ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` [exo] เด็กป่วน ก๊วนหอแตก {chanbaek}

    ลำดับตอนที่ #19 : หอแตก : 18

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.37K
      73
      12 เม.ย. 57






    -18-

    และแล้วสอบกลางภาคก็ผ่านพ้นไป

    หลังจากสอบกลางภาคเสร็จปกติจะได้หยุดยาวสี่วันรวด แต่สำหรับเด็กหอสามที่มาดแมนกว่าใครๆในคืนวันพฤหัสเรามีนัดกับสาวงามอีกฟากรั้ว ไปแรดกันอยู่ทางฝั่งหญิงที่ผู้ชายทั้งโรงเรียนรอที่จะได้มายืนอยู่ซักครั้ง นี่ผมก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมายเท่าไหร่หรอกนะ ไม่ได้รีบร้อนอะไรมากมายเลยด้วย ก็แค่รีบบอกให้จงอินจัดการโทรไปหาแม่มันเพื่อขอยืมเสื้อผ้าแค่นั้นเอง

    “งานเริ่มกี่โมง ขอดูบัตรเชิญดิ๊”

    ผมว่าก่อนจะหงายมือไปข้างๆไม่วายโดนไอ้เซฮุนที่นั่งอยู่ไม่ห่างตบลงมาบนมือหนึ่งทีอย่างแรงก่อนที่บัตรเชิญจะถูกวางลงบนมือผม ทำไมมันต้องทำร้ายผมก่อนวะ อารมณ์แบบเป็นโรคจิตอ่อนๆอะไรงี้ปะ?

    “รวมตัวหกโมงเย็น พิธีเปิดหกโมงครึ่ง อืมมมมมกูควรไปซักทุ่มนึงมั้ย?”

    “ห่าอะไรล่ะ ก็เขาบอกอยู่ว่าหกโมง นี่สรุปว่ามึงโง่แค่สถิติอย่างเดียวหรือโง่เลขทั้งหมดวะ”

    “มึงนี่ไม่รู้อะไร พระเอกเขาก็ต้องมาหลังสุด”

    “กูเคยได้ยินแต่นางเอกไอ้ควาย”

    “มันก็เหมือนๆกันไม่ใช่หรอวะ” ผมพึมพำก่อนจะเอาบัตรเชิญเก็บลงในกระเป๋าเสื้อ สูทสีครีมแขวนอยู่ในตู้ เป็นตัวเดียวกับที่ไอ้เซฮุนใส่ถ่ายแบบเมื่อวันนั้น ถึงสีมันจะหวานแหววไปหน่อยแต่ผมก็จำเป็นจะต้องใส่เพราะป้าฮานิบอกว่าสีนี้แหละเข้ากับผมดี

    บอกแล้วไงว่าไม่ได้ตื่นเต้น แต่ผมจำเป็นต้องดูดีเข้าใจอารมณ์มั้ย? งานนี้ผมจะได้แรดได้โดยปราศจากชานยอลตามมาคุม ไอ้ห่านี่ขี้หึงอย่างกับอะไรดี คืนที่ไปนอนด้วยมันยังกำชับมาอย่างหนักแน่นว่าห้ามผมทำตาหวานใส่ผู้หญิงอีกด้วย

    ถ่อว ของแบบนี้ไม่อ่อยก็ไม่ใช่พี่แบคหอสามสิครับ

    เมียมีเมียพี่ต้องมา~ ถ้าเมียไม่มาก็แปลว่าเมียไม่มี~

    คืนนี้พี่แบคหอสามโสด จีบได้เลยบ่องตง

    “ผัวมึงฝากกูไว้ว่าช่วยห้ามอย่าให้มึงไปอ่อยผู้หญิง”

    “ผัวห่าอะไร ไอ้ชานยอลอะเมียกู”

    “........นี่มึงตกลงกับชานยอลยัง”

    “ยัง แต่ยังไงมันก็ต้องยอมให้กูป่าววะ” ว่าจบก็ผิวปากอย่างอารมณ์ดีก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงจะเริ่มงาน

    “เอ้อ....กูว่าจะเอาให้มึงดูแล้วก็ลืม”

    “อะไร?”

