ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chu!! จุ๊ๆ อย่าบอกใครว่าเรารักกัน

    ลำดับตอนที่ #3 : ๓ : Chapter1 ฉันชื่อ เมษา[100%]

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.พ. 54


    Thx : Loma_ p

    Chapter 1 เมษา

                    ปังๆ!!

                    เสียงเคาะประตูดังกระหึ่มทั่วห้องนอนฉันเป็นเวลาครู่ใหญ่แล้ว เสียงของมันทำฉันอารมณ์เสียเป็นการใหญ่ ฉันเดินกระแทกเท้ามาที่หน้าประตูและเปิดมันออก ทำลายเวลานอนของฉันชะมัดเลย

                    “ตื่นเดี๋ยวนี้นะนังบ้า นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วหา” ยัยมีนานพี่สาวฝาแฝดเป็นคนปลุกจากนิทราของฉัน

                    “กี่โมงแล้วเหรอ เจ๊ก็ดูนาฬิกาสิ ยากอะไร เมาษาไปนอนละ ฝันดีอรุณสวัสดิ์” ฉันพูดพร้อมกับเดินเข้าห้อง ไม่กี่ก้าวพี่สาวฝาแฝดที่หน้าตาสุดทุเรศ(ได้ข่าวว่าเธอสองคนเป็นฝาแฝดกันนะ-*-) ก็ดึงแขนฉันให้หันกลับไป

                    “นี่มันสิบเอ็ดโมงแล้วโอเคมั้ยยัยขี้เทรา แล้ววันนี้เธอก็มีเรียนคลาสเดียวกันกับฉันตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง ถ้าเธอไม่ไปมีหวังเกรดเทอมนี้เธออาจไม่ออก ทีนี้เธอจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวได้รึยัง”

                    “อ่าวหรอ โอเคๆ ฉันจะรีบอาบน้ำ”

                    “เธอควรจะแปรงฟันด้วยนะ ปากเหม็นชะมัดเลย อี๋”

                    “...” ฉันไม่ได้ตอบอะไรแต่ปิดประตูใส่หน้าพี่สาวแรงๆ ทีนึง นังบ้า มาว่าฉันปากเหม็นเรอะ กะ...ก็คนเพิ่งตื่นนอนนี่นา!!

     

                    ฉันนั่งอยู่บนรถมินิคูเปอร์สีแดงดำของเจ๊มีนา มันแล่นด้วยความเร็วสูงก่อนที่จะหยุดนิ่งที่ลานจอดรถหน้าคณะ และพวกเราทั้งสองย่างก้าวเข้าตึกคณะท่ามกลางผู้คนมากมายที่จับจ้องมาทางฉัน ก็มันแน่อยู่แล้ว ฉันมีพี่สาวเป็นถึงดาวของคณะเชียวนะ

                    “โอ๊ะ! ขอทะ... เฮ้ยยัยโรคจิตที่มาขอเสื้อกล้ามฉันวันนั้นนี่”

                    “เออใช่ ฉันนี่แหละที่ขอเสื้อกล้ามนาย ทำไม นายเดินมาชนฉันนายต้องขอโทษสิ และทำไมนายพูดชัดขึ้นล่ะ”

                    “ฉันไม่ขอโทษคนโรคจิตแบบเธอหรอก ฝันไปเถอะ” เขาพูดและเดินไปจากฉัน

     

                    ย้อนไปเหตุการณ์เมื่อวาน

                    ฉันเล่นคิงกับกลุ่มเพื่อนในคณะ ซึ่งฉันเป็นคนถูกรับใช้คิง  แล้วคนที่เป็นคิงก็ไม่ใช่ใครอื่น เจ๊ขอฉันนั่นเอง

                    ฉันขอสั่งให้แกไปขอเสื้อกล้ามผู้ชายนนั้นเจ๊มีนาพูดพลางใช้นิ้วชี้ไปยังผู้ชายหน้าตาดีระดับหนึ่ง

                    เจ๊จะบ้ารึไง คนรู้จักก็ไม่ใช่นะเจ๊ฉันพูดเสียงแหลม

                    แกก็ไปทำความรู้จักแล้วขอเสื้อกล้ามเค้ามาสิพูดง่ายเชียว

                    ฉันเลยเดินไปยังผู้ชายหน้าตาดีคนนั้น

                    สะ...สวัสดีค่ะ ฉันเมษา คะ..คุณชื่ออะไรคะฉันถามเสียตะกุกตะกัก

                    ฉันรู้ตัวนะว่าฉันหน้าตาดี เอาเป็นว่าเอาเบอร์ฉันไปแล้วกันเขาจับมือฉันก่อนจะเขียนเบอร์โทรศัพท์ขอเขาลงไป

