ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` [exo]▻Twilight◅ {chanbaek} 。

    ลำดับตอนที่ #17 : -16-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.75K
      19
      22 ก.พ. 57






    -16-

    “การหลอกล่อของชานยอลผมถือว่าใช้ได้ แต่การจู่โจมยังไม่ได้ผล ต้องจู่โจมจากทางด้านข้างหรือไม่ก็ด้านหลัง อย่างที่เห็นเป็นตัวอย่างไปเมื่อซักครู่ มันทำให้พวกเกิดใหม่เข้าถึงคุณได้ง่ายขึ้น”

    “มันเป็นแค่การสาธิตน่ะสาธิต” ชานยอลเอ่ยแก้ตัวในขณะที่เขากำลังโอบบ่าของผมเอาไว้ คริสยกนิ้วโป้งขึ้นมาและคว่ำมันราวกับจะบอกว่าเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นแม้แต่น้อย พวกเขาเถียงกันด้วยภาษามือ

    หลังจากนั้นพวกหมาป่าได้ลองไปบ้างนิดหน่อย แต่ก่อนที่จะมีการปะทะที่มากกว่านั้นหมอจองซูก็บอกให้การฝึกวันนี้จบลง จงอินไม่มองหน้าผมอีกเลยหลังจากที่กอดกับชานยอล หมาป่าขนสีเทาตัวเล็กๆที่ชานยอลบอกว่าเป็นลู่หาน เขาคำรามอะไรออกมาก่อนจะใช้ตัวเองกระแทกกับจงอิน หลังจากนั้นฝูงหมาป่าก็กลับไป ชานยอลบอกว่าพวกเขาขัดแย้งกันทางความคิดนิดหน่อยเพราะเมื่อแปลงร่างเป็นหมาป่าแล้ว ความคิดของทุกตัวจะเชื่อมโยงกัน

    นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำไมลู่หานถึงรู้ว่าจงอินชอบผม

    โอ้ยนี่มันแย่จริงๆ ป่านนี้หมาป่าทุกตัวจะมองผมว่ายังไง

    ชานยอลพาผมกลับมาส่งที่บ้าน ดีว่าผมเปียกฝนเพียงนิดหน่อยเลยไม่ต้องอาบน้ำถึงเขาจะยืนกรานเสียงแข็งว่าจะให้ผมอาบก่อน แต่ก็นั่นแหละผมอยากจะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ผมเหนื่อยมากแล้วในวันนี้

    พ่อทักทายกับชานยอลนิดหน่อย ทำท่าพอใจเมื่อชานยอลพาผมกลับมาก่อนสี่ทุ่ม ผมเดินเข้าไปในบ้านโบกมือบ๊ายบายแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านเร็วๆเมื่อพ่อหันมาทำตาขวาง

    “พ่อทำอย่างกับว่าผมเป็นลูกสาวไปได้”

    “ไม่เหมือนก็ต้องเหมือน”

    “โอเค ชานยอลเป็นคนดีนะพ่อ ผมบอกได้แค่นั้นแหละ”

    “ช่าย ช่าย ช่าย เป็นคนดี แต่พ่อคิดว่าถ้าเป็นจงอินจะดีกว่า”

    “จงอินเกี่ยวอะไรด้วย”

    “พ่อชอบจงอินมากกว่า”

    “งั้นพ่อคบกับจงอินไหม?”

    หลังจากนั้นพ่อก็เลิกพูดเรื่องที่ว่าพ่อชอบจงอินไปโดยปริยาย เอาเป็นว่ายกนี้ผมชนะแบบใสๆ ผมเดินขึ้นห้องรีบไปอาบน้ำสระผม เมื่อออกมาก็พบกับชานยอลที่นอนอยู่บนเตียง เขาตะแคงตัวมาทางนี้ ปิดไฟในห้องมืดๆแต่ผมก็เห็นแววตาของเขาที่กำลังจ้องผม

    “มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

    “ได้ยินตอนคุณกำลังอาบน้ำ”

