คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : (T) +TWIN EP02 SICKER X EVE [120%]
Twin
Twin
EPISODE 02 SICKER x EVE
ถ้าหากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงแค่ความฝัน...
เอวาก็พร้อมที่จะแลกทุกอย่างเพื่อให้มันเป็นเช่นนั้น
ปัง...
เสียงปิดประตูดังขึ้นเบา ๆ พร้อมกับที่ร่างของเธอไถลลงพื้น
น้ำตาที่พยายามอัดอั้นไม่ให้มันไหลตลอดทางตอนนี้ไหลทะลักอาบแก้มทั้งสองข้าง
เธอยกมือขึ้นมาปิดใบหน้าตัวเอง พยายามกั้นเสียงสะอื้นแม้รู้ดีว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากเธอคนเดียว
ความรู้สึกผิดต่อพี่อีฟพุ่งเข้าหาเธอดั่งลูกศรที่พุ่งเข้าหาเป้าหมาย
ทะลุทะลวงจนตอนนี้หัวใจเธอรู้สึกเจ็บปวดไปหมด เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนั้น
ทำไมอยู่ ๆ เขาถึงทำกับเธอ.. ทั้งที่เธอไม่ใช่... แถมยังเป็นน้องสาวของแฟนเขา
เอวาปาดน้ำตาบนแก้มของเธอทิ้งหลังจากที่เธอร้องไห้อยู่หลายนาที
เธอดันตัวเองลุกขึ้นยืนแม้ว่ามันจะลำบากเพราะร่างกายของเธออ่อนล้าจนเกินจะทนรับไหวก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นหยิบขวดน้ำเปล่าที่มีขึ้นมาแล้วลวงเอาแผงยาคุมฉุกเฉินที่แวะซื้อที่ร้านขายยาวางเอาไว้บนโต๊ะ
เธอมองมัน มือก็กุมขวดน้ำไว้แน่น
ถึงมันอาจจะมีผลข้างเคียงต่อร่างกายของเธอแต่ถ้าหากเธอไม่ทานตอนนี้
มันอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้ และเธอก็ไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่ ๆ
เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย
และเธอก็จะไม่ยอมให้เรื่องนี้ไปถึงหูพี่อีฟเด็ดขาด มันจะเป็นความลับตลอดไป
เธอไม่อยากให้พี่ต้องมารับรู้เรื่องที่น้องสาวฝาแฝดอย่างเธอทำกับแฟนของพี่เขา
เอวาแกะเม็ดยาในแผงที่มีอยู่สองเม็ดออกมาเม็ดหนึ่งก่อนจะทานมันลงคออย่างรวดเร็ว
เธอเก็บยาคุมฉุกเฉินใส่กระเป๋า เก็บหลักฐานให้เรียบร้อยก่อนที่พี่อีฟจะกลับมาสังเกตเห็นจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปอาบน้ำ
เอวามองดูร่างกายของเธอบนกระจก ร่องรอยช้ำจากฝีมือของเขาปรากฏให้เห็นบนร่างเธออย่างเห็นได้ชัด
และมันทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
“ไม่เป็นไร... เธอจะไม่เป็นไร เอวา..”
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันจะเป็นความลับ...
และมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด เธอสัญญา..
หลังจากผ่านพ้นคืนที่ยาวนานมาอย่างยากลำบาก
เพราะว่าเธอนอนไม่หลับและถึงจะหลับก็มักจะสะดุ้งตื่นทุกครั้ง
ทำให้เช้าวันนี้เธอตื่นเช้ากว่าปกติ ในขณะที่พี่อีฟซึ่งเพิ่งกลับประมาณตีสามกว่า ๆ
เพิ่งเดินออกมาจากห้องตัวเองด้วยท่าทางงัวเงียในตอนที่เธอเตรียมจะออกจากห้องไปเรียน
และชุดพี่อีฟก็ไม่ได้เปลี่ยนตั้งแต่เมื่อคืนด้วย
อาจเพราะไม่ไหวเลยไม่คิดจะอาบน้ำล่ะมั้งถึงได้นอนทั้งชุดแบบนี้
เธอมองพี่อีฟที่เดินไปนั่งลงบนโซฟา
เปิดปากหาวพร้อมกับบิดขี้เกียจเพื่อขับไล่ความง่วงงุน ก่อนที่สายตาของพี่เขาจะหันมามองเธอ
“ทานยาอะไรน่ะ”
“..!!”
เอวาสะดุ้งเล็กน้อย ในตอนที่เธอกำลังแกะยาคุมฉุกเฉินเม็ดสุดท้าย
เธออ้ำ ๆ อึ้ง ๆ
อยู่สักพักก่อนที่จะหลบสายตาพี่อีฟแล้วตอบคำถามพี่เขาไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ยา..ยาพาราค่ะ เอวาไม่ค่อยสบาย...”
พูดจบเธอก็รีบกลืนยาลงคอพร้อมกับที่กำแผงยาในมือแน่น
“อ้าวเหรอ?
แล้วเป็นไรมากมั้ย
ปวดหัวรึเปล่า” พอบอกว่าไม่สบาย พี่อีฟก็กระเด้งตัวจากโซฟาเดินตรงมาหาเธอ
ยกมือขึ้นมาทาบหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิร่างกาย
ความเป็นห่วงที่ถูกส่งออกมาทำให้เธอร้องไห้เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปเมื่อวาน
ทั้ง ๆ ที่พี่อีฟเป็นห่วงเธอขนาดนี้
รักเธอมากกว่าใคร แต่เธอกลับทำร้ายจิตใจพี่เขาแทน..
“เอ้า! แล้วจะร้องไห้ออกมาทำไมล่ะฮึ
ปวดหัวใช่มั้ยเนี่ย”
“ปะ..เปล่าค่ะ แค่..แค่...”
