คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ปฏิบัติการกดเมะ :: 1 {up 50%} RE
1
อากาศยามเช้าที่สดใสทำให้ร่างบางที่เดินหาวหวอดๆมาโรงเรียนนั้นตื่นสาย แต่สำหรับเค้าแล้วดูจะไม่สะทกสะท้านสักเท่าไหร่ เพราะสารวัตรนักเรียนหรือกรรมการรักษากฎระเบียบของโรงเรียนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศมาตั้งแต่หลายปีแล้ว และด้วยคำสั่งที่ว่า ห้ามตั้งกรรมการคนใหม่จนกว่าจะกลับมาจากต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถมีกรรมการรักษากฎระเบียบได้ และนั่นก็ดูเหมือนจะเป็นผลดีสำหรับนักเรียนอย่างพวกเขา
ร่างบางเดินมาถึงหน้าโรงเรียนก็เห็นว่าประตูโรงเรียนปิดแล้วจึงเดินอ้อมไปด้านหลังของโรงเรียน มือเล็กโยนกระเป๋าเข้าไปในโรงเรียนอย่างไม่เกรงกลัวก่อนจะปีนขึ้นไปบนกำแพงเตรียมจะกระโดดลงมา
“มาสายงั้นหรอ!”เสียงทุ้มแปลกๆของคนๆหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ร่างบางจะกระโดดลงมาจากกำแพง
“เฮ้ย! เล่นบ้าไรเนี่ยตกลงไปมันเจ็บนะเว้ย!”ร่างบางหันไปโวยใส่ทันทีก่อนจะเห็นปลอกแขนสีแดงเขียนชัดๆว่า ‘สารวัตรนักเรียน’ หรือถ้าเรียกให้เท่ๆก็คือ ‘กรรมการคุมกฎระเบียบ’ นั่นละ
“ถ้ารู้ว่าตกลงมาเจ็บจะปีนขึ้นไปทำไม”
“ออกไปซื้อไมโลมา!”ร่างบางตอบส่งๆ
“งั้นก็สองกระทงเลยสินะ มาโรงเรียนสายแล้วยังโดดเรียนไปซื้อไมโลอีก”ถึงจะมองเห็นหน้าไม่ชัดเพราะแสงมันสะท้อนแต่ก็ยังเห็นปลอกแขนชัดเจนจนร่างบางรู้สึกว่า
“ไม่รอดแน่กู...”ร่างบางเอ่ยเบาๆกับตัวเองก่อนตั้งท่าจะกระโดดลงมา
“นี่! โดดให้ถูกท่าละจะได้รับได้ถูกที่”เสียงทุ้มเข้มนั้นทำให้ร่างบางรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
“ไม่ต้องมารับ ฉันลงเองได้!!”ร่างบางตะโกนลงไปก่อนจะกระโดดลงไปทันที แต่แทนที่จะเป็นพื้นปูนแข็งๆกลับรู้สึกเหมือนเหาะได้ซะนี่
“เฮ้ย!!!”ร่างบางร้องพร้อมทุบอกคนตัวสูงกว่าให้ปล่อยเขาลง
“นี่...อยู่นิ่งๆบ้างจะได้มั้ย?”ร่างสูงถามพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้
‘ทำไมกรรมการคุมกฎโรงเรียนเรามันหล่อจังวะ ไม่เห็นเหมือนที่คนอื่นบอกเลย...ทำไมฉันไม่หล่อได้ครึ่งของมันบ้างวะ’ เสียงร่ำร้องในใจของร่างบางยิ่งทำให้เกิดความหมั่นไส้ผู้ชายตรงหน้าขึ้นไปอีก
“แล้วจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทำไม!”
“จะได้เห็นหน้ากันชัดๆไง จะได้รู้ว่าไอ้เด็กดื้อคนไหนมันมาโรงเรียนสาย”
“แล้วจะปล่อยผมได้หรือยังครับคุณกรรมการ!”
“ปล่อยทำไม ยังไงฉันก็ต้องแบกนายไปห้องกรรมการเพื่อสอบสวนการกระทำของนายอยู่แล้ว”
“ทำเหมือนฉันไปขโมยของใครเค้ามาอย่างนั้นละ”ร่างบางบ่นเบาๆแต่ก็ยังไม่พ้นหูร่างสูงอยู่ดี...
