สวัสดีค่า วันนี้แค่อยากจะมาแนะนำการสอบเข้าอักษรศาสตร์CU ให้กับรุ่นน้องที่สนใจนะคะ เอาเป็นว่าสอบเข้ายังไงคงจะรู้กันแล้ว ขอตัดตอนมาสอบสัมภาษณ์ดีกว่า
พอรู้ผลว่าติดปั๊บก็ดีใจเว่อร์เลยค่ะ สัญญากับตัวเองว่าถ้าติดต้องมาเขียนแนะแนวทางให้รุ่นน้องต่อ ๆ ไป วันที่มาสัมภาษณ์เป็นวันศุกร์ค่ะ ออกจากบ้านแต่เช้าเพราะเพื่อนเตือนแล้วว่าไม่มีที่จอดรถ เรานั่งรถเมล์มาก็เลยไม่มีปัญหา พอมาถึงก็เจอเพื่อนเก่าที่อยู่ในเตรียมใหญ่ เจอเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรมาก รุ่นพี่ก็ประกาศให้เข้าแถวแล้วค่ะ ทำไงได้เรามาช้าเลยอดทานมื้อเช้าเลย เค้านัดเจ็ดโมงครึ่ง อากาศแจ่มใสท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่ท้องหิวมาก พี่ก็ให้เราดูกลุ่มว่าอยู่กลุ่มไหน เราอยู่กลุ่มสิบเอ็ด เพื่อน ๆ เรากระจายกันไปแต่ละกลุ่มเลยค่า เอาเป็นว่าในกลุ่มเรา เราไม่รู้จักใครเลย พอสักพัก พี่ก็เรียกให้ขึ้นไปนั่งในห้องรับรองรอตรวจเอกสาร เท่าที่สังเกตเด็กเตรียมก็ยังติดกันเข้ามาเป็นกลุ่มใหญ่อยู่ดี แต่แอบดีใจนะ มีคนทักว่าโรงเรียนเราก็ติดเยอะเหมือนกัน นั่งรอสักพัก พี่ก็มาเรียกไปตรวจเอกสาร เราเป็นคนแรกของกลุ่มตรวจเสร็จก่อนเพื่อน พอเสร็จก็มานั่งในห้องรับรองอีก รอสัมภาษณ์ รอแล้วรอเล่า ห้องอื่นสัมภาษณ์เร็วมากแต่ห้องเราสัมภาษณ์นานมาก แต่ทุกคนที่ออกมาก่อนก็บอกว่าไม่น่ากลัว อาจารย์ใจดี แต่เราก็ยังกลัว พอถึงตาเรา เราก็เดินเข้าไปพร้อมพอร์ท สมองสั่งการว่าวางของก่อนนะแล้วค่อยไหว้ เพราะเพื่อนเราที่สัมภาษณ์ห้องอื่นเจออาจารย์ดุเอาเพราะไหว้มือเดียว พอนั่งปุ๊บก็ส่งยิ้มให้อาจารย์ทั้งสองท่าน อาจารย์ก็ให้แนะนำตัว เราก็บอกชื่อบอกโรงเรียน ร กับควบกล้ำชัด ๆ แต่เราเป็นคนออกเสียงสองตัวนี้ชัดอยู่แล้วเลยไม่ต้องพะวงมาก แล้วอาจารย์ท่านหนึ่งก็ถามว่า โรงเรียนเราอยู่ที่ไหน เราก็ตอบว่าแถวเขตสะพานสูงค่ะ อาจารย์ก็ถามต่อว่า ไกลนะ แล้วมาเรียนที่นี่ทำไง เราก็บอกว่ามีญาติแถวเยาวราชค่ะ กะจะย้ายมาพักอยู่ ตอบปุ๊บก็ใจหายวาบ เพราะอาจารย์ท้วงขึ้นมาว่า ย้ายเลยเหรอ เราก็เลยเปลี่ยนแผน เป็นแผนMRT กับ Airport Link แทน เลยจบได้ลงตัวหน่อย แม้จะยังโดนติงน้อย ๆ ว่าก็ไกลอยู่ดี ต่อมาอาจารย์ก็ดูพอร์ทเราไปเรื่อย ๆ ไปสะดุดตรงคติประจำตัวเรา เราเลือกคติเกี่ยวกับต้องลงมือทำถึงจะเข้าใจจริง ๆ อะไรประมาณนี้ อาจารย์ท่านก็ถามว่าทำไมเลือกคตินี้ เราก็ตอบไปตามความเป็นจริง ต่อมา อาจารย์ก็ถามว่าที่โรงเรียนเก่าทำกิจกรรมไรบ้าง ก็เข้าทางเราเลยเพราะเราอยู่EPมีกิจกรรมแสดงละครทุกเทอม เราก็เลยตอบตามตรง อาจารย์ก็เลยถามต่อเลยว่า อยู่โครงการภาษาอังกฤษแล้วพอเขียนเรียงความภาษาไทยยาว ๆ ได้มั้ยคะ เราก็ตอบอย่างมั่นใจว่า ได้ค่ะ เพราะหนูยังเรียนวิชาภาษาไทยอยู่ด้วยตลอดเวลาที่เรียนEPอาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร ต่อมาก็ถามว่าโตขึ้นอยากทำงานอะไร เราก็ฝันเว่อร์อยากเข้าพวกUNESCO UNEP อาจารย์ก็ยิ้มแล้วบอกว่ามันก็ยากนะ แล้วก่อนหน้าจะเข้าทำงานที่นั่นได้จะทำอะไร เราก็ไม่เคยคิดง่ะนะ แต่งานหนึ่งที่อยากเป็นมากก็คืออาจารย์มหาวิทยาลัย เลยตอบไป อาจารย์ก็ยิ้มแล้วก็แชร์ประสบการณ์ตรงของพวกท่านให้ฟัง ว่าอย่างน้อยก็จบโทจบเอก เราก็เตรียมใจแล้วล่ะค่ะ หนูคงต้องเรียนอีกนาน เสร็จแล้วอาจารย์ก็เปิดพอร์ทไปถึงหน้าเกียรติบัตร เราแข่งอ่านทำนองเสนาะได้เหรียญทอง อาจารย์เลยถามว่าอยู่EP ทำไมถึงไปแข่งได้ เราก็ตอบไป อาจารย์ก็ยิ้มแล้วถามว่ายากไหม เราก็บอกว่าฝึกอยู่นานอยู่ อาจารย์ก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เป็นอันเสร็จการสัมภาษณ์ ขอบคุณอาจารย์แล้วก็เดินออกจากห้อง ตัวเราเองก็ไม่รู้ว่าจะติดรึเปล่า แต่รุ่นพี่หลายคนย้ำอยู่เสมอว่าถ้าหนูไม่ไปกรี๊ดใส่หน้ากรรมการก็ติดหมดค่า เราก็เลยภาวนาขอให้เป็นไปเช่นนั้นด้วยเถิด เป็นอันจบวันสัมภาษณ์อักษรศาสตร์ ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ของเรา
ปล. พอออกมาเพื่อหลายคนแอบแซวว่าเราสัมภาษณ์นานมาก
ก็็ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ที่จะเข้านะคะ พยายามเข้าไว้นะ ถ้าเราได้เข้าจริง ๆ หนูก็ฝากตัวเป็นรุ่นน้องของรุ่นพี่ด้วย แล้วก็จะเป็นรุ่นพี่ของรุ่นน้องต่อ ๆ ไปนะคะ ขอบคุณค่ะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น