ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Draco & Hermione Fiction : This Girl Is Mine ✿

    ลำดับตอนที่ #22 : Chapter 22 : Enemy

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 854
      39
      23 ส.ค. 60

    T
    B

    ดวงตาสีน้ำตาลของเฮอร์ไมโอนี่ไร้ความรู้สึกใดๆ ไม่มีความโศกเศร้า เสียใจ หรือโกรธเกรี้ยว รถไฟกำลังแล่นผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวสดสวย ท้องฟ้าสีคราม และทะเลสาบระยิบระยับ ผู้คนรอบตัวเธอพูดคุยกันอย่างออกรสเกี่ยวกับปีหกที่กำลังจะมาเยือน แต่สิ่งเหล่านั้นดูห่างไกลจากเธอเหมือนพวกเขาอยู่คนละโลก โลกของเฮอร์ไมโอนี่ในตอนนี้...คือ ความผิดหวัง

              เฮอร์ไมโอนี่ นี่ช็อกโกแลตฟัดจ์คาราเมลของโปรดเธอไง แม่ฉันฝากมาให้แน่ะ กินเยอะๆ นะรอนพูด เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งทั้งๆ ที่รอนไม่ได้พูดเสียงดังเลย เธอยิ้มบางๆ

              “ขอบใจนะรอน ฝากขอบคุณคุณนายวีสลีย์ด้วยล่ะ

    เธอหยิบขนมกินอย่างใจลอย แฮร์รี่กับรอนมองหน้ากัน จินนี่ลดหนังสือพิมพ์ลง พลางมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาเป็นห่วง เธอพับหนังสือพิมพ์ลงกระเป๋า ตัดสินใจว่าจะไม่บอกเฮอร์ไมโอนี่เรื่องข่าวผู้เสพความตายที่ออกอาละวาดในตรอกไดแอกอน ทำเอาเหล่าบรรดาพ่อมดแม่มดหวาดผวาไม่กล้าออกจากบ้าน พบปะสังสรรค์ หรือแม้แต่การไปทำงานที่กระทรวงเวทมนตร์ก็ยังอันตรายในตอนนี้ เพราะจอมมารกลับมาอย่างสมบูรณ์แล้ว

    รถไฟเทียบชานชาลา บรรดานักเรียนทยอยลงจากรถ บรรยากาศดูหนักหน่วงและตึงเครียด ทุกคนรู้ดีว่าในตอนนี้ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัย เฮอร์ไมโอนี่ก้าวลงจากรถ สายตาเธอสะดุดกับผมบลอนด์ซีด ดวงตาสีฟ้าอ่อนที่จ้องมองเธอท่ามกลางกลุ่มคนมากมาย แววตาของเขาว่างเปล่า เมื่อกระพริบตา มัลฟอยก็หายไปแล้ว

    ฝ่ามืออุ่นๆ แตะลงบนไหล่เธอ เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเมื่อสบกับดวงตาสีฟ้าครามราวกับเพชรบลูไดมอนด์ ลีโอนาร์ด สเปนเซอร์ยิ้มอย่างสุภาพให้เธอ

              ไม่สบายหรือเปล่าครับ เฮอร์ไมโอนี่ ผมเห็นคุณยืนนิ่งนานแล้ว หน้าซีดด้วยเขาถามเสียงเบา ทว่าแฝงด้วยความเป็นห่วง นักเรียนเริ่มบางตาลง แฮร์รี่กับรอน และจินนี่ยืนมองเธอด้วยสายตาแบบเดียวกัน

              ฉันแค่หน้ามืด เพลียๆ น่ะจ้ะ คงพักผ่อนน้อยไปหน่อยเธอตอบพลางยิ้มอย่างสุภาพ

    ทั้งห้าคนเดินไปขึ้นรถลากเทียมด้วยเธสตรอลคันสุดท้าย ทุกคนเงียบกริบเสียจนเฮอร์ไมโอนี่นึกอึดอัด

              เอ่อ...ช่วงคริสต์มาส สเปนเซอร์ไปพักผ่อนที่ไหนมาเหรอจ้ะเฮอร์ไมโอนี่ถามเพื่อทำลายบรรยากาศน่าอึดอัด สเปนเซอร์ยิ้มบางๆ อย่างสุภาพตามแบบของเขา