    “ก็คงนานอยู่” ผมงึมงำเบาๆก่อนจะใช้ผ้าขยี้ศีรษะของตัวเองเบาๆ ชานยอลลุกขึ้นนั่งบนเตียงฉุดมือผมให้นั่งลงบนนั้นแล้วเป็นคนรีดน้ำที่เกาะอยู่บนเส้นผมออก ถึงแม้จะเงียบแต่ความอบอุ่นก็แผ่ปกคลุมอยู่รอบๆ การกระทำทุกอย่างของชานยอลบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาแคร์ผมมากกว่าสิ่งอื่นใด

    แบบนี้ถึงได้เรียกว่าการกระทำสำคัญกว่าพูด

    “.......ชานยอล”

    “ครับ?”

    “จริงๆแล้วคือ.....ถ้าหากว่าฉันพอจะทำอะไรได้บ้างก็บอกนะ”

    “แค่อยู่กับผม ให้ผมได้อยู่ต่อไปเพื่อคุณแค่นั้นก็พอแล้วครับ”

    ผมเบ้ปากออกแต่ถึงอย่างนั้นหัวใจก็เต้นเร็วขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ คิดว่าชานยอลคงได้ยินเต็มๆเพราะเขาหัวเราะขึ้นมา เป็นแบบนั้นแล้วผมคิดว่านี่มันไม่ยุติธรรมสำหรับผมเลย เขารู้ตลอดว่าเวลาไหนที่ผมมักจะตื่นเต้น เวลาไหนที่ผมมักจะรู้สึกดี แต่พอเป็นตัวเขาเองบ้างผมกลับไม่รู้อะไรเลยซักอย่าง

    “คุณมีไดร์เป่าผมมั้ย? คิดว่าผมคุณคงไม่แห้งแน่ อากาศชื้น”

    “ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมัน เดี๋ยวก็แห้งน่า”

    “แบคฮยอนครับ คุณจะไม่สบายนะ”

    “นี่คือใคร บยอนแบคฮยอนนะ แข็งแรงกว่าที่นายคิด” ผมอวดกล้ามเบ่งทำโม้แต่ชานยอลก็ไม่ได้ตลกด้วย ผมเลยเก็บกล้ามที่มีอยู่น้อยนิดเข้าแขนเสื้อเหมือนเดิมก่อนจะตัดสินใจหมุนตัวกลับไปกอดเอวเขาไว้แล้วเอาศีรษะตัวเองไถไปมาราวกับว่าเขาเป็นที่ปั่นผมให้แห้ง

    “นับวันนายยิ่งเหมือนพ่อเข้าไปทุกที ไม่รู้สึกหรอ?”

    “แล้วต้องทำยังไงนะถึงจะไม่เหมือนพ่อ?”

    ไม่ทันได้ตั้งตัวผมถูกวางลงบนเตียงทั้งๆที่ผมยังไม่แห้ง ชานยอลใช้สายตากรุ้มกริ่มจ้องมาเมื่อเขาคร่อมทับร่างผมอยู่ ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจน้อยๆก่อนจะเอามือกอดอกตัวเองไว้แน่น ร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆ เขาเอามือเท้าไว้ที่หมอนใบที่ผมนอนอยู่ก่อนจะขยับหน้าเข้ามาใกล้

    “ต้องทำแบบนี้รึเปล่าครับถึงจะไม่เหมือนพ่อJ

    ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรชานยอลก็ก้มหน้าลงมาอีกนิดจนจมูกของเราชนกัน ผมรีบพลิกตัวหนีด้วยความไม่คุ้น ชานยอลทำท่าทางเจ้าชู้มากกว่าปกติ พอได้ยินเสียงหัวเราะดังมาเบาๆผมก็ลืมตาก่อนจะหันกลับมามอง แน่นอนว่าโดนจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว

