ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` [exo]▻Twilight◅ {chanbaek} 。

    ลำดับตอนที่ #13 : -12-

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.09K
      20
      13 ก.พ. 57

    Supercell










    ฟ้ามักเล่นตลก จากที่คิดว่าใช่กลับไม่ใช่ หรือที่คิดว่าไม่ใช่กลับใช่
    เปลี่ยว...ไม่ต้องสนจายยย


    -12-

    ผมชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้เป็นวันที่ห้า

    มันวนไปซ้ำๆไม่มีอะไรมาก เช้าตื่นนอนผมก็อาบน้ำ ชานยอลพาผมลงมาข้างล่างด้วยการอุ้มและปล่อยให้ผมนั่งอยู่บนโซฟา เซฮุนชอบเอาไพ่มานั่งเล่นกับผมและชวนคริสมาเล่นด้วย ใช้เวลาครึ่งวันไปกับการเล่นไพ่ ส่วนตอนบ่ายชานยอลถึงจะมานั่งอยู่เป็นเพื่อน ตกเย็นหมอจองซูกลับบ้าน เราพูดคุยกันบ้างนิดหน่อยก่อนที่ชานยอลจะพาผมขึ้นชั้นบน

    อ้อ คงจะมีเมื่อวานที่ชานยอลพาผมไปที่สลัม เอาของกินไปให้เด็กๆ ผมได้ออกไปนอกบ้านครั้งแรก

    ผมไม่เคยไปที่พวกนี้มาก่อน เคยคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาของผมที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ ของพวกนี้มันคือสิ่งที่พวกคนแก่เขาทำกันต่างหาก แต่หลังจากที่ได้เห็น มันทำให้ผมมีความสุขกับการเป็นผู้ให้เมื่อได้เห็นเด็กๆพวกนั้นยิ้มและพูดคำว่าขอบคุณ

    ผมรู้แล้วว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงต้องการเป็นผู้ให้

    พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ต้องการอะไรที่มากไปกว่าร้อยยิ้มและคำขอบคุณ

    ถึงวันนี้จะเป็นวันเสาร์ แต่พ่อก็ยังคงทำงาน

    ผมออกมานั่งอยู่ข้างบ้าน ซูโฮและเทาเล่นหมากรุกอยู่ไม่ห่าง ผมพยายามถักนิตติ้งอีกครั้งเมื่อคุณนายปาร์คเอามันมาให้ผมทำ ความยากของมันถูกค้นพบในเวลาต่อมา ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่และพยายามทำให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง

    ถึงวันนี้จะไม่มีแดดเหมือนปกติ แต่มันก็ไม่มีฝน ผมอยากจะออกมานั่งสูดอากาศด้านนอก ชานยอลก็ไม่ขัดใจ ตอนนี้เขาตามใจผมจนชักจะเคยตัว เขากำลังเข้าไปหยิบน้ำและของว่างมาให้พร้อมกับกำชับว่าเมื่อเขากลับมาจะต้องเห็นความคืบหน้าของไหมพรมที่ผมกำลังพยายามถัก

    “นายกำลังทำผิดนะ ต้องเป็นรูด้านล่าง แล้วก่อนหน้านั้นต้องเอาไหมพรมพันรอบไม้ก่อน”

    ผมสะดุ้งเมื่อเสียงของซูโฮดังขัดขึ้นมา เขากำลังนั่งเล่นหมากรุกอยู่ไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมเขาถึงรู้ว่าผมทำผิดตรงไหน เขาเดินมาหยุดด้านหลังผมแล้วจิ้มส่วนที่ถูกต้องให้ “ตรงนี้ต่างหาก”

    “ฉันว่าจะเลิกทำแล้วล่ะ จริงๆนะ”

    “ของแบบนี้มันต้องพยายามซักหน่อย”

    “นายทำเป็นด้วยหรอ”

    “แม่สอนทุกคนเลย แม้แต่พ่อก็ทำเป็น” ผมหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อนึกถึงหมอจองซูที่กำลังถักนิตติ้ง เทานั่งมองผมและซูโฮจากโต๊ะนั้นไม่มีทีท่าว่าจะเดินเข้ามา

    “เขาเด็กที่สุดหรอ?”

    “เขา? อ๋อ ซักร้อยปีได้แล้วล่ะมั้งแต่เราเจอเขาที่จีนเมื่อหกสิบปีก่อน”

    “.....แล้วซูโฮเคยเจอกับพวกชเวมั้ย?”

