ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Draco & Hermione Fiction : This Girl Is Mine ✿

    ลำดับตอนที่ #27 : Chapter 27 : The Calm Before Storm

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 586
      46
      17 พ.ย. 62

    TB
              เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เบลลาทริกซ์คร่อมอยู่บนร่างเธอ ใบหน้ากึ่งเสียสตินั้นเต็มไปด้วยความบันเทิงใจเมื่อเธอค่อยๆ ลากไม้กายสิทธิ์ลงบนแขนของเฮอร์ไมโอนี่อย่างช้าๆ ราวกับมีมีดที่มองไม่เห็นกรีดลงบนแขนเธอเป็นแผลเหวอะ เลือดสีแดงสดไหลจากแผลที่ถูกกรีดเป็นคำว่า เลือดสีโคลน

            “ร้องอีกสิ! ร้องไปก็ไม่มีใครช่วยแกได้! แกมันเลือดสีโคลน เป็นได้แค่เศษสวะโลกของฉันเท่านั้นนังโง่!!”

    เบลลาทริกซ์แผดเสียงหัวเราะด้วยความหฤหรรษ์กับความเจ็บปวดของเฮอร์ไมโอนี่ เธอกำลังจะร่ายคาถากรีดแทงซ้ำใส่ในตอนที่มีเสียงบางอย่างดังมาจากชั้นใต้ดินที่พวกแฮร์รี่และรอนถูกคุมขังอยู่ ดวงตาสีเข้มบ้าคลั่งของเธอเหลือบไปมองเฟนเรียและส่งสัญญาณให้เขาลงไปตรวจสอบ เฟนเรียเร่งรีบลงบันไดไปทันที

    ไม่กี่นาทีถัดมา ร่างของเฟนเรียลอยละลิ่วขึ้นมากระแทกพื้นไม่ไกลจากเฮอร์ไมโอนี่นัก เบลลาทริกซ์ลุกขึ้นและยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นทันที เฮอร์ไมโอนี่เห็นแฮร์รี่และรอน พร้อมกับใครอีกคนหนึ่งที่คาดไม่ถึงด๊อบบี้นั่นเอง

    ก่อนที่ผู้เสพความตายคนอื่นจะได้ร่ายคาถา ด๊อบบี้ดีดนิ้วเรียวยาวของมัน ราวกับมีพลังงานที่มองไม่เห็นลูกใหญ่ซัดเข้าใส่เบลลาทริกซ์จนเธอกระเด็นไปอีกฝั่งของห้อง รอนรีบวิ่งมาประคองเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นโดยมีแฮร์รี่คอยร่ายคาถาโต้ตอบกับพวกผู้เสพความตายด้วยไม้กายสิทธิ์ที่เขาขโมยมา รอนกึ่งลากกึ่งพยุงเฮอร์ไมโอนี่มาหาด๊อบบี้และจับมือเธอกับด๊อบบี้ไว้แน่น แฮร์รี่สะบัดไม้กายสิทธิ์ส่งคาถาสะกดนิ่งใส่โรโดลฟัสเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเข้ามาจับมือรอน

    ทันใดนั้น ราวกับโลกทั้งใบกำลังบิดเบี้ยว พวกเธอกำลังจะหายตัวไปได้สำเร็จอยู่แล้วจนกระทั่งเฮอร์ไมโอนี่เห็นประกายสีเงินพุ่งตรงมายังพวกเธอก่อนจะหลับตาแน่น

    เมื่อทุกอย่างกลับมาสงบ เฮอร์ไมโอนี่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เสียงลมโกรกและเสียงเกลียวคลื่นซัดชายฝั่ง กลิ่นเกลือจางๆ ในอากาศยามค่ำทำให้เธอรู้ว่าเธอมาถึงกระท่อมเปลือกหอยของบิลและเฟลอร์แล้ว เธอกำลังจะทรุดตัวนั่งด้วยความโล่งอก แต่แล้วเธอก็เห็น มีดเล่มเล็กสีเงินที่ปักอยู่บนอกของด๊อบบี้เลือดสีแดงซึมออกมาบนปลอกหมอนใบเก่าที่มันชอบสวมเสมอ มันโซเซก่อนจะล้มลงในอ้อมแขนแฮร์รี่ที่ดวงตาเบิกกว้างด้วยความช็อก เขาค่อยๆ วางมันตะแคงบนพื้นหญ้าเย็นๆ

            ด๊อบบี้..อย่า อย่าตาย อย่าตาย….”

