คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : นักทำนายประหลาด
“บอกมาซิ แกเห็นอะไรในลูกแก้วบ้าง”
“อืม...” เสียงบ่นงึมงำอย่างหนักใจ ขณะที่ดวงตากำลังเพ่งพินิจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
“ฉันเห็น...ชายแก่”
“แล้วไงอีก”
“อืม...หัวล้าน”
“แค่นั้นหรอ”
“ขี้บ่น น่ารำคาญ”
คำเปรยที่เรียกให้คนถามชะงัก เสียงคนถามเงียบไปแล้วแต่คนพูดยังคงสาธยายต่อ ด้วยสีหน้าเหมือนพยายามใช้ความคิดอย่างหนัก
“หน้าคล้ายอูฐในตำนานแต่ว่าไม่มีโหนกที่กลางหลัง เดี๋ยวๆ...แต่มีหัวโล้นเลี่ยนมันแผล่บ...”
พูดยังไม่ทันจบมือใหญ่ก็วาดป้าบลงกลางหัวของเจ้าคนปากดีทำเอานักทำนายฝึกหัดหัวขมำหน้าทิ่มไปกับโต๊ะกลมตัวเล็กกลางห้อง
“มันเจ็บนะพ่อ” คำบ่นอุบอิบของชายหนุ่มวัย 18 ปีดูไม่ค่อยน่าเอ็นดูสักเท่าไหร่ ในสายตาของคนเป็นพ่อแล้วมันดูน่าถีบซะมากกว่า ดวงตาสีม่วงแดงเข้มเหมือนอัญมณีมีน้ำตาแห่งความเจ็บปวดคลออยู่เล็กน้อย มือใหญ่คลำหัวป้อยอย่างมึนงง ใต้เรือนผมสีม่วงเข้มจนเกือบดำมีรอยปูดโนขึ้นมาด้วยฤทธิ์เดชฝ่ามือของนักต้มตุ๋นตัวเอ้ในคราบนักทำนายคนเก่ง
ชายแก่หัวล้านยืนฟึดฟัดอยู่เหนือหัวไอ้ลูกชายไม่ได้ความ ทั้งที่จะฝึกมันให้มีทักษะในการพูดจาโน้มน้าว ชักจูงความสนใจลูกค้า แต่มันกลับวกมาด่าว่าเขาหน้าเหมือนอูฐซะนี่
“ก็สมควรอยู่หรอกกะไอ้ที่แกทำเป็นเล่นอยู่เนี่ย” ชายแก่เอ่ยอย่างมีอารมณ์ เขามองดูเจ้าลูกชายตัวดีตรงหน้าที่สรรหาแต่ความปวดหัวมาให้ไม่เว้นวัน
ใบหน้าขาวจัดแม้จะดูผ่องใสและระบายด้วยรอยยิ้มน้อยๆ แต่กลับดูน่ากลัวเมื่อเจ้าตัวดูเหม่อลอยราวกับอยู่ในความฝัน ที่หูซ้ายมีสิ่งประดับที่เหมือนเขี้ยวสัตว์มีพิษในตำนาน หูขวาห้อยสิ่งที่เหมือนขนนกยาวเรียวสีสดสวยงาม ใต้ลำคอแกร่งมีสร้อยเส้นยาวร้อยผ่านกระดูกสัตว์ที่แกะสลักเป็นรูปดาวห้าแฉก เขาสัตว์ขนาดเล็กเท่านิ้วก้อย และหัวกะโหลกของลิงป่าขนาดเล็กเท่าเหรียญสิบ
ของอาถรรพ์ต่างๆที่มันไปสรรหามาประดับตัวถึงแม้หลายครั้งที่เขาจะแอบขโมยไปโยนทิ้งแต่ของอาถรรพ์นั่นก็เหมือนจะจดจำเจ้าของมันได้เพราะวันต่อมาเขาก็เห็นมันเอามาห้อยคอโชว์เด่นหราเหมือนเดิม