    ผมไม่เงยหน้าขึ้นไปมองไม่อยากให้ซูโฮรู้ถึงความกังวลที่ผมมีอยู่ลึกๆ ผมพยายามจะไม่พูดเรื่องนี้กับชานยอลให้มากไม่อยากให้เขารู้ว่าผมกำลังไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ บอกตรงๆว่าผมเองก็กลัว ผมไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร พวกเขาเป็นคนยังไง แต่ถ้าหากเป็นได้ถึงคนที่รักษากฎของเหล่าแวมไพร์ทั่วทุกมุมโลกแสดงว่าเขาต้องแข็งแกร่งไม่มากก็น้อย ซูโฮเอื้อมมือมาโยกศีรษะผมเบาๆ

    “อย่ากังวลไปเลยแบคฮยอน ยังไงนายก็คือครอบครัวเรา เราจะปกป้องนาย”

    ผมเกลียดตัวเองที่อ่อนแอ ทำอะไรไม่ได้ ต้องให้คนรอบตัวปกป้อง

    “จุนมยอน” เสียงของเทาดังแทรกขึ้นมา เขาเดินเข้ามา สองคนนั้นมองหน้ากัน ผมรู้สึกแปลกๆจึงมองไปยังป่าด้านหลัง มีใครบางคนกำลังเดินมาทางนี้เป็นกลุ่มใหญ่ ไม่นานนักชานยอลและเซฮุนก็ออกมาจากบ้าน หมอปาร์คและคุณนายปาร์คก็เดินออกมาด้วยใบหน้าที่ติดเครียดเล็กน้อย ซูโฮเอาตัวยืนขวางผมไว้ในขณะที่เทาก็ยืนอยู่หน้าซูโฮอีกที ชานยอลเดินมาหยุดอยู่ข้างๆผม

    “สวัสดีคุณปาร์ค ไม่ได้เจอกันนานนะ”

    พวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่สวมเสื้อหนังสีดำที่ยาวกรอมเท้า คนที่เดินนำอยู่ด้านหน้า ร่างสูงใหญ่ที่มีใบหน้าหล่อเหลาส่งยิ้มออกมา ยื่นมือมาทักทายกับคุณหมอปาร์ค ผมเห็นจองโบรายืนอยู่ด้านหลัง เธอกำลังเชิดหน้าขึ้นและจ้องมายังผม เดาได้ไม่ยากเลยว่าพวกเขาเป็นใคร

    “ยินดีต้อนรับครับซีวอน นานมากแล้วที่เราได้เจอกัน คุณคงลำบากมากที่เดินทางมาที่นี่”

    ชานยอลจับมือผมเอาไว้ คนที่ชื่อว่าซีวอนละสายตาจากหมอปาร์คมองมายังผม ท่าทางของเขาดูสุขุมแต่มีอำนาจ ผมเผลอบีบมือของชานยอลเอาไว้แน่น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ความกลัวมันเกาะกุมจิตใจได้มากขนาดนี้

    “สวัสดีครับคุณนายปาร์ค คุณสบายดีใช่มั้ย?”

    “สบายดีค่ะ สามีดูแลฉันดีมาก” คุณนายปาร์คระบายยิ้มบาง เขาไล่ทักคนในครอบครัวไปเรื่อยๆ ชานยอลลูบหลังมือเบาๆเพื่อให้ผมผ่อนคลายก่อนจะกระซิบ “พวกเขามาเร็วกว่าที่ผมคิด”

    “สวัสดีเซฮุน”

    “สวัสดีครับคุณซีวอน”

    “ฉันยังยืนยันเหมือนเดิมนะ ถ้าอยากเข้าร่วมกับเราเมื่อไหร่ก็มาได้ พวกเรายินดีต้อนรับเสมอ”

    “ผมคิดว่ายังไม่ถึงเวลานั้น” เซฮุนปฏิเสธอย่างสุภาพ เหลือเพียงชานยอลเท่านั้น ซีวอนเดินเข้ามา จับมือทักทายกับชานยอลหากแต่สายตากลับจ้องมายังผม เขาไม่ได้พูดกับผมแต่ก็ยังคงเอาแต่จ้องผม เพียงเท่านี้มันก็มากพอแล้ว ผมอยากจะหายตัวไปเดี๋ยวนั้น

