คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [sf] friend? part 1 ;; kangin X leeteuk feat, jessica , seohyun
Title :; Friend?
Couple :; Kangin X Leeteuk
Rate :; PG13+
Talk :; เรื่องนี้พยายามจะทำให้เศร้าแล้ว แต่มันก็ได้เท่านี้;____; แต่งไว้เมื่อปีที่แล้ว จำได้ 555 ตินปิดเทอมนี่ล่ะ ย้ายจากบทความอันก่อนมาลงที่นี่นะคะ > <
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
สาย ฝนที่ตกลงมาจากทั่วท้องฟ้ากระหน่ำใส่ร่างบางกับเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ท่าม กลางเม็ดฝนที่ตกลงมาเสียดผิวทำเอาเย็นไปทั่วร่าง หากแต่สายตาจากอีกคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกันที่มองมาทำเขาเย็นจับขั้วหัวใจ น้ำตาที่เริ่มไหลออกมาปะปนกับเม็ดฝนออกมาจากหางตาช้าๆแต่ทว่าอีกคนไม่สามารถ รับรู้ได้
"อีทึก.....บอกฉันได้มั้ยว่าที่ฉันได้ยินมันคือเรื่องล้อเล่น"
ร่าง บางเงียบไม่พูดจาพลางเม้มปากแน่น ความหนาวเย็นจากสายฝนที่สาดเทใส่ทั้งร่างทำเอาไหล่เล็กสั่นน้อยๆ แต่ก็ยังไม่สามรถเรียกความเห็นใจจากร่างสูงที่ยืนตรงหน้าได้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน ยิ่งเห็นอีทึกไม่ปฏิเสธ....เขายิ่งไม่แน่ใจ
ว่าที่ผ่านมา.....มันคืออะไรกันแน่?
"นายเป็นเพื่อนฉันไม่ใช่รึไงกัน......."
สบตาฉันให้จริงจังแค่สักครั้งจะเข้าใจ
ว่าใคร ที่รักเธอ
"ฉันไม่รู้ควรจะทำยังไงอีทึก ไอเวรนั่น- - นายก็เห็นใช่มั้ยมันคอยจะกระแทกแดกดันฉันอยู่ตลอดเวลา!!!"
"อย่าไปใส่ใจให้มันมากนักสิ เห็นนายเป็นอย่างนี้ มันก็จะยิ่งได้ใจไม่รู้รึไง"
เสียง ดังจ้อกแจ้กที่โรงอาหารทำอารมณ์ของร่างสูงที่ครุกกรุ่นอยู่แล้วพร้อมจะ ระเบิดได้ทุกเมื่อ ร่างบางที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตักข้าวเข้าปากแล้วพูดทั้งๆที่เคี้ยวตุ้ยๆ อยู่อย่างนั้นพลางเอาตะเกียบชี้ไปยังจานข้าวของเพื่อนที่วางอยู่เป็นเชิงว่า 'ถ้าไม่กิน ฉันจะแย่งแล้วนะ' ร่างหนาส่งเสียง เฮอะ ออกมาเบาๆก่อนจะลงมือกินข้าว อีทึกได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นแล้ววางตะเกียบลง
"ส่งเสียงแบบนั้นหมายความว่ายังไงคังอิน ไม่พอใจแล้วจะมาลงที่ฉันอย่างนั้นหรอ!"
"เปล่า ซะหน่อย อ่า~ จองซูอา~ ถ้านายไม่รีบกินระวังรามยอนจะถูกฉันแย่งเอานะ" คังอินส่งยิ้มเอาใจก่อนที่จะใช้มือผลักอากาศด้านหน้าตัวเอง ร่างบางยกตะเกียบขึ้นชี้หน้าอีกครั้งแล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ
สอง ร่างที่นั่งอยู่ที่กลางโรงอาหารนี่ต่างก็เป็นเดือนและดาวคณะกันทั้งคู่ คังอินเป็นเดือนของคณะวิศวะฯ ในขณะที่หนุ่มหน้าสวยอีกคนเป็นดาวของคณะนิติศาสตร์
อ่านไม่ผิดหรอก ดาว คณะน่ะถูกต้องแล้ว
ตอน แรกเจ้าตัวเองก็ไม่ได้จะเต็มใจสักเท่าไหร่ หากแต่ว่าเพื่อนสนิทอย่างคังอินกลับมาพูดจาหว่านล้อมจนเขายอมรับตำแหน่ง ถึงแม้ว่าจะกระดากบ้างในตอนแรก แต่พอหลังๆเข้าก็ชักชิน จนในตอนนี้กลายเป็นว่า ดาวคณะไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้หญิงเสมอไป ในมหาลัยของเขา คณะอื่นๆจึงมีหนุ่มหน้าหวานเป็นดาวคณะกันเต็มไปหมด
ผู้หญิงสวยๆมันหายากนักรึไงกัน- -*
"กินเสร็จแล้วจะไปไหนต่อ? มีเรียนกี่โมง?"