              ผมช่วยคุณลุงตามล่าผู้เสพความตายครับ เป็นวันหยุดที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับผมสเปนเซอร์ตอบ รอนกับแฮร์รี่มองหน้ากัน

              ลูเซียส มัลฟอยถูกจับแล้วนี่ ตอนนี้กระทรวงหมายหัวใครไว้บ้างล่ะจินนี่ถาม เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้า เม้มปากแน่น

              เบลลาทริกซ์กับโรโดลฟัส เลสแตรงก์ เฟนเรีย เกรย์แบ็ก วอนเต็น แมคแนร์ ก็ประมาณนี้ล่ะ...อ้อ เกือบลืมคนสำคัญของเราเลยสเปนเซอร์กล่าวอย่างสบายๆ

              เดรโก มัลฟอย ศัตรูที่รักของเราไงล่ะครับ

     

    มัลฟอยหมุนแหวนทองคำขาวของเขาที่ตอนนี้มันเย็นเยียบกว่าปกติ เขายืนนิ่งอยู่หน้ากำแพงหนึ่งพลางหลับตา ตัดความกลัวและความสิ้นหวังในจิตใจ แม้มันจะเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดอยากจะทำ แต่ในตอนนี้ทุกอย่างในชีวิตของเขาพังทลายลงแล้ว

    สิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิตของเขาเพียงสองอย่าง บัดนี้ถูกพรากไปแล้วหนึ่ง คือหญิงสาวที่เขารักมากที่สุด เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ความเย็นชาและความเกลียดชังในแววตาของเธอยังแจ่มชัด มัลฟอยเข้าใจเธอ และคงจะดีถ้าเธอเกลียดเขา เพราะเขาสมควรแล้ว เขาเหลือเพียงสิ่งสุดท้าย ชีวิตของนาร์ซิสซา มัลฟอยที่อยู่ในกำมือเขา และมันจะหลุดหายไปทันทีที่เขาทำงานพลาด

    เมื่อมัลฟอยลืมตาขึ้น ประตูบานใหญ่ประดับด้วยเหล็กดัดงดงามก็ปรากฏ เขาหันไปมองซ้ายขวาเพื่อดูว่าปลอดคนหรือไม่ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ประตูปิดสนิทแน่นตามหลัง

     

    ข่าวการกลับมาของจอมมารทำให้ทุกคนหวาดผวา แฮร์รี่หายไปกับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์โดยที่ไม่บอกกล่าว ทำให้เฮอร์ไมโอนี่กับรอนเป็นกังวล ทั้งคู่พูดคุยกันถึงเรื่องนี้ขณะที่เดินไปยังห้องพักครู เพื่อเข้าร่วมประชุมพรีเฟ็คของบ้าน

    เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็พบกับพรีเฟ็คทั้งหกคนและศาสตรจารย์มักกอนนากัล เฮอร์ไมโอนี่หลีกเลี่ยงที่จะนั่งข้างมัลฟอย โดยหนีไปนั่งข้างๆ แฮนนาห์แทน มัลฟอยดูซีดเซียว และเรือนผมสีบลอนด์ของเขาแทบจะเป็นสีขาว ดวงตาสีฟ้าอ่อนของเขาดูเหนื่อยล้าและเย็นชา เขาไม่ได้เหลือบมองเธอแม้แต่น้อย ราวกับว่าเธอเป็นเพียงอากาศธาตุในสายตาของเขาเท่านั้น เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากแน่นเพื่อสกัดกั้นความเจ็บปวดและความคิดถึงจนแทบขาดใจ

              ฉันรู้ว่าพวกเธอคงจะได้ยินเรื่องของคนที่รู้ว่าใครที่กลับมาแล้วศาสตราจารย์มักกอนนากัลเริ่ม

