คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : (A) +ACCIDENT EP02 DAMON x ALICE [120%]
Accident
EPISODE 02 Damon x Alice
แสงแดดอ่อน ๆ ที่ผ่านบานกระจกใสตกกระทบลงบนใบหน้าของอลิสพอดิบพอดี ทำให้เธอรู้สึกตัว ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น กะพริบตาอยู่หลายครั้งเพื่อให้มองเห็นอะไร ๆ ให้ชัดเจน เธอขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงระบายลมหายใจตัวเองออกมาเบา ๆ ยกมือข้างที่ไม่ได้ใส่เฝือกขึ้นมาลูบหน้าตัวเองพลางมองรอบห้อง
นี่เป็นห้องที่เธอมาอาศัยอยู่ในช่วงที่จำอะไรไม่ได้เลยเกือบเดือนแล้ว
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นฟอร์นิเจอร์ ตู้เสื้อผ้า และเตียงนอน แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือวันนี้มีคนมานอนข้าง
ๆ เธอนี่สิ
ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเมื่อคืนเธอนอนหลับไปพร้อมกับเขาด้วย
อลิสก้มมองดูใบหน้าด้านข้างของเดมอนที่หันมาทางเธอ
เขานอนคว่ำหน้า แขนข้างหนึ่งยังพาดหน้าท้องเธอไม่ยอมปล่อยตั้งแต่เมื่อคืน ท่อนบนของเขาเปลือยเปล่าเผยให้เห็นแผ่นหลังที่มีรอยสักรูปนกอินทรียิ่งทำให้ผู้ชายคนนี้ดูเท่มากขึ้นไปอีก
เธอเม้มริมฝีปากตัวเองเบา ๆ เมื่อสายตาเจ้ากรรมมองไปที่ริมฝีปากแดงๆ ของเดมอนเข้า
และมันทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวาน
เดมอน...
ผู้ชายคนนี้จูบริมฝีปากเธอ จูบเหมือนจะกลืนกินเธอไปทั้งร่าง
แบบว่าถ้าเขายังไม่อิ่มหนำก็ไม่ยอมปล่อยริมฝีปากเธอให้เป็นอิสระง่าย ๆ แถมพอนึกถึงสัมผัสของเขาที่ทิ้งไว้ก็พลอยทำให้แก้มของเธอร้อนขึ้นมาจนเธอต้องละสายตาหนีจากริมฝีปากนั่น
แถมปากเธอก็บวมจนน่าตลก แล้วก็ไม่ใช่ใครที่ไหนทำ นอกจากผู้ชายที่นอนหลับข้าง ๆ
เธอนี้แหละ ดีนะที่ตอนกลับห้องเขาไม่ได้รุ่มร่ามทำอะไรให้น่าตกใจอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ
เดมอนก็ทำหน้ามึนเข้ามานอนในห้องของเธอจนได้
“อืม...
เช้าแล้วเหรอ”
“อะ..อื้อ เช้าแล้วค่ะ”
เดมอนพึมพำด้วยน้ำเสียงงัวเงียเล็กน้อย
ยอมเอาแขนที่พาดร่างของเธอออกแล้วมาขยี้ตาตัวเอง ท่าทางว่าไม่อยากจะตื่นเท่าไหร่แต่ก็ยอมลุกขึ้นมานั่งตรงหน้าห่างจากเธอไปไม่มากนัก
แถมตอนนี้เขาก็ไม่ได้ใส่เสื้ออีกพอแดดยามเช้าสาดเข้ามาในห้องกระทบร่างของเขา
มันเลยดูเหมือนว่าเขากำลังถ่ายแบบอยู่เลย
“มีอะไรรึเปล่า”
เดมอนเลิกคิ้วถาม และนั่นทำให้เธอต้องส่ายหน้าหวือปฏิเสธอย่างรวดเร็วพร้อมกับก้มหน้าลงไม่กล้ามองเรือนร่างสวย
ๆ ของเดมอนต่อ แค่เผลอมองไปแป็บเดียวก็ถูกเขาจับได้ซะแล้วสิ
“หื้อ...แล้วทำไมหน้าแดง”
เดมอนมองไปที่แก้มของยูที่ตอนนี้แดงระเรื่อให้เห็นได้อย่างชัดเจน
เธอสะดุ้งแล้วรีบปฏิเสธทันทีแถมยังยกมือมาบังหน้าตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเห็นอยู่ดี
เพราะมือข้างเดียวจะปิดแก้มแดงๆ ของเธอมิดได้ยังไงล่ะ ก่อนที่เธอจะรีบลุกออกจากเตียงวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ทิ้งให้เขาได้แต่มองพลางยกยิ้มนิดๆ
เมื่อคืนเขาตีหน้ามึนมานอนหลับข้าง
ๆ เธอ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงแสดงความต้องการไปอย่างนั้น
แต่พอเขาได้นอนกอดร่างนุ่ม ๆ ของยู บวกกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างกายเธอมันช่วยทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายแล้วก็หลับได้ง่ายผิดปกติจนน่าแปลกใจ
ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนหลับยากแต่เมื่อคืนเขาหลับสบายจริง ๆ แถมตื่นมาเจอหน้าตื่น ๆ
กับแก้มแดง ๆ ของยูทำให้เขาอารมณ์ดีด้วย
“อยากกินอะไรมั้ยเช้านี้”
เดมอนเอ่ยถามหลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย
เดินตรงมานั่งใกล้เธอบนตักตัวเองก็เปิดโน้ตบุ๊ครอให้เครื่องรีบู๊ตพร้อมใช้งาน ก่อนที่เขาจะหันมามองใบหน้าของยูรอคอยคำตอบของเธอ
“สปาเก็ตตี้...”
