คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : หอแตก : 08
-8-
วันจันทร์ที่เปรียบเสมือนนรกของผมก็วนกลับเข้ามาอีกครั้ง
ตรงหน้าผมมีร่างสูงๆของปาร์คชานยอลที่กำลังจ้องผมเขม็ง ผมทำหน้าแหยเมื่อพบว่าตัวเองจะต้องหมุนตัว....
อาจารย์แม่งทำอะไรข้ามสเตปไปป่าววะบางที!!
“จับ”
“ไม่โว้ย! คราวนี้กูจะเป็นผู้ชาย”
“ส่วนสูงมึงก็แค่นี้ อย่าดันทุรังไปหน่อยเลยน่า”
“ไปแลกคู่กับจื่อเทา กูไม่คู่กับมึงแล้ว”
“งอแงว่ะเตี้ย คู่กับกูคะแนนดีนะ”
คะนงคะแนนใครจะไปสนล่ะนาทีนี้!
และสุดท้ายก็โดนมันขืนใจให้จับลงบนบ่า ผมสะดุ้งด้วยความไม่เคยชินเมื่อมือมันวางลงบนเอวของผม เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้นขายาวก็ก้าวเข้ามาใกล้ ก่อนที่ตัวผมจะถูกกระชากกลับไปเมื่อครบสี่จังหวะ เมื่อสิ้นสุดจังหวะที่แปดผมก็ต้องก้าวถอยหลังอีกครั้งแต่คราวนี้ผมต้องหมุนตัวด้วย แทนที่ผมจะได้หมุนตัวเองไอ้ชานยอลแม่งจับผมสปิน
คนนะไม่ใช่ลูกข่าง ไอ้เวรรรรร!
“ชานยอล!!”
“อยู่กับกูไม่ต้องมองอาจารย์มากหรอก เดี๋ยวงง”
มันว่าก่อนจะเป็นฝ่ายหมุนตัวซึ่งผมไม่ต้องทำอะไรเลย มือผมจับลงบนบ่ามันอีกครั้งก่อนที่ชานยอลจะรุกเข้ามา มือของผมและมันหลุดออกจากกันก่อนที่มันจะจับผมหมุนอีกรอบ
ปั้ก!
ตุ้บ!!
ผมสาบานได้ว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ!
เพราะชานยอลจับผมหมุนตัวเพราะฉะนั้นการทรงตัวเลยเป๋ไป ในที่สุดผมก็ล้มโดยฉุดไอ้ชานยอลให้ลงมาทับตัวเอง ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าคู่ของผมมีสภาพที่ค่อนข้างชุลมุนนิดหน่อย ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะผมว่าใบหน้าของปาร์คชานยอลอยู่ไม่ห่าง ครั้นจะขยับปากพูดก็....
ไอ้เหี้ยยยยยยยย!!!!!!!!!!!
ผมถีบมันออกไปทันที
“เหยดเข้....กูถ่ายรูปไว้ได้ทันแหละ” เสียงของจื่อเทาดังขึ้นมา มันรีบเก็บโทรศัพท์เมื่อครูเดินมาทางนี้
ผมลุกขึ้นนั่งแล้วถูปากตัวเองหลายที แหยะๆๆๆๆ!!!!
ไอ้ชานยอลแม่งจูบผมอะ!!!
เออ! มันอาจจะไม่ใช่จูบแต่ปากแม่งแตะกันไง แล้วผู้ชายที่ไนเขาปากแตะกันบ้างวะ โอ๊ย!! ให้ตายห่าสิ ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นแต่ในหนัง ผมเคยนั่งด่านางเอกว่าทำไมถึงโง่แล้วไอ้พระเอกแม่งจะล้มอะไรได้เหมาะเจาะจนปากกระแทกกัน ด่ามันอยู่ทุกวันว่านางเอกแม่งอ่อย ส่วนพระเอกแม่งหื่นทั้งสองคนถึงได้กัน
และวันนี้ผมแม่งกลายเป็นไอ้พระเอกหื่น! (ใช่หรอวะ?)
ยกหดสวาบๆไฟลฤ,ฐฯศฏโฌซบวนหสกดดบ
“เกิดอะไรขึ้น”
“....มัน!!”
