ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    องครักษ์ฉบับเพี้ยน

    ลำดับตอนที่ #2 : เวทมนตร์แห่งแฟรมมิลล์

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 50


    สภาพห้องขังเก่าทรุดโทรมเหลือจะทน  มีเศษฟางชื้นๆเหม็นอับกองเป็นหย่อมๆทับบนพื้นห้องเฉอะแฉะ  กลางห้องมีรถขนฟางคันเล็กๆที่มีฟางกองอยู่เต็มเหมือนกับถูกลืมเอาไว้ หนูตัวใหญ่วิ่งหลบมุมมุดเข้าออกกองฟางกันอย่างสนุกสนาน  แต่โชคก็ยังดีที่อย่างน้อยเขาได้เข้ามาเป็นคนแรกของห้อง  ไม่อย่างนั้นถ้าต้องไปอยู่รวมกับพวกห้องข้างๆแล้วล่ะก็ไม่นานเรื่องก็ต้องเข้ามาหาเขาอีกแน่ๆ



               “
    โชคดีที่ห้องข้างๆมันเต็มแล้วแกเลยได้อยู่ห้องใหม่  ไม่งั้นแกจะได้เจอรับน้องมหาโหดแน่  ผู้ตรวจการณ์ปิดห้องขังดังสนั่นแล้วลงกลอนแน่นหนา

    6โมงเย็นฉันจะมาปล่อยแกไป  เขาพูดเพียงแค่นั้นแล้วเดินจากไป



                     ฟรอนกวาดตามองสภาพห้องแล้วจึงตัดสนใจเลือกที่นั่งใกล้กับประตูที่แห้งและไม่มีหนูเดิน  เขานั่งลงยองๆกอดเข่าเงียบๆหยิบเอาขนนกก้านเรียวยาวสีน้ำเงิน  เหลือง  และแดงสดผสมกันอย่างกลมกลืนสวยงามออกมาแล้วคาบมันไว้ในปาก  เขานั่งเท้าคางแล้วฮัมเพลง
    ปีศาจจงเจริญ  ของเผ่าแดชมันตะวันตกเบาๆเฝ้ารอเวลาที่ดวงตะวันจะตกดินแล้วเขาจะได้ออกจากคุกสักที



               “
    ท่าทางนายไม่เหมือนพวกโจรผู้ร้ายเลยนะ

    เสียงเปรยเรียบๆทำเอาฟรอนสะดุ้งเฮือก  เพิ่งสังเกตเห็นเดี๋ยวนี้เองว่ามีผู้ที่มาอยู่ก่อนแล้วนอนอยู่หลังฟางกองใหญ่  คนตรงหน้ามองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มน้อยๆ



                      เขาเป็นชายที่มีรูปร่างสมส่วนดูดี  ใบหน้าครบเครื่องไปด้วยจมูกที่คมสันและดวงตาสีฟ้าที่ฉายแววฉลาดรอบรู้เกินตัว  ผมสีเงินยาวจนถึงเอวแม้เจ้าตัวจะถักเป็นเปียหลวมๆแต่ก็ดูนุ่มและสวยเงางามทำให้รู้ว่าเจ้าของนั้นดูแลรักษามันเป็นอย่างดี  

                       ผ้าคาดผมสีน้ำเงินถูกคาดไว้ที่หน้าผากดูเด่นสะดุดตา  เรือนผมสีเงินที่ยาวปรกใบหน้าขาวสะอาดทำให้ฟรอนคิดว่าเขาดูน่าจะเป็นคุณชายจากที่ไหนสักแห่งมากกว่าจะมาเป็นคนที่นอนเล่นอยู่ในคุกกลางวันแสกๆแบบนี้



                “
    นายก็ไม่เหมือนโจรผู้ร้ายเหมือนกันนี่นา  ฟรอนพูดบ้าง  ทำให้เขาขยับรอยยิ้มขึ้นไปอีกแล้วยืดกายขึ้น  เขาดูแก่กว่าฟรอนเล็กน้อยร่างของเขาดูภูมิฐานผิดกับตอนนอนอาจเป็นเพราะการแต่งตัวและการวางมาดที่ทำให้เขาดูเหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบอยู่เต็มตัว



