คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Remember Test II ::: ได้โปรด...อย่าทิ้งฉัน
ได้โปรด...อย่าทิ้งฉัน
“เหม่ออะไรของเธอ” ฉันสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพี่เดรกที่ตอนนี้ทำหน้าที่ขับรถอยู่
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร” เพราะพี่ซีลอนติดงานด่วนมากพี่เดรกเลยต้องทำหน้าที่ไปรับฉันจากบ้านแล้วพาออกมาหาอะไรทาน แต่ยังไงฉันก็ยังติดใจเรื่องผู้ชายคนนั้นอยู่ดีรสจูบที่คุ้นเคยกับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นมันทำให้ฉันรู้สึกชื้นใจอย่างประหลาด
“เธอเจอมันแล้วใช่มั้ย” จู่ๆ พี่เดรกก็โพล่งขึ้นมาไร้เหตุไร้ผล
“มันไหน -O-“
“ไอ้ไรทอล”
“!!” ไรทอล... แม้แต่ผู้ชายคนนี้ก็รู้จักเขางั้นรึจริงสินะผู้ชายคนนั้นเป็นพี่ชายของชิปเปอร์หนึ่งในสมาชิกซีคริทเซเว่นที่เป็นเพื่อนของพี่เดรก “พี่รู้จักเขาหรอ O_O!”
ติ๊ดๆๆๆ
คำถามของฉันที่เกือบจะได้คำตอบก็ถูกเสียงโทรศัพท์ของพี่เดรกขัดซะก่อนเขายกมันขึ้นมารับโดยกรอกน้ำเสียงหวนๆ ลงไป “อะไรวะ!”
“...”
“รู้แล้วหน่ากำลังจะไปอยู่นี่ไง!” จบคำพูดพี่เดรกก็ตัดสายแล้วโยนโทรศัพท์ไปเบาะหลังรถก่อนจะเร่งเครื่องเพื่อตรงไปจุดหมายที่เขาต้องการ
“จะไปไหนน่ะ”
“LK-Pub”
“หือ... พี่ซีลอนบอกว่าที่แบบนั้นมันไม่ดีสำหรับฉันนะ -O-“
“ใครบอกเธอนะ?”
“พี่ซีลอน” แค่พี่ซีลอนบอกฉันถึงกับต้องถามซ้ำสองเลยหรอเนี่ย - -
“ให้ตายเถอะ ยัยนั่นมันกะจะเปลี่ยนนิสัยเธอด้วยหรือไงกัน!”
@ LK-Pub
ในชั้นสองโซนวีไอพีนี้ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนักมักจะเป็นส่วนตัวมากกว่าแต่เหมือนจะมีโต๊ะๆ หนึ่งเป็นจุดเด่นท่ามกลางทั้งโซนเพราะมีหนุ่มหล่อทั้งหกนั่งในท่าสบายๆ แต่เป็นทวงท่าที่แลดูน่าหลงใหลจากจุดนั้นสามารถเห็นเวทีที่อยู่ข้างล่างได้อย่างชัดเจนและพี่เดรกกำลังเดินเข้าไปที่โต๊ะนั้น
“ช้าเหลิอเกินให้ตายสิ -_-^” ชายเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอมแดง นัยน์ตาสีม่วงนั้นฉายแววเอาแต่ใจได้อย่างชัดเจนตวัดหันมามองพี่เดรกที่สะกิดพี่ออกัสให้เขยิบไปด้วยเท้า =O=;
“เลิกโวยวายทีหน่า” พี่เดรกเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะดึงให้ฉันนั่งลงข้างๆ
“พายัยนี่มาทำไม =_= ฉันจำได้ว่าเราตกลงกันแล้วขนาดฉันยังไม่พาคู่ควงมาเลยนะ” พี่ออกัสที่นั่งอยู่ข้างๆ ชะโงกมองฉันก่อนจะหันไปมองพี่เดรก
“เรื่องส่วนตัว ตกลงพวกแกเรียกฉันมาทำไม”
“นัดสังสรรค์นอกประเทศไงละ” ชายตาคมกริบในกรอบดวงตานั้นมีนัยน์ตาสีเทาอยู่เป็นคนตอบ สายตาเขามองที่พี่เดรกนิดหน่อยก่อนจะเบนมองมาทางฉัน
จะแปลกมั้ยถ้าจะบอกว่าดวงตาคมกริบกับใบหน้าหล่อเหลาฟีโรโมนกระจัดกระจายของผู้ชายคนนี้มันรู้สึกคุ้นเคยจนทำให้หัวฉันปวดจี๊ดขึ้นมาหน่อยๆ
“โอ๊ย...”
