ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` [exo] เด็กป่วน ก๊วนหอแตก {chanbaek}

    ลำดับตอนที่ #3 : หอแตก : 02

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 57






    -2-

    สรุปเรื่องเมื่อคืนก็ไม่มีอะไรมากครับ เป็นน้องกลุ่มเดียวกับที่ผมคาดไว้เป๊ะๆ หลังจากที่ผมเข้าห้องได้ประมาณสิบนาทีกลุ่มนั่นประมาณสี่ห้าคนก็พาเดินตามกันเข้ามาสารภาพผิดว่าแกล้งเอาเสื้อผ้าของน้องคนนั้นไปเก็บไว้ที่ห้อง แถมยังตัดผ้าเช็ดตัวให้แหว่งจนน้องเขาไม่กล้าเดินออกจากห้องน้ำ แกล้งด้วยเหตุผลที่ว่าท่าทางมันเหมือนตุ๊ด

    เพ็ดเฟ่!! นี่กูเกือบหัวใจวายตายเพียงเพราะความคะนองของพวกมึงหรอเนี่ย

    แต่อย่างว่าแหละครับ น้องที่โดนแกล้งเสือกตัวเล็กผิวขาว ปากนิดจมูกหน่อยตามสไตล์ลูกคนมีอันจะกินแบบโคตรๆ ช่วยไม่ได้ที่จะโดนแกล้ง ผมนี่โดนประจำตอนเข้ามาเรียนใหม่ๆ แต่ด้วยความที่แบคใหญ่และผมก็เฮ้วเอาเรื่อง ไม่ต้องให้ถึงมือประธานหอพวกนั้นก็โดนเข้าไปจนต้องหมอบถอย

    ผมเลยว่ากล่าวเทศนาร่ายยาวไปจนเกือบเที่ยงคืน ถ้าไอ้เซฮุนไม่ชี้ให้ดูนาฬิกาผมคงยาวต่อยันสว่างแบบไม่รู้ตัว สั่งลงโทษให้ขัดห้องน้ำรวมขัดห้องอาบน้ำรวมเป็นเวลาหนึ่งเดือนและต้องมารายงานความเรียบร้อยกับไอ้จงอิน(แม่งโวยวายหอเกือบแตกเพราะผมโยนงานให้ ช่วยไม่ได้เสือกอยากนอนเล่นอยู่ห้องไม่ไปขัดห้องน้ำกับผม)ให้ไปตรวจก่อนสี่ทุ่ม

    จบคาบเรียนสุดท้ายของวันผมก็เก็บของลงในกระเป๋าแทนที่จะได้วิ่งลงไปเล่นบาสเลย มิสคิมเจ๊อ้วนกลมที่ผมป๊ะเมื่อวานหน้าห้องประชุมเรียกผมไปพบ เลยทิ้งไอ้สองแฝดให้ไปรออยู่สนามบาส ได้แต่หวังว่านางจะยกเลิกเรื่องที่ให้ผมขัดห้องน้ำนะเพราะตอนนี้ผมหาคนทำแทนได้แล้ว เปิดประตูเข้าไปในห้องพักครูก่อนจะเดินไปที่โต๊ะ

    "สวัสดีครับ"

    "อ้าวคุณบยอน พอดีเลยจ้ะ"

    ที่จริงไม่ต้องเรียกผมด้วยน้ำเสียงหวานหยดและรอยยิ้มหยาดเยิ้มขนาดนั้นก็ได้นะ ผมรู้ดีว่าชื่อของบยอนแบคฮยอนถูกหมายหัวเป็นอับดับต้นๆสำหรับมาสเตอร์หลายคนที่นี่ ผมยิ้มอ่อยๆแล้วทิ้งตัวลงนั่งคุกเข่าอยู่ด้านข้าง ที่บ้านก็สอนมาดีครับว่าไม่ควรยืนค้ำหัวผู้ใหญ่เวลาคุยกัน(แต่ไอ้เรื่องไม่ให้กวนตีนนี่เหมือนจะไม่ได้สอนครับ)

    "ได้ข่าวว่ามีคนขัดห้องน้ำให้แล้วนี่จ๊ะ"

    "ครับ"

    "แต่บทลงโทษของเรายังไม่หักล้างกันไปหรอกนะ"

    อะไรไรนักหนาวะ แค่เข้าห้องประชุมสายห้านาทีทำประหนึ่งว่าผมทำให้เจ๊แกไม่มีสามีอย่างนั้นแหละ.....