    “ที่สั่งให้เด็กสองคนนั้นไปคัดอะ รู้สึกว่าแทฮยอนแม่งจะไม่ได้คัดตามที่มึงสั่งว่ะ”

    “เอามาดูดิ๊” อารมณ์ดีชะงักกึกก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงดีๆ ไอ้เซฮุนเดินไปหยิบกระดาษเอสี่ในเก๊ะที่โต๊ะเขียนหนังสือก่อนจะยื่นมาให้ ตัวหนังสือหลายบรรทัดที่อยู่บนกระดาษทำเอาผมคิ้วกระตุกนิดหน่อย

    ผมจะไม่ทำอีกแล้วเพราะผมจริงใจกับรุ่นพี่แบคฮยอนครับ

    ผมจะไม่ทำอีกแล้วเพราะผมจริงใจกับรุ่นพี่แบคฮยอนครับ

    ผมจะไม่ทำอีกแล้วเพราะผมจริงใจกับรุ่นพี่แบคฮยอนครับ

    ท้าทายอำนาจมืดชิบหาย

    ผมดีดตัวลุกขึ้นมาจากเตียงก่อนจะเดินออกไปนอกห้องโดยมีโอเซฮุนแฝดคนน้องตามมาติดๆส่วนไอ้แฝดดำกัมจงแม่งนอนอยู่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรซักอย่าง ผมเดินไปที่ชั้นห้องห้องแปดซึ่งมันเขียนบอกไว้บนกระดาษ ผมทุบประตูอยู่หลายทีก่อนที่รูมเมทของแทฮยอนจะเป็นคนเปิดประตู

    “ประ..ประธานหอ มีอะไรรึเปล่าครับ”

    “แทฮยอนอยู่ไหน?”

    “กำลังแต่งตัวอยู่ครับ”

    “เรียกเขาออกมาพบผมด่วน ผมจะนับหนึ่งถึงยี่สิบ ถ้าไม่มาผมจะสั่งทำโทษทั้งห้อง”

    เด็กผู้ชายคนนั้นทำหน้าตื่นนิดหน่อยก่อนจะหายเข้าไปในห้องเมื่อผมเริ่มนับหนึ่ง โอเซฮุนที่ยืนอยู่ข้างๆขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่เข้าใจ “ทำอะไรของมึงวะ”

    “แม่งขัดคำสั่งกู”

    “น้องมันก็คัดถูกแล้วนะ”

    “ถูกห่าอะไรมีคำว่าจริงใจกับรุ่นพี่แบคฮยอนมาตามหลังเนี่ย”

    “อ้า กูก็นึกว่ามึงให้น้องคัดซะอีก” ผมนับต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งสิบแปด คิมแทฮยอนเด็กปีหนึ่งที่ทำซ่าหลายครั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าก็เดินออกมาโดยมีเด็กคนที่มาเปิดประตูให้ยืนอยู่ข้างๆ ผมตีหน้าเข้มทำเสียงขึงขังก่อนจะชูกระดาษในมือขึ้น

    “คุณทำอะไร”

    “คัดตามที่รุ่นพี่สั่งครับ”

    “ที่ผมสั่งมีประโยคเดียว ผมจำได้ว่าประโยคหลังผมไม่ได้อนุญาตคุณนะแทฮยอน”

    “ผมคัดตามที่รุ่นพี่สั่งด้วย และผมก็คัดคำที่อยากคัดด้วย ไม่ผิดนี่ครับ”

    “แทฮยอน!

    “เฮ้ยไอ้แบค ใจเย็นๆ” เซฮุนรีบปรามก่อนที่ผมจะปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อของเด็กปีหนึ่งนั่นขึ้นมา มันดันผมให้ถอยไปด้านหลังก่อนจะเป็นฝ่ายเคลียร์ให้แทน

    “แทฮยอน ในฐานะที่ผมเป็นรุ่นพี่ คุณควรจะทำตามที่สั่งและไม่ควรทำมากไปกว่านั้น แล้วอีกอย่าง....”

    “........ครับ?”

    “แบคฮยอนมีแฟนแล้ว ไม่ว่าคุณจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางทำได้หรอก เข้าใจไหม?”

