ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    48 Minutes : 48 นาที (เอสเจ)

    ลำดับตอนที่ #4 : [CHAPTER 3] 48 นาที

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 55


    CHAPTER 3: กาก

    5 นาทีต่อมา ทุกคนขึ้นมานั่งอยู่บนรถซาเล้งแบบเปิดประทุนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยคนขับรถเป็นคนอีสาน บ้านอยู่อุดร ซึ่งนั่นเข้าทางชเวซีวอนมาก แต่ก็พูดอะไรด้วยไม่ได้มากเท่าไหร่เพราะซีวอนไม่เข้าใจภาษาอีสาน

    สต๊าฟคนพม่า เป็นต่างด้าวนั่งอยู่ข้างๆ คนขับซาเล้ง ซาเล้งนี้เป็นซาเล้งแบบพิเศษ มี 20 ที่นั่ง ยาวๆ หน่อย คล้ายลีมูซีน แต่ซาเล้งนี้หรูกว่า

    สีชมพูสวยใสไร้วี่แววความใหม่ และที่สำคัญคือ เป็นซาเล้งที่ใช้ส่งน้ำแข็ง

    “สต๊าฟคนอื่นนั่งเฮลิคอปเตอร์ตามไปค่ะ คาดว่าจะตรงไปยังที่พักของพวกคุณทันที” คนพม่ารัวอีสานใส่อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งอีทึกที่ฟังรู้เรื่องที่สุดทำหน้าที่แปล

    ไม่ต้องสงสัยหรอก เพราะว่าเขาเคยเกิดอยู่ที่ยโสธรมาก่อน เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่นิดเดียว

    “เอ่อ ……… ” คิบอมหันไปหาสต๊าฟ “เราจะได้พักกันที่ไหนครับ มีอ่างจากกุดชี่หรือเปล่า?” สต๊าฟสาวพม่าเผยรอยยิ้มและฟันที่ผ่านการดัดมาอย่างโชกโชนของเธอ

    “ที่พักของคุณเป็นกระท่อมเล็กๆ มีของไม่เยอะมากหรอกค่ะ มีแค่อ่างจากกุดชี่ สะพานข้ามแม่น้ำแขว กรงสิงโต ชิงช้าสวรรค์ ทะเลสาบเนสซี หม้อหุงข้าว ทีวี ตุ๊กตาบลายธ์ พัดลม แอร์ โซฟา เปลือกโชกี้โชกี้ เท่านั้นเองค่ะ”

    ทุกคนพยักหน้าเป็นอันเข้าใจ …. ไม่มีเตียงสินะ

    “บ้าเอ๋ย!! ดีแทคล่มอีกแล้ว จะล่มอะไรนักหนา!!!” ซองมินแทบจะเขวี้ยงมือถือของตัวเองไปให้ควายแถวนั้นกินแทนหญ้า

    “ของฉันก็ล่มเหมือนกัน” คังอินพูด

    “ไม่เป็นไรหรอกเรามีโทรศัพท์ไว้ใช้กันหรือไง เราก็หยอดเหรียญกันทั้งนั้นแหละ…… เฮ้ยย!! นั่นมันโปสเตอร์โปงลางสะออนนี่!!” ทุกคนมุ่งความสนใจไปยังโปสเตอร์โปงลางสะออนทันที เพราะพี่อี๊ดโปงลางนั้นถือเป็นหนึ่งในไอดอลของพวกเขาเลยก็ว่าได้

    “จริงด้วย” ซองมินเช็ดน้ำตาเพราะความปราบปลื้ม

    “พวกเขาดังจัง” รยออุคยกมือถือรุ่น nokia 3310 ขึ้นมากดถ่ายรูปหน้าของลาล่าและลูลู่เอาไว้เป็นที่ระลึก ในจิดแต่ว่า สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นแบบลาล่าลูลู่ให้ได้!

    ระหว่างที่เมมเบอร์กำลังปราบปลื้มกับโปงลางสะออน อีทึกจึงหันหน้าไปมองสายสิญจน์ของคังอินที่ตอนนี้ได้รับการปลุกเสกเพิ่มเรียบร้อยแล้ว ….