    ดวงตาของเอล์ฟจ้องไปยังแฮร์รี่ ริมฝีปากของมันสั่นระริก ราวกับพยายามจะพูดอะไรออกมา

            แฮร์รี่พอตเตอร์

    และจากนั้น ร่างของเอล์ฟสั่นน้อยๆ และแน่นิ่งไป ดวงตาดุจลูกแก้วลูกโตของมันมองไปยังท้องฟ้ายามค่ำอย่างว่างเปล่า สะท้อนเงาดวงดาวนับล้านที่มันไม่อาจมองเห็นได้อีกต่อไป

     

    สเปนเซอร์นั่งมองเปลวเพลิงในเตาผิงด้วยสายตาว่างเปล่า คฤหาสน์หรูหราของเขาเงียบสงัด หีบใบใหญ่ที่ใส่ข้าวของสำหรับไปฮอกวอร์ตนั้นถูกเก็บเรียบร้อย แต่เขารู้ดีว่าเขาจะไม่ได้กลับไปฮอกวอร์ตอย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่สถานการณ์ในโลกเวทมนตร์กำลังเปราะบางพร้อมแตกหัก

    เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้นแต่สเปนเซอร์ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย พ่อบ้านชราประจำตระกูลของเขาวางถาดเงินที่บรรจุชาร้อนและขนมสโคนไว้ข้างๆ เขา ดวงตาสีเทาที่พร่าเลือนตามวัยจ้องมองนายน้อยด้วยความเคารพ เขาจัดแจงรินน้ำชาและถอยออกไปยืนด้านหลังเงียบๆ

            คุณลุงล่ะสเปนเซอร์ถามเสียงแผ่ว

            คุณอักเซลจะไม่กลับบ้านคืนนี้ครับ ท่านเป็นผู้นำการบุกจับผู้เสพความตายอย่างเป็นทางการแล้วหลังจากคุณสคริมเจอร์เสียชีวิต

            “’งั้นหรือ…”

    เงียบกันไปครู่หนึ่ง สเปนเซอร์หยิบถ้วยชามาจิบอย่างเหม่อลอย เขาเหลือบมองพ่อบ้านที่ยืนนิ่งราวกับรูปปั้นก่อนจะกล่าวเสียงเรียบ

            ไปพักผ่อนเถอะโธมัส ผมอยากอยู่คนเดียวสักพัก

            “ครับ นายน้อยโธมัสโค้งให้น้อยๆ และสบตาสเปนเซอร์ด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไปเงียบๆ สเปนเซอร์มองตาม แต่มือเหี่ยวย่นของโธมัสวางค้างอยู่บนลูกบิด ดวงตาสีเทาของเขาหันมามองสเปนเซอร์อีกครั้ง

            บางทีคุณอาจจะอยากไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดนะครับ ผมเชื่อว่าที่นั่นมีอะไรอีกมากมายที่คุณยังไม่เคยค้นพบ โธมัสกล่าวเสียงค่อย ก่อนจะเปิดประตูออกไปและปิดตามอย่างเงียบกริบ ทิ้งสเปนเซอร์ไว้ให้ครุ่นคิดถึงคำพูดของเขาเพียงลำพัง

     

    เสียงรองเท้าหนังสีดำปลาบกระทบไปบนพื้นหินอ่อน สเปนเซอร์นอนไม่หลับ เขาจึงตัดสินใจว่าจะไปหาอะไรอ่านที่ห้องสมุดตามคำแนะนำของโธมัส แม้ว่าจะตะหงิดใจกับคำพูดพิลึกของพ่อบ้านชรา โธมัสรับใช้ตระกูลของเขามาตั้งแต่สมัยพ่อกับแม่ของเขาแต่งงานกันใหม่ๆ เขาจึงเป็นข้ารับใช้เก่าแก่ที่ซื่อสัตย์ต่อตระกูลสเปนเซอร์มาตลอด โธมัสเป็นผู้ที่รู้เรื่องทุกอย่างของตระกูลนี้ดีกว่าใคร และอาจจะดีกว่าตัวของสเปนเซอร์เองอีกด้วยซ้ำ