    อย่าเอ็ดไป เข้มขนาดนี้ไม่มีหรอกครับสามีน่ะ

    "ประธานนักเรียนเขาวานให้เธอไปช่วยทำความสะอาดห้องให้หน่อยน่ะจ้ะ เอ...จริงๆเขาเองก็เป็นคนสะอาดอยู่แล้ว งานคงไม่หนักหนามากเท่าไหร่ เพิ่มเป็นสัปดาห์ดีมั้ยจ๊ะ?"

    "อะไรนะ!?"

    "คุณบยอน....ฉันหูไม่หนวกจ้ะ"

    มิสคิมฮาจองกดเสียงต่ำเมื่อจู่ๆผมก็ตะโกนออกมา นี่ยังดีนะที่ผมไม่สบถออกไป ตลกล่ะ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันให้ผมไปทำความสะอาดห้องไอ้เวรนั่น ห้องใครคนนั้นก็ทำสิวะ หนอย....ให้มันได้อย่างนี้สิ ผมเป็นถึงประธานหอเชียวนะ! ทำแบบนี้แม่งโคตรหยามเหอะ!!

    "ตกลงว่าตามนี้นะจ๊ะ เสร็จธุระแล้ว ประตูอยู่ทางโน้นจ้ะ"

    "ดะ...เดี๋ยวก่อนครับ! ผมขอทำอย่างอื่นแทนได้มั้ยครับ"

    "ฉันว่างานนี้เหมาะสมแล้วนะ เธอจะแย้งว่าความคิดของฉันไม่ดีหรอ"

    สุดปลายนิ้วก้อยที่ตีนเลยครับ......

    และสุดท้ายผมเลยต้องเหน็บกระเป๋าเดินออกมาโดยที่ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ กรอกตาไปมาแล้วเตะกระถางต้นไม้ใบใหญ่เพื่อเป็นการระบายอารมณ์ก่อนจะเดินไปสนามบาส ผมโยนกระเป๋าคลายเนคไทค์ออกแล้ววางกองไว้ตรงนั้นพร้อมกับสูท พี่คริสที่กำลังเล่นอยู่กับเพื่อนในกลุ่มมองมาเห็นผมก็วิ่งออกมาหา

    "หน้าบึ้งมาเชียวไอ้ลูกหมา"

    "จะให้เดินฉีกยิ้มร่อนไปร่อนมาทั่วโรงเรียนแบบเฮียก็โดนหาว่าบ้าดิวะ"

    "มาถึงก็กวนตีนเลยนะ" ร่างสูงของไอ้พี่คริสล็อคคอผมไว้แล้วขยี้มันเสียเต็มแรง ผมนี่โคตรชอกช้ำระกำเหลือทน แม่งอย่าให้สูงตามได้ทันนะ ผมจะทำคืนทุกวันเลยอีท่านี้อะ ดิ้นไปได้ซักพักไอ้พี่คริสก็ยอมปล่อยเมื่อเพื่อนๆของมันเดินตามออกมา

    “พี่ทงเฮ พี่คยูฮยอน พี่ซีวอน พี่ลู่หาน พี่ฮยอกแจหวัดดีครับ”

    ทั้งหมดนี่เป็นเพื่อนของไอ้พี่คริสครับ พี่ทงเฮเป็นอดีตประธานนักเรียน ส่วนพี่ซีวอนเป็นรองประธานฝ่ายวิชาการ พี่ผมฝ่ายกิจกรรม พี่ฮยอกแจ คยูฮยอนและลู่หานเลยเป็นกรรมการนักเรียน ผมเองก็ค่อนข้างสนิทกับกลุ่มนี้ก็อย่างว่าแหละเพราะเพื่อนพี่ เพราะงั้นผมเลยค่อนข้างจะแสบกว่าคนอื่นๆนิดหน่อย

    แบคใหญ่นี่ครับ *ยักคิ้ว*

    "ได้ข่าวว่าเมื่อคืนที่หอมีเรื่องอ่อวะ?"

    "เออดิพี่ซีวอน แม่งแสบตั้งแต่วันแรก ตอนนี้เลยสั่งให้มันขัดห้องน้ำ"

    "มึงไม่เห็นน้องมึงเมื่อคืน อย่างเข้มอะไอ้คริส ห้องประชุมงี้เย็นชิบหาย"

    พี่ลู่หานว่าแล้วเอามือลูบแขนตัวเองพลางยักไหล่ให้ไอ้พี่ชายที่ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ มันถึงเวลาแล้วล่ะที่ควรจะให้ไอ้พี่คริสมองผมแบบอื่นซะมั่ง แม่งงงง มองผมเป็นลูกแมวที่พอโกรธก็เอาแต่ข่วนแบบหงิมๆ ปีนี้แหละที่ผมจะลุกขึ้นสู้มาแสดงให้เห็นว่าคนอย่างไอ้แบคฮยอนเวลาโกรธเป็นเสือตะปบนะครับ

