คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : `Chapter 4 Why dont you kill me ?
chapter 4 Why don’t you kill me ?
“ความรงความรักบ้าบออะไร มันก็เป็นแค่เรื่องตลกที่ผ่านเข้ามาและจบลงด้วยน้ำตาอยู่ดี !”
“ถ้ายังไม่รีบลุก นายจะได้กระแทกพื้นจริงๆนะ”
“ข...ขอบใจนะ นึกว่าจะได้ลงไปนอนกับพื้นซะแล้ว...” กีกวังรีบโค้งขอบคุณดงอุนเป็นการใหญ่
“จียอน~ อัปป๊ามาแล้ว” เสียงของชายวัยประมาณ 30 ต้นๆดังขึ้น และพาตัวเด็กสาวผู้เป็นลูกกลับไป
“ดงอุน ขอบใจนะที่เลี้ยงจียอนให้น้า รบกวนแย่เลย”
“ไม่จริงนะคะคุณพ่อขา จียอนออกจะเรียบร้อย เนอะ คุณน้า คุณแมวเหมียว” เด็กหญิงทำแก้มป่องก่อนจะหันมาถามดงอุนกับกีกวัง
“อื้ม วันนี้จียอนเป็นเด็กดีมากเลยนะ” ดงอุนพูดพลางลูบหัวหลานสาว
“ไปเถอะจียอน เดี๋ยวอัปป๊าจะพาไปเที่ยวให้ทั่วโซลเลย~”
“เย้~ ><//”
ดงอุนมองตามหลานสาวและน้าชายที่เดินออกไป ในขณะที่กีกวังพยายามอุ้มเด็กคนหนึ่งลงมาจากสไลเดอร์ แต่เพราะสไลเดอร์ที่สูงเกินไป ทำให้กีกวังค่อนข้างจะลำบากเล็กน้อยที่ต้องใช้ความสูงอันน้อยนิดเข้ามาเอี่ยว
“ร...รอพี่แปปนะ เดี๋ยวพี่ไปเก...” กีกวังพยุดพูดหลังเห็นดงอุนเดินมาอุ้มเด็กชายคนนั้นลงมา
“ขอบคุณนะฮะพี่ชาย” เด็กชายตัวจ้อยขอบคุณดงอุนและวิ่งออกไปเล่นต่อ
“อ้า...วันนี้ฉันรบกวนนายมากี่รอบแล้วเนี่ย”
“บ่อย...” ดงอุนตอบอย่างเย็นชาแต่ไม่มองหน้าคนที่ยืนทำหน้าเอ๋ออยู่
“นายอยู่ถึงเที่ยงนี้...ได้มั้ย ??”
“ทำไม ?”
“ก็นะ นายช่วยฉันตั้งเยอะ ให้ฉันเลี้ยงข้าวนายซักมื้อนะ นะนะ”
“ไม่เป็นไร”
“นะ นะๆๆๆๆๆๆ” กีกวังยังคงยืนกรานว่าจะเลี้ยงข้าวดงอุน จนดงอุนยืนเกาหัวและส่ายหัวแบบเซ็งๆก่อนจะรับปาก
“ก็ได้ - -”
“งั้นฉันจะไปรอที่ร้านหนังสือละกัน...”
“โอเค~”
กีกวังเดินออกมาส่งดงอุนที่ร้านหนังสือ ระหว่างทางที่เดินมา กีกวังก็พยายามชวนดงอุนคุยตลอด จนดงอุนเริ่มหันหน้าหนีบ้าง ก้มหน้าบ้างเพราะทนฟังกีกวังพูดมากไม่ไหว
“รอฉันที่นี่ ห้ามหนีนะ - -+” กีกวังกำชับแบบน่ารักๆ
“อือ...”
“เฮ่ยๆ...นั่นดงอุน หัวหน้าห้องนี่หว่า...” เสียงซุบซิบของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่อยู่ห้องเรียนเดียวกับดงอุนและกีกวังดังขึ้นจากร้านโดนัทฝั่งตรงข้าม
“นั่นดิ คนอย่างมันเนี่ยนะมาห้าง แถมมากับไอ้เอ๋อกีกวังอีกต่างหาก”
“ตลกว่ะแก ฉันว่านะ มันก็เหมาะดีไม่ใช่เหรอ ไอ้คนที่ไม่มีใครคบกับคนเอ๋อๆประจำห้องน่ะ” เสียงของผู้หญิงในกลุ่มดังขึ้นบ้าง กีกวังที่ชวนดงอุนคุยก็ชวนคุยต่ออย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่ดงอุนกลับได้ยินทุกอย่างที่วัยรุ่นกลุ่มนั้นคุยกัน
“ฉันจะเข้าร้านละ...” ดงอุนตัดบทสนทนาอย่างง่ายๆก่อนจะเดินเข้าร้านไป ปล่อยให้กีกวังยืนเกาหัวและเดินกลับไปทำงานต่อ
...........
