฝันมากมายแต่ไม่ลงมือทำจริงๆจังๆสักที
5. เป็นคนที่ถ้าไม่สั่งให้ทำก็ไม่คิดจะทำ
ทีนี้ก็มาถึงจุดที่ทุกๆคนรอคอย (หรือเปล่า??) กันแล้วค่ะ ^o^ ต่อไปนี้เราจะมาเรียนรู้สารพัดกลวิธีในการกำจัดตัวขี้เกียจ
อันดับแรกก่อนที่เราจะเริ่มการเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เราก็ต้องยอมรับในข้อด้อยหรือจุดเสียของตัวเองก่อน รุ้งเชื่อว่าทุกคนรู้ในข้อเสียของตัวเองอยู่แล้ว แต่มักจะไม่ยอมรับมากกว่า ถ้าเราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเราต้องเริ่มจากการยอมรับข้อด้อยจุดเสียหรือความขี้เกียจของตัวเองก่อนนะคะ คนที่ยอมรับในข้อเสียของตัวเองไม่ใช่เรื่องหน้าอายค่ะ คนที่ไม่ยอมรับมันนั่นสิที่น่าอายกว่า
การขับไล่ความเกียจคร้านต้องเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวก่อน
- ต้องรักษาสัญญาเสมอ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม :"D หากเราทำตาสัญญาไม่ได้จำไว้ว่าเราต้องรู้จักขอโทษมากกว่าการแก้ตัว
- ต้องรู้จักลำดับความสำคัญของงาน ว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง อย่าทำตามใจมากไปมันจะติดเป็นนิสัยไม่รู้จักเวลา ถ้ากลัวจะทำไม่ได้ เราต้องรู้จักเขียนตารางการทำงาน
สิ่งสำคัญของการเขียนตารางการทำงานของตัวเอง
1. ต้องสร้างแผนที่สามารถทำได้จริง ไม่หักโหมเกินความสามารถของตัวเอง
2. ต้องมีเวลาไว้พัีกบ้าง อย่าเขียนตารางแบบงานนี้เสร็จปุ๊บ ต้องทำอันนั้นต่อทันที อะไรแบบนั้น ต้องเหลื่อมเวลากันสัก 10 - 20 นาที ภายใน 1 งาน หรือ 1 ชั่วโมง
3. ตารางของเราต้องเป็นออริจินอล ไม่ทำตามตารางของคนอื่น อย่าลืมว่าความสามารถของคนเรามันไม่เหมือนกัน มันมีความต่าง เพราะฉะนั้นตารางเป็นตารางของเราก็ต้องดูจากความสามารถของเรา
4. ลองชวนเพื่อนๆทำตารางไปพร้อมกับเรา การที่มีเพื่อนทำไปด้วยจะเป็นแรงกระตุ้นของเรา
- การสร้างเป้าหมาย คนเราเวลาจะทำอะไรต้องมีเหตุผล และมีเป้าหมายก่อน ถ้าไม่มีเป้าหมายเราก็เลื่อนลอยไม่รู้จะทำไปทำไม ทำไปเพื่ออะไร และสุดท้ายเราก็ต้องท้อแท้ ล้มเหลวอีก :"(
- ความพยายามด้วยความอดทน เรามีเป้าหมายแล้วเราก็ต้องพยายามที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย ความพยายามอย่างเดียวคงไม่พอ คนเราต้องมีความอดทนด้วย (อดทนอย่างไรเจอกันกระทู้หน้า อิอิ โฆษณาอีกแล้ว 555 ) ไม่ใช่วางแผนไว้อย่างดิบดี ถึงเวลาท้อไม่อดทนพอ จบเลยทุกอย่างที่ทำมาล้มเหลวอย่างน่าเสียดาย รู้มั้ยทำไมถึงเป็นแบบนั้น ก็เพราะว่า...
1. วางแผนเกินตัว
2. ความตั้งใจลดลงเรื่อยๆขณะพยายาม
3. มีเรื่องนอกเหนือเเผนการบ่อยๆ
แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือ เราไม่อดทนพอต่างหากล่ะ ความอดทนก็เหมือนภูมิคุ้มกันต่อความเกียจคร้าน ท้อแท้ นั่นแหละ เพราะฉะนั้นถ้าขาดความอดทนแล้วเราจะทำสำเร็จได้ไงจริงมั้ย ??
- การใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ คนเรามีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมงต่อ 1 วัน แต่ทุกคนทำในสิ่งที่อยากจะทำได้ไม่เท่ากัน นั่นเพราะการจัดเวลา การใช้เวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน
วิธีใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพ
1. จัดลำดับก่อนหลัง อันนี้ไม่ต้องอธิบายกันมาเนอะ ก็เหมือนกับที่บอกไปข้างต้น
2. อย่าเสียเวลาไปกับการเกียจคร้านหรือการผัดวันประกันพรุ่ง
3. รักษาแผนการของตัวเองเอาไว้ให้ได้
4. มีความตั้งใจมากๆ ไม่ว่าจะทำอะไร
5. คิดถึงอนาคตของตนเองเสมอๆ ใช้ชีวิตและมองโลกในแง่ดี
6. รู้จักพักผ่อนบ้าง ทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวมบ้าง
- เขียนไดอารี่บันทึกความเปลี่ยนแปลง ไดอารี่เป็นบันทึกที่จะทำให้เราได้รู้พัฒนาการการเปลี่ยนแปลงของตัวเองได้
วิธีเขียนไดอารี่เพื่อการเปลี่ยนแปลง
1. ต้องมีสมุดสวยๆสักเล่ม เอาแบบว่าสวยถูกใจเห็นปุ๊บอยากจะหยิบมาเขียนทันที
2. สร้างหัวข้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง แรกๆอาจเขียนเป็นประโยคถามตอบสั้นสัก 3-4 คำถาม ที่ใช้ถามถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง เช่น วันนี้ทำดีอะไรบ้าง วันนี้มีอะไรที่ทำพลาดไป พรุ่งนี้อยากทำอะไรเป็นพิเศษ
3. เขียนอย่างสม่ำเสมอ อันนี้สำคัญมาก เพราะส่วนมากจะเขียนแค่ช่วงเห่อใหม่ๆ พอนานไปก็ขี้เกียจและไม่ยอมเขียน นั่นทำให้ทุกอย่างที่ทำมาพังครืนในทันที
อ่านประโยคทั้งสองแล้วรู้สึกมั้ยคะว่ามันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน อ่านฝั่งซ้ายเราจะรู้สึกมีพลังเพิ่มขึ้น แต่ตรงกันข้ามฝั่งขวาจะตัดทอนกำลังใจ อันนี้รุ้งฝากไว้ให้คิดกันนะคะ ว่า "คนเราจะเพิ่มหรือลดกำลังใจได้ด้วยตัวเราเองเสมอ ทุกอย่างอยู่ที่เราเลือกเองว่าจะเติมพลังใจ หรือจะตัดทอนมันทิ้งไป"
วันนี้ก็มาเยอะพอควรนะคะ เอาเป็นว่าสุดท้ายรุ้งมีประโยคเด็ดที่รุ้งพูดกับตัวเองเสมอมากฝากเพื่อนกันสัก 2 - 3 ประโยค
"ถ้าความสำเร็จได้กันมาง่ายๆ แล้วมันจะมีค่าอะไรให้เราได้ภูมิใจ"
"ไม่มีใครทำอะไรได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือทำ"
"ถ้าไม่รู้จักเรียนรู้ความผิดพลาดของตนเอง ก็จะไม่มีทางจะเดินไปถึงความสำเร็จ"
"จงทำวันนี้ใ้ห้เหมือนว่าชีวิตจะไม่มีพรุ่งนี้"
ปล. ฝาก 2 กระทู้ก่อนหน้าด้วยนะคะ :"D
เทคนิค (ไม่) ลับ \"ไม่ยากถ้าอยากเรียนได้คะแนนดี\" Part 1
เทคนิค (ไม่) ลับ \"ไม่ยากถ้าอยากเรียนได้คะแนนดี\" Part 2
เครดิต:http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2613903
1.ฉันคิดอยู่เสมอว่าจะต้องทิ้งความเกียจคร้านของตัวเองออกไป < "Yes" or "No" >
่2. คนรอบข้างชอบพูดกับฉันว่า "เธอขี้เกียจมาก" < "Yes" or "No" >
3. ฉันชอบผลัดวันประพรุ่งเวลาทำงาน และชอบอ้างว่า "ไม่มีเวลา" < "Yes" or "No" >
4. ฉันไม่ชอบการทำความสะอาดเอาเสียเลย < "Yes" or "No" >
5. ฉันไม่มีความหวังในอนาคตหรือจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน < "Yes" or "No" >