“อะไรของเธอ” พี่เดรกหันขวับมามองเมื่อได้ยินเสียงฉัน
“อะ... เอ่อ ปวดหัวนิดหน่อยเท่านั้นเอง” ทำไมกันนะยิ่งสบตาคมกริบของผู้ชายคนนี้ก็ยิ่งทำให้ฉันปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่างอะไรกับตอนแรกที่ฉันเจอพี่เดรกเลยสักนิด
“ถ้าอยู่ที่นี่ไม่ไหวฉันจะพาเธอกลับก่อน”
“ไม่เป็นไร ฉันอยู่ได้” และอาจจะอยู่ได้มากกว่าที่คิดด้วยซ้ำ รู้สึกคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้พิกล -O-^ทั้งความมืดสลัวแสงสีที่สาดส่องหลากสี จังหวะเพลงหนักๆ ที่ดังก้องทั่วบริเวณมันคุ้นเคยอย่างกับเป็นสิ่งที่ฉันโปรดปราน
“ชอบที่นี่หรอซิดนีย์ *O*” พี่โมมิจิที่นั่งอยู่ตรงข้ามเอ่ยถามฉันที่กำลังสำรวจที่นี่ก็ต้องหยุดแล้วหันมามองหน้าพี่เขา
“นั่นสิ น่าจะชอบ...” ที่นี่มันทำให้ฉันรู้สึกดี =O=; ราวกับที่นี่มันคือ...
“ที่นี่ไงละตัวตนของเธอ ^^” ผู้ชายตาคมกริบที่นั่งอยู่ข้างๆ โมมิจิตอบแทนสมองฉัน ใช่... บางทีมันอาจจะเป็นตัวตนของฉันก็ได้บ่งบอกได้ว่าเมื่อก่อนฉันอาจเป็นนักท่องราตรี?
ติ๊ดๆๆ
เสียงโทรศัพท์เรียกข้าวของพี่เดรกขัดความคิดของฉัน เขายกมันขึ้นมารับด้วยสีหน้าเนือยๆ เมื่อเห็นชื่อที่ขึ้นหน้าจอ “ว่าไง...LK-Pub...อยู่...เปิดหูเปิดตาเฉยๆ...”
คาดว่าคนปลายสายต้องเป็นพี่ซีลอนแน่ๆ แต่เหมือการสนทนาจะเงียบไปเมื่อพี่เดรกเงียบสนิทแววตาว่างเปล่าเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่จนกระทั่งเอ่ยปากพูดเมื่อฉันได้ยินเสียงของพี่ซีลอนตะโกนเรียกชื่อเขา
“รู้แล้วจะพากลับเดี๋ยวนี้” จบประโยคเขาก็ตัดสายทิ้งก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋ากางเกงก่อนจะหันหน้ามาหาฉัน “เธอคงต้องกลับบ้านด่วน”
“ทำไมละ -O-;” ฉันกำลังคุ้นเคยทำที่นี่แล้วเชียว
“มันเป็นคำสั่งของพี่เธอน่ะ”
“แย่จริง L ที่นี่แลดูสนุกกว่าตั้งเยอะแต่เอาเถอะเป็นคำสั่งของพี่งั้นฉันไปห้องน้ำก่อนได้มั้ย?”
“ตามสบาย... เดินตรงไปเลี้ยวขวาแล้วก็เลี้ยวซ้ายตรงไปตามทางยาวอีกนิดแล้วก็เลี้ยวขวา”
“ขอบคุณคะ ^_^”
ซ่า!
หลังจากที่เดินมาตามทางที่พี่เดรกบอกและทำธุระเสร็จเรียบร้อยฉันก็ล้างมือเตรียมที่จะเดินออกไปข้างนอกแต่เหมือนเสียงๆ หนึ่งจากหน้าห้องน้ำทำเอาฉันไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวยิ่งแถวๆ นี้ปลอดคนเหลือเกิน
“ซิดนีย์...” เสียงยานครางแผ่วเบาราวกับจะกระซิบยังไงยังงั้นแต่เพราะบริเวณโดยรอบนั้นเงียบถึงจะมีเสียงเพลงเบาๆ แต่ยังไงฉันก็ได้ยินเสียงนั้นอยู่ดีมันเป็นเสียงผู้ชายที่เรียกชื่อฉัน
เพียะ!
เหวออออออ O_o เกิดอะไรขึ้นเหมือนเสียงฝ่ามือกระแทกลงบนผิวหนังของคนฉันคาดไม่ผิดใช่มั้ย มั่นใจว่าไม่ผิดแน่ๆ แต่จะให้ฉันออกไปดูตอนนี้เลยก็เกรงว่าเขาอาจจะเป็นคู่รักแล้วฉันอาจจะเป็นก้างชิ้นโต =O=;
“ฉันไม่ได้ชื่อซิดนีย์อย่ามาเรียกชื่อผู้หญิงอื่นทั้งๆ ที่ยังจูบฉันอยู่!” จบประโยคฉันได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงของเจ้าหล่อนเดินห่างออกไปจนกระทั่งเสียงนั้นค่อยๆ เหือดหายไป
ตุ้บ!