“ทำไมวันนี้ร้านกาแฟคนมันเยอะจังวะเนี่ย~” ฮยอนซึงบ่นขึ้นมาที่เคาน์เตอร์ในร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลแนววินเทจ ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันเด็ก แต่กลับมาลูกค้ามากกว่าปกติ จนฮยอนซึงอดสงสัยและบ่นไม่ได้
“เอาน่า...คนเยอะก็ได้เงินเยอะนา อิอิ” เพื่อนร่วมงานตบไหล่ฮยอนซึงเบาๆก่อนจะเดินหัวเราะคิกคักๆ
“เชอะ...”
ปิ๊งป่อง~
“อันยองฮาเซโย โซลคอฟฟี่ยินดีให้บริการครับ” ฮยอนซึงทักทายลูกค้าโดยไม่ได้มองลูกค้าเพราะมัวแต่ชงกาแฟมือระวิง ก่อนจะรับออเดอร์ลูกค้าที่เคาน์เตอร์
“เอสเปรสโซ่ 2 แก้ว เอาขมๆ ไม่ต้องใส่น้ำตาล...” เสียงลูกค้าสั่งกาแฟดังขึ้น ในขณะที่ฮยอนซึงมัวแต่ก้มหน้าจดรายการ
“เชิญนั่งรอเลยค...” ฮยอนซึงเงยหน้าขึ้นพูดก่อนจะสะดุดลงเพราะพบหน้าคนที่สั่งกาแฟ ฝ่ายคนที่สั่งก็ตกใจไม่น้อยเช่นกันที่เจอฮยอนซึง
“เฮ้ย !!!!” เสียงของทั้งสองคนดังขึ้นพร้อมกันจนลูกค้าและพนักงานต่างตกใจ
“มีอะไร พี่ฮยอนซึง !!” รุ่นน้องชายในร้านวิ่งเข้ามาดูเพราะตกใจกับเสียงที่ดังมาก
“เปล่าๆ เผอิญเห็นแมลงสาบน่ะ พี่กลัวแมลงสาบ มันสกปรก !” ฮยอนซึงพูดกับรุ่นน้องก่อนจะชายตามองจุนฮยองกับคำว่าแมลงสาบที่สกปรก ส่วนคนที่ถูกมองก็จ้องกลับด้วยสายตาแข็งกร้าวราวกับจะฉีกเลือดฉีกเนื้อ
“อ๋อ ตกใจหมด แล้วมันอยู่ไหนล่ะ ??” รุ่นน้องหนุ่มถาม
“พี่เหยียบมันไปแล้วล่ะ เออ รับออเดอร์คนนี้ที เดี๋ยวพี่ไปเช็คบิลโต๊ะนู้นก่อน” ฮยอนซึงสั่งรุ่นน้องก่อนจะเดินไปเก็บตังค์อีกโต๊ะ ขณะที่จุนฮยองก็เดินไปนั่งไขว่ห้างรอพลางมองฮยอนซึงแบบพาลหาเรื่อง
“เอ...ตะกี้พี่เขาสั่งอะไรหว่า อะไรหวานๆ ??” พนักงานหนุ่มทวนแบบงงๆก่อนจะชงกาแฟโดยใส่น้ำตาลไป 3 ก้อนซึ่งขัดกับที่จุนฮยองสั่ง
“เอสเปรสโซ่ใช่มั้ยฮะ ??”
“อือ...” จุนฮยองรับกาแฟมาดมครู่หนึ่ง
“กลิ่นแม่งแปลกๆว่ะ...” จุนฮยองดมฟุดฟิดๆไปสองสามทีก่อนจะยกแก้วขึ้นมาซด แต่เพราะรสชาติที่ไม่ตรงกับที่ตัวเองสั่ง ทำให้จุนฮยองบ้วนกาแฟออกมาและเริ่มแผลงฤทธิ์ในร้านกาแฟ
“รสชาติบัดซบ !!” จุนฮยองขว้างถ้วยกาแฟลงกับพื้นจนถ้วยแตกกระจายและกาแฟร้อนๆก็กระเด็นไปโดนแขนฮยอนซึง ลูกค้าภายในร้านหันมามองจุนฮยองเป็นตาเดียว ก่อนที่แต่ละโต๊ะจะรีบวางตังค์ไว้ที่โต๊ะแล้วเดินออกไป ส่วนลูกค้าที่ยังไม่ได้สั่งก็รีบเดินออกไปจากร้านทันที
“เป็นบ้าอะไรวะ ฮะ !!” ฮยอนซึงเดินถลำเข้าไปหาจุนฮยองที่นั่งมองหน้าอยู่
“ฉันสั่งว่าไม่ใส่น้ำตาล แกจงใจแกล้งฉันใช่มั้ย !”
