ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Draco & Hermione Fiction : This Girl Is Mine ✿

    ลำดับตอนที่ #21 : Chapter 21 : Rumour Has It

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.06K
      39
      23 ส.ค. 60

    T
    B

    วันคืนผ่านไปอย่างเชื่องช้าน่ารังเกียจ  เขาหายไป หายไปจากชีวิตเธอ สร้อยแหวนทองคำขาวที่ครั้งหนึ่งเฮอร์ไมโอนี่เคยมีความสุขทุกครั้งที่มอง บัดนี้มันทำให้เธอเจ็บปวดราวกับถูกคาถากรีดแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ปีห้าผ่านพ้นไปเหมือนภาพเบลอ เฮอร์ไมโอนี่เหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่างรถไฟ ทุ่งหญ้ากว้างสีเขียวและทะเลสาบเป็นประกายดูไร้ความหมาย ฉันกำลังกลับบ้าน เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างใจลอย มือของใครบางคนแตะมือเธอจนเฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง

              แฮร์รี่ จินนี่เฮอร์ไมโอนี่กระพริบตาเรียกสติก็จะแย้มรอยยิ้มอย่างฝืนใจ ทั้งรอนและเนวิลล์ก็มองมาทางเธออย่างสงสัย

              ฉันเรียกเธอไปเป็นสิบๆ รอบแล้วนะเฮอร์ไมโอนี่รอนบ่นก่อนจะเคี้ยวขนมตุ้ยๆ พร้อมส่งสายตาขุ่นๆ มาให้

    เอ่อ ขอโทษทีนะ ฉันไม่ได้ฟังน่ะ มีอะไรหรือเปล่าเฮอร์ไมโอนี่ถามพลางทำเสียงร่าเริงมากเกินไปนิด

    คืนพรุ่งนี้มีควิดดิชคัพน่ะ พ่อฝากชวนเธอไปด้วย ตอนนี้มี ฉัน แฮร์รี่ จินนี่ เนวิลล์ แล้วก็เฟร็ดกับจอร์จแล้ว ฉันถามเธอตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ เธอไม่ได้ฟังเลยหรอรอนถาม เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มแหยๆ ใจเธอไม่อยากจะไปเลยสักนิด แต่เธอไม่อยากให้เพื่อนๆ ต้องเป็นห่วงไปมากกวานี้

    ไปสิ น่าสนุกจะตายเฮอร์ไมโอนี่ยิ้มร่า รอนยิ้มกว้างก่อนจะโยนกล่องช็อกโกแลตมาให้เธอ

    กินไปสิ เธอเอาแต่อ่านหนังสือจนซูบไปหมดแล้ว กินไปเลย กินเยอะๆๆรอนบอกก่อนจะโยนขนมอีกสี่ห้าอย่างให้เธอ เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเจื่อนๆ อ้าปากจะปฏิเสธ แต่แฮร์รี่ขัดขึ้นมาก่อน

    รอนพูดถูกนะ เฮอร์ไมโอนี่ กินเข้าไปเลย เธอผอมลงไปมากเลยนะแฮร์รี่บอก ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกินเข้าไป จินนี่ยื่นแก้วน้ำฟักทองให้ ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่รับมาอย่างขอบคุณ จินนี่ก็เอียงมากระซิบข้างหู

    ฉันว่าฉันพอจะรู้แล้วล่ะ เรื่องที่มัลฟอยความจำเสื่อมน่ะจินนี่กระซิบ เฮอร์ไมโอนี่สำลักจนต้องดื่มน้ำฟักทองเข้าไปอึกใหญ่

    ว่าไงนะเฮอร์ไมโอนี่หันไปมอง จินนี่ยิ้มซุกซนพลางขยิบตา

    คืนนี้เราคงต้องมีปาร์ตี้ชุดนอนกันแล้วล่ะ

     