เสียงเหมือนอะไรหล่นลงพื้นทำให้ฉันค่อยๆ ก้าวออกจากห้องน้ำ ไม่ไกลจากประตูห้องน้ำหญิงสักเท่าไหร่ผู้ชายคหนึ่งกำลังนั่งหลังพิงกำแพงเหยียดขายาวๆ ของเขาออกมาใบหน้าก้มลงแต่ฉันก็ยังเห็นเสี้ยวใบหน้าหล่อคมสองแขนตกลงที่พื้นสภาพหมดเรี่ยวแรง ถึงเขาจะก้มหน้าอยู่แต่ฉันก็พอมองออกว่าเขาเป็นใครผู้ชายที่มีผมสีน้ำตาลแดงโดดเด่นกับรูปร่างส่วนสูงที่สมบรูณ์แบบจากที่ฉันเห็นมันมีแค่คนเดียว
“พี่ไรทอล เอ๊ะ... ไม่ใช่สิ ผอ. -O-;” หรือฉันควรเรียกอะไรดีนะเอาเถอะเรื่องนั้นไม่สำคัญที่น่าสนใจคือพี่เขาเป็นอะไรมากกว่า
“ซิน...” เสียงแหบพร่าเอ่ยเรียกฉันก่อนเขาจะสวมกอดรวดเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทันยิ่งเข้าตัวเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้กลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ คลุ้งผสมปนเปไปหมด
“พี่คะ...คือว่า...” ฉันพยายามจะดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของผู้ชายคนนี้แต่ยิ่งทำแบบนั้นเขาก็ยิ่งรัดฉันแน่นกว่าเดิมจนแทบหายใจไม่ออก ใบหน้าเขาอยู่บนไหล่ฉันในขณะเดียวกับฉันสามารถสูดดมกลิ่นแชมพูหอมๆ จากเส้นผมสีน้ำตาลแดงนุ่มละไมนี้ด้วย
ถึงอ้อมกอดนี้จะทำให้ฉันแทบหายใจไม่ออกแต่มันกลับแฝงความอบอุ่นและความคุ้นเคยจนฉันรู้สึกดีอย่างประหลาด
“อย่าทิ้งฉัน... ได้โปรดซิดนีย์อย่างทิ้งฉัน” อ้อมกอดนั้นยิ่งกระชับมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าถ้าเกิดคลายอ้อมกอดนี้เมื่อไหร่ฉันอาจจะหายไปได้ทุกเมื่อ
“ฉันไม่ทิ้งพี่... ไม่ทิ้งพี่แน่นอน” ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ฉันพูดแบบนั้นออกไปแต่สภาพตอนนี้เขาน่าสงสารสุดๆ จะให้ฉันกล้าพูดทำร้ายจิตใจผู้ชายคนนี้ได้ยังไงกันถ้าฉันไม่อ่อนโยนกับเขาผู้ชายตรงหน้าอาจจะสลายไปก็ได้นะ
“จริงเหรอ...” อ้อมกอดที่แสนคับแคบค่อยๆ ผ่อนคลายลงเมื่อได้ฟังคำตอบของฉันนัยน์ตาสีดำสนิทช้อนมองขึ้นมาสบสายตาฉันพอดี
บางทีฉันคิดว่าตัวเองมีภูมิต้านทานผู้ชายหล่อเร้าใจได้สูงมาก แต่สำหรับกิริยาเขาตอนนี้มันทำให้ฉันอดใจเต้นไมได้ เผลอไผลไปกับนัยน์ตาสีดำสนิทอันลึกลับที่จ้องเข้ามานัยน์ตาฉันอย่างอ่อนโยน ใบหน้าหล่อคมค่อยๆ เลื่อนเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัว รู้สึกอีกทีก็ตอนที่ลมหายใจร้อนๆ ของเราค่อยๆ รดใส่กันยิ่งทำให้ฉันหยุดเอาไว้ไม่อยู่ระยะห่างของเราค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาจนจวนจะได้ลิ้มรสริมฝีปากหอมหวานจากอีกฝ่ายจนกระทั่งริมฝีปากของเราแตะกันในที่สุด
มันเป็นรสชาติที่หอมหวานเกินต้านทานกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ผสมแอลกอฮอล์ในปากของผู้ชายคนนี้ยิ่งทำให้ฉันสติกระเจิดกระเจิงทำตามในชอบ ริมฝีปากที่นุ่มละไมของเขาป้อนรสหวานให้ริมฝีปากของฉันไม่มีหยุดพัก มือเรียวเล็กของฉันขยุ้มเส้นผมสีน้ำตาลแดงที่ท้ายทอยอย่างลืมตัว เราแลกสัมผัสกันจนแทบควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่จนกระทั่งมีมือใครคนหนึ่งเกี่ยวเอวฉันแล้วกระชากตัวลอยออกมาจากห้วงสัมผัสที่ทำให้ฉันหลงใหลเข้าไป
“โชคดีจริงๆ ทีฉันตัดสินใจเดินออกมาตามหาซิดนีย์” แววตาดุดันน่ากลัวจ้องเขม็งที่พี่ไรทอลเขาค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นมายืนตั้งหลักส่วนฉันก็ถูกดันให้มายืนอยู่ข้างหลังพี่เดรก
“เธอเป็นของฉัน ฉันมั่นใจว่าแกต้องรู้ดี J”
“สำหรับตอนนี้แกคิดผิดแล้ว... ซิดนีย์ไม่ใช่ของแก” อะไรกัน... พวกเขากำลังคุยเรื่องอะไรกันฉันไม่เห็นเข้าใจด้วยเลย ไม่เข้าใจเลย...
