คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : Will Love , So I love[Part 23]=สารภาพรัก
23
สารภาพ รัก
“ฮยอกแจ นั่งตรงนี้แดดมันร้อนนะ”
คนถูกเรียกสะดุ้งเบาๆก่อนจะ ส่งยิ้มบางๆให้กับคนที่เดินมาหา บริเวณหน้าเรือที่เขานั่งอยู่เป็นจุดที่แดดตอน 9 โมงเช้าส่องแรง ฮันคยองที่ได้รับรอยยิ้มก็มองอย่างอึ้งๆก่อนจะนั่งข้างๆแล้วเอาผ้าคลุมหัวคน ตัวเล็กไว้ ตอนแรกเขาคิดว่าจะมาสปีทโบ้ท หากแต่ว่ามาเรือลำใหญ่เพราะดันจัดทริปตรงกับทัวร์ใหญ่ที่มาจากกรุงเทพ เจ้าบ้านเลยชวนให้มาด้วยกันเพราะเห็นว่าสนิทกับลูกสาวของคนในทัวร์ พวกเขาทั้งหมดเลยขอรับน้ำใจของคนไทยไว้ด้วยความเต็มใจ
“เดี๋ยวผิวก็ไหม้หรอก ได้ทาครีมกันแดดรึยัง”
“นายชอบฉันรึเปล่าฮันคยอง”
“หือ? นึกคึกอะไรถามขึ้นมาล่ะ”
“ก็เปล่า.....แค่อยากได้ยิน คำตอบให้แน่ใจน่ะ”
“.......ชอบสิ ถ้าไม่ชอบ ฉันจะออกมาดูแลนายอย่างนี้หรอ”
คนที่ได้รับคำตอบก็ระบายยิ้ม ออกมาน้อยๆก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนที่ทำหน้าจริงจังแล้วกดริมฝีปากลงที่ แก้มของฮันคยองหนึ่งทีแล้วถอนออกมาก่อนจะส่งยิ้มให้กับคนที่กำลังนั่งอึ้ง ด้วยความคาดไม่ถึง
วันนี้เจ้าไก่มาไม้ไหน เนี่ย??
“นาย.....ใช่ฮยอกแจจริงรึ เปล่าเนี่ย???”
“ฮ่ะๆ ทำไมล่ะ แปลกใจรึไง”
“ก็ใช่น่ะสิ นายเคยทำแบบนี้ที่ไหน ถ้าฉันไม่เริ่มนายก็แทบจะไม่เข้าใกล้เลยเหอะ”
“ขอเวลาฉันอีกนิดนึงนะฮัน คยอง”
“........หือ?”
“นายรู้ใช่มั้ยว่าฉันชอบทงเฮ ขอเวลาฉันลืมหมอนั่นอีกนิดเถอะนะ”
“.....ฉันรอนายมานานเท่าไหร่ แล้ว ไม่รู้รึไง”
ร่างบางซบลงกับอกแกร่งของอีก ฝ่าย หัวไหล่ที่สั่นน้อยๆบ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวกำลังร้องไห้ ฮันคยองรั้งไหล่บางเข้ามาใกล้ก่อนจะโยกตัวไปมาราวกับปลอบใจ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เขาควรจะได้รับอะไรตอบแทนแล้วสินะ
“....รอต่อไปอีกนิดนึงเพื่อ ให้ได้สิ่งที่คุ้มค่า ยังไงก็รอได้อยู่แล้วล่ะน่า”
“ขอบคุณนะฮันคยอง ขอบคุณจริงๆ”
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณมาเป็น จูบซักทีได้มั้ย”
ฮันคยองอมยิ้มเล็กๆ เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาแล้วค้อนใส่ เจ้าตัวเลยส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร แต่เจ้าไก่ก็มักจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงเสมอ ฮยอกแจเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วแตะริมฝีปากลงเบาๆกับริมฝีปากของฮันคยอง แต่ยังไม่ทันจะได้ผละออก ก็ถูกมือกดท้ายทอยไว้ไม่ให้ไปไหน จากที่ให้เบาๆไม่วาบหวิวมากนัก กลายเป็นจูบร้อนแรงเสียอย่างนั้น
ไออาแปะบ้าเอ๊ย.......ได้ที ล่ะเอาใหญ่เชียวนะ
แต่ผมก็ชอบเหมือนกันนั่นแหละ แฮ่-.,-v
“คู่นั้นเค้าโอเคแล้วหรอตัว เล็ก?”