"เข้าอีกทีก็บ่ายสอง แล้วนายล่ะ? กินข้าวเสร็จแล้วจะไปเหล่สาวที่ไหนต่อ"
"โหยยย เห็นฉันเป็นคนยังไงกันนะทึกกี้!"
"อย่าเรียกฉันแบบนั้นนะ! เพราะนายเรียกฉันอย่างนี้คนอื่นถึงได้เข้าใจผิดกันหมดไงว่าเราป็นอะไรกัน"
"นายรังเกียจหรอ?"
"เออ!!"
"ฉันก็รังเกียจเหมือนกันนั่นแหละ-^-!"
เป็นผู้ฟังที่ดีมาเสมอ
พร้อมเจอแนะนำให้เธอไม่ว่าเรื่องใด
[ฮัลโหล อีทึก ออกมาหาฉันหน่อยสิ! ฉันมีปัญหากับวิชาภาษาอังกฤษ]
"เออ! เดี๋ยวฉันไป นายก็นี่นะ! ฉันเรียนนิติฯไม่ใช่อักษรฯ สาวๆในสต๊อกที่เรียนอักษรไปไหนหมดล่ะ?"
[ไม่รู้เว้ย ไม่ได้จำ]
ช่วยเธอคิดเต็มกำลัง ช่วยทุกครั้งถ้าทำได้
เท่าไร เท่ากัน
"ไปเที่ยวกัน!"
"บอกฉันมาเถอะว่าแกจะไปเหล่สาว"
"ก็ พูดให้มันดูดี ไปกันเถอะเพื่อน!!" ร่างสูงพูดพลางกระโดดกอดคอคนตัวเล็กกว่า ดวงตาคู่สวยลอบมองใบหน้าคมด้านข้างเล็กน้อยก่อนจะฝืนยิ้มออกมาหลังจากที่ได้ ยินคำนั้นที่ฟังแล้วค่อยๆกรีดหัวใจช้าๆ
เพื่อน...... ฉันมีสิทธิ์แค่เท่านี้ใช่มั้ย?
"อีทึก คนนั้น ฉันถูกใจคนนั้น"
"อย่างนี้ทุกที จะหาเรื่องพาผู้หญิงเข้าห้องอีกแล้วนะนาย- - "
"เป็นเรื่องธรรมชาติของผู้ชาย นายไม่เคยรึไง"
"แค่ ก! จะบ้ารึไง! ใครให้ถามเรื่องแบบนี้ตอนที่อยู่ในที่สาธารณะวะ!!!" ร่างบางโวยวายลั่นก่อนจะรับทิชชู่จากเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วเอามาเช็ด ปากเบาๆเพราะดันสำลักไอศครีมเมื่อครู่ คังอินหัวเราะร่าแล้วกวักมือเรียกพนักงานในร้านมาก่อนจะลงมือจดอะไรซักอย่าง ลงบนกระดาษพลางชี้ไปยังโต๊ะด้านหลังของเขา พนักงานพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินไปวางไว้ให้ตามที่ขอ หญิงสาวสองคนหันมามองแล้วส่งยิ้มตอบรับคำเชิญทางกระดาษก่อนจะจดอะไร บางอย่างกลับมาเช่นกัน
ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคนสวย
คังอิน
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะสุดหล่อ
เจสสิก้า
หลัง จากที่เขากินไอศครีมเสร็จก็โดนเจ้าหมีร่างโตลากเขาไปนั่งอยู่ที่โต๊ะเดียว กันกับสองสาวที่ยังไม่ลุกไปไหนราวกับว่ารอเขาอยู่ คังอินเลือกที่จะตรงข้ามกับคนที่ชื่อว่าเจสสิก้าที่คอยส่งยิ้มอยู่ตลอดเวลา แต่ในขณะที่อีกคนหนึ่งที่มาด้วยกันนั้น ส่งยิ้มบางๆมาให้กับหนุ่มหน้าสวยเพียงแค่ตอนเขาก้มหัวเป็นเชิงทักทายเท่า นั้น
"นี่....อีทึก เพื่อนของผมเองครับ^ ^"