    สเปนเซอร์ผลักประตูรูปสลักเทวากับซาตานที่เขาแสนจะเกลียดเข้าไป ห้องนี้เป็นทั้งห้องทำงานและห้องสมุดของผู้นำตระกูล ในอดีตมันคือห้องทำงานของวินเซนต์ สเปนเซอร์ห้องที่พ่อของเขาถูกลูเซียส มัลฟอยฆ่านั่นแหละ แต่ตอนนี้มันเป็นห้องทำงานของอักเซล สเปนเซอร์ผู้เป็นลุงของเขา

    แสงจันทร์สีเงินส่องกระทบสวนสไตล์อังกฤษด้านนอก และลอดผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามากระทบโต๊ะทำงานแกะสลักงดงามที่ตั้งอยู่ริมสุดห้องราวกับแสงสปอร์ตไลท์ สเปนเซอร์หยิบหนังสือมาเล่มหนึ่งและทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้นวมหนานุ่มหลังโต๊ะทำงาน โต๊ะที่พ่อเขาชอบนั่งทำงานอยู่เสมอ ตอนที่เขายังเป็นเด็ก พ่อของเขาจะอุ้มสเปนเซอร์นั่งลงบนตักและอ่านหนังสือนิทานให้ฟังที่โต๊ะตัวนี้อยู่บ่อยๆ เขาจึงชอบกลับมานั่งตรงนี้เพราะมันทำให้เขานึกถึงพ่อ

    สเปนเซอร์พลิกหน้ากระดาษไปเรื่อยเปื่อยอย่างใจลอย จนเขาเหลือบเห็นลิ้นชักหนึ่งข้างโต๊ะที่ดูเหมือนจะถูกปิดไว้ลวกๆ มันจึงเผยอออกมาเล็กน้อย

    โดยปกติแล้ว ลุงของเขาจะปิดล็อกลิ้นชักที่โต๊ะด้วยคาถาเสมอเพราะเก็บเอกสารสำคัญของกระทรวงไว้ แต่ดูเหมือนช่วงนี้เขายุ่งเกินกว่าจะรอบคอบเหมือนเคย ด้วยความสงสัย สเปนเซอร์จึงดึงลิ้นชักออกมา และพบว่าข้างในคือไม้กายสิทธิ์ที่ถูกหักครึ่งและจดหมายอีกปึกหนึ่งที่ดูเก่ามากแล้ว

    สเปนเซอร์ขยับเข้าไปดูอย่างสนใจ เขาจำไม้กายสิทธิ์นี้ได้ มันเป็นไม้อันเก่าของอักเซล แต่ดูเหมือนว่าไม้นี้จะเสียหายเกินกว่าจะซ่อมได้แล้ว แต่ตราประทับบนจดหมายปึกเก่าๆ เหล่านี้ต่างหากที่เขาไม่คุ้นเลย สเปนเซอร์ใช้เวลามากมายไปกับการนั่งอ่านจดหมายกับพ่อ เขาจึงจำตราประทับบนซองจดหมายที่ส่งมายังตระกูลเขาได้เกือบหมด แต่เห็นได้ชัดว่าอักเซลคงมีพันธมิตรอีกมากมายที่เขาไม่รู้จัก สเปนเซอร์แกะจดหมายออกมาคลี่อ่านอย่างตั้งใจ

    และเขาก็รู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังพังทลายลงต่อหน้าของเขาในตอนนั้นเอง

     

    หลายสัปดาห์ผ่านไป

    เฮอร์ไมโอนี่หอบเล็กน้อยขณะเดินตามรอนและแฮร์รี่ไปตามทางเดินหินแคบๆ ที่เชื่อมระหว่างร้านของอาเบอร์ฟอร์ธและฮอกวอร์ต ความเหนื่อยล้าดูเหมือนจะบรรเทาลงเล็กน้อยเมื่อคิดได้ว่าเธอกำลังจะได้เจอเพื่อนๆ ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า สองสัปดาห์ที่ผ่านมาดูราวกับเป็นฝันร้าย ตั้งแต่พวกเธอหนีออกมาจากคฤหาสน์ของมัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่ รอนและแฮร์รี่หยุดพักที่กระท่อมเปลือกหอยเพียงไม่กี่วัน ก่อนจะออกตามหาฮอร์ครักซ์ชิ้นต่อไป

    ถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟ พวกเธอเสี่ยงชีวิตปลอมตัวเข้าไปในกริงกอตส์เพื่อขโมยมันออกมาจากห้องนิรภัยของเบลลาทริกซ์ แถมพวกเธอยัง (จำเป็นต้อง) ปล่อยมังกรออกมาจากใต้ดิน ทำกริงกอตส์พังยับเยิน ถ้าหากเป็นไม่กี่เดือนก่อน เฮอร์ไมโอนี่คงไม่มีทางเชื่อแน่นอนว่าเธอจะทำแบบนี้

            “เธอไหวหรือเปล่า? เฮอร์ไมโอนี่รอนถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นเธอหอบหายใจหนักกว่าปกติ

    หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่ถูกคาถากรีดแทงของเบลลาทริกซ์แล้ว เธอดูเปราะบางและขวัญเสียง่ายขึ้น ราวกับเธอได้เสียเศษเสี้ยวหนึ่งในตัวของเธอไปแล้ว พ่อของรอนเคยเล่าให้ฟังถึงพ่อแม่ของเนวิลล์ที่เสียสติไปหลังจากถูกคาถากรีดแทง เขาได้แต่หวังว่าเฮอร์ไมโอนี่จะไม่เป็นแบบนั้น

            ไม่เป็นไร ฉันโอเคดี เฮอร์ไมโอนี่ตอบพลางยิ้มอย่างอ่อนแรง พอดีกับที่แฮร์รี่และเนวิลล์ที่เดินนำหน้าพวกเธอหยุดชะงักกึก

            พร้อมนะเนวิลล์ที่นำทางทั้งสามคนมาตลอดทางจากร้านอาเบอร์ฟอร์ธหันมาถาม ทั้งสามพยักหน้า เนวิลล์จึงผลักด้านหลังรูปภาพออก แล้วแฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ก็พบกับรอยยิ้มจากหลายสิบใบหน้าที่จ้องมองมาอย่างปีติยินดี กองทัพดัมเบิลดอร์ส่งเสียงโห่ร้องดังก้องห้องต้องประสงค์

    หลังจากทั้งสามคนวนเวียนทักทายเพื่อนๆ จนครบแล้ว เฮอร์ไมโอนี่จึงได้สังเกตจริงๆ จังๆ ว่าทุกคนดูโทรมมาก บางคนมีแผลฟกช้ำตามตัว บางคนดูอิดโรยและซูบผอมเสียจนเธอแทบจำไม่ได้ โดยเฉพาะเนวิลล์ที่ดูเหมือนจะโดนหนักสุด เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าพวกเขาต้องอดทนมากกับการใช้ชีวิตในฮอกวอร์ตที่มีผู้เสพความตายเข้ามาครองและหาเรื่องทรมานนักเรียนทุกวิถีทาง แต่กองทัพดัมเบิลดอร์ยังคงยืนหยัดอยู่ด้วยความหวังเดียวของพวกเขา ความหวังที่เรียกว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์

    ภายในห้องเงียบสงัดในขณะที่แฮร์รี่อธิบายถึงฮอร์ครักซ์ชิ้นต่อไป รัดเกล้าของเรเวนคลอ มันสาบสูญไปนานหลายศตวรรษแล้ว และคนที่มีชีวิตอยู่ไม่เคยมีใครเห็นมันเลย แม้แต่ลูน่ากับโชที่เป็นนักเรียนบ้านเรเวนคลอก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่ามันควรจะอยู่ไหนหรือว่าใครเป็นเจ้าของ

            แต่ฉันพาเธอไปดูได้นะว่าหน้าตามันเป็นยังไง ในห้องนั่งเล่นบ้านเรเวนคลอมีรูปปั้นของโรเวนนา เรเวนคลออยู่ เธอสวมรัดเกล้าอยู่ด้วยล่ะ ลูน่ากล่าว แฮร์รี่ที่ดูอับจนหนทางนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า

