คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 3
{Fic KOD} Reserved Ones
ช่วงเวลา : คิดเอาเองจ้า เนื่องจากคนเขียนขี้เกียจคิด
หมายเหตุ : เช่นเคย...ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับเนื้อเรื่อง
คู่ : เอ่อ... ให้เขียนอีกแล้วเหรอ? ก็ได้ มอทย่า ลูเธอร์
คำเตือน : ไม่ตรงกับนิสัยตัวละครสักเท่าไหร่...
ตอนนี้แถมาตั้งแต่ต้นเรื่องจ้า
“สงสัยวันนี้ฝนจะตกแฮะ” เฟย์ซัลบ่นพึมพำ “ทำไมลูเธอร์ไม่เห็นมาทวงเงินเลยล่ะ”
(หมายเหตุ เฟย์ซัลฟังทันถึงแค่คำว่า ‘เจ้ารับผิดชอบ’)
“หรือว่ามอทย่าจะจ่ายเงินไปจริงๆ?” ถามตัวเองแล้วก็งงเอง “เอ...แล้วทำไมมอทย่าต้องจ่ายล่ะ?แล้วถึงจะจ่าย เราก็คงปล่อยไปอยู่ดีไม่ใช่เหรอ? คงไม่เสนอเงินคืนหรอก นอกจากมอทย่าจะมาทวงน่ะนะ...”
ว่าแล้วก็หัวเราะเบาๆ ช่วยไม่ได้ เขามันอัศวินนะ ก็ต้องเก็บเงินเอาไว้สิ
เหมือนอย่างที่ลูเธอร์เคยบอกไง ‘เงินซื้อทุกอย่างไม่ได้ก็จริง แต่ถ้าไม่มีเงิน เจ้าจะทำอะไรไม่ได้เลย’
มันเป็นความจริงนะ ของแต่ละอย่างที่ต้องใช้ในการดำรงชีพก็แพงเสียเหลือเกิน นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายตอนไปเดทนอกสถานที่นะ แต่ว่าเอาเข้าจริงเขาก็พออยู่ได้...
ชักจะสงสัยแล้วสิว่าลูเธอร์เอาเงินไปทำอะไรมากมาย...
ข้อสันนิษฐานข้อที่หนึ่ง ค่าบำรุงรักษากับดักภายในห้อง
ห้องของเขาไม่ได้มีกับดักทุกย่างก้าวแบบห้องของลูเธอร์ ไม่สิ ไม่มีกับดักเลยด้วยซ้ำ
ข้อสันนิษฐานข้อที่สอง ค่าสกัดยาพิษเอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน
เห็นว่ามีเยอะเหลือเกิน ปากก็บ่นว่าแพงแต่มือนี่ใช้ไม่ยั้ง ข้อนี้ เขาก็ไม่มี
ข้อสันนิษฐานข้อที่สาม ค่าใช้จ่ายในการลงปล้นบ่อนพนัน
ข้อนี้เขาก็มีบ้างแต่ไม่หนักเท่าลูเธอร์ แต่... ลูเธอร์เล่นแล้วมีแต่ได้กับได้ไม่ใช่หรือยังไงนะ?
ข้อสันนิษฐานข้อที่สี่ สินบนของพวกพนักงาน
ข้อนี้จะว่าไปก็ไม่น่าใช่... มีแต่คนยินดีให้สินบนลูเธอร์ไม่ใช่หรือไง? ควรจะเพิ่มเข้าไปในบัญชีรายรับสิ
ข้อสันนิษฐานข้อที่ห้า ความจริงมันน่าจะหมดแล้วนะ แต่เวลาที่ลูเธอร์ไปปล้นบ้านเศรษฐีเนี่ย (ถึงจะไม่มีหลักฐานก็เถอะ ชื่อก็บอกแล้วนี่ว่าเป็นแค่ข้อสันนิษฐาน) มันก็น่าจะมีอุปกรณ์หลบหนีใช่ไหม?