6.ฉันมีเวลาเล่นเกมมากกว่าเวลาเรียน < "Yes" or "No" >
7. ฉันคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถหรือพรสวรรค์ < "Yes" or "No" >
8. ฉันเคยพยายามหลุดพ้นจากความเกียจคร้านแต่ก็ต้องล้มเหลวทุกครั้ง < "Yes" or "No" >
9. ฉันเข้ากับเพื่อนๆได้ยาก < "Yes" or "No" >
10. ฉันแทบจะไม่เคยสนใจเลยว่าอนาคตตัวเองจะเป็นอย่างไร < "Yes" or "No" >
ผลการทดสอบ
ตอบ "Yes" 1-3 ข้อ แสดงว่าคุณเป็นคนขยัน เย้ๆๆ แปะๆๆ ปรบมือๆ
ขอให้ปฏิยัิติตัวแบบนี้ต่อไป และรักษาสิ่งที่เป็นอยู่ให้สม่ำเสมอ รับรอง รุ่งแน่นอน
ตอบ "Yes" 4-6 ข้อ แสดงว่าคุณเกือบขยันแล้ว
พยายามอีกสักนิด ก็จะกลายเป็นคนขยันแล้ว
ตอบ "Yes" 7 ข้อขึ้นไป แสดงว่าคุณเป็นคนขี้เกียจ
รีบสลัดความเกียจคร้านออกไปก่อนที่จะสายเกินไปนะ
#: แบบทดสอบมาจากหนังสือ ไม่อยากถ้าอยากเป็นคนขยัน
ผลออกมาเป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ?? ใครที่ออกมาว่าเกือบขยันหรือขี้เกียจ ตอนนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะสลัดมันทิ้งนะคะ :"D
ก่อนจะไปเรียนรู้กลวิธีต่างๆ รุ้งว่าเรามารู้จักกับคนขี้เกียจก่อนดีกว่า เอ๊ะ!! อย่าเพิ่งเข้าใจว่ารุ้งจะยกตัวอย่างใครนะ รุ้งแค่จะเอาจุดที่เหมือนๆกันของคนขี้เกียจมาให้ฟัง จะได้สำรวจตัวเองกัน (เพราะมันมีประโยชน์ต่อขั้นแรกของการเปลี่ยนตัวเอง)
ความเหมือนของคนขี้เกียจ
1. ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง
2. ไม่รักษาเวลา
3. ชอบแก้ตัวมากกว่ายอมรับผิดและขอโทษ
4.มีความฝันมากมายแต่ไม่ลงมือทำจริงๆจังๆสักที
5. เป็นคนที่ถ้าไม่สั่งให้ทำก็ไม่คิดจะทำ
ทีนี้ก็มาถึงจุดที่ทุกๆคนรอคอย (หรือเปล่า??) กันแล้วค่ะ ^o^ ต่อไปนี้เราจะมาเรียนรู้สารพัดกลวิธีในการกำจัดตัวขี้เกียจ
อันดับแรกก่อนที่เราจะเริ่มการเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เราก็ต้องยอมรับในข้อด้อยหรือจุดเสียของตัวเองก่อน รุ้งเชื่อว่าทุกคนรู้ในข้อเสียของตัวเองอยู่แล้ว แต่มักจะไม่ยอมรับมากกว่า ถ้าเราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเราต้องเริ่มจากการยอมรับข้อด้อยจุดเสียหรือความขี้เกียจของตัวเองก่อนนะคะ คนที่ยอมรับในข้อเสียของตัวเองไม่ใช่เรื่องหน้าอายค่ะ คนที่ไม่ยอมรับมันนั่นสิที่น่าอายกว่า
การขับไล่ความเกียจคร้านต้องเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวก่อน
- ต้องรักษาสัญญาเสมอ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม :"D หากเราทำตาสัญญาไม่ได้จำไว้ว่าเราต้องรู้จักขอโทษมากกว่าการแก้ตัว
- ต้องรู้จักลำดับความสำคัญของงาน ว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง อย่าทำตามใจมากไปมันจะติดเป็นนิสัยไม่รู้จักเวลา ถ้ากลัวจะทำไม่ได้ เราต้องรู้จักเขียนตารางการทำงาน
สิ่งสำคัญของการเขียนตารางการทำงานของตัวเอง
1. ต้องสร้างแผนที่สามารถทำได้จริง ไม่หักโหมเกินความสามารถของตัวเอง