    "อย่าเข้มให้มันมาก จะถูกรุมตีนตายก่อนงานประเพณีหอ"

    เอาเถอะ...ถึงปากพี่ผมมันจะไม่ค่อยเป็นมงคลแต่ก็รู้ว่าที่พูดไปน่ะห่วงทั้งนั้น เรายืนคุยกันอีกซักพักไอ้เซฮุนกับจงอินสองแฝดคนละสีก็วิ่งจากสนามเข้ามาแจม เราแบ่งออกเป็นสองทีมแล้วเริ่มแข่ง

    เล่นไปเล่นมาชักร้อนครับ เหงื่อเริ่มออกแล้ว เพื่อนๆพี่ๆผมตอนนี้แม่งเหลือแต่เสื้อกล้ามกับกางเกงแล้วครับงานนี้ เห็นแบบนั้นแล้วจะน้อยหน้าไม่ได้ ร้อนจะตายห่ายังเสือกใส่เสื้อนักเรียนอีกกู ผมวิ่งหลบออกมายืนอยู่ขอบสนามปลดกระดุมเม็ดบนให้หัวพอลอดออกไปได้แล้วจัดการถอดออกโยนกองไว้ที่กระเป๋าเหลือเพียงเสื้อกล้ามสีดำ ยังไม่ทันจะวิ่งกลับไปที่สนามไอ้พี่คริสแม่งก็ตะโกนมาสั่งเสียงดังลั่น

    "แกใส่เสื้อกลับไปเหมือนเดิมเลยนะ!!!"

    "โห่ยไรวะ! ผมร้อนอะเฮีย เพื่อนเฮียก็ถอดหมดทำไมผมถอดไม่ได้วะ"

    "เออนั่นดิ แค่นี้หวงอ่อมึง"

    "กูรู้มึงคิดอะไรไอ้สัดซีวอน ไอ้ลู่หานเลิกมองน้องกูได้แล้วห่า! เชี่ยทงเฮมึงกลับมานี่วิ่งไปหาแบคฮยอนทำเตี่ยไร! ไอ้สนามฝั่งนั้นไม่ต้องหันมามองเล่นต่อไปเลยนะมึง! แบคฮยอน!! เฮียบอกให้ใส่เสื้อ"

    ตอนนี้ไอ้พี่คริสเริ่มด่ากราดทั่วสนาม พี่ฮยอกแจที่ยืนมองถึงกับหลุดหัวเราะออกมาพร้อมๆกับไอ้แฝดนรกที่ตอนนี้ลงไปขำกลิ้ง ส่วนพี่คยูฮยอนก็ยืนกระตุกยิ้มน้อยๆ พี่ซีวอนยักคิ้วกวนตีนพี่ชายผมส่วนพี่ทงเฮกับพี่ลู่หานก็สบถยาวออกมาเป็นพรืด เอาอีกแล้วไอ้โรคหวงน้องแบบประหลาดๆเนี่ย กูแค่ถอดเสื้อนะโว้ย เสื้อกล้ามก็ใส่อยู่ไม่ได้โชว์หัวนมให้ใครเห็นซักหน่อย แล้วอีกอย่างถ้าผมจะโชว์มันผิดตรงไหนวะ! ทั้งสนามนี่ก็มีแต่ผู้ชายไม่ได้มีลิงค่างบ่างชะนีมานั่งดูซักหน่อย!

    ถึงจะเถียงไอ้พี่คริสเป็นวรรคเป็นเวรอยู่ในใจแต่สุดท้ายก็สวมเสื้อใส่กลับตามเดิมแต่ติดกระดุมแบบลวกๆ ผมวิ่งกลับลงสนามยังไม่ทันจะได้เล่นต่อไอ้เซฮุนก็วิ่งเข้ามาแล้วติดกระดุมให้อย่างใจเย็น

    "ไอ้ง่าวนี่ มึงก็รู้ว่าพี่หวง ยังจะโชว์ไปเรื่อยอีกนะมึง"

    “กูโชว์อะไร ใครโชว์อะไร กูก็แค่ถอดเหมือนที่พวกมึงถอดเองนะ”

    “แล้วหุ่นกูกับหุ่นมึงเหมือนกันมั้ยล่ะไอ้ควาย”

    “ทำไม! หุ่นกูมันทำไม?!

    “ยังจะถาม....อีก” เซฮุนว่าก่อนจะเอามือวางลงบนเอวผมจนสะดุ้งเฮือก

    “จับทำพ่อมึงอ่อ ขนลุก!!

