คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : (T) +TWIN EP01 SICKER X EVE [120%] 18+
Twin
Twin
EPISODE 01 SICKER x EVE
มีคนเคยพูดว่าฝาแฝดมักจะมีอะไรเหมือน
ๆ กัน ทั้งรูปร่างหน้าตาและนิสัยใจคอ
แต่มันไม่ใช่สำหรับเธอ..
“เอวา!”
“หะ..ห๋า!”
ร่างเจ้าของชื่อที่ถูกเรียกเมื่อกี้สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
ก่อนจะหันไปมองคนที่เรียกเธอเมื่อกี้ เป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างได้สัดส่วน ผมสีดำขลับยาวถึงกลางหลัง
ผิวขาวอมชมพู ใบหน้ารูปไข่ ดวงตาเรียวสีน้ำตาลและจมูกที่เชิดรั้นขึ้นนิด ๆ
ตามนิสัยเจ้าตัวรับกับริมฝีปากบาง หญิงสาวตรงหน้าจัดได้ว่าเป็นคนสวยและมีเสน่ห์คนหนึ่ง
แตกต่างกับเธอที่จืดชื่นและไม่เป็นที่สนใจ แม้ว่าเธอและผู้หญิงคนนั้นจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันอย่างกับว่าเป็นคนเดียวกันก็ตาม
ถูกต้องแล้วล่ะ...
พวกเราเป็นฝาแฝดกัน เอวา นั่นคือชื่อของเธอเอง ส่วนแฝดของเธอชื่อว่า อีฟ
เกิดหลังจากเธอแค่ไม่กี่วินาที
“เป็นไร
พี่เห็นเอวานั่งเหม่อมาสักพักล่ะ”
“เปล่า
แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” เธอตอบปัดเมื่อพี่อีฟถาม
“ถ้างั้นช่วยเลือกชุดหน่อยสิ
จะใส่ไปคืนนี้ด้วย ตัวไหนดี”
“ซ้ายมั้งคะ”
เอวาตอบทันทีโดยที่ยังไม่หันไปมองด้วยซ้ำ
แล้วเธอก็ได้ยินเสียงบ่นฮึมฮัมของพี่อีฟในเวลาต่อมา ให้ทำไงได้
เซ้นส์ทางด้านแฟชั่นของเธอมันแย่นี่น่า จะชุดไหนมันก็เหมือน ๆ กันสำหรับเธอ
เธอไม่ใช่คนประเภทพี่สาวฝาแฝดที่ยอมเสียเวลาเป็นชั่วโมง ๆ กับการเลือกชุดนี่
“เอวา..
เลือกทำตัวเป็นหนอนหนังสือ แล้วหัดไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”
“ก็ไม่ชอบนี่คะ”
“เป็นซะอย่างเนี้ย
คนถึงไม่มาจีบสักที”
“ก็จีบพี่อีฟแทนไง”
เธอเงยหน้าตอบพี่อีฟที่เดินมานั่งลงบนเตียง
ถึงเธอจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับคนตรงหน้า
แต่เธอไม่ใช่สายสังสรรค์และแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใครนอกจากพี่อีฟและเพื่อนอีกสองสามคนเท่านั้น
เธอเป็นพวกชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่อยากเป็นจุดสนใจ
หลบในมุมมืดแล้วเป็นฝ่ายมองพวกเขาแทนซะมากกว่า
ในขณะที่พี่อีฟจะเป็นสายปาร์ตี้นิด
ๆ ชอบเข้าสังคม จึงเป็นที่รู้จักกันพอสมควรในคณะ
แถมยังรับงานถ่ายแบบในบางครั้งด้วย จึงมีคนติดตามในไอจีและเฟสบุ๊คพอสมควร
พี่สาวเธอเป็นคนตลก ยิ้มง่าย มนุษย์สัมพันธ์ดี ใคร ๆ ก็พากันเอ็นดูเธอ
ไม่แปลกหรอกที่จะมีคนมาจีบเยอะ
“แต่มันเหนื่อยนี่
มาเยอะซะพี่ทำตัวไม่ถูก”
“ก็หาแฟนสักคนไง”
เธอแนะนำแล้วก้มลงอ่านหนังสือในมือต่อ
“...”
มือที่กำลังจะพลิกหน้ากระดาษหยุดชะงักเมื่อไม่ได้ยินอะไรตอบกลับมาจากพี่อีฟ
และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าพี่กำลังยิ้มแห้ง ๆ มาให้ เอวาถอนลมหายใจออกมา
ปิดหนังสือลงแล้วมองพี่ที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“มีอะไรจะบอกมั้ยคะ? พี่อีฟ”
“เออ..
คือที่จริง...พี่มีแฟนแล้วน่ะ”
โอเค...
ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เธอเซอร์ไพรส์ได้นิดนึง เพราะเธอก็สังเกตเห็นว่าเดี๋ยวนี้พี่อีฟชอบคุยโทรศัพท์นานผิดปกติ
ไม่แปลกที่กำลังคุยกับใครอยู่
“เพิ่งคบมาได้สองอาทิตย์
เอวาไม่โกรธนะที่พี่เพิ่งบอกน่ะ”
“ได้ข่าวว่าแฟนเก่าที่คบกัน
พี่ก็เพิ่งมาบอกว่าคบกันมาเดือนหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอไงคะ”
“เออก็จริง”
เธอส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยปากถามถึงแฟนของพี่อีฟ
“แล้วไปเจอกันได้ไง
ที่ไหน เมื่อไหร่ นิสัยเป็นไง ที่สำคัญเป็นใคร”
“โห่..
ถามเยอะไปมั้ย เอวา”
“จะบอกไม่บอกคะ
พี่?”