‘น่ารักกว่าที่คิดไว้ซะอีกนะคิมฮีชอล’ ร่างสูงคิดในใจพลางแบกเจ้าผู้ชายตัวเล็กในท่าเจ้าหญิงเดินไปห้องกรรมการ แต่ก็ไม่พ้นการเถียงกันตลอดทางเดินอีกจนได้
“คุณกรรมการ ผมเดินเองก็ได้ทำไมต้องอุ้มด้วย!”
“ถ้าไม่อุ้มนายก็หนีน่ะสิ”
ร่างบางเบ้ปากก่อนจะหันหน้าหนีไปที่อื่น ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้มีนิสัยขัดกับหน้าตาและการกระทำขนาดนี้ และที่สำคัญคือทำเหมือนเขาเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆในนิทานอย่างนั้นแหละ...ไม่ถูกใจเอาซะเลย!
“เอ้าเข้าไปสิ!”
“โอ๊ย!!”จู่ๆร่างสูงก็โยนร่างบางลงทั้งๆที่ข้างล่างนั่นคือพื้นซีเมนต์แข็งๆไม่ใช่โซฟานุ่มๆ
“ไอ้เวรนี่!!”ร่างบางสบถออกมาด้วยความเคยชินก่อนจะจ้องหน้าร่างสูงเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อแล้วลุกขึ้นเดินกระแทกไหล่พ่อกรรมการตัวดีเข้าห้อง ‘คณะกรรมการ’ ไป
ร่างสูงเดินตามเข้าไปพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ คนตัวสูงผายมือให้ร่างบางนั่งบนโซฟาตัวนุ่มก่อนที่ตนจะเดินไปนั่งตรงข้ามร่างบางแทน ดวงตากลมโตของผู้มาใหม่กวาดมองไปรอบๆห้องเหมือนต้องการจะเก็บข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างภายในห้องนี้ทั้งหมดจนร่างสูงอดยิ้มไม่ได้กับความน่ารักนี้
“ยิ้มไร”แต่ทันทีที่คำพูดที่ไร้ซึ่งความสุภาพออกมาจากปากร่างบางฮันกยองก็หุบยิ้มทันที
“มีอะไรก็รีบๆพูดมาสิ ทำหน้าตาปัญญาอ่อนอยู่ได้”พอเจอร่างบางสวนเข้าให้ก็สะอึกนิดหน่อย ตั้งแต่เกิดมามาแค่น้องชายของเขาคนเดียวเท่านั้นที่เคยว่าเขาว่าปัญญาอ่อน
“ปากเก่งจริงนะ วันนี้ต้องโดนกักตัวจนถึงบ่ายในห้องนี้! ห้ามออกจากห้องนี้เด็ดขาด!!”ร่างสูงพูดเสียงลั่นเป็นประกาศิต แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สะทกสะท้านแถมยังพยักหน้ายอมรับเสียโดยดีก่อนจะเดินรอบห้องเหมือนจะสำรวจ
“นี่คุณกรรมการ มีเกมให้เล่นมั้ย”
“นี่ฉันลงโทษนายอยู่นะ คิมฮีชอล!”ร่างสูงถึงกับหัวเสียเมื่อเจ้าตัวดีไม่ได้สำนึกเลยแม้แต่น้อย
“ก็แล้วทำไมต้องตะคอกด้วยวะอยู่ใกล้กันแค่นี้ บ้าหรือเปล่าฮะ!!”ร่างบางขึ้นเสียงบ้าง
“เอาละนะ...เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีมั้ย?”ร่างสูงหายใจเข้าออกช้าๆพร้อมกับนับหนึ่งถึงสิบไปด้วย
“ก็ว่ามาสิ”
ฮันกยองลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปล็อคประตูห้องแล้วเดินตรงไปหาร่างบางที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างรับอากาศยามเช้าที่สดใส มือหนาจับขอบหน้าต่างเอาไว้ข้างนึงส่วนอีกข้างวางไว้ข้างๆมือของร่างบางเพื่อไม่ให้เจ้าตัวเล็กนี้หนีไปไหนได้
“ทำอะไรของนาย!”