    “ฉันเองก็ยังต้องการเธอนะชานยอล”

    “ผมคิดว่าคุณมีจุนฮงแล้ว เขาคงจะทำงานให้คุณได้มากกว่า”

    “มันไม่เหมือนกัน เธอก็รู้ชานยอล จุนฮงมีข้อจำกัด เขาต้องสัมผัสก่อนถึงจะอ่านใจได้”

    ชานยอลไม่ตอบอะไรไปมากกว่านั้น และคราวนี้คงถึงทีของผม ดวงตาสีอำพันราวกับดวงตาของสัตว์ป่าจ้องมายังผม ลูกหินสีใสๆกำลังจะเปลี่ยนสี ตาของสีวอนกลายเป็นสีดำสนิทเมื่อจ้องมายังผม ชานยอลไม่หลบออกไปนั่นมันเป็นการเสียมารยาท แต่ชานยอลคงรู้ว่าผมอยู่คนเดียวไม่ได้แน่

    “ครอบครัวคุณมีสมาชิกใหม่ด้วยหรือคุณปาร์ค? แต่ผมคิดว่ามันค่อนข้างผิดปกตินะ ขอฉันดูชัดๆหน่อยได้มั้ยชานยอล”

    ผมบีบมือชานยอลแน่น แน่นอนว่าเขาไม่ถอย ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ด้านหลังซีวอนเธอจ้องมาที่ชานยอล เขาร้องออกมาด้วยความทรมานก่อนที่จะล้มลงไป ผมเบิกตากว้างจะก้มลงไปดูอาการของเขา แต่ชเวซีวอนกลับดึงผมไว้ก่อน ผมหันไปมองชานยอลที่กำลังจะลุกขึ้นมานั่ง

    “มนุษย์”

    เสียงนั่นคำรามออกมาแล้วบีบแขนของผมไว้แน่น ผมเบ้ปากแต่ไม่ได้ร้องออกมมา เทาที่ยืนอยู่ตรงนั้นเดินเข้ามาพอจะแตะตัวของซีวอนเขาก็ล้มลงไปไม่ต่างจากชานยอล ผมพยายามจะแกะมือของอีกคนออก แต่เขาบีบผมแรงเกินไป

    “คุณกำลังทำร้ายลูกของผมอยู่นะซีวอน”

    “ขอโทษทีคุณปาร์ค ซูยองแค่กลัวว่าจะมีใครเข้ามาทำร้ายผม”

    เหตุผลนั่นฟังไม่ขึ้นเลย ชานยอลที่ไม่ได้ทำอะไรเขาก็โดนแบบนั้นแล้ว

    “คุณปล่อยให้มนุษย์ที่ล่วงรู้ความลับของเรามีชีวิตอยู่”

    “เขาเป็นคนรักของชานยอล”

    “คุณคิดหรอว่าจะสามารถรักกับมนุษย์ได้ ความรักของพวกคุณจะยั่งยืนอย่างนั้นหรอ?”

    เขาถามด้วยน้ำเสียงหยันๆ ชานยอลลุกขึ้นมาแล้วกระชากตัวผมให้ถอยห่าง ผมมือสั่นทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยื่นไปลูบหน้าเขาเบาๆเท่านั้น ชานยอลกำลังทำหน้าทรมาน ผมหันไปมองผู้หญิงที่ชื่อซูยองเธอกำลังจ้องมาทางนี้ ผมเอาตัวไปขวางชานยอลไว้ แน่นอนเธอทำหน้าโกรธขึ้นมา

    “เป็นแค่มนุษย์อย่าสอด!

    “อย่าทำร้ายเขา!

    “ช่างน่าซาบซึ้งใจ”

    “พอได้แล้วคุณซีวอน แบคฮยอนเป็นคนในครอบครัวของผม เขาไม่มีทางแพร่งพรายเรื่องของเราให้ใครรู้ ผมรับประกันได้”

    ชานยอลทรุดลงไปอีกครั้ง ผมรีบเข้าไปประคองในขณะที่หมอจองซูก็พูดขึ้นมาอย่างเหลืออด ผมไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้ ชานยอลไม่เคยเป็นแบบนี้ต่อหน้าผม ผมหันไปมองผู้ชายร่างสูงใหญ่ เขามีท่าทีแปลกใจเมื่อหันไปสบตากับซูยอง มันอาจจะเป็นการเสียมารยาทที่ผมจ้องเขาอย่างโกรธแค้น แต่เขาทำให้ชานยอลเป็นแบบนี้ได้ยังไง!