“อะไร มีอะไร” อาจารย์ทำหน้าตาตื่นเพราะเพื่อนๆมาล้อมกันหมด ผมนี่โกรธจนควันขึ้นหน้า ไอ้ชานยอลไม่ทำอะไรมากไปกว่าร้องครวญครางเบาๆเพราะผมถีบมันออกไป
“แล้วคุณเป็นอะไรประธานนักเรียน”
“แบคฮยอนถีบประธานครับ!” ผมหันขวับไปมองหน้าใครบางคน เป็นไอ้จื่อเทาที่เสนอหน้าพูดแจ๋วๆ อาจารย์หันมามองหน้าก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ผมหันไปหาเซฮุนและจงอินเพื่อจะขอความช่วยเหลือแต่ก็หามันไม่เจอ
“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องรับผิดชอบ พาเพื่อนไปนั่งพัก”
“แต่ว่ามัน.....!”
“มันอะไร?”
มันจูบกรูวววววววววววววววววว!!
จะให้พูดออกไปอย่างนั้นเรอะ!?!
และสุดท้ายผมก็ต้องไปพยุงไอ้โย่งหูกางที่แกล้งตอแหลร้องโอดโอยอยู่นั่นไปพักบนแสตนด์ อาจารย์มองหน้าเหมือนกับว่าผมเป็นคนผิดทั้งๆที่ความจริงแล้วผมต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ! ชานยอลยักคิ้วกวนตีนให้ผมเลยผลักมันลงไปอีกรอบ
“บยอนแบคฮยอน!!”
ผมกรอกตาก่อนจะเอื้อมมือไปกระชากไอ้โย่งที่แม่งเล่นได้สมบทบาทเหลือเกิน
“มึงกับกูเคลียร์กันยาวแน่ไอ้ชานยอล”
ปัง!!!!
ผมที่เปลี่ยนเป็นชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้วเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าตู้ ชานยอลกำลังจะถอดเสื้อพละออก ผมกระแทกมือของตัวเองลงไปบนประตูตู้ ไอ้คนที่กำลังจะเปลี่ยนเสื้อชะงักพลางหันมามองหน้า เซฮุนวิ่งตามผมมาก่อนจะพยายามจะดึงแขนผมเอาไว้
“มันเป็นอุบัติเหตุไม่ใช่หรือไงแบคฮยอน ไม่เอาน่า”
“กูมาทวงคำขอโทษ”
“กูผิด?”
“เออ! มึงจูบกูอะ!”
“แถวบ้านกูไม่ได้เรียกว่าจูบนะ” ไอ้ชานยอลยกยิ้มหน่อยๆก่อนจะถอดเสื้อออกแล้วหยิบเสื้อนักเรียนที่แขวนอยู่ในตู้ออกมา ถ้ามีเอฟเฟคใส่ให้เห็นภาพก็จะมีควันลอยออกมาจากหู ผมกรอกตาไปมาก่อนจะสะบัดเซฮุนให้หลุดแล้วจับไอ้โย่งกระแทกเข้ากับประตู มันเลิกคิ้วตัวเองขึ้นมานิดหน่อย
“ปากกกก แบบเนี้ย” นิ้วเรียวของปาร์คชานยอลยกขึ้นมาก่อนจะวางมันลงบนริมฝีปากของผมแล้วขยี้มันแรงๆ ผมผงะถอยออกมานิดหน่อย แต่เหมือนไอ้โย่งยังมีเรื่องพูดไม่หมด
“ถ้าเลือกได้ กูก็อยากจะจูบพื้นมากกว่า”
“ย่าห์!!”
“ที่มาทวงคำขอโทษนี่.....จูบแรกรึเปล่า?”
“ดูถูกกูมากไปล้ะสัด!” ผมตบตู้ด้านหลังดังปึง แต่ชานยอลไม่ได้ยี่หระแถมยังยักไหล่น้อยๆ ผมสูดลมหายใจเข้าลึก รู้ดีว่าไม่ควรมีเรื่องทะเลาะวิวาท แต่ผมก็ทนความกวนตีนของไอ้ประธานนักเรียนนี่ไม่ไหวเหมือนกันนะ และอะไรซักอย่างในตัวผมเกิดบ้าดีเดือดขึ้นมา กระชากคอเสื้อของไอ้ชานยอล ได้ยินเสียงของเซฮุนร้องเสียงหลงกลัวว่าผมจะตั๊นหน้าของไอ้โย่งนี่เข้าจริงๆ
แต่ไม่ใช่
ผมจัดการจูบปิดปากหมาๆนั่นทันที
ผมมองหน้าของปาร์คชานยอลที่กำลังเบิกตากว้างขึ้นมาก่อนจะยักคิ้วใส่มันไปซักทีแล้วจึงใช้ฟันขบริมฝีปากของมันอย่างแรงแล้วผละออก
“โอ๊ย!”
