ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE ANGEL WITH U [ SF ]

    ลำดับตอนที่ #2 : (A) +ACCIDENT EP02 DAMON x ALICE [120%]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 63




    Accident

    EPISODE 02 Damon x Alice


                แสงแดดอ่อน ๆ ที่ผ่านบานกระจกใสตกกระทบลงบนใบหน้าของอลิสพอดิบพอดี ทำให้เธอรู้สึกตัว ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น กะพริบตาอยู่หลายครั้งเพื่อให้มองเห็นอะไร ๆ ให้ชัดเจน เธอขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงระบายลมหายใจตัวเองออกมาเบา ๆ ยกมือข้างที่ไม่ได้ใส่เฝือกขึ้นมาลูบหน้าตัวเองพลางมองรอบห้อง

                นี่เป็นห้องที่เธอมาอาศัยอยู่ในช่วงที่จำอะไรไม่ได้เลยเกือบเดือนแล้ว ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นฟอร์นิเจอร์ ตู้เสื้อผ้า และเตียงนอน แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือวันนี้มีคนมานอนข้าง ๆ เธอนี่สิ

    ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเมื่อคืนเธอนอนหลับไปพร้อมกับเขาด้วย

    อลิสก้มมองดูใบหน้าด้านข้างของเดมอนที่หันมาทางเธอ เขานอนคว่ำหน้า แขนข้างหนึ่งยังพาดหน้าท้องเธอไม่ยอมปล่อยตั้งแต่เมื่อคืน ท่อนบนของเขาเปลือยเปล่าเผยให้เห็นแผ่นหลังที่มีรอยสักรูปนกอินทรียิ่งทำให้ผู้ชายคนนี้ดูเท่มากขึ้นไปอีก เธอเม้มริมฝีปากตัวเองเบา ๆ เมื่อสายตาเจ้ากรรมมองไปที่ริมฝีปากแดงๆ ของเดมอนเข้า และมันทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวาน

    เดมอน... ผู้ชายคนนี้จูบริมฝีปากเธอ จูบเหมือนจะกลืนกินเธอไปทั้งร่าง แบบว่าถ้าเขายังไม่อิ่มหนำก็ไม่ยอมปล่อยริมฝีปากเธอให้เป็นอิสระง่าย ๆ แถมพอนึกถึงสัมผัสของเขาที่ทิ้งไว้ก็พลอยทำให้แก้มของเธอร้อนขึ้นมาจนเธอต้องละสายตาหนีจากริมฝีปากนั่น แถมปากเธอก็บวมจนน่าตลก แล้วก็ไม่ใช่ใครที่ไหนทำ นอกจากผู้ชายที่นอนหลับข้าง ๆ เธอนี้แหละ ดีนะที่ตอนกลับห้องเขาไม่ได้รุ่มร่ามทำอะไรให้น่าตกใจอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เดมอนก็ทำหน้ามึนเข้ามานอนในห้องของเธอจนได้

                “อืม... เช้าแล้วเหรอ”

                “อะ..อื้อ เช้าแล้วค่ะ”

                เดมอนพึมพำด้วยน้ำเสียงงัวเงียเล็กน้อย ยอมเอาแขนที่พาดร่างของเธอออกแล้วมาขยี้ตาตัวเอง ท่าทางว่าไม่อยากจะตื่นเท่าไหร่แต่ก็ยอมลุกขึ้นมานั่งตรงหน้าห่างจากเธอไปไม่มากนัก แถมตอนนี้เขาก็ไม่ได้ใส่เสื้ออีกพอแดดยามเช้าสาดเข้ามาในห้องกระทบร่างของเขา มันเลยดูเหมือนว่าเขากำลังถ่ายแบบอยู่เลย

                “มีอะไรรึเปล่า”

                เดมอนเลิกคิ้วถาม และนั่นทำให้เธอต้องส่ายหน้าหวือปฏิเสธอย่างรวดเร็วพร้อมกับก้มหน้าลงไม่กล้ามองเรือนร่างสวย ๆ ของเดมอนต่อ แค่เผลอมองไปแป็บเดียวก็ถูกเขาจับได้ซะแล้วสิ

                “หื้อ...แล้วทำไมหน้าแดง”

                เดมอนมองไปที่แก้มของยูที่ตอนนี้แดงระเรื่อให้เห็นได้อย่างชัดเจน เธอสะดุ้งแล้วรีบปฏิเสธทันทีแถมยังยกมือมาบังหน้าตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเห็นอยู่ดี เพราะมือข้างเดียวจะปิดแก้มแดงๆ ของเธอมิดได้ยังไงล่ะ ก่อนที่เธอจะรีบลุกออกจากเตียงวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เขาได้แต่มองพลางยกยิ้มนิดๆ

                เมื่อคืนเขาตีหน้ามึนมานอนหลับข้าง ๆ เธอ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงแสดงความต้องการไปอย่างนั้น แต่พอเขาได้นอนกอดร่างนุ่ม ๆ ของยู บวกกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างกายเธอมันช่วยทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายแล้วก็หลับได้ง่ายผิดปกติจนน่าแปลกใจ ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนหลับยากแต่เมื่อคืนเขาหลับสบายจริง ๆ แถมตื่นมาเจอหน้าตื่น ๆ กับแก้มแดง ๆ ของยูทำให้เขาอารมณ์ดีด้วย

                “อยากกินอะไรมั้ยเช้านี้”

                เดมอนเอ่ยถามหลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เดินตรงมานั่งใกล้เธอบนตักตัวเองก็เปิดโน้ตบุ๊ครอให้เครื่องรีบู๊ตพร้อมใช้งาน ก่อนที่เขาจะหันมามองใบหน้าของยูรอคอยคำตอบของเธอ

                “สปาเก็ตตี้...”