"นี่ก็ซอ ฮยอนเพื่อนเจสเองค่ะ" คำพูดที่ไม่ได้ดูเรียบหรูเป็นทางการประกอบกับนิสัยที่เข้ากับคนง่ายอย่างคัง อินทำเอาให้ทั้งคู่สนิทกันได้ไม่ยาก สิ่งที่เงียบก็คงจะเป็นฝั่งของผู้ชายร่างบางที่นั่งนิ่งโดยไม่รู้ว่าจะเริ่ม ยังไง ดูท่าทางของอีกฝ่ายที่มากับเจสสิก้าแล้วก็ไม่ค่อยจะมีนิสัยทำอะไรแบบเพื่อน ของเธอเท่าไหร่
ชินซะแล้ว......กับการทำแบบนี้ของอีกคน
แต่ไม่เป็นไร.......หากมันเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์เพียงชั่วคราว
เจ็บแค่นี้ยังทนไหว
เวลา ผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ อีทึกนั่งเล่นโทรศัพท์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากจะฟุบหลับก็ไม่กล้าเพราะดูว่าจะเป็นการเสียมารยาทจนเกินไป เขาเหลือบมองดูหญิงสาวอีกฝั่งก็พบว่าเธอกำลังทำเช่นเดียวกับเขา ไม่นานนักคังอินก็ใช้ศอกกระทุ้งเข้าเบาๆ ถึงได้รู้ว่าควรจะได้เวลากลับหอแล้ว
"ถ้างั้นลาเลยละกันนะฮะหวังว่าเราจะได้พบกันอีกนะครับเจส มีอะไรโทรมาได้ฮะ"
"ได้ ค่ะ^ ^" บอกลากันอีกซะสองสามประโยคก็เดินออกมา รอยยิ้มที่ดูมีความสุขระบายไม่หยุดทั่วใบหน้าหล่อ อีทึกขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะจ้องมองอาการผิดสังเกตของเพื่อนเล็กน้อย ร่างเล็กสาวเท้าให้เร็วขึ้นไปเดินขวางหน้าอีกคนไว้
"แกเป็นอะไรเนี่ยคังอิน"
"คนมันจะมีความสุขไม่ได้รึไงกัน~"
"ก็.....ได้ ทำไม? คนนี้พิเศษกว่าคนอื่นๆงั้นหรอ ติดใจเธอเข้าเต็มเปาเลยงั้นสิ"
"อือ ตกหลุมจังๆเลยว่ะเพื่อน"
เว้นเพียงเรื่องเดียวที่เธอพูดวันนี้
ฉันคงไม่มีหน้าที่ต้องรับรู้มัน
"นายต้องช่วยฉันด้วยนะ มัดใจเขาให้อยู่ ท่าทางว่าจะเจ้าชู้ไม่แพ้ฉันเลย"
เธอบอกฉันว่าชอบเค้า
คิดถึงเค้าทุกคืนวัน
ป่วยการ ช่วยเงียบที
นานแค่ไหนแล้ว? ที่ผมอยู่กับคังอินในฐานะเพื่อนสนิท
สอง.....สาม.....สี่......ไม่สิ ห้าปีแล้วต่างหาก
ห้า ปีตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สนิทกันมากเท่าในช่วงสองปีหลังแต่ก็ถือว่าไปไหนมาไหนด้วย กันได้ตลอด รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คำพูดของเขาผมจำมันได้ดีทุกอย่าง และตั้งแต่คบกันมาเขาไม่เคยพูดกับผมซักครั้งว่าเขาตกหลุมผู้หญิงคนไหน มีแต่คำว่าถูกใจ ถูกใจ และถูกใจเท่านั้น
หลังจากวันนั้นมาก็ อาทิตย์นึงแล้วที่เพื่อนสนิทนามว่าคังอินเอาแต่พร่ำเพ้อถึงผู้หญิงคนนั้นที่ ชื่อเจสสิก้า แรกๆยังพอทนไหวแต่หลังๆชักหนักเข้าจนเขาต้องตัดเปลี่ยนเรื่องทุกที
เจ็บเป็นอะไรเป็นนะรู้มั้ย?
เพื่อนที่ยืนอยู่ตรงนี้ จะเป้นมากกว่าที่เป้นอยู่ไม่ได้จริงๆน่ะหรอ.....?