                “
    แน่นอนอยู่แล้ว  ฉันไม่ใช่  บางทีฉันก็คิดเหมือนกันว่าระบบความปลอดภัยที่นี่ดูจะเข้มงวดไปหน่อย  เขาเอ่ยด้วยมาดนิ่งๆแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนรถขนฟางท่าทางดูปราดเปรียวเขานั่งลงแล้วไขว่ห้างอย่าสง่าผ่าเผย  ก่อนจะเอ่ยคำพูดเรียบๆราวกับกำลังนั่งชมวิว



               “
    เมื่อบ่ายนี้ฉันแค่เดินอยู่ที่โรงสีข้าวแล้วบังเอิญเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเกี่ยวฟางข้าวกองเบ้อเริ่มมาหกล้มข้างหน้าฉัน  แค่นั้นฉันเลยโดนข้อหาทำลายผลผลิตการเกษตรและทำร้ายร่างกายเด็กน้อยที่น่าสงสาร  เขาพูดเรื่อยๆขณะที่สายตาสะดุดเข้ากับสร้อยคอของฟรอนเขามองดูมันอย่างสนใจ



                       ฟรอนแค่นหัวเราะ  คิดในใจว่ายังมีคนที่ซวยเหมือนเขาด้วยหรือนี่

    ฉันก็เหมือนกัน  แค่ยัยแม่ค้าขายผักนั่นคิดว่าฉันพยายามจะกัดมือเธอให้ขาด  ฉันเลยโดนข้อหาทำร้ายร่างกายและขโมยผักสด  ฟรอนโกหกลื่นไหลแกล้งทำหน้าเซ็งหน่ายพร้อมกับใช้ฟันกัดขนนกสีสวยให้โบกไปมา



                       ชายหนุ่มหัวเราะ  แววตาดูเหมือนว่าเขาจะพบคนที่ถูกใจ  ถูกใจทั้งท่าทางการนั่งแบบเพี้ยนๆและเครื่องอาภรณ์ประหลาดทั้งหลาย

    งั้นแย่หน่อยนะข้อหาขโมยผักสดน่ะหนักพอดูเลย  เขาเอ่ยเยาะๆเลิกคิ้วขึ้น



                “
    นายชื่ออะไรล่ะคนแฟรมมิลล์

    คำถามที่ฟรอนถึงกับอึ้งไปเล็กน้อยกับคนตรงหน้า  ถ้าจำไม่ผิดเขาคงยังไม่ได้เอ่ยอะไรถึงที่มาของตัวเองเลย



               “
    ฟรอน  นีลโบร์  แล้วนายล่ะคนเมืองเพิร์ท  ฟรอนตอบกลับทั้งๆก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่ไหน แต่แค่อยากจะทำเหมือนรู้มากเท่านั้น  ดวงตาสีฟ้าของเขาออกแววขบขัน

    ฉันซาฟิน  ยินดีที่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว  เอ่อ...ในนี้น่าจะมีชาสักถ้วยนะ  เขาเหลียวมองซ้ายขวารอบตัว  ขณะที่ฟรอนถึงกับขำพรืด



              “
    นายตีค่าคำว่าคุกสวยหรูไปหน่อยรึป่าว  ค่าน้ำชาไม่ใช่ถูกๆที่นักโทษจะกินฟรีได้ตลอดหรอกนะ  ซาฟินยิ้มรับกับคำพูดของเขา

    ฉันลืมไป  ก่อนจะพูดต่อ

    แล้วนายมาที่เพิร์ททำไมล่ะฟรอน  เขาเอ่ยถาม  ฟรอนยักไหล่และเริ่มนั่งโยกตัวไปมาอย่างเคยชินทำให้เขายิ่งดูเป็นคนประหลาดมากขึ้นไปอีก  เขาตัดสินใจเลือกตอบทางเลือกสุดท้ายที่พ่อทิ้งไว้ให้