พี่อีฟทำหน้ายู่ใส่เธอเล็กน้อย
ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วยื่นมาให้เธอ บนหน้าจอปรากฏรูปภาพของผู้ชายคนหนึ่ง
ในรูปเขาดูสูงดี แขนขายาวจนน่าอิจฉา หุ่นผอมเล็กน้อย สีผมน้ำตาลอ่อน
ตาเรียวยาวแต่ถึงอย่างนั้นนัยน์ตาของผู้ชายคนนี้ก็ดูคมดุ จมูกโด่ง
ริมฝีปากคล้ำเล็กน้อย ถ้าให้เดาคือน่าจะสูบบุหรี่จัดพอตัว แต่โดยรวมแล้วแฟนคนใหม่ของอีฟถือว่าหน้าตาดีกว่าคนที่แล้ว
ๆ มาหลายเท่าตัว
แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกคุ้น
ๆ เหมือนเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนนะ
“พี่ไปเจอเขาที่สนามแข่งรถ
เมื่อเดือนที่แล้ว เราคุยกันถูกคอดี”
“แล้วเขาเป็นใคร”
“เดี๋ยวนะ
นี่เอวาไม่รู้จักเขาเหรอ!?”
พี่อีฟทำสีหน้าตกใจทำอย่างกับว่าเธอพลาดอะไรสำคัญไปอย่างนั้นแหละ
“พี่...
เอวารู้จักคนไม่เยอะนะ” เธอพ่นลมหายใจออกมาทีหนึ่ง ยกมือมาเกี่ยวเส้นผมทัดหูตัวเอง
“เขาเป็นคนใหญ่คนโตเลยนะ
ใคร ๆ ก็รู้จักเขากันทั้งนั้น”
“....”
“ซีกเกอร์
นั่นล่ะชื่อเขา”
ในตอนแรกที่เธอได้ยินชื่อ
เธอก็แค่ร้องอ๋อออกมาเท่านั้น ก่อนที่สมองของเธอจะรันความคิดใหม่ เดี๋ยวนะ! ซีกเกอร์
งั้นเหรอ นี่มันชื่อเล่นลูกชายอธิการบดีมหาลัยยูเรสเคที่เธอกับพี่อีฟเรียนอยู่ไม่ใช่เหรอไง
เอวาก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้ง
แล้วก็แทบอุทานออกมาเมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นผู้ชายคนนี้ที่ไหนมาก่อน
เธอเคยเห็นเขาตามหนังสือของมหาลัย อาจจะเคยเดินผ่านกันด้วยซ้ำ
แต่ไม่กล้าเงยหน้าไปสบตากับผู้ชายคนนี้ตรง ๆ
เพราะเธอก็พอได้ยินข่าวมาบ้างว่าเขาเป็นตัวก่อเรื่องพอสมควร
ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขานัก แถมเพื่อน ๆ ในกลุ่มของเขาก็ไม่ใช่เล่น ๆ
ลูกคนใหญ่คนโตทั้งนั้น
“พี่! นี่พี่เป็นแฟนกับเขาจริงๆ
เหรอ!?”
เธอถามอย่างไม่เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นจริง
นี่มันเซอร์ไพรส์เธอมากเลยนะ เมื่อรู้ว่าแฟนของพี่คือใคร
“ใช่แล้ว”
“เออ..
เขาน่ากลัวนะคะ..”
“เอวาก็เวอร์ไป
พอ ๆ ถือว่ารู้แล้วนะว่าแฟนพี่คือใคร แล้วก็คืนนี้อาจจะกลับดึกหน่อยนะ”
“แล้วจะไปเที่ยวไหนคะ”
“ก็ที่
‘ฝั่งนั้น’ นั่นแหละ”
เอวากลอกตาไปมาเมื่อพี่อีฟตอบ
เธอมองร่างของพี่ที่คว้ากระเป๋ามาสะพายก่อนจะโบกมือลาอย่างรวดเร็วแล้วออกไปจากห้องเพื่อที่จะเข้าเรียนเพราะวันนี้เธอมีเรียนเช้า
ส่วนเธอมีเรียนช่วงบ่ายจึงจมปลักอยู่ที่ห้องเหมือนปกติ
‘ฝั่งนั้น’ ที่พี่อีฟพูดเมื่อกี้
ถ้าไม่ใช่เด็กยูเรสเคก็ไม่รู้หรอกว่าคืออะไร มันถือสถานที่หนึ่งสำหรับหนุ่มสาวยูเรสเค
เป็นสถานที่บันเทิงเฉพาะกลุ่ม มีทั้งบาร์เหล้าเบียร์ โต๊ะสนุกเกอร์ บลาๆ
และที่สำคัญคือสนามแข่งรถที่ทุกคนที่ไปฝั่งนั่นต้องไปดูสักครั้ง
แต่ไม่ใช่ว่าจะมีแต่เด็กยูเรสเคนะ ยังมีอีกสถาบันหนึ่งเหมือนกัน โจเซฟ
มหาลัยคู่อริที่มักจะมีเรื่องกันอยู่เสมอก็มีสิทธิ์ได้ไปที่นั่นเหมือนกัน
แต่ก็มีกฎว่าห้ามทะเลาะหากเกิดขึ้นเห็นว่าจะโดนแบนไม่ให้เข้าอีกเลยมั้ง
เอวาดันกรอบแว่นตาตัวเองขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่อาจารย์ออกไปจากห้องเรียน
เธอก้มมองดูนาฬิกาบนข้อมือที่ตอนนี้บ่ายสี่แล้ว ทุก ๆ คนในห้องเริ่มทยอยเดินออกไป
ส่วนเธอก็เก็บของใส่กระเป๋าก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้อง
“อีฟ
ๆ”
เธอหยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีใครคนหนึ่งเรียกชื่อแฝดพี่ของเธอ
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้เธอต้องหยุดเดิน แต่เป็นเพราะเขาเรียกเธอน่ะสิ ทั้ง ๆ
ที่วันนี้เธอใส่แว่นมาแล้วนะ มันก็น่าจะต่างกับพี่ที่แทบไม่เคยใส่แว่นเลยด้วยซ้ำ
สุดท้ายคนอื่นก็ยังทักผิดอยู่ดี
“จารย์อรเรียกหาเธอน่ะ
เห็นว่ามีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย”
“แต่ว่า...”