“แล้วตัวใหญ่ไปยุ่งอะไรกับ ของเขาล่ะ” มือเล็กคว้าหน้าของคนตัวใหญ่ให้หันกลับมาจากบทจูบของฮันฮยอกแล้วก็อดหน้า ร้อนผ่าวๆไม่ได้ ซองมินเอามือพัดหน้าเบาๆก่อนจะเฉไฉว่าอากาศเมืองไทยร้อนจนตับแตก ซึ่งคยูฮยอนที่นั่งมองอยู่ก็อดขำไม่ได้
“ตัวเล็กไม่อยากจูบบ้างหรอ”
“ไม่เอานะตัวใหญ่! เมื่อคืนยังไม่พออีกรึไง”
“โหยยย พูดแบบนั้นตัวใหญ่เสียหายนะ เรายังไม่ได้มีอะไรกันซักหน่อย งั้นคืนนี้ตัวเล็กต้องทำจริงๆแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นตัวใหญ่เสียชื่อแน่ :’]”
“ชอบทำให้เขินอยู่ได้ สนุกนักรึไง” ซองมินก้มหน้างุดๆก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีไปหารุ่นพี่อีทึกที่กำลังนั่งกินน้ำ อยู่กับหญิงสาวผู้เป็นคนดูแลทัวร์ ส่วนคังอินนั้นที่เป็นคู่ซี้ปาท่องโก๋กลับหายไปเสียอย่างนั้น คนที่กำลังเขินเลยทิ้งตัวลงนั่งทันที
“หนีอะไรมาล่ะซองมิน...... อ้อ~”
“พี่ห้ามแซวนะ! ถ้าแซวล่ะก็ผมจะไม่คุยกับพี่จริงๆด้วย”
“ไม่หรอกน่า พี่ไม่ใช่ทงเฮซักหน่อยจริงมั้ย?”
คนถูกถามถึงกับพยักหน้าด้วย ความเห็นที่พ้องตรงกันก่อนจะหันไปมองคนที่ชอบแซวเขาทุกทีเวลาหนีคยูฮยอนมา ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งคุยอยู่กับคนที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกสาวของคนในทัวร์ ก่อนจะหันไปมองคิบอมที่กำลังนั่งหน้าตึงอยู่ข้างๆด้วยความไม่พอใจ
จริงๆแล้ว.....คิบอมก็หึง เป็นแฮะ ผมเพิ่งรู้-o-
“คนนั้นใช่ลูกสาวของคนใน ทัวร์รึเปล่าฮะ?”
“อ๋อใช่ ชื่อตังค์น่ะ ท่าทางจะเป็นเด็กอัธยาศัยดี แต่เสียดายที่ไม่สวย”
“อะโห-o- พี่อีทึกแรงอ่ะ”
“ไอ้ที่ว่าไม่สวยนี่หมายถึง ไม่ใช่สเปกพี่นะ แต่ในสายตาคนอื่นเป็นยังไงพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้ว....เห็นคังอินรึเปล่า?”
“อ้าว ผมนึกว่าพี่เขาจะไปหาอะไรมาให้พี่ซะอีก”
“เปล่า.....หายไปเลย ตั้งสิบนาทีแล้ว ว่าแล้วก็ไปหาซะหน่อยดีกว่า”
อีทึกลุกขึ้นยืนก่อนจะส่ง ยิ้มเป็นเชิงขออนุญาติกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างเขาๆ ก่อนที่ตัวเองจะออกเดินทั่วเรือ เวลาเดินผ่านคนในทัวร์ของกรุงเทพก็ส่งยิ้มให้ตามมารยาทก่อนจะสะดุดกึกเมื่อ เจอใครที่คุ้นหน้าคุ้นตากำลังยืนเกาะรั้วข้างเรือก้มหน้าลงมองน้ำ อีทึกยิ้มกว้างก่อนจะเดินเข้าไปใกล้
“นายเมาเรือใช่มั้ย”
“ก็นิดหน่อยน่ะ”
“แล้วทำไมไม่บอกฉันล่ะเจ้า ทึ่ม มานี่ เดี๋ยฉันไปบอกคุณใบเตยก่อน”
“ไม่ต้อง ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”
“นาย......นายไม่ชอบคุณใบเตย หรอ”
“...........”