เอวากลืนก้อนสะอึกลงคอ
เธอพูดอะไรไม่ออกเพราะมันแสบคอไปหมด ยิ่งพี่อีฟเข้ามากอดปลอบให้เธอหยุดร้องไห้ก็ยิ่งทำให้เธออยากจะร้องไห้มากกว่าเดิม
เอวาพยายามที่จะห้ามน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลเพื่อไม่ให้พี่อีฟผิดสังเกต เธอรีบเช็ดน้ำตาลวก
ๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้พี่อีฟเพื่อบอกว่าเธอยังโอเค ไม่ได้เป็นไรมาก
“ไปเรียนไหวแน่นะ ถ้าเกิดเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะทำไง”
พี่อีฟเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหวค่ะ... แค่ช่วงเช้าเอง ตอนบ่ายก็ไม่มีแล้ว”
“เฮ้อ... เอวานะเอวา”
พี่อีฟผลักหน้าผากของเธอเบา ๆ
เมื่อเธอดื้อดึงที่จะเข้าเรียนไม่ยอมพักผ่อนอยู่บ้าน
แต่จะให้ทำไงได้เพราะวันนี้เธอต้องเข้าเรียนจริง ๆ
สุดท้ายพี่อีฟก็มาส่งเธอหน้าหอพักก่อนที่จะกลับขึ้นไปบนห้อง ส่วนเธอก็เป่าปากออกมาด้วยความรู้สึกโล่งอกที่พี่อีฟจับโกหกไม่ได้
“ขอโทษ...”
เอวาเอ่ยขอโทษเบา ๆ
เมื่อต้องปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานและพลอยต้องมาสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาอีก
แต่เพื่อที่จะต้องรักษาความลับ ผลก็ต้องออกมาในรูปแบบนี้
คือเธอจะต้องโกหกต่อไป...
หลังจากนั้นเธอก็เข้าเรียนตามปกติ ทุก ๆ
อย่างยังเหมือนเดิม จนกระทั่งเธอเหลือบไปเห็นอาจารย์อรขึ้นมาในช่วงพักกลางวัน
นั่นทำให้เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ถึงเรื่องใบสมัครโครงการแลกเปลี่ยนที่โจเซฟ
แถมวันนี้ตอนเช้าเธอก็ยังไม่ได้คุยกับพี่อีฟถึงเรื่องนี้ด้วย
เอาไงดีล่ะ.. หรือเธอจะตอบตกลงอาจารย์ดี
เธอขยับแว่นตาขึ้นพลางขบคิดถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับโครงการนี้
ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานเธอพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าเธอจะไม่เข้าร่วมเด็ดขาด แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อวานทำให้เธอต้องกลับมาคิดใหม่
เขาคนนั้นเรียนอยู่ที่นี้ เป็นแฟนกับพี่อีฟ
และมันต้องมีโอกาสได้เจอกันแน่ ๆ ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง เพราะขนาดที่พี่อีฟยังไม่ได้คบกับเขาคนนั้น
เธอยังมีโอกาสได้เดินผ่านเลย
เธอไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ว่าเมื่อวานเขารู้ตัวรึเปล่าว่าผู้หญิงที่เขา... เออ.. เป็นพี่อีฟแฟนของเขา
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็ดี แต่ถ้าไม่ใช่เธอก็ไม่อยากจะคิดแล้วมันผลที่ตามมาจะเป็นยังไง
เอวาเม้มริมฝีปากเมื่อหัวสมองพาให้ไปนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานขึ้นมา
สัมผัสของเขา น้ำเสียงของเขาที่ดังใกล้หู
ร่องรอยที่เขาทิ้งไว้จนเธอต้องใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวตัวบาง ๆ มาใส่ ทุก ๆ
อย่างเหมือนว่ามันเพิ่งเกิดขึ้น และมันทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวบริเวณที่เขาทิ้งรอยช้ำเอาไว้จนเธอต้องรีบสะบัดหัว
ไล่ภาพพวกนั้นออกไปให้หมด และตัดสินใจได้สักทีว่าจะเอายังไงกับโครงการแลกเปลี่ยนที่มหาลัยโจเซฟ
นั่นคือเธอจะเข้าร่วมโครงการนี้
ทว่าในตอนที่เอวาค้นหาใบสมัครที่เก็บไว้ในกระเป๋า
เธอกลับไม่พบมันเลยแถมหายไปทั้งแฟ้มเลยด้วย
เธอเทของทุกอย่างในกระเป๋าลงบนโต๊ะแต่ก็ไม่พบอยู่ดี
สุดท้ายเธอเลยต้องมาพบอาจารย์อรโดยไม่มีใบสมัคร
ทันทีที่อาจารย์ได้ยินว่าเธอจะเข้าร่วมโครงการนี้ก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจเลยล่ะ
ก่อนที่จะบอกให้เธอนั่งรอในห้อง
เอวาหยุดหมุนเก้าอี้
เธอขยับเท้าเลื่อนเก้าอี้ที่มีล้อลากไปใกล้ ๆ โต๊ะอาจารย์เพราะเห็นมีกรอบรูปสองสามอันที่ตั้งไว้บนโต๊ะ
มองจากมุมเธอเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นัก แต่ก็พอรู้ ๆ
ว่าน่าจะเป็นหลานของอาจารย์ล่ะมั้ง เพราะว่าจารย์อรโสดยังไม่มีใครเพราะงั้นก็ไม่น่าจะมีลูกแน่
ๆ แล้วเธอก็ได้ยินมาบ้างว่าอาจารย์อรมีหลานชายอยู่คนหนึ่ง
เธอขยับแว่นตาเล็กน้อยพลางหรี่ตาเพื่อที่จะพยายามมองรูปภาพให้ชัด
ๆ ก่อนที่เธอจะรีบเด้งตัวกลับเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูพรวดพราดเข้ามา
เธอคิดว่าเป็นอาจารย์อรที่เข้ามาจึงลุกขึ้นยืนแล้วหันไปมองแต่เธอคิดผิด เพราะคนที่เข้ามาในห้องนี้ไม่ใช่อาจารย์
แต่เป็นผู้ชายคนนั้น...
คนที่เธอไม่อยากจะเจอหน้าจนต้องมาลงชื่อเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนที่มหาลัยโจเซฟ
เขามาทำอะไรที่นี้
“คุณ...”