    “ก็ให้รู้ตัวซะบ้างว่ามึงไม่เหมือนคนอื่นเขา”

    "อะไร นี่มึงจะมาเป็นพ่อกูอีกคนหรอ ที่บ้านกูนี่มีพ่อสี่คนแล้วนะ! ทีหลังกูต้องใส่ผ้าคลุมหัวเสื้อแขนยาวคอเต่าเล่นบาสเลยมั้ยสัด?"

    "ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกันไอ้ลูกหมา"

    ไอ้เซฮุนยกยิ้มเย็นๆส่วนผมก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพ่อคนที่สี่อยู่ข้างๆหู พี่คริสเค่นยิ้มเหี้ยมออกมาก่อนจะไปไล่เตะเพื่อนคนอื่นๆที่กำลังแซวเรื่องอาการหวงน้องกำเริบขึ้น เอากับพี่ผมเถอะ...แม่งทำเหมือนผมเป็นลูกสาวคนเล็กอย่างนั้นแหละ ไอ้แฝดนรกคนพี่คิมจงอินเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างราวกับว่าอ่านใจผมออก

    "ว่างๆมึงก็ส่องกระจกแล้วเลิกโกหกตัวเองซักวัน มึงจะได้รู้ว่าจริงๆแล้วควรจะเป็นน้องสาวหรือน้องชาย"

    ห่าาาาาาาา!! จะบอกว่าที่ผ่านมาคือกูโกหกตัวเองงั้นสิ!?

    กูหล่อกูแมนกูแฮนซั่มโว้ยยยยยยย!!

     

    หลังจากที่กินข้าวและอาบน้ำเสร็จก็มีอันต้องอารมณ์บูดหนักกว่าเก่าเมื่อพบว่าตัวเองมีสัญญาติดค้างกับมิสคิมฮาจองไว้ มองนาฬิกาที่บอกเวลาสามทุ่มโดยประมาณ กรอกตาไปมาแล้วเงยหน้ามองไอ้จงอินที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงของมัน ส่วนไอ้เซฮุนกำลังอาบน้ำ ห้องของเรามีห้องน้ำส่วนตัวครับ นั่นถือเป็นสิทธิพิเศษอย่างนึง และอีกอย่างคือนอนห้องละสามคนไม่ใช่สี่คนแบบที่ผ่านมา แต่ปกติผมก็นอนกันสามคนอยู่แล้วเพราะมันเป็นเศษเหลือและอีกเหตุผลคือไม่มีใครทนความจัญไรของพวกเราได้นอกจากตัวเราเอง

    "เดี๋ยวกูมา มีไรโทรหานะ"

    "อะ....."

    ผมถือโอกาสใช้จังหวะที่ไอ้แฝดแยกร่างคว้าโทรศัพท์มือถือตัวเองออกจากห้องไม่รอให้ไอ้แฝดฝ่ายมืดได้ถามอะไรผมก็ปิดประตูปึงแล้วก้าวฉับๆไปที่หอพิเศษ และยิ่งอารมณ์เสียหนักเข้าไปใหญ่เมื่อเจอหน้าไอ้จื่อเทาที่พอผมเปิดประตูเข้าไปแม่งก็ยกยิ้มเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างจนผมต้องชี้หน้ามันถึงได้ยอมเงียบปากไป

    ไอ่...ไอ้เหี้ยนี่!!

    "โทษนะ...แต่ว่าห้องไอ้ชานยอลไปทางไหน" ผมแตะแขนคนที่นั่งอยู่บนโซฟาผู้ชายหน้าหวานรูปร่างผอมบางตัวเล็กกว่าผมอีก กระซิบถามเบาๆไม่ให้ไอ้จื่อเทาที่พร้อมจะเอ่ยปากแซวได้ยิน คนนั้นเงยหน้าขึ้นมาจากนิตยสารที่เกี่ยวกับอาหารแล้วทำหน้างงๆก่อนจะร้องอ๋อออกมาน้อยๆแล้วตามด้วยการตะโกนเสียงดังจนผมแทบจะอุดปากมันด้วยนิ้วตีน

    กูกระซิบแล้วมึงตะโกนหาฟอสซิลอัลไลลลลล!!

    "มาหาประธานหรอ! เอาสิผมจะนำทางไปให้!"