    “แบคฮยอนอย่างนั้นสินะ พลังของซูยองทำอะไรเขาไม่ได้ เรายิ่งไม่ควรเก็บไว้”

    “....ผมจะเปลี่ยน!

    “หื้อ?”

    ผมตะโกนออกไปเมื่อพบว่าเขากำลังจะทำร้ายผมอีกครั้ง ซีวอนชะงักก่อนจะหันมามองผมพลางยกยิ้มหยันๆ ผมประคองชานยอลไว้บนตัก เขาส่ายศีรษะน้อยๆไม่ให้ผมพูดอะไรไปมากกว่านี้ แต่ผมไม่คิดว่าจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้วจากที่ฟังมา ไม่ว่าหมอจองซูจะพูดว่าผมเป็นคนในครอบครัว ผมเป็นคนรักของชานยอลหรือแม้แต่ว่าผมจะสามารถเก็บความลับไว้ได้เขาก็ไม่เปลี่ยนใจ ยังยืนยันว่าจะฆ่าผมและทำร้ายคนอื่นๆในครอบครัวปาร์ค

    ผมเจ็บคนเดียวได้ แต่ไม่ยอมให้คนอื่นต้องมาเจ็บตัวเพราะผม

    “ไหนลองพูดใหม่สิ”

    “ผมบอกว่าผมจะเปลี่ยน ชานยอลรับปากกับผมแล้ว”

    “ชานยอลอย่างนั้นหรือ? น่าแปลกใจนะที่ชานยอลทำแบบนั้น แล้วมันตอนไหนกันล่ะแบคฮยอน”

    ผมนิ่งไปเมื่อไม่สามารถตอบคำถามของเขาได้ ผมหันไปมองชานยอลที่ค่อยๆลุกขึ้นยืน แน่นอนว่าเขาก็ประคองผมขึ้นมาด้วย แขนแข็งแรงโอบรอบบ่าของผม ชานยอลตอบแบบไม่ลังเล

    “หลังจากที่เราแต่งงานกัน”

    แต่งงาน?

    ผมหันไปมองหน้าชานยอลทันที อะไรคือที่เขาบอกว่าจะแต่งงาน? ไม่มีใครมีท่าทีตกใจเหมือนกับผม แม้กระทั่งซีวอนเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลก ผมดึงแขนเสื้อของชานยอล หวังว่าเขาจะหันมาอธิบายกับผมซักนิด แต่ในเมื่อชเวซีวอนยังไม่จบประเด็นนี้เขาก็ยังคงต้องอธิบายต่อ

    “เราจะแต่งงานกันหลังจากที่เรียนจบ ผมจะเปลี่ยนเขาด้วยตัวเอง”

    “ใช้ชีวิตเป็นพวกแรกเริ่มไม่ง่ายนะชานยอล แล้วอย่างนี้ชีวิตหลังแต่งงานของเธอจะมีความสุขได้ยังไง”

    “ผมเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปด้วยกันได้ครับ”

    ชานยอลยืนยันอย่างหนักแน่น มันเกือบจะซาบซึ้งแล้วถ้าหากว่าผมรู้เรื่องนี้มาก่อนและเขาอธิบายอะไรให้ผมฟังบ้าง ผมหันไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างตัวแล้วก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ แน่นอนว่าผมรักเขา แต่งานแต่งงานจะเกิดขึ้นได้ยังไงในเมื่อเราเป็นผู้ชายทั้งคู่ ผมรู้ว่าเขาอยากให้มันถูกต้องตามประเพณีแต่ผมคิดว่ามันไม่จำเป็น

    “ดูเหมือนว่าแบคฮยอนจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นะ”

    ชเวซีวอนหันมามองทางผมที่กำลังขมวดคิ้วพันกันยุ่ง ชานยอลบีบมือผมเบาๆ เป็นสัญญาณบอกว่าให้เชื่อใจเขา เห็นแบบนั้นก็พยักหน้าเบาๆ ผมเลื่อนมือขึ้นไปคล้องแขนชานยอลและพยายามจะยิ้มสู้อีกฝ่ายที่กำลังมองมา