“เล่นกับใครให้มันรู้มั่ง กูแบคฮยอนหอสาม กะอีแค่จูบกูก็เคย!”
“นี่เรียกจูบหรอ? หมาเลียปากดิ!”
“ไอ้ชานยอล!!”
ผมกระชากคอเสื้อมันขึ้นมาอีกทีแต่คราวนี้มือใหญ่นั่นยกขึ้นมาจับลงที่แก้มทั้งสองข้างของผมก่อนที่มันจะเบียดริมฝีปากลงมา ผมเบิกตากว้างแล้วทุบมันหลายๆทีแต่ชานยอลก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร เบียด....เบียดอย่างเดียวไม่พอ มันดูดปากผมอย่างกับเป็นที่ดูดส้วม เสียงคนในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าฮือฮากันใหญ่ แต่วินาทีนั้นคือแบบ....หูอื้อมาก ไอ้โย่งแม่งมีการเอียงหน้าไปมาก่อนที่จะกลับมาตั้งตรงอีกรอบ มันลืมตามองผม ก่อนจะยักคิ้วให้ ผมใช้แรงเท่าที่ตอนนี้จะอำนวยผลักมันออกไปทันที
“มึง!!!”
“จะสอนให้รู้ไว้ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าจูบ”
“พอได้แล้วไอ้ห่า”
“มึงดูมันนะ! หยามกูขนาดนี้!!”
“พอแล้วแบคฮยอน ปากมึงบานยิ่งกว่าจานดาวเทียมบ้านกูแล้ว” คิมจงอินว่าก่อนจะดึงแขนของผมเอาไว้ไม่ให้ถูปากตัวเองไปมากกว่านี้ ทั้งแสบทั้งเจ็บแต่ทำไงได้วะ รู้สึกเสียศักดิ์ศรีมากๆเลยให้ตายห่า ระหว่างที่กำลังรอเซฮุนไปซื้อข้าวผมก็เอาแต่ถูปากตัวเองซ้ำๆหวังว่าจะลบรอย....
รอยคนบ้าเลียปากนั่นได้!!
“แต่จะว่าไป ก็เป็นมึงเองนะที่เริ่มก่อน ร้อนรักหรอมึง ผัวไม่ทำการบ้านหลายวันหรือไง”
“ไอ้จงอิน หน้ากูขำปะ?”
“โอเค ไม่ขำก็ไม่ขำ แต่ก็นะ...มึงเริ่มก่อน ไม่ว่าจะในโรงยิมหรือห้องเปลี่ยนเสื้อ”
“ในโรงยิมกูไม่ได้เริ่ม!!”
“แต่ใครๆก็เห็นว่ามึงฉุดชานยอลลงไปทับ” ฮอล.....ฉุดเลยหรอ
ผมขมวดคิ้วก่อนจะอารมณ์เย็นลงมาบ้าง แต่ก็นั่นแหละถ้ามันไม่จับผมหมุนจนทรงตัวไม่ได้ขนาดนั้นผมก็คงไม่ล้มลงไปหรอก ไอ้จงอินยักไหล่น้อยๆก่อนจะจิ้มสลัดเข้าปาก ก่อนที่อีกคำจะจิ้มให้หันมาทางผม ไม่แน่ว่าที่โมโหขนาดนี้ผมอาจจะกำลังหิว ว่าแล้วก็อ้าปากเตรียมจะงับ
“แบคฮยอน! เฮียมึง!”
เซฮุนวิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ขัดโมเม้นต์สวีทระหว่างผมและไอ้จงอิน ผมหันหลังกลับไปมองคนที่หอบแฮ่กๆ แฝดนรกคนน้องทำหน้าตื่นพลางชี้ไปยังห้องอาหารข้างบนซึ่งถ้ามองจากตรงนี้จะเห็นได้ว่ามีความวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อย ผมสะบัดหน้าตัวเองกลับมาด้วยความหยิ่ง
“มีอะไร”
“เฮียคริสไปอาละวาดใส่ชานยอลอยู่เนี่ย”
“แล้วไง”
“ก็หมายความว่าเฮียรู้เรื่องที่มึงจูบกับไอ้ชานยอลแล้วไงไอ้ควาย!!”
โอเค ผมคิดว่ามันชัดแล้ว
ผมรีบลุกจากโต๊ะที่นั่งอยู่แล้ววิ่งขึ้นไปยังห้องอาหารโดยมีจงอินและเซฮุนตามมาด้วย เปิดประตูเข้าไปพวกคนของหอพิเศษกำลังวุ่นวายกันถ้วนหน้าพี่คริสกำลังกระชากคอเสื้อไอ้ชานยอลอยู่ ผมเดินเข้าไปหาทันที
“เฮียใจเย็น”
“มันจูบแก”
“เออก็ใช่ แต่เฮียฟังก่อนแม่งอุบัติเหตุไง แบบเรียนลีลาศแล้วล้มอะ”
“ไม่ใช่! เฮียหมายถึงในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า”
โอ้โห....ไอ้ตัวดีที่ไหนแม่งคาบข่าวไปบอกวะ
ไอ้ประธานนักเรียนก็เหลือเกิน ไม่มีขัดซักแอะ น่าจะยังไม่ได้ลงไม้ลงมือเพราะหน้าขาวๆยังไม่มีรอยฟกช้ำ เห็นแบบนั้นผมเลยถอนหายใจน้อยๆก่อนจะดึงแขนพี่คริสที่จับคอเสื้อมันอยู่ “นั่นก็อุบัติเหตุ”
“อย่าโกหก! ไอ้ชานยอลบอกเฮียหมดแล้ว”
“บอกอะไร?”
“ก็ที่มันดูดปากแกที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านั่นไง!!”
“โหยยยยย มึงทำอะไรไม่ปรึกษากูเลยนะไอ้ห่า!!”
ผมหันไปพาลใส่ไอ้โย่งที่ยืนนิ่งๆรอให้เฮียต่อย ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ถึงได้พูดออกไป แล้วไงล่ะทีนี้ เฮียคริสง้างแขนขึ้นทำท่าจะต่อยจริงๆ ผมกับเซฮุนรีบเข้าไปจับห้ามส่วนจงอินก็รั้งเอวออกมา ไอ้ชานยอลตอนนี้เป็นอิสระส่วนพี่ผมก็ร้องแต่ว่าให้ปล่อย
“ปล่อยเฮีย! แบคฮยอน! เฮียไม่ยอมหรอกนะ!!”
“เอาน่าเฮีย มันผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปเหอะ”
“เรื่องที่มันบอกว่าจะจีบแกเนี่ยนะให้ปล่อยผ่าน!?”
“........อะไรนะ?”
“ก็มันเพิ่งสารภาพกับเฮียเมื่อกี้ว่ามันชอบแก!!!”
โลกมันหมุนเร็วขึ้นทุกวันฉันตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอย
“อืมมมมม.......”
“มันเป็นประเด็น......”
“ประเด็นใหญ่ด้วย......”
“แบคฮยอนมึง.......”
“ไม่น่ารอด” จงอินเป็นคนปิดท้ายประโยคอันแสนยาวเหยียด ผมฟุบหน้าลงไปบนโต๊ะทันที คำพูดของพี่คริสยังคงดังไปดังมาอยู่ในหัว ราวกับว่าเปิดเทปกรอซ้ำไหนจะสายตาของไอ้ชานยอลที่ผมไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่นั่นอีก ไอ้สองแฝดพูดอะไรกันไม่รู้งึมงำ
ชานยอลชอบผม?
แล้วมันจะจีบผมด้วยเนี่ยนะ?
เอ๊อวววววว มึงเห็นกูมีนมสองเต้าหรอครับไอ้เวรรรรร!!
