คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1
{Fic KOD} Reserved Ones
ช่วงเวลา : คิดเอาเองจ้า เนื่องจากคนเขียนขี้เกียจคิด
หมายเหตุ : เช่นเคย...ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับเนื้อเรื่อง
คู่ : เอ่อ... ให้เขียนอีกแล้วเหรอ? ก็ได้ มอทย่า ลูเธอร์
คำเตือน : ไม่ตรงกับนิสัยตัวละครสักเท่าไหร่...
ในวันหนึ่งที่อากาศแจ่มใสร่าเริง... (//ไม่ใช่แล้ว แจ่มใสเฉยๆ//)
“หาว... ง่วงจังเลย” นั่นคือเสียงแรกในยามเช้าของห้องที่ไม่ค่อยมีใครอยากจะเข้าไปเยือนนัก
ใช่แล้ว... ห้องของหัวหน้ากองพันที่เจ็ดนั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องหนาวกับกับดักที่มีอยู่แทบจะทุกที่ของห้องนี้
อาจจะยกเว้น...
“อ้าว... ตื่นแล้วเหรอ?” รอยยิ้มที่ดูดีเป็นปกติของเจ้าของเส้นผมสีทองทำให้คนที่เพิ่งตื่นนอนรู้สึกหงุดหงิด บ่งบอกได้จากคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเป็นปม
“ออกไป ข้าจะนอน...” ลูเธอร์พูด อีกฝ่ายรู้ว่านั่นไม่ใช่ประโยคบอกเล่า แต่เป็นคำสั่ง
ทว่ามอทย่าก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นเช่นเดิม
ลูเธอร์หันมามอง ดูก็รู้ว่าทั้งหงุดหงิดและรำคาญ แต่เมื่อได้เห็นอีกฝ่ายจ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ลูเธอร์ก็ทนไม่ไหว ถามเสียงห้วน “มีอะไร?”
“เจ้าจะไปประชุมหรือเปล่าวันนี้?” มอทย่าถาม
ลูเธอร์ตาสว่างแทบจะในทันที “กี่โมงแล้ว?”
“อีกสิบห้านาทีจะแปดโมงแล้ว” มอทย่าตอบ
“เฮ้ยๆๆ อาบน้ำๆ” ลูเธอร์พูดแทบจะไม่เป็นภาษา เขาพนันไว้กับเฟย์ซัลตอนที่นั่งก๊งเหล้ากันเมื่อคืนสิบเหรียญทองว่าจะไม่สาย แล้วก็โดนมอมเหล้าเข้าไปเต็มๆ
“เดี๋ยวข้าเตรียมชุดให้” มอทย่าเอ่ยเบาๆเมื่อพบว่าลูเธอร์ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว...
...........................................................................................
“ข้าไม่สาย เพราะงั้นจ่ายมาซะดีๆ เงินสิบเหรียญทองของข้า” ลูเธอร์เดินเข้าไปหาเฟย์ซัลที่หันมามองมอทย่าอย่าง... ตำหนิ?
“ตายแล้ว ไหนเจ้าบอกว่าจะไม่ปลุกลูเธอร์ไง? มอทย่า” เทอรีเซีย แฟนสาวของเฟย์ซัลเอ่ยอย่างเห็น(ว่าสะ)ใจ
“การจ้องไม่ถือว่าเป็นการปลุกหรอกนะ เฟย์ซัล เสียใจด้วยที่มอทย่าเพื่อนยากของเจ้า...ทรยศ เอาล่ะ ทีนี้ก็จ่ายมาได้แล้ว เหรียญทองสิบเหรียญ หรือจะให้เกินข้าก็ไม่เกี่ยง แต่ถ้าขาดข้าจะ...” ลูเธอร์ชะงักไป
“จะอะไร?” เฟย์ซัลถาม
ลูเธอร์เดินเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างกับเฟย์ซัล
“เจ้ามันปีศาจชัดๆ” เฟย์ซัลหน้าซีด จ่ายเงินไปครบไม่ขาดไม่เกิน
“ขอบคุณที่มาอุดหนุน” ลูเธอร์เดินกลับไปนั่งที่ และก่อนที่มอทย่าจะได้เปิดปากร่ายกฎอัศวินฉบับมอทย่า คาลมันก็เดินเข้ามาเสียก่อน
“มีใครจะรายงานอะไรไหม?” คาลมันถาม
“...” แม้แต่ดีโอก็ยังเงียบ
“งั้นภารกิจพวกนี้...” คาลมันยกกองเอกสารปึกใหญ่ขึ้นมาวางบนโต๊ะ “ใครจะทำ?”