    “ผมแค่เจ็บขานิดหน่อยครับ”

    “นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงไม่ควรรักกับมนุษย์ พวกเขาเปราะบางเกินไป เป็นภาระให้กับเรา และเขาเป็นอาหาร”

    โอเค....ผมยอมรับเลยว่ารู้สึกแย่มากที่ตัวเองเป็นได้แค่อาหาร

    ผมชอบครอบครัวปาร์คก็ตรงนี้ เขาไม่เคยมองว่าผมเป็นอาหาร เขาล่าสัตว์และทำตัวเหมือนกับว่าเขาเป็นมนุษย์ นั่นคือสิ่งที่จะทำให้พวกเขาอยู่ได้โดยที่ความลับไม่ถูกเปิดเผย ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วแสร้งฉีกยิ้มออกไปเพื่อให้เขาเห็นว่าผมไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับการที่ผมเป็นได้เพียงแค่อาหารในสายตาเขา

    ไม่เป็นไร....แค่ชานยอลยังมองเห็นว่าผมเป็นคนรัก แค่นั้นก็พอแล้ว

    “ทำไมถึงไม่เปลี่ยนเขาตอนนี้เลย?”

    “แบคฮยอนต้องใช้เวลา.....เขายังมีครอบครัวที่จะต้องล่ำลา”

    พูดมาถึงตรงนี้ผมเองก็ใจหาย...ใช่ ผมยังมีพ่อและแม่ที่จะต้องล่ำลาไม่ใช่แค่ว่าจู่ๆผมจะเปลี่ยนไปเลย ชเวซีวอนกรอกตาไปมาแล้วจู่ๆเขาก็เข้ามาประชิดตัวผม มือใหญ่คว้าหมับเข้าที่กรามแล้วจับใบหน้าผมให้เงยขึ้น ผมเห็นคมเขี้ยวของเขาที่พร้อมจะฝังลงมาที่คอผมทุกเมื่อ ชานยอลจะเข้ามาห้าม แต่ผมคิดว่าคงเป็นเพราะซูยองอีกแล้วที่ทำเขา ชานยอลลงไปนอนกับพื้น ผมรู้ว่าเขาเจ็บแต่เขาก็พยายามอย่างมากที่จะไม่ส่งเสียงร้องออกมา

    “แค่เปลี่ยนเสียตอนนี้ก็จะไม่เป็นปัญหา ทุกคนที่นี้ไม่เคยมีใครได้เตรียมใจ เปลี่ยนเพราะจำเป็น!

    “อึก.....” เขาออกแรงมากขึ้น

    ผมจับมือใหญ่ไว้ไม่ให้เขาออกแรงกับกรามของผมไปมากกว่านี้ ผมคิดว่าถ้าหากยังโดนกระทำแบบนี้บ่อยๆกรามของผมคงจะเบี้ยวเข้าซักวัน พวกเขาไม่ได้แรงน้อยๆกันเลยผมรู้สึกขอบคุณที่คราวนี้ไม่ได้บีบคอผม เหลือบสายตาไปด้านหลังเซฮุนทำท่าจะถลาเข้ามาด้วยความเป็นห่วงแต่คริสห้ามไว้ เขาไม่มีทางยอมเสี่ยงให้คนรักของตัวเองมาโดนพลังบ้าบออะไรของซูยองแน่ หมอจองซูและคุณนายปาร์คเข้าวิ่งเข้ามาเมื่อผมเผลอส่งเสียงร้องออกไป

    “พอได้แล้วคุณซูยอง คุณซีวอนที่นี่คือบ้านของผม เขตของผม และแบคฮยอนก็เป็นคนในครอบครัวของผม คุณไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายเขา และอีกอย่างแบคฮยอนมีสิทธิ์ที่จะได้เลือกว่าเขาเปลี่ยนตอนไหน ชีวิตเขามีทางเลือก”

    “เขาไม่มีทางเลือกคุณปาร์ค เขาต้องเปลี่ยนเท่านั้นเมื่อรู้ความลับของเราแล้ว”

    “ผมรู้ครับ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ได้โปรดอย่าทำร้ายครอบครัวของผม”

    คำพูดของหมอจองซูสามารถโน้มน้าวใจคนอื่นได้จริงๆ

    ชเวซีวอนปล่อยผม ดวงตาสีดำสนิทจ้องมา ผมไม่สามารถรู้ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อผมเป็นอิสระก็รีบไปดูชานยอลอีกครั้ง ร่างสูงนอนหอบหายใจผมไล้มือไปตามสันกรามตรวจสอบว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร ชานยอลยังคงส่งยิ้มให้เหมือนเดิมและนั่นทำให้ผมแทบบ้า เขาควรจะพูดออกมาบ้างว่าเขาเจ็บ หรือโทษผมก็ได้ว่าเขาเป็นแบบนี้ก็เพราะผม

    “เป็นอะไรรึเปล่า?”