พี่คริสถึงกับประกาศกร้าวว่าห้ามมันเข้าใกล้ผมในระยะสามเมตร แถมตอนเลิกเรียนเฮียจะมารับผมกลับไปส่งที่หอด้วย ตอนกินข้าวก็จะมานั่งคุม
ไม่อยากนึกถึงสภาพตอนที่เรื่องนี้ไปถึงหูพี่แบคบอมและพี่อีทึก
ผมนั่งอยู่ในห้องเรียน ตอนนี้เลิกเรียนแล้ว วันจันทร์ที่เหมือนนรกนี่กำลังจะจบลง ผมเก็บของลงใส่กระเป๋า สองแฝดตบบ่าผมคนละข้างแล้วส่งสายตาเหมือนจะให้กำลังใจพลางส่งสายตาไปที่หน้าประตู ผมถอนหายใจออกม ท่าทางว่าพี่คริสจะเอาจริงเว้ยเฮ้ย
“เฮีย?”
“เปล่า.....ไอ้ชานยอล”
แล้วไอ้ห่านี่จะโผล่มาทำไมค้าบบบบบบบบบบ
ผมหันไปมองที่หน้าประตู มีร่างสูงๆของปาร์คชานยอลยืนอยู่ ผมขมวดคิ้วก่อนจะส่งสายตาโกรธๆไปให้ ไอ้นี่ก็เหมือนกันไม่รู้เกิดเป็นบ้าอะไร สาบานตรงนี้เลยว่าผมไม่ได้แอบไปเล่นของที่ไหนแน่ ดีแต่ด่ามันอยู่ทุกวันทำดีด้วยรึก็ไม่เคย
ผมลุกขึ้นยืนแล้วกอดคอไอ้สองแฝดเดินออกทางประตูหลัง ไอ้ชานยอลยืนอยู่ประตูหน้า แต่เดินออกไปก็เจอมันยืนดักอยู่ดี สองแฝดมองหน้ากันข้ามหัวผม พวกมันกำลังปรึกษาผ่านทางจิต...จิตที่ผมไม่สามารถหยั่งถึงนอกจากตัวพวกมันเอง และลางสังหรณ์ของผมก็ไม่ผิด ไอ้จงอินและเซฮุนทิ้งผมไปเลย....
ไอ้แฝดนรก! ไอ้......!!!
“ไอ้เซฮุนปวดฉี่....”
“กูอยากให้จงอินไปเป็นเพื่อน”
“เดี๋ยวเรามานะ” มารงมาเราบ๊องแบ๊วทำส้นตีนไรตอนนี้ครับ....!
แล้วสองผัวเมียก็ควงแขนกันเดินจากไป ผมได้แต่ยืนสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆไม่ให้โกรธไปมากกว่านี้ หันหน้าไปทางไอ้ชานยอล ในเมื่อมันหน้าด้านมาผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่คุย ยังไงก็แมนๆกันอยู่แล้ว
ได้โปรดบอกมันให้มองผมแมนๆด้วยเหอะ!!
“มีไร”
“กูแค่จะมาพูดให้ชัดๆ”
“เรื่อง?”
“กูชอบมึง” ....กูไม่น่าถามเลยให้ตายห่า
ผมยกมือขึ้นห้ามก่อนที่มันจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เอามือลูบหน้าตัวเองเบาๆ อาหะ...รู้สึกขนลุกขนพองนิดหน่อยแต่การที่มองหน้ามันเวลาที่มันพูดนี่โคตรหมดอารมณ์ พูดด้วยหน้านิ่งๆไม่เหมือนปกติ เหมือนกับมันพูดว่า โอเคกูจะหักคะแนนหอมึงแล้วนะ อะไรประมาณนี้
มันไม่ใช่ไงงง มันไม่ใช่!
“แต่.....”
“แต่อะไร?”
“กูคิดว่ามันอาจจะเร็วเกินไป แล้วที่ผ่านมากูอาจจะทำไม่ค่อยดีกับมึงมากเท่าไหร่”
“...........”
“แต่กูก็เป็นแบบนี้แหละ”
“............”