“แกไม่เห็นเหรอวะ ว่าฉันรับออเดอร์คนอื่นอยู่ !” ฮยอนซึงเริ่มบันดาลโทสะตวาดใส่จุนฮยอง
“พี่ฮะ...เดี๋ยวผมทำให้ใหม่ก็ได้...” พนักงานรุ่นน้องที่เป็นคนชงกาแฟให้จุนฮยองเดินเข้ามาที่โต๊ะ
“ไม่ต้อง ชานดึล...”
“ไม่เป็นไรครับ ผมผิดเองที่ไม่ได้ฟังคำสั่งของพี่เขา...” พนักงานหนุ่มที่ชื่อ ชานดึล รีบหยิบผ้ามาเช็ดพื้นและเก็บเศษแก้วที่แตกเป็นเสี่ยงๆ
“พอเลย ชานดึล พี่สั่งว่าไม่ต้อง !” ฮยอนซึงเริ่มขึ้นเสียงอย่างเด็ดขาด
“แต่...”
“ไม่มีแต่ ! ไปทำงาน เดี๋ยวพี่จัดการเอง”
โคร้ม !!
จุนฮยองผลักโต๊ะกาแฟกระจายจนขวดน้ำตาลและแก้วใส่คอฟฟี่เมทตกแตกกระจายก่อนจะเดินออกจากร้านไป ชานดึลเริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว ในขณะที่ฮยอนซึงวิ่งตามออกไปด้วยความโมโหสุดขีด
“ทำบ้าอะไรวะ ! แกคิดว่าแกใหญ่มาจากไหน ถึงได้มาทำกร่างที่นี่ ฮะ !!!” ฮยอนซึงตวาดตามหลังจุนฮยอง
“ฉันจะบอกให้นะ ไอ้พวกพนักงานที่มันไม่สนใจฟังคำสั่งของลูกค้าน่ะ มันสมควรโดนไล่ออกไปตั้งนานแล้ว !”
“แกสั่งกับฉันตอนที่ฉันไม่ว่าง แกก็เห็นว่าน้องฉันทำ ทำไมแกไม่สั่งกับน้องฉันอีกที ฉันรู้ว่าแกจงใจจะปั่นหัวฉัน แต่ไอ้การที่แกไปทำลายข้าวของจนพังพินาศในร้าน...แกไม่ต้องกลัว ฉันได้โดนไล่ออกสมใจแกแน่ !” ฮยอนซึงพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันใส่จุนฮยองส่งท้ายก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน
ฮยอนซึงเดินเข้ามาในร้านก่อนจะช่วยชานดึลเก็บโต๊ะและเศษแก้วที่พังพินาศในร้าน ก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนและบัตรพนักงานออก
“พี่จะไปไหน...” ชานดึลเงยหน้าขึ้นมาถาม
“กลับบ้านสิ ต่อไปนี้พี่คงไม่มาทำงานที่นี่แล้วนะ ตั้งใจทำงานนะ ไว้ว่างๆพี่จะมาหา” ฮยอนซึงขยี้หัวรุ่นน้องของตัวเอง
“ผมไม่ให้พี่ไป...”
“ไม่ต้องห่วง เรื่องของในร้าน เดี๋ยวพี่จะโทรไปบอกผู้จัดการร้านเองว่าพี่ทำ ไม่ต้องกลัวนะ”
“ผมไม่กลัวเรื่องนั้น ผมก็ผิดที่ผมทำกาแฟถูกตามที่เขาสั่ง พี่อย่าไปเลยนะฮะ” ชานดึลดึงแขนฮยอนซึงไว้เหมือนกับเด็กๆที่กำลังจากต้องแยกกับแม่เวลาไปโรงเรียน
“ชานดึล...ถ้าห่วงพี่จริง ปล่อยให้พี่ไปเถอะ เพราะถ้าพี่ผู้จัดการมาเห็นสภาพร้านแบบนี้ พี่คงโดนหนักกว่านี้นะ แต่เราจะโดนไปด้วย” ฮยอนซึงพูดประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินออกไปจากร้าน ปล่อยให้ชานดึลยืนร้องไห้และมองชุดทำงานของฮยอนซึงที่วางอยู่บนโต๊ะคนเดียว...