                “โอเค งั้นรอแป็บหนึ่ง ผมขอเช็คเมล์ก่อน”

                อลิสพยักหน้าเข้าใจ พลางรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่วันนี้เขาอารมณ์ดีจัง เพราะช่วงเช้าจะเป็นช่วงเวลาที่ผู้ชายคนนี้อารมณ์บูดบึ้งแล้วก็ไม่ยอมตื่นแต่เช้าง่าย ๆ ด้วย แต่วันนี้เขากลับตื่นเช้าพร้อมเธอแถมยังมานั่งเบียดเธออีกต่างหาก ทั้งที่โซฟาตั้งยาวมีพื้นที่ให้นั่งตั้งเยอะ เขากลับไม่นั่ง เจาะจงมานั่งใกล้เธอชัด ๆ

                “เอ๊ะ นั่นคุณนี่”

                อลิสหันไปมองหน้าจอโน้ตบุ๊คพอดี แล้วก็เห็นภาพถ่ายเดมอนที่กำลังร้องเพลงเมื่อคืน เขากดเลื่อนรูปภาพไปเรื่อย ๆ ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ที่มีตัวเองอยู่ในรูป เพราะตอนนี้เขาเข้าแฟนเพจวงไอ้เพื่อนบ้าที่ชอบลากเขาไปร้องเปิดวงให้มัน จริง ๆ เขาก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หรอกที่เป็นจุดเด่น

                “ดะ..เดี๋ยวนะคะ..”

                “...”

                “นะ...นั่นมัน!!

                เดมอนยกยิ้มที่มุมปากเมื่อเขากดไปดูภาพสุดท้าย และเมื่อภาพมันปรากฏคนข้างตัวของเขาก็ร้องตกใจทันที พูดตะกุกตะกักไม่เป็นคำออกมา และเพราะท่าทางของเธอทำให้เขาห้ามใจหัวเราะออกมาไม่ได้ พลางยกแขนข้างขวาโอบไหล่เธอ ออกแรงเล็กน้อยให้เธอขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีกหน่อย

                “ทำไม ? ตกใจอะไรหื้อ ?

                “ก็..ก็มัน.. ทำไม.. ทำไมถึงมีภาพนี้ได้ล่ะคะ !?

                อลิสกะพริบตาปริ่ม ๆ จ้องมองภาพนั้นด้วยความตกใจปนเขินอายไปด้วย ภาพที่เธอเห็นตรงหน้าคือภาพที่เดมอนก้มลงจูบเธออย่าง... อย่างดูดดื่ม อึก ! ถ้าพูดกันตามจริง ณ ขณะนั้นเธอก็มึน ๆ ไม่ได้สนอะไรรอบข้างแถมยังคล้อยตามเดมอนโดยไม่ได้ขัดขืนเลยสักนิด แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะดูดดื่มขนาดนั้น

                โอ้ยยยย ! แล้วเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

                “ในภาพเห็นหน้าคุณไม่ชัด ไม่ต้องกังวลหรอกน่า”

                “ตะ..แต่ว่า” ถึงมันจะจริงอย่างที่เขาพูดว่าเห็นหน้าเธอไม่ชัด ด้วยมุมที่ถ่ายและแสงไฟในตอนนั้นจึงเห็นใบหน้าของเดมอนซะส่วนใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เธอก็ยังอายอยู่ดีนี่ !

                “เลิกกังวลได้แล้วน่า”

                เดมอนหัวเราะเบา ๆ บีบจมูกของยูเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนที่เขาจะปิดเครื่อง ยกโน้ตบุ๊คในตักไปวางไว้บนโต๊ะด้านหน้า แล้วดึงให้ยูลุกขึ้นพาเธอไปร้านอาหารที่เขาไปเป็นประจำ พอมาถึงที่เขาก็จับมือยูเดินเข้าไปในร้าน กดไหล่ให้เธอนั่งลงแล้วสั่งอาหารให้ทั้งของเธอและตัวเองกับพนักงาน

                “เป็นไง อร่อยมั้ย ?

                “อื้อ ! อร่อยมากเลยล่ะ คุณลองชิมดูมั้ย” ด้วยความที่เธออยากให้เขาได้ชิมจริง ๆ จึงยื่นซ้อมที่มีสปาเก็ตตี้ที่พันไว้อย่างพอเหมาะพอดีคำไปให้ พลางส่งยิ้มกว้างให้เดมอนพยักเพยินให้เขาลอง 

    เดมอนมองดูรอยยิ้มสดใสที่ส่งมาให้อย่างจริงใจ เขามองเธอก่อนที่เขาจะขยับตัวเล็กน้อยง่ำปลายซ้อมแต่โดยดี

                “เป็นไง ๆ คุณว่าอร่อยดีใช่มั้ยล่ะ”

                เดมอนเคี้ยวเส้นสปาเก็ตตี้ไปพลางมองใบหน้าของยู ก่อนที่เขาจะยื่นนิ้วไปเช็ดมุมปากที่เปื้อนซอสสปาเก็ตตี้แล้วเลียซอสนั่นโดยที่สายตายังไม่ละไปจากใบหน้าของยูที่กำลังอึ้ง ๆ พลางจ้องลึกไปที่ดวงตากลมโตของเธอ

                “ใช่.. อร่อยมาก”

                 อลิสรู้ได้ทันทีเลยว่าหัวใจตัวเองเต้นเร็วผิดจังหวะ แก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าวเมื่อเดมอนจ้องเธอไม่วางตา แล้วไหนจะเหตุการณ์เมื่อกี้นี้อีก เธอต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้สายตาที่เขาส่งมา แกล้งทำเป็นดื่มน้ำทั้งที่เธอไม่อยาก แต่ตอนนี้เธอไม่รู้จะเอาตาไปมองไหนแล้ว ขืนเอาแต่จ้องเขากลับมีหวังได้ตกหลุมไปมากกว่านี้แน่