เอวากลืนน้ำลายลงคอเมื่อรู้สึกคอเธอแห้งขึ้นมาดื้อ
ๆ เธอตกใจที่อยู่ ๆ ซีกเกอร์ก็โผล่เข้ามา
เขามองมาที่เธอก่อนที่จะก้าวมาหาเธอและนั่นทำให้เธอสะดุ้ง หันซ้ายหันขวาเพื่อที่จะหาทางหลีกหนีเขา
ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานสำหรับเธอ
ในที่สุดอาจารย์อรก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับใบสมัครในมือ
อาจารย์อรดูจะแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นซีกเกอร์อยู่ในห้องนี้ด้วย พลางหันมามองเธอที่ยืนแข็งทื่อยังไม่ได้ขยับตัวหนีไปไหน
“มาหาอีฟงั้นเหรอ ซีกเกอร์”
อาจารย์อรถามพลางเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ประจำ
ในขณะที่ซีกเกอร์เดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะ
และเป็นเธอที่เป็นฝ่ายขยับตัวหนีให้ออกห่างจากเขา
“นี่เอวา ฝาแฝดของอีฟ เธอมาหาผิดคนแล้วล่ะ”
ใช่... เขาต้องมาหาผิดคนแน่ ๆ
คนที่เขาควรที่จะไปหาควรที่จะเป็นพี่อีฟ ไม่ใช่เธอ
เอวามั่นใจว่าซีกเกอร์ต้องมีการเข้าใจผิดแน่
ๆ บางทีเขาอาจกำลังตามหาพี่อีฟ ดังนั้นเธอจึงลอบถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ อย่างโล่งอก
และคิดว่าเขาคงจะเดินออกไปเอง ทว่าเขากลับไม่เดินออกไปแต่ยังยื่นมือมากุมข้อมือเธอไว้แน่น
แถมยังพูดบางอย่างออกมาที่ทำให้เธอต้องหันไปมองเขาด้วยความตกใจ
“ไม่ครับ ผมมาหาถูกแล้ว”
มะ..เมื่อกี้ เขาพูดว่าไรนะ!?
เอวาพยายามที่จะบิดข้อมือให้พ้นจากการเกาะกุมของซีกเกอร์
แต่เขาก็จับไว้ซะแน่นจนเธอทำอะไรไม่ได้ แถมเขายังหันมาดุทางสายตา บอกเป็นนัย ๆ
ว่าให้เธอยืนอยู่นิ่ง ๆ นั่นเลยทำให้เธอก้มหน้างุดไม่กล้าทำอะไรอีก
“ถ้างั้นรอให้เอวาเขียนใบนี้ก่อนค่อยพาไป”
“ถ้าจะหมายถึงโครงการแลกเปลี่ยนบ้า ๆ
นั่น ผมว่าป้าล้มเลิกเถอะ”
“ซีกเกอร์”
อาจารย์อรเอ่ยปรามซีกเกอร์กับท่าทีที่มีต่อโครงการแลกเปลี่ยนที่โจเซฟ
แต่นั่นมันไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้เธอเงยหน้ามองใบหน้าด้านข้างของเขา แต่เป็นเรื่องที่เขาเรียกอาจารย์อรด้วยสรรพนามที่ต่างออกไปต่างหากรวมถึงเรื่องที่เขารู้ด้วยว่าเธอจะเข้าร่วมโครงการนี้
เดี๋ยวนะ...
อย่าบอกนะว่าเขาเป็นหลานชายแท้ ๆ ของอาจารย์อรน่ะ!
“ถึงเธอจะไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้
แต่พ่อเธออนุมัติแล้วนะ และมันก็ดำเนินการใกล้เสร็จแล้วด้วย
ถ้าจะให้ล้มเลิกตอนนี้คงไม่ได้ เธอต้องเข้าใจสิ”
“เฮอะ...”
“อีกอย่าง
เอวาก็ยอมที่จะเข้าร่วมโครงการนี้แทนอีฟ ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เธอจะมาขวางทำไมฮึ” คราวนี้เอวามองเห็นว่าเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
ท่าทางดูแปลกใจกับเรื่องที่ได้ยินแต่ก็เพียงแปบเดียวเขาก็กลับไปเป็นสีหน้าราบเรียบตามเดิม
“ป้าอรมองหาคนใหม่ดีกว่า
ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้”
“...!!” อีกครั้งที่เอวาต้องหันไปมองซีกเกอร์ด้วยความตกใจ
เมื่อเขาเป็นคนออกปากไม่ให้เธอเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนกับอาจารย์อรตรง ๆ
เดี๋ยวนะ!
มันต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่
ๆ
“ไม่ได้ซีกเกอร์
ตอนนี้เหลือแค่คนเดียวก็ครบเป้าที่วางไว้ แล้วเอวาก็เป็นคนตัดสินใจเข้าร่วมเอง หรือเธอจะให้ป้าเรียกอีฟมาแทน”
“ไม่นะคะอาจารย์”
เอวารีบห้ามทันทีเมื่ออาจารย์หาทางออกโดยการเรียกพี่อีฟเข้าร่วมแทน
ขืนทำอย่างนั้นก็เท่ากับว่าส่งพี่อีฟไปที่มหาลัยโจเซฟส่วนเธอก็ต้องอยู่ที่นี้น่ะสิ
แล้วเขาจะยอมงั้นเหรอ? ไม่มีทางอะ
เขาไม่มีทางยอมให้แฟนตัวเองไปอยู่มหาลัยคู่อริแน่นอน
“เห็นไหมซีกเกอร์
เจ้าตัวเขาปฏิเสธไม่ให้อีฟไป แล้วจะให้ป้าทำไง”
“ถึงยังไงเธอคนนี้ก็ห้ามครับ”
“ซีกเกอร์!” เพราะเขาดึงดันไม่ยอมท่าเดียวนั่นทำให้อาจารย์อรต้องขึ้นเสียงเล็กน้อย
และพลอยทำให้เธอสะดุ้งไปด้วย
ฮือ! ทำไมเธอถึงมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ขึ้นมาได้นะ
“ขออนุญาตนะคะ หนูมาส่งงานค่ะ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มมาคุนิด ๆ
ทำให้อาจารย์หยุดพูดกับซีกเกอร์แล้วหันไปคุยกับนักศึกษาผู้หญิงที่เข้ามาแทน เอวารู้สึกได้ว่าซีกเกอร์หันไปมองผู้หญิงคนนั้น
เหมือนว่าเขาคิดอะไรบางอย่างอยู่ก่อนที่เขาจะกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นนิด ๆ
และเธอยอมรับเลยว่ารอยยิ้มเมื่อกี้ของเขาดูชั่วร้าย
“ผมว่าผมหาคนมาแทนได้แล้ว...
