คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 : Trap
เฮอร์ไมโอนี่มีสีหน้าเหมือนคนเพิ่งเห็นนิวเคลียร์ถล่มลงต่อหน้าต่อตาตอนที่เธอเดินเข้ามาในห้องเรียนวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ เธอนั่งลงที่โต๊ะหลังสุดของห้องติดกับหน้าต่าง ซึ่งเห็นทะเลสาบได้ชัดเจน วันนี้ท้องฟ้าโปร่ง แสงแดดกระทบกับผิวของทะเลสาบกลายเป็นแสงระยิบระยับชวนมอง
เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงหนังสือวางลงข้างๆ แต่เธอไม่ได้หันไปมอง เพราะสติสัมปชัญญะของเธอยังกลับมาไม่ครบ เฮอร์ไมโอนี่ยิกมือขึ้นแตะริมฝีปากอย่างลืมตัว ในสมองมีแต่ใบหน้ามัลฟอยลอยอยู่เต็มไปหมด เธอรีบสะบัดหัวไล่มันออกไป แล้วนึกหงุดหงิดตัวเอง
“ออกไปนะอีตาบ้า” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำด้วยความหงุดหงิด
“ผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจเหรอ?” เสียงจากคนข้างๆ ดังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเฮือก เมื่อหันไปมองก็พบกับนักเรียนใหม่ เลโอนาร์ด สเปนเซอร์ กำลังมองเธอด้วยสายตาสงสัยแบบสุภาพผ่านแว่นกรอบบางๆ ที่ทำให้เขาดูเหมือนนักเรียนเกียรตินิยมที่หล่อเอามากๆ
“ตะ...ตายแล้ว ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้หมายถึงเธอนะ ฉันมะ...หมายถึง....คนอื่นน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ขอโทษแล้วยิ้มแห้งๆ สเปนเซอร์หัวเราะ
“ค่อยยังชั่วหน่อย ผมนึกผมทำให้พรีเฟ็คของบ้านไม่พอใจซะแล้ว” สเปนเซอร์ยิ้มบางๆ ให้เฮอร์ไมโอนี่ที่รู้สึกเหมือนสายตาของผู้หญิงทั้งห้องกำลังมองมาทางเธอ
“เอ่อ ฉันชื่อเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” เฮอร์ไมโอนี่แนะนำตัว
“ครับ ผมเลโอนาร์ด สเปนเซอร์ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” สเปนเซอร์แนะนำตัวอีกรอบ แล้วรอยยิ้มขี้เล่นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคาย สาบานได้เลยว่าตอนนี้สายตาเด็กผู้หญิงเกือบทั้งห้องไม่ได้มองไปที่อาจารย์แล้ว
เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจจบบทสนทนาแล้วตั้งหน้าตั้งตาเรียนเหมือนเคย เธอยกมือตอบคำถามอย่างฉะฉาน ทำให้วันนี้บ้านกริฟฟินดอร์ได้คะแนนไป 20 คะแนน
“คุณเกรนเจอร์เก่งจังเลยนะครับ ผมยังตามบทเรียนไม่ค่อยทันเลย” สเปนเซอร์กล่าวขณะเก็บของ เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาอย่างประหลาดใจ
“อืม ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจหรือปัญหาอะไรก็มาปรึกษาฉันได้เสมอเลยนะ” เฮอร์ไมโฮนี่เสนอแล้วยิ้มอย่างจริงใจ
“ขอบคุณมากเลยครับ คุณเกรนเจอร์”
“เอ่อ เรียกเฮอร์ไมโอนี่เถอะ เรียกเกรนเจอร์แล้วฟังดูแก่ๆ ยังไงพิกล” เฮอร์ไมโอนี่บ่น จนอีกฝ่ายหัวเราะ
“ได้เลย เฮอร์ไมโอนี่ งั้นเรียกผมลีโอก็พอ อย่าเรียกชื่อยาวๆ นั่นให้ลำบากเลย” สเปนเซอร์เสนอ เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มแล้วพยักหน้าให้
เมื่อเดินออกจากห้องเรียน สเปนเซอร์ก็แยกไปเรียนวิชาอื่นต่อ แต่คาบนี้เฮอร์ไมโอนี่ว่าง เธอจึงมุ่งหน้ากลับหอกริฟฟินดอร์เพื่ออ่านหนังสือ
“เฮอร์ไมโอนี่!” เสียงของปาราวตีและลาเวนเดอร์ดังขึ้นทันทีเมื่อเธอก้าวเข้าไปในหอ จากนั้นทั้งคู่ก็ลากเธอไปนั่งที่โซฟาหน้าเตาผิง แล้วนั่งประกบเธอด้วยสายตาจริงจังสุดๆ