    "เช้ดดดดดดดด! กูว่าแล้วต้องมีซั่มธิงกันแหง(ซัมธิงก็พอไอ้เชี่ยเทา! ขึ้นเสียงสูงแล้วกูเสียหายนะเวรรร)ไอ้จงฮยอนเอามาเลยสามหมื่นกูบอกแล้วก็ไม่เชื่อยังเสือกท้าพนันกับกู"

    "แม่ง เห็นพี่คริสหวงชิบหาย ทำไมปล่อยให้ไอ้ชานยอลได้วะ" ถ้าไม่ติดว่าผู้ชายร่างเล็กนั่นเดินนำลิ่วๆไปแล้วผมได้ต่อยพวกมันปากแตกแน่นอนสาบานเลย! ตอนนี้เลยทำได้เพียงแค่จดความแค้นลงบนบัญชีหนังหมาไอ้จงฮยอนกับไอ้จื่อเทาจำไว้เลยนะมึง! นินทากูยังไม่พอเสือกเอาไปตั้งพนันกัน!! เรื่องนี้ถึงหูพี่คริสแล้วคิดว่ามึงจะรอดหรอ!

    ผมเดินขึ้นบันไดมาประมาณสามชั้นก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าห้องที่แขวนป้ายไว้ว่าประธานนักเรียน มือเรียวคู่นั้นเคาะลงบนแผ่นไม้ที่ทาด้วยสีขาวจนกระทั่งคนในห้องเปิดประตูออกมา

    "ว่าไงคยองซู?"

    "กูพาเบ๊มาให้" 

    ไอ้ห่านี่ชื่อคยองซูผมจะจำไว้.....

    แต่จะเคืองก็เคืองไม่ลง ก็มันหันมายิ้มหวานประหนึ่งว่ามันไม่ได้ทำผิดอะไร หน้าตาหวานเป็นทุนผมเลยไม่อยากจะติดใจเอาความให้มากเรื่อง ตอนนี้มีบัญชีชำระหนี้แค้นกับไอ้โย่งนี่ที่ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่ ผมกระตุกยิ้มน้อยๆแล้วกระแทกไหล่มันเข้าไปในห้อง

    "ขอบใจนะมึง"

    "อย่าใช้งานหนักนะมึง น้องเฮีย”

    บอกแล้วว่าผมมันเด็กแบคใหญ่ เดินไปไหนก็เหมือนมีตรายางปั๊มอยู่บนหน้าผากว่าน้องพี่คริสอดีตรองประธานนักเรียนสุดเฮ้ว แต่กับไอ้ปาร์คชานยอลนี่ยังกล้าเรียกผมมารับใช้ถึงห้อง อย่างนี้ต้องฟ้องให้หมดยกตระกูล! ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟายกขาพาดวางบนโต๊ะแก้วเลือกเอาบริเวณที่ไม่มีที่เอกสารแล้วกระดิกตีนยิกๆ

    "กูบอกไว้ก่อนเลยนะว่ากูไม่ทำ แล้วช่วยไปบอกมิสคิมด้วยว่าไม่อยากได้คนมาจัดห้องแล้ว “

    "เอ....กูว่าคนทำผิดนี่ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรนะ"

    "มึง!"

    "ไหนๆมึงก็มาแล้ว ไม่เห็นหรอว่าห้องกูรกมากขนาดไหน งานมันเยอะไม่มีเวลาทำหรอก"

    "ไหนมิสบอกว่ามึงเป็นคนสะอาดไงวะ!!"

    "พอดีอยากจะสกปรกขึ้นมาเฉย ลำบากมึงหน่อยนะ"

    กวนตีนนนนนนนน!! @&/)/:"฿,!:)€<_¥€!฿:&

    ผมสูดลมหายใจเข้าลึกพยายามหักห้ามใจตัวเองอย่างมากที่จะไม่พุ่งเข้าไปต่อยหน้าหล่อๆของไอ้ชานยอลยอมรับครับว่ามันหล่อแต่นิสัย.....แบบนี้ทำเอาผมชักจะเริ่มโมโหแล้วนะ กวาดสายตาไปรอบๆห้องเห็นเศษกระดาษกองเสื้อผ้ากล่องข้าวที่วางกองอยู่บนโต๊ะวางเกลื่อน จิตใต้สำนึกลึกๆมันบอกให้ผมเดินเข้าไปเก็บ

    โธ่เว้ย! ทั้งหมดนี้ต้องโทษไอ้พวกพี่ๆผมเลยนะที่อยู่บ้านแล้วชอบทำตัวซกมกจนแม่บ่นแล้วก็ต้องเป็นผมที่ทนไม่ได้ทุกที! คอยเก็บซากเดนตลอด!