....
“ฮัลโหล กีกวัง...” ฮยอนซึงที่เดินออกจากร้านมารอรถเมล์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหากีกวัง
“ยอโบ~ เลิกงานแล้วเหรอ ??” เสียงปลายสายตอบกลับมาแบบระรื่น
“อื้อ...ว่างมั้ย ฉันจะไปหา ไปกินข้าวกัน...” ฮยอนซึงตัดสินใจไม่บอกเพื่อนเรื่องที่ตัวเองลาออกจากร้านแล้ว และชวนเพื่อนรักไปกินขาว
“อ้า...งั้นนายมาหาฉันที่ห้างได้มั้ย ไปกินด้วยกันกับดงอุนด้วย” กีกวังตอบกลับมา
“เหอ ?? ดงอุน ??” ฮยอนซึงแปลกใจเมื่อได้ยินชื่อดงอุน
“ก็นะ วันนี้ดงอุนช่วยงานฉันเยอะ เลยกะจะเลี้ยงข้าวเขาหน่อย มากินด้วยนะฮยอนซึง ฉันจะรอนะ ><” กีกวังพูดจบแล้วรีบตัดสายไป ฮยอนซึงมองโทรศัพท์ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถเมล์ที่มาจอดพอดี
“กีกวัง...” ฮยอนซึงเดินมาหยุดที่ลานเด็กเล่นก่อนจะสะกิดไหล่เพื่อนรักเบาๆ กีกวังหันมาเจอฮยอนซึงก็สะดุ้งและยิ้มๆก่อนจะลากฮยอนซึงไปกินข้าว
“ทำไมนายเลิกงานเร็วจัง ??”
“สงสัยวันนี้วันเด็กมั้ง เลยไม่ค่อยมีผู้ใหญ่เข้า” ฮยอนซึงยิ้มแห้งๆ และเดินตามกีกวังไปที่ร้านหนังสือเพื่อนไปตามดงอุน
“ช้า...” ดงอุนที่ยืนอยู่หน้าร้านหนังสือมองอย่างเย็นชา
“คนอย่างนายมาห้างด้วยเหรอ ??” ฮยอนซึงชำเลืองมองดงอุนก่อนจะบ่นงุบงิบๆคนเดียว
“คนอย่างฉันมันทำไม - -...”
“เปล๊า~~” ฮยอนซึงขึ้นเสียงสูงก่อนจะเดินนำไปหาร้านกินข้าว
“กินอะไรดี~” กีกวังเดินร้านอาหารภายในห้างตลอดสองข้างทาง
“กินนี่ละกันเนอะ ><” กีกวังเดินมาหยุดที่หน้าร้านอาหารเกาหลีเล็กๆร้านหนึ่งที่คนเยอะเพราะร้านนี้ราคาถูกและวัยรุ่นชอบมาทานกัน
“ได้ งั้นเข้าไปนั่งเลยละกัน” ฮยอนซึงพูดก่อนจะจูงกีกวังเข้าร้าน และดงอุนที่เดินตามแบบงงๆ
“เอาชุดนี้ 3 ที่ฮะ...” กีกวังสั่งพนักงานก่อนจะดูดน้ำอึกใหญ่ราวกับขาดแคลนน้ำมา 3 วัน ฮยอนซึงมองพนักงานที่รับออเดอร์ตาละห้อยเพราะนึกถึงงานเก่าที่ตัวเองเพิ่งลาออกมาแหม่บๆ
“นี่ ฮยอนซึง เมื่อวานนายได้ดูละครป้ะ ?”
“ไม่อ่ะ ฉันนั่งทำงานอยู่”
“
” ดงอุนได้แต่นั่งฟังบทสนทนาของคู่หูคู่นี้อย่างเงียบๆ
“โอ้ะ...เดี๋ยวฉันไปห้องน้ำแปปนะ !” กีกวังพูดขึ้นมาก่อนจะวิ่งออกจากร้านไป
......
ดูจุนออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า โยซอบเลยลงมาช่วยแม่บ้านจองทำงานบ้านตลอดเวลา ทั้งซักผ้า ล้างจาน ทำกับข้าว จัดบ้านทำให้แม่บ้านจองอดชื่นชมและสงสารเด็กหนุ่มไม่ได้
“ว่างๆแบบนี้ไม่ออกไปเที่ยวหน่อยเหรอคะ ?”
“ไม่ล่ะฮะ...” โยซอบตอบเบาๆพลางส่ายหน้า
“กว่าคุณหนูจะกลับก็ดึกอยู่ ถ้าอยากไปไหนบอกป้าได้นะคะ” แม่บ้านจองบอกโยซอบก่อนตั้งท่าจะเดินไปทำงานต่อ
“ป...ป้าฮะ...”