                แค่นี้เธอก็หาทางปีนขึ้นยากลำบากอยู่แล้ว

                เธอรู้ตัวดีเลยล่ะว่าตอนนี้เธอเริ่มคิดไม่ซื่อกับคนตรงหน้า มันเป็นความรู้สึกที่เธอก็บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน เธอได้มาอยู่กับเขาก็เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ได้คุ้นเคยกับนิสัยของเขา ได้เห็นถึงความเอาแต่ใจเล็ก ๆ รวมทั้งความเป็นผู้นำของผู้ชายคนนี้ ทุก ๆ อย่างของเขาอยู่ในสายตาของเธอหมด และมันคงไม่แปลกหรอกมั้งที่เธอจะคิดไม่ซื่อขึ้นมาน่ะ

                อลิสวางแก้วน้ำลง รวบช้อนส้อมหลังจากที่เธอทานจนหมดเรียบร้อย ก่อนที่จะเหลือบมองเดมอนที่ทานเสร็จไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้และกำลังมองมาที่เธอ

                “ขอบคุณนะคะ ที่คุณพามาทานร้านนี้ ขอบคุณจริง ๆ” เธอกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจและซาบซึ้งกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ เพราะถ้าเอาตามจริงแล้วผู้ชายคนนี้ช่วยเหลือเธอมากกว่าที่เธอคาดด้วยซ้ำ เขาดีต่อเธอเหลือเกินจนเธอไม่อยากจะเป็นภาระไปมากกว่านี้แล้ว แล้วก็ไม่อยากทำให้เขาลำบากใจถ้าหากเขารู้ว่าเธอคิดยังไงกับเขา

                “เออ... เดมอน”

    “ว่าไง?

    “มีเรื่องหนึ่งที่ฉันต้องบอก”

                “...”

                “คือว่าตอนนี้ฉัน... ฉันจำ...”

                อลิสจำเป็นต้องหยุดพูดไว้แค่นั้นเพราะเสียงเรียกเข้าสมาร์ทโฟนของเดมอนดังขึ้นมาซะก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร และนั่นทำให้เขาขอตัวไปรับสายด้านนอก อลิสมองตามแผ่นหลังกว้างของเดมอนที่เดินออกไปนอกร้าน บานกระจกใสในร้านทำให้เธอเห็นเขาได้ง่ายว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ก่อนที่เธอจะละสายตาจากเดมอน เสมองไปที่อื่นบ้าง แต่แล้วร่างของเธอก็แข็งทื่อเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นของใครคนหนึ่งเข้า

                “อะ..อลิส...”

    คนตรงหน้าเรียกชื่อจริง ๆ ของเธอด้วยน้ำเสียงตกใจ ในขณะที่อลิสเองก็ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอผู้หญิงคนนี้

    แป้ง... เพื่อนสนิทของเธอเองตั้งแต่มัธยมปลาย เพื่อนที่เธอไว้ใจและรักมากคนหนึ่ง แต่ก็ไม่นึกเลยว่าแป้งจะทำร้ายเธอ แอบไปมีความสัมพันธ์ลับหลังกับพี่ต่อ ถ้าหากวันนั้นเธอไม่ได้ตามพี่ต่อไป เธอก็คงกลายเป็นคนโง่ยอมโดนพวกเขาสวมเขาไปอีกนาน

                “ธะ..เธอหายไปไหนมาเป็นเดือน แล้วนั่น.. แขนเธอ”

                “เกิดเรื่องนิดหน่อย” เพราะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา เลยทำให้ใบหน้าของแป้งซีดลงอย่างเห็นได้ชัด

                “เรา.. เราขอนั่งด้วยได้มั้ย”

    อลิสมองใบหน้าซีด ๆ ของแป้งเล็กน้อยก่อนจะยอมพยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงอนุญาต

    “เธอยังโกรธเราอยู่มั้ย” คำถามแรกที่แป้งเอ่ยถามหลังจากที่นั่งลงทำเอาเธออดที่จะไม่ให้หัวเราะออกมาไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้กล้าถามมาได้ไงว่ายังโกรธอยู่รึเปล่า เรื่องที่เธอคนนี้ทำคิดว่ามันง่ายต่อการให้อภัยอย่างนั้นเหรอ

    “คือเรา... เราไม่ได้ตั้งใจ”

    “แต่เธอก็ทำไปแล้ว”

    “อลิส...”

    “...” อลิสพ่นลมหายใจออกมา เม้มริมฝีปากตัวเองก่อนที่จะพูดกับแป้ง

    “เธอน่าจะรู้ดีว่าเราเป็นคนยังไง การที่เธอไปยุ่งกับพี่ต่อแบบนั้นมันแสดงเจตนาอยู่แล้วว่าเธออยากได้พี่ต่อ”

    “...!!

    “เราสังเกตเห็นหลายครั้งแล้ว ตอนแรกเราคิดว่าเธอแค่ปลื้มพี่ต่อ แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้กับเรา”

    ใช่ว่าเธอเองจะไม่เคยสังเกตเห็น แต่เพราะเธอเชื่อใจเพื่อนคนนี้จึงไม่ได้คิดอะไรมาก และถึงเพื่อนคนอื่น ๆ จะเตือนหรือบอกเรื่องพี่ต่อกับแป้ง เธอในตอนนั้นก็ยังไม่ได้ใส่ใจจนสุดท้ายเธอก็ตัดสินใจพิสูจน์ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง จนกระทั่งเธอได้เห็นจะจะตา หลักฐานที่มัดตัวแน่นจนเธอแทบไม่เชื่อว่านั้นคือพี่ต่อกับแป้ง คนที่เธอรักและเชื่อใจมากที่สุด

    “เรารักพี่เขา อลิส..”