“เอ...ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่านัดกองพันของข้าฝึกซ้อมตอนแปดโมงครึ่ง... ขอตัวไปยกเลิกก่อนนะ” เฟย์ซัลทำท่าจะชิ่ง เห็นดังนั้นเทอรีเซียจึงเอาด้วยคน
“ข้าก็เหมือนกัน ตอนแรกว่าจะฝึกด้วยกันสองกองพันน่ะ”
“เหรอ? งั้นเอางานกองนี้ไปแบ่งกันนะสองคน” คาลมันไวกว่า จัดการแยกเอกสารที่เป็นภารกิจง่ายๆ(แต่เยอะ)ออกมาแล้วส่งให้ทั้งคู่
“...” จะไม่รับก็กระไรอยู่ ทั้งคู่จึงรับกองเอกสารมา น้ำตานองหน้าแล้วเปิดประตูออกไป
ลูเธอร์หัวเราะในลำคอก่อนหันไปหยิบกองเอกสารขึ้นมาเลือกดู
“ข้าไม่ว่าง” เหนือความคาดหมาย ดีโอเป็นรายต่อมา
“แต่ข้าเลือกให้พวกเจ้าเสร็จแล้ว” คาลมันว่า “ดีโอ เจ้าเอากองนี้ไป เกรย์สัน โนเนท สองกองนี้ ที่เหลือแบ่งกันเอง แยกย้ายได้ ส่วนเจ้า ลูเธอร์ ไปทำภารกิจนี้ซะ”
“หา...” ลูเธอร์ครางอย่างเหนื่อยๆ “นี่ คิดยังไงให้ข้ารับมือ ขุนนางที่กำลังติดสัดอยู่หือ?”
พรวด! น้ำที่มอทย่าดื่มอยู่ถูกพ่นออกมาจากปาก
“ไหงงั้นเล่า?” นั่นคือเสียงที่แสดงความสะใจจากปากเฟย์ซัล
“ก็เจ้าดูมีหัวคิดที่สุดนี่” คาลมันยักไหล่ แม้ว่าคำพูดแนวนี้จะเป็นการยอก็ตาม แต่เมื่อเขาพูดก็แปลว่าเขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ
“ก็ได้ ข้าจะไป” ลูเธอร์ยักไหล่ตอบ
“เฮ้ย ไหงยอมรับง่ายๆแบบนั้นเล่า?” เฟย์ซัลรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่เห็นลูเธอร์โกรธอะไร
“ก็แค่ลักพาต... สู่ขอผู้หญิงให้ก็เท่านั้นเอง...”
“หวังว่าเจ้าจะไม่มีปัญหา”
“แน่นอนอยู่แล้ว” ลูเธอร์ตอบ
“...”
...........................................................................................
“ทำภารกิจเสร็จแล้วเหรอ?” มอทย่าถามเมื่อเห็นลูเธอร์นั่งเฉยๆอยู่ในห้อง(ของตนเอง)
“อืม” ใช้ยาเสน่ห์ก็จบ คาลมันคงรู้อยู่แล้วว่าเขามียาตัวนั้นแต่ไม่ชอบขายยาของตัวเองก็แค่นั้น
“ไหนบ่นว่า...”
“ไม่ได้หมายความว่าทำไม่ได้สักหน่อย” ลูเธอร์แสยะยิ้ม
“นี่ เจ้าคงไม่ได้...”
“อ๋อ เปล่าหรอก” เพราะข้าไม่อยากฟังเจ้าร่ายกฎอัศวินฉบับมอทย่า ประโยคหลังได้แต่เติมในใจ “จะว่าไปแล้ว เจ้าเคยเห็นข้ากางปีกหรือยังล่ะ?” ลูเธอร์รีบเปลี่ยนเรื่อง
“ยังเลย เจ้าอย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่องสิ” มอทย่ายังคงจดจ่ออยู่ที่เรื่องเดิม
“ข้าจะไปหาดีโอ” รู้สึกว่าลูเธอร์จะกลัวกฎอัศวินฉบับมอทย่ามากกว่าเดิมเรื่อยๆ
“อะไรกัน เดี๋ยวสิ” มอทย่าช้าไปนิดหนึ่ง ลูเธอร์จึงหายตัวไปเรียบร้อยในวินาทีถัดมา
มอทย่าได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วก็นั่งลงทำงานเอกสารที่ตั้งใจจะมาทำในตอนแรก
...........................................................................................