    ไอ้ชานยอลทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาหลังจากที่ผมลุกขึ้นมาหาถุงขยะ มันยิ้มให้ผมแบบตอแหลสุดๆ ผมเลยตอบแทนไปด้วยนิ้วกลางสัญลักษณ์เพศพ่อเป็นของแถมก่อนจะเริ่มเก็บขยะชิ้นใหญ่ลงถุงขยะที่ถือไปด้วย ผมใช้เท้าเขี่ยผ้าให้พ้นๆทางแล้วลงมือกวาดห้อง จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นห้องของประธานนักเรียน มันโคตรเจ๋งอะครับท่านผู้อ่าน ปกติแล้วหอพักธรรมดาจะไม่มีการกั้นห้องหรอกนะ เป็นห้องเดี่ยวรวมทุกอย่างหมดเลย แต่ห้องนี้มีการแยกห้องนอนมีโซฟาอย่างดีและทีวีส่วนตัว นี่คือห้องของคนที่อยู่คนเดียว ผมว่ามันไม่มีเวลาแม้แต่จะเปิดวิทยุด้วยซ้ำ จู่ๆก็แอบเห็นใจมันขึ้นมาหน่อยนึงแต่หน่อยเดียวเท่านั้นนะ! เพราะพอมันเปิดปากผมนี่แทบจะถลาเข้าไปฟาดปากด้วยถังขยะ

    "เก็บขยะแล้วไมต้องส่ายตูดวะ ยั่วกูหรอ? โทษนะพอดีกูนิยมแบบอวบอั๋นว่ะ ก้นฟีบๆอย่างมึงกูไม่ชอบ ยั่วคนอื่นเหอะมึง”

    มาจ้องตูดกูไมไอ้เฟี้ยยยยยยยยยย!!

    แล้ว...กูไม่ได้ส่ายตูดซักหน่อยไอ้โย่ง!!!

     

    "เดี๋ยวนี้แรดนะมึง...."

    "วิ่งไปหาเขาถึงที่..."

    "พี่คริสรู้เข้า....."

    "กระซวกตับไอ้ชานยอลไส้ไหล"

    "โทษฐานลักเอาน้องสาวเขาไปกิน"

    งามหน้ามั้ยล่ะ!!!!!

    ผมที่กำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่ที่ห้องอาหารถึงกับสำลักเมื่อจู่ๆไอ้สองแฝดก็พูดประหนึ่งว่าเป็นคนในหอพิเศษเห็นเหตุการณ์ เอามือทุบอกตัวเองเบาๆแล้วรีบคว้าหาน้ำดื่ม พลางตวัดสายตาไปยังแคนทีนสุดหรูชั้นบน(ที่คนที่มีสิทธิขึ้นไปใช้ได้คือพวกสภานักเรียนและประธานหออย่างผมที่สามารถขึ้นไปได้สัปดาห์ละสองครั้ง)ซึ่งผมว่าไอ้เวรจื่อเทาต้องอยู่บนนั้นและเป็นคนกระจายข่าวฉาวๆให้ไอ้สองแฝดนี่ฟังแหง ฝากไว้ก่อนเหอะมึง! หนี้แค้นกูกับมึงนี่มีเป็นหางว่าวอะ!!

    "กูไม่ได้ไปให้เขากิน แล้วน้องสงน้องสาวเหี้ยไร แดกตีนสาวหน่อยมั้ยสัด!"

    "ถึงว่าเมื่อคืน...."

    "ท่าเดินแปลกๆ"

    มึงไม่ได้ฟังที่กูพูดใช่มั้ยไอ้แฝดนรก!!!!

    หลังจากที่ไอ้เซฮุนต่อจนจบประโยคแม่งก็แทคมือกันพลางหัวเราะอย่างถูกอกถูกใจ ส่วนผมนี่แทบจะล้มโต๊ะ ช่วงนี้อารมณ์เสียแต่หัววันเลยแม่งงงง ไอ้หวังจื่อเทา!!!

    "อุ๊ยบีสอง ไอ้แบคฮยอนหงุดหงิดท่าทางจะเมนไม่มา"

    "แน่เลยบีหนึ่ง ท้องชัวร์!"

    "กิ๊บกิ๊ว ของเขาแน่ว่ะ คืนเดียวก็ติดเลยว้อย~"

    "ไอ้เวร! ไอ้แฝดเวร!!!!!!" ผมเอาช้อนชี้หน้าเลือกไว้แล้วว่าจะฆ่าไอ้จงอินก่อนเพราะเสือกประเด็นทุกที ผมทำท่าจะปีนข้ามโต๊ะอาหาร ถอดรองเท้านักเรียนวางไว้เสร็จสรรพหากแต่แรงหิ้วที่คอเสื้อกลับหยุดผมไว้ทำให้ต้องหันไปมอง

    ไอ้ประธานนักเรียน!!

    "เอะอะอะไรไอ้เปี๊ยก สร้างความวุ่นวายแต่เช้านะ"

    "ถ้าวุ่นวายก็อย่าเสือกโผล่หัวลงมาสิวะ! แดกข้างบนไปไป๊"

    "ซ่าจังนะมึงอะ ความผิดมึงยังไม่หมดหรอกนะไอ้เปี๊ยก"

    "เปี๊ยกพ่อง!! ปล่อยกู!" 