    “...”

    “เธอยกเขาให้เราได้มั้ย”

    คำสารภาพและคำขอร้องของแป้งทำให้อลิสตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่คาดคิดว่าแป้งจะพูดแบบนี้ออกมา เธอมองใบหน้าของแป้ง อดีตเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กำลังขอให้ยกพี่ต่อจากเธอ ถึงเธอจะยังไม่ได้พูดบอกเลิกพี่ต่ออย่างเป็นทางการ เพราะในขณะนั้นเธอช็อกแล้ววิ่งหนีออกมาเสียก่อน แต่ในความรู้สึก ณ ตอนนี้เธอตัดขาดกับพี่ต่อไปหมดแล้ว ความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้มันจางหายไปหมด ทว่า...

    “เราไม่ได้เป็นอะไรกับพี่ต่อแล้วแป้ง.. แต่ว่า...”

    “ทำไม? เธอหวงเหรอ” คิ้วสวย ๆ ของแป้งเลิกขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่บึ้งตึงให้เห็นทันที ทั้งที่ตอนแรกกำลังคลี่ยิ้มเตรียมจะเอ่ยปากของคุณเธอแล้วแต่พอเธอพูดคำว่า แต่ ออกมา ใบหน้ายิ้มของแป้งก็หายไปแทบจะทันที

    “เราไม่ได้หวง” อลิสปฏิเสธด้วยน้ำเสียงหนักแน่น รู้สึกไม่สบอารมณ์เหมือนกันที่ผู้หญิงคนนี้ยังคิดว่าเธอมีความรู้สึกดี ๆ กับผู้ชายที่กล้านอกใจเธออีก

    “เราแค่อยากจะเตือน พี่ต่อกล้านอกใจเรา แล้วทำไมเขาจะไม่กล้า....”

    “พี่ต่อรักเรามากกว่าเธอ อลิส !” คราวนี้เป็นฝ่ายที่อลิสคิ้วขมวดไม่ชอบใจแทน อารมณ์ภายในใจที่คิดว่าสงบนิ่งเริ่มคุกกรุ่นแทน ทั้ง ๆ ที่เธอแค่อยากจะเตือนเท่านั้นเพราะนิสัยผู้ชายแก้ยากและอาจจะเป็นสันดานจนแก้ไม่ได้ ในเมื่อพี่ต่อกล้านอกใจเธอ เธอก็ไม่อยากให้แป้งตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับตัวเอง

    ความหวังดีที่เธอมีให้กับคนที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกัน กลับคิดว่าตัวเธอนั้นอิจฉากับความรักที่พี่ต่อมีให้ซะงั้น

    บ้าไปแล้ว !!

    .

    .

    .

    เดมอนวางสายจากเรย์หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จเรียบร้อย เขาหลับตาลงพลางระงับอารมณ์หงุดหงิดที่ก่อตัวขึ้นก่อนหน้านี้ให้มันหายไป ก่อนจะหันหลังกลับเตรียมเข้าไปในร้านก็เห็นเธอกำลังนั่งคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้า และนั่นทำให้เขาเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ

    เธอกำลังคุยกับใคร ?

    เดมอนยืนนิ่งล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่นอกร้าน สายตาจับจ้องมองผู้หญิงสองคนกำลังคุยกันบางอย่าง สีหน้าของเธอเหมือนจะไม่ค่อยพอใจ ส่วนอีกคนก็เหมือนจะไม่พอใจเช่นกันแต่ให้ความรู้สึกมากกว่า จนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นแล้วยกแก้วน้ำเปล่าสาดใส่ยู

    และนั่นทำให้เขาทนไม่ไหวที่จะยืนนิ่งอยู่ข้างนอกอีกต่อไป

    “เดมอน...”

    อลิสสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นเดมอนเดิมตรงเข้ามาด้วยสีหน้าน่ากลัว ท่าทางเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะหาเรื่องใครก็ได้ที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด ก่อนที่ตัวเธอจะถูกเดมอนดึงเข้าหาพร้อมกับเสื้อคลุมสีดำของเขามาคลุมร่างที่เปียกโชกให้อย่างรวดเร็ว เธอเงยหน้าขึ้นมองเดมอนที่แผ่รังสีความน่ากลัวออกมา และตอนนี้กำลังจ้องไปที่แป้งที่กำลังสั่นด้วยความกลัว

    เธอไม่อยากให้เดมอนอาละวาดภายในร้านอาหารนี้ แล้วก็รู้สึกไม่สบายใจที่ตอนนี้คนอื่น ๆ ในร้านต่างพากันมองด้วยความสนอกสนใจ เธอเลยยื่นมือไปแตะแก้มของเดมอนเบา ๆ ทำให้เขาก้มลงมา แววตาน่ากลัวเมื่อครู่จางหายไปเล็กน้อย แต่ก็เหลือร่องรอยความโกรธ

    “กลับกันเถอะ ฉันหนาว...” แขนที่โอบรอบเอวกระชับแน่นขึ้น เดมอนขมวดคิ้วไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักแต่ก็ยอมพาเธอกลับ หลังจากที่จ่ายค่าอาหารเสร็จเรียบร้อย โดยที่เขาไม่ลืมที่จะปลายตามองแป้งเล็กน้อย อย่างกับว่าจะหาทางเอาคืนให้กับเธอทีหลัง นั่นทำให้เธออดรู้สึกกังวลถึงความปลอดภัยของแป้งขึ้นมา ถึงแม้ว่าเธอคนนั้นจะเป็นคนเอาน้ำสาดใส่ตัวเองก็ตาม จริง ๆ ตัวเธอเองก็มีส่วนกระตุ้นให้แป้งแสดงอาการแบบนั้นออกอยู่นิดหน่อย เพราะคำพูดที่ต่อว่าพี่ต่อทำให้แป้งฉุนขาดถึงได้ยกแก้วน้ำมาสาดใส่หน้าเธอจนเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำแบบนี้