“เขาคุยอะไรกับเธอบ้าง เล่ามาให้หมดเลยนะ!” ปาราวตีเริ่มด้วยน้ำเสียงจริงจังมากๆ จนเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกงุนงง
“ใคร? อ๋อ ลีโอน่ะเหรอ.....” เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะเล่า แต่ถูกขัดโดยเสียงร้องเหมือนปลากำลังจะขาดน้ำของลาเวนเดอร์
“เธอเรียกเขาลีโอเลยเหรอ!! สนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย!!” ลาเวนเดอร์ครวญครางจนนักเรียนคนอื่นๆ เริ่มหันมามองอย่างสนใจ
“กะ...ก็เขาให้ฉันเรียกแบบนี้นี่นา แล้วก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย เขาบอกเขายังตามบทเรียนไม่ค่อยทันเท่านั้นเอง พวกเธอเสียงเบาๆ หน่อยสิ!” เฮอร์ไมโอนี่ดุ ปาราวตีกับลาเวนเดอร์มองหน้ากัน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็จ้องหน้าเฮอร์ไมโฮนี่ด้วยสายตาแบบเดิม
“เขาบอกเธอว่าเรียนไม่ทันเหรอ” ปาราวตีถาม
“ใช่ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกซะหน่อย เขาเพิ่งย้ายมานะ”
“เป็นไปไมได้หรอก” ลาเวนเดอร์พูดขึ้นบ้าง เธอหยิบม้วนกระดาษหนึ่งขึ้นมา
“อะไรน่ะ?” เฮอร์ไมโอนี่ถามบ้าง ลาเวนเดอร์เชิดหน้าอย่างภูมิใจแล้วคลี่ม้วนกระดาษออก
“ฟังนะจ้ะ เฮอร์ไมโอนี่ ฉันกับปาราวตีช่วยกันสืบประวัติของพ่อหนุ่มตาสวยนั่นมาแล้ว เมื่อคืนเราแทบไม่ได้นอนกันเลยนะ” ลาเวนเดอร์พูดด้วยสีหน้าภูมิใจสุดๆ เฮอร์ไมโฮนี่กลอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายใจกับความบ้าผู้ชายของเพื่อนสาว
“เลโอนาร์ด วินเซนต์ สเปนเซอร์ หลานชายของอักเซล สเปนเซอร์ ผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนตร์ เป็นนักเรียนดีเด่นของเดิร์มสแตรงก์ ตระกูลสเปนเซอร์สืบเชื้อสายมาจากขุนนางชั้นสูงสวีเดน เป็นครอบครัวพ่อมดเลือดบริสุทธิ์ เขามีผลการเรียนระดับยอดเยี่ยมตลอดสี่ปี แถมเป็นซีกเกอร์ที่เก่งมากๆ ของเดิร์มสแตรงก์ สนิทกับวิกเตอร์ ครัมด้วย คาดว่าเมื่อเรียนจบจะเข้าทำงานกับกระทรวงเวทย์มนตร์ในทันที สุดท้าย โสดจ้า!”
เฮอร์ไมโฮนี่ลุกขึ้นเดินหนี เธอขี้เกียจจะฟังต่อไป ดูเหมือนทั้งสองก็จะกลับไปนั่งเมาท์กันต่อโดยไม่สนใจเธออีก เฮอร์ไมโอนี่ทิ้งตัวนอนลงบนเตียง แล้วอยู่ๆ ก็นึกสงสัยขึ้นมา
“ถ้าเรียนเก่งขนาดนั้น ทำไมถึงบอกว่าเรียนไม่ทันล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจนัก แล้วหยิบหนังสือเล่มหนาขึ้นมาอ่านแทน หลังจากนั้นทั้งวันเธอก็ไม่ได้นึกถึงเรื่องสเปนเซอร์อีก เพราะในหัวเธอมีแต่มัลฟอย....อีกแล้ว
เฮอร์ไมโฮนี่นึกปั่นป่วนในท้องเมื่อถึงเวลาอาหารค่ำ เพราะหลังจากนี้เธอต้องอยู่กับมัลฟอยอีกแล้ว รอนเองก็มีสีหน้าหมดอาลัยตายอยากขึ้นมาเหมือนกันเมื่อรู้ว่าเขาต้องอยู่กับแพนซี่ เขาจึงยัดอาหารค่ำทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อให้ไม่ต้องคิดเรื่องนี้ มีเพียงแฮร์รี่กับจินนี่ที่ดูสบายใจสุดๆ รอนเหลือบมองทั้งคู่ แล้วกระแทกส้อมแรงเกินความจำเป็น
“ให้ตายสิ คัสตาร์ดช็อกโกแลตจืดสนิทไปเลยเนอะ เฮอร์ไมโฮนี่ เมื่อเทียบกับความสวีทของใครบ้างคนน่ะ” รอนพูดลอยๆ แฮร์รี่ถึงกับสำลักน้ำฟักทอง จินนี่รีบเอาผ้าเช็ดปากเช็ดให้ เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังทานซุปครีมเห็ดอยู่ก็เกือบจะสำลักเพราะขำเช่นกัน
“น้อยๆ หน่อย จินนี่ อย่ามาชิงตัดหน้ามีแฟนก่อนฉันนะ” รอนบ่นงึมงำแล้วลุกจากโต๊ะ