หลังจากที่หนีออกมาได้อย่างหวุดหวิดจะโดนร่ายกฎ ลูเธอร์ก็เรียกซอฟออกมา
เรื่องที่บอกว่าจะไปหาดีโอก็ลืมไปได้เลย เจ้าคนปากกรรไกรนั่นจะไปหาทำไมให้เสียเวลา
สู้ไปขี่ครึ่งยูนิคอร์นครึ่งอินคิวบัสชมป่าได้เสียที่ไหน(เดิมมันคือขี่ม้าชมเมืองไม่ใช่เรอะ?)
แต่เจ้าม้ากลับบอกว่า...
“โทษที เจ้านาย แต่วันนี้ข้าจะกลับไปเยี่ยมท่านพ่อกับท่าน...” ซอฟชะงักไปเมื่อเห็นท่าทีของผู้เป็นเจ้านายแล้วถามขึ้นใหม่ “เอ่อ... เจ้านายมีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีหรอก... ไปเถอะ” ลูเธอร์ตอบด้วยสีหน้ามืดมน
“ข้าไปนะครับ” ยังอุตส่าห์หันมาล่ำลา ลูเธอร์นึกหงุดหงิดกับท่าทางที่เหมือนจะเยาะเย้ยนั่นจริงๆ แม้ว่าซอฟจะไม่ได้ตั้งใจก็ตามที
และในท้ายที่สุดก็ต้องกลับไปที่ห้องของตัวเองเพราะคิดไม่ออกว่าจุดหมายที่ต้องการจะไปคือที่ไหน หากเป็นซอฟซึ่งเป็นพาหนะประจำตัว จะปู้ยี่ปู้ยำสักเท่าไหร่ก็ได้ แต่กับคนอื่น ไม่น่าจะทำได้
ระหว่างทาง ลูเธอร์ก็เจอมอทย่าอยู่กับหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ทั้งคู่กำลังคุยกัน พูดให้ถูกก็คือหญิงสาวกำลังชวนมอทย่าคุยต่างหาก
“อ้าว ท่านหัวหน้ากองพันที่เจ็ด ที่เขาลือกันว่าเป็นสามีของท่านมอทย่าสินะ” หญิงสาวทัก “จริงรึเปล่าคะ?”
“ก็ต้องไม่จริงสิ เจ้าช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดทีสิ ลูเธอร์” มอทย่าหันมาขอความช่วยเหลือจากลูเธอร์
“ข้าได้อะไร? เก็บเงินเจ้าไว้ใช้จ้างข้าในวันสอบเถอะ” ลูเธอร์แนะ
มอทย่ายิ้มแห้งๆ “แต่เจ้าก็น่าจะรำคาญใจบ้างนี่ ลูเธอร์”
“แทนที่จะมามองที่ข้า เจ้าก็ไปควงสาวสิ น่าจะแก้ได้ดีกว่าเป็นไหนๆ” ลูเธอร์แสยะยิ้ม นัยน์ตาสีเงินทอประกายเจ้าเล่ห์ “แนะนำให้ก็คนข้างๆเจ้าแหละนะ ค่าปรึกษา หนึ่งเหรียญเงิน จ่ายมา”
“เจ้าป่วยหรือเปล่า? ลูเธอร์” มอทย่าถาม หยิบเงินหนึ่งเหรียญเงินขึ้นมา
“อะไรของเจ้า? ข้าก็แค่เห็นแก่เจ้า มีคนมาชอบทั้งที รีบรับไว้เถอะ” ลูเธอร์คว้าเงินแล้วเดินผ่านไป ไม่สนใจเสียงเรียกของทั้งสองอีก
มอทย่าหันไปมองคนข้างๆ “ลูเธอร์แค่พูดเล่นน่ะ แอน อย่าคิดมากเลยนะ”
แถมท้ายด้วยรอยยิ้มสว่างไสว คราวนี้ไม่ต้องคิดอะไรกันแล้ว โอกาสมีไม่กี่ครั้ง...
“ข้าจะคบกับท่านเองค่ะ” อัศวินสาวรีบคว้าแขนท่านหัวหน้ากองพันที่หนึ่ง แทบจะลากเข้าห้อง
คุยกันหน่อยไหม?
555+
ชอบหรือเปล่าคะ? ไม่ค่อยแน่ใจว่าดีไหม แต่ช่วยติชมด้วยนะคะ
ไม่ใช่เรื่องแรกค่ะ ถ้าจำไม่ผิดคือเรื่องที่แปดค่ะ แต่ส่วนมากไม่ค่อยได้เอาลงคอมฯ
ถ้าเรื่องอื่น จะดูเหมือนเป็นคนละคนก็ไม่ต้องแปลกใจนะคะ เป็นคนหลายบุคลิกค่ะ
เอาเป็นว่าไปอ่านตอนต่อไปเลยก็แล้วกันนะคะ
ความคิดเห็น