“โอเค
งั้นรอแป็บหนึ่ง ผมขอเช็คเมล์ก่อน”
อลิสพยักหน้าเข้าใจ
พลางรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่วันนี้เขาอารมณ์ดีจัง เพราะช่วงเช้าจะเป็นช่วงเวลาที่ผู้ชายคนนี้อารมณ์บูดบึ้งแล้วก็ไม่ยอมตื่นแต่เช้าง่าย
ๆ ด้วย แต่วันนี้เขากลับตื่นเช้าพร้อมเธอแถมยังมานั่งเบียดเธออีกต่างหาก
ทั้งที่โซฟาตั้งยาวมีพื้นที่ให้นั่งตั้งเยอะ เขากลับไม่นั่ง
เจาะจงมานั่งใกล้เธอชัด ๆ
“เอ๊ะ นั่นคุณนี่”
อลิสหันไปมองหน้าจอโน้ตบุ๊คพอดี
แล้วก็เห็นภาพถ่ายเดมอนที่กำลังร้องเพลงเมื่อคืน เขากดเลื่อนรูปภาพไปเรื่อย ๆ
ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ที่มีตัวเองอยู่ในรูป เพราะตอนนี้เขาเข้าแฟนเพจวงไอ้เพื่อนบ้าที่ชอบลากเขาไปร้องเปิดวงให้มัน
จริง ๆ เขาก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หรอกที่เป็นจุดเด่น
“ดะ..เดี๋ยวนะคะ..”
“...”
“นะ...นั่นมัน!!”
เดมอนยกยิ้มที่มุมปากเมื่อเขากดไปดูภาพสุดท้าย
และเมื่อภาพมันปรากฏคนข้างตัวของเขาก็ร้องตกใจทันที พูดตะกุกตะกักไม่เป็นคำออกมา
และเพราะท่าทางของเธอทำให้เขาห้ามใจหัวเราะออกมาไม่ได้ พลางยกแขนข้างขวาโอบไหล่เธอ
ออกแรงเล็กน้อยให้เธอขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีกหน่อย
“ทำไม ? ตกใจอะไรหื้อ ?”
“ก็..ก็มัน.. ทำไม..
ทำไมถึงมีภาพนี้ได้ล่ะคะ !?”
อลิสกะพริบตาปริ่ม ๆ
จ้องมองภาพนั้นด้วยความตกใจปนเขินอายไปด้วย
ภาพที่เธอเห็นตรงหน้าคือภาพที่เดมอนก้มลงจูบเธออย่าง... อย่างดูดดื่ม อึก ! ถ้าพูดกันตามจริง ณ ขณะนั้นเธอก็มึน ๆ ไม่ได้สนอะไรรอบข้างแถมยังคล้อยตามเดมอนโดยไม่ได้ขัดขืนเลยสักนิด
แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะดูดดื่มขนาดนั้น
โอ้ยยยย ! แล้วเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ในภาพเห็นหน้าคุณไม่ชัด
ไม่ต้องกังวลหรอกน่า”
“ตะ..แต่ว่า”
ถึงมันจะจริงอย่างที่เขาพูดว่าเห็นหน้าเธอไม่ชัด
ด้วยมุมที่ถ่ายและแสงไฟในตอนนั้นจึงเห็นใบหน้าของเดมอนซะส่วนใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ
เธอก็ยังอายอยู่ดีนี่ !
“เลิกกังวลได้แล้วน่า”
เดมอนหัวเราะเบา ๆ
บีบจมูกของยูเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนที่เขาจะปิดเครื่อง
ยกโน้ตบุ๊คในตักไปวางไว้บนโต๊ะด้านหน้า แล้วดึงให้ยูลุกขึ้นพาเธอไปร้านอาหารที่เขาไปเป็นประจำ
พอมาถึงที่เขาก็จับมือยูเดินเข้าไปในร้าน กดไหล่ให้เธอนั่งลงแล้วสั่งอาหารให้ทั้งของเธอและตัวเองกับพนักงาน
“เป็นไง อร่อยมั้ย ?”
“อื้อ ! อร่อยมากเลยล่ะ คุณลองชิมดูมั้ย” ด้วยความที่เธออยากให้เขาได้ชิมจริง ๆ
จึงยื่นซ้อมที่มีสปาเก็ตตี้ที่พันไว้อย่างพอเหมาะพอดีคำไปให้
พลางส่งยิ้มกว้างให้เดมอนพยักเพยินให้เขาลอง
เดมอนมองดูรอยยิ้มสดใสที่ส่งมาให้อย่างจริงใจ
เขามองเธอก่อนที่เขาจะขยับตัวเล็กน้อยง่ำปลายซ้อมแต่โดยดี
“เป็นไง ๆ
คุณว่าอร่อยดีใช่มั้ยล่ะ”
เดมอนเคี้ยวเส้นสปาเก็ตตี้ไปพลางมองใบหน้าของยู
ก่อนที่เขาจะยื่นนิ้วไปเช็ดมุมปากที่เปื้อนซอสสปาเก็ตตี้แล้วเลียซอสนั่นโดยที่สายตายังไม่ละไปจากใบหน้าของยูที่กำลังอึ้ง
ๆ พลางจ้องลึกไปที่ดวงตากลมโตของเธอ
“ใช่.. อร่อยมาก”
อลิสรู้ได้ทันทีเลยว่าหัวใจตัวเองเต้นเร็วผิดจังหวะ
แก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าวเมื่อเดมอนจ้องเธอไม่วางตา แล้วไหนจะเหตุการณ์เมื่อกี้นี้อีก
เธอต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้สายตาที่เขาส่งมา
แกล้งทำเป็นดื่มน้ำทั้งที่เธอไม่อยาก แต่ตอนนี้เธอไม่รู้จะเอาตาไปมองไหนแล้ว
ขืนเอาแต่จ้องเขากลับมีหวังได้ตกหลุมไปมากกว่านี้แน่
แค่นี้เธอก็หาทางปีนขึ้นยากลำบากอยู่แล้ว
เธอรู้ตัวดีเลยล่ะว่าตอนนี้เธอเริ่มคิดไม่ซื่อกับคนตรงหน้า