2. ต้องมีเวลาไว้พัีกบ้าง อย่าเขียนตารางแบบงานนี้เสร็จปุ๊บ ต้องทำอันนั้นต่อทันที อะไรแบบนั้น ต้องเหลื่อมเวลากันสัก 10 - 20 นาที ภายใน 1 งาน หรือ 1 ชั่วโมง
3. ตารางของเราต้องเป็นออริจินอล ไม่ทำตามตารางของคนอื่น อย่าลืมว่าความสามารถของคนเรามันไม่เหมือนกัน มันมีความต่าง เพราะฉะนั้นตารางเป็นตารางของเราก็ต้องดูจากความสามารถของเรา
4. ลองชวนเพื่อนๆทำตารางไปพร้อมกับเรา การที่มีเพื่อนทำไปด้วยจะเป็นแรงกระตุ้นของเรา
- การสร้างเป้าหมาย คนเราเวลาจะทำอะไรต้องมีเหตุผล และมีเป้าหมายก่อน ถ้าไม่มีเป้าหมายเราก็เลื่อนลอยไม่รู้จะทำไปทำไม ทำไปเพื่ออะไร และสุดท้ายเราก็ต้องท้อแท้ ล้มเหลวอีก :"(
- ความพยายามด้วยความอดทน เรามีเป้าหมายแล้วเราก็ต้องพยายามที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย ความพยายามอย่างเดียวคงไม่พอ คนเราต้องมีความอดทนด้วย (อดทนอย่างไรเจอกันกระทู้หน้า อิอิ โฆษณาอีกแล้ว 555 ) ไม่ใช่วางแผนไว้อย่างดิบดี ถึงเวลาท้อไม่อดทนพอ จบเลยทุกอย่างที่ทำมาล้มเหลวอย่างน่าเสียดาย รู้มั้ยทำไมถึงเป็นแบบนั้น ก็เพราะว่า...
1. วางแผนเกินตัว
2. ความตั้งใจลดลงเรื่อยๆขณะพยายาม
3. มีเรื่องนอกเหนือเเผนการบ่อยๆ
แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือ เราไม่อดทนพอต่างหากล่ะ ความอดทนก็เหมือนภูมิคุ้มกันต่อความเกียจคร้าน ท้อแท้ นั่นแหละ เพราะฉะนั้นถ้าขาดความอดทนแล้วเราจะทำสำเร็จได้ไงจริงมั้ย ??
- การใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ คนเรามีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมงต่อ 1 วัน แต่ทุกคนทำในสิ่งที่อยากจะทำได้ไม่เท่ากัน นั่นเพราะการจัดเวลา การใช้เวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน
วิธีใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพ
1. จัดลำดับก่อนหลัง อันนี้ไม่ต้องอธิบายกันมาเนอะ ก็เหมือนกับที่บอกไปข้างต้น
2. อย่าเสียเวลาไปกับการเกียจคร้านหรือการผัดวันประกันพรุ่ง
3. รักษาแผนการของตัวเองเอาไว้ให้ได้
4. มีความตั้งใจมากๆ ไม่ว่าจะทำอะไร
5. คิดถึงอนาคตของตนเองเสมอๆ ใช้ชีวิตและมองโลกในแง่ดี
6. รู้จักพักผ่อนบ้าง ทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวมบ้าง
- เขียนไดอารี่บันทึกความเปลี่ยนแปลง ไดอารี่เป็นบันทึกที่จะทำให้เราได้รู้พัฒนาการการเปลี่ยนแปลงของตัวเองได้
วิธีเขียนไดอารี่เพื่อการเปลี่ยนแปลง
1. ต้องมีสมุดสวยๆสักเล่ม เอาแบบว่าสวยถูกใจเห็นปุ๊บอยากจะหยิบมาเขียนทันที
2. สร้างหัวข้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง แรกๆอาจเขียนเป็นประโยคถามตอบสั้นสัก 3-4 คำถาม ที่ใช้ถามถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง เช่น วันนี้ทำดีอะไรบ้าง วันนี้มีอะไรที่ทำพลาดไป พรุ่งนี้อยากทำอะไรเป็นพิเศษ
3. เขียนอย่างสม่ำเสมอ อันนี้สำคัญมาก เพราะส่วนมากจะเขียนแค่ช่วงเห่อใหม่ๆ พอนานไปก็ขี้เกียจและไม่ยอมเขียน นั่นทำให้ทุกอย่างที่ทำมาพังครืนในทันที
เป็นไงกันบ้างค่ะ ที่รุ้งนำมาฝากทำให้เพื่อนผิดหวังกันหรือเปล่า ??