    บนแขนของเขาเองก็มีสายสิญจน์แบบคู่รักอยู่เหมือนกัน นั่นบ่งบอกสถานภาพของอีทึกและคังอินอย่างดีเลยล่ะว่า …………. มันชอบไปนั่งสมาธิที่วัดเดียวกัน

    ตอนนี้ฮยอกแจเข้าสู่โลกส่วนตัวไปแล้ว ร่างแห้งนั่งแคะขี้ฟันออกอยู่จนเป็นกอง ฮีชอลนอนหลับซบฮีบอมตั้งแต่ขึ้นรถ ฮันคยองฝึกพูดภาษาไทยให้คล่องแคล่ว และ…… ทงเฮ

    “พี่แน่ใจนะว่าเราขึ้นซาเล้งถูกคัน”

    “ถูกสิ ซาเล้งส่งน้ำแข็งดีๆ แบบนี้หายากเชียวนะ” อีทึกพูด ในขณะที่สมาชิกในวงคนอื่นๆ ต่างค่อยๆ เคลิ้มหลับบนซาเล้งเปิดประทุนคันงามนี้

    อีทึกเองก็ง่วง แต่เขานอนไม่หลับถ้าไม่ได้ดูละครหลังข่าว

    “พี่เป็นอะไร ผมคุยกับพี่อยู่นะ!!!!!!!!!!!!!” ทงเฮเริ่มตะโกนแข่งกับเสียงลมเมื่ออีทึกเริ่มจะคล้อยหลับบนซาเล้ง

    “ง่วงเหงา หาว นอน”

    “เฮ้ยยย!! อีแก่!!! แม่มมมมมมม!!!” เสียงของทงเฮหายไปเรื่อยๆ พร้อมกับอาการง่วงของยอดชายนายทึก ภาพสุดท้ายที่อีทึกเห็นคือ ทงเฮพร้อมกับขี้ในมือเตรียมโยนใส่หน้าของเขาได้ทุกเมื่อ…….

     

    -FOURTY EIGHT MINUTES-

     

    ทุกคนตื่นขึ้นมาในกระท่อมแสนสุขที่ไม่คุ้นเคย อีทึกตื่นขึ้นมาก็ผมว่าสายตาของเหล่าน้องๆ กำลังจ้องมาที่หน้าของเขา

    อีทึกสัมผัสบนใบหน้า พบว่ามีขี้แห้งติดอยู่เต็มไปหมด

    “ทงเฮเล่นพิเรนอีกแล้ว” อีทึกบ่น

    หน้าแก่ๆ มองดูทุกคน…… ทุกคนใส่ปลอกคอหมา เตรียมออกเดินเล่น และอีทึกเองก็เช่นเดียวกัน …. แต่ตอนนี้อีทึกกำลังขัดใจที่เขาไม่ได้ใส่ปลอกคอสีชมพู

    “นายมาแลกกับฉันเดี๋ยวนี้!!” อีทึกกระโจนเข้าหาซองมินที่มีปลอกคอหมาสีชมพูใส่อยู่ แต่พลาดเพราะซองมินใช้ชั้นไขมันอันหนาเตอะป้องกันไว้ทัน

    “พวกนายตื่นนานเท่าไหร่แล้ว?”

    อีทึกถาม

    “ตื่นขึ้นมาตอนนายละเมอบอกว่าอยากแดกขี้….” ฮีชอลตอบ พร้อมกับเล่นปลอกคอของตัวเอง

    “แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา???” ยังไม่ทันที่อีทึกจะพูดจบ

    ร่างแก่ก็มองไปเห็นยันต์กันผีแปะอยู่ที่ประตู

    “นั่นคือสาเหตุที่เราออกไปจากกระท่อมไม่ได้” คิบอมพูด “เราเข้าใกล้มันไม่ได้ เราปวดแสบปวดร้อน”