                    ฉันไม่ได้ต้องการเบอร์นายนะฉันพูดเสียงเรียบ

                    แล้วเธอต้องการอะไรล่ะ นอนกับฉัน แกล้งเป็นแฟนกับฉัน ฉันทำได้หมดนะเขาพูดหน้าตาเฉย

                    ฉันขอสะ...เสื้อกล้ามของนายได้มั้ยฉันพูด

                    หะ...หา เธอจะเอาเสื้อกล้ามของฉันไปดมหรอ

                    นี่ ฉันไม่ใช่พวกโรคจิตนะ... ฉันเล่นคิงมาแล้วโดนสั่งให้มาเอาเสื้อของนาย

                    ใครเชื่อนี่โคตรติงต๊องเลย อายุอานามก็มากแล้ว ยังเล่นอะไรปัญญาอ่อนอยู่อีกเรอะแล้วฉันกับเขาก็เถียงกันอยู่สักพัก จนฉันต้องยอมบอกว่าเอาเสื้อกล้ามนายนั่นมาดม เขาจึงยอมให้เสื้อกล้ามมา แต่ภาพพจน์น้องดาวคณะคงหมดไปก็งานนี้แหละ ToT ว่ามั้ย

                    กลับสู่โหมดปัจจุบัน

                    ค่อยยังชั่วที่ฉันกับเจ๊เข้าคลาสเรียนทันเวลาอาจารย์ศศิมาเรียกชื่อพอดิบพอดีเลย

                    ในคลาสฉันไม่ค่อยได้ทำอะไรมากหรอก ก็แค่นั่งกดบีบี อะ... เอ๋ นี่มันเบอร์ตานั่นนี่นา ฉันอาบน้ำไม่สอาดหรือว่าปากกามันลบไม่ออกกันแน่หว่า แต่ฉันว่าคงเป็นอย่างหลังมากกว่านะ (ฉันถือคติ ฉันถูกเสมอน่ะนะ) ไหนลองโทรไปก่อกวนตานั่นดีมั้ยนะ

                    เจ๊ๆ ฉันสะกิดเรียกเจ๊ที่ตั้งใจจดเบาๆ

                    อะไรของแกเมษา เจ๊พูดพลางจดเล็คเชอร์ไปด้วย

                    เจ๊จำผู้ชายที่เจ๊สั่งให้ฉันไปขอเสื้อกล้ามเมื่อวานได้ป้ะ

                    อ๋อ ทำไมล่ะ เจ๊หยุดเขียนแล้วหันหน้ามาทางฉัน

                    เนี่ยๆ เบอร์หมอนั่นแหละเจ๊ มันให้เมษามาอ่ะเจ๊ โทรไปก่อกวนดีป้ะ

                    นี่!! ฝาแฝดสองคนนั้นเชิญออกจากห้องเดี๋ยวนี้!! แล้วฉันจะหักชั่วโมงเรียนเธอสองครั้ง เสียงอาจารย์ศศิมาทำเอาฉันกับเจ๊นั่งหน้าซีดกันไปตลอดคลาส

     

                    ตอนเย็น

                    ฉันกะเจ๊เดินออกจากตึกคณะและตรงไปยังห้างหรูกลางกรุง รถมินิคูเปอร์แดงดำเคลื่อนตัวออกช้าๆ และค่อยๆ เร็วขึ้น ฉันคุยนุ่นนี่นั่นกับเจ๊มากมาย สักพักเราก็มาถึงห้างหรูนี้จนได้

                    เจ๊วนรถขึ้นไปยังชั้นบนสุด มันเป็นชั้นของ V.I.P Member น่ะ ที่ฉันได้สิทธินี้ก็เพราะมีคุณป๊าเป็นหุ้นส่วนกว่า 70% เพียงแค่ลดกระจกลง รปภ. ทั้งหลายก็แทบจะอุ้มฉันกับเจ๊เข้าห้างและชอปปิ้งแล้วล่ะนะ

                    “วันนี้คุณหนูจะเดินกันชั้นไหนหรอครับ” บอดี้การ์ดคนหนึ่งของพ่อที่ขับรถตามฉันมาพูดขึ้น

                    “ทุกชั้นที่มีของขาย” ฉันตอบพร้อมกับเบ้ปากใส่ เจ๊เลยดึงแขนฉันเข้าไปในห้างหรู

                    เราทั้งคู่ย่างก้าวช้าๆ เข้าไป ทำเอาชายหนุ่มหลายคนหันมองเราทั้งสองตาเป็นมัน ก็มันแน่อยู่แล้ว ใครไม่รู้จักเราสองคนแล้วมาเดินห้างนี้ เรียกได้เลยว่าเสร่อเป็นบ้าเลย

                    ฉันเดินตรงไปร้านแชแนลร้านโปรด คอเล็กชั่นกระเป๋าใหม่ๆ มาเยอะมาก ฉันลองใบแล้วใบเล่า ฉันกลับถูกใจเกือบหมดร้าน โอเค เพื่อแกฉันยอมได้ ฉันหยิบบัตรเครดิตของคุณป๋าที่ไปขโมยมายื่นให้พนักงาน เขาแค่รูดมันแล้วก็คืนฉัน ไม่ต้องเซ็นต์อะไรทั้งนั้น