มันเป็นความรู้สึกที่เธอก็บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน เธอได้มาอยู่กับเขาก็เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
ได้คุ้นเคยกับนิสัยของเขา ได้เห็นถึงความเอาแต่ใจเล็ก ๆ รวมทั้งความเป็นผู้นำของผู้ชายคนนี้
ทุก ๆ อย่างของเขาอยู่ในสายตาของเธอหมด
และมันคงไม่แปลกหรอกมั้งที่เธอจะคิดไม่ซื่อขึ้นมาน่ะ
อลิสวางแก้วน้ำลง
รวบช้อนส้อมหลังจากที่เธอทานจนหมดเรียบร้อย
ก่อนที่จะเหลือบมองเดมอนที่ทานเสร็จไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้และกำลังมองมาที่เธอ
“ขอบคุณนะคะ ที่คุณพามาทานร้านนี้
ขอบคุณจริง ๆ” เธอกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจและซาบซึ้งกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ
เพราะถ้าเอาตามจริงแล้วผู้ชายคนนี้ช่วยเหลือเธอมากกว่าที่เธอคาดด้วยซ้ำ
เขาดีต่อเธอเหลือเกินจนเธอไม่อยากจะเป็นภาระไปมากกว่านี้แล้ว
แล้วก็ไม่อยากทำให้เขาลำบากใจถ้าหากเขารู้ว่าเธอคิดยังไงกับเขา
“เออ... เดมอน”
“ว่าไง?”
“มีเรื่องหนึ่งที่ฉันต้องบอก”
“...”
“คือว่าตอนนี้ฉัน...
ฉันจำ...”
อลิสจำเป็นต้องหยุดพูดไว้แค่นั้นเพราะเสียงเรียกเข้าสมาร์ทโฟนของเดมอนดังขึ้นมาซะก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร
และนั่นทำให้เขาขอตัวไปรับสายด้านนอก อลิสมองตามแผ่นหลังกว้างของเดมอนที่เดินออกไปนอกร้าน
บานกระจกใสในร้านทำให้เธอเห็นเขาได้ง่ายว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ก่อนที่เธอจะละสายตาจากเดมอน
เสมองไปที่อื่นบ้าง แต่แล้วร่างของเธอก็แข็งทื่อเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นของใครคนหนึ่งเข้า
“อะ..อลิส...”
คนตรงหน้าเรียกชื่อจริง
ๆ ของเธอด้วยน้ำเสียงตกใจ ในขณะที่อลิสเองก็ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอผู้หญิงคนนี้
แป้ง...
เพื่อนสนิทของเธอเองตั้งแต่มัธยมปลาย เพื่อนที่เธอไว้ใจและรักมากคนหนึ่ง
แต่ก็ไม่นึกเลยว่าแป้งจะทำร้ายเธอ แอบไปมีความสัมพันธ์ลับหลังกับพี่ต่อ ถ้าหากวันนั้นเธอไม่ได้ตามพี่ต่อไป
เธอก็คงกลายเป็นคนโง่ยอมโดนพวกเขาสวมเขาไปอีกนาน
“ธะ..เธอหายไปไหนมาเป็นเดือน
แล้วนั่น.. แขนเธอ”
“เกิดเรื่องนิดหน่อย”
เพราะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา เลยทำให้ใบหน้าของแป้งซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
“เรา..
เราขอนั่งด้วยได้มั้ย”
อลิสมองใบหน้าซีด
ๆ ของแป้งเล็กน้อยก่อนจะยอมพยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงอนุญาต
“เธอยังโกรธเราอยู่มั้ย”
คำถามแรกที่แป้งเอ่ยถามหลังจากที่นั่งลงทำเอาเธออดที่จะไม่ให้หัวเราะออกมาไม่ได้
ผู้หญิงคนนี้กล้าถามมาได้ไงว่ายังโกรธอยู่รึเปล่า
เรื่องที่เธอคนนี้ทำคิดว่ามันง่ายต่อการให้อภัยอย่างนั้นเหรอ
“คือเรา...
เราไม่ได้ตั้งใจ”
“แต่เธอก็ทำไปแล้ว”
“อลิส...”
“...”
อลิสพ่นลมหายใจออกมา เม้มริมฝีปากตัวเองก่อนที่จะพูดกับแป้ง
“เธอน่าจะรู้ดีว่าเราเป็นคนยังไง
การที่เธอไปยุ่งกับพี่ต่อแบบนั้นมันแสดงเจตนาอยู่แล้วว่าเธออยากได้พี่ต่อ”
“...!!”
“เราสังเกตเห็นหลายครั้งแล้ว
ตอนแรกเราคิดว่าเธอแค่ปลื้มพี่ต่อ แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้กับเรา”
ใช่ว่าเธอเองจะไม่เคยสังเกตเห็น
แต่เพราะเธอเชื่อใจเพื่อนคนนี้จึงไม่ได้คิดอะไรมาก และถึงเพื่อนคนอื่น ๆ
จะเตือนหรือบอกเรื่องพี่ต่อกับแป้ง เธอในตอนนั้นก็ยังไม่ได้ใส่ใจจนสุดท้ายเธอก็ตัดสินใจพิสูจน์ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง
จนกระทั่งเธอได้เห็นจะจะตา หลักฐานที่มัดตัวแน่นจนเธอแทบไม่เชื่อว่านั้นคือพี่ต่อกับแป้ง
คนที่เธอรักและเชื่อใจมากที่สุด
“เรารักพี่เขา
อลิส..”