               “
    ฉันจะมาที่ศูนย์ฝึกองครักษ์เฮมพ์เบิร์ก  แต่หลงทางก็เลยเดินมั่วซั่วมาทั้งวันแล้ว   ฟรอนพูดเรื่อยๆคำตอบที่เรียกความสนใจของซาฟินดวงตาสีฟ้าคู่สวยของเขาวาววับ

    นายจะมาสมัครเข้าฝึกเป็นองครักษ์ที่นั่นหรอ  ใบหน้าคมคายบ่งบอกว่าไม่ค่อยเชื่อ



               “
    แล้วนายจะให้ฉันไปสมัครเป็นขันทีที่นั่นหรือไง  คำพูดกวนๆตอบกลับทำให้ดวงตาสีฟ้าอึ้งไปนิดก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยย้อน

    นั่นสิ  อยากเป็นทั้งทีฉันคงต้องเปลี่ยนจุดหมายไปที่วังแทน  ฟรอนเหลือบตามองบุรุษเบื้องหน้าแล้วหัวเราะขบขันอย่างถูกใจ



              “
    นี่  ฉันเป็นนักทำนายที่มีชื่อเสียงที่สุดของแฟรมมิลล์  ปกติฉันคิดค่าทำนายแพงถึงแพงมากนะ  เป็นโอกาสของนายแล้วที่ฉันจะดูให้นายฟรีๆ  พูดจบเจ้าตัวก็ล้วงมือเข้าไปในผ้าคลุมสีม่วงแล้วดึงบางอย่างที่ดูเหมือนเป็นสำรับไพ่เก่าๆออกมา



                  แค่มองดูก็รู้แล้วว่ามีความขลังถึงที่สุดไพ่ใบเล็กยาวขลิบด้วยลายทองสวยงามถึงแม้ตอนนี้จะหลุดลอกไปเกือบหมดก็ยังดูมีค่ายิ่ง  รูปภาพและตัวอักษรเป็นอักขระโบราณของเผ่าแดชมันที่นิยมอาคมชั้นสูง  เพียงแค่เห็นซาฟินก็รู้สึกได้ถึงพลังที่ซ่อนอยู่ในสำรับไพ่โบราณนี้



                ฟรอนหัวเราะหึหึในลำคอความจริงเขาแค่อยากจะรู้เท่านั้นว่าเขากำลังคุยกับคนประเภทไหนอยู่


           ฟรอนกรีดไพ่ในมือออกอย่างสวยงามแล้ววางลงที่พื้น  เขาหลับตาพึมพำอะไรบางอย่างปลายนิ้วของเขาตวัดเขียนเป็นตัวอักษรจำนวนมากลงบนตัวไพ่  ตัวของเขาโยกไปมาหนักกว่าเก่าแล้วปลายนิ้วของเขาสะดุดกับไพ่ใบหนึ่งเขาหยุดนิ่งสักพักแล้วลืมตาขึ้นมา  ใบหน้าของเขาฉายรอยยิ้มอย่างพึงพอใจยามสบมองบุรุษอีกคน



              “
    ฉันนึกว่านายจะเป็นพวกลูกชายพ่อค้าเศรษฐีซะอีก  ที่จริงนายเป็นพวกมียศถาบรรดาศักดิ์นี่นา  คำทำนายที่ซาฟินถึงกับเงียบไปในอึดใจรู้สึกแปลกใจกับคนตรงหน้าที่เก่งสมราคาคุยหรือไม่ก็แค่เดามั่วจนใกล้เคียง

    ไม่งั้นไพ่อัศวินนี่คงไม่สะดุดมือฉันขนาดนี้หรอก  ฟรอนหงายไพ่ใบที่เขาจับอยู่  ซาฟินเห็นภาพอัศวินในชุดเกราะเต็มยศมือถือดาบเรียวยาวทำท่าเหมือนกำลังสู้กับศัตรู  ใบหน้าของฟรอนยิ้มกว้าง