              ฉันเสียใจที่ต้องบอกพวกเธอว่ามันเป็นความจริง เขากลับมาแล้ว ไม่มีที่ใดปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว แม้แต่ฮอกวอร์ต ผู้เสพความตายแทรกซึมเข้าไปได้ทุกที่ แม้แต่ที่ที่เธอคิดว่าปลอดภัยที่สุดก็ตามเมื่อศาสตราจารย์พูดจบ สายตาของพรีเฟ็คแทบทุกคนยกเว้นเฮอร์ไมโอนี่ก็เหลือบมองไปยังมัลฟอย ผู้ที่ยังคงสีหน้าเฉยชาไร้อารมณ์

              ฉันต้องการให้พวกเธอกวดขันนักเรียนและดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น ฉันไม่ต้องการความสูญเสียอีกแล้วศาสตราจารย์มักกอนนากัลกล่าวอย่างเหนื่อยล้า สายตาของเธอมองไปยังมัลฟอยราวกับรู้ว่าเขาเป็นอะไร เธอถอนหายใจเบาๆ

              เลิกประชุม ไปทำหน้าที่ของพวกเธอได้

     

              เธอไม่จำเป็นต้องไปกับหมอนั่นหรอกนะ เฮอร์ไมโอนี่

    รอนบอกอย่างกังวล เมื่อทั้งคู่ทานมื้อเย็นเสร็จก็ถึงเวลาตรวจโรงเรียน เฮอร์ไมโอนี่ต้องไปกับมัลฟอย ทำให้รอนรู้สึกกังวลไม่ใช่น้อยเพราะข่าวลือที่ว่ามัลฟอยเป็นผู้เสพความตายอย่างเต็มตัวแล้ว

              ฉันไม่เป็นไร นายดูแลตัวเองดีๆ เถอะเฮอร์ไมโอนี่บอกพลางพยายามยิ้มเพื่อให้รอนมั่นใจ

              ฉันละสงสัยจริงๆ ทำไมกระทรวงไม่จับไอ้หัวซีดนั่นให้มันเสร็จๆ ไป พวกเราจะได้หลับสบายกันบ้างสักหน่อยรอนบ่น เฮอร์ไมโอนี่ชะงักกึก

              ฉะ..ฉันต้องไปแล้วล่ะ เจอกันที่หอนะรอนเฮอร์ไมโอนี่บอกพลางวิ่งไปที่ห้องเรียนคาถาเก่า ทำให้รอนรู้สึกงงเล็กๆ

    เฮอร์ไมโอนี่วิ่งมาเรื่อยในขณะที่ในหัวเธอกำลังปั่นป่วน ความคิดที่ว่ามัลฟอยถูกจับไปอัซคาบันทำให้เธอว้าวุ่นและเจ็บแปลบในใจ ฉันไม่อยากให้เขาถูกจับ ฉันไม่อยากให้เขาถูกทรมาน....หรือแม้แต่ถูกฆ่า เธอคิดในใจ แต่ถ้าเขาไม่เลิกเป็น สักวันมือปราบมารหรือกระทรวงต้องจับตัวเขา หรือไม่ก็ฆ่าเขา น้ำตาอุ่นๆ ไหลออกมาด้วยความสับสน เฮอร์ไมโอนี่ปาดน้ำตาทิ้ง แต่แล้วพื้นใต้เท้าของเธอยวบลงไป แผ่นหินพลิกหมุน หัวใจของเธอหล่นวูบพร้อมๆ กับร่างกายของเธอที่กำลังจะร่วงลงไปใต้บันไดกล สู่ความมืดที่ไม่รู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่

    เสียงกรีดร้องของเธอยังไม่ทันหลุดจากปาก มือแข็งแรงจับแขนเธอไว้แน่น พร้อมกับดึงเธอออกก่อนที่จะร่วงลงไปในกับดัก เข้าสู่อ้อมกอดแข็งแกร่ง กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยทำให้เฮอร์ไมโอนี่ช็อก ดวงตาสีฟ้าของมัลฟอยเต็มไปด้วยความกังวล มือเรียวยาวของเขาแตะแก้มเธอเบาๆ ก่อนจะสำรวจใบหน้าเฮอร์ไมโอนี่อย่างเป็นห่วง

              “เป็นอะไรหรือเปล่า? เจ็บตรงไหนไหมน้ำเสียงของมัลฟอยดูเป็นห่วงเธอจริงๆ เฮอร์ไมโอนี่ยืนนิ่ง จ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าอ่อนที่เธอคิดถึงแทบขาดใจ

