ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราชันย์เทวอสูร

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 88
      0
      22 พ.ย. 53

    บทนำ

              ค่ำคืนอันมืดมิดที่มีเพียงแสงดาวระยับบนท้องฟ้า ไร้ซึ่งหมู่เมฆ ทอแสงระยิบอยู่บนท้องนภากว้าง ภายในป่าใหญ่ห่างใกล้จากหมู่บ้านต่างๆ มันคงเป็นค่ำคืนที่แสนจะปกติธรรมดาเฉกเช่นทุกคืน แต่กลับมีบางอย่างที่แตกต่างออกไป เพราะในค่ำคืนนี้ไร้ซึ่งเสียงของสรรพสัตว์ใดๆ รอบบริเวณน้ำตกแห่งหนึ่งซึ่งมักมีสัตว์ป่ามากิน้ำในลำธารใกล้ๆ มีสัตว์นักล่าคอยแอบสุ่มอยู่ตามพุ่มไม้ใหญ่น้อย ทว่าในตอนนี้กลับเงียบสงัดชวนให้วังเวงเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีแม้แต่เสียงลม เหมือนกับผืนป่าใหญ่กำลังกลั่นลมหายใจเอาไว้

                “หัวหน้าทำไมมันเงียบแปลกๆ แบบนี้หล่ะครับ เราก็เข้ามาดักสัตว์อสูรในป่านี้ตั้งหลายรอบแล้วนะครับ แต่ครั้งนี้ไม่มีตัวอะไรออกมาติดกับดักของเราเลย เสียเที่ยวจริงๆ เลยผับผ่าสิ”เสียงชายคนหนึ่งที่ยืน อยู่ข้างๆ หลุมดักสัตว์ที่มีขนาดกว้างมากพอที่จะให้ช้างทั้งตัวตกลงไปได้โดยที่ความลึกก็ดูเหมือนจะลึกมากโขอยู่ กล่าวขึ้นอย่างอารมณ์เสียเพราะว่า กับดักที่พวกเขาว่างเอาไว้ดักได้เพียงแต่ลมทั้งหมด “รอบนี้เหนื่อยฟรีจริงๆ จะเอายังต่อดีครับหัวหน้าเราจุดไปตั้งกระโจมกันเลยดีไหมครับ”

                “อย่าเพิ่งจุดไฟ ข้าว่าวันนี้มันมีอะไรแปลกๆ จริงๆ รอยด์เจ้าไปรีบไปตาม เอชที่ลำธารกลับมาเดียวนี้เราต้องรวมกลุ่มกันไว้ ความรู้สึกข้ามันบอกว่าเรื่อง ซวยๆ จะถามหาพวกเรา”ชายรูปร่างสูงกล่าวกับรอยด์ซึ่งเตี้ยกว่าประมาณคืบอย่ากังวลใจ

                “ข้ามาแล้ว แม็ค ข้าก็ว่ามันแปลกมากที่ป่าแห่งนี้จะเงียบสงัดได้ขนาดนี้ หรือว่าจะมีพวก มังกรมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้กันนะ”ชายหนุ่มรูปร่างอ้วนที่เดินออกมาจากพงไม้กล่าวขึ้น

                “เจ้าอ้วน เจ้าไม่รู้หรือไงว่ามังกรนะมันอยู่ที่ป่ามังกร แล้วมันก็ห่างจากที่นี้ครึ่งทวีปเห็นจะได้ แล้วเจ้าคิดว่ามังกรตัวขนาดนั้นจะบินมาโดยที่ไม่มีใครเห็นได้หรือไง นอกจากเจ้าจะอ้วนเป็นหมู แล้วยังมีสมองหมูๆ อีกนะ”

                “ข้าก็แค่ออกความคิดเห็น ถึงจะสมองหมูๆ ก็ดีกว่าเจ้าที่ได้แต่ตามก้นของแม็ค ต้อยๆ เหมือนหมาตามนายล่ะหว่ะ น่าสมเพชว่ะ” ชายร่างท่วมกล่าวขึ้นพลางโยนถุงใส่น้ำให้กับแม็ค และโยนอีกถุงลงที่พื้นข้างๆ รอยด์ “ไอ้หมาตาเดียว”