             “’งั้นฉันจะไปกับลูน่า รอนกับเฮอร์ไมโอนี่รอที่นี่นะ แฮร์รี่ทิ้งท้ายก่อนจะออกวิ่งไป เฮอร์ไมโอนี่มองรอนอย่างกังวล ต่อให้เธอได้ฮอร์ครักซ์มา เธอจะทำลายมันยังไงล่ะ พวกเธอไม่มีดาบของกริฟฟินดอร์แล้ว ถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟที่อยู่ในกระเป๋าแม้จะเล็กและเบา แต่ตอนนี้มันกลับหนักอึ้งขึ้นมาเสียอย่างนั้น

            ฉันว่าฉันรู้แล้ว!” รอนอุทานขึ้นมา ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร รอนก็รีบลากเฮอร์ไมโอนี่ออกจากห้องไปทันที

     

    มัลฟอยรู้สึกว่าค่ำคืนนี้มันเงียบสงัดเกินไป เงียบเสียจนเขาได้ยินเสียงไฟปะทุในเตาผิงในห้องนั่งเล่นรวมของสลิธีรินที่ร้างผู้คน มีเพียงแครบกับกอยล์นั่งหลับอยู่ไกลๆ มันเหมือนกับทะเลที่สงบก่อนพายุจะโหมเข้า เขาหมุนไม้กายสิทธิ์ของแม่ไปมาอย่างใจลอย เธอให้ยืมมาเพราะไม้ของเขาถูกแฮร์รี่แย่งไปตอนต่อสู้ เขาไม่โกรธแฮร์รี่เลยสักนิด ได้แต่หวังว่าแฮร์รี่จะใช้ไม้ของเขาปกป้องเฮอร์ไมโอนี่ และนึกสงสัยว่าตอนนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง

    เขากำลังจะลุกขึ้นไปนอนบนหอนอนตอนที่เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมาจากตัวปราสาทชั้นบน ตามมาด้วยระเบิดของคาถาและเสียงกระจกแตก แครบกับกอยล์สะดุ้งตื่น มัลฟอยคว้าเสื้อสูทของเขาขึ้นมาสวมและเก็บไม้กายสิทธิ์เข้าไป ก่อนจะออกวิ่งไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

    มันคือความโกลาหล นักเรียนทุกชั้นปีทุกบ้าน วิ่งหลบคาถาที่ผู้เสพความตายร่ายสู้กับบรรดาอาจารย์ เขาทันเห็นศจ.มักกอนนากัลวาดไม้กายสิทธิ์ร่ายคาถาใส่สเนปที่ปัดป้องเต็มที่ ก่อนจะสลายกลายเป็นกลุ่มควันสีดำพุ่งออกนอกหน้าต่างไป สองพี่น้องแคร์โรว์ตามสเนปไปติดๆ

            ขี้ขลาด!” ศจ.มักกอนนากัลตวาดลั่นตามหลังท่ามกลางเสียเฮลั่นของนักเรียน เธอหันมามองมัลฟอยด้วยสายตาดุๆ อย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะสะบัดเสื้อคลุมเดินหันหลังกลับไปห้องโถงใหญ่และเรียกนักเรียนทุกคนไปรวมตัวกัน

    แครบและกอยล์ตามมาขนาบข้างมัลฟอยตอนไหนไม่รู้ได้ มันทำให้เขาหงุดหงิดไม่น้อย จอมมารไม่ไว้ใจเขาแล้ว ถึงได้สั่งให้สองคนนี้ตามติดเขาแทบจะตลอดเวลา

            ฉันได้ยินว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์กลับเข้ามาในฮอกวอร์ตแล้ว แครบพูดเสียงเหี้ยมพลางหักนิ้วกรอบแกรบ

            แกว่าไงนะ?!” มัลฟอยอุทานลั่นอย่างไม่อยากจะเชื่อ หมายความว่าเฮอร์ไมโอนี่ก็อยู่ที่นี่ด้วยสินะ

            ไปรวมที่ห้องโถงใหญ่ก่อน พอยัยค้างคาวแก่นั่นปล่อยนักเรียนแล้วเราค่อยไปล่ามัน มัลฟอยกล่าวเสียงเย็น เขาอยากประวิงเวลาให้แฮร์รี่ทำอะไรก็ตามที่เขาต้องทำสำเร็จก่อน แครบกับกอยล์พยักหน้ารับ