    มัลฟอยสบตาเธอ แล้วความเย็นชาก็กลับมาแทนที่อีกครั้ง มัลฟอยปล่อยเธอแล้วก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว เฮอร์ไมโอนี่ใจสลายอีกครั้ง ภาพเหตุการณ์ตอนควิดดิชคัพย้อนกลับมา เมื่อเธอนึกถึงสิ่งที่มัลฟอยทำลงไป เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้สึกโกรธ

              ขอบใจเธอกล่าวเสียงเรียบ ก่อนจะหันหลังเดินหนี

    มัลฟอยเดินทิ้งระยะห่างจากเธอ เฮอร์ไมโอนี่ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้ เธอรู้ดีว่าพ่อของเขาเป็นผู้เสพความตาย แต่เดรโก มัลฟอยที่เธอรู้จักเป็นคนที่อบอุ่น ถึงแม้ว่าเขาจะแสดงออกให้คนอื่นเห็นแต่ความเย็นชาก็ตาม

    เฮอร์ไมโอนี่ขึ้นไปยังหอดูดาว คืนนี้มืดสนิทและเงียบสงัด ไร้หมู่ดาวและดวงจันทร์หลบซ่อนหลังเมฆหนา เธอดับไฟที่ปลายไม้กายสิทธิ์ ก่อนจะยืนจับราวระเบียงแน่น ปล่อยให้สายลมเย็นพัดผ่าน มันหนาวเหลือเกินเมื่อไม่มีใครอีกคนอยู่ข้างๆ

              นายทำแบบนั้นทำไม.....เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเบาราวกับกระซิบกับสายลม แต่เธอรู้ว่ามัลฟอยได้ยิน เขาอยู่ในความมืด จ้องมองเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

              ฉันคือเดรโก มัลฟอย ฉันคือผู้สืบทอดตระกูลสายเลือดบริสุทธิ์ และฉันก็มีหน้าที่ที่ต้องทำมัลฟอยตอบเสียงเรียบ เฮอร์ไมโอนี่หันกลับไป เขายืนห่างจากเธอหลายสิบก้าว แต่เธอรู้สึกราวกับเขาอยู่ในโลกอีกใบ

              มันไม่ได้เกี่ยวกับสายเลือดเลยสักนิด! เดรโกเฮอร์ไมโอนี่ชะงัก เธอไม่ได้เรียกชื่อต้นของเขามานานขนาดไหนแล้วนะ มัลฟอยไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบสนอง เพียงแค่จ้องมองเธอนิ่งๆ เฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจลึกๆ รวมสติก่อนจะพูดต่อ

              มันไม่ได้เกี่ยวกับสายเลือดเลย นายคือเดรโก มัลฟอย นายมีสิทธิ์ที่จะเลือกเส้นทางชีวิตของนายนะ! นายไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เสพความตายเพียงเพราะพ่อของนายเป็น นายมีสิทธิ์ที่จะเลือก!!” เฮอร์ไมโอนี่แทบตะโกนใส่

    ความเงียบทิ้งตัวลงระหว่างทั้งคู่ นานจนเหมือนตราบชั่วนิรันดร์ จนกระทั่งมัลฟอยคลี่ยิ้มเหยียด ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะอย่างขมขื่น

              เธอจะไปรู้อะไร เกรนเจอร์มัลฟอยกล่าวเสียงเหยียด คำพูดที่ห่างเหินเสียดแทงใจเฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอยก้าวเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ รอยยิ้มของเขาทำให้เธอรู้สึกกลัว มัลฟอยเข้ามาใกล้จนใบหน้าห่างเพียงแค่คืบ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ใบหน้าหล่อเหลาทว่าเย็นชา ดวงตาสีฟ้าอ่อนสวย ผมบลอนด์ทองที่ตอนนี้ยุ่งกระเซิงตามแรงลม ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้จักชายตรงหน้าอีกแล้ว