“ยองอุนอา......เธอเป็นคนสวย นะ แถมยังนิสัยดีอีกต่างหาก”
แต่ต้องขอโทษที่ฉันจะบอกว่า คนที่ฉันชอบคือนายต่างหากจองซู
“......ฉันไม่ชอบ......” ที่ตอนนี้นายให้ความสนใจเธอมากกว่าฉันคนนี้
“เป็นงั้นไป คนเราก็ชอบไม่เหมือนกันนี่นะ”
“..........”
“อย่ามายืนอย่างนี้เลยยองอุน มันเวียนหัว กลับไปนั่งที่เดิมเถอะ ขอผ้าเย็นให้เอามั้ย เดี๋ยวฉันไปขอน้องตังค์ให้”
“.............”
“เงียบคือโอเค รอตรงนี้นะ” อีทึกสั่งย้ำอีกครั้งก่อนที่ตัวเองจะพาร่างบอบบางไปยังเด็กสาวที่กำลังนั่ง คุยอยู่กับแฮงบกของคิบอม ซึ่งตอนนี้มีคนสวยนามว่าคิมฮีชอลเข้ามาร่วมวงด้วยอีกคน พูดเพียงไม่กี่คำตังค์ก็พยักหน้าหงึกๆแล้วเดินไปขอผ้าเย็นกับพวกผู้ใหญ่ เธอไม่ได้มีรอยยิ้มให้อีทึกเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ก็ยังไม่เสียมารยาทพูดกระแทกกระทั้นอะไรมากนัก
ก็แหม....ฉันไม่ชอบคนที่เห็น ผู้หญิงสำคัญกว่าผู้ชายนี่นา-.,.-V
“ได้มาแล้ว.....เด็กนั่น ไม่สวยจริงๆด้วย”
“ฉันว่าก็น่ารักดี”
“เฮ้! ยองอุน นั่นอายุ 14 เองนะ”
“น้องเขาก็น่ารักดีไม่ใช่หรอ แล้วทำไมนายถึงมองว่าไม่สวยล่ะ”
“ตังค์ไม่ยิ้มให้ฉันเลย แถมยังส่งสายตาแปลกๆเหมือนกับว่าฉันทำอะไรผิดด้วย เฮ้อ~ สงสัยต้องหาโอกาสคุยด้วยซะหน่อย คนหล่อเสียฟอร์มหมด”
คนที่บอกว่าตัวเองหล่อเสยผม เบาๆก่อนจะให้ปลิวไปตามแรงลม คังอินลอบมองใบหน้าสวยด้วยความหลงใหลก่อนจะพยายามเรียกสติให้กลับคืนมา เพราะเดี๋ยวนี้เขามักจะคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่
“ฉันเช็ดให้” อีทึกแกะผ้าเย็นก่อนจะวางลงที่หน้าผากของอีกคนแล้วเช็ดทั่วใบหน้าหล่อ ความเงียบงันเข้าปกคลุมอีกครั้ง สติของคังอินเริ่มไม่อยู่กับตัวอีกหนเมื่อมือบางเลื่อนลงไปที่คอของตัวเอง อีทึกที่กำลังเช็ดคอให้ร่างสูงก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆคังอินก็จับแขนของตัวเอง ให้หยุดแล้วพูดอะไรออกมาด้วยท่าทางที่เลื่อนลอย
“..... ฉัน...รัก.................นาย”
“!!?!!”
คนถูกสารภาพรักมีสีหน้าตกใจ ก่อนจะเผลอกระชากมือของตัวเองออกมาอย่างรวดเร็วเรียกสติให้กับคังอินทันที ส่วนคนที่เพิ่งพูดอะไรออกไปก็มีสีหน้าที่ตกใจไม่แพ้กันก่อนจะคิดหาคำพูดแก้ หากแต่ว่าลิ้นกลับพันกันไปหมด
“เอ่อ.......คือ.....”
“โกหกใช่มั้ยคังอิน?”
“...........”
“เมื่อกี้นายล้อฉันเล่นใช่ มั้ย??”
“.............”
“เงียบอย่างนี้......หรือว่า ที่นายพูดเป็นเรื่องจริง”
“...........”
