คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 2
{Fic KOD} Reserved Ones
ช่วงเวลา : คิดเอาเองจ้า เนื่องจากคนเขียนขี้เกียจคิด
หมายเหตุ : เช่นเคย...ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับเนื้อเรื่อง
คู่ : เอ่อ... ให้เขียนอีกแล้วเหรอ? ก็ได้ มอทย่า ลูเธอร์
คำเตือน : ไม่ตรงกับนิสัยตัวละครสักเท่าไหร่...
นี่ก็ผ่านมาได้สามวันแล้วนับจากเหตุการณ์เมื่อตอนที่แล้ว
มอทย่าถอนหายใจอย่างเงียบเชียบ ข้างๆมีสาวสวยที่ชื่อแอนนั่งถอนหายใจเป็นเพื่อน
“เฮ้อ...”
“ถอนหายใจอะไรหรือ?” หน้าที่ของแฟนจำ(ต้อง)เป็น ควรจะถามสารทุกข์สุกดิบซึ่งกันและกัน
ดังนั้นมอทย่าจึงถามอย่างมีมารยาท
“ท่านมอทย่าคะ เราเป็นแฟนกันใช่ไหมคะ? ทำไมท่านไม่เห็นชวนข้าไปเดทเลยล่ะคะ?เห็นท่านเฟย์ซัลกับท่านเทอรีเซียก็มีเวลาสวีทกันบ่อยๆ ทำไมความรักของเราจึงได้จืดจางอย่างนี้?” หน้าตาน่ารักน่าหยิกของแอน(ชื่อสิ้นคิดมากเลยเนอะ...)หมองลง
“เอ่อ... ข้าไม่ค่อยว่างน่ะ ออกไปบ่อยๆ มันจะดูไม่ดีใช่ไหมล่ะ?” มอทย่าตอบอย่างพยายามรักษาน้ำใจ แม้ว่ามันจะทำให้อัศวินสองคนที่อยู่หลังพุ่มไม้(เฟย์ซัลและเทอรีเซียที่ทราบข่าวจากลูเธอร์จึงมาแอบดู)ขำจนตัวสั่นก็ตาม
“ท่านมอทย่าช่างสมกับที่เป็นอัศวินตัวอย่าง ข้านี่ช่างเห็นแก่ตัวเสียจริง แต่อย่าได้ห่วงไป เรื่องนั้นจะไม่เป็นอุปสรรคระหว่างความรักอันยิ่งใหญ่ของพวกเรา เพื่อท่านแล้ว... ข้าสามารถทนได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะต้องบุกน้ำลุยไฟเท่าไหร่... ข้าจะต้องลบเรื่องที่ทำให้ท่านเสื่อมเสียเกียรติชายชาตรีให้ได้”
...........................................................................................
“ฮ่าๆๆ โอ๊ย ขำ ขำไปหมด ขำจนทนไม่ไหวแล้ว” เฟย์ซัลปล่อยก๊ากออกมาเมื่อวิ่งออกมาไกลพอสมควร
“ฮ่าๆๆ” เทอรีเซียเองก็ขำ “...ข้าปวดท้องแล้ว”
“ไปรายงานลูเธอร์ดีกว่า...” เฟย์ซัลว่า เทอรีเซียเองก็เห็นด้วย ทั้งคู่จึงเดินไปยังห้องทำงานของหัวหน้ากองพันที่เจ็ด
“ลูเธอร์ ดูเหมือนว่าอดีตภรรยาของเจ้ากำลังไปได้สวยกับสามีคนใหม่นะ...” เฟย์ซัลเปิดประตูห้องด้วยวิธีปกติโดยลืมไปว่านี่คือเขตอันตรายที่ห้ามเข้าเด็ดขาดถ้าไม่มีมอทย่าเป็นแนวหน้าทำหน้าที่เปิดประตูและนำทาง และแม้จะนำทางแล้วก็เหยียบพื้นได้ตามรอยเท้าของมอทย่าเท่านั้น
เป็นไปตามคาด... กับดักและลูกธนูสาดใส่เฟย์ซัลและเทอรีเซียทันที
“แว้กกก!ขอทีเถอะไอ้นิสัยรักความเป็นส่วนตัวของเจ้าเนี่ย!ลูเธอร์” ประตูห้องเปิดออกและเฟย์ซัลก็ต้องแปลกใจที่ไม่เห็นเจ้าของห้องอยู่ในนั้น
“ลูเธอร์ไม่อยู่เหรอเนี่ย...?แต่ก็ดี เบี้ยวค่ากับดักเลยแล้วกัน” เฟย์ซัลเผลอพูดออกมาตามที่คิด แล้วก็หันไปมองแฟนสาวเพื่อชวนให้หนีกันก่อนที่ลูเธอร์จะกลับมา แต่ไม่พบแม้แต่ร่องรอย และที่แย่กว่านั้น...