“คะ ??”
“เปล่าฮะ...”
“มีอะไรบอกป้าได้นะคะ...”
“ไม่มีฮะ ไม่มี ^^;” โยซอบถอนหายใจก่อนจะปฏิเสธ
ปิ๊นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“เอ๊ะ รถของคุณหนูนี่นา กลับเร็วจัง” แม่บ้านจองยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปเปิดประตู โยซอบรีบเดินสาวเท้าไปเข้าห้องน้ำเพราะไม่กล้าเจอหน้าดูจุน
“โยซอบอยู่ไหน ??” คำแรกที่โยซอบได้ยินจากปากดูจุนขณะที่ตนแอบฟังในห้องน้ำก็เริ่มกลัว
“เอ...ตะกี้ยังอยู่กับป้าอยู่เลยนะคะ สงสัยขึ้นห้องไปแล้วน่ะค่ะ...มีอะไรรึเปล่าคะ ?”
“จะพาไปเที่ยวหน่อยน่ะ...” ดูจุนแสร้งพูดยิ้มๆเป็นคนดี แต่โยซอบที่ฟังอยู่รู้สึกได้ถึงแผนร้ายของดูจุนจึงพยายามแอบอยู่เงียบๆ
“เฮ้ย...ออกมา !” ดูจุนเดินไปหน้าห้องนอนและเคาะประตูอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมั่นใจว่าโยซอบไม่น่าอยู่ในห้อง และดูจุนก็ยืนกอดอกเรียกด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความโมโห
“ถ้าแกไม่ออก ฉันจะเข้าไปลากตัวแกเอง ฉันรู้ว่าแกอยู่ในห้องน้ำ !”
“
” โยซอบยืนตัวสั่นในห้องน้ำ ใจนึงอยากออกเพราะกลัว แต่อีกใจก็ไม่กล้าออกไปเพราะกลัวเช่นกัน
“แกจะออกมาดีๆหรือให้ฉันใช้กำลังพาแกออกมาด้วยน้ำตา ฮึ ??”
“
”
“เฮอะ...ตื้นชะมัด ฉันเป็นเจ้าของบ้าน ฉันมีกุญแจ...” ดูจุนขบหัวเราะก่อนจะหยิบกุญแจห้องน้ำมาไขประตูและบิดลูกบิดเข้าไป แต่โยซอบพยายามดันประตูไว้
“อย่าเข้ามานะฮะ...”
“ทำไม นี่มันบ้านฉัน ทำไมฉันจะเข้าไม่ได้ !” ดูจุนใช้แรงที่มีมากกว่าดันประตูได้และลากโยซอบออกมา
“ปล่อยผมนะ ! ผมไม่ไป !” โยซอบเริ่มสู้ด้วยการดึงตัวออกแขนของดูจุน
“ฉันบอกให้มาดีๆก็ตามมา อย่าให้ฉันต้องใช้กำลัง !” ดูจุนฉุดกระชากถูลู่ถูกังโยซอบออกมาจากห้องน้ำและผลักเช้าไปในรถ
“ผมไม่ไป...” โยซอบพยายามเอาตัวดันออกแต่ดูจุนก็ผลักเข้าไปและหยิบเชือกเส้นเดิมจากเมื่อวานมามัดแขนขาโยซอบก่อนจะเดินไปขึ้นรถและขับออกจากบ้าน
“อย่ามาทำบีบน้ำตา ถ้าไม่อยากโดนฉันบีบคอ !” ดูจุนพูดขึ้นมาหลังเห็นโยซอบนั่งน้ำตาคลอเบ้าแต่ไม่มีเสียง
“
” โยซอบนั่งมองหน้าดูจุนนิ่งๆโดยไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปาก
“แกไม่ต้องห่วงหรอกนะว่าจะไม่เจอพ่อฉัน ฉันไม่ทำให้แกถึงตายหรอก ! แค่เอาไปทรมานเล่นๆนิดหน่อย” ดูจุนฉีกยิ้มเหี้ยมๆออกมาก่อนจะหันไปมองอีกคนที่นั่งน้ำตาร่วง
“พี่จะพาผมไปไหน....” โยซอบถามขึ้นมาปนสะอื้นนิดๆ