“รีบไปเลยนะ”
แล้วเขาคนนั้นก็เดินหนีหายไปเฉยเลย ปล่อยให้เธออ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกเมื่อเหตุการณ์ทำนองนี้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว
เธอพ่นลมหายใจออกมาพลางหยิบโทรศัพท์โทรหาพี่อีฟเพื่อบอกให้พี่ไปพบอาจารย์อรตามที่เขาคนนั้นบอก
(มีไรเหรอเอวา?)
“วันนี้มีคนทักเอวาผิดว่าเป็นพี่”
(ก็ปกติไม่ใช่เหรอ
พี่ก็เคยนี่)
“เขาบอกให้ไปหาจารย์อรน่ะ”
(ตอนนี้?)
“อือฮึ”
เอวาทำท่าจะวางสายหลังจากที่เธอโทรมาบอกเสร็จ
แต่ก็ต้องหยุดนิ้วที่จะกดตัดสายเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องหลุดออกมาจากลำโพงโทรศัพท์
“พี่ร้องทำไม?”
(พี่ไปหาตอนนี้ไม่ได้น่ะสิ
มีควิกสอบ เอวาไปให้หน่อยนะ)
“เออ..”
(นะเอวาจ๋า
ไปให้หน่อยนะคะ)
“ไม่ต้องมาทำเสียงหวานเลยนะ
โอเค ๆ เดี๋ยวเอวาไปหาให้ก็ได้” หลังจากที่วางสายจากพี่อีฟเธอก็มุ่งหน้าตรงไปยังห้องพักของอาจารย์
เธอเคาะประตูสองครั้งก่อนเปิดเข้าไป แอร์เย็นภายในห้องปะทะเข้าหน้าเธอเบา ๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำเอาขนอ่อนที่ต้นแขนลุกชันได้แล้ว
“มาพบอาจารย์อรค่ะ”
“เข้าไปในห้องนั่นได้เลย”
อาจารย์ท่านหนึ่งชี้ทางให้
เธอเอ่ยขอบคุณแล้วเดินเคาะประตูทีหนึ่งก่อนจะเปิดเข้าไปก็พบกับอาจารย์อรที่นั่งอยู่หลังโต๊ะ
ก้มหน้าอ่านเอกสารบางอย่างอยู่ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นแล้วเชิญให้เธอนั่งฝั่งตรงข้าม
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ
เอมมิกา”
“เออ..
อาจารย์คะ คือหนูเอมมิชาค่ะ พี่อีฟเขาติดควิกสอบพอดี หนูเลยมาแทน”
“อ้าว
เอวาเองเหรอ?”
อาจารย์มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเธออธิบายว่าคนตรงหน้าไม่ใช่เอมมิกาหรือพี่อีฟแต่เป็นเธอแทน
“เอาไงดีล่ะ
นี่มันเรื่องสำคัญน่ะ”
“หนูถามได้มั้ยคะว่าเรื่องอะไร”
“อืม...
ได้ ว่าแต่เธอรู้ใช่มั้ยว่าทางมหาลัยเรามีโครงการสานสัมพันธ์กับทางโจเซฟ”
“ก็พอทราบค่ะ”
เธอพยักหน้าเบา
ๆ เพราะเคยได้ยินมาบ้างว่าทั้งสองฝ่ายพยายามที่จะสานความสัมพันธ์กัน
แม้ว่าจะมีอุปสรรคและเสียงต่อต้านจากบรรดาเด็กหัวแข็งที่ไม่อยากจะยอมรับอีกฝ่าย
อาจารย์อรถอนหายใจเล็กน้อยให้ได้ยินแล้วยื่นเอกสารที่อ่านอยู่ก่อนหน้านี้เลื่อนมาให้เธออ่าน
“แลกเปลี่ยน?”
เอวาขมวดคิ้วเมื่อได้อ่านคร่าว
ๆ เธอวางเอกสารลงแล้วเงยหน้ามองอาจารย์อรเพื่อขอคำอธิบายที่เข้าใจมากกว่านี้
และอาจารย์ก็ยอมที่จะอธิบายให้เธอเข้าใจ
“เป็นความคิดของอาจารย์หลาย
ๆ ท่านน่ะ ที่อยากให้เด็กของเราไปศึกษาที่โจเซฟ”
“..!?”
“เหมือนไปแลกเปลี่ยนกันนะ
ทางฝั่งนั่นก็เห็นด้วย”
“แล้ว...
อาจารย์ก็รับผิดชอบเรื่องการคัดสรรเด็กใช่ไหมคะ”
“ใช่
ก็เลือกมาแล้วบ้างน่ะ”
เธอยกมือขยับแว่นตาตัวเองเล็กน้อย
หัวสมองเริ่มใช้ความคิดกับเรื่องที่ได้ยินร่วมถึงโครงการที่อยู่ตรงหน้า
แลกเปลี่ยนเด็กกันและกันอย่างนั้นเหรอ ถึงแม้ว่าจะเป็นแนวคิดที่ดี
แต่มันจะเป็นไปได้เหรอ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จมันครึ่งต่อครึ่งเลยนะ
“ถ้าอย่างนั้น...