    ริมฝีปากเย็นๆทาบทับลงมา และมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วเมื่อผมเผลอจูบตอบไปโดยสัญชาตญาณ ความอ่อนโยนชานยอลยังคงมอบให้ผมทุกครั้งที่เราจูบกัน แต่ครั้งนี้ผมรู้ดีมันมีอะไรมากกว่านั้น ผมค่อยๆเลื่อนมือไปแตะที่แขนของเขาก่อนจะเลยไปถึงท้ายทอยและโน้มลงมาเพื่อให้ริมฝีปากของเราสัมผัสกันมากกว่านี้ ชานยอลตวัดลิ้นเข้ามาในโพรงปากของผมเบาๆทำเอาขนลุกซู่ ผมเลื่อนมือสอดเข้าไปในเส้นผมนิ่ม ก่อนจะขยำเบาๆเมื่อชานยอลทำให้ผมรู้สึกดี

    มันเป็นความรู้สึกที่....หวาน ร้อนแรงและ.....

    อยากให้เขาทำมากกว่านั้น

    โอเค ผมรู้ว่านี่มันง่ายมากแต่อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้ว ชานยอลกำลังจูบ ตอนนี้มันกำลังต่างออกไปจากทุกๆครั้งผมรู้ดี ผมควรจะผลักเขาออกไปใช่ไหม? นี่มันยังไม่ถึงเวลาใช่รึเปล่า?

    ผิดชอบชั่วดียังไงผมไม่รู้ด้วยแล้ว

    ชานยอลรั้งผมขึ้นมานั่งตักทั้งๆที่ริมฝีปากของเราไม่ได้ห่างกัน ผมดูดริมฝีปากของเขาน้อยๆ เห็นได้ชัดว่าชานยอลพอใจและกระตุกยิ้มออกมาน้อยๆ เขาค่อยๆละริมฝีปากออก ขบเม้มมันเบาๆ ผมหอบหายใจเมื่อรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ทัน

    “คิดเรื่องลามกอยู่รึเปล่าครับ?”

    “นายนั่นแหละ…..!

    “หืม? ผมทำไมหรอ J

    “ให้ตายสิ!” ผมทำท่าหัวหมุนสุดฤทธิ์ ใช้มือขยี้ศีรษะตัวเองแรงๆก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้แล้วดึงผ้าห่มคลุมตัว ไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินกันแน่ ผมกำลังคิดเรื่องลามกอยู่จริงๆ แต่ทั้งหมดนั่นก็เพราะว่าชานยอลเป็นคนเริ่มไม่ใช่หรือไงกัน คนที่ผมกำลังก่นด่าในใจตอนนี้มุดลงมาในผ้าห่มด้วยกัน เขารั้งผมเข้าไปกอด ใบหน้าของชานยอลซุกอยู่ที่หลัง

    “โกรธผมใช่มั้ยแบคฮยอน”

    “โกรธตัวเองต่างหากที่คิดไปเอง”

    “คุณไม่ได้คิดไปเองหรอกครับ ผมก็คิดเหมือนกัน”

    ชานยอลดึงให้ผมกลับไปจ้องตา ดวงตาของเขากำลังสั่นไหว ผมหลบตาเขาแล้วยกแขนตัวเองขึ้นมากอดอกพลางเชิดหน้าขึ้น "ลามก”

    “ครับ ลามก ลามกมากๆ คุณไม่มีทางรู้เลยแบคฮยอนว่าผมทำอะไรกับคุณบ้างในความคิด” เขาว่าพลางเคาะไปที่ขมับของตัวเอง

    “โอ้ยชานยอล นายพูดออกมาหน้าตาเฉยได้ยังไง” ผมรู้สึกเหมือนตัวเองจะระเบิดออกมา ชานยอลหัวเราะเบาๆแล้วจูบลงที่หน้าผากผม ถึงอยากจะให้เขาทำมากกว่านั้นแต่เข้าอีหรอบนี้แล้วผมคงต้องทำใจแล้วสินะ ชานยอลไม่มีทางแหกประเพณีของเขาแน่ๆ