อุปกรณ์เวทมตร์ก็แพงอยู่ แต่ดูจากฝีมือการปล้นและรายรับอันมากล้นมันก็ไม่น่าจะสะทกสะท้านไม่ใช่เหรอ? หรือว่าลูเธอร์แอบไปติดหนี้ใครอยู่?
ช่างเถอะ ไปหาเทอรีเซียดีกว่า
...........................................................................................
“เอ... ป่านนี้มอทย่ากับแม่สาวแอนนั่นจะเป็นยังไงบ้างนะ?” เทอรีเซียเปรยออกมาเบาๆ “เราสอนมารยาไปเยอะขนาดนั้น ก็คงจะได้ผลแล้วล่ะมั้ง?”
“...นั่นสิ ท่านลูเธอร์กับท่านมอทย่าทะเลาะกันอีกแล้วล่ะ แต่คราวนี้ดูเหมือนจะเป็นสงครามเย็นนะ” ข่าวสารที่พวกอัศวินพูดกันทำให้เทอรีเซียเงี่ยหูฟัง
“สงสัยท่านลูเธอร์จะงอนที่ท่านมอทย่าไปคบกับเด็กใหม่ล่ะมั้ง?พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็มึนนะ ท่านมอทย่ารับไม่ใช่เหรอ?” อีกคนก็ยักไหล่ตอบกลับมา
“เจ้าลองแหกตาดูให้ดีๆสิ ท่านลูเธอร์สวยน้อยซะเมื่อไหร่กัน แต่ไม่หรอก ทะเลาะกันเพราะความเห็นเรื่องงานไม่ตรงกันมากกว่าล่ะมั้ง?ข้าคิดว่าอย่างนั้นนนะ” อัศวินอีกคนในกลุ่มชี้ให้เห็น และคัดค้านเรื่องมอทย่าและลูเธอร์เป็นสามีภรรยากันไปอย่างเนียนๆ
“จริง” ที่เหลือในกลุ่มยอมรับ
“แต่ข้าว่าเป็นเพราะท่านลูเธอร์งอนนั่นแหละ เมื่อคืนข้าไปที่บาร์เหล้าแล้วเห็นใครแวบหนึ่ง คุ้นๆว่าเป็นท่านลูเธอร์กับอัศวินอีกสังกัดหนึ่ง รู้สึกว่าจะชื่อ...อืม แทดดี้ล่ะมั้ง” อัศวินคนแรกยังยืนยันความคิดเดิม
“มันชักจะแย่ลงเรื่อยๆแล้วแฮะ แล้วทำไมลูเธอร์ถึงไปอยู่กับแทดดี้ได้ล่ะเนี่ย? ควรจะบอกให้ลูเธอร์รู้ดีไหมเนี่ย?แต่ถ้าลูเธอร์กับมอทย่าทะเลาะกันจริง...” ในหัวเทอรีเซียมีภาพตอนที่ทั้งคู่โกรธกันแล้วมีคนพูดชื่อมอทย่าหรือลูเธอร์ให้อีกคนได้ยิน...
“ใครคือมอทย่า?ข้ารู้จักคนงี่เง่าพรรค์นั้นด้วยเหรอ?จำไม่เห็นได้ เฮ้อ คุยกับเจ้าไม่รู้เรื่องเลย น่าเบื่อ” และเฉไฉไปเรื่องอื่นๆจะเป็นคำพูดของลูเธอร์
ส่วนมอทย่าก็... “ข้าไม่อยากได้ยินชื่อลูเธอร์ ออกไปได้แล้ว”
เป็นหนักกันทั้งคู่... คิดๆดูแล้ว ไม่คุ้มแฮะ ปล่อยให้สามีภรรยาเคลียร์กันเองดีกว่า
แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นสามี ใครเป็นภรรยาก็เถอะ...
เอ... แล้วแอนล่ะ? คำถามที่ผุดขึ้นในใจทำให้เทอรีเซียถึงกับสะดุ้ง เป็นไปไม่ได้ที่จะจบอย่างมีความสุขกันทุกคน คงต้องมีคนหนึ่งเศร้าใจกระมัง...
นึกแล้วเทอรีเซียก็ได้แต่ยิ้มจืดเจื่อนแล้วถอนหายใจ
...........................................................................................