“ให้โอกาสกูหน่อยแล้วกันนะ”
“ไอ้ชานยอล!!!!!” เสียงพี่คริสดังลั่นมาตามทางเดิน คนแถวนั้นที่ไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่ต่างพากันมามองพวกผมเป็นจุดเดียว ยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองก่อนจะวิ่งดิ๊กๆไปกอดแขนเฮียเอาไว้ ปาร์คชานยอลไอ้ผู้ชายบ้าบอโค้งให้เฮียผมน้อยๆก่อนจะเดินไปจากตรงนี้ คาดว่าสิ่งที่มันต้องการพูดได้พูดหมดแล้ว
ให้โอกาส?
โอกาสบ้าบอไรรรร นี่จะว่าไปผมยังไม่ได้ปฏิเสธมันไปเลยนะ! คิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ววะเนี่ย!!
“เฮียบอกว่าไง ให้รออยู่ในห้อง! แล้วนี่มันมาได้ยังไง!”
“เฮียยยยยย ผมเป็นผู้ชายนะ ผู้ชาย เฮียมองก่อน”
“ผู้ชายแล้วไงวะ เป็นผู้ชายแล้วมันยังกล้าจีบแกเลยนะแบคฮยอน!”
“เบาๆดิวะเฮีย! กลัวคนอื่นเขาไม่รู้รึไง”
ผมจิกแขนเฮียคริสไว้แน่นก่อนจะลากออกมาจากทางเดิน นักเรียนบางคนมองแต่ก็หันกลับไปเมื่อพี่ชายผมแม่งส่งสายตาหาเรื่องไปให้ ผมเคยคิดว่าชีวิตไฮสคูลของผมมันอาจจะเป็นปกติได้เหมือนนักเรียนคนอื่นๆทั่วไป แต่พอนึกขึ้นได้คือมันไม่เคยปกติตั้งแต่ผมมีพี่ชายสามคนที่หวงน้องเข้าขั้นบ้าแล้วต่างหาก!
เพราะยังไม่มีใครไง รอให้มีสิขี้คร้านจะโอ๋เมียจนไม่มีเวลาหวงน้อง
“ห้ามนะแบคฮยอน ห้ามคบกับมันเด็ดขาด!”
“เฮียอย่าโวยวายดิ ไอ้ชานยอลอาจจะแค่แกล้งเฮียก็ได้”
“จะแกล้งอะไรล่ะ หนอยแหน่ อุตส่าห์ไว้ใจที่ไหนได้ก็แทงข้างหลัง!”
“แบคเป็นน้องเฮียนะโว้ยไม่ใช่เมีย”
“ถึงจะมีเมียเฮียก็ไม่หวงขนาดนี้เว้ย!”
เออ! กูจะคอยดูแล้วกัน!!
พี่ชายขายาวทำหน้าตาขึงขัง มันเอากระเป๋าผมไปถือให้แล้วลากผมให้เดินกลับห้องพักเร็วๆ ถ้าเป็นไปได้มันอาจจะส่งผมกลับบ้านไม่ให้เรียนที่นี่อีกเลยก็ได้
ตอนมอต้นเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน มีผู้ชายเอาช็อคโกแลตและดอกไม้มาวางไว้บนโต๊ะผมในวันวาเลนไทน์ เฮียคริสเสือกมาเห็นพอดีโวยวายใหญ่ว่าห้ามมายุ่งกับผม รู้สึกว่าคนนั้นจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นชื่อจงออบหรืออะไรเนี่ยแหละ ไม่พอ พี่คริสคนเดียวไม่พอ พี่แบคบอมกับพี่ทึกแม่งส่งข้อความไปป่วนประสาทด้วย หลังจากนั้นมาจงออบก็เดินมาหาผมและบอกด้วยตัวเองว่าจะไม่ยุ่งกับผมอีกแล้ว....
ส่วนแฟนผู้หญิง....พี่คริสแม่งอ่อยแฟนน้องไปแล้วไม่คบไง! ผมเคยอยากจะคบควงขำๆแต่พอเฮียรู้เรื่องเข้าก็มาอ่อยตัดหน้าแล้วหักอกสาวน้อยคนนั้นทิ้งไปอย่างไม่ไยดี.......
ท่าทางจะต้องไปจองคานที่บ้านนิเวศน์.....
“แล้วสองแฝดนั่นไปไหน?”
“เห็นว่าจะไปเข้าห้องน้ำ”
“เหอะ เหอะ เหอะ อย่างนี้ไอ้ชานยอลเลยเข้ามาหาแกสินะ”
ไม่อยากจะบอกเลยว่าเพราะไอ้สองแฝดของเฮียเนี่ยแหละมันเปิดโอกาสอะ!!