แสงแดดยามบ่ายของเมืองเพิร์ทลอดผ่านผ้าคลุมเพิงไม้เล็กๆที่เขามาตั้งปักหลักเปิดร้านดูดวงทำนายโชคชะตาหลังจากที่เดินทางข้ามเมืองมากว่า 10 วันที่นี่ดูจะเป็นเมืองใหญ่ที่ต้องมีเหยื่อมากมายมาให้เขาหลอกต้มทุกวันแน่ ทุกอย่างในบ่ายวันนี้ดูสดใสเหมาะแก่การทำมาหากินเป็นที่สุดเสียก็แต่ไอ้ลูกชายตัวดีที่หวังพึ่งอะไรไม่ค่อยจะได้ เมื่อหันไปมองมันอีกครั้งก็ยิ่งหงุดหงิดใจ
ลูกแก้วของปลอมที่เขาใช้ในการดูดวงถูกเจ้าตัวดีงัดแงะแกะออกมาจนแบตเตอรี่และสายไฟห้อยระโยงระยางไปหมด
“ฟรอน นีลโบร์ เดี๋ยวเหอะแกถ้ามีใครโผล่มาเห็นเข้ามีหวังทั้งแกและฉันได้อดข้าวตายกันที่นี่แน่” เขาแยกเขี้ยวใส่มันอย่างหมดความอดทนแล้วกระชากอุปกรณ์หากินจากคนตรงหน้าที่ขยันหาแต่เรื่องวุ่นวาย
“แกนี่ดีแต่หาเรื่องยุ่งๆ หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้างสิวะ อายุ 18 แล้วยังติดฉันแจแบบเนี้ย ชาตินี้จะไปทำอะไรกิน” ชายแก่บ่นอุบอิบพลางหาทางประกอบกลับให้เป็นอย่างเดิม
แต่คนโดนว่ากลับหยิบสำรับไพ่มานั่งทำความสะอาดเล่นแล้วเอ่ย
“แล้วที่พ่อมานั่งหลอกชาวบ้านได้ทุกวี่ทุกวันนี่ไม่ได้เป็นเพราะฉันหรอกหรอ” นัยน์ตาสีม่วงจ้องมองผู้เป็นพ่อด้วยประกายวาววับ
“ถ้าไม่ใช่เพราะพลังทำนายที่มีมาตั้งแต่เกิดป่านนี้ฉันคงถูกทิ้งให้ไปนั่งขอทานอยู่ข้างถนนที่แฟรมมิลล์แล้ว”
คนเป็นพ่อทำหน้าเบื่อหน่าย
“ไอ้พลังสั่วๆที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายนั่นหรอวะที่แกจะเอามาทวงบุญคุณ บอกไว้ก่อนว่าฉันไม่ได้ใช้พลังของแกหากินมาเป็นชาติแล้ว” ชายแก่ตวาดแว้ดแล้วเริ่มบ่น
“แกควรจะหาอาชีพให้ตัวเองได้แล้วฟรอน จะให้ฉันอยู่ดูแลแกไปอีกกี่ชาติกัน” พูดจบแสงสว่างก็ลอดผ่านข้ามาในเพิงไม้เรียกให้คนในห้องหันไปมองผู้มาเยือนที่เพิ่งเดินตกหลุมพลางของนักต้มตุ๋นต่างเมือง
ชายหนุ่มในร่างที่สมส่วน กล้ามใหญ่เป็นมัดดูแข็งแกร่ง และดาบใหญ่ที่สะพายไว้ด้านข้างทำให้ชายหนุ่มดูองอาจและสง่างามแม้จะไม่ได้อยู่ในชุดเครื่องแบบแต่ก็ทำให้คนมองรู้ได้ว่าเขาต้องเป็นคนมีตำแหน่งเมืองนี้แน่ๆ
รอยยิ้มของชายหนุ่มดูเป็นมิตรยามที่เขาเอ่ยถามเสียงทุ้ม
“ที่นี่ดูดวงโชตชะตาใช่มั้ย”
ชายแก่รีบกุลีกจอเดินเข้าต้อนรับเป็นอย่างดี
“ท่านมาถูกที่แล้วพ่อยอดชาย อยากรู้เรื่องอะไรล่ะ หน้าที่การงาน การเงิน หรือการเลื่อนยศเลื่อนขั้น”