    เมื่อถึงบ้านโพรงกระต่าย คุณและคุณนายวีสลีย์ก็ต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยอาหารค่ำมื้อใหญ่ เฮอร์ไมโอนี่ต้องแสร้งทำเป็นสดใสร่าเริง ยิ้มและหัวเราะเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าในใจของเธอเศร้าขนาดไหน บางครั้งจินนี่ก็มองเธออย่างสงสาร เมื่อไม่มีใครสังเกต ความเศร้าก็กลับมาในดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง

    เมื่อปาร์ตี้ต้อนรับจบลง ทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าไปนอน เฮอร์ไมโอนี่กับจินนี่กล่าวราตรีสวัสดิ์กับทุกๆ คน เมื่อเข้าไปในห้องของจินนี่แล้ว จินนี่ก็ปราดไปที่ลิ้นชักเก็บของทันที เธอรื้อของอยู่สักพัก ก่อนจะหอบเอาหนังสือพิมพ์กองใหญ่ฝุ่นจับมาตั้งตรงหน้า

              เอาล่ะ เรามาย้อนรอยเรื่องของเดรโก มัลฟอยกันดีกว่าจินนี่เริ่ม เฮอร์ไมโอนี่มองอย่างงุนงงขณะที่จินนี่เริ่มแยกหนังสือพิมพ์ออก

              เดี๋ยวๆๆ นี่มันเรื่องอะไรกัน ไหนเธอบอกว่าเธอรู้แล้วไงล่ะเรื่องความจำเสื่อมของมัลฟอยน่ะเฮอร์ไมโอนี่ถาม จินนี่เหลือบมองพร้อมกับยิ้มซนๆ

              ฉันใช้เวลาทั้งคริสต์มาสกับการตามสืบเนี่ยล่ะ จนถึงได้รู้ว่าเดรโก มัลฟอยมีศัตรูตัวฉกาจที่สุดอยู่ เป็นคนที่มีแรงจูงใจที่สุดที่จะทำให้ชีวิตของเขาพังแบบนี้จินนี่บอก ก่อนจะกางหนังสือพิมพ์เก่าๆ ออก บนหน้าแรกลงวันที่ไว้เกือบสิบปีแล้ว มีรูปครอบครัวสองครอบครัวถ่ายร่วมกันพร้อมพาดหัวข่าวตัวใหญ่

              การจับมือกันของสองผู้นำวงการธุรกิจพ่อมดเฮอร์ไมโอนี่พึมพำ ในรูปนั้นมีมัลฟอยและสเปนเซอร์ ทั้งคู่ดูสง่างามสมกับเป็นเลือดบริสุทธิ์

              ใช่ ตอนนั้นคนที่รู้ว่าใครหมดอำนาจแล้ว ลูเซียส มัลฟอยต้องสร้างจุดยืนให้ตนเองกับครอบครัว การจับมือกันของสองตระกูลนี้ทำให้ตระกูลมัลฟอยพ้นคำกล่าวหาที่ว่าเป็นผู้รับใช้จอมมาร เพราะวินเซนต์ สเปนเซอร์ พ่อของลีโอนาร์ดน่ะ เป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนตร์ การลบล้างข้อกล่าวหาให้พันธมิตรอย่างลูเซียสก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

              พ่อของสเปนเซอร์หนุนหลังพ่อของมัลฟอยเหรอเฮอร์ไมโอนี่ถามพลางขมวดคิ้ว

              ใช่ ประมาณนั้นล่ะจินนี่บอกก่อนจะพับหนังสือพิมพ์เก็บ แล้วกางหนังสือพิมพ์อีกฉบับออก

              ผ่านไปเกือบสิบปี น่าจะช่วงประมาณที่เดรโก มัลฟอยกำลังจะเข้าเรียนปีหนึ่งที่ฮอกส์วอร์ต มีข่าวลือว่าคนที่รู้ว่าใครกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ผู้เสพความตายยังคงกระจัดกระจายกันอยู่รวมถึงลูเซียสด้วย ในปีนั้นที่วินเซนต์ สเปนเซอร์ถูกฆาตกรรม ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าใครฆ่าเขา ข่าวนี้ถูกปิดไว้แน่นหนามากจนไม่มีใครกล้าแพร่งพราย แต่ลูเซียส มัลฟอยเป็นบุคคลที่มีแรงจูงใจมากที่สุด เพราะทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจก่อนหน้านั้นไม่นาน