“ไม่ต้องดีใจขนาดนั้น เอาเป็นว่าแกสนุกแน่นอน !” ดูจุนพูดก่อนจะขบหัวเราะเบาๆและเหยียบคันเร่งเร็วกว่าเดิม
“พี่อย่าทำอะไรผมเลยนะ...ผมยอมพี่ทุกอย่าง แต่พี่อย่าทำร้ายผมเลยนะ ผมกลัว...” โยซอบพูดขอร้องดูจุน แต่อีกฝ่ายก็ไม่ตอบโต้อะไรมานอกจากการเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วสูง
“ลงมา !” ดูจุนจอดรถก่อนจะกระชากโยซอบออกมาจากรถ โยซอบตั้งท่าจะวิ่งหนีเพราะสภาพสถานที่ที่ดูมืดๆทึมๆและมีแก๊งวัยรุ่นชายอยู่ 4 คนที่ดักรออยู่ แต่ก็ถูกดูจุนกระชากคอเสื้อไว้
“นี่เหรอดูจุน เด็กที่มึงจะให้กูเล่นน่ะ ??” ผู้ชายที่ดูเป็นหัวโจกเดินออกมายื่นหน้ามาใกล้โยซอบพร้อมเชยคางเด็กหนุ่มเล็กน้อย โยซอบทำได้เพียงยืนตัวสั่น ขยับไม่ได้เพราะถูกดูจุนล็อกไว้อยู่
“เออ...เล่นแม่งให้หนักๆ เอาแม่งให้สุดๆไปเลย แต่อย่าให้ถึงตายนะเว้ย เดี๋ยววันหลังไม่มีเล่น” ดูจุนกำชับหัวโจกกลุ่ม ก่อนที่อีก 4 คนที่เหลือจะเดินออกมา
“เดี๋ยวนะ ดูจุน...” หัวโจกกลุ่มเรียก
“มีอะไรวะ ซึงโฮ”
“กูถามจริงนะ ทำไมมึงถึงเกลียดมันนักหนาวะ หน้าตามันก็ไม่มีพิษภัยนะเว้ย !” สมาชิกอีกคนในแก๊งอันธพาลที่สถาปนาชื่อขึ้นมาว่า MBLAQ ที่ชื่อ ซึงโฮ ถามขึ้นมา
“มึงเคยมีชีวิตบัดซบแบบกูมั้ยล่ะ ?” ดูจุนหันขวับกับคำถามของลีจุน
“แล้วเกี่ยวไรกับมันวะ ?” ชอนดุง คนที่มีหน้าตาติ๋มที่สุดในก๊วนแต่แฝงไปด้วยความเถื่อนดิบถาม
“มึงเคยมั้ยล่ะ พ่อแม่แยกทาง แม่ไม่เคยโทรหากู พ่อเลี้ยงกูด้วยเงิน ไม่เคยโผล่หน้ามาหากู แต่วันนึง พ่อเอาไอ้เด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้าที่ไหนมาอยู่ แล้วทะนุถนอมกว่าลูก มึงเคยเจอแบบนี้ป้ะล่ะ ?”
“ผมไม่...” โยซอบฟังที่ดูจุนพูดจนน้ำตาเริ่มร่วงออกมาและพยายามจะอธิบาย แต่กลับโดนดูจุนอาละวาดใส่
“หุบปากไป !!!”
“อ้อ สรุปก็คือ มึงบอกว่าพ่อมึงรักมันมาก ว่างั้น...จริงหรือไอ้หนู ?” ผู้ชายคนเดียวในกลุ่มที่ไว้หนวดหรือ จีโอ เดินเข้ามาแสร้งยิ้มถามโยซอบก่อนจะกระชากผมเด็กหนุ่มที่หน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
“ผม...เปล่า...” โยซอบพยายามจะพูด แต่ มีร์ ก็เดินมาปิดปากโยซอบไว้
“ไม่เอาน่า ไม่พูดสอดเวลาคนเค้าคุยกันนะครับ” มีร์ที่หน้าตาดูใจดีที่สุดในแก๊งพูดแบบยิ้มก่อนจะเปลี่ยนหน้าเป็นแบบโหดตอนประโยคหลัง
“ฮือ...”
“แล้วมึงจะให้กูจัดการมันยังไงวะ ??” ซึงโฮหันมาถามดูจุน
“เอาแบบตอนไอ้จุนฮยองเล่นเด็กช่างกล แม่งเลย...”