              เธออาศัยอยู่ในโลกอันสดใสของเธอไปเถอะ เกรนเจอร์ อย่าเข้ามายุ่งกับเรื่องของฉันจะดีกว่า ในเมื่อเธอไม่รู้อะไรเลยมัลฟอยกระซิบ

              นายก็บอกฉันมาสิ....บอกฉันว่าฉันจะทำอะไรให้นายได้บ้างเฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงแตกพร่า น้ำตาอุ่นๆ ไหลอาบแก้ม มัลฟอยยิ้มเย็นชา

              อย่าเข้ามาในโลกของฉันก็พอ เกรนเจอร์....ให้ฉันกลับไปเป็นศัตรูตัวฉกาจของเธอและเพื่อนรักของเธอเหมือนเดิมนั่นแหละดีแล้ว…” มัลฟอยกล่าวเสียงเบาข้างหู....ถ้อยคำที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่แหลกสลายไม่มีชิ้นดี

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจทนแบกรับต่อไปได้อีก เข่าเธอทรุดลงบนพื้นหินเย็นเฉียบ น้ำตาไหลออกมาราวกับไม่มีที่สิ้นสุดเมื่อเขื่อนความอดกลั้นของเธอพังทลาย มัลฟอยหันหลังเดินลงจากหอดูดาวไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองแม้เพียงครั้งเดียว

     

    มัลฟอยก้าวลงบันไดขั้นสุดท้ายของหอดูดาว ก็พบกับเงาร่างหนึ่งยืนพิงกำแพง ดวงตาสีน้ำเงินเข้มแฝงความขบขันปนสมเพช สเปนเซอร์ยิ้มเยาะให้มัลฟอยอย่างสะใจ

              ช่างเป็นซีนที่บีบคั้นอารมณ์ดีจริงๆสเปนเซอร์กล่าวเยาะเย้ย มัลฟอยมองด้วยสายตาเรียบเฉย

              นายต้องการอะไรมัลฟอยถามอย่างไร้อารมณ์ ในใจของเขานึกห่วงเฮอร์ไมโอนี่ เธอร้องไห้หนักมาก เธอสะอื้นจนตัวโยนท่ามกลางสายลมเย็นบาดผิว มัลฟอยต้องหักห้ามตัวเองด้วยสติทั้งหมดไม่ให้เข้าไปกอดเธอแน่นๆ และขอโทษสำหรับความโง่เง่าของตัวเอง แต่เพื่อไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องรับอันตราย...ให้เธอเกลียดเขานั่นแหละดีแล้ว

              เป็นห่วงเฮอร์ไมโอนี่เหรอ เดรโก ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปรับเธอเองสเปนเซอร์ยิ้มอย่างสะใจ มัลฟอยกำมือแน่น กัดฟันกรอดด้วยความคับแค้น

              อย่ายุ่งกับเธอ!!” มัลฟอยแทบจะคำรามใส่ สเปนเซอร์หัวเราะ

              เข้าใจเล่นดีนี่ ยิ่งเธอยุ่งเกี่ยวกับนายน้อยมากเท่าไหร่ จอมมารยิ่งใช้เธอเป็นเครื่องมือไม่ได้มากเท่านั้น แถมยิ่งเธอเป็นฝ่ายภาคีนกฟีนิกซ์ เธอยิ่งห่างไกลจากนายมากเข้าไปอีก แล้วยิ่งเธอห่างไกลจากนายมากเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งปลอดภัยสินะสเปนเซอร์กล่าวพลางหัวเราะหึๆ

              ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงเรื่องอะไรมัลฟอยพูดอย่างรำคาญ พลางหันหลังจะเดินหนี

           ระวังตัวให้ดีล่ะ เดรโก อย่าเผลอล่ะ เพราะถ้านายเผลอเมื่อไหร่ ฉันจะฆ่านายเมื่อนั้นแหละสเปนเซอร์กล่าวเสียงเย็น มัลฟอยชะงัก ก่อนจะหันกลับมายิ้มเย็นยะเยือก ดวงตาสีฟ้าอ่อนฉายแววอาฆาต

                    นายก็ด้วย ลีโอ เพราะถ้าสงครามเริ่มเมื่อไหร่ ฉันจะฆ่านายเป็นคนแรกเลย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×