    “ไอ้เซฮุน! บอกทำไมวะ”

    “เอาน่า อยากให้เด็กเต๊าะมึงไปเรื่อยๆจนเรื่องถึงหูผัวมึงมั้ยล่ะ”

    “ก็บอกว่าไม่ใช่ผัว” ผมกัดฟันกรอดก่อนจะยืนกอดอกแล้วทำหน้าง้ำหน้างอ แทฮยอนนิ่งไปซักพักผมคิดว่ามันคงเข้าใจในสิ่งที่เซฮุนพูด “แฟนรุ่นพี่แบคฮยอนคือรุ่นพี่ชานยอลใช่มั้ยครับ”

    “ใช่ คุณคิดว่าคุณมีอะไรไปสู้เขาได้”

    “ในเมื่อรุ่นพี่ชานยอลที่เป็นผู้ชายทำได้ ผมเองที่เป็นผู้ชายเหมือนกันก็ทำได้ครับ”

     

    “กูว่าแม่งพูดด้วยภาษาคนไม่รู้เรื่อง อาจจะต้องเห่าให้ฟังแบบ โฮ่งๆ บ๊อกๆๆๆ อะไรประมาณนี้”

    “ปกติมึงก็พูดภาษาหมาอยู่แล้วไม่ใช่หรอวะ”

    “ไอ้จงอินไอ้ดำ ไอ้ไม่ขาว ไอ้ถ่าน!

    “กูไม่ขาวแล้วไง มีผู้หญิงทักกูมากกว่ามึงแล้วกัน” ว่าจบมันก็ยักคิ้วหลิ่วตาก่อนจะโชว์เศษกระดาษในมือประมาณสี่ใบที่มีเบอร์โทรของสาวๆ มาถึงงานแค่สิบห้านาทีแม่งก็ได้ไปหลายใบแล้ว เซฮุนได้มาสองส่วนผมนี่ยังไม่มี.....

    ชีวิตของบยอนแบคฮยอนไม่ว่าจะนอกโรงเรียนหรือในโรงเรียนก็ไม่เคยได้กับเขาซักที

    “พี่แบคฮยอนคะ”

    ผมหันไปตามเสียงเรียกทักหวานๆก่อนจะพบว่าเป็นน้องโชรงน้องสาวคนน่ารักของปาร์คชานยอลที่วันนี้ดูน่ารักเป็นพิเศษเมื่ออยู่ในชุดเดรสสีครีม ดูแล้วเข้าคู่กับสีสูทของผมเป็นที่สุด แต่ที่ไม่น่าพอใจซักเท่าไหร่คือส้นสูงของน้องโชนั่นแหละที่ดูจะสูงมากเกินความจำเป็นไปซักหน่อย

    อ่า...ให้ตายสิ น้องโชสูงเท่าผมเลยตอนนี้

    “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ โชบอกให้พี่ชานยอลชวนพี่แบคฮยอนไปเที่ยวที่บ้านบ้างก็ไม่ยอม”

    “ครับ?”

    “ก็คบกันแล้วนี่คะ ไปเที่ยวบ้านกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก คุณแม่อยากเจอพี่แบคฮยอนจะแย่”

    ไอ้ชานยอล..........

    ผมยิ้มแหยเมื่อได้ยินน้องโชพูดถึงคุณแม่ที่ดูท่าทางอยากจะเจอผมจริงๆ จงอินที่ตอนแรกจะเดินหายหัวไปเต๊าะสาวอื่นมันกลับมายืนอยู่ข้างผมและส่งยิ้มที่คิดว่าดูดีไปให้กับน้องโชรง

    “โชรง ปาร์คโชรงค่ะ”

    “คิมจงอินเพื่อนแบคฮยอนกับชานยอลครับ”

    ท่าทางว่ามันจะแอบฟังอยู่นานถึงจะรู้ว่าควรจะแนะนำตัวว่าเป็นเพื่อนของไอ้ชานยอลด้วย และกลายเป็นว่าตอนนี้จงอินกับน้องโชก็คุยกันไปผมเลยถอยออกมาหนึ่งก้าวยินอยู่ข้างๆไอ้เซฮุนที่ยืนกดโทรศัพท์อยู่

    “น้องสาวของชานยอล?”