“เจ้าว่ายังไงนะ?เฟย์ซัล จ่ายมาสามเหรียญทอง ค่ากับดักหนึ่งเหรียญทอง ค่าด่าข้าหนึ่งเหรียญทอง ค่าคิดจะเบี้ยวอีกหนึ่งเหรียญทอง คายออกมาซะดีๆ” ลูเธอร์สั่ง
เฟย์ซัลแทบร้องไห้ “เจ้าจะขูดรีดอะไรขนาดนั้น ลูเธอร์ ข้าอุตส่าห์จะมาบอกข่าวดี มอทย่าหาสามีใหม่ได้แล้วนะ...”
“หา?!เจ้าว่าไงนะ?ก็เมื่อสามวันก่อน มอทย่าเพิ่งคบกันกับอัศวินหญิงคนหนึ่งไม่ใช่หรือไง?”
“มันก็ใช่... แต่เจ้าลองฟังบทพูดนี่ดูนะ ‘ข้านี่ช่างเห็นแก่ตัวเสียจริง แต่อย่าได้ห่วงไป เรื่องนั้นจะไม่เป็นอุปสรรคระหว่างความรักอันยิ่งใหญ่ของพวกเรา เพื่อท่านแล้ว... ข้าสามารถทนได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะต้องบุกน้ำลุยไฟเท่าไหร่... ข้าจะต้องลบเรื่องที่ทำให้ท่านเสื่อมเสียเกียรติชายชาตรีให้ได้’ เจ้าว่าไงล่ะ?”
“ก็ปกตินี่ เดี๋ยวนะ...ไอ้คำว่าชายชาตรีนั่นมันอะไรกัน?มอทย่าพูดเหรอ?” ลูเธอร์มองหน้าเฟย์ซัลอย่างงงๆ
“เปล่า แม่อัศวินสาวคนนั้นต่างหากที่พูด...” เฟย์ซัลตอบ
“หึๆๆ” ลูเธอร์หัวเราะออกมา “เอาล่ะ ลดให้สองเหรียญทอง จ่ายค่ากับดักมาซะ”
“เจ้าใจดีเหลือเกิน อา... แต่น่าเสียดายที่ข้ามีแต่ตัว เงินไม่มี” เฟย์ซัลบอกกับลูเธอร์
“งั้นข้าก็คงต้องทำใจ...” ลูเธอร์กล่าวอย่างเศร้าสร้อย...ซะเมื่อไหร่ “คงต้องขายข่าวของเจ้าให้กับเทอรีเซียแล้วสินะ ข้านี่ช่างเป็นเพื่อนที่แย่เสียจริง”
ทำไมสีหน้ากับน้ำเสียงจึงได้แตกต่างกันอย่างนี้นะ?
“สีหน้าโศกานั่นมันอะไรกัน?น้ำเสียงเจ้าขัดแย้งสุดๆไปเลยนะ” เฟย์ซัลว่า
“มันก็เพื่อความสะใจก็เท่านั้นแหละ อย่าได้ใส่ใจ” คราวนี้ลูเธอร์แถมน้ำเสียงให้ด้วย แสดงบทอาภัพ แต่ประโยคมันไม่ใช่อ่ะ ไม่ใช่อย่างรุนแรงเลย...
“ข้ายอมแพ้...” เฟย์ซัลพูดขึ้นในที่สุด
“งั้นก็จ่ายมาได้แล้ว” ลูเธอร์แบมือรอรับเงินค่าเสียหาย
“ขอยืนยันคำเดิม เงินไม่มี มีแต่ตัว” เฟย์ซัลตอบ
“แล้วเจ้าหมายความว่ายังไงเรื่องยอมแพ้?” ลูเธอร์ถาม
“ก็...” เฟย์ซัลยังไม่ทันตอบ ลูเธอร์ก็ขัดขึ้นทันที
“เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่เจ้าคิดจะขายคำตอบให้ข้าใช่ไหม?การตกลงค้าขายอยู่ฝ่ายเดียวมันเสียมารยาทนะ อีกอย่าง กับดักพวกนี้เจ้ารู้ว่ามีอยู่ และข้าคิดเงิน เจ้าไม่ควรมาเปิดประตูตั้งแต่แรก นี่คือมารยาทที่พึงมีต่อเพื่อนพ้อง และยิ่งหากเจ้าเบี้ยวไม่จ่ายค่ากับดัก เจ้าจะกลายเป็นบุคคลที่ไม่น่าคบนะ” ลูเธอร์ว่า
“...ข้าเพิ่งรู้ว่าเจ้ามีด้านที่น่ากลัวแบบมอทย่าด้วยนะ ลูเธอร์” เฟย์ซัลกล่าวกับลูเธอร์
“จ่ายเงินมาเดี๋ยวนี้” ลูเธอร์พูดซ้ำ
พอดีกับที่นักบุญเดินผ่านมา...