                “
    ไม่ต้องห่วงฉันไม่ดูเรื่องอื่นๆของนายโดยพลการหรอก  ดวงตาสีม่วงแดงตอนนี้วาววับเหมือนกับว่าเขากำลังสนุกเต็มที่ 

    ฟรอนเลิกกัดขนนกแล้วนั่งมองเศษฟางตรงหน้าอย่างพินิจ  ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย  ก่อนที่จะคว้าเศษฟางแห้งๆเส้นหนึ่งมาเคี้ยวเล่น  ภาพที่ทำให้ซาฟินถึงกับเบิ่งตาโต

    ถ้าไม่บ้า  ก็ใกล้เต็มทีแล้ว



                “
    เอ่อ  นายบอกว่านายจะไปสมัครที่ศูนย์ฝึกเฮมพ์เบิร์กใช่มั้ย  แล้วนายเตรียมตัวรึยัง

    ฟรอนหน้าเบ้กับรสชาติของเศษฟาง  เขาคายมันออกมาแล้วแต่ถึงอย่างนั้นรสชาติมันก็ยังเฝื่อนคอ 

    อ๋อ  แน่นอนอยู่แล้ว  เขาหันมาคาบขนนกต่อสบตากับซาฟิน



               “
    ฉันมีบางอย่างจะให้นายดู  เขาล้วงมือเข้าไปใต้ผ้าคลุม  เงยหน้าขึ้นมาสบกับดวงตาสีฟ้า แล้วเอ่ยเสียงกระซิบ

    เคล็ดลับที่จะทำให้ฉันสอบเข้าที่นั่นได้สบาย  เขาหยิบดาบเรียวยาวออกมาและทำท่ากวัดแกว่งเหนือหัวอย่างรวดเร็วและสวยงาม



               “
    ฉันได้ยินว่าตอนสอบเข้าเค้าจะทดสอบความสามารถของร่างกาย  เพลงดาบและพลังเวท  จากนั้นสุดท้ายก็จะเป็นการสอบสัมภาษณ์  เพราะฉะนั้นพวกที่ไม่มีดาบ  ไม่มีร่างกายที่พร้อมก็แห้วรับประทานไปตามๆกัน  ส่วนใหญ่ทางศูนย์ฝึกจะปิดเงียบรอดูผู้สมัครว่าจะเตรียมตัวมาถูกรึป่าว  ฟรอนยักคิ้วอย่างผู้รู้ทันอย่างน้อยคำโม้ของพ่อก็ทำให้เขามีความรู้บ้างไม่มากก็น้อย  แล้วเริ่มกวัดแกว่งดาบท่ารำเพลงดาบของเขาทำให้คนมองนึกถึงพวกเล่นกายกรรมมากกว่าจะเรียกว่าเป็นนักรบ



                 แต่ซาฟินสังเกตเห็นความผิดปกติของมันได้ทันที

    เขาหัวเราะในลำคอแล้วเปรยเสียงนิ่ง

    นายเล่นอะไรน่ะ  ดาบนั่นไม่ใช่ดาบจริงนี่ 



                   ฟรอนนิ่งไปในทันทีกับคำพูดและแววตาของคนตรงหน้าที่คาดคั้นความเป็นจริงจนน่าตกใจ  คำท้วงที่ทำให้เจ้าตัวหยุดท่วงท่ากายกรรมจนเผลอปล่อยดาบตกพื้น  เสียงที่ลั่นกระทบพื้นกลายเป็นเสียงทู่ๆเหมือนของหนักๆแทนที่จะเป็นเสียงสะท้อนของเหล็กกล้าเหมือนดาบธรรมดาทั่วไป



                “
    นายดูออกหรอเนี่ย  ดวงตาสีม่วงฉายแววทึ่งเล็กน้อยก้มลงมองดาบใหญ่ที่พื้น  มันเป็นเพียงดาบไม้ที่ถูกหลอกตาโดยการเอาสีเงินมาทาไว้ตรงส่วนที่ควรจะเป็นใบมีด  ฟรอนกลืนน้ำลาย  ขนาดหมอนี่ยังดูออกว่าเป็นของปลอมแล้วพวกที่ศูนย์ฝึกมีหรือจะไม่สังเกตเห็น 