“...” พี่ไรทอลเงียบนิ่งสายตาเขามองตรงมาที่ฉันคนเดียว จะเลี่ยงหลบสายตาเขาก็ไม่ได้เพราะแววตาที่ฉายออกมามันดูเศร้าสร้อยและเจ็บปวดทรมาน
“ซีลอนอธิบายให้แกฟังแล้ว แกต้องรู้ดีว่าควรทำยังไง”
“แกก็กำลังทำตามที่ยัยนั่นบอกอยู่ใช่มั้ยละ...”
“ฉันรู้ว่าแกกำลังคิดจะทำอะไร ฉันจะไม่ให้แกทำแน่!”
“ฉันมั่นใจว่าแกห้ามฉันไม่ได้แน่ๆ J”
“ไรทอล! แกกำลังทำให้ทุกอย่างพัง”
“ถ้าเพื่อตัวฉันเองละก็ฉันจะยอมทำลายแก J”
“แกทำลายฉันไม่ได้ง่ายๆ หรอกไรทอล!!” พี่เดรกคาดโทษไว้ก่อนจะลากฉันเดินออกมาจากจุดนั้น
ครั้นที่ฉันหันหน้ากลับไปมองพี่ไรทอลเขาเหมือนจะเดินตามมาแต่ก็ต้องชะงักฝีเท้าหยุดไว้แค่นั้นแต่สายตาก็ยังมิวายละออกไปจากฉันสักวินาทีเดียว
@ บ้านฉันเอง
ตุ้บ!
“ฉันเจ็บนะพี่ L” พอกลับมาถึงที่บ้านพี่เดรกก็ลากฉันขึ้นมาในบนห้องของฉันเองก่อนจะเหวี่ยงตัวฉันลงที่เตียงอย่างป่าเถื่อน - -* ดูเหมือนเขาจะคุ้นเคยกับที่บ้านนี้เป็นอย่างดีนะเดินเข้ามาปุ๊บปับทั้งๆ ที่ฉันเองยังเดินหลงห้องตัวเองเลย
“เธอกอดกับมัน”
“อะไรนะ?” ฉันกอดกับใคร? หรือว่าจะเป็นพี่ไรทอล - -* เขาติดใจอะไรกับเรื่องนี้ด้วยงั้นหรอ
“เธอจูบมันด้วย!” เป็นพี่ไรทอลแน่ๆ แต่ทำไมพี่เดรกถึงได้พูดเรื่องนี้ได้ =_=; ฉันกะจะลืมๆ มันไปแล้วนะเนี่ย
“ฉันเผลอตัวละมั้ง” แต่ถึงอย่างนั้นทำไมฉันถึงหลบนัยน์ตาสีน้ำเงินนั่นด้วยนะ เขามองมาด้วยสายตาที่โกรธคุกครุ่นก่อนจะย่างสามขุมมาหยุดข้างๆ เตียงทำเอาฉันเขยิบถอยหลังหนีอย่างหวาดกลัว -O-;
ตุ้บ
“ฉันมั่นใจว่าเธอจะมีคำตอบมากกว่านั้น” พี่เดรกค่อยๆ เคลือบคลานเข้ามาจนแทบจะคร่อมตัวฉันอยู่แล้วถ้าจะเขยิบถอยอีกได้ตกเตียงแน่ๆ ใบหน้าหล่อเนียนใสเลื่อนเข้ามาใกล้จนฉันสามารถมองดวงตาดุดันได้อย่างชัดเจน
“อะ... เอ่อ พี่คะลุกออกไปเถอะ” ฉันยกมือดันไหล่พี่เดรกไม่ให้เขาเลื่อนเข้ามาใกล้มากกว่านี้มันอันตรายต่อหัวใจฉันมากนะ เอ๊ะ -O-^ นี่ฉันบอกว่า ‘หัวใจ’ หรอทำไมฉันถึงคิดอย่างนั้นได้นะ
ปึ่ก!
“ทำไมเธอถึงทำกับฉันแบบนี้ซิดนีย์...” หัวหนักอึ้งของพี่เดรกหล่นตุ้บลงบนบ่าฉันน้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินทำให้ใจฉันสั่นไหวแปลกๆ ฝ่ามือฉันที่ดันไหล่เขาอยู่นั้นเลื่อนขึ้นมาแตะที่แก้มพี่เดรกเบาๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะพี่ O_o”
“เป็น...”
“ห๊ะ? เป็นอะไรคะต้องกินยาหรือเปล่างั้นเดี๋ยวฉันไปเอายามาให้ดีกว่า -O-“ ฉันกำลังจะขยับตัวลงจากเตียงแต่เหมือนจะไม่ได้ผลเพราะพี่เดรกเริ่มทิ้งน้ำหนักตัวลงที่ฉัน แขนหนึ่งกอดรัดเอวฉันไว้แน่นจนตอนนี้เขาจะทับตัวฉันอยู่แล้ว =O=!!
ปัง!
“ฉันซื้อของมาเยอะแยะเลยไปกินกันเร็ว >O</” เหวออออ O_o ฉันตกใจแทบช็อกเมื่อจู่ๆ พี่ซีลอนก็ผลักประตูห้องเข้ามาเสียงดังก่อนจะเดินเข้ามาหิ้วคอเสื้อพี่เดรกให้ลุกขึ้น
“Shit! ยัยนางมาร!” คนที่ถูกขัดจังหวะสบถก่อนจะสะบัดหน้าเดินออกไปจากห้อง
“อ้าว... ไหนพี่บอกว่าวันนี้จะกลับดึกมากๆ ไงคะ?”