ที่อาจารย์ต้องการพบพี่อีฟ ก็เพื่อที่จะให้ลงชื่อเข้าร่วมโครงการนี้ใช่ไหมคะ”
“ถูกต้องเพราะอีฟก็ถือว่าตรงคุณสมบัติ
ก็เลยอยากจะเรียกมาคุยน่ะว่าสนใจมั้ย”
“เออ...
ว่าแต่.. อาจารย์ทราบมั้ยคะว่า... พี่หนูคบกับคุณ..ซีกเกอร์”
“หื้อ? คบกับซีกเกอร์งั้นเหรอ”
อาจารย์อรทำสีหน้าแปลกใจอีกรอบเมื่อได้ยินเรื่องที่เธอบอกไป
คือจะพูดไงดีล่ะ ซีกเกอร์ ผู้ชายคนนี้เหมือนเป็นผู้นำในการทะเลาะวิวาทน่ะ
เขาเกลียดเด็กในโจเซฟเข้าไส้เลย เธอเคยได้ยินมาว่าเขาเคยไปทะเลาะกับคน ๆ
หนึ่งในโจเซฟจนทั้งคู่ต้องเข้าโรงบาลแถมโดนทัณฑ์บนด้วยถือเป็นข่าวดังในช่วงนั้นเลย
แล้วคือตอนนี้พี่อีฟเป็นแฟนกับเขา แล้วถ้ามารู้ว่าพี่อีฟจะโดนดึงเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนกับโจเซฟ
มีหวังเขาได้อาละวาทแน่ ๆ
“ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะ
แน่ใจนะเอวาว่าเรื่องจริง”
“ค่ะ
พี่อีฟบอกกับหนูเอง”
“เฮ้อ...
ถ้างั้นเธอสนใจมั้ยล่ะ จะเข้าร่วมโครงการนี้”
เธอกะพริบตาปริ่ม
ๆ พอได้ยินคำเชิญชวนจากปากอาจารย์อร แทบไม่คิดเลยว่าอาจารย์จะชวนเธอให้เข้าร่วมโครงการนี้
ให้ไปแลกเปลี่ยนที่มหาลัยโจเซฟน่ะเหรอ เออ... มันไม่น่ากลัวเกินไปเหรอคะ
“คือว่า...”
“ลองเอาไปคิดดูก่อน
นี่ใบสมัครนะ”
“...”
“พรุ่งนี้ค่อยมาให้คำตอบกับฉันล่ะกัน
เธอไปได้แล้วล่ะ”
เอวาเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์เหมือนคนไร้สติพอสมควร
ในมือมีแผ่นกระดาษสีขาวที่เป็นใบสมัครเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนกับเด็กโจเซฟ
เธอก้มมองดูมันอีกครั้ง ก่อนที่จะเก็บเข้าแฟ้มแล้วยัดใส่กระเป๋าพลางถอดแว่นตาออก
“เฮ้อ...
ไหงเรื่องมันมาลงที่เรานะ”
เธอบ่นกับตัวเอง
อยากจะยกมือทั้งสองข้างมาทึ้งผมไม่ก็ตบแก้มตัวเองเผื่อตื่นจากฝันนี้ได้
แต่นี่มันเป็นความจริงน่ะสิเธอถึงไม่ได้ทำอย่างที่คิด เอวายกมือขึ้นมาลูบหน้าก้มมองดูนาฬิกาข้อมืออีกรอบ
ก่อนจะรีบเดินออกจากตึกเพื่อให้ทันรถเมล์ ขืนช้ากว่านี้คงรออีกนานกว่ารถจะมาอีก
ส่วนเรื่องโครงการแลกเปลี่ยน
ต้องรอพี่อีฟกลับถึงห้องก่อนแล้วคุยถึงเรื่องนี้ว่าจะเอาไงดี เพราะจริง ๆ
เธอก็ไม่อยากเข้าร่วมโครงการนี้สักเท่าไหร่นัก
เอวาหยุดคิดเรื่องน่าปวดหัวเมื่อลงมาด้านล่างแล้วและกำลังเลี้ยวตรงหัวมุมทางเดิน
เธอก็เจอกับผู้ชายตัวสูงสองคนที่เหมือนว่ากำลังดักรอใครบางคนอยู่
“เออ...
ขอทางนะคะ”
เอวาเอ่ยออกมาเมื่อพวกเขาไม่ยอมเปิดทางให้แถมยังจ้องมาที่เธอ
จนเป็นเธอเองที่เป็นฝ่ายก้าวถอยหลังด้วยความหวาดระแวงนิด ๆ
“ใช่อีฟใช่มั้ย”
“คะ!?”
“มากับเราหน่อย เพื่อนฉันมันอยากเจอเธอ”
“แล้ว...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน
ฉันไม่รู้จักพวกคุณเลยนะ”
เธอพยายามที่จะสะบัดข้อมือที่ถูกเกาะกุมจากผู้ชายคนหนึ่ง
ก่อนที่จะโดนล็อกแขนทั้งสองข้างแล้วลากไปที่ไหนก็ไม่รู้
“เกี่ยวสิ
ก็เธอเป็นแฟนกับมันไม่ใช่เหรอ”
เอวาอ้าปากค้างเมื่อได้รับคำตอบหลังจากที่โดนจับยัดเข้าไปในรถคันหนึ่งทางด้านหลัง
แถมจะเปิดประตูหนีก็ไม่ได้เพราะโดนล็อกจากฝั่งคนขับ
“เออ..