    อลิสพ่นลมหายใจร้อน ๆ ของตัวเองออกมา รู้สึกเหนื่อยกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แล้วก็อยากจะตัดความกังวลที่เกิดขึ้นออกไปให้หมด เธอไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวระหว่างพี่ต่อกับแป้งอีกแล้ว จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ช่างแล้ว เธอจะไม่สนแล้วว่าสองคนนั้นจะไปคบกันแล้วรึเปล่า เรื่องระหว่างเธอกับพี่ต่อมันจบลงแล้ว ส่วนเรื่องเธอกับแป้ง... ตอนนี้แป้งคงไม่คิดว่าเธอเป็นเพื่อนแล้วแหละ

    อลิสสะบัดหัวเล็กน้อย เลิกคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้วถอดเสื้อคลุมของเดมอนออกหลังจากที่เข้ามาในห้องเพื่อมาเปลี่ยนเสื้อที่เปียก แต่ในระหว่างที่เธอถอดเสื้อยืดออกเหลือเพียงชุดชั้นใน เดมอนก็เข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตูให้เธอได้เตรียมตัวเลยสักนิด

    “เดมอน ! นะ..นี่คุณเข้ามาทำไม !?” เธอร้องตกใจ กระวนกระวายอยากจะใส่เสื้อในมือกลับ แต่เพราะมืออีกข้างยังใส่เฝือกอยู่ มันเลยลำบากและทุลักทะเลสุด ๆ สุดท้ายเธอก็ใช้เสื้อยืดบังหน้าอกของเธอ แล้วก้าวถอยหลังหนีเดมอนที่เดินเข้ามา จนสุดท้ายเขาก็ต้อนเธอให้ติดผนัง หมดหนทางหนีในที่สุด

    เดมอนใช้มือข้างหนึ่งยันกับกำแพงเอาไว้ ก้มหน้าลงมาเล็กน้อย แต่ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อหัวใจของเธอได้เป็นอย่างดี ลมหายใจร้อน ๆ ของเขากำลังทำให้เธอรู้สึกสั่นขึ้นมาและใกล้จะยืนไม่ไหว ครั้งนี้เขาดูเหมือนจะต้องการคำอธิบายจากปากของเธอ และคงไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ หากยังไม่ได้รับคำตอบเท่าที่เขาต้องการจะรู้ตอนนี้

    “บอกมาว่าผู้หญิงเมื่อกี้เป็นใคร”

    “อะ...เออ”

    “รู้จักกันใช่มั้ย”

    “คะ ?

    “รวมทั้งผู้ชายในคลับเมื่อคืน... ถูกมั้ย ?

    “..!

    “ว่าไงยู ไม่ใช่สิ.. ต้องอลิสสินะ”

    “..!!

    อลิสตกใจกับการที่เดมอนรู้ชื่อจริงของเธอแล้ว ดวงตาคมดุของเขามองมาที่เธอและมันทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมานิด ๆ และเป็นฝ่ายหลบตาเขาโดยการก้มหน้าลง ตอนแรกเธอก็กะจะบอกอยู่แล้วว่าเธอรู้แล้วว่าตัวเองเป็นใครให้เขาฟัง แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะรู้แล้วมาถามเธอตรง ๆ ชนิดที่เธอยังไม่ทันได้เตรียมตัวเลย

    อาการตกใจของหญิงสาวตรงหน้า อยู่ในสายตาของเดมอนทั้งหมด นั่นทำให้ความมั่นใจของเขาเพิ่มมากขึ้นจนชัดเจนแล้วว่าความทรงจำของเธอกลับมาแล้วแต่ก็ไม่แน่ใจว่าตอนไหน ก่อนหน้านี้ที่เขาออกไปรับโทรศัพท์ก็เพราะเรย์โทรมา มันบอกประวัติของเธอตามที่เขาขอให้มันไปช่วยสืบ และทำให้เขารู้อะไรหลาย ๆ อย่างๆ  เกี่ยวกับผู้หญิงตรงหน้า รวมถึงเรื่องแฟนของเธอด้วย

    และมันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

    “ตอบสิ”

    อลิสเม้มริมฝีปากยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาดุ ๆ ของเดมอน ก่อนที่เธอจะตัดสินใจก้มหัวเอ่ยคำขอโทษอยู่หลายครั้ง เธอคิดว่าสิ่งแรกที่เธอต้องทำคือการขอโทษเขาก่อนที่จะอธิบายเรื่องทั้งหมด

    “ขอโทษนะคะ ขอโทษจริง ๆ ที่ฉันเป็นภาระให้กับคุณ”

    “...”

    “คุณคิดถูก... ที่ว่าฉันจำได้หมดแล้วว่าตัวเองเป็นใคร...”

    “เมื่อไหร่ ?

    “ตอน... ตอนที่คุณพาไปที่คลับค่ะ อยู่ ๆ มันก็จำได้มาหมด”

    “แล้วทำไมตอนที่ผู้ชายคนนั้นเข้ามาหา คุณถึงปฏิเสธว่าไม่รู้จักล่ะ”

    “คือ.. คือว่าฉัน...” คำถามนี้ดูเหมือนมันจะยากเกินไปที่จะตอบ นั่นทำให้เดมอนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ ก่อนหน้านี้มันถูกระงับเอาไว้แต่ก็ไม่ได้หายไปหมด แล้วตอนนี้ยิ่งถูกกระตุ้นเล็กน้อยเขาก็รู้สึกได้เลยว่าตัวเองเริ่มอารมณ์ไม่ดีขึ้นเรื่อย ๆ

    ทำไมวะ ! ทำไมเธอถึงไม่ยอมตอบสักที

    “มันเป็นแฟนคุณจริง ๆ ใช่มั้ย” ในเมื่อเธอไม่ยอมตอบคำถามของเขา ดังนั้นเขาเลยถามกลับและนั่นทำให้อลิสเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาตกใจ

    “เออ.. คือ..”