    มัลฟอยเดินนำไปห้องโถงใหญ่ จนกระทั่งเขาเห็นเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนที่เขาไม่มีทางลืมอยู่ท่ามกลางผู้คนที่กำลังรีบไปห้องโถงใหญ่ เฮอร์ไมโอนี่กับรอนกำลังวิ่งไปที่ไหนสักแห่ง แต่มัลฟอยไม่ได้สนใจมันเท่ากับมือของรอนที่กำลังกุมมือของเฮอร์ไมโอนี่อยู่ ทั้งสองคนวิ่งผ่านไปโดยไม่ได้สังเกตเห็นเขาเลย

            นั่นมันยัยเลือดสีโคลนกับไอ้ยาจกนี่ ฉันว่าเราตามไปเลยดีกว่า แครบกล่าวก่อนจะออกวิ่งนำไปโดยไม่สนใจมัลฟอยอีก กอยล์ตามไปติดๆ

            บ้าเอ๊ย! ฉันยอมให้แค่วันนี้นะ ไอ้เจ้าบ้าวีสลีย์!!” มัลฟอยพึมพำอย่างหัวเสียพลางตามแครบกับกอยล์ไป

     

                   นายแน่ใจนะ เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างหวาดๆ ขณะที่มองประตูเหล็กกลมบนมีงูสีทองแดงหกตัวขดอยู่อยู่บนนั้น ดวงตามรกตของมันวิบวับราวกับมีชีวิต รอนพยักหน้าก่อนจะพูดอะไรสักอย่างเป็นภาษาพาร์เซล งูทองแดงทั้งหกตัวเลื้อยออกไปจากบานประตูพร้อมเสียงกลอนที่ถูกปลด

                   แฮร์รี่ชอบละเมอเป็นภาษาพาร์เซลตอนนอนน่ะ เธอไม่รู้เหรอ รอนกล่าวอย่างขำๆ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ หูของเขาก็กลายเป็นสีแดงพอๆ กับสีผมเลย

                  เอ่อ..เธอไม่รู้ แหงล่ะ ต้องไม่รู้อยู่แล้ว รอนพึมพำเขินๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ห้องโถงยาวๆ และคูน้ำรอบห้องยังเป็นเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือโครงกระดูกขนาดยักษ์ของบาซิลิสก์ที่อยู่ตรงกลางห้อง รอนเดินเข้าไปใกล้กะโหลก ก่อนจะหักเขี้ยวออกมาอันหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่หยิบถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟออกมาวางที่พื้น

                   เธออยากลองไหม? รอนถามพลางยื่นเขี้ยวบาซิลิสก์ให้ เฮอร์ไมโอนี่รับมาอย่างลังเล

                   ตอนฉันทำลายล็อกเกตนั่น มันทำฉันแย่แทบตาย แต่ฉันเชื่อว่าเธอเข้มแข็งกว่าฉันนะเฮอร์ไมโอนี่ รอนพูดเสียงแผ่ว เฮอร์ไมโอนี่กำเขี้ยวในมือแน่น มืออีกข้างจับถ้วยไว้พลางเล็งเขี้ยวพร้อมแทง เธอได้ยินเสียงหวีดวิวในหู เสียงกระซิบที่ตอกย้ำความกลัวของเธอ ภาพพ่อแม่ แฮร์รี่ รอน และเพื่อนๆ ของเธอล้มตาย ภาพมัลฟอยแสยะยิ้มในฮู้ดสีดำสนิท แสงสีเขียววาบบาดตาเมื่อเขาร่ายคาถาพิฆาตใส่มักเกิ้ล เธอหลับตาแน่น ก่อนจะแทงลงไปเต็มแรง

    เธอได้ยินเสียงระเบิดเปรี๊ยะ เสียงกรีดร้องของใครสักคนจากที่ไกลๆ ควันที่ลอยออกจากรอยไหม้บนถ้วยนั้นกลิ่นเหมือนเนื้อคนกำลังไหม้ เฮอร์ไมโอนี่ถอยออกอย่างขยะแขยง ทันใดนั้น น้ำในคูน้ำรอบห้องก็ยกสูงขึ้นราวกับคลื่นยักษ์เตรียมโถมใส่เธอและรอน รอนลากเธอวิ่งไปจนสุดขอบห้อง คลื่นนั้นมีใบหน้าของโวลเดอร์มอร์ มันโถมใส่ทั้งคู่อย่างรุนแรงจนเธอเกือบล้ม รอนกอดเธอและเอาตัวบังไว้จนทุกอย่างกลับไปเงียบสงัดเหมือนเดิม