ต้องมีการเข้าใจผิดแน่ ๆ ฉันไม่ใช่คนที่คุณตามหานะ”
“ไม่ใช่ได้ไง
อีกอย่างเธอก็รู้จักกับพวกเรามาก่อนนี่ จำไม่ได้เหรอไง”
“ฉันชื่อเอวา
เป็นฝาแฝดกับพี่อีฟ คุณพามาผิดคนแล้วนะคะ”
“หื้อ?
แฝดงั้นเหรอ”
คนที่นั่งข้างคนขับเอี่ยวตัวมามองพอได้ยิน
เธอพยายามอธิบายอีกครั้งจนรถที่ขับหยุดจอดคอนโดหนึ่ง นั่นทำให้เธอต้องหยุดแล้วโดนดึงออกมาจากรถอย่างรวดเร็ว
“จะใช่ไม่ใช่ไม่รู้ล่ะ
รู้แค่ว่าเพื่อนฉันมันอยากเจอเธอ”
“ทำไมเขาต้องอยากเจอพี่อีฟด้วย”
“ไม่รู้
ไปคุยกับมันเองล่ะกัน”
“แต่ฉันไม่ใช่พี่อีฟนะ!”
เอวาพยายามบอกขณะที่โดนคุมตัวบนลิฟต์ก่อนที่จะโดนลากมาหยุดหน้าห้องหนึ่งในชั้นบนสุดของคอนโด
เธอหันหลังหนีประตูนั้นพยายามที่จะเดินหนีแต่ก็โดนพวกเขาดันไหล่ทั้งสองข้างผลักติดกับประตูทำให้เธอหนีไปไหนไม่ได้
“คุณ! ฉันไม่ใช่พี่อีฟนะคะ
เชื่อฉันสิ”
“ไม่รู้ล่ะ
ถ้าไม่ใช่ก็บอกมันเอง อยู่ตรงนี้นะ อย่าคิดที่จะหนี ไม่งั้นเธอเจอดีแน่”
เธอสะดุ้งพอเจอกับคำขู่ก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะเดินออกไปจากทางเดิน ปล่อยให้เธอยืนอยู่หน้าห้องเพื่อนของเขาคนเดียว
นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมวันนี้ถึงโดนคนอื่นทักผิดตั้งสองรอบเลยนะ เธอยกมือสองขยี้ผมตัวเอง
ในหัวก็รันเหตุการณ์เมื่อกี้ใหม่อีกครั้ง
พวกเขาบอกว่าเป็นเพื่อนกับแฟนของพี่อีฟใช่มั้ยนะ
แฟนของพี่อีฟ... เดี๋ยวนะ! ถ้างั้นก็เป็นเขาคนนั้นน่ะสิ
แอด...
เสียงเปิดประตูดังขึ้นแต่แค่นั้นทำเอาเอวาสะดุ้งโหยงทั้งตัวแล้ว
เธอค่อย ๆ หันกลับไปมอง สายตาก็ปะทะเข้ากับแผงอกขาว ๆ ของเจ้าของห้องแทบจะทันที
เพราะเจ้าตัวไม่ติดกระดุมเลยสักเม็ดสวมแค่เสื้อเชิ้ตเอาไว้เท่านั้น ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของแผงอกตรงหน้าพลางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะรู้สึกคอแห้งขึ้นมาดื้อ
ๆ
ทันทีที่เงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของร่างสูงโปร่ง
ร่างทั้งร่างของเธอก็เหมือนถูกสะกดให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่กล้าที่จะขยับขาหนีไปไหน
คำพูดที่จะอธิบายว่าพาคนมาผิดก่อนหน้านี้ติดอยู่ที่ลำคอเมื่อเจอกับกับใบหน้านิ่ง ๆ
ของเขา และนัยน์ตาดุ ที่กำลังจับจ้องมองที่เธออย่างไม่ละสายตาตั้งแต่ที่เขาเปิดประตูออกมา
“..ซีกเกอร์”
หมับ..
เอวาสะดุ้งอีกรอบเมื่อซีกเกอร์คว้าข้อมือเธอขึ้นมาก่อนจะออกแรงดึงให้เธอเข้าห้องอย่างรวดเร็ว
และเพราะแรงที่เขาดึงทำให้เธอถลาเข้าไปปะทะอกเข้าเต็มๆ
เธอรีบดันตัวเองให้ออกห่างจากเขาแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงประตูปิดลง เว้นระยะห่างจากเขาเมตรหนึ่งจนเธอรับรู้ได้ถึงสายตาของเขาที่มองมาด้วยความสงสัย
“เออ...
คือว่าฉัน..”
“เธอ...”
น้ำเสียงเรียบ ๆ ของเขาเอ่ยขึ้นมา คงเพราะแปลกใจกับพฤติกรรมแปลก ๆ
ของเธอที่แสดงออกไป พอเขาก้าวเข้าไปใกล้ก็เป็นเธอที่ถอยหลังหนีไปหลายก้าว
จะไม่ให้แปลกใจได้ไง
ในเมื่อเธอไม่ใช่พี่อีฟแฟนของเขา
“มาที่นี้ได้ไง...”
“คะ..คือว่า...”
ซีกเกอร์เอ่ยถามแถมยังก้าวเข้ามาเรื่อย
ๆ จนเอวาถอยหลังไปติดกับกำแพง หัวใจเธอเต้นแรงจนต้องหอบเอาอากาศเข้าปอดลึก ๆ และตื่นเต้นเลยทำให้เธอลนลานคิดหาคำพูดอธิบายไม่ออกแถมบรรยากาศภายในห้องก็กดดันจนเธอไม่กล้ามองหน้าเขา
เอวาสะดุ้งอีกครั้งเมื่อซีกเกอร์ใช้แขนข้างหนึ่งยันกับกำแพงไว้
แถมพอเธอจะหนีไปอีกทาง มืออีกข้างก็ปิดกั้นไม่ให้เธอไป ทำให้ตอนนี้เธอเหมือนโดนกักขังจากแขนทั้งสองข้างของซีกเกอร์
“คุณ..
