คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 9 : Blank Space
หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น ทุกอย่างก็กลับไปเป็นเหมือนเคย เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยทำเหมือนกับอีกฝ่ายเป็นอากาศธาตุ เฮอร์ไมโอนี่ทุ่มเทให้กับการเตรียมสอบว.พ.ร.สเป็นอย่างมาก นอกจากเวลาทานอาหารแล้ว เธอแทบจะไม่คุยกับเพื่อนเลย และเธอมักจะหมกตัวอยู่ในห้องสมุดหรือหอนอนเพื่ออ่านหนังสือ
หนึ่งสัปดาห์ก่อนงานเต้นรำ ศจ.มักกอนนากัลจึงให้พรีเฟ็คงดเดินตรวจโรงเรียนเพื่อตระเตรียมงานกัน ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องเจอกับมัลฟอยให้รู้สึกลำบากใจ นอกจากวิชาปรุงยากับวิชาสมุนไพรแล้ว เธอกับมัลฟอยแทบไม่เจอกันเลย
“เฮอร์ไมโอนี่ เธอเครียดเกินไปแล้วนะ” แฮร์รี่บอกในขณะทานอาหารเช้า เขามองหนังสือคู่มือเตรียมสอบว.พ.ร.สในมือของเฮอร์ไมโอนี่แล้วเกิดความรู้สึกหมดความอยากอาหารเช้าทันที
“ฉันเปล่าซะหน่อย นายเองก็ควรจะเตรียมสอบได้แล้วนะ อย่ามัวแต่เล่น” เฮอร์ไมโอนี่ตอบแล้วจิบชา โดยที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองแฮร์รี่ที่ถอนหายใจอย่างปลงๆ
“แต่ก็นะ ดีชะมัดเลยที่ไม่ต้องเจอแพนซี่ไปหนึ่งอาทิตย์ ยัยนั่นทำฉันปวดประสาทเป็นบ้า” รอนบอกขณะกวาดเบคอนและไส้กรอกเข้าปาก จินนี่เลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ฉันเห็นพี่บ่นถึงแพนซี่บ่อยขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะพี่รอน ไม่ใช่กัดไปกันมา เกิดไปชอบเขาขึ้นมาล่ะ สนุกแน่ๆ” ประโยคนี้ทำเอารอนสำลัก แฮร์รี่กับจินนี่หลุดหัวเราะออกมา เฮอร์ไมโอนี่ดันแก้วน้ำฟักทองไปให้รอนโดยที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ตัวหนังสือ รอนรีบกรอกน้ำฟักทองลงคออย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองน้องสาวด้วยสายตาหงุดหงิด
“ถ้าวันไหนเฮอร์ไมโอนี่ตกหลุมรักมัลฟอยขึ้นมา ฉันอาจจะชอบยัยหมาจูนั่นมั่งก็ได้ เชอะ!” รอนบอก เฮอร์ไมโอนี่ชะงักแล้วปิดหนังสือลุกออกจากโต๊ะไปทันที
“เป็นอะไรของเขาน่ะ” แฮร์รี่มองตามด้วยสายตางุนงง รอนเองก็งงไม่แพ้กัน แต่จินนี่มีสีหน้านิ่งๆ เธอคิดว่าเธอเริ่มจะเข้าใจเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาแล้ว
เฮอร์ไมโอนี่เดินกลับมาหอเพื่อเก็บหนังสือและเตรียมตัวไปเรียนคาบเช้า วันนี้เธอเรียนปรุงยาเป็นวิชาแรก เธอพยายามจะไม่นึกถึงมัลฟอยอีก เมื่อเตรียมตัวเสร็จเธอก็มุ่งหน้าไปยังคุกใต้ดิน แต่เสียงหนึ่งเรียกเธอไว้
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ เฮอร์ไมโอนี่ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เจอเฮอร์ไมโอนี่เลย” สเปนเซอร์วิ่งเหยาะๆ เข้ามาเดินข้างๆ เธอ วันนี้นักเรียนกริฟฟินดอร์ส่วนใหญ่เรียนปรุงยาด้วยกัน รวมถึงสเปนเซอร์ด้วย เธอจึงเดินไปยังคุกใต้ดินกับเขา