ฟรอนขยับยิ้มมุมปากไอ้หนุ่มมาดดีนั่นตกหลุมพรางพ่อจนได้ สำหรับเซียนต้มตุ๋นตรงหน้าแค่มองดูบุคลิกภายนอกของคนก็สามารถเดาได้ว่าคนๆนั้นเป็นคนระดับไหน ไอ้ที่เห็นว่ากล้ามใหญ่โตนั่นคงหนีไม่พ้นพวกมียศมีตำแหน่งในการดูแลบ้านเมือง แล้วไอ้หนุ่มนั่นมันทำตาโตทันทีที่พ่อพูดเกี่ยวกับการเลื่อนขั้นแค่นั้นก็ทำเอาเซียนอย่างพ่อจับทางถูกว่าควรเอ่ยยอเรื่องไหน พูดโม้เรื่องอะไร
ดูท่าวันนี้คงได้ทิปเยอะ
ฟรอนยิ้มร่าให้กับความสำเร็จในอีกไม่นานของพ่อ
“วันนี้มีการคัดเลือกเข้าศูนย์ฝึกองครักษ์เฮมพ์เบิร์กเป็นวันสุดท้ายอยากรู้ว่าฉันในฐานะผู้ควบคุมดูแลเรื่องต่างๆมากมายในศูนย์ฝึกปีนี้จะได้มีโอกาสเลื่อนขั้นกับเขาบ้างรึเปล่า”
ชายหนุ่มถาม
“ศูนย์ฝึกองครักษ์เฮมพ์เบิร์ก เออ จริงสิ ที่นี่มันเมืองเพิร์ทนี่นา” ชายแก่เอ่ยอย่างเพิ่งนึกได้
“ศูนย์ฝึกที่พ่อเคยเล่าให้ฟังน่ะหรอ” ฟรอนเอ่ยถามเสียงดังอย่างลืมตัวเรียกให้คนเป็นพ่อหันมองแล้วส่งสายตาท่าทางประมาณว่า แกรีบออกไปให้พ้น ฉันจะทำงาน
ฟรอนถอนหายใจแล้วตัดสินใจเดินออกไปตามที่พ่อสั่ง แสงแดดยามบ่ายทอประกายจ้าจนแสบตาหลังจากอยู่ในเพิงมืดๆมาทั้งวัน เขาเพิ่งรู้สึกเดี๋ยวนี้เองว่าท้องของเขาว่างจนแสบไปหมดน้ำซุปกะหล่ำปลีมือเช้าย่อยหมดไปนานแล้วและด้วยลูกค้ารายแรกเพิ่งจะเดินเข้ามาทำให้อาหารมื้อกลางวันยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย
เจ้าตัวเห็นแอปเปิ้ลผลใหญ่สีแดงอวบอิ่มอยู่ตรงร้านขายผลไม้เบื้องหน้า ผู้คนในตลาดเดินกันขวักไขว่ สายตาของพวกเขาจับจ้องมาที่เด็กหนุ่มอย่างหวาดระแวงอาจเป็นเพราะเครื่องประดับที่ดูน่ากลัวและเสื้อคลุมตัวหลวมโพรกสีเข้มที่ทำให้เขาต้องเดินห่อตัว
ฟรอนควานหาเศษเงินในเสื้อคลุมแล้วตัดสินใจเดินตรงไปยังร้านขายผลไม้
“แอปเปิ้ลขายยังไงครับ” เขาเอ่ยเสียงทุ้ม เสียงของชายหนุ่มหวานชวนฟังทำเอาแม่ค้าร่างใหญ่หันมาด้วยรอยยิ้มขวยเขิน แต่เมื่อเขาหันมาสบดวงหน้าดูดีแต่น่ากลัวมันก็ทำเอารอยยิ้มนั้นหายวับไปสนิท
“เอ่อ 3 กิล” เธอเอ่ยด้วยแววตาระแวงไม่ไว้ใจ ฟรอนยื่นเศษเงินให้เธอและรับแอปเปิ้ลมาอย่างถูกใจ
เขากำลังจะกัดเจ้าแอปเปิ้ลอวบอูมนาทีเดียวกับที่ดาบใหญ่วาดฟึ่บอย่างรวดเร็ว เสียงกรีดร้องของแม่ค้าดังลั่น แอปเปิ้ลที่กำลังจะถูกส่งเข้าปากถูกผ่าครึ่งลงไปกลิ้งอยู่ที่พื้น ฟรอนใจหายวาบหันไปมองที่มาของดาบ
ชายหนุ่มที่เพิ่งมาให้พ่อเขาดูดวงยืนถือดาบใหญ่นิ่งดวงตาคู่สวยนั้นดุดันและน่ากลัวปลายดาบมีรอยเลือดสีแดงข้นชวนขนลุกแต่แล้วความคิดที่แวบเข้ามาทำให้เขาตัวชานิ่งด้วยความตกใจ
เลือด!!