เธอคนนั้นไงครับ”
“หื้อ? หมายความว่าไง”
อาจารย์อรเลิกคิ้วนิด ๆ
เมื่อเห็นว่าหลานชายตัวเองดูผ่อนคลายลง ต่างจากก่อนหน้านี้ที่เกือบจะทะเลาะกัน ส่วนเอวาก็มองไปมาระหว่างซีกเกอร์กับอาจารย์
ในใจตอนนี้เธออยากจะพาตัวเองหนีไปจากตรงนี้ใจจะขาดถ้าทำได้แต่ก็ติดตรงที่เขาจับข้อมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อยนี่สิ
ทำให้เธอขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย
“หวังว่าอาจารย์คงจะเห็นด้วยนะครับ
งั้นผมขอตัวก่อน”
หลังจากที่พูดจบซีกเกอร์ก็ลากตัวเอวาออกจากห้องแทบจะทันที
โดยที่เธอไม่ทันจะได้พูดอะไรสักคำ แถมเธอก็อยากจะขอโทษผู้หญิงคนนั้นที่เข้ามาผิดเวลาจนทำให้ต้องเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนที่โจเซฟแทนเธอโดยที่ไม่เต็มใจ
ซีกเกอร์ดึงตัวเธอออกมาทางอาคารชั้นสองแล้วมันต้องผ่านกลุ่มคนที่นั่งเล่นกันอยู่
เธอพยายามขืนตัวเองไม่ให้ไหลไปตามแรงของเขาแต่ก็สู้ไม่ไหว เขามีแรงมากเกินไป
ไม่เหมือนคนที่เพิ่งฟื้นไข้มาเลยสักนิด
สุดท้ายเธอก็ต้องรีบใช้มืออีกข้างถอดแว่นตาตัวเองออก พร้อมกับดึงยางมัดผมตัวเอง
ปล่อยให้ผมสยายกลางหลังเพื่อทำให้เธอดูเหมือนพี่อีฟมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
และก็โชคดีที่ไม่มีใครเอ่ยทัก
หรือเพราะพวกเขาไม่กล้าก็ไม่รู้ นั่นทำให้ซีกเกอร์พาตัวเธอออกจากตึกได้อย่างง่ายดายและอย่างรวดเร็วจนตอนนี้เธอมาหยุดอยู่บริเวณตึกหนึ่งซึ่งห่างจากคณะของเธอพอสมควร
และเขาก็ปล่อยข้อมือของเธอสักทีก่อนจะหันกลับมามองเธอ
ซีกเกอร์ชะงักเล็กน้อยทันทีที่หันกลับมามอง
เธอรู้ดีว่าทำไมเขาถึงชะงัก ก็เพราะเมื่อกี้เธอทำตัวเองให้เหมือนพี่อีฟน่ะสิ
และเป็นเธอที่สวมแว่นตาในมือกลับไปใหม่ พร้อมกับเว้นระยะห่างจากเขาสามก้าว
“คุณ.. มีธุระอะไรกับฉันรึเปล่า?
ถ้าจะติดต่อกับพี่อีฟ
ตอนนี้เธออยู่ที่ห้องค่ะ” เพราะว่าเขาเงียบแถมเอาแต่ใช้สายตาคมดุของเขามองมาที่ตัวเอง
ทำให้เอวาต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามแทน ตอนนี้เธอทำตัวไม่ถูก ไม่กล้าสบตากับเขา
แล้วก็อยากจะเดินหนีเขาสุดๆ เลยด้วย
“เป็นแฝดกับอีฟสินะ”
“ใช่... คุณไม่เคยรู้มาก่อนเหรอ”
เอวาถามกลับแล้วก็อยากจะตบปากตัวเองจริงๆ
ที่เผลอไปถามอย่างนั้นเข้า มันก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะไม่รู้ เพราะขนาดเพื่อนของเขาก็ไม่รู้เลย
อีกอย่างพี่อีฟก็ไม่เคยป่าวประกาศว่าตัวเองมีแฝดอีกคนที่หน้าตาเหมือนกันมากด้วย
เธอรู้สึกได้ว่าซีกเกอร์มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะวกกลับมามองหน้าเธออีกครั้ง
แล้วเป็นเธอที่สะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ ๆ
เขาก้าวเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็วในสองก้าวของเขา ทั้ง ๆ ที่เธอเว้นระยะพอสมควรแล้วนะ
แต่เขาก็เข้ามาถึงตัวเธออย่างไว
“เมื่อวาน...”
“...!!”
“ฮึ.. ท่าทางตกใจแสดงว่าเป็นเธอจริง ๆ
ที่อยู่กับฉัน”
คราวนี้สิ่งที่เธอไม่อยากจะคิด หากว่าผู้ชายตรงหน้าจำได้ว่าเมื่อคืนเธออยู่ด้วยสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจนได้
เธออึกอักไม่รู้จะแก้ตัวยังไง ยิ่งเขาไล่ต้อนเธอก็ยิ่งจนมุมและตอนนี้แผ่นหลังของเธอก็แตะเข้าที่กำแพงในที่สุด
ผู้ชายคนนี้จำได้... เขาจำมันได้...
เอวาเม้มริมฝีปากเมื่อหัวสมองของเธอกำลังย้อนให้เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
ความรู้สึกผิดต่อพี่อีฟถาโถมเข้าหาเธออีกครั้งจนเธอรู้สึกแสบจมูกไปหมดแล้วไหนจะขอบตาที่เริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอีก
เอวาต้องใช้แรงเท่าที่มีพยายามกั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้พร้อมกับที่ต้องพูดกับเขาโดยที่ไม่ให้เสียงตัวเองสั่นเครือจนฟังไม่รู้เรื่อง
ในเมื่อเขาจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้น...
ก็มีอย่างเดียวที่เธอจะทำได้ในตอนนี้..
“ฉัน.. ฉันขอร้องนะคะ... คุณอย่าบอกพี่อีฟได้มั้ย”
“...”