“เอ... ทำไมถึงได้รู้สึกแปลกๆนะ?” มอทย่าเผลอพูดออกมา
“แปลกยังไงเหรอคะ?” แอนถาม
“ก็... เหมือนมีคนพูดถึงล่ะมั้ง?” มอทย่าตอบ
“ชัวร์เลย ต้องเป็นคนที่เข้าใจผิดว่าท่านมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับท่านลูเธอร์แน่ๆ” แอนว่าแล้วพูดต่อว่า “ไม่ต้องกลัว ข้าจะแก้ไขความเข้าใจผิดนั้นเอง”
“...” มอทย่ายิ้มแห้งๆ ข้าก็ตั้งใจอย่างนั้น...
(หารู้ไม่ว่า... มีแต่คนเขาคิดว่าเจ้าเป็นมือที่สามน่ะ แอนผู้น่าสงสาร ชื่อก็โหล เพราะคนเขียนขี้เกียจคิด ภาพลักษณ์ก็ไม่ดี คนเขาคิดว่าเป็นมือที่สาม รายละเอียดมีแค่นี้ ให้คนอ่านจิ้นก็คงจะจิ้นว่าแรรด(อันนี้ตั้งใจพิมพ์ผิด) ช่างน่าสงสารเสียจริงจริ๊ง ข้าขอแสดงความเสียใจด้วยแต่ถ้าให้พูดตรงๆ ข้าว่าเฟย์ซัลกับเทอรีเซียยังเด่นกว่าเจ้าอีกนะ... น่าเสียดาย ทั้งๆที่ข้าวาดภาพเจ้าตอนแรกเป็นสาวสวยอ่อนโยนแท้ๆ)
“ข้าอยากไปเที่ยวกับท่านค่ะ ท่านมอทย่า ลางานสักสามวันไปเที่ยวกับข้าไม่ได้หรือคะ?ข้าอยากไปที่ไหนก็ได้ที่มีท่าน ไปกันสองคนนะคะ” แอนอ้อน
“ไม่ได้หรอก ข้าเป็นหัวหน้ากองพันนะ จะทำตัวไร้ความรับผิดชอบแบบนั้นได้อย่างไรกัน?” มอทย่าแย้ง
“ข้าเป็นแฟนของท่านนะคะ ทำเรื่องแค่นี้เพื่อแฟนไม่ได้เชียวหรือ?” แอนถามอีกครั้ง แสดงสีหน้าน้อยใจออกมาให้เห็นอย่างน่าสงสาร
“ขอโทษนะ ข้าทำไม่ได้จริงๆ งานข้ายุ่งมาก และถ้าลูเธอร์รู้ เขาก็ต้องขอไปด้วยแน่ๆ” มอทย่าปฏิเสธ
“งั้นหรือคะ?เดิมที ข้าเห็นว่าท่านเป็นฝ่ายเข้ามาขอคบถึงยอมคบด้วย แต่ถ้าท่านเห็นงานสำคัญกว่าข้า เราก็เลิกกันเถอะ หากท่านทิ้งขว้างข้า เห็นว่าข้าไม่สำคัญขนาดนั้น...” แอนเริ่มใช้มารยาหญิง
“ข้าขอโทษนะ แอน” มอทย่าเอ่ยขึ้นก่อน
ท่านยอมแล้วใช่ไหม?ยอมไปเที่ยวกับข้าแล้วใช่ไหม?ไม่เสียทีที่อุตส่าห์ถ่อไปให้ท่านเทอรีเซียสอน...
“ข้าไม่น่าไปขอคบเจ้าตั้งแต่แรก ข้าทำให้เจ้าลำบากใจสินะ เจ้าไม่ต้องกังวลไป... เราเลิกกันแล้วนะ ต่อจากนี้ไป หากข้าขอสิ่งที่ทำให้เจ้าไม่พอใจหรือลำบากใจ เจ้าบอกข้ามาตรงๆก็แล้วกัน” มอทย่าพูดต่อจนจบ
“...” แอนพูดไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้มอทย่าเดินจากไป
เธอคาดว่าศัตรูหัวใจของเธอน่าจะเป็น...งานเอกสาร
...........................................................................................