“เอางั้นเลยเหรอวะ ? ไอ้ห่านั่นมันก็ปางตายอยู่นะ” ชอนดุงพูดแบบกังวลนิดๆ
“แถมตอนนี้ไอ้ลีจุนมันก็ไม่อยู่กับพวกเราแล้ว คราวก่อนไอ้นั่นมันเป็นคนเล่นซะยับเลย”
“อ่าว แล้วมันหายหัวไปไหนวะ ?” ดูจุนถามอย่างงงๆ
“แม่งมีเรื่องกันตอนจะไปถล่มเด็กปี 2 ที่วิทยาลัยช่างกลว่ะ ตอนนั้นไอ้ซึงโฮมันโดนแฟนมันเลิกเพราะแฟนมันไปคบเด็กช่าง ตั้งใจจะตามไปเล่นซักหน่อย แต่อีผู้หญิงนั่นมันรู้ทัน มันรู้ว่าไอ้ลีจุนเป็นคนแพ้ผู้หญิง มันเลยไปสำออยใส่ไอ้ลีจุนให้ล้มเลิกแผนจนมีเรื่องกับพวกกูนี่แหละ” จีโออธิบายยาวเหยียด
“แล้วตอนนี้มันไปมุดหัวที่ไหนล่ะ ?”
“ไม่รู้มัน แต่ได้ยินว่าไปอยู่ที่หมู่บ้านในป่า กลายเป็นคนชาวดอยไปแล้วว่ะ พวกฉันไม่โกรธมันหรอกนะ ก็เข้าใจว่ามันเป็นคนที่ใจอ่อนที่สุดในกลุ่มและ แต่มันนั่นแหละที่หายตัวไปดื้อๆ” ชอนดุงบ่น
“โอเคๆ ตามใจๆ งั้นพวกมึงจะเล่นไอ้เด็กนี่ยังไงก็เชิญตามสบายเลยว่ะ แต่อย่าให้มันถึงตายนะเว้ย” ดูจุนกำชับอีกครั้ฃ
“แล้วมึงจะไปไหนวะ ??” ชอนดุงถาม
“กูก็จะช่วยมึงเล่นด้วยไง”
“หึหึ ท่าทางมึงจะเกลียดมันมากเลยนะ นานๆกูจะเห็นคนอย่างมึงมาแจมวงด้วยว่ะ” จีโอพูดแขวะนิดๆ
“เออ กูเกลียดมัน เกลียดมากด้วย !” ดูจุนพูดก่อนจะหันไปมองโยซอบด้วยสายตาจิกๆ
“ผ...ผม ผม...ผมกลัวแล้ว ผมกลัวแล้ว ฮือ...” โยซอบพูดซ้ำไปซ้ำมาพลางร้องไห้ แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ใส่ใจแต่อย่างใด
“ไม่ต้องกลัวนะครับ เราไม่ได้มาทำมิดีมิร้าย เราแค่เล่นกัน !” มีร์เดินเข้ามาดึงหัวเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่เน้นหนักคำว่าเราเล่นกัน
“แกไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำให้แกตายหรอก ! แกยังต้องเจ็บอีกเยอะ !” ดูจุนยื่นหน้าเข้ามาหาโยซอบก่อนจะขบพูดเบาๆ
“พี่ปล่อยผมเถอะฮะ...ผมขอร้องล่ะ...”
“แล้วทำไมฉันต้องฟังคำขอร้องของแกล่ะ ??” ดูจุนลุกขึ้นเดินไปหยิบไม้หน้าสามมาส่งให้จีโอที่ตั้งท่าคอยอยู่แล้ว
“อันนี้เราเล่นเริ่มต้นนะครับ ^^” จีโอฉีกยิ้มนิดๆก่อนจะใช้ไม้ตีรังมดแดงลงมาใส่โยซอบที่ถูกมัดแขนขาไว้
“โอ๊ย...จ..เจ็บ ฮือ...ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วย ฮือ...ผมเจ็บแล้ว ผมกลัวแล้ว ฮือ...ผมแสบไปหมดแล้ว ช่วยผมด้วย” โยซอบดิ้นพล่านไปมาหลังถูกมดแดงหลายร้อนพันตัวรุมไต่ตัว สร้างความเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก
“ท่าทางเขาจะอยากเล่นอย่างอื่นต่อแล้วล่ะ...” ชอนดุงพูด
“งั้นไปเอาของเล่นชิ้นต่อไปสินะ ^^” ซึงโฮฉีกยิ้มที่ทำให้โยซอบรู้ถึงลางไม่ดี แล้วเดินไปหยิบของชิ้นต่อไปออกมา
“ตะกี้เจอมดแดงแกล้งสินะ งั้นก็แก้ละกัน” ดูจุนคว้ากระป๋องยาฆ่าแมลงมาก่อนจะฉีดใส่โยซอบจนหมดกระป๋อง ส่วนโยวอบที่ไม่สามารถใช้มือที่ถูกมัดป้องกันได้ก็ได้แต่กลั้นหายใจก้มหน้าก้มตาและไอเป็นระยะๆ