พ่อ!!
ฟรอนเลือดขึ้นหน้าจนคุมสติไม่อยู่ แม้จะหวาดกลัวเจ้าดาบใหญ่ตรงหน้าแต่ความโกรธมันมีมากกว่าเท่าตัว
“แกทำอะไรพ่อ” เสียงตะโกนของเขาดังไปทั่วทั้งตลาดคนใจเหี้ยมตรงหน้ายังถือดาบนิ่ง ฟรอนตัดสินใจคว้ามีดสับหมูของร้านขายเนื้อขึ้นมาถือไว้ ถึงเขาจะตายเขาก็ไม่ยอมให้เลือดพ่อเสียเปล่า
ฟรอนเงื้อมือที่ถือมีดหวังจะฟาดฟันคนตรงหน้า
แต่แล้วมือใหญ่ก็ฟาดป้าบเป็นครั้งที่สองของวัน รสชาติความเจ็บแปลบที่คุ้นเคยพาเอาฟรอนรีบหันขวับไปมองด้านหลัง คนที่เขาคิดว่ากลายเป็นเครื่องสังเวยดาบใหญ่ตรงหน้ากลับวิ่งมาหลบด้านหลังโดยที่เขาไม่รู้ตัว
“พ่อ” ฟรอนเอ่ย
“เรียกทำไมข้าก็พ่อเอ็งนั่นแหละ” ด้วยความสับสนบุรุษถือดาบก็เดินย่างสามขุนเข้ามา
“แกสองพ่อลูกรวมหัวกันหลอกชาวบ้าน โทษของพวกนักต้มตุ๋นต้องถูกขังในเรือนจำ” ดาบใหญ่เหวี่ยงวูบฟรอนลากพ่อกระโดดหลบแล้ววิ่ง
เสียงโหวกเหวกดังทั่วตลาดที่เขาวิ่งผ่าน มือใหญ่ที่ลากคอเสื้อคนเป็นพ่อชาดิกจนไร้ความรู้สึก เมื่อได้ทีเจ้าตัวก็รีบวิ่งหลบเข้ามุมร้านน้ำชาที่คนยืนกันแน่น ลากคนเป็นพ่อที่หอบตัวโยนมาหลบหลังร้าน
“อะไรกันเนี่ยพ่อ” ฟรอนถามเสียงหอบ แต่คนเป็นพ่อถึงกับตวาดแว้ด
“ก็เอ็งแหละไอ้ลูกเฮงซวย เสือกมาแกะลูกแก้วข้าเล่น ตอนข้าดูดวงให้ไอ้องครักษ์นั่นมันถึงได้ระเบิดใส่หน้า สายไฟระโยงระยางไปหมดไอ้หมอนั่นมันถึงตามเจื๋อนเราอยู่นี่ไงล่ะ” ชายแก่พูดพลางหอบหายใจ แต่ฟรอนยังไม่หายสงสัย
“แล้วเลือดที่ดาบนั่น” ชายแก่พ่นลมหายใจเยาะ
“นั่นมันเลือดไก่ของชาวบ้านแถวนั้น แกไม่ดูให้ดีซะเองเสือกโวยวายยกใหญ่” คนเป็นพ่อกล่าวแล้วโยนถุงย่ามให้ลูกชายตรงหน้า
“อะไรพ่อ” ฟรอนถามอย่างสงสัย
“บ๊ะ ก็ของจำเป็นที่ข้ารวบมาได้ตอนที่หนีออกมาน่ะสิ แกเก็บไว้ดีๆละกันยัดๆไว้ในเสื้อคลุมหลวมๆของแกนั่นแหละพวกเจ้าหน้าที่จะได้ไม่สังเกต”
เจ้าตัวดีโยนกลับไปให้พ่อ
“พ่อแบกไว้สิเดี๋ยวฉันจะแบกพ่อหนีเอง” คำพูดของฟรอนที่ทำเอาผู้เป็นพ่อถึงกับระเบิดอารมณ์อย่างเก็บไม่อยู่ โยนของกลับไปให้มันอีกครั้งพร้อมตวาดเสียงดัง