“...”
“เธอยกเขาให้เราได้มั้ย”
คำสารภาพและคำขอร้องของแป้งทำให้อลิสตกใจอยู่ไม่น้อย
เพราะไม่คาดคิดว่าแป้งจะพูดแบบนี้ออกมา เธอมองใบหน้าของแป้ง
อดีตเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กำลังขอให้ยกพี่ต่อจากเธอ
ถึงเธอจะยังไม่ได้พูดบอกเลิกพี่ต่ออย่างเป็นทางการ เพราะในขณะนั้นเธอช็อกแล้ววิ่งหนีออกมาเสียก่อน
แต่ในความรู้สึก ณ ตอนนี้เธอตัดขาดกับพี่ต่อไปหมดแล้ว ความรู้สึกดี ๆ
ที่เคยมีให้มันจางหายไปหมด ทว่า...
“เราไม่ได้เป็นอะไรกับพี่ต่อแล้วแป้ง..
แต่ว่า...”
“ทำไม? เธอหวงเหรอ” คิ้วสวย ๆ ของแป้งเลิกขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่บึ้งตึงให้เห็นทันที
ทั้งที่ตอนแรกกำลังคลี่ยิ้มเตรียมจะเอ่ยปากของคุณเธอแล้วแต่พอเธอพูดคำว่า ‘แต่’ ออกมา ใบหน้ายิ้มของแป้งก็หายไปแทบจะทันที
“เราไม่ได้หวง”
อลิสปฏิเสธด้วยน้ำเสียงหนักแน่น รู้สึกไม่สบอารมณ์เหมือนกันที่ผู้หญิงคนนี้ยังคิดว่าเธอมีความรู้สึกดี
ๆ กับผู้ชายที่กล้านอกใจเธออีก
“เราแค่อยากจะเตือน
พี่ต่อกล้านอกใจเรา แล้วทำไมเขาจะไม่กล้า....”
“พี่ต่อรักเรามากกว่าเธอ
อลิส !” คราวนี้เป็นฝ่ายที่อลิสคิ้วขมวดไม่ชอบใจแทน
อารมณ์ภายในใจที่คิดว่าสงบนิ่งเริ่มคุกกรุ่นแทน ทั้ง ๆ
ที่เธอแค่อยากจะเตือนเท่านั้นเพราะนิสัยผู้ชายแก้ยากและอาจจะเป็นสันดานจนแก้ไม่ได้
ในเมื่อพี่ต่อกล้านอกใจเธอ เธอก็ไม่อยากให้แป้งตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับตัวเอง
ความหวังดีที่เธอมีให้กับคนที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกัน
กลับคิดว่าตัวเธอนั้นอิจฉากับความรักที่พี่ต่อมีให้ซะงั้น
บ้าไปแล้ว
!!
.
.
.
เดมอนวางสายจากเรย์หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จเรียบร้อย
เขาหลับตาลงพลางระงับอารมณ์หงุดหงิดที่ก่อตัวขึ้นก่อนหน้านี้ให้มันหายไป ก่อนจะหันหลังกลับเตรียมเข้าไปในร้านก็เห็นเธอกำลังนั่งคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้า
และนั่นทำให้เขาเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
เธอกำลังคุยกับใคร
?
เดมอนยืนนิ่งล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่นอกร้าน
สายตาจับจ้องมองผู้หญิงสองคนกำลังคุยกันบางอย่าง สีหน้าของเธอเหมือนจะไม่ค่อยพอใจ
ส่วนอีกคนก็เหมือนจะไม่พอใจเช่นกันแต่ให้ความรู้สึกมากกว่า
จนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นแล้วยกแก้วน้ำเปล่าสาดใส่ยู
และนั่นทำให้เขาทนไม่ไหวที่จะยืนนิ่งอยู่ข้างนอกอีกต่อไป
“เดมอน...”
อลิสสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นเดมอนเดิมตรงเข้ามาด้วยสีหน้าน่ากลัว
ท่าทางเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะหาเรื่องใครก็ได้ที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด ก่อนที่ตัวเธอจะถูกเดมอนดึงเข้าหาพร้อมกับเสื้อคลุมสีดำของเขามาคลุมร่างที่เปียกโชกให้อย่างรวดเร็ว
เธอเงยหน้าขึ้นมองเดมอนที่แผ่รังสีความน่ากลัวออกมา และตอนนี้กำลังจ้องไปที่แป้งที่กำลังสั่นด้วยความกลัว
เธอไม่อยากให้เดมอนอาละวาดภายในร้านอาหารนี้
แล้วก็รู้สึกไม่สบายใจที่ตอนนี้คนอื่น ๆ ในร้านต่างพากันมองด้วยความสนอกสนใจ
เธอเลยยื่นมือไปแตะแก้มของเดมอนเบา ๆ ทำให้เขาก้มลงมา
แววตาน่ากลัวเมื่อครู่จางหายไปเล็กน้อย แต่ก็เหลือร่องรอยความโกรธ
“กลับกันเถอะ
ฉันหนาว...” แขนที่โอบรอบเอวกระชับแน่นขึ้น เดมอนขมวดคิ้วไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักแต่ก็ยอมพาเธอกลับ
หลังจากที่จ่ายค่าอาหารเสร็จเรียบร้อย โดยที่เขาไม่ลืมที่จะปลายตามองแป้งเล็กน้อย
อย่างกับว่าจะหาทางเอาคืนให้กับเธอทีหลัง
นั่นทำให้เธออดรู้สึกกังวลถึงความปลอดภัยของแป้งขึ้นมา
ถึงแม้ว่าเธอคนนั้นจะเป็นคนเอาน้ำสาดใส่ตัวเองก็ตาม จริง ๆ ตัวเธอเองก็มีส่วนกระตุ้นให้แป้งแสดงอาการแบบนั้นออกอยู่นิดหน่อย
เพราะคำพูดที่ต่อว่าพี่ต่อทำให้แป้งฉุนขาดถึงได้ยกแก้วน้ำมาสาดใส่หน้าเธอจนเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำแบบนี้
อลิสพ่นลมหายใจร้อน
ๆ ของตัวเองออกมา รู้สึกเหนื่อยกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
แล้วก็อยากจะตัดความกังวลที่เกิดขึ้นออกไปให้หมด เธอไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวระหว่างพี่ต่อกับแป้งอีกแล้ว
จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ช่างแล้ว เธอจะไม่สนแล้วว่าสองคนนั้นจะไปคบกันแล้วรึเปล่า
เรื่องระหว่างเธอกับพี่ต่อมันจบลงแล้ว ส่วนเรื่องเธอกับแป้ง...