“บังเอิญว่ามีเรื่องค้างคาใจกะทันหันเลยรีบบึ่งมาหาน้องสาวที่รักยังไงละ ^O^”
“เรื่องค้างคาใจ?”
“ไปกินข้าวดีกว่า วันนี้พี่ซื้อมาเยอะแยะเชียวละ ^-^” พี่ซีลอนเลี่ยงที่จะตอบคำถามฉันแล้วหมุนตัวเดินออกไปอีกคน เฮ้อออ จะมีใครบ้างมั้ยที่พอจะบอกความจริงเกี่ยวกับอดีตฉันได้สักคน?
7:30 A.M.
ปังๆๆๆๆ
หลิกซ้าย...
ปังๆๆๆๆๆ
พลิกขวา....
ปังๆๆๆๆๆๆ... โครม!
เด้งตัวลุกขึ้นมา... ว้ากกกกกกก O_o ฉันกะจะทำเป็นหูทวนลมเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูตอนเช้าแต่ต้องลุกขึ้นมาเพราะเสียงเคาะมันผสมกับเสียงของพัง อย่างเช่นประตูห้องฉันไง -_-
“อุ๊ย...โทษทีพี่ไม่ได้ตั้งใจเลยซิดนีย์ =O=;” คนที่เป็นตัวการทำประตูห้องพังคือพี่ออร์คัสที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มโรงเรียน HSJ หรือโรงเรียนที่วันนี้ฉันต้องไปเรียนยังไงละ
“ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวซ่อมได้ - -^” เอาแรงมาจากไหนกันถึงพังประตูห้องฉันอย่างนี้ “แล้วพี่มาทำไมกันคะ?”
“ได้รับคำสั่งจากนายหญิงซีลอนให้มาปลุกและพาเธอไปโรงเรียนไงละ ตั้งแต่วันนี้ฉันคือพี่ชายอีกคนที่จะดูแลเธอ...”
“(‘ ‘)”
“เป็นคำพูดที่ฟังแล้วดูดีใช่ไหม ฮ่าๆ ^O^”
อะไรกันเนี่ย... พี่ซีลอนส่งคนประเภทไหนมาดูแลฉันกันไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นพี่ชายคนสนิทที่ฉันไว้วางใจที่สุด -_-^
“รีบๆ อาบน้ำเร็วเข้าตอนเช้านี้พี่มีสอบย่อยนะ” พี่ออร์คัสว่าก่อนจะทิ้งตัวนั่งบนเตียงฉัน
“แล้วพี่จะอยู๋ในนี้ดูซินอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือไงกัน?”
“ต้องออกไปเหรอ =O=;”
“พี่โง่หรือไงกัน -_-^”
“ออกก็ได้จ้ะ -__-“
นี่พี่ซีลอนคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่เลือกผู้ชายคนนี้มาดูแลฉันกันน่ะ L
@ HSJ
“พี่เดินไปส่งที่นะ ^^”
“ไม่ต้องหรอกคะ - -;” ตั้งแต่เดินเคียงค้างพี่ออร์คัสออกมาจากลานจอดรถฉันก็ตกเป็นเป้าสายตาทันที แต่คนข้างๆ ฉันกลับเดินยิ้มร่าเริงไม่แคร์สายตารอบข้างเลยแม้แต่น้อย
“แต่ว่า... มันเป็นคำสั่งของซีลอนนี่นา”
“ซินดูแลตัวเองได้แน่นอนเมื่อวานพี่ก็พาไปที่ห้องเรียนแล้ว เอาเป็นว่าเราแยกกันตรงนี้ ^^”
“พี่ไร้ประโยชน์แล้วสินะ T^T”
“เลิกไร้สาระทีเถอะ”
“-O-;”
ฉันเดินแยกออกมาจากพี่ออร์คัสด้วยทิ้งคำพูดไว้แค่นั้น ไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าพูดแบบนั้นออกไป จู่ๆ คำพูดนั้นมันก็ออกมาจากจิตใต้สำนึกซะได้ ตัวฉันในอดีตที่หายไปนั้นเป็นยังไงกันแน่นะ?
กึก...