    ตอนนี้ผมยืนอยู่บนเก้าอี้เพราะพร้อมจะบิน(?)ไปทะลวงหัวไอ้จงอินแต่ดันมีมารมารผจญซะก่อน ส่วนไอ้ชานยอลพอรู้ว่าแค่คว้าเสื้อไม่อยู่แน่มันก็เปลี่ยนมาโอบรอบเอวผมก่อนจะออกแรงอุ้มให้ลงมายืนข้างล่าง ทีนี้ล่ะเสียงโห่เสียงแซวแม่งมาประหนึ่งว่าอยู่ในงานแต่มีคนแห่ขันหมากเข้าโรงเรียน ส่วนผมนี่เอ๋อแดกไปแล้วครับ

    มึง....อุ้ม.....กู?

    คงมีเครื่องหมายคำถามแปะลงบนหน้าผากพร้อมด้วยคำถามสามพยางค์ ไอ้ชานยอลเลยยักไหล่น้อยๆแล้วตบหัวผมปุๆเหมือนคราวก่อน ใบหน้าขาวๆของมันก้มลงมาใกล้เหมือนจะกระซิบอะไรบางอย่างแต่เสียงที่มันพูดออกมาแม่งโทรโข่งดีๆนี่เอง

    "เมื่อคืนเหนื่อยหน่อยนะแต่ทำดีแล้วกูชอบ คืนนี้ไม่หนักเท่าเมื่อวานหรอกแต่มาเร็วๆก็ได้ กูจะรอมึงนะคนดี"

    "ฮริ้วววววววววววววววววว อย่างนี้กูก็เตรียมอุ้มหลานแล้วสิ ขยันทำการบ้านทุกวันแบบนี้"

    อะ.....อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!! ไอ้จื่อเทา! ไอ้คนปากไม่ดี!!!

    รู้จักฤทธิ์กูน้อยไปแล้วไอ้ปาร์คชานยอล!!!
     

    ผมมาพร้อมกับกระเป๋า......ไม่ได้มามือเปล่าหรอกนะ ผมหยุดอยู่หน้าตึก กระตุกยิ้มหน่อยๆแล้วเปิดประตูเข้าไปพวกที่นั่งอยู่ที่ห้องโถงกลางกันมามองนิดหน่อยแล้วเอ่ยปากทัก

    "หวัดดีแบคฮยอน วันนี้แบกอะไรมาน่ะ?" คยองซูเป็นคนแรกที่ทัก ผมไม่ตอบแล้วฉีกยิ้มกว้าเดินตัวปลิวไปตามทางเดินอย่างอารมณ์ดี ไม่มีไอ้จงฮยอนและไอ้จื่อเทาคอยส่งเสียงแซวกวนตีนเหมือนทุกทีทำให้ผมรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาหนึ่งขีด พอไปถึงหน้าห้องที่เป็นจุดหมายปลายทางผมก็เริ่มใช้เท้าเตะประตูทันที

    ใช้มือเดี๋ยวเจ็บครับ.....

    "ทำไมเสียงเคาะประตูแม่งดังมาจากข้างล่างวะ"

    "เรื่องของกู" ผมแทรกตัวเข้าไปในห้องแล้วยืนมองสภาพสกปรกนั่น....

    "เพ็ดเฟ่! นี่มึงจะทำให้ห้องสกปรกได้ทุกวันจริงๆสินะให้ตายห่า!!" ผมโยนกระเป๋าตัวเองไปไว้อีกมุมห้องแล้วหันหน้าไปหาไอ้โย่งพลางกระดิกตีนยิกๆเพราะมันพร้อมที่จะเข้าไปกระทืบไอ้คนซกมกได้ทันที ไอ้ชานยอลไม่ทำอะไรนอกจากฉีกยิ้มแล้วพูดจาที่ฟังแล้วยังไงแม่งก็ตอแหลชัดๆ!

    "กูขอโทษที่ทำให้ลำบากนะ แต่พยายามจะไม่ทำให้ห้องรกจริงๆ"

    เอาล่ะ....เอาล่ะ ผมต้องท่องนะโมสามจบและแผ่เมตตาเพื่อจิตสงบไม่เข้าไปกระทืบมันให้ตายคาตีน ผมหมุนตัวกลับแล้วเดินไปกวาดห้องอย่างที่ทำเมื่อวาน(และมันก็ควรจะทำบ้าง ห้องห่าไรสกปรกเหี้ยๆ)ส่วนไอ้เจ้าของห้องแม่งนั่งลงไปบนโซฟาอย่างเดิมแล้ว วันนี้งานดูน้อยกว่าเมื่อวาน ให้ตายดิ ผมจะไปมองมันทำไมวะจัดการงานของมึงนี่! 