    “ตอบสิ !

    “ใช่ค่ะ... ตะ..แต่ว่า”

    อลิสสะดุ้งตกใจที่เดมอนตะคอกใส่เลยทำให้เธอรีบตอบโดยที่ยังไม่ทันได้เรียบเรียงคำพูดให้ดี แต่ถึงจะเรียบเรียงไปก็ดูเหมือนว่าเดมอนจะไม่ยอมฟังอะไรอีกแล้ว เพราะเขาสะบัดหน้าหนีเธอแล้วหันหลังกลับเดินออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธอกะพริบตาปริ่ม ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น มองแผ่นหลังของเขาที่ถอยห่างออกไปเรื่อย ๆ ก่อนที่เธอจะได้สติรีบสวมเสื้อในมือตัวเองแล้วเดินตามเขาไปเพื่อให้เขาฟังคำตอบของเธอให้จบ

    “นะ..นั่นคุณจะไปไหนคะ ?” ทันทีที่อลิสเดินออกมานอกห้อง เธอก็เห็นเดมอนคว้ากุญแจรถไว้ในมือแล้วเดินออกจากห้องของเขาไปโดยที่ไม่ยอมพูดหรือตอบอะไรเธอเลยสักนิด เพียงไม่นานภายในห้องก็เหลือเพียงแค่เธอคนเดียว แถมเดมอนยังทำให้เธอสับสนกับท่าทีที่เปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็วของเขาอีกต่างหาก

    เกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำไมถึงโกรธเธอขึ้นมาล่ะ เขาโกรธที่เธอไม่ยอมบอกว่าตัวเองความจำกลับมาแล้วงั้นเหรอ มันเลยทำให้เขามีภาระต้องคอยดูแลเธอตลอดเวลางั้นเหรอ ทำไมเธอไม่เห็นจะเข้าใจเลยอะ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เขาก็แสดงท่าทีไม่ชอบใจตั้งนานแล้วสิ

    อลิสยกมือมาเกาหัวตัวเอง รู้สึกใจหวิว ๆ แปลก ๆ เมื่อต้องอยู่ในห้องคนเดียว เธอยังยืนอยู่ที่เดิม สายตามองไปที่บานประตูไม่ยอมละไปไหน นานหลายนาทีทีเดียวก่อนที่เธอจะเริ่มขยับตัวเข้าไปในห้อง เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยแล้วออกมาในชุดที่ออกไปข้างนอกได้

    เธอตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกเป็นภาระให้กับเดมอน โอกาสแบบนี้ถึงจะไม่เหมาะนักเพราะจากกันโดยที่ไม่เห็นหน้าแถมตอนนี้เขาก็เหมือนจะโกรธเธออยู่ แต่เธอก็เขียนจดหมายขอโทษเขาพร้อมกับขอบคุณทุก ๆ อย่างที่เขาทำให้กับเธอเรียบร้อยแล้ว หวังว่าในตอนที่เขากลับมาคงหายโกรธเธอแล้วนะ

    “ลาก่อนนะ เดมอน”

    อลิสเอ่ยคำลาเสียงแผ่วเบาแม้ว่าภายในห้องจะไม่มีใครเลยก็ตาม ความทรงจำที่เกี่ยวกับเขารวมถึงความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นจะเก็บมันไว้อย่างดี เธอจะไม่ลืมผู้ชายคนนี้เด็ดขาด

    สัญญาเลยล่ะ

     

    “เชี่ยเด ! มึงเป็นบ้าอะไรวะ !?

    เสียงโวยวายของซีเคดังแทบจะทันทีที่เดมอนมาถึงแล้วเตะกระป๋องเปล่าที่ขวางทางอัดใส่กำแพง เขาแค่อยากระบายความหงุดหงิดออกมาเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่พอทำให้เขารู้สึกสงบขึ้นมาสักนิด

    หลังจากที่เขาพาตัวเองออกมาจากห้องก็ขับรถมาหาเพื่อนที่คลับ ดีที่ซีเคมันอยู่คนเดียวไม่อย่างนั้นเขาคงระบายความหงุดหงิดไม่ได้เท่าไหร่ ส่วนสาเหตุว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ก็เพราะผู้หญิงที่อยู่ในห้องเขานั่นแหละ ยู..ไม่สิ.. อลิสยอมรับว่าไอ้เวรเมื่อคืนนั่นเป็นแฟนของเธอเอง ซึ่งจริง ๆ เขาก็รู้ก่อนแล้วจากปากเรย์แต่แค่อยากได้รับการยืนยันเท่านั้นเอง

    แม่ง ! หงุดหงิดวะ !

    “สรุปมึงเป็นไรเนี่ย”

    “หงุดหงิด”

    “เออ ๆ กูรู้ว่ามึงหงุดหงิด แต่อะไรที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้ต่างหาก”

    ซีเคขมวดคิ้วถามพลางเดินมานั่งโซฟาตรงกันข้ามที่เขานั่ง เดมอนเอนตัวพิงหลังกับโซฟา เงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องพลางยกมือตัวเองมาปิดหน้าตัวเอง ระงับความหงุดหงิดให้มันลดน้อยลงแต่ก็ช่วยไม่ได้มากเท่าไหร่นัก

    “กูชอบคนมีเจ้าของวะ” เขาตอบเพื่อนตัวเองไป

    “มึงว่าไงนะ ?