ตอนนี้แป้งคงไม่คิดว่าเธอเป็นเพื่อนแล้วแหละ
อลิสสะบัดหัวเล็กน้อย
เลิกคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้วถอดเสื้อคลุมของเดมอนออกหลังจากที่เข้ามาในห้องเพื่อมาเปลี่ยนเสื้อที่เปียก
แต่ในระหว่างที่เธอถอดเสื้อยืดออกเหลือเพียงชุดชั้นใน
เดมอนก็เข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตูให้เธอได้เตรียมตัวเลยสักนิด
“เดมอน
! นะ..นี่คุณเข้ามาทำไม !?” เธอร้องตกใจ
กระวนกระวายอยากจะใส่เสื้อในมือกลับ แต่เพราะมืออีกข้างยังใส่เฝือกอยู่
มันเลยลำบากและทุลักทะเลสุด ๆ สุดท้ายเธอก็ใช้เสื้อยืดบังหน้าอกของเธอ
แล้วก้าวถอยหลังหนีเดมอนที่เดินเข้ามา จนสุดท้ายเขาก็ต้อนเธอให้ติดผนัง
หมดหนทางหนีในที่สุด
เดมอนใช้มือข้างหนึ่งยันกับกำแพงเอาไว้
ก้มหน้าลงมาเล็กน้อย แต่ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อหัวใจของเธอได้เป็นอย่างดี
ลมหายใจร้อน ๆ ของเขากำลังทำให้เธอรู้สึกสั่นขึ้นมาและใกล้จะยืนไม่ไหว ครั้งนี้เขาดูเหมือนจะต้องการคำอธิบายจากปากของเธอ
และคงไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ หากยังไม่ได้รับคำตอบเท่าที่เขาต้องการจะรู้ตอนนี้
“บอกมาว่าผู้หญิงเมื่อกี้เป็นใคร”
“อะ...เออ”
“รู้จักกันใช่มั้ย”
“คะ ?”
“รวมทั้งผู้ชายในคลับเมื่อคืน...
ถูกมั้ย ?”
“..!”
“ว่าไงยู
ไม่ใช่สิ.. ต้อง ’อลิส’ สินะ”
“..!!”
อลิสตกใจกับการที่เดมอนรู้ชื่อจริงของเธอแล้ว
ดวงตาคมดุของเขามองมาที่เธอและมันทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมานิด ๆ
และเป็นฝ่ายหลบตาเขาโดยการก้มหน้าลง ตอนแรกเธอก็กะจะบอกอยู่แล้วว่าเธอรู้แล้วว่าตัวเองเป็นใครให้เขาฟัง
แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะรู้แล้วมาถามเธอตรง ๆ ชนิดที่เธอยังไม่ทันได้เตรียมตัวเลย
อาการตกใจของหญิงสาวตรงหน้า
อยู่ในสายตาของเดมอนทั้งหมด
นั่นทำให้ความมั่นใจของเขาเพิ่มมากขึ้นจนชัดเจนแล้วว่าความทรงจำของเธอกลับมาแล้วแต่ก็ไม่แน่ใจว่าตอนไหน
ก่อนหน้านี้ที่เขาออกไปรับโทรศัพท์ก็เพราะเรย์โทรมา มันบอกประวัติของเธอตามที่เขาขอให้มันไปช่วยสืบ
และทำให้เขารู้อะไรหลาย ๆ อย่างๆ เกี่ยวกับผู้หญิงตรงหน้า
รวมถึงเรื่องแฟนของเธอด้วย
และมันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
“ตอบสิ”
อลิสเม้มริมฝีปากยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาดุ
ๆ ของเดมอน ก่อนที่เธอจะตัดสินใจก้มหัวเอ่ยคำขอโทษอยู่หลายครั้ง
เธอคิดว่าสิ่งแรกที่เธอต้องทำคือการขอโทษเขาก่อนที่จะอธิบายเรื่องทั้งหมด
“ขอโทษนะคะ
ขอโทษจริง ๆ ที่ฉันเป็นภาระให้กับคุณ”
“...”
“คุณคิดถูก...
ที่ว่าฉันจำได้หมดแล้วว่าตัวเองเป็นใคร...”
“เมื่อไหร่
?”
“ตอน...
ตอนที่คุณพาไปที่คลับค่ะ อยู่ ๆ มันก็จำได้มาหมด”
“แล้วทำไมตอนที่ผู้ชายคนนั้นเข้ามาหา
คุณถึงปฏิเสธว่าไม่รู้จักล่ะ”
“คือ..