คุณเข้าใจผิดแล้วนะคะ”
ในที่สุดเอวาก็ได้เปิดปากพูดสักทีหลังจากที่พูดตะกุกตะกักหาคำพูดไม่เจอ
เธอเม้มริมฝีปาก รวบรวมความกล้าเงยหน้ามองใบหน้าของซีกเกอร์แล้วอธิบายกับเขาว่านี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด
เพื่อนของเขาพามาผิดคน เธอไม่ใช่พี่อีฟ แฟนสาวของเขาแต่เป็นน้องสาวฝาแฝดต่างหาก
“ฉันไม่ใช่พี่อีฟ...”
แววตาของซีกเกอร์มีความตกใจออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อเธอปฏิเสธว่าไม่ใช่พี่อีฟ
“เพื่อนของคุณพามาผิดคน...
พี่อีฟเขามีสอบเลย… อ้ะ!”
เอวาร้องตกใจออกมาเมื่ออยู่
ๆ คนที่กักขังเธอให้ติดกำแพงก็เอนตัวมาหาเธอ
จนเธอต้องรีบประคองร่างของเขาก่อนที่จะล้มพรืดกองกับพื้น
ทันทีที่เธอสัมผัสผิวกายของซีกเกอร์
เธอก็เดาได้แทบทันทีว่าทำไมเขาถึงหน้ามืดล้มมาได้
ก็ตัวเขาร้อนจี๋ซะขนาดนี้จะไม่ให้หน้ามืดล้มได้ไง
“คุณ..
คุณคะ...”
เธอพยายามเรียกเขาให้ได้สติแต่ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยากเพราะไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมาเลย
แถมตัวเขาก็หนักจนขาทั้งสองข้างของเธอเกือบจะรับไม่ไหว เอวาต้องใช้แรงทั้งหมดที่มีพาเขาไปที่เตียง
พอถึงเธอแทบจะโยนเขาลงไปเลยด้วยซ้ำ
เอวาหอบหายใจพลางยกมือปาดเหงื่อตัวเองแม้ว่าภายในห้องของเขาจะเปิดแอร์ทำให้บรรยากาศในห้องเย็นสบายก็ตาม
เธอดึงร่างของซีกเกอร์ให้นอนดี ๆ ระหว่างนั้นเธอก็ได้เห็นใบหน้าของเขาชัดขึ้น
เขาเหมือนกับในรูปที่พี่อีฟถ่ายมาเลยเพียงแต่ตัวจริงดูจะหล่อกว่าในรูป แถมดูน่ากลัวกว่าที่เธอคิดเอาไว้เสียอีก
“ตัวร้อนจี๋เลย...
คุณไปตากฝนมาเหรอไงนะ”
เอวาว่าหลังจากที่เธอทาบมือลงหน้าผากของเขาเพื่อวัดอุณหภูมิอีกรอบ
เอาไงดีล่ะ จะปล่อยทิ้งไว้อย่างนี้แล้วกลับบ้านจะดีรึเปล่า หรือจะช่วยเขาดี
เพราะยังไงเขาก็ถือว่าเป็นแฟนกับพี่อีฟเลยนะ
(เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...)
เธอยกมือขึ้นมาเกาหัวเมื่อพยายามติดต่อพี่อีฟก็ไม่ติดสักที
สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ซีกเกอร์ก่อน
เพราะตัวเขาร้อนมาก ดีที่ในกระเป๋าเธอพกแผงยาลดไข้ติดตัวเอาไว้
ไม่ต้องลำบากลงไปซื้อข้างล่าง เธอถือกระบะใบเล็กที่เจอในห้องน้ำมาวางไว้โต๊ะข้างเตียงกับผ้าผืนเล็กที่บิดน้ำมาหมาด
ๆ เตรียมไว้ ก่อนที่จะสะกิดเขาให้ตื่นเพื่อให้มาทานยาก่อน
เขาไม่ได้ส่งเสียงตอบกลับมาแต่ตอนที่เธอประคองก็เหมือนว่าเขาจะได้สติอยู่
เธอจึงป้อนยาเขาไปสองเม็ดพร้อมกับน้ำที่มีอยู่ในตู้เย็นแค่ขวดหนึ่ง
ก่อนที่จะประคองเขานอนตามเดิม จากนั้นเธอก็หยิบผ้ามาเช็ดตัวเพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง
ผ่านไปสักพักก็ดูเหมือนว่าไข้ของเขาจะลดลงมาบ้าง
เธอเลยจดโน้ตเขียนไว้ว่าตอนสองทุ่มให้เขาทานยาอีกสองเม็ดแปะไว้บนโต๊ะข้างเตียงก่อนที่ตัวเองจะออกจากห้องของเขาเพื่อกลับบ้าน
“คุณ...
งั้นฉันไปก่อนนะคะ อย่าลืมทานยาด้วยนะ”
เอวาบอกเขาและหวังว่าเขาจะได้ยินก่อนที่เธอจะหันหลับกลับเตรียมออกจากห้อง
ทว่าแขนของเธอกลับถูกคนที่คิดว่านอนหลับอยู่บนเตียงคว้าเอาไว้
ก่อนจะโดนดึงให้ล้มกลับมาที่เตียงพร้อมกับที่ร่างของเขาค่อมทับร่างของเธออย่างรวดเร็ว
หัวใจของเอวาเต้นรัวเร็วด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว
เธอเบิกตากว้างมองใบหน้าของซีกเกอร์ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม
เขาดูไม่เหมือนคนป่วยที่ไข้ขึ้นสูงเลยสักนิด นัยน์ตาทั้งสองข้างคมกริบและดูดุดันจนน่ากลัวกำลังจ้องมองมาที่เธออย่างไม่คาดสายตา
แล้วไหนจะใบหน้าของเขาที่ก้มต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนผิวแก้มของเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อน
ๆ ของเขา
“คุณ...