    “อาหะ”

    “น่ารักดี”

    “ของกู”

    “ผิดคนแล้วไอ้แบค ของมึงอะคนพี่”

    ไม่ว่าเปล่ายังเอามือมาโบกหัวผมที่วันนี้อุตส่าห์เซตมาอย่างงาม หันไปค้อนใส่ไอ้เซฮุนนิดหน่อยก่อนจะหันไปมองที่เวทีเมื่อไฟในงานเริ่มหรี่ลง ผู้อำนวยการพุงโล้เดินขึ้นมาก่อนที่จะมีคนกล่าวรายงาน น้องโชรงยืนอยู่ข้างๆแล้วหันมาส่งยิ้มบางๆให้ บอกเลยไอ้แบคใจสั่นมากครับ

    “ขอให้ลูกๆทุกคนสนุกกับงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ สวัสดีครับ”

    เสียงปรบมือดังขึ้นก่อนที่ผู้อำนวยการจะเดินลงไป พิธีกรประจำงานเดินขึ้นมาบนเวที

    “ขอขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการมากนะคะ และหลังจากนี้จะเป็นเข้าสู่ช่วงงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ ขอเชิญประธานนักเรียนจากฝั่งหญิงคิมแทยอนและประธานนักเรียนจากฝั่งชายปาร์คชานยอลเป็นคู่เปิดฟลอร์ค่ะ”

    ห๊ะ?

    เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมๆกับความแปลกใจของผม ไฟในห้องประชุมหรี่ลงอีกเหลือเพียงแต่สปอร์ตไลท์ที่สาดส่องไปยังฟลอร์เต้นรำ ก่อนจะเห็นปาร์คชานยอลเดินจูงมือใครซักคนออกมายืน เมื่อทั้งสองคนโค้งให้กันเสร็จเสียงเพลงเริ่มบรรเลง คิมแทยอนประธานนักเรียนของฝั่งหญิง? สวยไม่เบาล่ะครับบอกเลย

    “กูนึกว่าชานยอลกลับบ้านนะเนี่ย”

    “เหอะ”

    “นี่มันไม่ได้บอกมึงด้วยหรอ?”

    “บอกมั้ง” สายตาจับจ้องไปยังสองร่างที่เต้นรำอยู่กลางฟลอร์ ตอนนี้เริ่มมีอีกหลายคู่ที่ทยอยเข้าไป น้องโชรงเองก็เข้าไปกับจงอินส่วนเซฮุนก็ยังยืนอยู่ข้างๆผม “เฮ้ย อาจจะเซอร์ไพร์สมึงไง”

    “เซอร์ไพร์สมาก โผล่มากับผู้หญิง เหอะ”

    ผมสบถออกมาก่อนจะกลับหลังหันออกมาหาอะไรกิน ม่อสงม่อสาวอะไรไม่เอาแล้วครับ ไอ้ชานยอลแม่งตัดหน้าผมไปอีกแน่ะ ควงประธานนักเรียนสุดสวยออกมาเสียด้วย

    บอกซักคำก็น่าจะมีป่าววะ

    นี่ไม่ได้หึงนะ โอ๊ยยยยยย!!

    ผมเดินหงุดหงิดงุ่นง่านออกมาจากห้องประชุมหยุดอยู่ที่ระเบียงพร้อมกับอาหารหลายอย่างในมือ ทุกที่แหละครับ งานเลี้ยงมักจะจัดให้ติดระเบียงเพื่อให้คนในงานได้ออกมาสูดอากาศบ้าง แต่ผมคงจะออกมาเร็วไปซักหน่อยตอนนี้เลยยังไม่มีคน อย่างว่าแหละครับงานเพิ่งจะเริ่ม

    วางจานลงบนรั้วระเบียงอันใหญ่ก่อนจะเท้าแขนแล้วสูดอากาศเข้าในปอด เพราะฝนเพิ่งตกไปในช่วงบ่ายทำให้อากาศตอนนี้ไม่ร้อนมากจนเกินไป ลมเย็นๆปะทะเข้าที่หน้า ผมขยี้ศีรษะตัวเองที่เซทมาเป็นทรงให้ยุ่งเหยิงแล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

    อย่างน้อยชานยอลก็น่าจะบอกผม....