                   เสร็จไปอีกหนึ่งชิ้นแล้ว ไปหาแฮร์รี่กันเถอะ รอนบอก ก่อนจะจับมือเฮอร์ไมโอนี่เตรียมวิ่ง แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ก้าวขาออกจากห้อง ทั้งคู่ก็ต้องตัวแข็งทื่อด้วยความกลัวเมื่อได้ยินเสียง เสียงของโวลเดอร์มอร์ที่กำลังพูด ราวกับมันถูกเปล่งออกมาจากพื้นและกำแพง ออกมาจากในหัวของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ได้สติกลับมาเพียงเล็กน้อยตอนที่เสียงเย็นเยียบนั้นกล่าวทิ้งท้าย

                   ส่งตัวแฮร์รี่ พอตเตอร์มา แล้วพวกคุณจะไม่ต้องตาย คุณมีเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนที่กองกำลังของฉันจะพังถล่มฮอกวอร์ตให้ราบคาบ แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น...


                   แฮร์รี่ได้ยินเสียงกรีดร้องและเสียงโหวกเหวกของนักเรียนที่กำลังอพยพ แต่เขาไม่เหลือสติให้คิดเรื่องอื่นแล้ว แฮร์รี่นึกถึงคำของลูน่าที่ว่า คนที่มีชีวิตอยู่ไม่เคยได้เห็นรัดเกล้านี้ เขาจึงฉุกคิดถึงสุภาพสตรีสีเทา ผีประจำบ้านเรเวนคลอขึ้นมาได้ เขาใช้เวลาไปพักหนึ่งกว่าจะเกลี้ยกล่อมให้เธอยอมให้เบาะแสเขา ถึงแม้ว่าคำตอบที่ได้จะกำกวม แต่แฮร์รี่มั่นใจในสัญชาตญาณตัวเอง...แต่ถ้าเขาพลาด มันจะไม่มีวันพรุ่งนี้ให้พบเจออีกแล้ว คืนนี้ทุกอย่างจะต้องจบลง

                   ระเบียงที่คุ้นเคยนั้นว่างเปล่าร้างผู้คน แฮร์รี่เดินวนไปมา 3 รอบพลางตั้งสมาธิอย่างหนัก จนกระทั่งประตูเหล็กดัดสีดำปรากฎขึ้นบนผนังหิน มือของเขากำลังจะเอื้อมแตะที่จับพอดีในตอนที่รอนกับเฮอร์ไมโอนี่วิ่งหอบเข้ามาหยุดข้างๆ เขา

                   นายแน่ใจนะ? รอนถาม แฮร์รี่พยักหน้า

                   มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เรามี แฮร์รี่พูดเสียงเบา เฮอร์ไมโอนี่และรอนพยักหน้ารับ ทั้งสามคนเข้าไปในห้องต้องประสงค์ ประตูสีดำปิดสนิทตามหลังและเริ่มหายไปในตอนที่มัลฟอยกระชากมันเปิดออกอีกครั้งก่อนจะพุ่งตัวเข้าไป แครบ กอยล์ตามเข้าไปด้วย

                   ถึงแม้ข้างนอกจะเสียงดัง แต่ภายในห้องนี้เงียบกริบ มันเต็มไปด้วยสิ่งของที่ถูกทิ้งมากมาย ตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงตู้หนังสือสูงสิบเมตร มัลฟอยรู้จักห้องนี้ดี เพราะปีที่แล้วเขาแทบจะกินนอนอยู่ที่นี่เพื่อซ่อมตู้อันตรธาน เพียงแค่นึกถึงก็ทำให้เขารังเกียจตัวเองขึ้นมาแล้ว

                   พวกมันอยู่นั่น จัดการยัยเลือดสีโคลนก่อนเลยละกัน แครบพูดเสียงเหี้ยมพลางกระชับไม้กายสิทธิ์ในมือ ก่อนจะวาดไม้ร่ายคำสาปพุ่งตรงไปยังเฮอร์ไมโอนี่



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×