                “”หน่อย...ไอ้หมูตอนปากหมาเจ้าว่ายังไงนะมามาให้ข้าเอามีดเลาะปากหมาในร่างหมูของเจ้าออกหน่อยสิ”รอยด์กล่าวขึ้นพร้อมทั้งกระชากมีดที่อยู่ที่เข็ดขัดของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว พอๆกับที่รอบๆ มือของเอชมีไฟลุกท้วมมือ

                “พวกเจ้าหยุดไร้สาระกันได้แล้ว และก็เงียบทั้งคู่เลย ลองฟังรอบๆตัวพวกเราให้ดี”ชายหนุ่มซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มกล่าวขึ้น         

                ตอนแรกมันก็ได้ยินเพียงเสียงแว่วๆ ของตัวอะไรสักอย่างร้องขึ้นมาแต่ใกล้ เวลาผ่านไปเพียงอึดใจเดียวรอบตัวของชายทั้งสามก็มีเสียงสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นร้องออกมาพร้อมๆ กันพร้อมกับแรงสันสะเทือนของพื้นดินที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น

                “หัวหน้าครับ ซวยจริงๆ แล้วซิครับป่าแตกสัตว์อสูรวิ่งให้พล่านเลยครับ”รอยด์ซึ่งมีดีด้านพละกำลัง และความว่องไวกระโดดขึ้นสังเกตการณ์บนต้นไม้ใหญ่กล่าวรายงานสถานการณ์ป่าแตกให้กับแม็คทราบ “เอ้ย...บรรลัยแล้ว หัวหน้าฝูงกระทิงอัคคีวิ่งตรงมาทางนี้แล้วครับ ทางผ่านของพวกมันราบเป็นจุลเลยครับหัวหน้า”

                แม็คมีสีหน้ากังวลขึ้นมากอย่าเห็นได้ชัดเพราะเขายังไม่ทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจากอะไร ซึ่งอะไรที่ทำให้ป่าแตกได้ขนาดนี้ต้องเป็นอะไรที่เขาไม่อยากพบเจอมากๆ เป็นแน่นอนที่สุด

                “รอยด์รีบลงมาด่วนเลย พวกเราจะหลบไปที่ถ้ำหลังน้ำตก แยกกันไปคนละทางพยายามอย่าเสียเวลากับพวกสัตว์อสูรเข้าใจกันแล้วก็ไป!

    .........................................................................................................................................

                ณ ส่วนที่ลึกลับที่สุดของเทือกเขาที่ปกคลุมอยู่ภายใต้ความมืดมิดตลอดกาลของแผ่นผาอันสูงชันที่ล้อมรอบ ก้นผาแห้งความตาย ที่ๆ สัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่ยังดำรงชีพอยู่ไม่อาจล่วงเกิน แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่เรียกตนเองว่าเป็นผู้บุกเบิก ยังมิอาจล่วงล้ำเข้ามาได้ เพราะก้นหุบผาแห่งนี้มีอำนาจลึกลับที่คอยปกป้องมันจากผู้บุกรุก แต่แค่สภาพของเทือกเขามังกรฟ้านี้ก็เรียกได้ว่าทุรกันดารขนาดที่ชายฉกรรจ์ยังไม่อาจขึ้นมาได้แล้ว การที่จะบุกลงไปสำรวจล่วงล้ำไปยังหุบเหวมังกรฟ้าที่คาดกันว่าอยู่ใจกลางของเทือกเขามังกรฟ้านั้นคงเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันของคนบ้า

                แต่กลับเกิดเรื่องน่าอัศจรรย์ขึ้นเพราะ ภายใต้หุบเหวมังกรฟ้าที่ไม่มีมนุษย์หรือสัตว์ใดเคยกล้ำกรายมาก่อน  แต่บัดนี้กลับมีผู้บุกรุกเข้ามาหลายสิบคน

                “พวกท่านไม่น่าทำเรื่องให้ลำบากเช่นนี้เลยขอรับ ถ้าส่งมอบเขามาให้กับพวกเราเสียเรื่องก็จะจบด้วยดีนะขอรับ”ชายชุดดำรัดรูปกล่าวขึ้นกับ คนสามคนที่ถูกล้อมเอาไว้โดยชายชุดดำอีกประมาณสิบกว่าคน “ดูจากพวกท่านแล้วคนไม่ยอมส่งมอบของของเราคืน เป็นเช่นนั้นใช้หรือไม่ขอรับ”