    “ผมอยากทำให้ทุกอย่างถูกต้อง”

    “นายมันก็แค่ตาแก่หัวโบราณ”

    “ว่าอย่างนั้นก็ได้” เขายักไหล่น้อยๆ ด้วยความหมั่นไส้ผมเลยทุบเข้าที่กลางหน้าอกเขาไปเสียหนึ่งปั้กแล้วทำหน้าง้ำ เสียงหัวเราะดังขึ้นในความมืด ผมเบ้ปาก

    “ผู้กองบยอนเอาผมตายแน่ถ้าทำลูกชายเขาก่อนคืนวันแต่งงาน”

    “เดี๋ยวนี้ใครๆเขาก็ทำทั้งนั้น”

    “แต่คนอื่นจะมองว่าไม่ดี”

    “โอเค ฉันยอมแพ้” ผมโบกธงขาวและสอดมือเข้ากอดเอวของร่างสูง ซุกลงไปบนอกเย็นๆภายใต้ผ้าห่มผืนหนา มือของชานยอลลูบศีรษะของผม กดจูบเบาๆลงบนเส้นไหมสีน้ำตาล ผมเงยหน้าขึ้นไปจูบปากเขาเบาๆซักที

    “ราตรีสวัสดิ์นะชานยอล”

    “ฝันดีครับแบคฮยอน”

     

    พ่อส่งผมไปบ้านคุณจูวอนในเช้าวันเสาร์ แม้จะอ้างเรื่องการบ้านแต่พ่อก็บอกว่าให้เอาไปทำกับจงอิน

    ผมทำหน้าเซ็ง

    แต่สุดท้ายก็ขับรถออกมา จะหนีไปกลางทางก็ไม่ได้ คุณจูวอนโทรมาหาผมและบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่าจะรอ  ได้ยินเสียงของลู่หานแว่วมาในสาย ผมเลยส่งข้อความไปหาเซฮุนให้บอกชานยอลว่าผมจะไปเล่นกับลูกหมาทั้งวันเพราะพ่อบังคับ

    ตามสบายเถอะ แหยะL

    ผมคิดว่าคงเป็นเซฮุนที่ตอบกลับมา

    “ฉันดีใจที่เธอมานะแบคฮยอน”

    “สวัสดีครับคุณจูวอน พ่อฝากมาบอกว่าถ้ายังไงเย็นๆจะตามมา”

    “อ้อ อ้อ ขอบใจมาก จงอินอยู่ที่อู่กับเพื่อนของเขานั่นแหละ จะไปดูก็ได้นะ”

    “ขอบคุณครับ” ผมโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเก็บกุญแจรถของตัวเองลงในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปยังอู่ที่อยู่ข้างบ้านเสียงโวยวายของใครบางคนดังขึ้นมา พวกนี้มันจะเสียงดังเสมอ.....เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาล่ะนะ

    “มึงแพ้แล้วแทคยอน!

    “กูเนี่ยนะ? ลู่หานแม่งโกง!

    “กูเปล่า แถวบ้านกูเรียกว่ามึงโง่ว่ะ”

    “ไอ้ลู่หาน!” ผมเดินโผล่เข้าไปตอนที่ลู่หานวิ่งออกมาพอดีแน่นอนว่าเขาชนผม เราล้มไปด้วยกันทั้งคู่ ส่วนแทคยอนก็ทำท่าจะกระโดดลงมาทับ ถึงวินาทีนั้นผมก็หลับตาปี๋นอนรอให้ไส้ตัวเองทะลักออกมาแต่หลังจากนั้นก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมค่อยๆลืมตาก่อนจะพบว่าลู่หานกำลังลุกออกไปส่วนจงอินก็เป็นคนมาห้ามแทคยอนเอาไว้