    “อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้สิครับแบคฮยอน เขาไม่ทำร้ายผมถึงชีวิตหรอก”

    “แต่นายเจ็บ....ไหวมั้ย?”

    “ไหวครับ” เขาค่อยๆลุกขึ้นมานั่งในขณะที่ผมก็ต้องรีบปาดน้ำตาออก ไม่อยากให้ใครหาได้ว่าเป็นพวกอ่อนแอ เหมือนพวกชเวจะยอมถอยออกไปหน่อย แต่ผมสัมผัสได้ว่าความอาฆาตอย่างแรงที่มายังผม จองโบรา เธอยืนอยู่หลังกลุ่มคนพวกนั้น

    “เอาเป็นว่าหลังจากที่พวกคุณจบการศึกษาประมาณห้าเดือน ฉันจะกลับมาอีกครั้ง”

    “......ครับ”

    “ถึงตอนนั้นถ้าหากแบคฮยอนยังไม่เปลี่ยน ทางเลือกสุดท้ายของเขาคือตาย เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหมปาร์คชานยอล”

    “ครับ ผมเข้าใจครับ”

    “ถ้าอย่างนั้นเจอกันคราวหน้าหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนะแบคฮยอน”

    “ครับ” ผมตอบรับสั้นๆในขณะที่ชเวซีวอนก็มีทีท่าพอใจอยู่พอสมควร เขาถอยออกไป ผมจ้องไปที่โบราอีกครั้ง เหมือนเธอจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของพวกชเวเท่าไหร่ “ไหนคุณบอกว่าจะจัดการให้ฉัน!!

    “เขากำลังจะเปลี่ยนโบรา เราไม่มีเหตุผลที่จะต้องฆ่าเขาแล้ว”

    “แต่เขาฆ่าคนรักของฉันนะ!

    “นั่นเป็นเรื่องของพวกคุณแล้ว” น่าจะเป็นคนที่ชื่อจุนฮง เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย จองโบราตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ เธอหันหลังกลับและหนีหายเข้าในป่า ผมคิดว่าเรื่องทั้งหมดมันไม่จบลงแค่นี้แน่ ชานยอลพาผมกลับเข้าไปในบ้านปล่อยให้ที่เหลือคุยกันต่ออีกซักพัก

    ผมเองก็คิดว่าต้องมีเรื่องคุยกับชานยอลเหมือนกัน

    “ชานยอล....”

    “ครับ?”

    “เรื่องแต่งงาน......” ผมทอดเสียงออกไปและลอบมองปฏิกิริยาของเขา เขาไม่มีท่าทีผิดปกติอะไร ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ “เรื่องนี้ฉันคิดว่าเราคงต้องคุยกัน”

    “คุณรักผมหรือเปล่าครับ?”

    “มันแน่นอนอยู่แล้ว”

    “ถ้าอย่างนั้นผมคิดว่าเราควรจะต้องแต่งงานกัน”

    “เดี๋ยวก่อนชานยอล....ฉันคิดว่ามันไม่จำเป็น...เราอยู่ด้วยกันได้โดยที่ไม่ต้องแต่งงาน”

    “มันไม่ถูกต้องครับ ผมจะเอาคุณมาอยู่กับผมเลยได้ยังไงถ้าพ่อกับแม่ของคุณไม่ยอม”

    “เราก็แค่บอกท่าน”

    “ผมและพ่อคิดว่าเราควรจะทำมันให้ถูกต้องตามประเพณี”