ชะ..ช่วยลุกออกไปด้วยค่ะ”
เธอพยายามบอกด้วยน้ำเสียงเท่าที่มี
แต่มันดูกระท่อนกระแท่นแล้วก็เบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน แล้วเหมือนว่าซีกเกอร์จะไม่ยอมทำตามที่เธอพูด
เพราะวินาทีต่อมาริมฝีปากบางคล้ำของเขาก็ประกบลงริมฝีปากของเธอ
“...!!”
เอวาถึงกับช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตลอดยี่สิบสองปีของเธอมานี้
เธอแทบไม่เคยไปจูบกับใครมาก่อนเลยสักครั้ง จริงอยู่ที่ว่าเธอเคยมีแฟนมาก่อนแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการจับมือ
ทว่าตอนนี้คนตรงหน้าเธอกลับก้มลงมาจูบชนิดที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว
ที่สำคัญ...
เขาเป็นแฟนพี่อีฟ!!
“อื้อ!”
เธอพยายามที่สะบัดใบหน้าหนีริมฝีปากร้อน
ๆ ของซีกเกอร์ มือทั้งสองข้างพยายามผลักเขาให้ถอยออกไป ทว่าเขากลับยึดมือเธอไว้ด้วยมือข้างเดียวอย่างง่ายดาย
จับกดลงบนเตียงไม่ให้เธอขัดขืนแล้วบังคับให้เธอเปิดปากรับจูบของเขาอีกครั้ง
เอวาสัมผัสได้ถึงลิ้นสากระคายของซีกเกอร์ที่ถูกดันเข้ามาในริมฝีปากของเธอ
มันทั้งดุดัน รุนแรง เกี่ยวกระหวัดลิ้นของเธออย่างชำนาญพร้อมกับที่ป้อนความรู้สึกแปลก
ๆ ที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เธอพยายามรวบรวมสติตัวเองอีกรอบเมื่อเขาผละริมฝีปากออกมาแล้วหันไปขบเม้มลำคอของเธอแทน
มืออีกข้างของเขาก็ลูบไล้ลำตัวของเธอ เลื่อยต่ำลงเรื่อย ๆ จนเธอผวา
จิกเล็บเข้าที่อุ้งมืออย่างลืมตัว
“ซีกเกอร์!
หยุด...
ฉันไม่ใช่... อื้อ!”
เธอพยายามที่จะร้องห้ามและตะโกนบอกเขาว่าเธอไม่ใช่พี่อีฟ
ทว่าซีกเกอร์กลับเลื่อนใบหน้ามาปิดปากของเธอและครั้งนี้มันรุนแรงกว่าเดิม
วาบหวามจนหัวใจของเธอสั่นด้วยความกลัว ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอกลัวจริง ๆ
เพราะทั้งมือและริมฝีปากที่กำลังขบกัดปากของเธอ กำลังทำให้สติของเธอค่อย ๆ
ลอยหายไปเรื่อย ๆ เหลือเพียงความรู้สึกบางอย่างที่เธอไม่เคยรู้จักเป็นตัวควบคุมร่างกายของเธอแทน
“อ้ะ..”
เสียงครางที่ดังขึ้นทำให้ใบหน้าของเอวาร้อนฉ่า
มันเป็นเสียงร้องที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะหลุดร้องออกมาให้ได้ยิน ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงครางต่ำของคนที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับการถอดเสื้อของเธอ
เสียงของเขาเหมือนเสียงสัตว์ร้ายที่กำลังอดทนกับอะไรสักอย่างอยู่และจวนเจียดใกล้จะระเบิดเต็มที่
ร่างของเธอสะดุ้งเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสเปียกชื้นบริเวณหน้าอกพร้อมกับแรงบีบขย้ำตามมา
เธอไม่กล้าลืมตาขึ้นมองเพราะแค่นี้เธอก็ทนรับแทบไม่ไหวอยู่แล้ว
แล้วไหนจะอะไรบางอย่างที่ดุนดันบริเวณหน้าท้องของเธออีก
ซีกเกอร์เลื่อนใบหน้ามาจูบปากเธออีกครั้ง
แต่ว่ามันไม่ได้รุนแรงเหมือนในตอนแรก เขาบดคลึง ขบเม้มอย่างเชื่องช้า
หยอกล้อปลายลิ้นของเธออย่างมีชั้นเชิง ลัดเลาะริมฝีปากเธอทุกซอกทุกมุม กวาดต้อนทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอ
เขาแทบจะกลืนกินเธอไปทั้งตัวด้วยจูบนี้อยู่แล้วถ้าหากว่าเธอไม่ทุบเข้าที่ไหล่เขาให้ปล่อยเสียทีเพราะว่าเธอเริ่มจะหายใจไม่ทันแล้ว
เอวาหอบหายใจแฮ่กเหมือนกับคนที่ไปวิ่งมาราธอนมาหลายกิโลหลังจากที่เขายอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
เธอหอบเอาอากาศเข้าปอดหลังจากที่โดนเขาสูบไปจนหมด ก่อนที่จะร้องครางออกมาเบา ๆ เมื่อซีกเกอร์แนบริมฝีปากร้อน
ๆ ที่ติ่งหูของเธอ เขาหยอกล้อมันเล่น ในขณะที่เธอเกร็งด้วยความรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
เธอยกมือขึ้นมาจิกต้นแขนของเขาเพื่อระบายความรู้สึกที่ถูกเขาปลุกขึ้นมา พยายามที่จะกั้นเสียงร้องของตัวเองแต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน
เมื่อเขาเริ่มโจมตีเธอหนักขึ้นเรื่อย ๆ
ฝ่ามือร้อน ๆ
ของเขาลูบผ่านต้นขาของเอวา สอดเข้าไปในกระโปรงก่อนที่เธอจะรับรู้ว่าเขาเกี่ยวเอาชั้นในด้านล่างของเธอออกจากปลายเท้าในเวลาต่อ
เธอลืมตาขึ้นมองใบหน้าของซีกเกอร์ด้วยแววตาตกใจแทบจะทันทีที่รับรู้ว่าเขาขว้างชั้นในของเธอทิ้งอย่างไม่ใยดี
สติที่ล่องลอยหายไปก่อนหน้านี้กลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว และพอเธอจะขยับตัวหนี
ร่างของเธอก็ถูกเขากดทับเอาไว้พร้อมกับรั้งร่างให้แนบชิดทุกสัดส่วนบนร่างของเขา
มะ..ไม่นะ..