    “นี่มันเรื่องบ้าอะไร!!!” อีทึกตะโกน ทันใดนั้น ผนังกระท่อมก็หลุดลงมา…. ชายหนุ่มหล่อเหลา ….. เดินเข้ามาในห้อง …. เขามีหน้าผากกว้างใหญ่ ….. ปากเล็กเป็นรูปกระจับห้อยลงมาจนเกือบจะถึงพื้น สายตาอันหล่อเหลาจ้องมายังสมาชิกวงซูเปอร์ จู๋วววววววเนียร์ที่ยืนมองหน้าเขาอย่างอึ้งๆ

    “ผมชื่อปาร์คยูชอน” หนุ่มปากห้อยพูด “ผมมีเกมส์ให้พวกคุณเล่น….” ชายหุน่มว่าต่อ พลางโยนหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะไปให้อีทึกที่ยืนทำหน้าโง่อยู่

    “คุณต้องการอะไร? ในหนังสือนี้มันมีอะไร?” ยูชอนแค่นหัวเราะ

    “มันไม่มีอะไร แต่นั่นคืออาวุธของนาย ต่อไปนี้เราจะมาเล่นเกมส์กัน พวกนายต้องทำร้ายกันด้วยอาวุธที่ฉันเตรียมมาให้ เพื่อชิงรางวัลใหญ่สามรางวัล….

    ” ทุกคนเงียบ

    อีทึกก้มมองหนังสือขายหัวเราะในมือของเขา ก่อนจะคิดว่านี่มันเรื่องล้อเล่นแน่ๆ!!!

    “รางวัลที่สามคือ ………. จูปาจุ๊บรสผลไม้รวม…..

    “รางวัลที่สองคือ …. แหนมคลุก” พอมาถึงท่อนนี้ฮันคยองแอบส่งเสียงประมาณว่า เยสออกมา เพราะเขาชอบกินแหนมคลุกยิ่งกว่าอะไร

    “และ……………รางวัลใหญ่…………..ก็คือแสตมป์เซเว่นจำนวนหนึ่งร้อยดวง”มาถึงท่อนนี้ทุกคนส่งเสียงฮือฮา คยูทำตาโตพลางพูดว่า ฉันเก็บได้แค่สามดวงเองซีวอนต้องการแสตมป์ของจังหวัดอุดร เช่นเดียวกับคิบอมที่ตื่นเต้นกับแสตมป์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

    “ส่วนใครแพ้ ………… พวกมึงต้องแดกหญ้าแห้งเป็นเวลาสามวัน” คราวนี้ทุกคนส่งเสียงบ่นออกมาโดยเฉพาะชินดงและซองมินที่ขัดกับข้อนี้สุดๆ ….. เกิดมาลีซองมินไม่เคยกินหญ้าแห้ง …. เขาโตมาได้เพราะหญ้าสดเท่านั้น

    “พวกนายต้องแบ่งเป็นสองทีม …. ซึ่งหัวหน้าทีมทั้งสองทีม …… ต้องมีอายุใกล้กัน …….. อีทึก …. และคยูฮยอน” ทุกคนทำหน้าเหมือนห่าน …….. #ใกล้กันห่าคิตตี้อะไร

    “พวกนายมีเวลาแค่ 48 นาทีในการแย่งชิงสแตมป์เซเว่น งานนี้จะมีผู้ได้รับรางวัลสามคน …. สอง หรือแค่หนึ่งก็ได้ ……

    ….. =______________________=<< หน้าทุกคนที่มองชายหนุ่มปากห้อยผู้มาจากทิศเหนือ

    “ขอให้โชคดี………………………………………………………………………………

    ยูชอนหายออกไปจากห้อง พร้อมกับความห้อยที่ตกลงสู้พื้นดิน สมาชิกทุกคนหันไปมองนาฬิกาจุดลายคิตตี้ตามรสนิยมเจ้าของบ้าน พร้อมกับเวลาที่ลดลงไปเรื่อยๆ

    00:47:59 ………….

     

    TO BE CON.

    cinna mon
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×