คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : หอแตก : 23
-23-
วันนี้แหละครับผมจะเผด็จศึกไอ้ชานยอล....
หลังจากที่สร้างภาพเป็นเมะที่แสนดีมานาน วันนี้แหละครับ คืนวันศุกร์อันแสนสงบนี่แหละครับที่สมควรแก่เวลาแล้ว ผมจะทำการเปิดประตูหลัง
อาบน้ำปะแป้งเด็กหอมๆ ผมบอกชานยอลไปแล้วว่าคืนนี้ผมจะไปนอนด้วย สวมเสื้อนอนตัวเก่งกับกางเกงบอลขาสั้นที่มักจะใส่เป็นประจำเพื่อไม่ให้ชานยอลจับได้ถึงความผิดปกติ มันไม่มีทางรู้หรอกว่าผมจะปล้ำมันคืนนี้ เมื่อจัดการกับตัวเองเสร็จผมก็เดินไปตรวจดูกระเป๋าอีกรอบ เห็นถุงยางนอนกองอยู่ในนั้นพร้อมกับโลชั่นแล้วก็พยักหน้าให้กับตัวเองด้วยความพึงพอใจ
ยืดอกพกถุงครับ!
“เสื้อผ้าสำหรับพรุ่งนี้?”
“เอาไปแล้ว”
“โทรศัพท์?”
“เอาไปแล้ว”
“ถุงยาง”
“เอาไปแล้ว....เฮ้ย! มึง!!” ไอ้เซฮุนชะโงกหน้ามามองกระเป๋าผมทันที รีบปิดขนาดไหนก็ไม่ทัน ไอ้แฝดนรกคนน้องล้วงเข้ามาในกระเป๋าเป้แล้วหยิบกล่องถุงยางขึ้นไปพิจารณาซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าแม่งจะมองอะไรนักหนา หาวันหมดอายุรึไงก็ไม่ทราบ รีบคว้ากลับมาแล้วยัดลงกระเป๋าตามเดิม
“อะแน่ะ...วันนี้ไปทำอะไรนี่รู้เลย” คิมจงอินที่นอนอยู่ที่ประจำของมันส่งเสียงลงมาแซว ผมตีหน้ามึนแล้วรูดซิบปิดกระเป๋าประหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วกระแอมไอเบาๆ “แม่กูบอกให้พกติดตัวไว้ อะไรก็เกิดขึ้นได้”
“คงไม่อะไรก็เกิดขึ้นได้ นี่เกิดขึ้นเลยกูฟันธง”
“เออ! เสือกจริงๆ กูไปแล้ว”
“อย่าขาถ่างกลับมานะมึง~”
“เดี๋ยวมึงได้ขาถ่างคนต่อไปไอ้จงอิน!!”
ผมชี้หน้ามันก่อนจะเดินออกมาจากห้อง เมื่อปิดประตูก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ลมนี่พัดค่อนข้างแรงเหมือนฝนจะตกยังไงก็ไม่รู้ เห็นแบบนั้นผมเลยรีบก้าวเท้าผ่านกลางสวนไป ไม่อยากจะเดินอ้อมใต้ตึกอื่นซักเท่าไหร่ นี่ก็สองทุ่มแล้ว ฟ้าทำไมมันมืดจังเลยครับให้ตายเหอะ
และก็ซวยซ้ำซวยซ้อน เดินมืดๆคนเดียวไม่พอ ฝนห่าใหญ่ก็พากันเทลงมาโดยมิได้นัดหมาย ผมกอดกระเป๋าไว้แนบอกแล้วขยับขาวิ่งตรงไปยังหอพิเศษที่อยู่ไกลที่สุด แล้วก็ไม่รอด เปียกไปเต็มๆ
โอ๊ยให้ตายห่า เพิ่งจะอาบน้ำมา!
เปรี้ยง!
“อ๊าก!” ผมยกมือขึ้นอุดหูเมื่อเสียงฟ้าร้องจู่ๆก็ดังขึ้นแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องของไอ้ชานยอลทันที ทุบประตูรัวๆจนกระทั่งมันเปิดประตูผมก็พุ่งตัวเข้าไปในห้องแล้วปิดผ้าม่านทันที
“เตี้ยเป็นไร?”
“ฟ้าร้อง! ไอ้เหี้ย ร้องโคตรดัง!”
“กลัว?”
“เปล่า แต่กูไม่ชอบ มันตกใจ” ผมยกมือขึ้นอุดหูตัวเองอีกครั้งพลางหลับตาปี๋โดยอัตโนมัติเมื่อฟ้าแลบ ชานยอลเดินเข้ามากอดเอาไว้ กดศีรษะของผมให้จมหายเข้าไปที่อกของมันก่อนจะลูบศีรษะของผมเบาๆเพื่อปลอบ
“กูอยู่นี่ โอเคนะ ใจเย็นๆลูกหมา”
“หมาพ่อมึง”
“วันนี้ไม่เห็นทำตัวน่ารักเหมือนทุกทีเลยวะ”
“หมดโปร” เมื่อไม่ได้ยินเสียงฟ้าร้องแล้วผมก็ค่อยๆผลักมันออก ยกมือขยี้ผมตัวเองที่ตอนนี้เปียกไปด้วยน้ำ ชานยอลยืนมองผมซักพักก่อนจะเดินเข้าไปในห้องหยิบเสื้อตัวใหม่ของมันมาให้ “ไปเปลี่ยนเสื้อไป เดี๋ยวก็เป็นหวัด”
“ใส่เสื้อมึงอะนะ?”