“เมื่อวานมันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ
เพราะว่าคุณ... คุณ...” พอถึงประโยคนี้เธอก็ติดขัดเพราะไม่รู้จะพูดยังไงออกไปดี
และเป็นเขาที่เป็นคนต่อประโยคมาให้อย่างใจดี
“มีเซ็กส์กับเธอ” ฮือ!
นั่นมันก็ตรงไปมั้ย
“ชะ..ใช่... เออ..คุณช่วยลืมคืนนั่นไปได้ไหม
ฉันจะไม่บอกอะไรพี่อีฟเลยนะ”
“แต่เมื่อคืนฉันไม่ได้ป้องกัน...”
เรื่องนี้เธอรู้...รู้ว่าเขาไม่ได้ป้องกัน
ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ซื้อยาคุมมาทานหรอก
เอวาเม้มริมฝีปากตัวเองรู้สึกคอแห้งขึ้นมาจนต้องกลืนน้ำลายลงคอแล้วเงยหน้าขึ้น
รวบรวมความกล้าเพื่อที่จะมองตาของเขาก่อนจะขยับปากพูดกับเขาต่อ
“เรื่องนั่น...
ฉันทานยาคุมฉุกเฉินแล้ว..”
“...”
ซีกเกอร์ยังคงมองมาที่เธอแต่เขาไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วก็เป็นฝ่ายขยับถอยห่างออกไป
นั่นทำให้เธอรู้สึกโล่งใจแทบจะทันทีที่คุยกับเขารู้เรื่อง ถ้าเธอไม่พูดแล้วเขาก็ไม่บอกพี่อีฟ
เรื่องมันก็จะเป็นความลับ แล้วในที่สุดเรื่องนี้มันก็หายไปเอง
ใช่.. เธอคิดไว้ว่ามันจะเป็นแบบนั้น
“เธอลืมของไว้ที่ห้องฉัน”
“คะ?”
เอวาเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง แล้วก็พบเขาหันหลังให้ตัวเองและเหมือนว่าจะเดินไปจากตรงนี้
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พูดอีกประโยคหนึ่งให้เธอได้ยิน
“หรือฉันควรโทรหาพี่สาวเธอดีให้มารับของของเธอที่ห้อง”
“...!!”
เดี๋ยวสิ!
นั่นก็ไม่ได้เป็นการบอกว่าเธอเคยไปที่ห้องเขาไม่ใช่เหรอ!?
เอวาอ้าปากค้างเมื่อวิเคราะห์คำพูดของเขา
ถ้างั้นเมื่อกี้เธอก็เข้าใจผิดน่ะสิว่าคุยกับเขารู้เรื่อง ทั้งที่จริงแทบไม่รู้เรื่องต่างหากแถมเขาก็ไม่ได้เอ่ยปากยอมทำตามคำขอของเธอด้วย
บ้าเอ้ย! เธอนี่มันโง่ชะมัด
คิดเองเออเองว่าเขาจะยอมตกลง และก่อนที่เธอจะทึ้งผมตัวเองไม่ก็เอาหัวไปกระแทกกับกำแพงสักทีสองทีให้หายโง่
เธอก็เห็นว่าซีกเกอร์หันหน้ามาหาเธอพร้อมกับที่โทรศัพท์หาใครสักคน
“เฮ้.. อีฟ นี่ฉันเอง”
เขา... เขาโทรหาพี่อีฟเหรอ!?
หมับ!
เอวารีบวิ่งไปคว้าแขนข้างหนึ่งของเขาอย่างลืมตัวเพราะความสนใจของเธอพุ่งไปที่เขาโทรหาพี่อีฟเกือบหมด
ซีกเกอร์ปรายตามองมาที่เธอเล็กน้อยและเธอก็เห็นเขากระตุกยิ้มที่มุมปากด้วย
รอยยิ้มแบบเดียวที่เธอเห็นในห้องพักอาจารย์อรเลย
เขาคิดจะทำอะไรน่ะ?
“เมื่อวาน...”
“...!” ไม่นะ! เขาคงไม่พูดอะไรออกไปใช่มั้ย
“เธอ... ไปอยู่ไหนมา โทรไปก็ไม่รับ”
ดูเหมือนว่าเขาจะสนุกที่เห็นว่าเธอหน้าซีดขึ้นเรื่อย ๆ เพราะกลัวว่าเขาจะหลุดปากพูดเรื่องนั้นออกมา
ก่อนที่เอวาจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ดังนั้นเธอเลยรีบปล่อยแขนของเขาพร้อม
ๆ กับที่กระโดดถอยหลังหนีเพื่อรักษาระยะห่าง แต่ก็ไม่ได้ไกลมากจนไม่ได้ยินบทสนทนาระหว่างเขากับพี่อีฟ
“อยู่บ้านงั้นเหรอ... ไม่มีอะไรหรอก”
ซีกเกอร์เลิกคิ้วเล็กน้อยซึ่งเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอไม่ได้ยินเสียงพี่อีฟหรอก เลยไม่รู้ว่าพี่อีฟพูดอะไร แต่ต่อมาเขาก็เป็นฝ่ายวางสายแล้วมองมาที่เธออีกครั้ง
“สงสัยพี่เธอคงไม่ได้มาห้องฉันแล้วล่ะ”
“...”
“แต่ของของเธอน่ะ
ถ้าเธอไม่ไปเอาเองวันนี้ ฉันจะเรียกให้พี่เธอไปเอา”
“คุณทำอย่างนั้นไม่ได้นะคะ!”
“งั้นก็มาที่ห้องฉัน”
เอวาเม้มริมฝีปากเมื่อเขาหาทางออกให้
ซึ่งสำหรับเธอมันดูไม่เหมือนทางออกเลยสักนิด เธอไม่อยากไปที่ห้องของเขา
ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยว ทางที่ดีคือไม่ต้องเจอกันนั่นแหละ
คือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุด
แต่เหมือนว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่เธอหวังไว้เลย
เธอเห็นว่าเขายักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
ทำเหมือนกับว่ามันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา ทั้งที่เขาก็น่าจะรู้ผลที่ตามมาว่าถ้าหากเรียกพี่อีฟไปที่ห้อง
แล้วพบข้าวของของเธออยู่ในนั้น พี่อีฟก็ต้องถามแน่ ๆ แล้วถ้าเกิดความแตกขึ้นมา
พี่อีฟก็อาจจะบอกเลิกกับเขาก็ได้
ทำไมเขาถึงไม่คิดผลลัพธ์ที่ตามมานะ
หรือว่าเขาไม่ได้คิดจริงจังกับพี่อีฟ?