“ไปเหอะ เฮอร์ไมโอนี่ หวานกันจนมดกัดฉันไปหลายแผลแล้ว ขืนนั่งอีกคงมากันทั้งรัง” รอนเหน็บทิ้งท้าย ทำเอานักเรียนกริฟฟินดอร์หลุดขำกันไปเป็นแถว แฮร์รี่กับจินนี่หน้าแดงก่ำไปแล้ว
เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นแล้วเดินตามรอนออกไปนอกห้องโถง ก่อนออกไปอดมองไปยังโต๊ะสลิธีรินไม่ได้ เธอไม่เห็นมัลฟอยเลยนับตั้งแต่เมื่อเช้า เมื่อออกไปนอกห้องโถงแล้ว เฮอร์ไมโอนี่กับรอนก็แยกย้ายกันไป เพื่อเตรียมเดินตรวจโรงเรียน
เมื่อมาถึงหน้าห้องเรียนคาถาเก่าตามนัด แต่กลับไม่มีเงาของมัลฟอยเลยแม้แต่นิดเดียว เฮอร์ไมโอนี่ล้วงเข้าไปในเสื้อคลุมเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าเอาไม้กายสิทธิ์มาด้วย อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ จนเฮอร์ไมโอนี่หนาวขึ้นมาแล้ว
“มาเร็วดีนี่ สงสัยคงคิดถึงฉันสินะ” เสียงยานคางตามแบบใครบางคนดังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นมาแบบไร้เหตุผล เมื่อมัลฟอยเดินเข้ามาใกล้
“หุบปากเน่าๆ ของนายซะเถอะ มัลฟอย ฉันยอมไปทำความสะอาดคอกฮิปโปกริฟท์ดีกว่าจะมาอยู่กับนายแค่นาทีเดียวด้วยซ้ำ” เฮอร์ไมโอนี่สวนเข้าให้ มัลฟอยแค่นหัวเราะแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ
“ปากดีนี่ สงสัยอยากโดนปิดปากอีกรอบ” มัลฟอยกระซิบข้างหู
ลมหายใจอุ่นๆ เจือกลิ่นมินต์ของมัลฟอยตัดกับอากาศหนาวทำให้เฮอร์ไมโฮนี่ใจเต้นแรงอีกแล้ว แต่คราวนี้เธอรวมสติได้อย่างรวดเร็ว เฮอร์ไมโอนี่ยกมือดันหน้าผากของมัลฟอยออกไปจนอีกฝ่ายถึงกับเซ แล้วเธอก็ยกไม้กายสิทธิ์จ่อใต้คางอีกฝ่ายอย่างไม่กลัวเกรง
“ถ้าทำแบบนั้นอีก ฉันจะสาปให้นายนอนตัวแข็งอยู่ตรงนี้จนกว่าจะเช้าเลย คอยดูสิ” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวเสียงเย็นยะเยือกพอๆ กับอากาศ มัลฟอยเลิกคิ้วแล้วหัวเราะออกมา
“งั้นเธอก็คงจะต้องนอนเป็นเพื่อนฉันล่ะนะ” มัลฟอยพูด เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ก้มลงก็พบว่ามัลฟอยเอาไม้กายสิทธิ์จ่ออยู่ที่เอวเธออยู่เหมือนกัน เธอกัดฟันกรอดแล้วสะบัดหน้าหนี
“จะรีบไปไหนล่ะ เกรนเจอร์ ไหนว่าคิดถึงฉันไงล่ะ” มัลฟอยยียวนกวนอารมณ์เธอต่อ เฮอร์ไมโฮนี่รีบเดินหนีด้วยความโมโห อีกฝ่ายก็รีบเดินตามพร้อมถ้อยคำกวนประสาทน่าตบ เฮอร์ไมโอนี่เดินลงบันไดด้วยความเร็วใกล้เคียงกับการวิ่งเข้าไปทุกที
“หุบปากซะมัลฟอย ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน!” เฮอร์ไมโฮนี่แผดเสียง เมื่อเส้นอารมณ์ใกล้จะขาดเต็มทนแล้ว ดูเหมือนมัลฟอยจะชอบเหลือเกินที่เห็นเธอกำลังจะเป็นบ้าตาย
“แหม ฉันอยากจะเห็นจริงๆ เวลาเธอหมดความอดทนน่ะ ยัยเลือดสีโคลน” มัลฟอยจงใจเน้นคำสุดท้าย เฮอร์ไมโอนี่สะอึกแล้วนิ่งเงียบไป มัลฟอยรู้สึกแย่ขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นเฮอร์ไมโฮนี่นิ่งไป
“เกรนเจอร์ ฉัน.....”
“นายจะไปไหนก็ไป ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีก…” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวเสียงเบาๆ และสั่นเครือ หยดน้ำตาหยดลงบนพื้นหิน มัลฟอยรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เดี๋ยวสิ...ฉัน…..” มัลฟอยพยายามจะขอโทษ แต่เฮอร์ไมโอนี่หันหลังวิ่งลงบันไดไปแล้ว มัลฟอยมองตามแล้วกำลังจะหันหลังกลับ แต่เขากลับนึกอะไรขึ้นมาได้เสียก่อน
“เกรนเจอร์! ระวัง!! บันไดนั่นมัน…!!”
ฟุ่บ!
ความคิดเห็น