    “กูบอกว่า กูชอบคนที่มีเจ้าของ”

    “นี่มึงเป็นชู้กับแฟนชาวบ้านเขาเหรอวะ”

    “กูเปล่า !

    เดมอนสบถใส่ไอ้เวรซีเคอย่างเหลืออดที่มาหลอกด่า เขาพ่นลมหายใจร้อน ๆ ตัวเองออกมา เมื่อในที่สุดก็ยอมรับว่าตัวเองชอบผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ ถึงเขากับเธอจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ในความรู้สึกของเขามันบอกว่าเธอใช่ โคตรใช่เลย ทว่าพอรู้ว่าเธอมีเจ้าของทำเอาเขารวน แล้วอยากให้มันเป็นเรื่องโกหกสุด ๆ

    เขาไม่อยากไปแย่งของใคร แต่ก็ไม่อยากเสียของรักให้ใครด้วยเช่นกัน

    หรือว่าครั้งนี้เขาควรจะไปแย่งเธอมานะ

    ความคิดเลว ๆ โผล่เข้ามาในหัวของเขาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่จะถูกระงับไว้เมื่อเขาเห็นอันนาเข้ามาในห้อง แล้วเธอก็สมกับเป็นเพื่อนของเขาจริง ๆ เพราะทันทีที่เข้ามาเห็นเขาด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับล่ะมั้ง เธอถึงได้ทัก

    “เป็นไรอะ มีเรื่องอะไรกันรึเปล่า”

    “มี ไอ้นี่มันแอบไปเป็นชู้กับคนอื่นเขา”

    เดมอนตวัดสายตาไปมองซีเค ก่อนที่จะยันเท้าถีบเก้าอี้ที่มันนั่งลงล้มลงพลอยทำให้ร่างของมันล้มไปกับพื้นด้วยเช่นกัน เสียงร้องครวญครางโอเวอร์ของมันดังจนน่าปวดหู ซึ่งอันนาก็ไม่ได้สนใจเพราะเธอเดินมาทางผมแล้วถามผมโคตรจะตรงประเด็น

    “หมายถึงยูใช่มั้ย ?

    “อืม..”

    “ก็ว่าแล้วเชียว ฉันเห็นสายตาที่นายมองเธอแล้วมันใช่ แล้วทำไมถึงไม่สบายใจอะ นายไม่ได้จีบเธอเหรอ”

    “เธอมีแฟนแล้ว อีกอย่างเธอชื่ออลิส”

    “อลิส ?

    อันนาขมวดคิ้วเล็กน้อย และไม่นานเธอก็เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าทำไมเพื่อนของเธอทำหน้าบึ้งตึ้ง ดูหงุดหงิดสุด ๆ แถมแผ่รังสีน่ากลัวไม่น่าเข้าใกล้รอบตัวอีกต่างหาก

    “เธอไม่ต้องยุ่งหรอก เรื่องนี้ฉันจัดการเอง”

    เขาเอ่ยปากขัด เมื่อเห็นอันนาอยากจะเข้ามาช่วย ขืนปล่อยให้เข้ามาช่วยมีหวังเรื่องราวได้แย่มากขึ้นกว่าเดิมแน่ ยิ่งฉายาของเธอเป็นตัวยุ่งชอบก่อความวุ่นวายเป็นอันดับหนึ่งด้วย เขาเห็นอันนาทำหน้าไม่พอใจนิด ๆ แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ

    จนกระทั่งเวลาล่วงเลยจนดึกดื่น เขาก็เริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายอยากที่จะกลับห้องแต่อีกใจหนึ่งเขาก็ไม่รู้จะไปเผชิญหน้ากับอลิสยังไง ก็เล่นเดินออกจากห้องโดยไม่ยอมพูดอะไรกับเธอเลยนี่ แต่ให้ทำไงได้ในตอนนั้นเขารู้สึกหงุดหงิดแล้วก็ไม่อยากระบายอารมณ์ใส่เธอด้วย

    เดมอนยืนพิงกำแพงมองวงดนตรีของซีเคกำลังเล่นเพลงกันอย่างสนุกสนาน ครั้งนี้เขาไม่ได้เข้าไปร่วมแจมด้วยเพราะไม่มีอารมณ์ และถึงมีอารมณ์เขาก็ไม่ได้อยากไปร้องเพลงมากนักหรอก เขายกแก้วที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นดื่ม ดีกรีของมันไม่ได้ทำให้มึนจนกลับบ้านไม่ได้ เพียงแค่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า เลือดในกายสูบฉีดเท่านั้น

    และเพราะเขาเอาแต่ยืนนิ่งพิงกำแพงไม่มีสาวอยู่ข้างกาย สาว ๆ หลายคนก็ชายตามองเขา ก่อนที่จะมีหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาน่ารักอย่างกับตุ๊กตาเดินเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้มหวาน

    “ไงคะ ? คุณสนใจมาดื่มด้วยกันมั้ย”

    “...”

    “ฉันเห็นคุณยืนอยู่ตรงนี่ตั้งนานแล้ว คุณคงไม่ได้รอแฟนหรอกนะคะ”

    “เปล่า...”