"ฉันชอบเจสสิก้าจัง"
ชอบเขาก็ไปบอกเขา มาบอกกับฉันเพื่ออะไร
ไม่เคยรู้เลยใช่ไหม ว่าใครรักเธอตรงนี้
"นายว่าดีมั้ย? ที่ฉันจะรักใครได้จริงๆจังๆซักที"
ชอบเขาแล้วมาบอกฉัน
เธอพูดทุกวันก็ช้ำมันทุกที
ไม่อยากเจ็บกว่านี้พอได้ไหม
ถ้าถามว่าอวัยวะส่วนไหนทนทานมาที่สุด
ผมจะเลือกตอบทันทีว่า หัวใจ
เพราะไม่รู้ว่าทำไมหัวใจดวงน้อยๆเท่ากำปั้นมือสามารถแบกรับความเจ็บปวดแบบแสนสาหัสนี้ได้ยังไงไหว
ทน ต่อคำพูดที่บาดซ้ำเข้าลึกแผลตรงที่เดิมอยู่บ่อยๆ จนทุกวันนี้เป้นความชินชา ทว่าอีกคนกลับไม่ได้รับรู้มัน เพราะไม่อย่างนั้นถ้าหากว่าคังอินรู้แล้วล่ะก็ ผมจะเสียเขาไปตลอดชั่วชีวิต
วัน นี้คังอินหายไปไหนก็ไม่รู้เขาจึงออกมาเดินอยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัยเพื่อที่จะ กลับหอ แต่ทว่าสายตากลับเหลือบไปเห็นร่างบางๆของหญิงสาวที่ดูคุ้นเคย เธอหันกลับมามองก่อนจะยิ้มออกมาแล้วเดินเข้ามาใกล้ อีทึกขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายเช่นกัน
ซอฮยอนมาทำอะไรที่นี่??
"โอปป้า! ดีใจจังที่เจอ"
โอปป้า?? ผมเป็นโอปป้าหรอเนี่ย
ร่าง บางทำหน้างงก่อนจะส่งยิ้มกลับไป หญิงสาวส่งยิ้มกว้างๆอีกครั้งแล้วเปลี่ยนมาเดินอยู่ข้างๆร่างผอมบางของอีทึก แทน ระหว่างทางที่เดินไปมีแต่ความเงียบเข้าปกคลุมเพราะเขาองก็ไม่รู้ว่าซอฮยอนมา หาเขาเพื่ออะไร? จะบอกว่าสนใจก็คงไม่ใช่เพราะทั้งคู่ไม่ได้แสดงความสนใจกันมาตั้งแต่ตอนที่ เจอกันครั้งแรกแล้ว
"เอ่อ....คือ ถึงหอของผมแล้ว กลัวว่าถ้าขึ้นไปข้างบน มันจะดูไม่ดี"
"ซอไม่ขึ้นหรอกค่ะ ขอบคุณมากที่ให้เดินมาด้วย"
"มี อะไรรึเปล่าฮะ?" ผมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะสีหน้าของเธอตอนนี้ดูซีดๆยังไงชอบกล ซอฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนจะส่งยิ้มอีกครั้งพร้อมน้ำตา ผมตกใจก่อนจะควานหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามาซับน้ำตาให้เธอ ไหล่บางนั่นไหวเล็กน้อยตามแรงสะอื้น ผมพาเธอเข้าไปใต้ตึกแล้วเดินไปหาเครื่องดื่มอุ่นๆมาให้เมื่อน้ำตาหยุดไหล ซอฮยอนเอ่ยขอบคุณเบาๆแล้วรับชาร้อนไปจิบช้าๆ
"มีอะไรไม่สบายใจใช่มั้ยฮะ แล้วทำไมถึงมาหาผม? หรือว่าคังอินไปทำอะไร?"
"......ขอโทษนะคะที่มากวนใจ"
"เล็กน้อยครับ เรื่องแค่นี้เอง คังอินทำอะไรคุณ??"
"ซอ......ซอ...."
"........."
"ซอชอบเจสสิก้า ช่วยบอกให้พี่คังอินเลิกยุ่งกับเจสทีได้มั้ยคะ"
ผม นิ่งค้างไปชั่วครู่เหมือนมีใครเอาถาดมาฟาดหัวฉาดใหญ่ ผมมองใบหน้าสวยนั่นด้วยปววตางุนงงเล็กน้อย น้ำตาเธอไหลลงมาอีกรอบก่อนที่เจ้าตัวจะพยายามปาดมันออกไป
"ขอโทษด้วยค่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ ผู้หญิงกับผู้หญิงมันจะเป็นไปได้ยังไง ผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชายสิถึงจะถูก"
เธอ พูดด้วยน้ำเสียงขื่นๆจนผมสะอึกไปชั่วครู่ จริงสินะ ผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชาย ไม่มีคำว่าเป็นไปได้สำหรับพวกที่ผิดอย่างพวกเรา ซอฮยอนนั่งปล่อยให้น้ำตาไหลในขณะที่ผมนั่งนิ่งปล่อยให้หัวใจร้องไห้อยู่ เงียบๆกับตัวเอง
[อีทึก.....ฉันทะเลาะกับเจสอีกแล้ว ทำไงดี?]
