ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 10 (ต่อ) ชินแชยองร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของลีชิน
ตอนที่ 10 (ต่อ)
ชินแชยองไม่ค่อยทานข้าวเพราะคิดถึงลีชิน องครักษ์หญิงที่ดูแลเธอ จึงหาอาหารและยามาให้ทาน และก็บอกชินแชยองว่า "เตรียมตัวให้พร้อม เพราะหลังจากพิธีเจริญพรรษาเสร็จสิ้นแล้ว พระองค์จะกลายเป็นแม่ของลูกที่จะเป็นรัชทายาทแห่งราชวงศ์" ชินแชยองทำหน้าสงสัย องครักษ์หญิงยังบอกอีกว่า "เมื่อทั้งสองพระองค์ทรงบรรลุนิติภาวะ ราชวงศ์และประชาชนเกาหลีจะรอคอยการประสูติของเชื้อพระวงศ์ และเมื่อไม่นานมานี้ พระพันปี พระราชา และพระราชินีได้หารือกัน เกี่ยวกับการอยู่ห้องเดียวกันเพคะ" ชินแชยองทำหน้าตื่นๆ
ลีชินกลับเกาหลีโดยไม่แจ้งให้ทางวังรู้ ทำให้ชินแชยองได้เจอกับลีชินในสภาพที่เพิ่งตื่นนอนเพราะพิษไข้ เขายิ้มให้ แต่เธอไม่ยิ้มตอบ ลีชินดึงชินแชยองให้หันมาเผชิญหน้ากัน และบอกด้วยเสียงนุ่มนวล "ฉันเข้าใจ ฉันคิดว่าครั้งหน้าเราจะไปด้วยกันสองคน" ชินแชยองเหมือนได้น้ำทิพย์มาชโลมใจ สะอื้นไห้ในอ้อมกอดของลีชินอย่างอบอุ่น องครักษ์สองนางที่คอยดูแล พากันซับน้ำตากับความซาบซึ้งของทั้งสอง
ลีชินได้รับคำชมจากพระพันปีและพระราชา ที่การเจรจาของเขากับประเทศไทย เป็นที่ประทับใจของสื่อมวลชนทั่วโลก ลีชินบอกว่า ถ้าไม่มีข้าหลวงที่คอยดูแลและช่วยเหลือเขาทุกอย่าง งานจึงราบรื่นไปด้วยดี ทำให้ข้าหลวงปลื้มใจเป็นอย่างมาก
มินโฮรินยังตัดใจจากลีชินไม่ได้ เธอจึงไปหาเฮจังกุง และให้หล่อนเล่าเรื่อง คามิลล่าสหายของเจ้าหญิงไดอาน่าให้ฟัง เฮจังกุงได้ยินเช่นนั้นก็พอจะรู้ว่า มินโฮรินต้องการอะไร ลียูลเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน จึงบอกให้เฮจังกุงรู้ว่า มินโฮรินเป็นรองประธานของชมรมขี่ม้า โดยมีชินแชยองและเขาเป็นสมาชิกใหม่ มินโฮรินบอก "คนในชมรมไม่เห็นด้วย ที่เจ้าหญิงพระชายาจะมาอยู่ในชมรม แต่ฉันยืนกรานให้เจ้าหญิงพระชายาอยู่ในชมรมขี่ม้าของราชวงศ์คะ" เฮจังกุงยิ้มอย่างรู้ทัน ลียูลก็รู้ทันความคิดของมินโฮริน
คังอินขับรถมาส่งมินโฮริน เขาถามเธอเรื่องลีชินที่เธอยังรักและสนใจลีชินอยู่ คังอินเตือนมินโฮรินให้เลิกยุ่งกับลีชิน เพราะเขาแต่งงานแล้ว เขาคงตัดความสัมพันธ์ที่มีต่อคุณออกแล้ว คุณทำแบบนี้มีแต่จะทำร้ายตัวเอง มินโฮรินไม่สนใจจะฟัง เธอเปิดประตูลงจากรถไปทันที