พอคิดมาถึงตรงนี้เอวาก็เริ่มไม่มั่นใจ
เธอรู้ว่าพี่อีฟคบกับเขาได้สองอาทิตย์แล้วแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ของเธอจริงจังกับคน
ๆ นี้รึเปล่า แต่ถ้าเกิดพี่อีฟจริงจังแต่เขาไม่ล่ะ... เพราะเท่าที่เห็นเธอก็เห็นว่าเขาดูจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยสักอย่างเลย
“จะมาหรือไม่มา”
เอวาสะดุ้งเล็กน้อย
หลุดออกจาภวังค์ความคิดเมื่อกี้ เมื่อซีกเกอร์เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
เธอเม้มริมฝีปากตัวเองพลางขยับแว่นตา ในหัวสมองก็กำลังชั่งน้ำหนักว่าจะเอายังไงดีก่อนที่จะตัดสินใจไปเอาของที่ห้องของเขาเมื่อคิดดีแล้ว
เอวายอมติดรถของซีกเกอร์เพื่อไปห้องของเขา
เธอนั่งตัวเกร็งตลอดทางเพราะรถของเขามันดูแพงเอามาก ๆ
กลิ่นภายในรถบ่งบอกได้เลยว่าเขาเพิ่งถอยออกมาแน่ ๆ เพราะกลิ่นของใหม่ลอยเข้ามาแตะจมูกทันทีที่เปิดรถขนาดนี้
นั่นเลยทำให้เธอไม่กล้าขยับตัวเพราะว่ากลัวว่าจะทำรถของเขาเป็นรอย
ซีกเกอร์ใช้เวลาไม่นานก็ขับมาถึงคอนโดของเขา
เอวารีบปลดสายเข็มขัดนิรภัยก่อนจะลงออกจากรถแล้วเดินตามหลังเขาไปเงียบ ๆ
ตั้งแต่ที่เธอตอบตกลงว่าจะมาเอาของเอง เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย ซีกเกอร์ก็เช่นกัน
เขาเงียบตลอดทาง ไม่ได้ปรายตามองเธอด้วยซ้ำ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกดีนิดหน่อยที่ไม่ต้องมาอึดอัดกับสายตาดุ
ๆ ของเขาที่จ้องมาที่เธอ
เอวาก้มหน้าก้มตาเดินตามหลังเขาจนมาถึงห้อง
พอเธอเข้าไปก็พบว่าสภาพห้องของเขายังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อวาน
เธอหยุดยืนอยู่หน้าประตูในขณะที่เจ้าของห้องเดินไปนั่งโซฟา ยกขาสองข้างยาว ๆ
เหยียดบนโต๊ะข้างหน้า
“แล้ว...
แล้วของของฉันล่ะคะ”
เธอเอ่ยถามเขา
เพราะเธอกวาดสายตาแล้วไม่พบอะไรที่เป็นของของเธอเลย
“อยู่ในห้องนอน”
พอเขาบอกโดยที่ไม่ได้ปรายตามองมาที่เธอเพราะเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอะไรสักอย่างอยู่
เธอก็รีบตรงไปที่ห้องนอนของเขาอย่างรวดเร็ว ห้องที่เธอเคยเข้ามาแล้วครั้งหนึ่ง
เธอกวาดสายตามองก็พบแฟ้มของเธอที่หายไปวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
ก็ว่าทำไมถึงหาไม่เจอ ที่แท้มันก็หล่นอยู่ที่นี้เอง
เอวาก้าวขาเดินไปหยุดหน้าโต๊ะ
ก้มหยิบแฟ้มขึ้นมาพร้อมกับเปิดดูว่ามีเอกสารอะไรหายอีกรึเปล่า
เพราะในแฟ้มนี้ก็มีใบงานที่เธอต้องส่งอาจารย์อยู่ด้วย เธอใช้เวลาหาแปปเดียวก็พบว่าใบงานที่ต้องส่งไม่หาย
แต่มีหายอยู่ใบเดียว นั่นก็คือเอกสารสมัครเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยโจเซฟ
เดี๋ยวนะ... หรือว่าเขาเห็นมัน
ถึงได้... โผล่พรวดเข้ามาตอนนั้น?
เธอขมวดคิ้วเมื่อคิดถึงตรงนี้ก่อนที่จะสะบัดความคิดนั้นทิ้งไป
จะยังไงก็ช่างเถอะ ตอนนี้คือต้องรีบออกไปจากห้องของเขาให้เร็วที่สุด
นั่นล่ะคือสิ่งที่เธอควรทำตอนนี้
“ไอ้เวร! กูก็ว่าทำไมถึงมียานั่นในห้องกู”
ทันทีที่เอวาเดินออกมาจากห้องนอนของเขา เธอก็อดสะดุ้งตกใจกับคำพูดห่ามๆ
ของซีกเกอร์ไม่ได้ โอเค.. เธอก็เคยได้ยินเพื่อน ๆ คุยกันแบบหยาบ ๆ มาบ้าง
แต่นั่นมันก็แค่สำหรับผู้หญิงที่เธอได้ยิน แต่กับเพื่อนผู้ชายเธอแทบไม่มีและไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวด้วย
ก็พอรู้อยู่บ้างว่าพวกเขาไม่ได้โกรธกันแต่เป็นการพูดคุยปกติสำหรับพวกเขา
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พอมาเจอเข้าจัง ๆ มันก็อดรู้สึกตกใจขึ้นมาไม่ได้จริง ๆ
เอวาผ่อนลมหายใจออกมา
ดันแว่นตาตัวเองที่ตกลงมาเล็กน้อยกลับเข้าที่ ก่อนจะพยายามก้าวเท้าเดินออกจากห้องนี้ให้เงียบที่สุด
เธอไม่อยากไปรบกวนสมาธิของเขา ยังไงตอนนี้เธอก็ได้ของกลับมาแล้ว ฉะนั้นก็ไม่มีอะไรที่ต้องข้องเกี่ยวกันอีก
ดังนั้นเธอรีบออกไปจากที่นี้ให้เร็วที่สุดจะเป็นการดีมาก
“นั่นเธอจะไปไหน?”