เมื่อเห็นว่าร่างสูงไม่ตอบ แถมยังหลบสายตาของตัวเองก็ยิ่งทำให้คนที่เร่งถามเกิดอาการสับสนวิ่งออกไป ทันที คังอินอยากจะคว้าตัวไว้แต่ก็ทำไม่ได้เพราะรู้ดีว่าที่ตัวเองพูดออกไป เมื่อกี้ร้ายแรงสำหรับอีทึกแค่ไหน
รู้ทั้งรู้ว่าเขาชอบ ผู้หญิง.....ยังจะพูดออกไป
รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่มี ใจ......ยังจะไม่คุมสติ จนเผลอหลุดปาก
รู้ทุกอย่างอยู่เต็มอก...... แต่ก็ห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่
บ้าจริงๆเลย ทั้งคังอินและคิมยองอุน
เมื่อมาถึงยังเกาะ ‘รอก’ เรือก็หยุดให้นักท่องเที่ยวทั้งหมดลงไปชมบรรยากาศของธรรมชาติ อีทึกเดินลงจากเรือพร้อมกับคนดูแลทัวร์ของเขาและทงเฮที่พ่วงเด็กสาวและคิบอ มมาด้วย หากแต่ว่าตัวเองไม่ยอมเดินข้างคังอินเหมือนเมื่อก่อนจนคนที่อยุ่ด้วยกันมานา นอย่างคิบอมชักสงสัย
“พี่คังอินล่ะ?”
“อะ...เอ่อ....ไม่รู้” คนสวยบอกปัดก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย ส่วนคนที่ถูกถามถึงตอนนี้ก็ไปเดินอยู่กับฮันคยองที่กำลังยื่นมือไปให้ฮยอกแจ เกาะตอนลงจากเรือ
“ไม่ไปกับพี่อีทึกหรอ”
“..........คงไม่ได้....อีก ต่อไป”
“หือ? พี่พูดอะไรน่ะ??”
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก นายจะอยู่กับฮยอกแจใช่มั้ย งั้นฉันไปก่อนละกัน”
นานๆทีที่รุ่นพี่คนนี้จะพูด ประโยครัวยาวทำเอาฮันคยองสังสัยหนักขึ้นไปอีก ฮยอกแจที่ไม่รู้เรื่องเลยทำหน้างงๆ แต่ก็ต้องเอามือยันปากของอีกคนไว้เมื่อเห็นว่ากำลังก้มลงมาใกล้เขา
“ทำหน้างงแบบนั้นไม่รู้รึไง ครับว่ามันน่ารัก
ไอ้หื่นนนนนนน
“พี่ทงเฮ เดี๋ยวตังค์มานะ” หญิงสาวที่ยืนคุยอยู่กับทงเฮขอตัวออกไปเมื่อเห็นว่าอีทึกกับคุณใบเตยขอแยก กันไปเดินสองคน คิบอมส่งสายตาเชิงไล่ยิ่งทำให้เจ้าตัวถึงกับเกิดอาการกรี๊ดกร๊าดแล้วพูดออก มาเป็นภาษาไทยเลยทำให้ไม่เข้าใจกันไปใหญ่
“ไปซักที”
“อ่า...คิบอมอ่ะ!~ ผมรั้งให้น้องเขาอยู่คุยกับผมเองนะ ไม่ใช่ว่าน้องเขาอยากอยู่ซักหน่อย”
“แล้วจะรั้งไว้ทำไมล่ะ”
“ผมก็แค่จะหาเพื่อนคุย..... อ้อ! แล้วคิบอมได้คุยกับพี่อีทึกรึยัง ว่าทำไมไม่อยู่กับพี่คังอิน เห็นปกติตัวติดกันจะตาย”
“ไม่ยอมบอกอะไรเลย....เบี่ยง ประเด็นตลอด สงสัยมีเรื่องอะไรกันแหงๆ”
“ผมว่านะ....พี่เขาดูเหมือน เป็นแฟนกันเลย แต่ติดตรงที่ว่าพี่อีทึกชอบผู้หญิง”
“ไม่ต้องไปสนใจเรื่องคนอื่น ให้มากหรอกน่ะ สนใจแต่เรื่องของเราก็พอ”
สตางค์มายืนขวางหน้าอีทึกกับ หญิงสาวอีกคนหนึ่งก่อนจะพูดอะไรซักอย่างกับคนดูแลทัวร์ของเขาจนเจ้าหล่อนยอม ถอยออกไป คนที่มาใหม่เลยยิ้มให้เขาเล็กๆแล้วมายืนแทนที่
“สวัสดีค่ะพี่อีทึก”
“สวัสดีค่ะน้องสตังค์”
“พี่พูดค่ะไม่ได้ ต้องพูดว่าครับหรอก” ว่าแล้วคนสอนก็ยู่ปากเล็กน้อยก่อนจะก้มลงไหว้พร้อมกับพูดว่าสวัสดีครับเป็น ตัวอย่างให้ดู อีทึกเห็นอย่างนั้นจึงหัวเราะเบาๆก่อนจะทำตามบ้าง เด็กสาวยิ้มน้อยๆก่อนจะชวนคนข้างตัวให้เดินต่อ เมื่อเห็นว่าเดินมาไกลพอสมควรจึงเปิดประเด็น
“ตังค์พอจะได้ยินเรื่องของ พี่กับพี่คังอินมาจากพี่ทงเฮและพี่คิบอมมาบ้างแล้ว แล้วนี่พี่คังอินหายไปไหนแล้วคะ?”