ฝีเท้าฉันชะงักค้างที่จะเดินต่อไปข้างหน้าเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นตึก ผอ. ที่ประตูข้างล่างเปิดแง้มไว้เสียงเปียโนใสๆ ดังก้องกังวานดังออกมาจากตึกผู้อำนวยการนี้ ดูเหมือนเสียงเปียโนนี้ไม่ได้ทำให้นักเรียนที่เดินขวักไขว่กันไปมาหยุดฝีเท้าแล้วหันมาสนใจได้เลยเหมือนเสียงนี้เป็นเรื่องธรรมดาซะอีก
เห็นพี่ออร์คัสบอกว่าตอนเช้าๆ แบบนี้โซนด้านล่างจะเป็นพื้นที่พักผ่อนของพวกบุตรและบุตรีที่อยู่ในตระกูลที่ติดอันดับสำหรับคนที่เรียนที่นี่และบุคคลที่ได้รับการอนุญาติ และในนั้นมีเปียโนแค่สองหลังคือด้านบนและด้านล่าง แต่เสียงนี้ฉันมั่นใจว่ามันดังมาจากด้านล่างต้องเป็นใครสักคนแน่ๆ
เพราะเสียงทำนองดนตรีที่ดังไพเราะคุ้นเคยทำให้ฉันก้าวขาตามขั้นบันไดไปยังประตูไม้แกะสลักสวยงามที่แง้มอยู่เสียงเปียโนนั้นค่อยๆ ดังชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฉันผลักประตูบานใหญ่ข้างหนึ่งเข้าไปช้าๆ พื้นที่ส่วนมากนั้นปกคลุมไปด้วยความมืดมิดมีเพียงเปียโนหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่างบานใหญ่แสงข้างนอกสาดส่องเข้ามาทำให้ฉันเห็นเสี้ยวหน้าของผู้ชายที่กำลังร่ายนิ้วเรียวไปตามคีย์เปียโนเป็นจังหวะช้าๆ แต่แฝงได้ด้วยความอ่อนนุ่มละไมที่มีความหมาย แววตาที่มองตามนิ้วมือตัวเองมันช่างว่างเปล่าราวกับไม่มีอะไรอยู่ในนั้น
ผู้ชายที่นั่งอยู่หน้าเปียโนคือพี่เดรก! จริงสินะคนที่เข้ามาที่นี่ได้โดยไม่ต้องขออนุญาติคือพวกตระกูลที่อยู่ในสิบตระกูลเก่าแก่แต่ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไปทักก็ต้องหมุนตัวหลบมุมความมืดเมื่อร่างสูงในชุดหล่อสะบัด เจ้าของเรือนผมสีดำแซมน้ำเงินที่เดินเข้าไปหยุดตรงหน้าพี่เดรกพร้อมๆ กับเสียงดนตรีที่หยุดไปนัยน์ตาสีนิลของพี่ออกัสสะท้อนกับแสงข้างนอกประกายแวววาวกำลังจ้องมองเปียโนสีดำหลังนั้นอยู่
“อะไรกันๆ โดยปกติแกชอบเป็นผู้ฟังมากกว่าเป็นผู้เล่นไม่ใช่รึไง”
“โดยปกติมักจะมีคนเล่นให้ฉันฟังซึ่งตอนนี้มันไม่มีน่ะสิวะ -_-^”
“...”
“แล้วนี่แกนึกยังไงถึงมาที่นี่”
“นั่นสินะฉันนึกยังไง...”
“กำลังกวนฉันเรอะ!”
“เอาหน่าใจเย็นๆ เพื่อนอย่างน้อยๆ ก็แห่กันมาที่เมืองไทยแล้วก็ต้องเที่ยวให้คุ้มซะหน่อยที่ไหนไม่ได้ไปก็ต้องไปซะ ^O^” พี่ออกัสเดินไปทิ้งตังบนโซฟาที่ยังอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงสว่าง
“พวกแกน่ะกลับไปซะ”
“หือ... แล้วแกละ”
“ฉันจะอยู่ที่นี่ต่อ”
“เพื่ออะไร?”
“ถ้ายัยนั่นยังอยู่ที่นี่ฉันก็จะอยู่ที่นี่”
“ถ้างั้นแกก็คงต้องอยู่ตลอดไปแล้วละฉันมั่นใจว่าพี่สาวยัยนั่นไม่ปล่อยเธอกลับไปง่ายๆ หรอก” พวกเขากำลังพูดถึงเรื่องฉันใช่มั้ย? ความรู้สึกฉันมั่นใจแน่ๆ ว่าเขากำลังพูดถึงฉัน
“ก็ดีแล้วนี่ถ้าเกิดยัยนั่นจำอะไรได้ขึ้นมาฉันอาจจะกระเด็นออกจากชีวิตเธอเลยก็ได้”
ตึก ตึก ตึก...
“อ้าวเธอมาทำอะไรที่นี่กันยะ” ประตูเปิดกว้างออกโดยมีร่างเพรียวบางของยูเรเนียที่เดินเข้ามาและสายตายัยนั่นก็ดีเกินคาดที่จู่ๆ ก็เหลือบมาเห็นฉันที่กำลังยืนอยู่ในมุมมืดและเพราะเสียงของยัยนี่ทำให้สองคนนั้นละจากบทสนทนาส่วนตัวมาสนใจตรงนี้แทน
“เอ่อ... ขอโทษน่ะฉันคงเข้าผิดห้อง” ฉันทำตัวลีบและกำลังเดินออกจากห้องก็ถูกยูเรเนียดึงแขนเอาไว้
“ซิดนีย์! - -* หล่อนเข้ามายืนมุมมืดทำไมกันยะ”
“ก็บอกว่าเข้าห้องผิดไงเล่า!” ฉันสะบัดแขนออกจากมือเล็กๆ ของยัยนั่นก่อนจะรีบเดินออกมา เฮ้อออ ถ้าอยู่นานกว่านี้ฉันต้องถูกผู้ชายสองคนนั้นมองด้วยสายตาแปลกๆ แน่ๆ ที่ไปแอบฟังบทสนทนานั้นน่ะ
ปึก!