                “ถุย..เจ้าว้ายังไงนะเจ้าหมาน้อยของของพวกเจ้าหรือ”ชายหนุ่มผู้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดกล่าวขึ้นพร้อมกับถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างโมโห “แล้วคิดหรอว่าพวกเจ้ามีปัญญาบังคับพวกเราในบ้านของพวกเราได้นะ”

                “ท่านจ้าวทั้งสามข้าว่าพวกท่านเข้าใจอะไรผิดไปแล้วนะขอรับ ที่ข้ามาเจรจากับพวกท่านก็แค่อยากจะสนทนาด้วยเฉยๆ ส่วนเรื่องของเขานั้นข้าว่าพวกข้าที่จมูกไวข้างนอกคงใกล้จะหาตัวพบแล้วเป็นแน่ขอรับ แล้วเมื่อหาตัวพบคงจะได้ระบายอารมณ์จนหาซากเก่าไม่เจอเป็นแน่ขอรับ”ทันใดนั้นก็มีชายชุดดำมาส่งข่าวให้กับหัวหน้าของพวกมันเสร็จแล้วจึงถ่อยไปอย่างรวดเร็ว

                “ว่ายังไงเจ้าหมาน้อยทั้งหลาย ระบายอารมณ์กันเสร็จแล้วหรือ” หญิงสาวเพียงนางเดียวในที่นี้กล่าวขึ้นมา

                “พรีส ข้าคงต้องขอโทษเจ้าด้วยนะที่ทำให้ป่าของเจ้าต้องวุ้นวายไปด้วย”ชายหนุ่มผู้ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดกล่าวกับชายหนุ่มอีกผู้หนึ่งซึ่งยืนมองเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยความเฉยชา แต่เป็นความเฉยชาที่เต็มไปด้วยความพิโรธ

                “พวกท่านแน่มากขอรับ ท่านเจ้าทั้งสามในเมื่อพูดกันดีๆ ไม่รู้เรื่องก็คงต้องใช้กำลัง ข้าขอ...”ชายชุดดำยังกล่าวไม่ทันจบร่างของก็กระเด็นไปไกลนับสิบเมตรจากแรงกระแทกพียงครั้งเดียวเข้าที่ใบหน้า

                “เจ้านี้ใจร้อนจริงๆ เลยนะ ซาเซีย”หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวกล่าวขึ้นพร้อมกับปาใบมีดเผ่นบางๆ ออกไป

                “เจ้าก็เล่นของแรงเลยนะเนเน่”

                ใบมีดที่ปล่อยออกไปจากฝ่ามือนั้นดูแผ่วเบาแต่เมื่อกระทบกับร่างเป้าหมายมันกับไม่มีท่าทีจะชะลอความเร็วลง มันทั้งผ่าทั้งปาดร่างกายของเหยื่อที่ขวางทางของมัน ไปอย่ารวดเร็ว จนรอบตัวของทั้งสามไม่มีผู้ใดยืนอยู่ได้

                “เนเน่ เจ้าน่าจะเหลือไว้ให้ข้ากับพรีสซัดบ้างนะ”ซาเซียกล่าวพลางเดินกลับมารวมกลุ่ม

                “เจ้าได้ซัดจนหนำใจเป็นแน่ซาเซีย พวกนี้มันเป็นแค่เผ่าหมาป่า เจ้าก็รู้ว่ามันแค่เบี้ยที่ใช้แล้วทิ้ง ไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากมาย ป่านนี้ไอ้พวกหินๆ คงเพ่นพ่านอยู่เต็มป่าเพื่อหาตัวเขากันให้ทั่วแล้วหล่ะน่า”

                “ข้าเป็นห่วงสัตว์ในป่า ไปจัดการมัน” พรีสกล่าวขึ้นอย่างรวบรัดพร้อมกับหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

                “เจ้าแน่ใจนะว่าพวกมันจะตามเขาไม่พบเนเน่”

                “ก็แค่ชั่วคราวนะ แต่มันก็คงทำให้รอดจากวิกฤตในครั้งนี้ไปได้หล่ะนะ”

                “งั้นเราไปช่วยเจ้าพรีสมันเตะก้นผู้บุกรุกกันเถอะ....” ยังไม่ทันที่จะกล่าวจบก็ได้ยินเสียงระเบิดตูมใหญ่มาจากป่าด้านล่างนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×