              “แต่ก็ไม่มีใครจับเขานี่เฮอร์ไมโอนี่ตั้งข้อสังเกต

              ใช่ ตระกูลมัลฟอยเรืองอำนาจมากในช่วงนั้นแถมยังไม่มีหลักฐานด้วย ขณะที่ตระกูลสเปนเซอร์ย้ายจากอังกฤษไปบัลแกเรีย สเปนเซอร์เข้าเรียนที่เดิร์มสแตรงก์ บางคนบอกว่าเป็นคำสั่งของรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ที่ต้องการให้สองตระกูลนี้อยู่ห่างๆ กัน แล้วพันธมิตรก็จบลงตอนนั้นล่ะจินนี่พูดก่อนจะพับเก็บหนังสือพิมพ์ เฮอร์ไมโอนี่นึกถึงครั้งแรกที่เจอมัลฟอย เด็กชายที่แสนจะอวดดีคนนั้นไม่เหมือนมัลฟอยที่เธอรู้จักเลย

              ประเด็นก็คือ...ตลอดเกือบสิบปีนั้น มัลฟอยกับสเปนเซอร์แทบจะเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน แน่ล่ะ....พอเกิดเรื่องขึ้น ทั้งคู่เป็นศัตรูที่เกลียดกันจนไม่มองหน้ากันเลยจินนี่สรุป เฮอร์ไมโอนี่เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวในหัว

              งั้นสเปนเซอร์ก็มีแรงจูงใจในการทำให้มัลฟอยความจำเสื่อมสินะ แต่เพื่ออะไรล่ะ...เฮอร์ไมโอนี่งึมงำ จินนี่หัวเราะหึๆ

              จะมีอะไรเจ็บปวดไปกว่าการที่ต้องถูกแยกจากคนรักล่ะจินนี่ถาม เฮอร์ไมโอนี่นิ่งเงียบขณะครุ่นคิด

    นั่นสินะ....จะมีอะไรเจ็บปวดไปมากกว่านั้นอีกหรือ....

     

    ควิชดิชคัพน่าตื่นตาตื่นใจเหมือนทุกครั้ง การแข่งขันระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสกับสเปนนั้นดุเดือดจนทำให้เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับลืมเรื่องราวที่เจ็บปวดไปครู่หนึ่ง เธอเจอวิกเตอร์ ครัมกับเพื่อนๆ ของเขาด้วย เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง พวกเธอก็ไปดื่มบัตเตอร์เบียร์อุ่นๆ คลายหนาวกัน

              ให้ตายสิ! ฉันไม่น่าเทฝรั่งเศสหมดกระเป๋าเลย เจ๊งแล้วววว!!!” เฟร็ดครวญครางพร้อมกับซดบัตเตอร์เบียร์ไปด้วย ขณะที่จอร์จยิ้มกว้างพลางโยนถุงเหรียญหนักอึ้งอย่างชอบใจ

              บอกแล้ว สเปนดุเดือดกว่าเยอะ เชือดฝรั่งเศสนิ่มๆ เลย ฮ่าๆๆๆๆๆจอร์จหัวเราะลั่น รอนผู้หมดเงินไปกับการพนันข้างฝรั่งเศสนั่งคอตกข้างๆ พี่ชาย แฮร์รี่หัวเราะพลางขยี้หัวเพื่อนซี้ จินนี่มุ่ยหน้าอย่างไม่ชอบใจ

              เรื่องนี้ถึงหูแม่แน่ๆจินนี่บอก ทำเอาจอร์จสำลักบัตเตอร์เบียร์จนมันพุ่งออกจากจมูก ก่อนจะไออย่างเอาเป็นเอาตาย แฮร์รี่หัวเราะหนักกว่าเดิมโดยมีรอนร่วมผสมโรง

    เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มขำขณะมองเรื่องตลกเล็กๆ บนโต๊ะนี้ จนกระทั่งมีเสียงระเบิดดังลั่นพร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก เสียงหัวเราะจางลงทันที ทุกคนวางแก้วลงแล้วลุกขึ้น

              ไม่ใช่เสียงพลุฉลองของพวกสเปนแน่ๆเฟร็ดพูดอย่างขรึมๆ จอร์จพยักหน้ารับ

              รอน แฮร์รี่พาจินนี่กับเฮอร์ไมโอนี่ไป ฉันกับเฟร็ดจะไปหาพ่อจอร์จบอกก่อนจะชักไม้กายสิทธิ์ออกมา เฟร็ดทำตาม แล้วทั้งคู่ก็วิ่งสวนกับฝูงชนที่กำลังวิ่งหนีตายกันอยู่

              ไปกันเถอะแฮร์รี่บอกพลางจับมือจินนี่แน่นแล้ววิ่งออกไป ทำเอารอนมองตาเขม็ง

              ไม่ใช่เวลามาหวงน้องสาวนะรอน ไปกันได้แล้วเฮอร์ไมโอนี่บอก รอนพยักหน้าเนิบๆ ก่อนจะคว้ามือเฮอร์ไมโอนี่วิ่งออกไปบ้าง

    ผู้คนกำลังแตกตื่นกัน เสียงระเบิดดังขึ้นติดๆ เธอพยายามเบียดตัวแทรกผ่านผู้คนไป แต่แรงเบียดที่มากกว่าทำให้มือของเธอหลุดจากมือรอน

              เฮอร์ไมโอนี่!” เธอได้ยินเสียงรอนเรียก เฮอร์ไมโอนี่พยายามจะเดินไปหาเขา

              รอน!!” เธอเรียก รอนกวาดสายตามองหาเธออย่างตระหนก เฮอร์ไมโอนี่พยายามชูมือขึ้นแต่แรงกระแทกอย่างแรงจากด้านหลังทำเอาเธอเซไปโดนเสาเต้นท์จนมึน กว่าสติเธอจะกลับมา รอนก็หายไปแล้ว

    เสียงระเบิดดังใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เฮอร์ไมโอนี่เห็นเปลวเพลิงลามเลียจากเต้นท์หนึ่งไปอีกเต้นท์หนึ่ง กลุ่มคนในชุดคลุมสีดำยาวและฮู้ดปิดหน้าจนมิดที่เธอคุ้นเคยทำเอาความกลัวของเธอพุ่งขึ้นมา เฮอร์ไมโอนี่พยายามวิ่งหนีอีกครั้ง จนกระทั่งสายตาสะดุดกับใครคนหนึ่งที่อยู่ไมไกลจากเธอเลย

    เขาไม่ได้ปิดหน้าเหมือนผู้เสพความตายคนอื่นๆ ดวงตาสีฟ้าอ่อนของเขาดูเย็นชากว่าทุกครั้งที่เฮอร์ไมโอนี่เคยสัมผัส ผมบลอนด์ของเขาเรียบแปล้ตามแบบคุณชาย เขาสวมชุดสูทเนี้ยบสีดำตัดกับผิวขาวของเขา ใบหน้าหล่อเหลาบัดนี้ไม่เหลือความอบอุ่นอีกต่อไปแล้ว

    เฮอร์ไมโอนี่หยุดนิ่งขณะที่ผู้คนกำลังวิ่งหนีเอาตัวรอด เธอจ้องมองเขา คนที่เธอคิดถึงแทบขาดใจ เธอก้าวเข้าไปอยากจะสัมผัสเขาอีกสักครั้ง แต่เสียงแพนซี่ดังขึ้นมาในหัวของเธอ

    ...ฉันได้ยินมาจากครอบครัวของฉัน มีข่าวลือว่าเดรโกจะต้อง...ร่วมมือกับคนที่รู้ว่าใคร ตอนนี้นาร์ซิสซา แม่ของเขาก็หายตัวไปพร้อมกับเขาด้วย ข่าวลือหนาหูพวกนั้นบอกว่าเขาจะต้องสานต่อภารกิจของพ่อเขา...