ชินแชยองไม่ค่อยทานข้าวเพราะคิดถึงลีชิน องครักษ์หญิงที่ดูแลเธอ จึงหาอาหารและยามาให้ทาน และก็บอกชินแชยองว่า "เตรียมตัวให้พร้อม เพราะหลังจากพิธีเจริญพรรษาเสร็จสิ้นแล้ว พระองค์จะกลายเป็นแม่ของลูกที่จะเป็นรัชทายาทแห่งราชวงศ์" ชินแชยองทำหน้าสงสัย องครักษ์หญิงยังบอกอีกว่า "เมื่อทั้งสองพระองค์ทรงบรรลุนิติภาวะ ราชวงศ์และประชาชนเกาหลีจะรอคอยการประสูติของเชื้อพระวงศ์ และเมื่อไม่นานมานี้ พระพันปี พระราชา และพระราชินีได้หารือกัน เกี่ยวกับการอยู่ห้องเดียวกันเพคะ" ชินแชยองทำหน้าตื่นๆ
ลีชินกลับเกาหลีโดยไม่แจ้งให้ทางวังรู้ ทำให้ชินแชยองได้เจอกับลีชินในสภาพที่เพิ่งตื่นนอนเพราะพิษไข้ เขายิ้มให้ แต่เธอไม่ยิ้มตอบ ลีชินดึงชินแชยองให้หันมาเผชิญหน้ากัน และบอกด้วยเสียงนุ่มนวล "ฉันเข้าใจ ฉันคิดว่าครั้งหน้าเราจะไปด้วยกันสองคน" ชินแชยองเหมือนได้น้ำทิพย์มาชโลมใจ สะอื้นไห้ในอ้อมกอดของลีชินอย่างอบอุ่น องครักษ์สองนางที่คอยดูแล พากันซับน้ำตากับความซาบซึ้งของทั้งสอง
ลีชินได้รับคำชมจากพระพันปีและพระราชา ที่การเจรจาของเขากับประเทศไทย เป็นที่ประทับใจของสื่อมวลชนทั่วโลก ลีชินบอกว่า ถ้าไม่มีข้าหลวงที่คอยดูแลและช่วยเหลือเขาทุกอย่าง งานจึงราบรื่นไปด้วยดี ทำให้ข้าหลวงปลื้มใจเป็นอย่างมาก
มินโฮรินยังตัดใจจากลีชินไม่ได้ เธอจึงไปหาเฮจังกุง และให้หล่อนเล่าเรื่อง คามิลล่าสหายของเจ้าหญิงไดอาน่าให้ฟัง เฮจังกุงได้ยินเช่นนั้นก็พอจะรู้ว่า มินโฮรินต้องการอะไร ลียูลเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน จึงบอกให้เฮจังกุงรู้ว่า มินโฮรินเป็นรองประธานของชมรมขี่ม้า โดยมีชินแชยองและเขาเป็นสมาชิกใหม่ มินโฮรินบอก "คนในชมรมไม่เห็นด้วย ที่เจ้าหญิงพระชายาจะมาอยู่ในชมรม แต่ฉันยืนกรานให้เจ้าหญิงพระชายาอยู่ในชมรมขี่ม้าของราชวงศ์คะ" เฮจังกุงยิ้มอย่างรู้ทัน ลียูลก็รู้ทันความคิดของมินโฮริน
คังอินขับรถมาส่งมินโฮริน เขาถามเธอเรื่องลีชินที่เธอยังรักและสนใจลีชินอยู่ คังอินเตือนมินโฮรินให้เลิกยุ่งกับลีชิน เพราะเขาแต่งงานแล้ว เขาคงตัดความสัมพันธ์ที่มีต่อคุณออกแล้ว คุณทำแบบนี้มีแต่จะทำร้ายตัวเอง มินโฮรินไม่สนใจจะฟัง เธอเปิดประตูลงจากรถไปทันที
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น