    โอเค....ผมคิดว่าชีวิตผมต้องเสี่ยงตายทุกวัน ไม่ว่าจะตายแบบไหนก็เถอะ

    ลู่หานยื่นมือมาให้ ผมไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือฉุดตัวเองขึ้นมาพลางปัดฝุ่นที่กางเกงออก เขาขอโทษขอโพยใหญ่เมื่อล้มทับผม ดีว่าลู่หานตัวไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ผมเลยไม่โดนทับไส้แตกไปเสียก่อน

    “มาได้ยังไง”

    “พ่อนายไม่ได้บอกหรือไงว่าฉันจะมา”

    “อ้อ....อาจจะบอกแต่ผมไม่ได้สนใจ”

    “กวนประสาท”

    “ใครจะไปดีเลิศเหมือนไอ้ตัวเย็นหูกางนั่นล่ะ”

    “จงอิน!” ผมถลึงตาใส่ในขณะที่แทคยอนก็ยกมือขึ้นตบหัวเพื่อนของเขา ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เหมือนถูกตบจนหน้าชาเมื่อพบว่าเจ้าของบ้านไม่ได้ใส่ใจกับการมาเยือนของผมเท่าไหร่นัก จงอินหันมามองผม สายตาของเขาอ่อนลงไปนิดหนึ่งในขณะที่ลู่หานก็ยืนอยู่ข้างผม บีบไหล่เบาๆ

    “โอเค ผมขอโทษแบคฮยอน”

    “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายโกรธฉันเรื่องอะไร แต่ถ้าโกรธกับสิ่งที่นายได้เห็นเมื่อวาน โกรธที่ฉันกอดกับชานยอลบอกเลยว่านายไม่มีสิทธิ์”

    “คุณจะใจร้ายไปถึงไหน”

    “คือ...กูจะช่วยเตือนความจำให้ มึงกระแนะกระแหนแบคฮยอนเขาก่อน”

    “เสือก” ลู่หานกระซิบกระซาบก่อนจะโดนจงอินตอกกลับมาหนึ่งคำสั้นๆแต่ได้ใจความ แทนที่เขาจะสลดกลับยักไหล่สบายๆแล้วมายืนข้างผมตามเดิม

    “ถ้านายไม่ต้อนรับฉันจะได้กลับบ้าน”

    “คุณมาเพราะพ่อสั่ง ผมไม่ชอบเลย”

    “งั้นกลับเลยก็ได้”

    “โอเคแบคฮยอน อยู่ต่อเถอะ ผมขอโทษ” พอผมทำท่าจะเดินกลับจงอินก็รีบมาขวางไว้ ผมส่งเสียงเหอะออกมาเบาๆแล้วเดินกลับไปในตัวอู่ ทักทายแทคยอน แจบอมและชานซองที่ยืนอยู่ ผมเห็นลู่หานหันไปเยาะเย้ยใส่จงอิน

    สมควรได้รับล่ะ ผมอุตส่าห์จะไม่อารมณ์เสียแล้วแท้ๆ

    “วันนี้จะไปเล่นน้ำกันล่ะ นายสนใจมั้ย?”

    เป็นแทคยอนที่เอ่ยถาม ผมขมวดคิ้วก่อนจะมองออกไปนอกอู่รถ ท้องฟ้ากำลังครึ้มๆคล้ายฝนจะตกและอากาศก็เริ่มเข้าหน้าหนาว พวกเขาเริ่มถอดเสื้อกันทีละคนยกเว้นลู่หานที่ดูเหมือนว่าจะลงน้ำทั้งๆที่เสื้อผ้าอยู่ครบนั่นเลย ผมมองเสื้อผ้าตัวเอง เสื้อยืดสีเทากับกางเกงยีนส์ขายาว ผมหันไปส่ายหน้าให้

    “ไม่ดีกว่า ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามา อีกอย่าง...อากาศมันค่อนข้างเย็น”

    “เย็นอะไรกัน ฉันว่ามันกำลังดีเลยด้วยซ้ำ”