“เปล่าจ้ะ ฉันแค่ต้องเตรียมสอบว.พ.ร.สน่ะ ก็เลยอยู่อ่านหนังสือบนหอนอน” เธอตอบ สเปนเซอร์ยิ้ม
“ขยันจังเลยนะครับ ผมอาจต้องให้คุณติวให้ผมบ้างแล้ว” สเปนเซอร์บอก เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างสุภาพ
“แต่ฉันได้ยิ้มมาว่าลีโอเป็นถึงนักเรียนดีเด่นของเดิร์มสแตรงก์เชียวนะ ทำไมต้องให้ฉันติวให้ล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม สเปนเชอร์ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะกลับมายิ้มเหมือนเดิม
“ผมก็แค่อยากจะทำความรู้จักกับเฮอร์ไมโอนี่น่ะครับ…” สเปนเซอร์ตอบ ก่อนจะก้าวมายืนขวางหน้าเฮอร์ไมโอนี่ ดวงตาสีน้ำเงินของเขาดูจริงจังขึ้นมา
“ผมได้ยินมาว่าสุดสัปดาห์นี้จะไปฮอกส์มี้ด เฮอร์ไมโอนี่ไปกับผมได้ไหมครับ” คำถามนี้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่อึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มแหยๆ
“เอ่อ...คงไม่ได้หรอกจ้ะ ฉันต้องไปกับพวกลาเวนเดอร์เพื่อซื้อชุดงานเต้นรำน่ะ ลีโอก็ไปกับพวกแฮร์รี่สิ” เฮอร์ไมโอนี่เสนอ สเปนเซอร์เงียบไป ก่อนจะยิ้มอย่างสุภาพตามแบบของเขา
“งั้นไม่เป็นไรครับ ผมว่าเรารีบไปคุกใต้ดินเถอะ เราคงไม่อยากสายวิชานี้แน่ๆ” สเปนเซอร์บอก หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เดินไปเงียบๆ โดยไม่มีบทสนทนาอะไรอีกจนเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอึดอัดใจ
เมื่อเข้าไปในคุกใต้ดิน นักเรียนสลิธีรินส่วนใหญ่มาถึงกันแล้ว รวมถึงมัลฟอยที่มองมาทางเธอกับสเปนเซอร์ด้วยสายตาแปลกๆ มาสนใจฉันทำไม ทำไมนายไม่เมินฉันต่อไปล่ะ เฮอร์ไมโอนี่คิดขณะนั่งลงข้างเนวิลล์ ซึ่งโต๊ะข้างๆ ก็คือแพนซี่ที่มองเธอด้วยสายตาขยะแขยงราวกับเธอเป็นขยะเดินได้
เมื่อรอนกับแฮร์รี่เดินเข้ามาในคุกใต้ดิน ก็พบว่าโต๊ะอื่นๆ เต็มหมดแล้ว เหลือเพียงโต๊ะหลังแพนซี่ตัวเดียว รอนผู้มีสีหน้าเหมือนกับพยายามกลืนค้างคาวลงไป ค่อยๆ นั่งลงหลังแพนซี่
“แย่จริงๆ ทางซ้ายก็ยัยขยะเลือดสีโคลน ข้างหลังก็ยาจกวีสลีย์ วันนี้วันซวยอะไรของฉันเนี่ย” แพนซี่พูดกับเพื่อนข้างๆ ด้วยน้ำเสียงดังพอที่จะได้ยินทั้งห้อง เด็กสลิธีรินหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน...ยกเว้นมัลฟอย
“โอ๊ย...แฮร์รี่ นายได้กลิ่นสาปหมาแถวนี้ไหม นอกจากกลิ่นจะเหมือนหมาแล้ว ปากยังหมาอีกด้วย ว่าไหมเพื่อน?” รอนถามแฮร์รี่ด้วยน้ำเสียงดังไม่แพ้กัน คราวนี้เป็นฝ่ายของเด็กกริฟฟินดอร์ที่หัวเราะบ้าง แพนซี่หันมามองรอนด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อ
“แก...ไอ้ยาจก กล้าดียังมาว่าฉัน!!” แพนซี่กรีดร้องด้วยเสียงแปดหลอด ก่อนจะพุ่งข้ามโต๊ะไปเพื่อจะข่วนหน้ารอนสักที