"ทะเลาะกันบ่อยมากนักก็เลิกกันไปเลยสิวะ= = นี่มันห้าทุ่มแล้วนะโว้ย ทะเลาะอะไรกันดึกนักหนา"
[ฉันรักเขา เลิกกันไม่ไหวหรอก]
เป็นผู้ฟังที่ดีมาเสมอ
แม้ในทุกคำของเธอบาดถึงข้างใน
[เพราะงั้น ฉันถึงโทรมาให้นายช่วยไง]
สบตาฉันให้จริงจังแค่สักครั้งจะเข้าใจ
ว่าใคร ที่รักเธอ
"อืม ถ้างั้นพรุ่งนี้ก็ไปหาเธอ คุยกันดีๆ นายเป็นคนอารมณ์ร้อน ดูท่าทางของเธอแล้วก็น่าจะเป็นคนอารมณ์ร้อน เพราะงั้นถ้าเธอร้อนนายต้องเย็น อย่างนี้มันถึงจะไปด้วยกันได้เข้าใจมั้ย?"
[ขอบคุณมากนะจองซู นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลย]
ไม่อยากได้ยินเรื่องของเขาช่วยเข้าใจ
ไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกัน
ไม่เอาได้มั้ยคำว่าเพื่อน
ฉันไม่อยากได้ยินคำคำนี้ออกจากปากนายอีกแล้วคังอิน
พอได้ไหม................
[พี่อีทึกคะ ซออยากเจอพี่ จะเจอได้ที่ไหนคะ?]
"เอ่อ...ถ้าไม่ลำบากมาที่หอก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะลงไปหา"
เรา นัดกันไว้แค่นั้นก่อนที่เธอจะวางสายไป ผมมองโทรศัพท์อีกรอบแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อคนที่ผมรอโทรศัพท์มา ทั้งวันกลับไม่โทรเข้ามา ทั้งๆที่เมื่อคืนโทรมาทำเสียงเหมือนจะขาดใจตอนที่ตัวเองทะเลาะกับสุดที่รัก อย่างเจสสิก้า แต่พอสบายใจแล้วไม่มีแม้แต่จะโทรกลับมาเลย
ผมยืนรอ สาวน้อยซอฮยอนไม่นานนัก ทันทีที่ผมเห็นเธอก็ส่งยิ้มให้อย่างเอ็นดูก่อนจะค่อยๆหุบยิ้มเมื่อเห็นว่ามี ใครอีกสองคนเดินมากับเธอด้วย ผมเหลือบมองคนที่เป็นผู้ชายหนึ่งเดียวในนั้นแล้วแสดงแววตาไม่พอใจออกมาแวบ หนึ่งก่อนที่จะกลับมาเปลี่ยนเป็นปกติเช่นเดิม ซอฮยอนเดินมาหยุดอยู่ข้างๆผมแล้วเอื้อมมือมาคล้องแขน ผมรู้ดีที่เธอทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะว่าแอบชอบผม แต่เธอมาบอกกับผมว่าเหมือนเจสสิก้าจะแอบสงสัยว่าเธอแอบชอบเจสอยู่ ดังนั้นเธอจึงต้องหาทางทำอะไรบางอย่างเพื่อปิดเรื่องนี้ไว้
"เป็นจริงด้วยสินะ ดีจังเลยนะซอ ฉันว่าโอปป้าเขาน่ารักมากเลยละ"
เธอ พูดเหมือนจะรู้จักผมแล้วยังกระชับวงแขนของเธอกอดแขนคังอินให้แน่นขึ้น สายตาของผมเผลอมองตรงจุดนั้นอย่างไม่รู้ตัวจนคนข้างตัวสะกิดเข้าเบาๆ ผมมองซอฮยอนจากทางด้านข้างที่กำลังฝืนยิ้มน้อยๆ ผมโอบไหล่ของเธอเข้ามากอดก่อนจะมองไปยังคังอินที่กำลังมองผมด้วยสายตาที่ไม่ สามารถคาดเดาได้
นั่นหมายความว่า.....เขากำลังไม่พอใจอยู่รึเปล่า?
แค่หัวใจตัวเองวันนี้ ฉันยังไม่มีทางช่วย
มันยังรักเธออย่างนั้นยังเก็บไว้
"ถ้าอย่างนั้น เจสว่าเราไปเดทคู่กันดีมั้ย? ได้บรรยากาศดีออกนะ"
"ผมไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ขอโทษนะ ผมอยากไปกับซอฮยอนสองคน ได้มั้ยครับ?"