“ห้ามออกจากห้องตอนกลางคืน ห้ามไปหอพิเศษคนเดียว ห้ามอยู่กับไอ้ชานยอลสองต่อสอง”
เมื่อเดินมาถึงที่ห้องเฮียก็พล่ามบ้าบออะไรไม่รู้ยาวเป็นหางว่าว ผมกอดอกทำหน้างอบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจ ที่ผ่านมาผมอาจจะทำท่าโวยวายรำคาญเล็กๆแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมากมายขนาดนี้ พี่คริสเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นสีหน้าแบบนั้น
“อะไร?”
“แบคเป็นผู้ชายอายุสิบแปดนะเฮีย ไม่ใช่ผู้หญิงอายุสิบเจ็ดที่จะต้องคอยระวังตัว”
“มันก็คล้ายๆกันนั่นแหละ!”
“เฮีย......” ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ว่าผมได้นิสัยใจร้อนมาจากใคร แต่ตอนี้ผมกลับนิ่งได้อย่างน่าประหลาด พี่คริสหายใจฟึดฟัดพลางยัดกระเป๋านักเรียนคืนมาแล้วดึงผมเข้าไปกอดคอพลางขยี้ศีรษะแรงๆ
“เฮียรักแกนะแบค หวงมากด้วย”
“เออน่า ผมรู้”
“รู้แล้วทำไมต้องปกป้องไอ้ชานยอลด้วยวะ หมั่นไส้”
“นี่ปกป้องมันตรงไหนเนี่ย ผมไม่ได้อะไรด้วยซ้ำ”
“ไม่รู้ล่ะ เฮียหวงของเฮีย”
ผมหัวเราะออกมาเสียงดังก่อนจะกอดพี่คริสที่ทำตัวเป็นเด็กหวงของ เออเอาวะ เฮียแม่งหวงก็ปล่อยให้หวงไปแต่อย่าให้มันมากมายละกันบางทีก็รับไม่ค่อยได้
เจอศึกหนักตั้งแต่คิดจะจีบกูแล้วไอ้ชานยอล
Talk -08-
จงอยู่เพื่อ…สรรค์สร้าง
จงอยู่อย่าง…สร้างสรรค์
จงอยู่เพื่อ…แบ่งปัน
จงอย่าหวั่น…ไม่ผันแปร…
ที่มา : http://krunikornpanrana.wordpress.com/คำกลอนสอนใจ/
โดนบอทหลอกให้อัพฟิค.. *มองหน้า*
ไม่เป็นไร เพื่อคนอ่าน สวยทำด้ายยยย
คือมันมาเร็วแบบแปลกๆไหม? ไม่หรอกเนอะ
แต่งตอนนี้แบบงงๆง่ะ เฮ้ยๆๆ ได้กันแล้ว #ยังๆ
พี่แบคร้อนแรงมากข่า จู่โจมแบบแมนๆ กรี๊ดดด
พี่ชานไม่ยอมแพู้้วกลับไป
แล้วมันไปชอบกันตอนไหน.....
#ไรท์เองก็ยังงงๆ *นั่งมึน*
ไปแล้ว ปวดท้องเมน
ชอบรีวิวมาก...ชอบกลอนนะ ไม่ใช่ประตู
บอกเลยพี่ชาย..ฉันสตั๊นไปประมาณสามพันแปดร้อยวิ
#คือไม่เข้าใจ แล้วค่อยอ๋อ.....
รักนะ เลิ้บๆๆ 55555
ช่วงสัมภาษณ์จะมาเร็วๆนี้ ยังฝากคำถามต่อได้นะค้า
กำลังจัดสัมภาษณ์(?)แบบลับๆอยู่
ไม่รับรองความฮา แต่รับประกันความมันส์ #หื้ม
อย่าลืมน้า พี่แบคและพี่ชานมีบอทแล้ว
สองแฝดยังไม่มี พี่ชายคนดียังไม่มา
สนใจติดต่อได้ค้าบบบ
รักรีดเดอร์มากเลย มั้วะๆๆ
#ฟิคหอแตก #พี่แบคหอสาม
ความคิดเห็น