หลังจากนั้นก็เป็นความชุลมุนในคุกใต้ดิน เด็กทั้งสองบ้านต่างร้องเชียร์ทั้งรอนและแพนซี่กันยกใหญ่ มีเพียงมัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่ และสเปนเซอร์ที่นั่งเฉยๆ ระหว่างที่ห้องนั้นเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องเชียร์กันวุ่นวาย เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเพื่อที่จะได้ไม่ต้องสนใจมัลฟอย พลางนึกอยากให้สเนปเข้าสอนสักที สเปนเซอร์เดินมาหาเธอ แล้วก้มลงมาใกล้ๆ จนเธอรู้สึกถึงลมหายใจของเขา
“ผมสงสัยเรื่องสัดส่วนกับขั้นตอนของการปรุงยาตายทั้งเป็นน่ะครับ...เฮอร์ไมโอนี่ช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับ” เสียงทุ้มลึกของสเปนเซอร์กระซิบเสียงเบาข้างหูเฮอร์ไมโอนี่ ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาใกล้เสียจนเธอรู้สึกเหมือนแก้มร้อนๆ ขึ้นมา
“เอ่อ....กะ....ก็ได้จ้ะ” เฮอร์ไมโอนี่ละล่ำละลักตอบ สมองเธอสั่งให้เธอรีบขยับตัวออก แต่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าตัวเธอแข็งทื่อไปแล้ว สเปนเซอร์นั่งลงตรงที่เนวิลล์ ที่ตอนนี้กำลังไปมุงดูศึกของรอนกับแพนซี่อยู่ เฮอร์ไมโอนี่มองสเปนเซอร์ที่นั่งชิดกับเธอแล้วอดรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาไม่ได้ เธอรีบอธิบายให้เขาฟังเพราะหวังจะให้เขากลับที่ของเขาเสียที
ทุกอิริยาบถของเฮอร์ไมโอนี่และสเปนเซอร์อยู่ในสายตาของเดรโก มัลฟอยตลอด เขาต้องเก็บอารมณ์อยากจะเข้าไปต่อยหน้าสเปนเซอร์สักที แล้วรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ไม่แม้แต่จะชายตามองเขาสักนิดตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา มัลฟอยนั้นอยากจะคุยกับเธอใจจะขาด แต่เขาไม่มีโอกาสเข้าถึงตัวเธอสักที
ทันทีที่สเนปเดินเข้ามาในคุกใต้ดิน ความชุลมุนและเสียงเชียร์ทั้งหมดก็อันตรธานหายไปทันที นักเรียนทุกคนรีบวิ่งกลับเข้าที่ สเปนเซอร์ที่กำลังเดินมานั่งโต๊ะข้างๆ มัลฟอยก็หันมาสบตาเขา แล้วส่งยิ้มบางๆ ที่ทำให้มัลฟอยรู้สึกอยากจะสาปเขาให้เป็นทากตรงนั้นเสียเลย
ชั่วโมงปรุงยาวันนี้ผ่านไปอย่างอืดอาดในความคิดของเฮอร์ไมโอนี่ เธอต้องพยายามตั้งสติเพื่อไม่ให้เผลอหยิบเกล็ดงูลงไปแทนผงมูนสโตน และหยดน้ำเชื่อมเฮลลิบอร์ลงไปเกินจำนวนหยดที่กำหนด ผ่านไปเกือบชั่วโมงโดยมีสเนปเดินมาจับผิดเนวิลล์อยู่เรื่อยๆ และหาเรื่องหักคะแนนกริฟฟินดอร์แบบไม่ยุติธรรม เฮอร์ไมโอนี่ปรุงน้ำยาสันติเสร็จและตักลงขวดเป็นอันเสร็จสิ้น