“อ้ะ!..”
เอวาผวาเข้าไปกอดซีกเกอร์แน่นเมื่อโดนกระตุ้นจากนิ้วมือของเขา
มันดุนดันเข้ามาอย่างเชื่องช้าทว่ามุ่งมั่นที่จะเข้ามาเรื่อย ๆ
สัมผัสแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยได้รับทำให้เธอคิดอะไรไม่ออก
ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไปหมด เธอคิดว่าแค่นี้เธอก็เหมือนจะขาดใจตายอยู่แล้ว
ทว่าในตอนที่ซีกเกอร์ลดตัวต่ำลงเรื่อย ๆ จนไปหยุดในที่ที่ไม่ควรหยุด ก็ทำให้เธอคิดได้ว่าเธอคิดผิดถนัด!
ส่วนที่อ่อนไหวที่สุดถูกสัมผัสด้วยความชุ่มชื่นที่ปัดป่ายเข้ามา
มันรุนแรงจนร่างของเธอหดเกร็ง
และทำได้แค่ยื่นมือไปขย้ำเส้นผมของเขาเพื่อระบายความรู้สึกที่ถูกกระตุ้น
อีกครั้งที่สัมผัสแปลกใหม่โจมตีเธอจนคิดอะไรไม่ออก ระลอกแล้วระลอกเล่าที่ซัดเข้ามาโดยฝีมือซีกเกอร์ทำให้เธอได้แต่ครวญครางเรียกชื่อเขาเท่านั้น
ก่อนที่ร่างทั้งร่างของเธอจะเกร็งกระตุก
เอวารู้สึกเหมือนว่ามีสายฟ้าฟาดลงมาหาเธอ
เหมือนว่าเธอถูกใครบางคนจับเหวี่ยงขึ้นสูงล่องลอยในอากาศก่อนที่จะถูกใครคนนั้นฉุดลงมาที่พื้นอย่างรวดเร็ว
ร่างกายของเธอชาหนึบอย่างกับว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างก่อนที่จะรู้สึกเบาสบายขึ้นมาดื้อ
ๆ มันเป็นความรู้สึกที่เธออธิบายไม่ถูก เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นท่ามกลางเสียงหอบหายใจของเธอ
นั่นทำให้สติของเธอกลับมาอีกครั้ง เอวาหันไปมองที่กระเป๋าของเธอที่กองอยู่บนเตียง
ข้าวของในนั้นออกมานอกกระเป๋ารวมถึงต้นตอของเสียงที่ดึงสติเธอให้กลับมาด้วย
และถ้าเธอมองไม่ผิด...
สายที่โทรเข้ามาหาเธอคือพี่อีฟ
“จะทำอะไร?”
ซีกเกอร์กดร่างของเธอให้นอนลงบนเตียง
เมื่อเห็นว่าเธอขยับตัวเพื่อจะคว้าโทรศัพท์
เธอมองเขาด้วยแววตาขอร้องให้เขาหยุดทำเรื่องนี้กับเธอสักที
เพราะเธอไม่ใช่แฟนของเขา และอีกอย่าง... พี่อีฟโทรมาหาเธอ ยังไงเธอก็ต้องรับสาย
ทว่าวินาทีต่อมาเอวาก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจกับการกระทำของเขา
เมื่อเขายื่นมือไปกดตัดสายโทรศัพท์ของเธอพร้อม ๆ กับปิดเครื่อง
ก่อนที่จะกวาดข้าวของของเธอลงไปที่พื้น
จากนั้นเขาก็หันมามองเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
และเป็นเธอเองที่หลับตาหนีดวงตาคู่นั่นแล้วเอ่ยปากขอร้องให้เขาหยุดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ดะ..ได้โปรด...
ซีกเกอร์”
“...”
“หยุดเถอะนะคะ.. ฉันไม่ใช่พี่...”
“...ไม่”
ซีกเกอร์ปฏิเสธกลับมาอย่างไร้เยื่อใยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
เขาบังคับให้เธอลืมตามองตาของเขา เอวามองเห็นประกายแวบวับผ่านม่านตาของเขาอยู่แวบหนึ่ง
เหมือนกับว่าเขาเจอของที่ถูกใจ เหมือนว่าเขาจะไม่ปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปจากกรงเล็บของเขาเด็ดขาด
และเหยื่อที่เขาต้องการที่จะให้แหลกคามือก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ถ้าไม่ใช่เธอ...
ความคิดเห็น