“อื้อ ทำไม? ใส่ไม่ได้ติดพุง?”
“ใส่ได้เว้ย!!” ผมเบะปากคว่ำแล้วดึงเสื้อออกมาจากมือของไอ้ชานยอลแล้วเดินเข้าห้องน้ำ เสื้อผ้าที่เอามาใส่พรุ่งนี้ก็ไม่ใช่สำหรับใส่นอน เพราะงั้นเอาเสื้อไอ้ชานยอลมาใส่เนี่ยแหละดีที่สุด ผมถอดเสื้อตัวเองออกแล้วอาบน้ำอีกรอบ สระผมอีกทีเพื่อไม่ให้เป็นหวัดใช้เวลาซักพักก็เดินออกมาหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ในนี้เช็ดตัวให้แห้งก่อนจะสวมเสื้อตัวใหม่ที่มีแต่กลิ่นของชานยอล เผลอสูดลมหายใจเข้าปอดเสียลึก
ไอ้โรคจิตเอ๊ย
ผมหาที่ผึ่งเสื้อในห้องน้ำก่อนจะสวมเสื้อตัวโคร่งออกมากับกางเกงบอลตัวเดิม ปกติชานยอลมันใส่ก็ใหญ่มากพอแล้ว พอผมใส่ไหล่ที่ตกมาเกือบถึงข้อศอก ไอ้ห่านี่ชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ๆแล้วยังมาหาว่าผมใส่เสื้อมันไม่ได้ เดี๋ยวก็ฟาดคอด้วยแข้งซะหรอกแม่ง
“เอ้าผ้าเช็ดหัว” เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำมันก็โยนผ้าขนหนูผืนเล็กใส่หัวผมแล้วเดินไปนั่งอยู่ที่โซฟาพร้อมกับก้มลงดูกระดาษเอสี่หลายแผ่นที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมแยกเขี้ยวใส่นิดหน่อยแล้วเดินตามไปนั่งข้างๆ
“อะไร? นี่วันศุกร์แล้วนะยังมีงานอีกหรอ?”
“นิดหน่อย ผอ.แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดงานเปิดรั้วโรงเรียนเทอมหน้า”
“ทำไมมาเร็วจังวะ”
“ก็ให้พวกสภานักเรียนไปจัดการส่งจดหมายเชิญไปตามโรงเรียนต่างๆ”
“อ๋อ” ผมพยักหน้าน้อยๆแต่ก็ไม่คิดจะอ่านอะไร นั่งขัดสมาธิบนโซฟาวางขาตัวเองทับขาไอ้ชานยอลก่อนจะเริ่มลงมือเช็ดศีรษะด้วยการขยี้แรงๆ
“ฮื่อ....เดี๋ยวกูเช็ดให้” สงสัยจะเช็ดแรงไปหน่อยไอ้ชานยอลถึงได้เลิกสนใจแผ่นกระดาษตรงหน้าแล้วหันมาจับมือผมเอาไว้ ไม่ปฏิเสธผมขยับตัวนั่งหันหลังให้แล้วนั่งนิ่งๆให้ชานยอลเช็ดผม
“นี่ชานยอล”
“หื้อ?” ผมเรียกชื่อของคนที่นั่งอยู่ด้านหลังเพื่อทำลายความเงียบ ไอ้ชานยอลครางเบาๆในลำคอแล้วเช็ดศีรษะของผมต่ออย่างเบามือ ผมหันตัวกลับไปเอามือจับพนักพิงของโซฟาไว้แล้วทำหน้าจริงจัง
“กูขอนะ”
“อะไร?” ชานยอลยังคงทำหน้าไม่เข้าใจ ในที่สุดผมก็ผลักให้นอนลงบนโซฟาแล้วนั่งทับหน้าขาอีกคนเอาไว้ ชานยอลเบิกตากว้างขึ้นนิดหน่อยก่อนจะลุกขึ้นนั่งแต่ผมก็ผลักให้นอนลงไปอีกรอบ
“กูคิดว่ามันถึงเวลาแล้วแหละ ไหนๆมึงก็ผ่านด่านพี่ชายกูมาได้แล้ว เพื่อความยุติธรรมมึงควรจะเป็นของกูซักที”
“ถ้าจะให้ยุติธรรมมึงต้องมานอนตรงนี้แบคฮยอน!”
“จุ๊ๆๆๆ พี่แบครับรองจะไม่ทำให้น้องชานเจ็บแน่นอน จะเบามือที่สุดเลยครับ”
Talk -23-
คนที่มองโลกในแง่ดี..
ย่อมเห็นโอกาสในทุกยามที่เกิดวิกฤต
คนที่มองโลกในแง่ร้าย..
ก็ย่อมเห็นแต่วิกฤตในทุกโอกาส
ที่มา : http://www.thaiquip.com/category/คำคมสอนใจ
มีคนกดแบน หาฉากโน้นเอาเอง บัยน้า
บัยบัยเวอร์จิ้น 55555
ปล.นางพยายามจนวินาทีสุดท้าย
ปล.สอง อย่าลืมเม้นต์และแทค
ปล.สามตังรักทุกโคนนนนน
#ฟิคหอแตก #พี่แบคหอสาม
ความคิดเห็น