“แกไปคนเดียว ฉันจะกลับบ้าน” คำตอบที่ฟรอนมุ่นหัวคิ้วก่อนจะทำตาโต
“พ่อจะทิ้งฉันหรอ” ชายแก่เบือนหน้าบอกความเบื่อหน่าย
“ใครบอกว่าฉันจะทิ้งแก ฉันแค่จะกลับบ้านก่อนแกเท่านั้นแหละ เราแยกกันไปมันจะได้ตามจับไม่ทัน”
“แต่ฉันไม่รู้ทางกลับแฟรมมิลล์นี่”
“นั่นไงฉันถึงบอกให้แกเก็บของหากินนั่นไว้จนกว่าแกจะหาทางกลับได้” ฟรอนกลืนน้ำลายลงคอ
“แล้วฉันต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปตลอดน่ะหรอ”
“แกหาทางรอดได้อยู่แล้ว” ชายแก่ใช้มือตบลงบนหัวลูกชายเบาๆ
“แกโตพอแล้วฟรอน ฉันเชื่อว่าแกทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้” ชายแก่พูดพร้อมรอยยิ้มมันพาลเอาชายหนุ่มถึงกับนิ่งด้วยความซึ้งใจเป็นครั้งแรก
“พ่อ” ฟรอนครางเสียงอ่อนคนเป็นพ่อลุกขึ้นเตรียมจะใช้วิชาย่องเงียบ
“เออ ฟรอนจำได้มั้ยที่ฉันเคยเล่าเรื่องศูนย์ฝึกองครักษ์เฮมพ์เบิร์กให้แกฟัง”
ฟรอนพยักหน้า
“ถ้าใครเข้าที่นั่นได้ประวัติที่เคยแย่ๆจะถูกลบไปหมด แกลองตัดสินใจให้ดี” พูดจบร่างของชายแก่หัวล้านก็ค่อยๆเดินย่องผ่านออกทางหน้าร้านน้ำชาเขาหันมาขยิบตาให้ลูกชายที่หนึ่งก่อนจะหายวับไปในฝูงชน
ฟรอนยังนั่งนิ่งไม่รู้ว่าควรจะไปไหนดีแต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยตะโกนลั่นทั่วตลาด
“ไอ้นักต้มตุ๋นมันแอบหลบอยู่หลังร้านน้ำชาน่ะ รีบไปจับมันเร็ว” ฟรอนขยับรอยยิ้มเหี้ยมอย่างเจ็บใจ เขาไม่น่าหลงเชื่อคำพูดของพ่อเลย ทั้งหมดนี่แค่จะพยายามสะบัดเขาให้หลุดเท่านั้น
ฟรอนได้แต่บ่นด่าในใจเมื่อองครักษ์ร่างใหญ่กำลังเดินมาที่เขาใช้เชือกมัดมือแล้วลากเขาไปตามทาง ฟรอนได้แต่หลบตาพวกชาวบ้านและแอบหวังในใจว่าสักวันเจ้าพ่อตัวดีนั่นมันต้องโดนดีด้วยแน่ๆ ฟรอนสาบานกับตัวเองว่าถ้าเขาหาทางกลับไปแฟรมมิลล์ได้เมื่อไหร่เขาจะวิ่งไปเตะคุณพ่อตัวดีสักป้าบอย่างสาสมให้หายแค้นเลย
ไอ้พ่อตัวแสบ!!
ความคิดเห็น