“ห...หายใจ...ไม่...ออก...แค่กๆ” โยซอบไอไปพูดไปจนไม่ได้ศัพท์
“นี่มึงฉีดหมดเลยเหรอดูจุน ?? กระป๋องนึงฤทธิ์มันแรงนะเว้ย” มีร์ปรามขึ้นมา
“กูรู้ มันไม่ตายง่ายๆหรอก หนังเหนียวหน้าด้านอยู่แล้วนี่ !” ดูจุนมองหน้าโยซอบขณะที่พูดคำว่าหน้าด้านจนโยซอบนั่งจ้องหน้าและน้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง
“ของเล่นชิ้นต่อไปมาแล้ว ไม่ต้องร้องไห้นะ เราแค่เล่นกัน” จีโอหยิบขวดแอลกอฮอล์ขึ้นมาก่อนจะเทแอลกอฮอล์ราดบนตัวโยซอบจนหมดขวดเช่นกัน
“โอ๊ย แสบ แสบ...ฮือ...แสบไปหมดทั้งตัวแล้ว ฮือๆๆ” โยซอบเริ่มโวยวายเพราะแสบแผลจากมดกัดถูกแอลกอฮอล์
“โวยวายแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ” ชอนดุงหยิบผ้ามัดปากโยซอบเพราะเริ่มรำคาญ
“ไอ้เอา....อ่อยอ๋ม...~ (ไม่เอา ปล่อยผม)” โยซอบพยายามดิ้นแต่ไม่เป็นผลเพราะขัดขืนไม่ได้
“ใช้แอลกอฮอล์แล้วแสบ สงสัยต้องแก้ด้วยน้ำเกลือ...” ดูจุนพูดขึ้นมาก่อนจะเดินไปหยิบถังน้ำเกลือราดใส่ตัวโยซอบ คราวนี้โยซอบดิ้นทุรนทุรายกว่าเดิมเพราะน้ำเกลือทำให้แสบกว่าแอลกอฮอล์หลายเท่า เด็กหนุ่มนั่งร้องไห้ แต่ไม่มีใครสนใจซ้ำร้าย เริ่มเล่นหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
“แสบเหรอ คราวนี้จะทำให้ไม่แสบจริงๆแล้วนะ” ซึงโฮหยิบหมามุ่ยขึ้นมาจากกระเป๋าก่อนจะโรยใส่ตัวโยซอบ ทำให้โยซอบคันยิบไปทั้งตัว โยซอบเริ่มมีผื่นแดงขึ้นตามตัวเพราะเริ่มแพ้ แต่ทั้งห้าคนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“ฮือ...” โยซอบเริ่มตาพร่ามัวเพราะเริ่มมีไข้จับ
“เฮ้ย เดี๋ยวสาดน้ำส่งท้ายละกัน กูจะเอามันกลับบ้านละ พ่อกูเลิกงานพอดี” ดจุนมองนาฬิกาก่อนจะให้มีร์ไปหยิบถังน้ำมาราดทั่วตัวโยซอบจนเปียกปอนไปทั้งตัว
“หน...หนาว..หนาว...” โยซอบนั่งตัวสั่น ก่อนที่ทุกคนจะช่วยแก้มัดให้โยซอบและดูจุนที่กระชากโยซอบขึ้นรถกลับบ้าน
“เฮอะ...แค่นี้ทำเป็นร้องไห้”
“ห...หนาว...” โยซอบกึ่งหลับกึ่งตื่นพลางกอดอกเพราะความหนาวเนื่องจากเริ่มมีไข้
“น่ารำคาญจริง !”
“ลุงฮะ...ผม..ผมอยากไปหาลุง...ผมไม่อยากอยู่แล้ว...ผมกลัว..ผมกลัวจังฮะลุง...” โยซอบพูดเพ้อออกมาด้วยฤทธิ์ไข้ ในขณะที่ดูจุนนั่งฟังอยู่
“คิดว่าฉันอยากให้แกอยู่นักรึไง ??” ดูจุนมองคนร่างเล็กที่นอนขดอยู่อย่างไม่ใส่ใจและเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วสูง
ฉันเกลียดแกซะจนอยากจะบีบคอฆ่าให้ตายคามือ !!
ทอล์กกับไรท์เตอร์สั้นๆ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาตลอดนะคะ ^^
แต่อย่าเกลียดมากน้า ยังไงไอ้ลุงดู๋มันก็เมนไรท์เตอร์ -///-
ฝากเรื่องนี้ด้วยนะค้า (ตอนหน้า ใครเมนห้อย ระวังไว้ !)
ความคิดเห็น