"ทำไมไม่ไปด้วยกันล่ะอีทึก ฉันว่ามีเรื่องจะคุยกับนายซะหน่อย ถ้างั้นขออนุญาตแปปนึงนะฮะสาวๆ"
คัง อินผละออกมาจากเจสสิก้าพร้อมๆกับที่เจ้าตัวเดินเข้ามาดึงผมออกห่างจากซอฮยอน เช่นกัน ผมมองแผ่นหลังที่อยู่ตรงหน้านั่นด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งๆที่เราคบกันมาก็ห้าปีแล้วแต่ทำไมคราวนี้แผ่นหลังของหมอนนี่ไม่ให้ความ รู้สึกคุ้นเคยเหมือนทุกครั้ง
หรือเพราะว่าเขาเป้นของคนอื่นไปแล้ว?
คัง อินพาขึ้นมาถึงห้องของผมก่อนจะยืนรอให้เปิดประตูเข้าไป ผมยืนนิ่งอยู่หน้าห้องก่อนจะส่งสายตาเรียบเฉยมองไปยังร่างสูงข้างกาย เหมือนเขาจะเริ่มรู้ตัวหันมามองผมด้วยแววตาที่ดูเหมือนจะงุนงงกับอะไรซัก อย่าง
"ทำไมไม่เปิดห้องละ?"
"มีอะไรนายพูดมาดีกว่า ซอฮยอนรออยู่ข้างล่าง"
"อ๋อ พอมีผู้หญิงแล้วก็เลยไม่มีเวลาให้เพื่อนได้เลยว่าอย่างนั้นเถอะ"
"ไม่ใช่ฉันหรอที่ควรจะพูดคำนั้นน่ะ ถามหน่อยเถอะว่าตั้งแต่ที่นายคบกับเจสสิก้ามา นายมีเวลาให้ฉันกี่วันภายในสามอาทิตย์นี่"
".........."
"ถ้า อย่างนั้นมันก็คงจะไม่ผิดหรอกนะที่ฉันจะทำแบบนี้บ้าง อย่าทะเลาะกันเลย ลงไปหาเจสเถอะ" ผมหมุนตัวกลับทำท่าจะลงลิฟต์ไปทางด้านล่างหากแต่ว่าเพราะคังอินคว้ามือผมไว้ แล้วดึงเข้าไปกอด ผมยืนอึ้งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะยืนนิ่งไม่กอดตอบอย่างที่ทำเป็นประจำ มันพูดเบาๆกระซิบอยู่ข้างหูๆของผม
"ฉันขอโทษ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน แต่เจสสิก้าก็เป็นคนที่ฉันรักที่สุดเหมือนกัน"
ชอบเขาก็ไปบอกเขา มาบอกกับฉันเพื่ออะไร
ไม่เคยรู้เลยใช่ไหม ว่าใครรักเธอตรงนี้
ชอบเขาแล้วมาบอกฉัน เธอพูดทุกวันก็ช้ำมันทุกที
ไม่อยากเจ็บกว่านี้พอได้ไหม
"พี่อีทึกคะ....ไหวรึเปล่า ซอขอโทษนะคะที่ดึงพี่เข้ามายุ่งเรื่องแบบนี้"
"ไม่....ไม่เป็นไรครับ ซอต่างหากล่ะ ไหวรึเปล่า ท่าทางดูไม่ค่อยดีเลยนะ"
"ซอนี่ไม่ไหวเลยนะคะพี่อีทึก เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ได้ ไม่เห็นจะเหมือนพี่เลย"
"ไม่หรอกครับ....ที่ซอเห็นน่ะก็แค่ภายนอก เป็นเพราะว่าผมไม่อยากให้ใครหลายๆคนต้องมาเศร้ากับผมต่างหาก"
เรา สองคนพากันมานั่งอยู่ริมแม่น้ำฮันในช่วงเย็นๆของวัน ฟ้าที่มืดครึ้มมาแต่ไกลทำเอาผมรู้สึกใจไม่ดี ไหล่ของผมตอนนี้ไม่ว่างเพราะปล่อยให้หญิงสาวข้างตัวใช้เป็นที่พักพิง มือบางยกขึ้นลูบเรือนผมสวยนั่นช้าๆแล้วปล่อยให้ลมที่ปะทะหน้าช่วยทำให้น้ำตา เลือนหายไปได้ในไม่ช้าก็เร็ว
"พี่อีทึกเคยรักใครรึเปล่าคะ?"