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?ลูเธอร์ เฟย์ซัล” มอทย่าถาม
“ข้ามีธุระนิดหน่อยแต่ลูเธอร์ไม่ยอมให้ไป บอกจะนอนกับข้าอยู่ท่าเดียว” เฟย์ซัลใช้สกิลแหลทันทีที่มีโอกาส
“ทำไมเจ้าทำอย่างนี้ล่ะ?ลูเธอร์ มันไม่ดีนะ นอกจากจะเป็นการแย่งแฟนเทอรีเซียแล้ว ยังเป็นการรบกวนการทำงานของเฟย์ซัลด้วย เจ้าไม่ควรทำแบบนี้นะ...แม้ว่าข้าจะไม่คิดว่าเจ้ามีรสนิยมแบบนั้นก็เถอะ และที่จริง... เจ้ารุกหรือรับนะ?” ประโยคหลังพูดเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่อย่าคิดว่ามันจะรอดพ้นหูของลูเธอร์ไปได้
“มอทย่า” ลูเธอร์เรียกชื่อมอทย่าด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล จากนั้นก็ด่าอย่างไม่นุ่มนวลเลยแม้แต่น้อย... “เจ้าจ่ายเงินมาเดี๋ยวนี้ เอาแต่ฟังความข้างเดียว เฟย์ซัลมาพังกับดักห้องข้าหรอก ตอนนี้หมอนั่นหนีไปแล้วเห็นไหม เจ้ารับผิดชอบ จ่ายมาสองเท่า เอามาสองเหรียญทอง” ลูเธอร์ใส่ไม่ยั้งเมื่อมอทย่าหยุดพูด
“หา?” มอทย่าถาม ตามคำพูดของลูเธอร์ไม่ทัน
“เอามาสองเหรียญทองเดี๋ยวนี้เลยนะ” ลูเธอร์สั่ง “เจ้าอคติที่ข้าไม่ยอมช่วยแก้ข่าวล่ะสิถึงได้คิดว่าข้าเป็นอย่างนั้น บ้าเอ๊ย!ข้าไม่สน!จ่ายมา” ลูเธอร์สั่ง
“อ...อืม” มอทยารับคำแบบมึนๆแล้วก็ควักเหรียญทองออกมาสองเหรียญส่งให้ลูเธอร์
“ว่าง่ายๆก็ดี มันเป็นสิ่งที่เพื่อนที่ดีควรทำ ถ้าเจ้าจะเอาเงินคืนสักสามเหรียญก็ไปทวงเอากับเจ้าบ้าเฟย์ซัลก็แล้วกัน” ลูเธอร์สรุปสั้นๆแล้วเดินกลับเข้าห้องอย่างที่ตั้งใจจะทำในตอนแรก
“...” มอทย่าก็มองเงินหกเหรียญของตนที่ละลายหายไปกับจอมปีศาจลูเธอร์อย่างช่วยไม่ได้
แถมท้ายเพื่อไม่ให้สั้นผิดกฎจนเกินไป...