คือว่าฉัน...” คำถามนี้ดูเหมือนมันจะยากเกินไปที่จะตอบ
นั่นทำให้เดมอนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ
ก่อนหน้านี้มันถูกระงับเอาไว้แต่ก็ไม่ได้หายไปหมด แล้วตอนนี้ยิ่งถูกกระตุ้นเล็กน้อยเขาก็รู้สึกได้เลยว่าตัวเองเริ่มอารมณ์ไม่ดีขึ้นเรื่อย
ๆ
ทำไมวะ
! ทำไมเธอถึงไม่ยอมตอบสักที
“มันเป็นแฟนคุณจริง
ๆ ใช่มั้ย” ในเมื่อเธอไม่ยอมตอบคำถามของเขา
ดังนั้นเขาเลยถามกลับและนั่นทำให้อลิสเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาตกใจ
“เออ..
คือ..”
“ตอบสิ
!”
“ใช่ค่ะ...
ตะ..แต่ว่า”
อลิสสะดุ้งตกใจที่เดมอนตะคอกใส่เลยทำให้เธอรีบตอบโดยที่ยังไม่ทันได้เรียบเรียงคำพูดให้ดี
แต่ถึงจะเรียบเรียงไปก็ดูเหมือนว่าเดมอนจะไม่ยอมฟังอะไรอีกแล้ว เพราะเขาสะบัดหน้าหนีเธอแล้วหันหลังกลับเดินออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็ว
ทิ้งให้เธอกะพริบตาปริ่ม ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น
มองแผ่นหลังของเขาที่ถอยห่างออกไปเรื่อย ๆ ก่อนที่เธอจะได้สติรีบสวมเสื้อในมือตัวเองแล้วเดินตามเขาไปเพื่อให้เขาฟังคำตอบของเธอให้จบ
“นะ..นั่นคุณจะไปไหนคะ
?” ทันทีที่อลิสเดินออกมานอกห้อง
เธอก็เห็นเดมอนคว้ากุญแจรถไว้ในมือแล้วเดินออกจากห้องของเขาไปโดยที่ไม่ยอมพูดหรือตอบอะไรเธอเลยสักนิด
เพียงไม่นานภายในห้องก็เหลือเพียงแค่เธอคนเดียว แถมเดมอนยังทำให้เธอสับสนกับท่าทีที่เปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็วของเขาอีกต่างหาก
เกิดอะไรขึ้นกับเขา
ทำไมถึงโกรธเธอขึ้นมาล่ะ เขาโกรธที่เธอไม่ยอมบอกว่าตัวเองความจำกลับมาแล้วงั้นเหรอ
มันเลยทำให้เขามีภาระต้องคอยดูแลเธอตลอดเวลางั้นเหรอ ทำไมเธอไม่เห็นจะเข้าใจเลยอะ
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เขาก็แสดงท่าทีไม่ชอบใจตั้งนานแล้วสิ
อลิสยกมือมาเกาหัวตัวเอง
รู้สึกใจหวิว ๆ แปลก ๆ เมื่อต้องอยู่ในห้องคนเดียว เธอยังยืนอยู่ที่เดิม
สายตามองไปที่บานประตูไม่ยอมละไปไหน
นานหลายนาทีทีเดียวก่อนที่เธอจะเริ่มขยับตัวเข้าไปในห้อง เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยแล้วออกมาในชุดที่ออกไปข้างนอกได้
เธอตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกเป็นภาระให้กับเดมอน
โอกาสแบบนี้ถึงจะไม่เหมาะนักเพราะจากกันโดยที่ไม่เห็นหน้าแถมตอนนี้เขาก็เหมือนจะโกรธเธออยู่
แต่เธอก็เขียนจดหมายขอโทษเขาพร้อมกับขอบคุณทุก ๆ อย่างที่เขาทำให้กับเธอเรียบร้อยแล้ว
หวังว่าในตอนที่เขากลับมาคงหายโกรธเธอแล้วนะ
“ลาก่อนนะ
เดมอน”
อลิสเอ่ยคำลาเสียงแผ่วเบาแม้ว่าภายในห้องจะไม่มีใครเลยก็ตาม
ความทรงจำที่เกี่ยวกับเขารวมถึงความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นจะเก็บมันไว้อย่างดี
เธอจะไม่ลืมผู้ชายคนนี้เด็ดขาด
สัญญาเลยล่ะ
“เชี่ยเด
! มึงเป็นบ้าอะไรวะ !?”
เสียงโวยวายของซีเคดังแทบจะทันทีที่เดมอนมาถึงแล้วเตะกระป๋องเปล่าที่ขวางทางอัดใส่กำแพง
เขาแค่อยากระบายความหงุดหงิดออกมาเท่านั้น
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่พอทำให้เขารู้สึกสงบขึ้นมาสักนิด
หลังจากที่เขาพาตัวเองออกมาจากห้องก็ขับรถมาหาเพื่อนที่คลับ
ดีที่ซีเคมันอยู่คนเดียวไม่อย่างนั้นเขาคงระบายความหงุดหงิดไม่ได้เท่าไหร่
ส่วนสาเหตุว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ก็เพราะผู้หญิงที่อยู่ในห้องเขานั่นแหละ
ยู..ไม่สิ.. อลิสยอมรับว่าไอ้เวรเมื่อคืนนั่นเป็นแฟนของเธอเอง ซึ่งจริง ๆ
เขาก็รู้ก่อนแล้วจากปากเรย์แต่แค่อยากได้รับการยืนยันเท่านั้นเอง
แม่ง
! หงุดหงิดวะ !
“สรุปมึงเป็นไรเนี่ย”
“หงุดหงิด”
“เออ
ๆ กูรู้ว่ามึงหงุดหงิด แต่อะไรที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้ต่างหาก”
ซีเคขมวดคิ้วถามพลางเดินมานั่งโซฟาตรงกันข้ามที่เขานั่ง
เดมอนเอนตัวพิงหลังกับโซฟา เงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องพลางยกมือตัวเองมาปิดหน้าตัวเอง
ระงับความหงุดหงิดให้มันลดน้อยลงแต่ก็ช่วยไม่ได้มากเท่าไหร่นัก
“กูชอบคนมีเจ้าของวะ”
เขาตอบเพื่อนตัวเองไป
“มึงว่าไงนะ
?”