“อ๊ะ... เอ่อ =O=;”
“เธอเข้าไปทำอะไรงั้นรึ?” ทันทีที่เดินออกมาไม่ทันระวังก็ชนเข้ากับแผงอกกว้างของคนตัวสูงที่กำลังจะเดินเข้าไปและคนๆ นั้นก็คือ ผอ. โรงเรียนนี้ไงละ
“เข้าผิดคะ -O-“
“เพราะเสียงเปียโนนั้นหรือเปล่า?” ผอ. ไม่ฟังคำตอบฉันแต่กลับถามขึ้นมาอีกซะงั้น
“...” แต่มันก็จริงนั้นละ ที่ฉันเข้ามาก็เพราะเสียงเปียโนนั่น
“อยากฟังอีกหรือเปล่า ^^” ฉันเงยหน้ามองร่างสูงที่ยิ้มร่าเริงแล้วเขาก็ดึงฉันที่ไม่ทันตั้งตัวให้มาหลบอยู่ข้างหลังก่อนเสียงคนข้างในจะแทรกขึ้นมา
“ทำอะไรของแกอีกน่ะไรทอล -_-^” เป็นพี่เดรกที่เดินออกมาด้วยใบหน้าทมึนทึงเป็นเพราะรู้ว่าผู้ชายคนนี้จะออกมาสินะถึงได้ดึงฉันหลบแบบนี้ - -*
“เปล่านี่ J”
“ส่งตัวซิดนีย์มาเดี๋ยวนี้”
“แกออกคำสั่งกับฉันได้เมื่อไรกัน?” ดูท่าว่าผู้ชายสองคนนี้จะไม่ยอมกันง่ายๆ จนกระทั่งยูเรเนียที่อยู่ข้างในเดินออกมาคั่นกลางระหว่างสองคนนี้ไว้แล้วหันมาพูดกับพี่ไรทอล
“จะไปก็ไปเถอะ”
“ฉันมั่นใจว่าเธอต้องเข้าข้างฉัน ^^” ว่าจบพี่ไรทอลก็ดันหลังฉันให้เดินไปโดยที่ตัวเองเดินตามแต่เสียงโวยวายของพี่เดรกก็ยังดังลั่นจนนักเรียนคนอื่นๆ ที่เดินผ่านพากันมองเป็นตาเดียว
“ทำอะไรของเธอน่ะยัยยูเรเนียม! หลบออกไปอย่าจุ้นได้มั้ยวะเห็นมั้ยว่ามันกำลังจะทำอะไร!!”
“...” เพราะว่าเดินออกมาไกลเกินกว่าจะได้ยินเสียงพูดของยูเรเนียที่คำพูดนั้นทำเอาพี่เดรกที่โวยวายหยุดนิ่งไปได้... ยัยนั่นพูดว่าอะไรกันนะ?
@ ห้องดนตรีร้าง
ทั้งๆ ที่ป้ายหน้าห้องเป็นห้องดนตรีร้างแต่ข้างในนี้กลับสะอาดสะอ้านราวกับดูแลอยู่ตลอดเวลา รอบๆ ห้องนั้นเป้นพื้นที่โล่งๆ มีหน้าต่างสามบานใหญ่ที่สามารถให้แสงแดดสาดส่องเข้ามาได้ ตรงกลางห้องนั้นมีเปียโนที่ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาว พี่ไรทอลลากฉันไปหยุดอยู่ตรงเปียโนหลังนี้
“ไหนว่าห้องดนตรีร้าง? แต่กลับ...”
“สะอาดใช่มั้ยละ จริงๆ ที่นี่เป็นห้องส่วนตัวของฉันเองแต่เพราะไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายเลยทำเป็นห้องดนตรีร้างซะเลย ดูเป็นส่วนตัวดี” พี่ไรทอลว่าก่อนจะดึงผ้าคลุมนั้นออกเผยให้เห้นเปียโนสีขาวสะอาดตาแล้วนั่งลงบนเก้าอี้หน้าเปียโนแล้วเขยิบพื้นที่ให้ฉันนั่ง “นั่งสิ”
“แต่ว่าฉันต้องไปเรียน ดูเหมือนเลยเวลาเรียนมามากๆ แล้วด้วย -_-^” ฉันชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือให้เขาดูแต่พี่ไรทอลกลับไม่สนใจแล้วดึงให้ฉันนั่งลงเอง
“ไม่ต้องห่วงหรอกฉันรับผิดชอบเองคงไม่มีใครกล้าว่าเธอหรอกหน่า”
“แต่ว่า...”