    ลู่หานว่าอย่างกระตือรือร้นและในที่สุดพวกเราทุกคนก็มาหยุดอยู่ที่ริมชายหาด มีร่มขนาดใหญ่หนึ่งและเสื่อหนึ่งผืนให้ผมนั่งเฝ้าข้าวของที่พวกเขาพกมา ลูกหมาห้าตัวที่ตอนนี้เป็นคนล้อมวงทำอะไรซักอย่างแล้ววิ่งลงไปในน้ำปล่อยให้แจบอมยืนค้างเติ่งอยู่ตรงนั้น ไม่นานเขาก็ลงทะเลไปพร้อมกันหมด

    ผมชันเข่าขึ้น เอาคางวางลงไปแล้วมองไปยังด้านหน้า ให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับพ่อที่มองลูกๆเล่นน้ำ

    เหมือนพวกเขากำลังจะทำอะไรบางอย่าง ภาพมันคล้ายๆกับการซ้อมจับพวกเกิดใหม่ที่เห็นเมื่อคืน

    และมันก็คล้าย....ว่าจะเห็นภาพผมอยู่ในนั้น

    หนึ่งในพวกเกิดใหม่

    ควบคุมตัวเองไม่ได้ ใช้สัญชาตญาณในการทำทุกอย่าง บ้าคลั่งราวกับสัตว์ป่า ลุยดะและใช้พลังในการทำทุกเรื่อง ผมกอดเข่าตัวเองไว้แน่น รู้สึกกลัวขึ้นมาในทันที

    ถ้าหากผมเกิดทำร้ายพ่อ....ทำร้ายแม่....ชานยอล เซฮุน หรือไม่ว่าใครก็ตาม ผมจะทำยังไง

    ตัวผมสั่นขึ้นมาราวกับว่าตัวเองกำลังฝันร้าย แม้กำลังจะมองชานซองที่รับบทเป็นแวมไพร์เกิดใหม่ส่วจงอินเป็นผู้ล่า เหมือนเห็นภาพผมและชานยอลกำลังสู้กัน

    ผมจะสูญเสียความเป็นตัวเองไปมากน้อยขนาดไหน? ผมจะควบคุมตัวเองได้มั้ย?

    จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าผมจะควบคุมตัวเองได้? แล้วการสูญเสียจะเกิดขึ้นมากมายแค่ไหน?

    หรือบางทีผมควรจะต้องทบทวนเรื่องการเปลี่ยนตัวเองอีกครั้ง

    ฉับพลันใบหน้าของชานยอลก็ลอยขึ้นมา ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตายามที่เขาเห็นผมนอนอยู่ในโลงศพในสภาพวัยชรา เซฮุน ซูโฮ คริส เทา คุณนายปาร์ค หมอจองซู ทุกคนเหล่านั้นล้วนแต่ยืนอยู่หน้าร่างไร้วิญญาณของผม

    ไม่....แค่นี้ก็ตอบได้แล้วว่าผมจะเปลี่ยน

    “แบคฮยอน! เฮ้”

    “.....นายกำลังสะบัดขนใส่ฉัน ลู่หาน”

    “โทษที เห็นนายเหม่อ สีหน้าไม่ค่อยดี มันแย่มากหรอ”

    “อะไรแย่”

    “เรื่องที่นายคิด” ลู่หานนั่งนอกเสื่อ เขาหยิบขวดน้ำในกระติกออกมาและกระดกขึ้นดื่ม ผมมองไปยังด้านหน้าอีกครั้งแล้วหันกลับไปมองลู่หาน “คงงั้น”

    “ถ้ามันแย่ก็อย่าไปสนใจ”

    “มันเป็นเรื่องในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้น”

    “มันก็แค่เรื่องในอนาคตที่ยังไม่เกิด เอาไว้มันเกิดขึ้นแล้วนายค่อยกังวลฉันว่าน่าจะเข้าท่ากว่า”

    “แต่......”

    “มีความสุขกับปัจจุบันแบคฮยอน ถ้านายกังวลโน่นนี่นั่น ชีวิตนี้นายจะไม่เจอกับคำว่าความสุขเลย”

    “..........”