“กูบอกว่า
กูชอบคนที่มีเจ้าของ”
“นี่มึงเป็นชู้กับแฟนชาวบ้านเขาเหรอวะ”
“กูเปล่า
!”
เดมอนสบถใส่ไอ้เวรซีเคอย่างเหลืออดที่มาหลอกด่า
เขาพ่นลมหายใจร้อน ๆ ตัวเองออกมา เมื่อในที่สุดก็ยอมรับว่าตัวเองชอบผู้หญิงคนนั้นจริง
ๆ ถึงเขากับเธอจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ในความรู้สึกของเขามันบอกว่าเธอใช่
โคตรใช่เลย ทว่าพอรู้ว่าเธอมีเจ้าของทำเอาเขารวน แล้วอยากให้มันเป็นเรื่องโกหกสุด ๆ
เขาไม่อยากไปแย่งของใคร
แต่ก็ไม่อยากเสียของรักให้ใครด้วยเช่นกัน
หรือว่าครั้งนี้เขาควรจะไปแย่งเธอมานะ
ความคิดเลว
ๆ โผล่เข้ามาในหัวของเขาอย่างช่วยไม่ได้
ก่อนที่จะถูกระงับไว้เมื่อเขาเห็นอันนาเข้ามาในห้อง
แล้วเธอก็สมกับเป็นเพื่อนของเขาจริง ๆ เพราะทันทีที่เข้ามาเห็นเขาด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับล่ะมั้ง
เธอถึงได้ทัก
“เป็นไรอะ
มีเรื่องอะไรกันรึเปล่า”
“มี ไอ้นี่มันแอบไปเป็นชู้กับคนอื่นเขา”
เดมอนตวัดสายตาไปมองซีเค
ก่อนที่จะยันเท้าถีบเก้าอี้ที่มันนั่งลงล้มลงพลอยทำให้ร่างของมันล้มไปกับพื้นด้วยเช่นกัน
เสียงร้องครวญครางโอเวอร์ของมันดังจนน่าปวดหู ซึ่งอันนาก็ไม่ได้สนใจเพราะเธอเดินมาทางผมแล้วถามผมโคตรจะตรงประเด็น
“หมายถึงยูใช่มั้ย
?”
“อืม..”
“ก็ว่าแล้วเชียว
ฉันเห็นสายตาที่นายมองเธอแล้วมันใช่ แล้วทำไมถึงไม่สบายใจอะ นายไม่ได้จีบเธอเหรอ”
“เธอมีแฟนแล้ว
อีกอย่างเธอชื่ออลิส”
“อลิส
?”
อันนาขมวดคิ้วเล็กน้อย
และไม่นานเธอก็เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าทำไมเพื่อนของเธอทำหน้าบึ้งตึ้ง ดูหงุดหงิดสุด
ๆ แถมแผ่รังสีน่ากลัวไม่น่าเข้าใกล้รอบตัวอีกต่างหาก
“เธอไม่ต้องยุ่งหรอก
เรื่องนี้ฉันจัดการเอง”
เขาเอ่ยปากขัด
เมื่อเห็นอันนาอยากจะเข้ามาช่วย ขืนปล่อยให้เข้ามาช่วยมีหวังเรื่องราวได้แย่มากขึ้นกว่าเดิมแน่
ยิ่งฉายาของเธอเป็นตัวยุ่งชอบก่อความวุ่นวายเป็นอันดับหนึ่งด้วย เขาเห็นอันนาทำหน้าไม่พอใจนิด
ๆ แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยจนดึกดื่น
เขาก็เริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายอยากที่จะกลับห้องแต่อีกใจหนึ่งเขาก็ไม่รู้จะไปเผชิญหน้ากับอลิสยังไง
ก็เล่นเดินออกจากห้องโดยไม่ยอมพูดอะไรกับเธอเลยนี่
แต่ให้ทำไงได้ในตอนนั้นเขารู้สึกหงุดหงิดแล้วก็ไม่อยากระบายอารมณ์ใส่เธอด้วย
เดมอนยืนพิงกำแพงมองวงดนตรีของซีเคกำลังเล่นเพลงกันอย่างสนุกสนาน
ครั้งนี้เขาไม่ได้เข้าไปร่วมแจมด้วยเพราะไม่มีอารมณ์ และถึงมีอารมณ์เขาก็ไม่ได้อยากไปร้องเพลงมากนักหรอก
เขายกแก้วที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นดื่ม
ดีกรีของมันไม่ได้ทำให้มึนจนกลับบ้านไม่ได้ เพียงแค่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
เลือดในกายสูบฉีดเท่านั้น
และเพราะเขาเอาแต่ยืนนิ่งพิงกำแพงไม่มีสาวอยู่ข้างกาย
สาว ๆ หลายคนก็ชายตามองเขา
ก่อนที่จะมีหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาน่ารักอย่างกับตุ๊กตาเดินเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้มหวาน
“ไงคะ
? คุณสนใจมาดื่มด้วยกันมั้ย”
“...”
“ฉันเห็นคุณยืนอยู่ตรงนี่ตั้งนานแล้ว
คุณคงไม่ได้รอแฟนหรอกนะคะ”
“เปล่า...”