“ก็จะทำความรู้จักกันไม่ใช่หรือไง”มือหนารั้งเอวบางเขามาแนบร่างก่อนจะโน้มหน้าลงไปประกบริมฝีปากของตนกับอีกฝ่ายเข้าด้วยกัน แต่แค่ริมฝีปากแตะกันเบาๆก็ทำให้ร่างบางตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ มือเล็กทุบระรัวที่ร่างสูง ลิ้นหนาสอดเข้าไปภายในโพรงปากอุ่นของอีกฝ่ายก่อนจะตวัดไล้ฟันสีไข่มุกของอีกฝ่ายช้าๆ
“ทำบ้าอะไรวะ!!”ร่างบางออกแรงผลักอีกฝ่ายออกก่อนจะหอบหายใจเสียงดัง ไม่ใช่ว่าไม่เคยจูบคนมาก่อน แต่ใครจะบ้าจูบกับคนไม่รู้จักแถมเป็นผู้ชายที่ดูท่าเหมือนอยากจะกดเราเต็มที่ละ
“ก็นี่มันวิธีทำความรู้จักตามแบบฉบับของฉัน”ร่างสูงเหยียดยิ้มเล็กน้อย
“ดูปากฉันให้ชัดๆเลยนะ ฉัน-ไม่-ชอบ-ผู้ชาย!”
“หรอ...ฉันเพิ่งได้ข่าวว่านายไปนอนกับผู้ชายมาไม่ใช่หรือไง”
“ฮะ!!! น...นายไปเอาข่าวนี้มาจากไหนฮะ ฉันจะบอกให้นะ ฉันไม่เคยโดนเอา!!”ร่างบางเดินเข้าไปหาร่างสูงพร้อมกับเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากอีกฝ่ายเหมือนตุ๊กตาล้มลุก
“แต่เคยเอาเขาว่างั้น”
“เออ! เฮ้ย!!! ถึงฉันจะไม่ได้แมนเต็มร้อยแต่จะบอกให้รู้ไว้นะ ฉันไม่คิดจะเอาของๆฉันไปเสียบตูดใครแล้วฉันก็ไม่คิดจะให้ใครเอาของๆมันมาเสียบตูดฉันด้วย! มันน่าขยะแขยง!”
ร่างสูงยืนฟังร่างบางร่ายยาวก่อนจะทำท่าคิดอะไรอยู่แล้วก็พูดขึ้นมา
“ถ้านายไม่ชอบเสียบงั้นฉันเลียก็ได้นะ พอเลียไปเลียมานายก็อยากให้ฉันเสียบเองนั่นละ”และนี่เป็นอีกครั้งที่ฮันกยองทำให้ร่างบางอึ้งไปชั่วขณะเพราะคำพูดที่ชวนเสียวตูดแบบนี้
“น...นายแม่งโคตรโรคจิตเลยว่ะ!!”ร่างบางตอบกลับด้วยสีหน้าหวาดระแวงก่อนจะรีบเดินไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาเตรียมจะเดินออกจากห้อง
“ปอดแหกหรือไงกันคิมฮีชอล?”
“ว่าไงนะ!”
“ฉันถามว่านายปอดแหกหรือไง”
“ฉันเนี่ยนะ!! อย่ามาดูถูกกันให้มากนักนะ เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ...ไม่สิ ฉันยังไม่รู้จักนายด้วยซ้ำ อย่ามาทำรู้ดี”ร่างบางขว้างกระเป๋าเป้ใส่ร่างสูงแต่ร่างสูงก็รับมันได้อย่างแม่นยำ
“ฉันชื่อฮันกยอง ทีนี้ก็รู้จักกันแล้วนะ”
“กวนตีน!”
“ฉันมีสองอย่างให้นายเลือกคือ นายจะกดฉันหรือให้ฉันกดนาย”ร่างสูงไม่สนใจคำพูดของร่างบางแต่กลับถามร่างบางแทน และคำถามนั้นทำให้หน้าของร่างบางขึ้นเป็นสีเลือดฝาดเล็กน้อย
50%
*****
ติดตามกันต่อไป บ๊ายบี! To be con.
ความคิดเห็น