                    ฉันกับเจ๊เดินออกจากร้าน และมุ่งหน้ากลับบ้าน เพราะนี่มันก็... เกือบสี่ทุ่ม แม่เจ้า!! ฉันมาห้างนี้ตั้งแต่บ่ายสี่โมงเย็น ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะเดินชอปนานขนาดนี้

     

                    บ้านของฉัน

                    รถค่อยๆ แล่นเข้าเทียบจอดที่หน้าบ้าน ฉันกับเจ๊มีนาย่างก้าวขาลงจากรถ มีแม่นมกับพี่เลี้ยงอีกสองสามคนมาหิ้วของของฉันกับเจ๊ขึ้นห้องของพวกเรา

                    “ไปทำอะไรกันมา กลับบ้านดึกดื่นขนาดนี้” น้ำเสียงดังของคุณป๋าดังขึ้นขณะที่พวกเรากำลังจะเดินเข้าบ้าน

                    “เมษาก็แค่ไปเดินห้างเองนะคะคุณป๋า ไม่เห็นมีอะไรต้องขึ้นเสียงกันเลยนี่” ฉันตอบ

                    “แต่นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว ห้าทุ่มแล้วนะรู้มั้ย เวลาแบบนี้ลูกควรที่จะอยู่บนห้องแล้ว ไม่ใช่รถเพิ่งมาจอดที่หน้าบ้านนะ” คุณป๋าก็นะ ทำไมต้องเสียงดังกันด้วย ทั้งที่รู้อยู่ว่าดุไปพวกเราก็ไม่เคยจะเชื่อฟัง

                    “คุณป๋า มีนาขอโทษที่พาน้องไปเดินซื้อของ แต่พวกเราก็โตกันมากแล้วนะคะคุณป๋า มีนาจะทำงาน จะออกไปใช้ชีวิตโลกภายนอกแล้วนะคะ นี่มีนาก็เรียนอีกแค่สองปีเองนะ”

                    “มันก็จริงของลูก แต่ลูกรู้มั้ยว่าป๋าเป็นห่วงน่ะ เข้าใจป๋าบ้างมั้ยฮะ”

                    “โอเคๆ วันหลังเมษาจะอยู่บ้านอ่านหนังสือแบบที่ป๋าอยากให้เป็น” ฉันพูดจบก็สะบัดแฮร์แล้วเดินเข้าบ้าน

                    “งั้นป๋าจะส่งลูกทั้งสองไปอยู่คาซาลไอซ์แลนด์ ไปอยู่คาซาลูนายูนิกันสองคนโอเคมั้ยฮะ”

                    “คุณป๋า!!” ฉันกับเจ๊แผดเสียงดังลั่น ใครว่าพวกฉันไม่ดีใจล่ะ ฉันโคตรดีใจเลย ฉันอยากไปคาซาลที่สุดเลย ที่นั่นน่ะ สวรรค์เล็กๆ ของพวกไฮโซเลยรู้มั้ย

                    “ไม่อยากไปหรือไง แผดเสียงดังลั่น” คุณป๋าเบ้ปากใส่พวกเรา แล้วเดินเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้ฉันกับเจ๊มีนากอดกันกลมดิ๊กอยู่หน้าบ้าน หูยยยยย ก็คนมันดีใจนี่นา

                    “เจ๊ว่าคุณป๋าจะให้เราไปอยู่ยูนิที่นั่นจริงป้ะ”

                    “เจ๊ก็ไม่รู้ แต่เจ๊คิดว่าน่าจะให้ไปมั้งนะ”

                    “เจ๊ เราก็ต้องไปเรียนปีหนึ่งกันใหม่หรอ โหยเจ๊ไม่เสียดายสองปีที่เรียนมาหรอ”

                    “เออนั่นสิ แล้วแกอยากไปป้ะล่ะ”

                    “ฉันโคตรอยากไปเลยเจ๊ แต่ก็เสียดายสรุป ฉันจะไป”

                    “แกไปฉันก็ต้องไป แกจะปล่อยให้ฉันรบกับคุณป๋าที่นี่คนเดียวคงไม่ได้หรอกนะ”

                    “ไปเจ๊ เราขึ้นห้องไปเก็บของกันเถอะ”

                    “แล้วถ้าคุณป๋าไม่...” เจ๊ยังพูดไม่จบฉันรีบชิงเอามือปิดปากเจ๊ซะก่อน

                    “เจ๊หยุดพูด ไม่งั้นฉันจะบอกคุณป๋าว่าเจ๊ไม่อยากไปนะ หึ” ฉันพูดจบก็เดินขึ้นห้อง และสำรวจข้าวของที่ซื้อมา กระเป๋าเกือบสองโหล เอิ่ม... ฉันซื้อมาขายรึเปล่าเนี่ย ฉันรื้อนู่นนี่นั่นแล้วก็กองทั้งหมดไว้ที่พื้นและนอนหลับไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×