เมื่อหมดคาบเรียน นักเรียนกริฟฟินดอร์ต่างก็รีบร้อนจะออกจากคุกใต้ดิน เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับสเปนเซอร์อีกเธอจึงรีบเดินออกจากห้องเรียนก่อนที่เขาจะเก็บของเสร็จ เมื่อเธอเดินออกมาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะเดินต่อพอดีในตอนที่มีมือปริศนาดึงเธอเข้าไปในตู้เก็บไม้กวาด เฮฮร์ไมโอนี่กำลังจะกรีดร้องแต่มีริมฝีปากใครบางคนประทับลงอย่างนุ่มนวล กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยนั่นทำให้เธอรู้ทันทีว่าใคร หนังสือในมือเธอร่วงลงขณะที่เผลอใจไปกับจุมพิตของมัลฟอยอีกครั้ง มัลฟอยดึงเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมแขน แล้วกอดเธอไว้ราวกับกลัวเธอจะหายไป
เมื่อเขาผละออก ดวงตาสีฟ้าอ่อนก็จ้องมองเธออีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ว่าเธอควรจะรู้สึกอย่างไร ควรจะโกรธไหม? ทั้งคู่ยืนเงียบๆ ในตู้เก็บไม้กวาด มองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่สับสนอยู่ในใจ
“อย่ายุ่งกับสเปนเซอร์...ห้ามเสวนาหรือใกล้ชิดกับหมอนั่นเด็ดขาด” มัลฟอยบอกหลังจากเงียบมาสักพัก เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้น
“นายจะมายุ่งอะไรกับฉันอีก...ฉันจะยุ่งกับใครก็ไม่ใช่เรื่องของนาย” เฮอร์ไมโอนี่ตอกกลับ เมื่อเธอจบประโยค เธอคิดว่าเธอเห็นแววตาเจ็บปวดจากมัลฟอยขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะกลับไปเย็นชาเช่นเดิม
“หมอนั่นไม่ใช่คนดีอย่างที่เธอคิดหรอกนะ เกรนเจอร์ ฉันขอเตือนเธอ...อย่าไปยุ่งกับหมอนั่นจะดีที่สุด....”
“แต่เขาก็เป็นคนดีกว่านาย....อย่างน้อยก็ไม่ทำร้ายฉัน! ไม่เห็นฉันเป็นของเล่นเหมือนนาย!!” เฮอร์ไมโอนี่แทบจะตะโกนด้วยความอัดอั้นในใจ มัลฟอยมองเธอด้วยสายตานิ่งเรียบ
“ฉันอาจจะไม่ใช่คนดี เกรนเจอร์ แต่จำไว้ว่าคนที่ร้ายออกมาอย่างเปิดเผยอันตรายน้อยกว่าคนที่ร้ายเงียบ” มัลฟอยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เดาอารมณ์ไม่ถูก เฮอร์ไมโอนี่จ้องหน้าเขานิ่งๆ
“….แล้วนายล่ะ มัลฟอย คนอย่างนายเป็นประเภทไหนล่ะ? นายดูถูกฉันมามาก แล้วมาทำดีกับฉันให้ฉันรู้สึกดี หลังจากนั้นก็ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน....นายมันกะ...อื้อ!!” เสียงเฮอร์ไมโอนี่ขาดหายไปอีกเมื่อมัลฟอยดึงเธอเข้าไปจูบอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่พยายามผลักเขาออก แต่เธอสู้แรงของมัลฟอยไม่ได้ จุมพิตคราวนี้ไม่ได้นุ่มนวลอีก มันเต็มไปโดยความโกรธ ความเสียใจ และความเจ็บปวดของมัลฟอยล้วนๆ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าน้ำตาเธอไหล
เมื่อมัลฟอยปล่อยเธอ ฝ่ามือของเธอก็ฟาดลงบนแก้มของอีกฝ่าย มัลฟอยไม่ได้แม้แต่จะหลบหรือต่อว่าเธอ เฮอร์ไมโอนี่ปาดน้ำตาทิ้ง เธอนึกคำพูดอะไรไม่ออก สมองเธอว่างเปล่าไร้ความคิดใดๆ ทั้งสิ้น มัลฟอยสบตาเธอก่อนจะเอ่ยทำลายความเงียบ
“...รักษาตัวด้วยล่ะ เกรนเจอร์” มัลฟอยบอกแค่นั้น ก่อนจะหันหลังเดินออกจากตู้เก็บไม้กวาดไป
ความคิดเห็น