".....ถ้าพี่ไม่เคยรักใคร พี่คงเป็นผู้ชายที่โชคร้ายน่าดู"
"...........แต่ผู้ชายที่โชคร้ายคนนั้น คงไม่ต้องเจ็บเพราะความรักนะคะ"
"พี่ ก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน.....แต่ความรู้สึกที่เราได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่เรา รักมันก็ดีมากไม่ใช่หรอ ได้นั่งมองคนที่เรารักมีความสุข ได้ใช้ชีวิตอยู่ข้างๆเขา มันไม่ดีหรอซอ?"
ผมพูดเสียงเครือก่อนจะ หัวเราะออกมาเบาๆทั้งน้ำตา ภาพที่ผมเคยเล่นกับคังอินวนเข้ามาในหัวเรื่อยๆอย่างไม่รู้จักจบ ซอฮยอนค่อยๆหันมองผมช้าๆแล้วพากันกอดคอร้องไห้กันอยู่สองคน แรงสั่นน้อยๆจากตัวเธอส่งมายังผมจนหลุดสะอื้นออกมาสองสามที จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของคนข้างตัวดังขึ้นผมถึงได้รู้สึกตัวรับผละออกมาก่อนจะ ปาดน้ำตาอย่างลวกๆ
"ว่าไงเจส.....อือ ฉันอยู่กับพี่อีทึกน่ะไม่ต้องห่วง เรามาเดทกันริมแม่น้ำฮัน โรแมนติกใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆ.......พอดีลมมันแรงไปหน่อยน่ะ เลยทำให้จมูกอื้อนิดหน่อย.....ไม่ พี่อีทึกไมได้ทำอะไรซักหน่อย....อือ โอเค เธอก็ยังโอเคกับพี่คังอินใช่มั้ย เห็นช่วงนี้ทะเลาะกันบ่อยจัง.........อาหะ แค่นี้นะ บ๊ายบาย"
ท่า ทางว่าปลายสายจะวางไปแล้ว เธอหันหน้ามาทางผมก่อนจะเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาอีกระลอก ผมเอื้อมมือไปเช็ดให้เธอช้าๆแล้วก็ยิ้มทั้งน้ำตาเช่นเดียวกับเธอ
"รู้มั้ยซอ.....แอบรักเพื่อนน่ะ เจ็บที่สุดแล้วล่ะ"
"อย่าบอกนะคะ.....ว่าพี่....."
"อืม พี่แอบชอบคังอิน มันดูน่าสมเพชใช่มั้ยล่ะ"
"ไม่...... ไม่ค่ะพี่ พี่คะ......" มือของซอฮยอนเอื้อมมาแตะเข้าที่ไหล่ของผมก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด ตอนนี้ผมว่าตัวเองดูน่าสมเพชจริงๆนั่นแหละ เป็นผู้ชายภาษาอะไรมานั่งร้องไห้แถมยังต้องมาให้ผู้หญิงปลอบ
"อ่า....พี่ว่าเรากลับบ้านเถอะ ฝนตั้งเค้ามาแต่ไกลแล้ว เดี๋ยวมันจะมืดด้วย พี่ไปส่งละกัน"
ผม ลุกขึ้นยืนก่อนจะใช้อีกมือฉุดเธอขึ้นมา เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น มองหน้าจอโทรศัพท์แล้วก็ต้องขยี้จมูกเบาๆเพื่อไล่ความอู้อี้ให้ออกไป
"ว่าไง มีอะไรคังอิน"
[นายอยู่ไหน?]
"ก็กำลังจะกลับบ้าน เดี๋ยวจะแวะไปส่งซอก่อน ฝนมันทำท่าจะตกน่ะ"
[อืม ถ้างั้นเจอกันที่ป้ายรถเมล์หน่อยได้มั้ย? ที่หน้าหอของนายน่ะ]
"อือ แค่นี้นะ"
ร่าง บางเดินมาหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ก่อนจะนั่งลงอยู่แถวนั้นมองเม็ดฝนที่กำลังตก หลังจากที่เมฆตั้งเค้าไปแล้ว หลังคาที่ป้ายรถเมล์ใหญ่พอที่จะสามารถหลบฝนได้ ไม่นานนักรถคันสวยของเพื่อนสนิทก็จอดเข้าแถวๆนั้น อีทึกมองตามเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองด้านหน้าตามเดิม จนคังอินเข้ามาทางด้านหลังก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ
"บรรยากาศแบบ นี้ ถ้าได้นั่งอยู่กับคนรักคงจะโรแมนติกนะว่ามั้ย?" ร่างสูงพูดขึ้นลอยๆหากแต่ว่าคนที่ได้ฟังกลับรู้สึกสะอึกขึ้นมาอย่างบอกไม่ ถูก
เพราะเขาไม่ใช่เจสสิก้าใช่มั้ย? บรรยากาศมันถึงได้ไม่ดีเท่าที่ควร??