                 “
    เอ่อ  ช่วงนี้ข้าวของมันราคาแพงน่ะ  ขนาดแค่เศษเหล็กก็หลายร้อยกิลแล้ว  เจ้าตัวสบถกับตัวเองเบาๆที่ดันปล่อยไก่ให้กับคนตรงหน้า  แต่แล้วก็ยิ้มหัวเราะร่า

    ฉันอุตส่าห์แกว่งเร็วๆแล้วนะเนี่ย  ดูท่านายคงจะเป็นพวกอัศวินจริงๆซะแล้ว



              “
    ดูท่ารึ?  หมายความว่าตอนแรกนายเดาสุ่มเอารึไง  ซาฟินเอ่ยเสียงเหมือนจะเย้ยนิดๆ  ฟรอนยกนิ้วขึ้นจุ๊ปากส่ายหน้าไปมา

    หมอดูคู่หมอเดาเป็นเรื่องธรรมดา  เขายิ้มแล้วล้วงหยิบลูกแก้วสีดำสนิทจากผ้าคลุมมาถือไว้ในมือ



             “
    แต่ว่าถ้าเป็นการทดสอบพลังเวทแค่นี้ฉันสบายมาก  ลูกแก้วสีดำสนิทอยู่บนมือขวาของฟรอน  เขาเริ่มร่ายมนตร์แล้วหลับตา



               ซาฟินเห็นอะไรบางอย่างวิ่งวนอยู่ในลูกแก้วขณะที่ดวงตาสีไวน์องุ่นหลับแน่น  เสียงร่ายมนตร์ดังขึ้นจนฟังดูขนลุก  มนตร์ดำของเผ่าแซกซันที่หายสาบสูญไปนานถูกปลุกขึ้นตื่นด้วยพลังเวทแรงกล้าของชายหนุ่มประหลาดคนนี้



                        ทันใดนั้นลูกแก้วก็เปล่งแสงสีขาวสว่างบาดตาจนทำให้คุกมืดๆนี้สว่างไสวในชั่วอึดใจ

    ฟรอนแอบยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังมองแสงที่สว่างนั้นด้วยความทึ่งปนประหลาดใจ

    แต่แล้วแสงนั้นก็พลันดับวูบพร้อมกับใจที่กำลังพองโต  ห้องขังกลับมาสู่ความเงียบและอึมครึมอีกครั้ง  

    มีเพียงเสียงหอบหายใจของคนเล่นตลกที่ยังคงดังอยู่  ลูกแก้วเจ้ากรรมกลับมาสงบนิ่งไร้สิ่งใดเคลื่อนไหว  เจ้าตัวดีหันไปมองดวงตาสีฟ้าที่ยังเครียดเขม็งก่อนที่จะยิ้มแหยๆเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าโกหก


                       คนกะล่อนรีบหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะเอ่ยคำพูด

    เอ่อ  พอดี  ลืมเปลี่ยนแบตเตอรี่  
                        พูดจบก็นึกด่าลูกแก้วนรกนั่นในใจ  วันนี้วันซวยอะไรที่ลูกแก้วพร้อมใจกันหักหน้าเขา

                        คนมองนิ่งอึ้งไม่มีคำพูดใดๆหลุดจากปาก  หรืออันที่จริงคือเขาหาคำพูดมาบรรยายคนตรงหน้าไม่ได้เลยต่างหาก



                     ดวงตาสีฟ้าเบือนหนีอย่างเหนื่อยใจเขาคงมองคนผิดไปจริงๆตานี่มันเป็นแค่คนสติไม่เต็มเต็งธรรมดาๆ  เขาถอนใจก่อนจะเอ่ย