วันนี้รุ้งไม่ได้มาแค่นี้แน่นอนค่ะ เพื่อนๆให้การสนใจมากขนาดนี้มาแค่นี้คงไม่ได้
เหมือนทุกครั้ง รุ้งมีทริคเล็กๆน้อยๆมาฝากกันเช่นเคยค่ะ
วันนี้รุ้งไม่ได้มาแค่นี้แน่นอนค่ะ เพื่อนๆให้การสนใจมากขนาดนี้มาแค่นี้คงไม่ได้
เหมือนทุกครั้ง รุ้งมีทริคเล็กๆน้อยๆมาฝากกันเช่นเคยค่ะ
ทริคเด็ดๆ :"D
คาถาหลักหนีความท้อแท้ ความเกียจคร้าน
1. ถึงวันนี้จะผิดหวังแต่พรุ่งนี้จะต้องสำเร็จ
2. ล้มเหลวก่อนเป็นพื้นฐานความสำเร็จที่มั่นคง
3. วันนี้ทำพลาดแต่พรุ่งนี้ต้องทำได้ดีกว่าเดิมแน่ๆ
4. คู่แข่งที่สำคัญ คือ ตัวของเราเอง
หลีกหนีได้แล้วต้องเติมพลังกันหน่อยสินะ
คาถาหลักหนีความท้อแท้ ความเกียจคร้าน
1. ถึงวันนี้จะผิดหวังแต่พรุ่งนี้จะต้องสำเร็จ
2. ล้มเหลวก่อนเป็นพื้นฐานความสำเร็จที่มั่นคง
3. วันนี้ทำพลาดแต่พรุ่งนี้ต้องทำได้ดีกว่าเดิมแน่ๆ
4. คู่แข่งที่สำคัญ คือ ตัวของเราเอง
หลีกหนีได้แล้วต้องเติมพลังกันหน่อยสินะ
ประโยควิเศษสร้างความขยัน ประโยคที่สร้างความเกียจคร้าน
"ฉันต้องทำได้" "ฉันทำไม่ได้หรอก"
"ผลของงานขึ้นอยู่ที่ความขยันและพยายาม" "ถ้าทำแบบนี้ ฉันล้มเหลวแน่นอน"
"คนที่ล้มเหลวคือคนที่ไม่พยายาม" "ทำไมฉันไม่มีพรสวรรค์เลยนะ"
"พยายามอีกนิดต้องดีกว่าเดิมแน่นอน" "ต่อให้พยายามแค่ไหนก็คงทำไม่ได้"
อ่านประโยคทั้งสองแล้วรู้สึกมั้ยคะว่ามันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน อ่านฝั่งซ้ายเราจะรู้สึกมีพลังเพิ่มขึ้น แต่ตรงกันข้ามฝั่งขวาจะตัดทอนกำลังใจ อันนี้รุ้งฝากไว้ให้คิดกันนะคะ ว่า "คนเราจะเพิ่มหรือลดกำลังใจได้ด้วยตัวเราเองเสมอ ทุกอย่างอยู่ที่เราเลือกเองว่าจะเติมพลังใจ หรือจะตัดทอนมันทิ้งไป"
วันนี้ก็มาเยอะพอควรนะคะ เอาเป็นว่าสุดท้ายรุ้งมีประโยคเด็ดที่รุ้งพูดกับตัวเองเสมอมากฝากเพื่อนกันสัก 2 - 3 ประโยค
"ถ้าความสำเร็จได้กันมาง่ายๆ แล้วมันจะมีค่าอะไรให้เราได้ภูมิใจ"
"ไม่มีใครทำอะไรได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือทำ"
"ถ้าไม่รู้จักเรียนรู้ความผิดพลาดของตนเอง ก็จะไม่มีทางจะเดินไปถึงความสำเร็จ"
"จงทำวันนี้ใ้ห้เหมือนว่าชีวิตจะไม่มีพรุ่งนี้"
ปล. ฝาก 2 กระทู้ก่อนหน้าด้วยนะคะ :"D
เทคนิค (ไม่) ลับ \"ไม่ยากถ้าอยากเรียนได้คะแนนดี\" Part 1
เทคนิค (ไม่) ลับ \"ไม่ยากถ้าอยากเรียนได้คะแนนดี\" Part 2
เครดิต:http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2613903
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น