“งั้นมาดื่มด้วยกันนะ”
รอยยิ้มหวาน ๆ ของเธอถูกส่งมาให้อีกครั้ง พร้อมแขนที่เข้ามาควงแขนเขาอย่างแนบเนียน
ดึงเขาให้เดินไปที่โต๊ะกับเธอ เดมอนยอมเดินตามไปเงียบ ๆ จนในที่สุดก็มาหยุดที่โต๊ะตัวหนึ่ง
และนั่นทำให้เขาได้พบกับผู้หญิงอีกคน ซึ่งทำให้เขาขมวดคิ้วส่วนเธอคนนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจที่เห็นเขาปรากฏอยู่ตรงหน้า
นี่มันคนเดียวกับที่เอาน้ำสาดใส่อลิสนี่
“คุณชื่ออะไรเหรอ
ฉันมีนนะ”
เดมอนหันไปมองผู้หญิงข้างตัวที่เป็นคนลากเขามาอยู่ตรงนี้ก่อนจะยอมบอกชื่อตัวเองไปส่ง
ๆ เขายืนพูดคุยกับผู้หญิงที่ชื่อมีนสักพักก่อนจะขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำ
ระหว่างทางเข้าก็เห็นคู่รักกำลังจูบกันอย่างดูดดื่มและมันทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ก้มลงจูบอลิสขึ้นมา
รสชาติของเธอมันหวานจนเขารู้สึกติดใจอยากจะชิมมันครั้งแล้วครั้งเล่าแบบไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด
ถึงจะจูบเธอไปแค่ไม่กี่ครั้งก็เถอะ แต่เวลาที่เธอตอบสนองกลับมามันรู้สึกดีนะ
อาการกล้า ๆ กลัว ๆ บวกกับเสียงครางในลำคอของเธอมันชวนกระตุ้นอารมณ์ของเขาจริง ๆ
เดมอนผ่อนลมหายใจออกมา
กวักน้ำใส่หน้าตัวเองระงับความร้อนเมื่อสมองคิดอะไรเลยเถิดไปไกลจนต้องลากมันกลับมา
เขายกมือเช็ดกระจกที่เป็นฝ้าเผยให้เห็นใบหน้าของตัวเองที่มีหยดน้ำเกาะ
ยืนจ้องหน้าตัวเองในกระจกสักพักก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ เขาไม่ได้กลับไปหาโต๊ะของผู้หญิงกลุ่มนั้นแต่เดินออกจากคลับไปที่รถตัวเองแทน
หลังจากตัดสินใจพอกับค่ำคืนที่น่าเบื่อนี้สักที
เพราะสุดท้ายมันก็ไม่ได้ช่วยทำให้เขารู้สึกสงบเลยสักนิด กลับรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาแทนที่ทิ้งอลิสไว้ที่ห้องคนเดียว
วิธีเดียวที่จะทำให้เขารู้สึกสงบลงได้ก็คงต้องไปเคลียร์กับต้นเหตุให้รู้เรื่อง
ดังนั้นเขาเลยเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วมุ่งหน้าไปยังห้องชุดของตัวเอง
เดมอนผลักบานประตูกระจกของคอนโดเข้าไป
เดินตรงไปยังลิฟต์แต่ก่อนที่เขาจะถึงก็มีพนักงานคนหนึ่งเดินมายื่นคีย์การ์ดห้องให้พร้อมกับอธิบายด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“มีคนมาคืนคีย์การ์ดห้องให้กับคุณครับ”
“ใคร
?”
“ผู้หญิงที่มากับคุณครั้งล่าสุดน่ะครับ”
เดมอนขมวดคิ้ว
เผลอกำคีย์การ์ดในมือแน่น ก่อนจะรีบเข้าไปในลิฟต์กดชั้นที่ห้องตัวเองอยู่
ความกังวลที่ไม่อยากเกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกอยากไปถึงห้องตัวเองเร็ว ๆ
กระทั่งคิดว่าลิฟต์มันช้าผิดปกติกว่าจะถึงชั้นที่ตัวเองอยู่
เขารีบตรงไปที่ห้องตัวเองแตะคีย์การ์ดลงแล้วเปิดประตูเข้าไปแทบจะทันทีเมื่อมันปลดล็อกเรียบร้อย
ภายในห้องของเขามืดสนิท
ไม่มีไฟดวงไหนเปิด แล้วก็ไม่มีผู้หญิงคนนั้นเดินมาส่งยิ้มหวาน ๆ แล้วเอ่ยทักว่ากลับมาแล้วเหรอเลยสักนิด
มันเงียบสนิทเหมือนว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนี้มานานแล้ว เขาเอื้อมมือเปิดไฟห้องนอนที่ยกให้กับอลิส
แล้วก็พบแต่ความว่างเปล่า ของทุก ๆ อย่างที่มีอยู่ในห้องมันไม่ได้หายไปไหน
แต่เจ้าของห้องนี้กลับไม่อยู่ มันถึงได้ว่างเปล่า
“อลิส..”
เดมอนเอ่ยเรียกชื่อเธอ
ถึงแม้จะรู้ดีว่าเธอจะไม่ตอบกลับมา
เขาเดินไปหยุดหน้าโต๊ะโซฟาที่มีแผ่นกระดาษใบหนึ่งวางอยู่
ในนั้นมีข้อความยาวอยู่หลายบรรทัดถูกเขียนด้วยฝีมือของเธอ
เนื้อความในนั้นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกหายโกรธอย่างที่เธอเข้าใจเลยสักนิด
ใครบอกว่าเขาโกรธเธอกัน
แล้วไอ้คำขอบคุณมากมายเหล่านี้ทำไมเธอถึงไม่พูดต่อหน้าเขาล่ะ มาเขียนใส่กระดาษแบบนี้เขาไม่ซาบซึ้งเลยหรอกนะ
! แล้วอีกอย่างเขาเลิกคิดไปแล้วด้วยซ้ำว่าเธอเป็นภาระที่เขาลำบากใจที่จะดูแลน่ะ
ทำไมชอบคิดเองเออเองวะ
เรื่องที่น่าโมโหที่สุดคือ
เขายังไม่ได้ไล่ให้เธอออกไปจากที่นี้ด้วยซ้ำ !!
ความคิดเห็น