    “เพราะงั้นไปเล่นกันเถอะ”

    “ว่าไงนะ!!” ผมตะโกนออกมาก่อนที่ตัวเองจะถูกใครซักคนอุ้มขึ้น พบว่าเป็นจงอิน หมอนั่นยักคิ้วกวนประสาทใส่ก่อนที่เขาจะเริ่มวิ่ง ผมดิ้นและทุบหลังเขาหวังว่าจะให้ปล่อย ให้ตาย...ตัวเขาอย่างกับหิน มือผมจะหักเสียก่อนที่เขาจะรู้สึกเจ็บ ไม่นานนักเราก็มาถึงที่ทะเล คนอื่นๆปรบมือและส่งเสียงโห่แซวเสียจนน่าเดินไปต่อยใหมือหักเรียงคน ลู่หานวิ่งตามมา

    “ฉันไม่เคยโกรธนายใช่มั้ยลู่หาน วันนี้นายจะรู้”

    “โธ่แบคฮยอน! ฉันแค่อยากให้นายสนุก ทุกคนรู้สึกไม่ดีที่ปล่อยให้นายนั่งอยู่ชายหาดคนเดียว”

    “ฉันมีความสุขอยู่ตรงนั้น!

    “อย่ามาโกหกหน่อยเลย เราเห็นว่านายทำท่าเหมือนกลัวอะไรซักอย่าง”

    แจบอมเอ่ยขัดขึ้นมา ผมนิ่งไปซักพักและก็ต้องโวยวายออกมาเมื่อจงอินโยนผมลงน้ำ จบกัน! ผมตะเกียกตะกายขึ้นมา ถลึงตาใส่พวกเขาทุกคนก่อนจะเริ่มไล่เตะจงอินที่ออกตัววิ่งไปแล้ว ให้ตายเถอะ น้ำนี่ก็เย็นอย่างกับอะไรดี ไม่พ้นว่าพรุ่งนี้ผมต้องเป็นไข้แน่

    สุดท้ายผมเลิกที่จะไล่เตะจงอินและเริ่มเล่นน้ำหลังจากที่ไม่ได้เล่นมานานหลายปี ครั้งล่าสุดที่ลงทะเลคือกับเพื่อนๆที่อเมริกาตอนนั้นไปเข้าค่ายกัน แถมยังเล่นแป๊บๆเพราะต้องไปเตรียมงานอะไรซักอย่างซึ่งผมก็จำมันไม่ได้แล้ว

    “สนุกมั้ยล่ะ”

    “ก็งั้นๆแหละ”

    “ให้ผมเดาเลย พวกเขาต้องไม่เคยพาคุณมาทำอะไรแบบนี้แน่”

    “นายกำลังยุ่งเรื่องของฉันอีกแล้วนะจงอิน”

    “โทษที ผมเผลอ” เขายักไหล่ ผมแหวกน้ำแล้วหลบมาเล่นอีกทางทว่าจงอินก็ยังตามมา ผมสาดน้ำใส่เขาหนึ่งทีก่อนจะรีบวิ่งไปหาลู่หานขอความช่วยเหลือเพราะจงอินทำท่าจะจับผมอุ้มแล้วโยนลงน้ำอีกครั้ง เมื่อกี้ยังสำลักน้ำจะตายอยู่เลย ไม่เอาอีกหรอกให้ตายสิ

    “เดี๋ยวฉันจะขึ้นแล้วนะ”

    หลังจากที่เล่นไปได้ซักพักก็หันไปบอกลู่หานก่อนที่เขาจะโดนแจบอมจับทุ่ม น้ำกระเด็นมาผมเลยจำเป็นต้องยกมือบังเอาไว้ เหมือนกับลูกหมาที่ตะกายขึ้นมาจากน้ำ ลู่หานหันไปยกนิ้วกลางใส่คนที่แกล้งแล้วเดินมาหาผม “ไปด้วย อยู่กับไอ้พวกนี้ไม่ไหวแล้ว เถื่อน”

