คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ของขวัญ 100%
เป็นอีกวันหนึ่งที่เธอวิ่งวุ่นจนหัวหมุน
ยิ่งใกล้วันครบรอบ 50ปีของ‘เดอะปาร์ค’แล้วเธอยิ่งเหนื่อย
เธอต้องประสานงานกับทุกแผนกเพื่อให้งานนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดและงานนี้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่
มีบริษัทเล็กใหญ่มาร่วมแสดงความยินดีมากมาย รวมถึง‘โรงแรมอันเดอร์บีช’ด้วย
ไม่รู้ว่างานนี้‘เขา’จะมาเองหรือเปล่า แต่ลึกๆในใจเธอ เธออยากให้เขามา...
“เข้าไม่ได้นะคะ วันนี้คุณดุจดาวไม่รับแขกค่ะ”
เสียงเลขาคนสวยของดุจดาวดังอยู่หน้าห้อง
แต่คงไม่ทันแล้ว
“ดุจดาว คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการร่วมงานกับเอชเฮทแบรนด์โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการนะ!”
ตาแก่คมกริช
หนึ่งในคณะกรรมการบริหารงานเอ่ยถามเธอด้วยความกรุ่นโกรธ แต่ก่อนที่เธอจะได้ตอบไปเลขาของเธอก็ชิงพูดก่อน
“ขอโทษค่ะคุณดุจ ให้ดิฉันเรียก-ก”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“ค่ะ”
เมื่อเลขาของเธออกไปแล้ว
ก็ได้เวลาที่จะแก้ข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นจริงเลย
“ทำไมดุจจะทำไม่ได้ค่ะคุณคมกริช ไหนบอกเหตุผลหน่อยสิ”ถ้าไม่มีเหตุผลที่ดีพอนะ
เราคงได้เห็นดีกันแน่คุณคมกริช เธอรำพึงในใจ
“ก็อย่างที่ผมบอก ถึงคุณจะเป็นผู้บริหารมีสิทธิ์ในเดอะปาร์คมากกว่าพวกผม
แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธใครโดยปราศจากการยอมรับจากคณะกรรมการ
คุณไม่ควรทำอะไรโดยพลการนะคุณดุจดาว”
อืม
เป็นเหตุผลที่เข้าท่าแหะ แต่ตาแก่นี่คงลืมอะไรไปบางอย่าง
“ค่ะ ที่คุณพูดมาก็ถูก”
“หึ ถ้าคุณไม่แก้ไขกรณีนี้โดยด่วน
ผมจะเอาเรื่องเข้าที่ประชุมแล้วปลดคุณออกจากตำแหน่ง แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
การที่เธอมาบริหารงานแทนพ่อของเธอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
เธอต้องพิสูจน์ตัวเองมาเป็นปี
แล้วทำไมตาแก่พวกนั้นต้องจ้องจะจับเธอลงจากตำแหน่งทุกครั้งด้วยนะ!
“เดี๋ยวก่อนสิคะคุณกริช”
“มีอะไรอีก”
“ฉันว่าคุณลืมอะไรไปบางอย่าง”
“ผมว่าเราคุยกันหมดแล้วนะครับ”พูดจบพร้อมกับแสยะยิ้มให้แล้ว พร้อมกับหมุนตัวเตรียมออกจากห้องไป
กึก
“แต่ฉันว่าคุณลืมอะไรไปอย่างหนึ่ง
ตามกฎของเรา หากลูกค้าไม่มีคุณสมบัติครบตามที่บริษัทกำหนด ทางบริษัทสามารถปฏิเสธการร่วมงานได้เลยโดยปราศจากการลงความเห็นจากคณะกรรมการ
ฉันว่าฉันทำตามกฎของบริษัทนะคะ”
คมกริชหันมาพร้อมกับเพลิงโทสะในดวงตา
ตอนนี้เขารู้สึกเสียหน้ามาก
“งั้นผมขอตัวก่อน”เขาไม่อยากจะอยู่ในห้องนี้ต่ออีกสักวินาทีเดียว!