//เฮ้ย บทความนะไม่ใช่กระโปรง// //อืม...ไม่รู้ไม่สน//
“โอ... มอทย่าผู้น่าสงสาร” เทอรีเซียที่แอบมองอยู่หลังเวทีก็เลยเล่นบทโศกแทนเสียเลย
“เอ... ที่รัก เจ้าว่าเราเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?” เฟย์ซัลที่หนีมาอยู่หลังเวทีเช่นเดียวกันถามขึ้น
“เข้าใจอะไรผิดเหรอ?” เทอรีเซียถามกลับ
“ก็อย่างเช่น... เจ้าดูสิ เอาเข้าจริงลูเธอร์ก็สวยไม่หยอก อาจจะ...” เฟย์ซัลยังพูดไม่จบ เทอรีเซียก็ฟูมฟายขึ้นมาเสียก่อน“ไม่นะ... แม้แต่สามีข้าก็คิดจะเปลี่ยนรสนิยมหรือนี่? ฮือๆๆ ชีวิตข้าช่างอาภัพนัก”
“ไม่ใช่นะที่รัก ข้ายังรักเจ้าเหมือนเดิม ข้าเพียงแต่พูดให้เห็นข้อเท็จจริงเท่านั้น”เฟย์ซัลรีบตอบ
“เอ... จะว่าไปมันก็จริง ความหน้าเงินของลูเธอร์ทำให้ข้าหลงลืมข้อเท็จจริงข้อนี้ไป แล้วอย่างนี้เราจะสรุปว่ายังไงดีล่ะเนี่ย?” พอเทอรีเซียหยุดฟูมฟายก็พยักหน้าเห็นด้วย
“นั่นสินะ” เสียงอีกสามเสียงพยักหน้าเห็นด้วย
“เกรย์สัน โนเนท ดีโอ พวกเจ้ามาได้ไงเนี่ย นี่มันบทของข้ากับที่รักไม่ใช่หรือไง?” เทอรีเซียประท้วงขึ้น
“บทของเจ้าก็เปลี่ยนได้ พอดีว่าคนเขียนคลั่งไคล้ท่านดีโอเป็นพิเศษแต่จะให้ท่านดีโอออกมาเพียงคนเดียวก็กระไรอยู่ เราก็เลยได้รับอานิสงค์จากท่านดีโอเท่านั้นเอง” โนเนทตอบให้
“ท่านดีโอพูดอะไรหน่อยสิครับ” เกรย์สันพูดสุภาพอย่างรู้งาน
(ก็คนเขียนมันให้ทำอย่างนี้ไม่งั้นจะไม่ให้ออกอ่ะ//เกรย์สัน)
“สวัสดี” (เอิ่ม... พี่คุณสั้นได้ใจความ แต่คนเขียนชอบ)
“ช่างเถอะ ถกประเด็นเดิมต่อ แล้วยังไงต่อ แค่นั้นมันไม่พอหรอกนะ” เทอรีเซียลากกลับมาเรื่องเดิม
“ก็ ลูเธอร์พูดว่าอะไรนะ ประมาณว่า ‘เจ้าต้องรับผิดชอบ’ อะไรประมาณนี้แหละ ฟังดูเหมือนกับว่าเป็นหญิงสาวที่เสียบริสุทธิ์ยังไงยังงั้น” เฟย์ซัลบ่งชี้ในจุดต่อไป
“นั่นก็น่าคิด เจ้าว่าไง?เกรย์สัน” ดีโอถาม
“เป็นเกียรติมากครับที่ได้รับเลือกให้ตอบคำถาม แต่ว่าข้าคิดว่าก็ไม่แน่นี่ครับ ยังสรุปไม่ได้” เกรย์สันก็ยังคงต้องพูดสุภาพอย่างกล้ำกลืนฝืนทน(เราต้องทำได้...เพื่อเหล่าเอฟซีของเรา//เกรย์สัน)
(ช่างโชคดีเหลือเกิน...เรามีบทแค่ในตอนแรกเท่านั้น//โนเนท)
“งั้นหรือ?” ดีโอยักไหล่ “งั้นก็ตามนั้นไปแหละ ข้าขี้เกียจคิดให้ปวดหัว เรื่องของข้ารึก็ไม่ใช่ แล้วทำไมข้าต้องไปสนใจรสนิยมของลูเธอร์ด้วย? เจ้านั่นจะเป็นโฮโมก็เรื่องของเจ้านั่นสิ เกี่ยวอะไรกับข้า?”
...ตอนแรกก็เงียบอยู่หรอกนะ แต่พอเปิดปากนี่สามารถแสดงประสิทธิภาพของฉายาปากกรรไกรได้เป็นอย่างดีเลยแฮะ ช่างน่ากลัวเหลือเกิน...
“แถมท้ายแค่นี้แล้วกันนะคะ เดี๋ยวเกรย์สันจะเก็บกดตายไปซะก่อน อ้าว ไม่ทันแล้ว” เทอรีเซียกล่าวปิดงานชมนุม(ลับๆ) แล้วรีบเข้าไปปฐมพยาบาลเกรย์สัน
คุยกันอีกหน่อยไหม?
แฟนคลับดีโอเม้นต์หน่อยนะคะ ชอบดีโอตรงไหน? โดยส่วนตัวแล้วไรเตอร์ชอบตรงการจิกกัดคนอื่นเนี่ยแหละ ผู้ชายอะไรจิกกัดเก่งซะยิ่งกว่าไรเตอร์อีก เมื่อกี้ยอมรับค่ะว่าไม่มีความสามารถพอที่จะคิดคำพูดจิกกัดออกมาแบบดีโอ ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ //แล้วก็โค้งงามๆสักรอบ//
ความคิดเห็น