ก๊อกๆๆ
“เข้ามาได้” ลูเธอร์ตอบสั้นๆ
“ข้าเลิกกับแอนแล้ว” มอทย่าบอกลูเธอร์ และได้คำปลอบใจกลับมาสั้นๆว่า...
“อืม แล้วไง?”
“ที่เจ้าพูดไปมันทำให้ แอนลำบากใจ รู้ตัวไหม? ข้าเลิกกับนางเพราะนางขอเลิก” มอทย่าขยายความ
“แล้ว?” ลูเธอร์เลิกคิ้วอย่างไม่ใส่ใจ
“อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ มันเหมือนการบังคับเลย” มอทย่าเอ่ยใจความสำคัญในที่สุด
“มันไม่ใช่ความผิดข้า ที่นางตอบตกลงโดยไม่ถามว่าเจ้าต้องการหรือเปล่านั่นแหละ คือความเต็มใจตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเจ้ามีเรื่องแค่นี้ก็ออกไปซะ ข้าไม่คิดว่ามันน่าสนใจ หากต้องการคำปรึกษา โน่น ด้านนอกมีสามีภรรยาคู่หนึ่งแอบมองอยู่ เชิญ ข้าไม่ส่งนะ” ลูเธอร์ว่า ชี้ออกไปข้างนอก
“...” มอทยาเป็นใบ้ไปชั่วครู่
“...” ลูเธอร์ก้มลงอ่านหนังสือต่ออย่างไม่สนใจใคร
“ลูเธอร์...” มอทย่าเรียกเบาๆ
“อะไร?” ลูเธอร์ถาม
“หนังสือที่เจ้าถืออยู่น่ะ... มันกลับหัว” มอทย่าพูดเบาแทบจะเป็นเสียงกระซิบ
แต่ก็ยังคงไม่รอดพ้นหูของเฟย์ซัลและเทอรีเซียอยู่ดี ทั้งคู่ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างเปิดเผย แล้วรีบชิ่งก่อนจะโดนลูเธอร์หมายหัว ทำให้ทั้งคู่พลาดอะไรบางอย่างไป...
“ไม่รู้ล่ะ ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ” ใบหน้าของลูเธอร์แดงก่ำด้วยความอาย
“อ่า... เจ้าน่ารักดีนะ” มอทย่าหลุดปากชม
“เจ้าบ้า ไปตายซะ” ลูเธอร์สบถ
มอทย่าไม่รู้ว่าเขาควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี...
แต่ที่แน่ๆ เขาควรจะรีบออกจากห้องก่อนที่ลูเธอร์จะเอื้อมมือไปถึงหนังสืออีกเล่มที่วางบนชั้นหนังสือนั่น
หากทัน ก็โชคดีไป แต่หากไม่ทัน...
เขาก็คงต้องกลายเป็นศพเพื่อสังเวยแด่ความอับอายของลูเธอร์เป็นแน่
...........................................................................................
“โชคดีที่รอดมาได้” มอทย่าถอนหายใจอย่างโล่งอก “ลูเธอร์ตอนโกรธนี่น่ากลัวจริงๆ เอ... ที่จริงก็น่ากลัวทุกตอนนี่...” โดยเฉพาะตอนเล่นพนัน... ประโยคหลังต่อในใจ ลูเธอร์คงคิดว่าเขาไม่รู้แต่ที่จริง เขารู้ตั้งแต่ที่วันแรกที่เงินในห้องของลูเธอร์เพิ่มขึ้นแล้ว เพียงแต่ลูเธอร์คงไม่คิดว่าเขาจะสังเกตถึงขนาดนั้น... ที่เขายอมปล่อยมาถึงตอนนี้ก็เพราะอยากตามใจลูเธอร์บ้างเท่านั้นเอง...
แต่ความจริง...
“ปล่อยให้คิดว่าเราได้เงินมาเล็กน้อยก็แล้วกัน ที่เหลือก็ซ่อนเอาไว้ดีกว่า...”
ความคิดเห็น