    เฮอร์ไมโอนี่หยุดเดิน น้ำตาอุ่นๆ ไหลอาบแก้มเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วเธอไม่อาจจำได้ ดวงตาสีฟ้าอ่อนของมัลฟอยสบกับดวงตาของเธอ ไม่มีความรู้สึกดีๆ เหลืออยู่ในนั้นแม้แต่น้อย เขาไม่ได้พยายามจะพูดอะไร แค่ยืนมองเธอนิ่งๆ ผู้เสพความตายกำลังเผาเต้นท์และเสกตรามารขึ้นฟ้าในขณะที่เขาจ้องมองเธอ

    ปลายนิ้วเฮอร์ไมโอนี่ลูบแหวนทองคำขาวเนื้อเกลี้ยงที่ตอนนี้มันเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ก่อนจะกระตุกสร้อยออกมา โลหะชั้นดีส่งแสงนุ่มนวลออกมาเมื่อกระทบกับแสงจันทร์และแสงเพลิง เธอสบตาเขาอีกครั้ง มัลฟอยยังไม่แสดงสีหน้าใดๆ เฮอร์ไมโอนี่คลี่ยิ้มเหยียดทั้งๆ ที่น้ำตายังไม่แห้งเหือด ริมฝีปากของเธอขยับช้าๆ อย่างจงใจให้มัลฟอยอ่านปากเธอได้ถนัด

              ฉันไม่ต้องการสิ่งของใดๆ....จากผู้เสพความตาย….”

    เมื่อสิ้นคำ เฮอร์ไมโอนี่ก็โยนมันไปทางมัลฟอย มันร่วงลงตรงแทบเท้าของเขา ผู้เสพความตายคนอื่นๆ ไม่ทันสังเกตมัน เฮอร์ไมโอนี่มองเขาเป็นครั้งสุดท้าย เธอไม่รู้ว่ามันสายตาของเธอจะสื่ออารมณ์ใด โกรธ? เสียใจ? ผิดหวัง? หรือทั้งหมด

    เฮอร์ไมโอนี่หันกลับไปก่อนจะออกวิ่งไปสุดฝีเท้าโดยไม่หันกลับไปมองอีก

     

    มัลฟอยเก็บสร้อยเงินที่มีแหวนประจำตระกูลของเขาห้อยอยู่ขึ้นมา ผู้เสพความตายในคืนนี้มีหน้าที่แค่มาสร้างความวุ่นวายและเสกตรามารเพื่อประกาศสงครามเท่านั้น งานของเขาในคืนนี้เสร็จสิ้นแล้ว ทุกคนในงานหนีหายไปหมดเหลือเพียงซากปรักหักพังและควันไฟ

              ไปได้แล้วมัลฟอยพึมพำขณะที่สวมสร้อยเส้นนั้นแล้วเก็บมันไว้ในเสื้อ ผู้เสพความตายคนอื่นๆ พยักหน้ารับก่อนจะหายตัวไปทีละคนสองคน จนกระทั่งเหลือมัลฟอยคนเดียว ชั่วขณะหนึ่งที่ความเย็นชาหายไปเหลือเพียงความปวดร้าว เขามองดูทางที่เฮอร์ไมโอนี่วิ่งหนีเขาไปจนลับตา น้ำตาหยดหนึ่งไหลอาบแก้มเขา ก่อนที่มันจะหายไปอย่างรวดเร็วพอๆ กับตอนที่มันปรากฎมา

              ลาก่อน เฮอร์ไมโอนี่ ฉัน...ไม่สามารถอยู่กับเธอได้อีกแล้ว” 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×