“ฉันเชื่อว่าเธอต้องชอบเพลงนี้แน่นอน ^^” เขาคนนี้ตัดบทพูดฉันกลางคันก่อนที่นัยน์ตาสีดำสนิทจะเบนไปสนใจเปียโนสีขาวที่อยู่ตรงหน้า
พี่ไรทอลว่าก่อนจะวางนิ้วเรียวทั้งสิบนิ้วลงบนคีย์เปียโนแล้วบรรเลงเพลงที่แสนนุ่มนวลทวงทำนองที่ไพเราะจนทำให้ฉันเพลิดเพลินไปกับมัน เพลงๆ นี้มันรู้สึกคุ้นเคยอยู่ลึกๆ ยากที่จะบรรยายออกมา ฉันแอบมองเสี้ยวใบหน้าของเขาคนนี้ที่ดูเพอร์เฟกมากซะรู้สึกอิจฉา เขาดูปล่อยอารมณ์ไปตามเนื้อเพลงที่บรรเลงออกมาแต่แววตายังคงมีบางสิ่งแฝงอยู่ลึกๆ ราวกับสับสนไม่แน่ใจ
ในขณะที่กำลังฟังทวงทำนองดนตรีที่ไพเราะจู่ๆ ในหัวฉันกลับปรากฏภาพๆ หนึ่งขึ้นมา...
‘นายไม่ชอบฟังเสียงเปียโนไม่ใช่หรือไงจะมานั่งทำหน้าบูดทำไม’ ที่เปียโนหลังหนึ่งฉันเห็นผู้หญิงรูปร่างดีนั่งอยู่ ไม่ใกล้ไม่ไกลนักมีผู้ชายอีกคนนั่งอยู่และเพราะแสงจากหน้าต่างที่ส่องเข้ามาบดบังใบหน้าทำให้ฉันเห็นหน้าของสองคนนั้นไม่ชัด
‘เพราะเธออยากเล่นมันไงละฉันถึงต้องทนอยู่ที่นี่ -_-^’
‘ไม่จำเป็นก็ได้มั้ง... ฉันอยู่คนเดียวได้อีกเดี๋ยวเขาก็มาแล้ว ^^’
‘เหอะ... ถ้าฉันเจอเธอก่อนเธอจะเป็นของฉันสินะ’
‘พูดอะไรอย่างนั้น ฉันไม่มีทางเจอนายก่อนเขาหรอก’ หญิงสาวลุกจากหน้าเปียโนมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ชายคนนั้น ‘เขาว่ากันว่า... คนมาที่หลังไม่มีสิทธิ์ท่าจะจริงนะ ^^’
‘ไม่จริง...ฉันคนหนึ่งนี่แหละที่จะพิสูจน์ให้ดูว่าไอ้คนมาที่หลังอย่างฉันนั้นมีสิทธิ์เหลือล้น J’
“โอ๊ยยยยยย!”
“ซิดนีย์...” พี่ไรทอลปล่อยมือออกจากคีย์เปียโนแล้วเอื้อมมือมาโอบไหล่ฉันที่ตอนนี้ปวดหัวมากเหมือนมีคีมคีบอยู่บนหัว -_- ยิ่งภาพนั้นฉายซ้ำไปมาก็ยิ่งทำให้ปวดหัวมาขึ้นไม่ว่าจะพยายามหยุดคิดเท่าไหร่แต่เหมือนจะไม่ได้ผล
“ออกไปนะ! ออกไปจากหัวฉันเลยนี่มันอะไรกัน กรี๊ดดดดดดดดดด!”
ปัง!
“ไรทอล! ซิดนีย์!!” ในขณะที่ฉันกำลังสติแตกเสียงเปิดประตูดังโดยฝีมือของใครคนหนึ่งก็ทำให้ภาพๆ นั้นหลุดออกจากหัวฉันได้
“ทำไมถึงเป็นแกได้ละออร์คัส”
“แกทำอะไรซิดนีย์” เสียงพี่ออร์คัสดังขึ้นก่อนที่ตัวฉันจะถูกดึงให้ลุกขึ้นจนออกห่างจากพี่ไรทอลมาพอควร
นี่มันเรื่องอะไรกันอีกละเนี่ย -_-^
“พี่คะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”
“ผิดจากคนที่ฉันคาดไว้แหะ... มันใช้แกมารึไง” พี่ออร์คัสไม่ฟังที่ฉันพูดแต่กลับจ้องหน้าพี่ไรทอลนิ่งๆ
“อย่าโง่หน่าฉันไม่ง่ายขนาดให้คนอื่นสั่งหรอกนะ J”
“ถ้างั้นแกควรจะหลบทางให้ฉันนะ ^^”
“ฉันคงทำตามความต้องการแกไม่ได้หรอก เพราะอย่างน้อยฉันก็เป็นพี่ชายที่แสนดีที่จะไม่ยอมให้น้องสาวจำเรื่องราวเลวๆ พวกนั้นได้”
“แต่ไอ้คนเลวๆ แบบนั้นมันก็อยู่ใกล้เธอไม่ใช่รึไง J”
พูดถึงเรื่องอะไรที่ฉันไม่เข้าใจอีกแล้ว -_-^ พวกเขาสองคนจะเหมือนศัตรูกันก็ไม่ใช่จะเป็นเพื่อนกันก็ไม่เชิง จะเป็นแค่คนรู้จักผ่านๆ งั้นเหรอท่าทางไม่ใช่อย่างนั้นเลยแหะ
“ฉันรู้... แต่แกอยากเห็นสภาพซินแบบนั้นอีกหรือไง”
“...”
“ฉันมั่นใจว่าในใจลึกๆ ของแกก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีกเพราะฉะนั้นสำหรับตอนนี้แกมีทางเลือกนะ ^^”
ความคิดเห็น