มือที่กำลังยื่นไปเปิดประตูต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากทางด้านหลัง
เธอรู้ทันทีว่าเขาไม่ได้คุยกับเพื่อนในสายโทรศัพท์แต่เรียกเธอต่างหาก
เอวากลืนน้ำลายลงคอ พยายามรวบรวมสติให้กลับมาแล้วหันไปเผชิญหน้า
แล้วก็พบว่าเขาลุกขึ้นจากโซฟาเดินตรงมาหาเธอ แต่ในมือก็ยังถือสายโทรศัพท์เอาไว้
“กูไม่ได้พูดกับมึง ยูเรนัส”
ซีกเกอร์หันกลับไปพูดกับเพื่อน
ก่อนที่เขาจะคว้าข้อมือเธอไว้แล้วลากกลับไปนั่งโซฟาที่ที่เขาเพิ่งลุกมาตามเดิมโดยที่เธอติดมาด้วย
เอวาถูกเขาดึงให้นั่งลง พอเธอเริ่มดิ้นเขาก็หันมาส่งสายตาดุทันทีนั่นเลยทำให้เธอต้องนั่งนิ่ง
ๆ
“กูไม่รู้ว่ากูกินไปเท่าไหร่
ทีหลังมึงไม่ต้องมาทิ้งของของมึงไว้ที่ห้องกูอีกนะ”
เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำด่าที่หลุดออกมาจากปากซีกเกอร์
ตอนนี้เธอแทบจะร้องไห้อยู่แล้วเพราะกลัวเขาจะระเบิดอารมณ์ใส่เธอ
ฮือ! ทำไมเขาต้องพูดจากันรุนแรงด้วยนะ
ผ่านไปสักพักไม่ถึงห้านาที
ซีกเกอร์ก็วางสายจากเพื่อนของเขาที่ชื่อว่า ยูเรนัส ไม่รู้ว่าเขาคุยกันเรื่องอะไรกัน
แต่เท่าที่รู้คือซีกเกอร์ดูโมโหมาก ๆ
และมันทำให้เธอกลัวจนไม่กล้าจะหายใจเสียงดังเลย
“เออ... คุณให้ฉันไปได้ยังคะ?”
เธอถามทันทีพอเขาวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะตรงหน้า
“ยัง”
เขาตอบกลับมาอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่ได้แวะคิดอะไรเลยสักนิดเดียว
เอวามองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเป็นฝ่ายหลบสายตาแทนเมื่อเขามองกลับ เธอยังไม่มีความกล้าบ้าบิ่นพอที่จะจ้องตาเขากลับด้วยอารมณ์อยากจะข่วนหน้าเขาให้เป็นรอยสักแผลสองแผล
ขืนจ้องเขาด้วยสายตาหาเรื่องมีหวังเธอเองแหละที่จะเป็นฝ่ายเจ็บตัวแทน
“เมื่อคืนเธอให้ฉันดื่มน้ำนี่ใช่มั้ย” แล้วอยู่
ๆ ซีกเกอร์ก็เอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกับเอาขวดน้ำเปล่าโยนมาให้เธอรับจนเธอเกือบรับไว้ในมือไม่ทัน
เธอเลิกคิ้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจกับคำถามนัก ก่อนจะก้มมองดูขวดน้ำในมือ
ซึ่งมันก็เป็นขวดน้ำเปล่า ๆ
“มันก็มีแค่ขวดเดียวในตู้เย็นของคุณ...
ถ้าไม่มีน้ำคุณจะทานยาลดไข้ยังไง” เธอตอบเขาไปพร้อมกับที่ถามเขากลับไปด้วย
“คุณไม่รู้ตัวเหรอว่าเมื่อวานตัวคุณร้อนมาก”
“แล้วรู้มั้ย?
มันไม่ใช่แค่น้ำเปล่า”
“คะ?”
เอวาเลิกคิ้ว สงสัยกับประโยคเมื่อกี้ของเขา
จะบอกว่าขวดน้ำในมือเธอตอนนี้ไม่ใช่น้ำเปล่าที่ดื่มกันปกติอย่างนั้นเหรอ ทั้ง ๆ
ที่มันก็เหมือนน้ำดื่มทั่วไปด้วยซ้ำ
ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายสะดุ้งขึ้นมาเมื่อซีกเกอร์ยื่นมือมาถอดแว่นตาของเธอออก
“คุณ..คุณจะทำอะไรน่ะ”
“สายตาสั้น”
“คะ?”
เอวาไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด และเหมือนเขาจะดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ต้องพูดซ้ำ
ดูได้จากสีหน้าของเขาเธอก็รู้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยอมที่จะขยายความคำพูดเมื่อกี้ของเขาให้ฟัง
“ฉันถามว่าเธอสายตาสั้นงั้นเหรอ”
“ปละ..เปล่า แค่ใส่ไว้ คนอื่นมักทักผิดว่าฉันเป็นพี่อีฟ”
“...”
ซีกเกอร์ขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น
ส่วนเธอก็ถอยหนีเขาเรื่อย ๆ จนหลังของเธอติดกับพนักแขนโซฟา
และมันทำให้เธอขยับถอยห่างกว่านี้ไม่ได้อีก แต่ก็ยังดีที่เขาไม่ได้ขยับเข้ามาใกล้อีกเมื่อเห็นว่าฉันถอยหนีไปไหนไม่ได้
ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดกับเธออีกครั้ง
“เรามาตกลงกันมั้ย”
“คะ?...”