    นายคิดจะเอาของเล่นตลกพวกนี้ไปสอบเข้าน่ะหรือ  ดูถูกกันไปหน่อยมั้ย

    ฟรอนแค่นหัวเราะก่อนจะเอ่ยคำพูดตรงๆเรื่อยๆที่ซาฟินถึงกับนิ่งอึ้ง



                  “
    คนในนั้นน่ะถึงได้ชื่อว่าเป็นองครักษ์ก็เหอะ  คนอื่นๆก็พูดกันให้ทั่วว่าเป็นพวก  อึดแต่โง่  แข็งแกร่งแต่ขาดไหวพริบ  รวดเร็วแต่ไม่รอบคอบ  ไม่งั้นป่านนี้คงจะมีองครักษ์ที่สำเร็จการศึกษาจนล้นเมืองแล้ว  แต่นี่ไม่ยักจะเคยเห็นองครักษ์ตัวเป็นๆสักคน  เอ่อ  อาจจะเคยเห็นอยู่สักคนสองคน  แต่ฉันว่าพวกนั้นน่ะถ้าไม่ซ้ำชั้นจนแก่หงำเหงือกก็คงถูกไล่ออกจนหมด  เขาจุ๊ปากวางมาดเหมือนคนที่รู้ดี  


                “
    และพวกที่มาคัดเลือกองครักษ์หน้าใหม่ๆก็เป็นพวกที่ซ้ำๆชั้นกันมานั่นแหละ  เพราะฉะนั้นถ้าฉันฉลาดอีกนิด  มีไหวพริบอีกหน่อยและรอบคอบอีกเยอะๆ  แค่นั้นทำไมฉันจะตบตาพวกขาดไหวพริบที่นั่นไม่ได้  เจ้าตัวบรรยายลักษณะทุกอย่างเสร็จสรรพด้วยความมั่นใจเต็มที่ 



                       ซาฟินรู้สึกเหมือนถูกค้อนฟาดหน้าอย่างจัง 

    ไอ้ยิปซีนี่  ปากหมาหลือเชื่อ

    ถ้างั้นแล้วทำไมนายถึงอยากเป็นองครักษ์นักล่ะ  ซาฟินถามเสียงอ่อน



              “
    อ๋อ  เอ่อ  เงินทองไงล่ะเป็นพวกนั้นน่ะได้เบี้ยเลี้ยงเยอะจะตาย  ฟรอนพูดพลางหลบตากลัวเจ้าคนชอบจับผิดตรงหน้ามันจะรู้ทันว่าเขาแค่อยากลบประวัติความผิดข้อหาหลอกลวงต้มตุ๋น  เขาเริ่มหันมองรอบตัวแล้วคุ้ยเศษดินที่พื้นข้างตัวขึ้นมาดม



                        ซาฟินเหนื่อยใจหมดเรื่องถามเจ้าคนแปลกตรงหน้า
      ทุกอย่างในตัวของชายคนนี้มันดูน่าปวดหัวสิ้นดี

    แต่นายลืมอะไรไปอย่างนะฟรอน  เขาเอ่ยเรียกดวงตาที่กำลังจับจ้องเศษดินให้เงยขึ้นมา

    หือ  อะไร



              “
    การรับสมัครของศูนย์ฝึกจะหมดเขตตอนบ่ายสี่โมงเย็น  แล้ววันนี้วันสุดท้ายแล้วด้วย  ฉันว่านายคงไปทันตบตาพวกหงำเหงือกนั่นแน่ๆ

    ฟรอนทำตาโตเท่าไข่ห่าน  ใช่  เขาลืมนึกไปเลย  ซาฟินถึงกับแอบขำแต่แล้วเขาก็เห็นรอยยิ้มผุดพรายขึ้นบนใบหน้าดูดีของนักทำนายจอมเพี้ยนตรงหน้า



                      รอยยิ้มที่บัดนี้เขาไม่ค่อยเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องดีๆ

    ถือเป็นโชคดีของนายนะซาฟิน  ที่ได้มาอยู่ห้องขังเดียวกับฉัน  เจ้าตัวพูดจบก็ยิ้มพรายล้วงมือหยิบเอาเทียนไขสีขาวแท่งยาวออกมาจากผ้าคลุมที่สามารถเก็บของได้เยอะเหลือเชื่อ