    ไอ้เวรนี่! เลิกกันไปเลยไป!!

    หนอยแน่ มีอย่างที่ไหนไม่บอกซักคำว่าจะได้มางานด้วย แถมยังเปิดตัวออกมาพร้อมกับผู้หญิง ถึงจะเป็นเพราะงานเฉพาะกิจก็เถอะ แต่ควรจะบอกกันบ้างป่าววะ นี่เหมือนคนโง่เลย

    แค่โมโหที่มันไม่ได้บอก!

    ก็บอกว่าไม่ได้หึงยังไงล่ะ!!

    “ทำไมจู่ๆก็หายไปล่ะครับ”

    เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง ผมสะดุ้งหันกลับไปมองก่อนจะพบว่าเป็นคิมแทฮยอนเด็กปีหนึ่งกวนประสาทผมได้ทุกครั้งที่เจอกัน กรอกตาไปมาก่อนจะใช้ศอกของตัวเองเท้ากับระเบียงด้านหลังไว้

    “การที่ผมหายไปแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ หือ?”

    “พอมองไม่เห็นรุ่นพี่แล้วเลยรู้สึกแปลกๆ”

    “ทำไม? คุณมองผมอยู่ตลอดเวลาหรือไง”

    “จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิงครับ”

    ผมกรอกตาไปมาก่อนจะยืดตัวขึ้นดีๆ เด็กนี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องจริงๆล่ะมั้ง แทฮยอนเดินเข้ามาก่อนจะหยุดอยู่ข้างๆ เด็กนั่นเท้าแขนลงบนระเบียงมองออกไปด้านนอกที่มืดสนิท “มันอาจจะฟังดูประหลาด รุ่นพี่คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกหรือเปล่าครับ?”

    “ขำมาก ถ้าคุณจะบอกผมว่าที่ผ่านมาแค่ล้อเล่นผมก็ไม่ว่า”

    “น่าเสียดายถ้าผมจะบอกว่าจริงใจ”

    “เด็กบ้า” ผมพึมพำออกมาเบาๆแต่ทว่าแทฮยอนคงจะได้ยินมันเด็กนั่นหัวเราะออกมาเบาๆแล้วหันมามอง ผมจ้องหน้ากลับแม้สายตาที่มองมาจะไม่ต่างจากที่ชานยอลมองผมก็เถอะ แต่มันไม่ได้ทำให้ผมเขินแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำทำผมขนลุกนิดหน่อย

    เออ ผมเป็นบ้าไปแล้วที่ทำตัวเหมือนสาวน้อยเวลาอยู่กับไอ้ชานยอล

    “ผมชื่นชมรุ่นพี่มากครับ สามารถจัดการเรื่องทุกอย่างได้ด้วยความมั่นใจ มีความเป็นผู้นำ”

    “อาการแบบนั้นไม่ได้เรียกว่าชอบ เขาเรียกว่าชื่นชมเฉยๆ”

    “ผมก็คิดว่าอย่างนั้นแหละครับ” เด็กนั่นหัวเราะออกมาเบาๆแล้วหลบสายตาคล้าจะเขิน เห็นอย่างนั้นผมก็ยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะเอื้อมมือไปขยี้ศีรษะของแทฮยอนเบาๆ

    “คราวหลังไม่ต้องมาทำเป็นเต๊าะผมอีกเข้าใจมั้ย? จะคุยก็คุย ในฐานะรุ่นพี่ผมคุยด้วยได้อยู่แล้ว”

    “ชอบเวลาเห็นรุ่นพี่โมโหนี่ครับ”

    “นี่คุณเป็นโรคจิตหรือยังไง”

    ยืนคุยกันอยู่อีกซักพักคิมแทฮยอนก็เดินกลับเข้าไป ผมมองท้องฟ้าที่มืดสนิทอีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมา พลันนึกไปถึงใบหน้าของไอ้ประธานนักเรียนที่ตอนนี้อาจจะกำลังยืนคุยอยู่กับประธานนักเรียนอีกคนผมก็ได้แต่ทำหน้างอ

    ไม่แบ่ง....รู้จักสาวสวยไม่มีแบ่งไง

    ก็บอกว่าไม่ได้หึง เอ๊ะนี่ยังไง!?