คราวนี้เธอเห็นว่าเขากระตุกยิ้มที่มุมปากอีกครั้ง
รอยยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกขนลุกขึ้นมาเฉย ๆ ทั้งที่ในห้องก็ไม่ได้หนาวเลย
แถมเธอยังรู้สึกถึงลางสังหรณ์อันตรายบางอย่างที่คืบคลานเข้ามาใกล้ ๆ
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยู่เฉย เพราะเธอไม่รู้ว่ามันจะมาในรูปแบบไหน
และเธอก็ไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองจะหนีพ้นรึเปล่าด้วย
“ฉันจะไม่บอกเรื่องที่เรามีอะไรกันกับพี่ของเธอ”
“จริงเหรอคะ!? คุณจะไม่บอกจริง ๆ นะ” ตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาทันที
เมื่อซีกเกอร์รับปากว่าจะไม่บอก ความกังวลก่อนหน้านี้ละลายหายไปหมด
แต่มันก็เพียงแปบเดียวเพราะประโยคต่อมาจากปากของเขาทำให้เธอถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“ถ้าเธอยอมเป็นคู่นอนให้ฉัน”
“...!!”
เอวามองหน้าเขาด้วยสีหน้าตกใจสุดขีดกับประโยคเมื่อกี้ที่เขาพูด
เมื่อกี้มันอะไร? เขาพูดเรื่องบ้าอะไรกัน!?
คู่นอนงั้นเหรอ...
ยอมเป็นคู่นอนให้กับเขาเพื่อที่จะปิดเรื่องนั่นไม่ให้พี่อีฟรู้เนี่ยนะ!
“คุณจะบ้ารึไง! ฉันเป็นน้องสาวแฟนของคุณนะ!”
“แล้วไง?”
“คุณ!”
เอวาตัดสินใจยกมือผลักเขาให้ถอยออกไปห่าง
ๆ เธอรีบลุกขึ้นแล้วเดินหนีไปให้พ้นจากห้องผู้ชายคนนี้
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่อีฟจะมาชอบเขาได้ เขามันเลวกว่าแฟนเก่าพี่อีฟคนก่อนหลายเท่า
ทำไมพี่อีฟถึงได้ตกลงคบเขาเป็นแฟนได้นะ
หมับ!
ซีกเกอร์ลุกมาคว้าตัวเธออย่างรวดเร็ว
เธอก้าวได้แค่ไม่ถึงสามก้าวก็ถูกดึงไปหาเขาพร้อมกับที่แขนข้างหนึ่งของเขารัดเอวเธอไว้แน่น
ทำให้ทุกส่วนบนร่างกายของเธอเบียดร่างของเขาจนแทบไม่เหลือที่ว่างให้อากาศลอดผ่าน
“ไม่คิดหน่อยเหรอว่าเราเข้ากันได้ดี...
บนเตียง”
“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ
คุณเป็นแฟนกับพี่อีฟนะ”
เอวาย้ำกับเขาอีกรอบว่าเขาอยู่ในสถานะไหน
แต่ดูเหมือนเขาจะไม่แคร์เลย รอยยิ้มนิด ๆ ของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง
พร้อมกับใบหน้าที่ก้มต่ำลงมาจนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผะผ่าวของเขาที่เป่ากระทบผิวของเธอ
“พี่เธอไม่ว่าหรอก เชื่อฉันสิ”
“...!”
“แล้วอีกอย่างเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็เป็นความผิดของเธอ”
“คุณว่าไงนะ!?”
เธอขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อซีกเกอร์โยนความผิดทั้งหมดมาให้เธอ
ทั้ง ๆ ที่คืนนั้นเธอไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นเขาต่างหากที่ฉุดเธอลงไป ทั้ง ๆ
ที่เธอพยายามขอร้องให้เขาปล่อย เขาก็ไม่ยอมปล่อยด้วย เธอมองซีกเกอร์อย่างไม่เข้าใจแล้วก็เห็นเขายกยิ้มที่มุมปากอีกครั้ง
เขามองมาที่เธอด้วยสายตาที่เหมือนมองดูของเล่นในมือก่อนที่จะพูดขึ้นอีกครั้ง
“น้ำที่เธอให้ดื่มเมื่อวานน่ะ มันผสมยากระตุ้น”
“...!!”
วะ..ว่าไงนะ!
ซีกเกอร์ก้มหน้าลงมาหาเธออีก
ริมฝีปากของเขาเฉียดผิวแก้มของเธอไปเพียงนิดเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้สึกร้อนตรงแก้มที่เกือบโดนสัมผัส
เธอกัดริมฝีปากตัวเองเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ใช่... เธอเป็นคนให้เขาดื่มขวดน้ำนั่น
แต่จะให้ทำไงได้ ในเมื่อมันมีอยู่ขวดเดียวในตู้เย็นไม่อย่างนั้นเขาจะทานยายังไง
มันเป็นความผิดของเธองั้นเหรอที่ไม่รู้ว่าในขวดน้ำมันจะผสมยาอะไรก็ไม่รู้น่ะ
ถ้าเกิดเธอรู้... เธอก็คงไม่ช่วยเขาหรอก!
“แต่...
แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ไม่ควรที่จะทำ”
“หึ! ก็แล้วไงล่ะ?
ฉันไม่ใช่คนดี”
ใช่.. คุณไม่ใช่คนดีเลยสักนิด
เอวาอยากจะตะโกนบอกเขาไปอย่างนั้น แต่ก็ทำได้เพียงแค่กัดปากตัวเอง ไม่ได้โต้อะไรกลับไป
“อีกอย่าง.. เธอก็ดูโอเคนี่ วิน ๆ
กันทั้งคู่”
เขากระซิบข้างหูของเธอด้วยน้ำเสียงที่กลั้วหัวเราะนิด
ๆ นั่นทำให้เธออยากจะร้องไห้ออกมา ขอบตาของเธอร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่ได้
คอก็เริ่มรู้สึกแสบขึ้นมาจนกลืนน้ำลายลำบาก เธออยากจะหนีไปให้พ้น ๆ
จากสถานการณ์ตรงนี้ อยากจะลืม ๆ ไปให้หมด
แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยกลับสนุกที่ได้เห็นเธอใกล้ร้องไห้แทน
“ยอมรับข้อเสนอซะ”
ซีกเกอร์ผละใบหน้าออกมาเล็กน้อยเพื่อที่จะมองใบหน้าของเธอ
และเขาก็ยังไม่ล้มเลิกข้อเสนอบ้า ๆ นั่นด้วย
“ไม่งั้นฉันจะบอกเรื่องของเรากับพี่เธอ...
เอวา”
ความคิดเห็น