    อย่างที่เซฮุนบอก....ปาร์คชานยอลหัวโบราณมากกว่าที่ผมคิดเสียอีก

    ผมถอนหายใจออกมาหนักๆ เรื่องแต่งงานนี่ไม่เคยอยู่ในหัวของผมแม้แต่น้อย มันเป็นเรื่องที่ไกลตัวมากๆหากว่าผู้ชายกับผู้ชายคบกัน แม้สังคมปัจจุบันจะเปิดกว้างและยอมรับ แต่ผมคิดว่าเรื่องเหล่านั้นไม่จำเป็น

    “ถ้าไม่แต่ง....นายก็จะไม่ยอมเปลี่ยนฉันใช่มั้ย? นี่เป็นวิธีการที่ทำให้ฉันไม่อยากจะเปลี่ยนจริงๆนะเนี่ย”

    “ผมไม่บังคับคุณนะแบคฮยอน”

    “โอเค....เอาเป็นว่าเราจะคุยเรื่องแต่งงานหลังจากที่เรียนจบ”

    ชานยอลยิ้มออกมาบางๆก่อนที่เขาจะจูบหน้าผากผม พรมจูบไปทั่วใบหน้าราวกับว่าเป็นลูกสุนัข สุดท้ายผมเลยตัดสินใจจูบที่ริมฝีปากของเขาเบาๆแล้วเอามือปิดปากอีกคนไว้ก่อนที่เขาจะทำอะไรผมไปมากกว่านี้ ชานยอลทำหน้าเหมือนจะร้องไห้นิดหน่อยแต่เขาก็ยอมถอยออกไป

    “รักคุณ....รักคุณจริงๆนะแบคฮยอน”

    “รู้แล้ว รู้แล้วครับคุณชานยอล J

     

    ในที่สุดชานยอลก็ยอมให้ผมกลับบ้าน

    เขาพากลับมาส่งที่บ้านในเช้าวันเสาร์ซึ่งถ้าจำไม่ผิดวันนี้พ่อจะต้องอยู่เวรอีกแล้ว ผมก้าวลงจากรถอย่างระมัดระวังและไม้ค้ำถูกเอากลับมาใช้อีกครั้งเพราะชานยอลบังคับให้ใช้ ผมหงุดหงิดนิดหน่อยแต่ก็ขัดเขาไม่ได้ ชานยอลถือของลงจากรถและเอาเข้าไปไว้ในบ้านในขณะที่ผมก็ค่อยๆเดินเข้าไปเพราะบอกเขาไปแล้วว่าผมจะเดินเข้าไปเอง

    ผมยังเดินไม่ถึงไหน ชานยอลเข้ามาจับแขนผมเอาไว้และทำท่าจะอุ้มเข้าไปในบ้าน รีบร้องห้ามเอาไว้

    “ไม่ต้องนะ”

    “ทำไมล่ะ?”

    “ให้ฉันเดินเองบ้างเถอะ ชานยอล”

    “ผมกลัวคุณจะเจ็บ”

    “ฉันไม่เป็นอะไร โอเคนะ?” ผมยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะค่อยๆยันตัวเองขึ้นเพื่อหอมแก้มของคนตัวเย็นเบาๆ เขาหัวเราะออกมานิดหน่อยแล้วยอมปล่อยให้ผมเดินเข้าบ้าน แต่ยังไม่ทันจะได้ขยับไปไหน เสียงรองเท้าหนังก็ดังเข้ามาใกล้ ผมเซนิดหน่อยเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงกระชากที่ตัวชานยอล รีบหันกลับไปมองด้วยความระแวงก่อนจะเบิกตากว้างออกมาด้วยความตกใจ

    “พ่อ!

    “พ่อรู้หมดทุกอย่างแล้วแบคฮยอน!

    ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะประสาทแตกไม่ช้า ใบหน้าของพ่อแดงก่ำด้วยความโกรธ ผมเหลือบเห็นไปมองด้านหลัง จงอินกำลังยืนพิงรถมอเตอร์ไซค์ของเขาอยู่ หมอนั่นยักคิ้วให้ผมด้วยท่าทางที่กวนอารมณ์ได้ไม่ใช่น้อย เอาล่ะ...ผมจะไปจัดการกับเขาทีหลังสาบานเลย แต่ตอนนี้ผมต้องเคลียร์กับพ่อก่อน

    “พ่อฟังผมนะ.....”

    “คิดจะโกหกอะไรพ่ออีก!