    “หึงว่ะเตี้ย” สิ้นเสียงพูดร่างของใครบางคนที่ผมคุ้นเคยก็ยืนทาบอยู่ด้านหลัง แขนทั้งสองข้างคร่อมตัวผมเอาไว้ ลมหายใจที่รดอยู่บนศีรษะทำให้รู้ว่ามันอยู่ใกล้ผมมากขนาดไหน

    “ทะ....ทำอะไรวะ! ถอยไปเลยนะไอ้ชานยอล!!

    “เรียกแฟนว่าไอ้ แต่กับเด็กนั่นพูดดีด้วยเชียวนะ”

    “ผิดประเด็นแล้วไอ้ห่า ถอยไปเลย!

    “นี่กูหึงจริงๆนะเนี่ย” พอผมดิ้นแขนทั้งสองข้างของไอ้ชานยอลก็โอบรอบตัวไว้ก่อนจะวางคางลงบนศีรษะผม น้ำเสียงน้อยใจนั่นดังอยู่ข้างหู แม่งทำเอาใจสั่นไปนิดนึงล่ะ แต่ผมก็ไม่หลงกลมันหรอกนะนี่บอกเลย!!

    “หึงอะไรหุบปากไปเลยไป”

    “ทำไมชอบทำตัวน่ารักใส่คนอื่นเรื่อยเลยวะ ทำกับกูคนเดียวไม่ได้ไง?”

    ชานยอลจับตัวผมให้หมุนกลับไป มือใหญ่ยึดแขนทั้งสองข้างของผมไว้และนั่นทำให้เห็นว่าดวงตาคู่นั้นที่ชอบส่งสายตาเจ้าชู้มาให้กำลังตัดพ้อบ่งบอกว่าน้อยใจเป็นที่สุด ไอ้แบคฮยอนก็ได้แต่ยกมือขึ้นเกาแก้มแก้เก้อหน่อยๆ ไม่ว่าไอ้ชานยอลจะมองผมแบบไหนก็ตามแม่งทำผมเขินทุกที

    “ไปกันใหญ่แล้วไอ้ชานยอล ไม่ต้องมาทำเป็นหึงกลบเกลื่อน ไม่มีบอกซักคำว่ามึงจะมาด้วย”

    “ตกใจดิ”

    “เหอะ น่ารักดีมั้ยล่ะประธานนักเรียนคิมแทยอนน่ะ”

    “หึงรึไง?”

    “ก็แค่ถาม อย่าสำคัญตัวผิดได้ป่าววะ”

    ว่าจบก็สะบัดมือทุบลงบนอกของอีกคนตรงหน้าเมื่อโดนจับได้ ชานยอลยกยิ้มขึ้นมาน้อยๆแล้วเลื่อนจากต้นแขนกลายมาเป็นจับมือของผมเอาไว้ ผมเบือนหน้าหนีหลบสายตาของอีกฝ่าย “ก็น่ารักดี”

    “หลบไปเลยไอ้ห่า!!

    “แต่ใครจะสู้ไอ้อ้วนของกูได้วะJ

    ตบหัวแล้วลูบหลังใช่มั้ย ตอบ!!

    ผมทำสะดีดสะดิ้งบิดมือตัวเอง แต่ชานยอลไม่เคยลดดีกรีมือปลาหมึกของมันลงเลย นับวันจะยิ่งติดหนึบเรื่อยๆ มันออกแรงดันให้ตัวผมยืนชิดติดระเบียงก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อก้มลงมองใบหน้าของผมที่ยังบิดเบี้ยวเพราะโกรธไม่หาย ผมหายใจฟึดฟัดด้วยความโกรธ โกรธตัวเองที่ไม่เคยจัดการกับคนที่ชื่อว่าปาร์คชานยอลได้ซักที

    “ปล่อยกูได้แล้วไอ้สัด”

    “พูดจาไม่น่าฟังอีกล้ะ”

    “ก็ไม่ใช่แทยอนอะไรนั่นนี่หว่า!