                       ดวงตาสีม่วงเข้มดูลึกลับ
      เขากระซิบเสียงแผ่วเบา

    ด้วยเวทมนตร์นี้  จะทำให้นายกับฉันเป็นอิสระในบัดดล 

    คราวนี้ดวงตาสีม่วงแปรเปลี่ยนไป  ประกายความขี้เล่นหายไปจนหมดสิ้นสรรพสิ่งในห้องขังพลันหยุดนิ่งสนิท  มีเพียงลมหายใจของคนสองคนที่บ่งบอกให้รู้ว่าในห้องนี้ยังมีสิ่งมีชีวิต



                  ฟรอนลุกขึ้นยืนดวงตาสีม่วงดูเย็นชาสีหน้ายิ้มแย้มเสมอของเขากลายเป็นใบหน้าที่ไร้อารมณ์ดูน่ากลัวอย่างยิ่ง  แม้แต่ซาฟินยังไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวให้เกิดเสียงราวกับตกหลุมพรางกับดักความเงียบของคนตรงหน้า

    ทันใดนั้นเทียนไขก็ติดไฟ  เงาใหญ่สะท้อนไหววูบอยู่บนกำแพงคุกมืด  หนูตัวใหญ่ที่เคยพลุกพล่านบัดนี้หายไปจนหมดสิ้นราวกับรับรู้ได้ถึงพลังบางอย่าง



                       ใบหน้าของฟรอนสงบเยือกเย็นยามที่เขาขยับรอยยิ้มเหี้ยมให้บุรุษเบื้องหน้า

    เอาไว้ขอบใจฉันทีหลังนะ

    พูดจบเทียนไขที่ลุกโชติสว่างไสวถูกทิ้งลงบนฟางกองใหญ่  เปลวไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็วทั่วห้องขัง



                “
    ช่วยด้วย  ไฟไหม้  ช่วยด้วย  มือใหญ่ตบรัวลงบนแผงลูกกรงเหล็กเสียงดังสนั่นทั่วห้องขัง

    ซาฟินมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความมึนงง  บรรยากาศอึมครึมเมื่อครู่หายวับไปหมดสิ้น  คนที่ทำเป็นเคร่งเครียดเมื่อครู่บัดนี้กำลังตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างเอาเป็นเอาตาย  เปลวไฟลุกโชนอย่างรวดเร็วจนบัดนี้มันเริ่มลามมาคิดที่ชายเสื้อของเขาแล้ว



                        นี่หรอเวทมนตร์ของมัน

    เขากัดฟันกรอดรู้สึกว่าตัวเองซวยที่สุดที่ได้มาเจอกับไอ้คนประหลาดนี่  อารมณ์ที่เคยนิ่งเสมอขาดผึงอย่างต่อไม่ติด



               “
    ไอ้นักทำนายบ้าเอ้ย!!”

    เสียงตะโกนของซาฟินถูกกลบด้วยเสียงเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ  เขาพยายามเหยียบชายเสื้อที่ติดไฟให้ดับแต่มันกลับลามมาติดที่ส้นรองเท้าเขาแทน  ไอ้คนบ้าที่เขาด่ายังคงแหกปากร้องเรียกผู้คุมด้วยความกลัว  

    คุกที่เคยเงียบสงบบัดนี้ยุ่งเหยิงและสับสนอลหม่าน  นักโทษห้องข้างๆต่างส่งเสียงเร่งผู้คุมด้วยกลัวว่าเปลวไฟจะลามมาถึงห้องตน  ประตูห้องขังถูกเปิดออกเพื่อช่วยชีวิตนักโทษสองคนที่กำลังจะถูกย่างสด  ควันไฟหนาจนบดบังทุกสรรพสิ่งรอบตัว 


                        ไม่มีใครสังเกตเลยว่านักโทษสองคนได้หายตัวไปเสียแล้ว


    **ช่วยเม้นด้วยนะ รับฟังทุกความเห็นด้วยความยินดีจ้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×