    “งั้นมาดื่มด้วยกันนะ” รอยยิ้มหวาน ๆ ของเธอถูกส่งมาให้อีกครั้ง พร้อมแขนที่เข้ามาควงแขนเขาอย่างแนบเนียน ดึงเขาให้เดินไปที่โต๊ะกับเธอ เดมอนยอมเดินตามไปเงียบ ๆ จนในที่สุดก็มาหยุดที่โต๊ะตัวหนึ่ง และนั่นทำให้เขาได้พบกับผู้หญิงอีกคน ซึ่งทำให้เขาขมวดคิ้วส่วนเธอคนนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจที่เห็นเขาปรากฏอยู่ตรงหน้า

    นี่มันคนเดียวกับที่เอาน้ำสาดใส่อลิสนี่

    “คุณชื่ออะไรเหรอ ฉันมีนนะ”

    เดมอนหันไปมองผู้หญิงข้างตัวที่เป็นคนลากเขามาอยู่ตรงนี้ก่อนจะยอมบอกชื่อตัวเองไปส่ง ๆ เขายืนพูดคุยกับผู้หญิงที่ชื่อมีนสักพักก่อนจะขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางเข้าก็เห็นคู่รักกำลังจูบกันอย่างดูดดื่มและมันทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ก้มลงจูบอลิสขึ้นมา รสชาติของเธอมันหวานจนเขารู้สึกติดใจอยากจะชิมมันครั้งแล้วครั้งเล่าแบบไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด ถึงจะจูบเธอไปแค่ไม่กี่ครั้งก็เถอะ แต่เวลาที่เธอตอบสนองกลับมามันรู้สึกดีนะ อาการกล้า ๆ กลัว ๆ บวกกับเสียงครางในลำคอของเธอมันชวนกระตุ้นอารมณ์ของเขาจริง ๆ

    เดมอนผ่อนลมหายใจออกมา กวักน้ำใส่หน้าตัวเองระงับความร้อนเมื่อสมองคิดอะไรเลยเถิดไปไกลจนต้องลากมันกลับมา เขายกมือเช็ดกระจกที่เป็นฝ้าเผยให้เห็นใบหน้าของตัวเองที่มีหยดน้ำเกาะ ยืนจ้องหน้าตัวเองในกระจกสักพักก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ เขาไม่ได้กลับไปหาโต๊ะของผู้หญิงกลุ่มนั้นแต่เดินออกจากคลับไปที่รถตัวเองแทน หลังจากตัดสินใจพอกับค่ำคืนที่น่าเบื่อนี้สักที เพราะสุดท้ายมันก็ไม่ได้ช่วยทำให้เขารู้สึกสงบเลยสักนิด กลับรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาแทนที่ทิ้งอลิสไว้ที่ห้องคนเดียว วิธีเดียวที่จะทำให้เขารู้สึกสงบลงได้ก็คงต้องไปเคลียร์กับต้นเหตุให้รู้เรื่อง ดังนั้นเขาเลยเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วมุ่งหน้าไปยังห้องชุดของตัวเอง

    เดมอนผลักบานประตูกระจกของคอนโดเข้าไป เดินตรงไปยังลิฟต์แต่ก่อนที่เขาจะถึงก็มีพนักงานคนหนึ่งเดินมายื่นคีย์การ์ดห้องให้พร้อมกับอธิบายด้วยน้ำเสียงสุภาพ

    “มีคนมาคืนคีย์การ์ดห้องให้กับคุณครับ”

    “ใคร ?

    “ผู้หญิงที่มากับคุณครั้งล่าสุดน่ะครับ”

    เดมอนขมวดคิ้ว เผลอกำคีย์การ์ดในมือแน่น ก่อนจะรีบเข้าไปในลิฟต์กดชั้นที่ห้องตัวเองอยู่ ความกังวลที่ไม่อยากเกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกอยากไปถึงห้องตัวเองเร็ว ๆ กระทั่งคิดว่าลิฟต์มันช้าผิดปกติกว่าจะถึงชั้นที่ตัวเองอยู่ เขารีบตรงไปที่ห้องตัวเองแตะคีย์การ์ดลงแล้วเปิดประตูเข้าไปแทบจะทันทีเมื่อมันปลดล็อกเรียบร้อย

    ภายในห้องของเขามืดสนิท ไม่มีไฟดวงไหนเปิด แล้วก็ไม่มีผู้หญิงคนนั้นเดินมาส่งยิ้มหวาน ๆ แล้วเอ่ยทักว่ากลับมาแล้วเหรอเลยสักนิด มันเงียบสนิทเหมือนว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนี้มานานแล้ว เขาเอื้อมมือเปิดไฟห้องนอนที่ยกให้กับอลิส แล้วก็พบแต่ความว่างเปล่า ของทุก ๆ อย่างที่มีอยู่ในห้องมันไม่ได้หายไปไหน แต่เจ้าของห้องนี้กลับไม่อยู่ มันถึงได้ว่างเปล่า

    “อลิส..”

    เดมอนเอ่ยเรียกชื่อเธอ ถึงแม้จะรู้ดีว่าเธอจะไม่ตอบกลับมา เขาเดินไปหยุดหน้าโต๊ะโซฟาที่มีแผ่นกระดาษใบหนึ่งวางอยู่ ในนั้นมีข้อความยาวอยู่หลายบรรทัดถูกเขียนด้วยฝีมือของเธอ เนื้อความในนั้นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกหายโกรธอย่างที่เธอเข้าใจเลยสักนิด

    ใครบอกว่าเขาโกรธเธอกัน แล้วไอ้คำขอบคุณมากมายเหล่านี้ทำไมเธอถึงไม่พูดต่อหน้าเขาล่ะ มาเขียนใส่กระดาษแบบนี้เขาไม่ซาบซึ้งเลยหรอกนะ ! แล้วอีกอย่างเขาเลิกคิดไปแล้วด้วยซ้ำว่าเธอเป็นภาระที่เขาลำบากใจที่จะดูแลน่ะ ทำไมชอบคิดเองเออเองวะ

    เรื่องที่น่าโมโหที่สุดคือ เขายังไม่ได้ไล่ให้เธอออกไปจากที่นี้ด้วยซ้ำ !!


     



    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×