    “ยอมรับมาเหอะเตี้ยว่าหึง หน้าบูดหน้าบึ้งขนาดนี้”

    ไม่ได้หึง ก็บอกว่าไม่ได้หึงไง!

    แล้วนี่ไม่ได้เล่นตัวด้วยนะ!

    ผมยังคงทำหน้างอไม่เลิก และไม่ยอมรับด้วยว่าหึง ผมบอกแล้วไงว่าแค่เคืองที่มันไม่บอกว่าจะมางานนี้ด้วย และมันก็ไม่เคยบอกว่าฝั่งหญิงมีประธานนักเรียนที่สวยขนาดนั้น ชานยอลรวบมือผมไว้ในมือใหญ่ของมันเพียงมือเดียว ส่วนมืออีกข้างก็ชอบแต๊ะอั๋งเข้าที่เอวเป็นประจำ มันออกแรงรั้งให้ร่างกายของผมขยับเข้าไปใกล้

    “ที่ไม่บอกเพราะอยากแอบดูว่ามึงนอกใจกูรึเปล่า”

    “ตอนไหนมึงไม่อยู่กูก็โสดตลอด”

    “งั้นต่อไปทำตัวติดกันเลยดีมั้ยหื้อ?”

    “โอ๊ยๆๆๆ เบียดเข้ามาใกล้ขนาดนี้สิงกูเลยมั้ย”

    “แล้วที่ไม่บอกเพราะอยากรู้ว่ามึงจะดีใจขนาดไหนถ้าเห็นกูที่งาน”

    “หน้ากูนี่ปิติยินดีกับการมาของมึงมากงั้นสิ?”

    “กับแทยอนไม่มีอะไร รู้จักกันก็เพราะงาน”

    “ถามอะไรซักคำยัง?” ผมตวัดเสียงห้วนแต่บอกตรงๆว่ารู้สึกดีกว่าเมื่อกี้ขึ้นมาหน่อย ผมหยุดดิ้นแล้วยืนอยู่เฉยๆเป็นสัญญาณส่งให้ชานยอลได้พูดต่อ มันก็พอจะเข้าใจผมอยู่หรอกถึงได้ยอมปล่อยมือผมให้เป็นอิสระก่อนจะเลื่อนแขนทั้งสองข้างกอดเอวของผมไว้

    “เห็นสวยๆแบบนั้นกูบอกเลยว่าขาโหด ไม่งั้นเป็นประธานนักเรียนไม่ได้หรอก แล้วก็....ไม่ต้องไปมองผู้หญิงเลยเตี้ย มองแต่กูคนเดียวก็พอ”

    มันก้มลงมาส่งสายตาจริงจัง ผมเบือนหน้าหนีด้วยความซึน ไอ้ชานยอลเห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วก่อนจะผละออกไปสองก้าว ร่างสูงนั่นโค้งตัวลงน้อยๆก่อนจะยื่นมือมาหาผม

    “เต้นด้วยกันซักเพลงนะ”

    ผมมองมือใหญ่นั่นซักพักก่อนจะตัดสินใจวางมือของตัวเองลงไป การซ้อมเต้นเป็นฝ่ายชายสองอาทิตย์ไม่ได้ทำให้ผมลืมท่าเต้นของฝ่ายหญิง ชานยอลแตะมือลงบนเอวอย่างแผ่วเบาแล้วเริ่มก้าวเท้าตามจังหวะเสียงเพลงที่ดังลอดออกมาจากในห้องประชุมใหญ่

    ปาร์คชานยอลกำลังจ้องหน้าผมจนรู้สึกว่าใบหน้าแทบจะไหม้อยู่แล้ว หงุดหงิดตัวเองแทบบ้าที่จู่ๆก็ยอมทำตาม บอกเลยว่าพี่แบคคนแมนของหอสามเกลียดอะไรอย่างนี้ที่สุด แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ชานยอลสั่งผมได้ ทุกวันนี้ทำปากเก่งต่อกรกับมันได้ก็เต็มกลืน และสุดท้ายก็จบลงตรงที่ผมต้องแพ้มันทุกที

    ไอ้ชานยอลแม่งนิสัยไม่ดี จริงๆผมสาบาน

    “อย่าไปจับหัวเด็กนั่นอีกเข้าใจมั้ย?”