    “มึงไม่เถื่อนเลยครับคุณลู่หาน หวานแหววตายห่าเลยครับ”

    “อย่างน้อยกูก็ทำตัวมีสกุลกว่า” ถ้าผมเป็นแทคยอน ผมถีบเขาแล้วจริงๆ

    ในที่สุดผมกับลู่หานก็ขึ้นมาก่อน ดีว่าโทรศัพท์วางไว้บนเสื่อเพราะงั้นมันเลยยังใช้งานได้ มีมิสคอลจากเซฮุนประมาณสิบสายผมขมวดคิ้วแน่น ให้เดาน่าจะเป็นชานยอลที่โทรมา ผมรีบกดโทรกลับทันที ลู่หานเอาผ้าเช็ดหัวของจงอินวางบนศีรษะของผม เขาหิ้วเสื่อกลับไปบ้านพร้อมกัน

    [ฮะ....(ชานยอล! พี่ไม่มีมารยาเลย) ฮัลโหล]

    “ฉันเองแบคฮยอน”

    [หายไปไหนครับทำไมไม่รับโทรศัพท์]

    “พอดีลูกหมาลากไปเล่นน้ำน่ะ”

    “อย่าเอาฉันไปรวมกับพวกลูกหมานั่นได้มั้ย” ลู่หานกรอกตาไปมาในขณะที่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ เสียงของเซฮุนที่ลอดออกมาปลายสาย เขากำลังโวยวายเรื่องที่ชานยอลแย่งโทรศัพท์ไป

    [...............]

    “พ่อฉันบังคับให้มา ฉันรู้ชานยอล นายไม่ค่อยชอบ”

    [ตอนนี้ทำอะไรกันอยู่ครับ?]

    “กำลังจะไปอาบน้ำ พวกนั้นจับฉันโยนลงทะเล คิดว่าคงเป็นหวัดแน่”

    [อย่าลืมทานยา]

    “ครับคุณพ่อ”

    [คุณต้องเติมให้ครบ เรียกว่าพ่อทูนหัวถึงจะถูกที่สุด]

    ผมทำหน้าง้ำแล้วเดินคุยโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ ลู่หานล้อเลียนผมไปตลอดทางที่คุยโทรศัพท์กับชานยอล และสุดท้ายก็ต้องวางเมื่อตัวเองจะต้องเข้าห้องน้ำ คนปลายสายงอแงจะให้ผมเปิดสปีกเกอร์โฟนเพราะจะฟังผมอาบน้ำ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างเหมือนโรคจิต ผมบอกเขาไปอย่างนั้น ชานยอลเลยยอมวาง

    เมื่ออาบน้ำเสร็จผมก็เจอเสื้อผ้ากองหนึ่งวางอยู่หน้าห้องน้ำ ดูแล้วน่าจะเป็นของจงอิน ชานยอลบ่นอีกแหงว่าผมจะมีกลิ่นของลูกหมาที่เขาไม่ชอบติดไป ลู่หานวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที ผมเลยต้องออกมาแต่งตัวด้านนอก จัดการล็อคประตูแม้จะรู้ว่าเป็นห้องนอนของจงอิน เสียงพูดคุยดังมาจากหน้าบ้าน ผมชะโงกหน้าลงไปดู พวกนั้นกลับมากันแล้ว จงอินเงยหน้าขึ้นมา

    “ใส่เสื้อผ้าผู้ชายอื่นระวังคุณปาร์คจะไม่พอใจเอานะ”

    “งั้นฉันถอดเลยก็ได้”

    “ใส่ไปเถอะ”

    “........ม่ายล่ะ”

    “ใส่ไปเถอะ อย่างน้อยให้เสื้อผ้าผมได้เข้าใกล้ใจคุณก็ยังดี”

     

    Talk -16-

    วอลต์ ดิสนีย์ เสียพรหมจรรย์ในวันเกิดครบรอบ 18 ปี

    หื้ม?? 555555555555

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×