“เดี๋ยวก่อนสิคะ
จะรีบไปไหน”
“มีอะไรอีก
ผมจะไปทำงาน”น้ำเสียงของเขาโกรธกรุ่นขึ้นเรื่อยๆตามแรงอารมณ์ที่เขาพยายามจะเก็บไว้
“จะเอาฉันลงจากตำแหน่งน่ะ
ไม่ง่ายนะคะ ฉันพิสูจน์ตัวเองมาเป็นปี อ้อ จะทำอะไรก็ระวังหน่อยนะ
อย่าคิดว่าทำอะไรไว้แล้วคนอื่นไม่รู้ ระวังจะไม่มีที่ยืนในบริษัทล่ะ”
“นี่ นี่
แกขู่ฉันหรอ!”
“ฉันไม่ได้ขู่
แต่ฉันเอาจริง! เชิญค่ะ”
ปัง
------------------------------------------------------------------
พอพ้นจากหน้าประตูไปแล้ว
คมกริชก็เดินกลับห้องตัวเองอย่างเร่งรีบ
เขาไม่เคยเจอใครที่พูดไม่ไว้หน้าเขาอย่างนี้มาก่อน ยิ่งเป็นลูกของคนที่เขาเกลียดแสนเกลียด!
เหอะ
อย่าคิดว่าจะลอยหน้าลอยตาอยู่ในบริษัทนี้ได้นานเลย เขานี่แหละจะเป็นคนดึงมันลงมา
และขยี้มันให้แหลกสลายคามือเขา ด้วยตัวเขาเอง!
“บ้าเอ้ย”
------------------------------------------------------------------
ดุจดาวหลับตาลง
พร้อมกับถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม เธอไม่อยากเป็นศัตรูกับคมกริช แต่ทุกครั้งที่เจอกัน
เธอมักจะควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้
เธอรู้มาตลอดว่าเขาไม่ชอบเธอและพยายามเอาเธอลงจากตำแหน่ง และมีบางอย่างที่ไม่ปกติในสิ่งที่เขาทำ
ทำให้เธอระแวงทุกครั้งที่พบหน้า ปัญหาก็คือเธอไม่มีหลักฐานมัดตัวคนผิดนะสิ!
ตื๊ด ตื๊ด
“สวัสดีค่ะ
ดุจพูดค่ะ”
[สวัสดีครับ
ผมแมทธิวนะครับ]
“สวัสดีค่ะคุณแมท
เป็นยังไงบ้างคะสบายดีไหม”
‘แมทธิว’หรือ ‘แมท’ที่ดุจดาวกำลังพูดสายอยู่นั้น
เป็นคนที่ดุจดาวเคยคบเพราะอยากจะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน ดุจดาวเบื่อ ท้อและอยากจะลืมเหนือลิขิต
เธอจึงตัดสินใจที่จะลองเปิดรับใครสักคนเขามาในชีวิต นั่นก็คือแมทธิว
แต่นานวันเข้า
ความสัมพันธ์ของดุจดาวและแมทธิวไม่คืบหน้าอย่างที่ควรจะเป็น
ต้นเหตุก็มาจากเธออีกเช่นเคย เธอไม่เคยลืมเหนือลิขิต!