    “ผมไม่ได้โกหก! พ่อเคยถามผมหรอว่าผมเป็นอะไรกับชานยอล พ่อไม่เคยถามด้วยซ้ำ”

    “ลูกไปนอนที่บ้านเขา อาทิตย์นึง ให้ตายนี่ไปถึงไหนแล้ว”

    “พ่อครับ! ผมกับชานยอลเราคบกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น”

    โอเค...ทั้งพ่อและผมในตอนนี้เราอาจจะประสาทแตกพร้อมกันได้ พ่อเอาแต่โวยวายที่ผมไปนอนบ้านชานยอล ฟังผมบ้างไม่ฟังบ้าง ชานยอลยืนนิ่งๆและพยายามคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง

    “ผมไม่ได้ทำอะไรแบคฮยอน จริงๆครับ แม่ผมก็อยู่บ้านตลอดเวลา พวกท่านรับรู้ว่าผมกับแบคฮยอนคบกันและให้แบคฮยอนนอนกับเซฮุนครับ”

    “ถึงอย่างนั้นลูกก็ควรจะบอกพ่อ!

    “ผมกำลังหาโอกาสอยู่”

    “ถ้าจงอินไม่บอกคิดจะปิดพ่อไปถึงไหน!?

    “เขาฟ้องอะไรพ่อบ้างล่ะ เล่าว่าผมเสียตัวแล้วรึไง ผมลูกพ่อนะทำไมไม่คิดจะเชื่อใจกันบ้าง”

    “แบคฮยอน!!” พ่อตวาดกร้าว ส่วนผมก็หุบปากทันทีเพราะรู้ว่าตัวเองพูดแรงไป ชานยอลแตะแขนผมเบาๆเพื่อเรียกสติคืน คิมจงอินยังคงยืนทำหน้าตาไม่เดือดร้อนอยู่ตรงนั้น ผมยิ่งรู้สึกโมโหอยากจะเดินเข้าไปต่อยหน้าเขาตอนนี้แรงๆซักที พ่อปัดมือของชานยอลที่แตะอยู่บนตัวผมออกและสูดลมหายใจเข้าลึก พ่อกำลังระงับอารมณ์โกรธ แต่ขอโทษด้วย พ่อระเบิดมันใส่ผมตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

    “เข้าบ้าน”

    “ผมจะอยู่ตรงนี้”

    “แบคฮยอน พ่อบอกให้เข้าบ้าน”

    “เข้าไปเถอะครับแบคฮยอน พ่อคุณคงมีเรื่องจะคุยกับผม...”

    “ฉันจะอยู่ฟังด้วย”

    “จงอิน พาแบคฮยอนเข้าบ้าน” พ่อหันไปสั่งคนที่ยืนอยู่นอกรั้ว ผมถลึงตาใส่เขายามที่ร่างสูงนั่นเดินเข้ามาใกล้ หมอนั่นสบตากับชานยอล ยักคิ้วกวนประสาทให้ก่อนจะอุ้มผมเข้าบ้านในทันที แน่นอนล่ะว่าผมโวยวาย ดิ้นจะลงให้ได้ แต่จงอินไม่แม้แต่จะฟัง ไม่รู้ว่าเขาแรงเยอะมาจากไหน หมอนั่นโยนผมลงบนโซฟา แม้มันจะไม่แรงแต่ผมก็ไม่ชอบที่เขามาทำแบบนี้

    “ผมทนเห็นคุณต้องเจ็บตัวต่อไปไม่ได้แล้วแบคฮยอน”

     

    Talk-12-
    ไม่อ่านมันแล้วโอเนต ลาก่อนชีวิต #บายยาวๆ
    คะแนนเจ็ดวิชาสามัญออกมาแล้ว ค่อนข้างแย่ในความรู้สึก
    สลดไปประมาณสามพันวินาที หลังจากนั้นก็ดูคิมทันต่อ
    ชีวิตมันต้องเดินต่อไป มีความฝันแล้วต้องไปให้ถึง
    พวกชเว....ฮรั่กกกก พี่ซีว๊อนนน พี่ซีวอนนน *ลูบไล้*
    พวกโวลตูรี ประมาณนี้ไม่ผิดกัน 
    จงอินทำเรื่องยุ่ง คุณพ่อตาโกรธแล้วครัช
    ตกลงว่าคุณผู้กองมีลูกสาวรึมีลูกชาย? 5555
    เจอกันตอนหน้านะคร้าบบบบบ
    #ฟิคทไวไลท์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×