เป็นผู้ฟังที่ดีมาเสมอ
แม้ในทุกคำของเธอบาดถึงข้างใน
"ไม่รู้สิ....อาจจะดีก็ได้มั้ง"
"แล้ว ตอนนี้นายรู้สึกดีรึเปล่าล่ะ?" คังอินหนัหน้ามามองร่างเล็กที่กำลังนั่งเบิกตากว้างด้วยความตกใจ สายตานิ่งเฉยจากร่างหนาที่มองมาทำร่างบางทำอะไรม่ถูก อีทึกฝืนยิ้มน้อยๆก่อนจะแกล้งทำเป็นเฉไฉทำหน้าตางงเหมือนกับจะไม่รู้เรื่อง ในสิ่งที่คังอินกำลังพูด
"นายหมายถึงอะไร?? ฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่"
"ฉันได้ยินที่นายพูดกับซอฮยอนหมดแล้ว ทำไมนายถึงทำแบบนั้น....อีทึก"
"นายพูดเรื่องอะไรฉันไม่เข้าใจ!?!"
"นายชอบฉัน!! นายชอบฉันทำไมอีทึก!?!"
หัน มามองร่างบางข้างตัวที่กำลังตัวสั่นไม่รู้ว่าเพราะความหนาวหรือว่าเป็นจริง ตามที่เขาพูด มือหนาเอื้อมไปหมายจะแตะตัวของคนที่ได้ชื่อว่าเพื่อนสนิทหากแต่ถูกปัดทิ้ง ก่อนที่ร่างเล็กจะวิ่งหนีไป คังอินเม้มริมฝีปากแน่นแล้ววิ่งตามออกไป
สาย ฝนที่ตกลงมาจากทั่วท้องฟ้ากระหน่ำใส่ร่างบางกับเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ท่าม กลางเม็ดฝนที่ตกลงมาเสียดผิวทำเอาเย็นไปทั่วร่าง หากแต่สายตาจากอีกคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกันที่มองมาทำเขาเย็นจับขั้วหัวใจ น้ำตาที่เริ่มไหลออกมาปะปนกับเม็ดฝนออกมาจากหางตาช้าๆแต่ทว่าอีกคนไม่สามารถ รับรู้ได้
"อีทึก.....บอกฉันได้มั้ยว่าที่ฉันได้ยินมันคือเรื่องล้อเล่น"
ร่าง บางเงียบไม่พูดจาพลางเม้มปากแน่น ความหนาวเย็นจากสายฝนที่สาดเทใส่ทั้งร่างทำเอาไหล่เล็กสั่นน้อยๆ แต่ก็ยังไม่สามรถเรียกความเห็นใจจากร่างสูงที่ยืนตรงหน้าได้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน ยิ่งเห็นอีทึกไม่ปฏิเสธ....เขายิ่งไม่แน่ใจ
ว่าที่ผ่านมา.....มันคืออะไรกันแน่?
"นายเป็นเพื่อนฉันไม่ใช่รึไงกัน......."
สบตาฉันให้จริงจังแค่สักครั้งจะเข้าใจ
ว่าใคร ที่รักเธอ
"ฉันขอโทษ......คังอิน"
"................"
"ขอโทษที่รักนาย"
รู้ว่าชอบเขา เธอชอบเขาฉันเข้าใจ
แต่ใคร แต่ใคร
ที่รักเธอ
.
.
.
to be continue
เรื่องนี้ย้ายมาจากอีกบทความนึงเดี๋ยวกำลังจะไปปิด แหะะ เอามารวมกันให้หมด ส่วนใหญ่แล้วตังเน้นเหี่ยวทึกมากกว่า=..= ด้วยความที่เป็นเมนทึก เลย อาาาาา มายเมนมายเหี่ยว(?) อย่าเพิ่งเบื่อพี่ทึกนะคะ เดี๋ยวลงสองตอนให้จบเลย จะได้ไม่ค้างคา 555 แต่เตือนด้วยความหวังดีแบบฟุดๆว่า เรื่องนี้จบแบบ....จบได้ไงวะ 555555
เจอกันตอนหน้านะค้าาาา :) รักรีดเดอร์ทุกคนเลย ขุ้บๆ <3
ความคิดเห็น