    เริ่มจัดการเก็บเอาบ๊อกเซอร์มันไปใส่ตู้เสื้อผ้าอย่างเดิมดึงผ้าปูที่นอนให้ตึงก่อนจะหยิบเอาหมามุ่ยที่ผมลำบากลำบนไปเก็บมาจนคันตัวยุบยับไปหมดโรยลงบนที่นอน แล้วเอาผ้าห่มคลุมทับอีกทีทีนี้ก็เป็นอันเรียบร้อย ผมเดินยิ้มออกมาจากห้องนั้นแล้วหามุมที่ไอ้ชานยอลนั่นจะมองผมไม่เห็นเอากระปุกเกลือขึ้นมาวางแล้วยัดขวดน้ำตาลลงกระเป๋าค้นเอาซองพริกป่นมาฉีกผสมใส่ในกาแฟ แค่นี้ก็สมบรูณ์แบบ 

    ต้องจัดการให้มันรู้ซะมั่งว่าใครเป็นใคร กระผมน่ะนายบยอนแบคฮยอนผู้เกรียงไกร(?)ประธานผู้ยิ่งใหญ่แห่งหอสาม ถูกทำให้อับอายขายขี้หน้ากลางห้องอาหารแบบนั้นมันต้องเอาคืนกันมั่งแหละครับ ไม่ใช่ไอ้เปี๊ยกจอมเซ่อที่คอยให้มันแกล้งแบบนั้นหรอกนะ แล้วเรื่องแบบนี้ไม่ต้องวิ่งโร่ไปฟ้องพี่คริส มันจะกระทืบไอ้ชานยอลตายก่อนที่ผมจะได้แก้แค้นน่ะสิ นี่มันเรื่องของผม ผมจัดการเองได้! เพราะฉะนั้น กูกับมึงไม่จบแค่นี้แน่ไอ้ปาร์ค!

    หลังจากนั้นก็ทำอะไรต่ออีกซักพักอย่างเช่นเอาชุดนอนและผ้าออกมาวางให้มัน ถึงเมื่อวานจะอารมณ์เสียสุดๆกับการที่ต้องทำแบบนี้แต่วันนี้ไม่ใช่ ทุกคนลองนึกภาพหลังจากที่ผมกลับไปสิครับ หึหึ

    หอแตกแน่

    "เสร็จหมดแล้วนะ กูกลับห้องล่ะ"

    "ทำไมวันนี้กลับเร็ว?”

    “กูต้องอยู่ห้องมึงทั้งคืนเลยรึไง”

    “อยากอยู่มั้ยล่ะ J

    “กวนตีน ห้องสกปรกแบบนี้ใครจะไปอยู่ได้”

    “แล้วนั่นกระเป๋าอะไร”

    “เสือก” ผมว่าพลางฉีกยิ้ม ไอ้ชานยอลขมวดคิ้วนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ ผมปิดประตูห้องพลางผิวปากอย่างอารมณ์ดี จะว่าไปก็น่าเสียดาย ผมน่าจะเอากล้องติดตัวมาจะได้เห็นปฏิกิริยาตอบรับกับตาเองซะหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรเอาเถอะถ้าพรุ่งนี้มันหน้าบูดหน้าบึ้งบ้างก็ถือว่าผมประสบความสำเร็จ

    ไปนอนดีกว่า~~





     



    Talk -02-

    เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก
    จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา 
    แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา 
    จะพูดจาพิเคราะห์ให้เหมาะความ 


    กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "พระอภัยมณี"


    พีปาร์คจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามตอนต่อไป...
    ฟิคเรื่องนี้ตามใจฉัน แต่งไปเรื่อยๆหาได้มีสาระไม่
    เน้นให้แบคและชานยอลได้กันเร็วๆ #ไม่ใช่
    ประเด็นคือ...เกือบจะได้อยู่หอ
    แต่.....ที่บ้านเห็นว่าเด็กเกินกว่าจะอยู่
    อาจจะเพราะนิสัยหรือะไรก็ตาม ชีวิตม.ปลายเลยเป็นปกติ
    ไม่ได้แหวกไปอยู่ในหอแบบที่ฝัน
    อาจจะดูประหลาดๆ แต่อย่าถือสา ตามใจฉัน ตามใจเธอ
    รักคนอ่านนะจ๊ะ ชอบกดเฟบ แบคเกรียนกดแอด
    อยากให้ชานแบคได้กันไวๆก็เม้นนน #ไม่ใช่ล้ะ 55


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×