    “ก็จับเพราะเอ็นดูหรอก”

    “ต่อไปจะได้ดูเอ็นกันล่ะสิ”

    “ไอ้ชานยอล!!” สิ้นคำก็ฟาดปั้กลงบนต้นแขนของอีกคน ร่างสูงเบ้ปากนิดหน่อย สมน้ำหน้าล่ะครับบอกเลย ผมถลึงตาใส่ไปที “พูดจาแบบนี้ก็บอกให้กูปล้ำไอ้เด็กนั่นไปเลยสิ”

    “คนมันหึงนี่หว่า” พูดพลางเสยผมตัวเองขึ้น ผมได้แต่มองตาค้าง เชื่อมันเลย! พูดออกมาได้หน้าตาเฉย คิดว่าผมจะยอมอย่างนั้นหรอฝันไปเหอะไอ้หูกาง!

    ผมหันหลังให้ประธานนักเรียนก่อนจะเดินไปหยิบจานที่วางอยู่ตรงระเบียงและเป็นอีกครั้งที่มันสอดมือมากอดเอวผมไว้ ริมฝีปากที่ชอบฉวยโอกาสกับผมอยู่บ่อยๆชิดริมใบหู

    แม่งกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ชานยอลจะกอดผมแบบนี้

     “โอเค ขอโทษ”

    “.........”

    “ขอโทษนะแบคฮยอน”

    “.........”

    “อย่าโกรธชานเลยนะครับ”

    “...........”

    “ยกโทษให้ชานนะคนดี”

    ปี๊ป่อปี๊ป่อปี๊ป่อ เกิดเหตุฉุกเกิดเหตุฉุกเฉินขอรถดับเพลิงมาดับความร้อนบนหน้าแบคฮยอนด่วนครับ!

     



    Talk -18-

    ความเหงา อาจทำให้รู้สึกอ้างว้าง
    แต่ไม่เคยทำให้ใครเจ็บปวด จงรักในขอบเขตที่จะรักได้ 
    เพราะคนบางคนเกิดมาเพื่อ จะให้เรารัก
    แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อ เป็นของเรา


    ที่มา :  http://www.ข้อความโดนๆ.com/กลอนธรรมะสอนใจ-ให้ผ่อนคลายใจเย็น-ทำใจให้เป็นสุข.html

    ณ จุดจุดนี้ *โดดลงเหว*
    พี่ชานคนพบ้าาาาาาาา *ตีไหล่*
    มาคนดงคนดีบ้าระ คนดีบ้าไร วรั๊ยยยยย
    หลังจากนี้จะเป็นชานแบคน่ารักมุ้งมิ้งและฟรุ้งฟริ้งมาก
    โมเม้นกวนสะตรีน(?)จะหายไปแล้วนะ(?) อร๊างงงงงง
    ในทวิตเตอร์ถ้าใครตามบอทจะเห็น คริสเทากำลังมาแรง.....
    อย่ายุ่งกะเลา เลาชานแบค *เฟดตัวออก*
    เรื่องนี้คงไม่มีคู่รองแล้วน้า ชานแบคล้วน เพราะแค่นี้ก็ทำได้เล่มนึงล้ะ ถถถถ
    ให้ไปมโนกันเอาเอง กิกิกิกิกิ
    ส่วนเรื่องสเปที่แอบลงให้เห็นในทวิตเป็นสเปวันวาเลนไทน์ของสามซี้สมัยปอหก
    คงจะเป็นความมุ้งมิ้งของอินนี่และฮุนนี่่
    เวิ่นเว้อเท่านี้ ลาก่อนสวัสดี

    ด้วยรักมากจากสุดสวย
    ปล. รีดเดอร์ไม่รักเลา...เลาจะร้องห้าย แง....
    ปล.สอง อย่าลืมเม้นและแทคนะค้าบบบบบ
    #ฟิคหอแตก #พี่แบคหอสาม


    หนอนมาเป็นพรวนเลยทีนี้...

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×