“.....ไม่รู้สิ เราไม่ได้ตัวติดกันซะหน่อย”
“ตังค์เห็นนะ......บนเรือน่ะ ถึงตังค์จะไม่ได้ยินอะไรก็เถอะ แต่ตังค์ก็นั่งมองอยู่นะ”
จู่ๆคนข้างตัวก็หยุดเดิน พร้อมกับคว้าข้อมือเขาให้หยุดเดินเหมือนกัน อีทึกเห็นอย่างนั้นเลยทิ้งตัวลงนั่งที่ร่มๆแล้วหาไม้มาเขี่ยทรายเล่นอย่าง ที่อยากทำมานาน สีหน้าของเขาไม่ได้มีรอยยิ้มเหมือนแต่ก่อน และตอนนี้ต้องการจะระบาย จึงพูดเรื่องทั้งหมดออกไปโดยไม่คำนึงว่าคนที่รับฟังเขาอยู่นั้นเป็นใคร
“พี่กับคังอิน เป็นเพื่อนกันมา 5 ปี แล้ว”
“.............”
“เราไปไหนมาไหนด้วกันตลอด กิจกรรมทุกอย่าง เรื่องเรียนทุกเรื่อง คังอินจะคอยช่วยพี่ทำอยู่เสมอ เขาไม่เคยแสดงท่าทีว่ามีความรู้สึกพิเศษอะไร เวลาพี่จีบใครเขาก็จะยืนมองและคอยอยู่ข้างๆ แต่ไม่เคยออกปากห้ามซักครั้ง”
“...........”
“แต่ก่อนที่จะมาไทย หมอนั่นจูบพี่.......จนพี่รู้สึกแปลกๆ แต่คิดว่าหมอนั่นคงแค่หน้ามืดเลยล้ม แล้วพี่หันไปผิดจังหวะเลยทำให้ปากเราแตะกันเฉยๆ แต่ตอนนี้พี่แน่ใจแล้วว่ามันไม่ใช่”
“.............”
“แล้วอย่างที่ตังค์คิดนั่น แหละ หมอนั่นสารภาพรักกับพี่ พี่ถามว่าล้อเล่นใช่หรือเปล่า? โกหกใช่มั้ย? ฮ่ะๆ หมอนั่นไม่ตอบอะไรซักคำ พี่ก็เลยเดินออกมา”
“................”
“พี่ไม่ได้ชอบผู้ชาย.....หมอ นั่นก็รู้......พี่ชอบผู้หญิง.....หมอนั่นก็รู้....แต่หมอนั่นยังพูดมันออก มา ยอมรับแหละว่าช็อคและก็ช็อคมากด้วย”
คนที่กำลังพูดระบายยิ้มขม ขื่นก่อนจะใช้กิ่งไม้ที่คว้าเอาได้แค่นั้นเขียนคำว่าเพื่อนแล้วกากบาททับราว กับว่ามันได้สิ้นสุดลงแล้ว ส่วนคนที่รับฟังก็นั่งฟังอย่างตั้งใจ เมื่อเห็นว่าคนข้างๆเงียบไปนานเลยคิดอยากจะพูดขึ้นมาบ้าง ก็แหม....เขียนฟิควายนี่นะ?
“อย่าหาว่าตังค์อย่างโน้น อย่างนี้เลยนะ ทั้งๆที่ตังค์เป็นคนนอกแต่มาเจือกอะไรแบบนี้มันไม่สมควรหรอกข้อนี้ตังค์รู้ ดี.....แต่ในฐานะสาวกวายแล้ว....มันอดไม่ได้จริงๆอ่ะ”
“...........”