ดุจดาวเลยตัดสินใจที่จะเลิกกับแมทธิวและเป็นจังหวะเดียวกันที่ดุจดาวเริ่มมั่นใจว่าแมทธิวชอบเธอ
แต่ดุจดาวไม่ต้องการให้แมทธิวมาเสียเวลากับเธอ
ดุจดาวจึงสารภาพความจริงกับแมทธิวทุกอย่างว่าเธอไม่อาจรักแมทธิวได้
และคิดกับแมทธิวแค่เพื่อนมาตลอดเวลาที่คบกัน ดุจดาวพยายามที่จะรักแมทธิว
แต่ก็คิดกับแมทธิวได้แค่เพื่อนจริงๆ
และแมทธิวก็เป็นคนที่ทำให้เธอซึ้งใจอีกเช่นเคย
เขาเข้าใจเธอ ให้อภัยเธอ และเขาขอที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของเธอตลอดไป
[สบายดีครับ
ประมานสัปดาห์หน้าผมจะกลับประเทศไทยแล้วนะ]
“ว้าว
จริงหรือคะ ดีจังเลย”
ไม่รู้ว่าเพราะเธอหรือเปล่า
พอเลิกกันไม่กี่เดือนแมทก็ไปเรียนต่อต่างประเทศทันที
เธอก็เคยถามเขาอยู่เหมือนกันว่าทำไมตัดสินใจกะทันหันแบบนี้
แต่แมทก็บอกแค่ว่าอยากเรียนต่อมานานแล้ว แต่เธอก็ไม่เชื่อเสียทีเดียวหรอก
แต่ไม่อยากเซ้าซี้มากเลยไม่ได้ถามอีก
[ผมโทรมาบอกแค่นี้แหละครับ
แล้วเจอกันนะ]
“แล้วเจอกันค่ะ”
-----------------------------------------------------------------
สองวันต่อมา
ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ”
“เชิญ”
“มีของส่งมาให้คุณดุจดาวค่ะ”
‘ของ’ที่ว่าทำให้ดุจดาวอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ไม่มีใครส่งของให้เธอมานานแล้ว
ส่วนใหญ่ของที่เธอได้จะส่งมาให้เธอนามของบริษัท ไม่ใช่ส่งมาในนามเธอเช่นนี้
“ใครเป็นคนส่งมา”
“ไม่ทราบค่ะคุณดุจ
ระบุแค่ว่าส่งให้คุณดุจดาวเท่านั้นค่ะ ดิฉันเลยนำขึ้นมาให้”
“ไม่เป็นไร
ขอบใจมาก วางบนโต๊ะฉันเลยจ้ะ”
เมื่อเลขาเธอออกไป
ดุจดาวก็รีบแกะของด้วยความรวดเร็ว ยิ่งเห็นของที่เธอได้นั้นยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัวจนเธอกลัวว่ามันจะหลุดออกมา
และพอเห็นข้อความที่แนบมานั้น ก็เกือบจะทำให้ของหลุดมือ!
‘ดุจชอบของขวัญที่พี่ส่งมาให้ไหม
พี่เลือกเองกับมือเลยนะ
พี่คิดถึงดุจนะครับ
---------------------------------------------------------------
“ธี
มีเอกสารที่ฉันต้องเซ็นอีกเยอะไหม”
‘ธี’หรือ‘ธีรt’เลขาคนสนิทของเหนือลิขิตและควบตำแหน่งบอดี้การ์ดของเหนือลิขิตด้วย
“ไม่เยอะครับ
คุณเหนือ”
“อืม
แล้วเรื่องที่ให้ไป‘จัดการ’ละไปถึงไหนแล้ว”
“เรียบร้อยแล้วครับ
คาดว่าคุณดุจดาวน่าจะได้รับแล้วนะครับ”
“ดีมาก
กลับไปทำงานได้แล้ว”
หึ
นึกถึงของที่เขาให้ลูกน้องส่งไปให้ดุจดาว ไม่รู้เธอจะรู้สึกอย่างไรบ้าง
เหนือลิขิตรู้ว่าเธอชอบและเธอจะต้องตกใจกับข้อความที่เขาเขียนถึงเธอมากกว่าของแน่ๆ
แค่คิดเจ้าของใบหน้าคมเข้มก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้
‘อีกไม่นานหรอกดุจ
เราจะได้เจอกัน’
เหนือลิขิตต้องคอยแต่พร่ำบอกตัวเองในใจอย่างนี้ทุกวัน
ตัวเขาเองตื่นเต้นจนแทบไม่อย่างจะทำอะไร อยากจะให้ถึง‘วันนั้น’เร็วๆ
ความคิดเห็น