“พี่ไม่รู้ใช่มั้ย? ว่าตอนที่พี่อยู่กับยัยใบเตยอะไรนั่น กับตอนที่พี่อยู่กับพี่คังอิน มันแตกต่างกันมากเลยนะ ที่พี่คอยดูแลคุณใบเตย เพราะชอบตามนิสัยของคนเจ้าชู้ทั่วไป หรือจิตใต้สำนึกของพี่กันแน่ที่มันบอกว่าต้องคอยดูแลแทคแคร์ผู้หญิง......”
“!?!”
“นั่นไง~ ว่าแล้วเชียว พี่น่ะอยู่กับพี่คังอินมากเกินไป ตังค์ไม่รู้หรอกนะว่าพี่ชอบหรือไม่ชอบพี่คังอิน แต่เพราะพี่บอกกับตัวเองอย่างนั้นมาตั้งแต่เด็กว่าพี่ชอบผู้หญิง มันก็เลยฝังมาว่าพี่ชอบผู้หญิง ผู้หญิงเท่านั้นที่พี่จะชอบได้ ก็เหมือนตังค์นั่นแหละ ถูกแม่ฝังแต่เด็กว่าหมอดีอย่างโน้นหมอดีอย่างนี้ ตังค์เลยมีความคิดที่อยากจะเป็นหมออย่างเดียวเลยไม่ได้คิดอย่างอื่น”
“......เธอกำลังจะบอกพี่ ว่า......”
“ไม่ค่ะ ตังค์บอกพี่ไม่ได้ เพราะตังค์ไม่ใช่พี่ แต่ตังค์จะบอกให้นะคะว่า ตอนที่พี่อยู่กับพี่คังอินน่ะ พี่ดูเป็นธรรมชาติ คอยดูแลพี่คังอินเขาเหมือนแฟน มันไม่แปลกหรอกค่ะถ้าพี่คังอินเขาจะนึกชอบพี่ ปากพี่ก็บอกว่าชอบผู้หญิง แต่จริงๆแล้วใครจะไปรู้.....พี่อาจจะชอบพี่คังอินก็ได้ แค่ตอนแตะปากกันตอนนั้นน่ะ พี่รู้สึกรังเกียจมั้ยล่ะ?”
“ก็.....ก็ไม่....แต่ว่า!”
“ไม่มีแต่อ่ะ ถ้าพี่ไม่รังเกียจก็คือใช่แล้ว......พี่หลอกตัวเองมาตลอด ถ้าเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงจริงๆล่ะก็...ถึงคนนั้นจะเป็นเพื่อนรักมากก็เถอะ มันก็ต้องรู้สึกขยะแขยงอยู่ดี อย่างตังค์อย่างเนี้ย ขนาดเห็นว่าเป็นน้องผู้หญิงนะ เอาหัวมาถูกที่แขนตังค์ นั่งชิดตังค์แล้วมองตังค์ด้วยสายตาแปลกๆ ตังค์ยังขนลุกไม่หายเลย บรึ้ย!”
คนที่กำลังนั่งฟังหลุดขำออก มา ส่วนคนที่กำลังเล่าเรื่องเมื่อเห็นว่าอีกคนยิ้มออกมาได้เหมือนเก่าก็เงียบ อีกครั้งเพื่อให้อีกฝ่ายพูดอะไรออกมา
“......พี่ไม่แน่ใจตัวเอง เหมือนกัน พอได้ฟังจากปากของเธอแบบนี้ก็รู้สึกแปลกๆแหะ พี่ชอบคังอินอย่างนั้นหรอ???”
“ถามใจตัวเองพี่เองดีกว่า ถามลมถามฟ้าถามดินก็ไม่ได้อะไรหรอก จะบอกให้นะ ที่ตังค์ทำสายตาเหมือนไม่ชอบขี้หน้าพี่ก็เพราะว่าพี่น่ะทำร้ายพี่คังอินรู้ รึเปล่า ทำนู่นทำนี่ให้กับเขาจนเขารู้สึกดี แต่ก็ย้ำคำว่าเพื่อนให้เขารู้สึกเจ็บ”
“ถึงว่า.....ส่งสายตาจิกพี่ ตลอด แล้วเรารู้ได้ยังไงว่าตอนที่พี่ดูแลผู้หญิงคนนั้นกับที่ดูแลคังอินไม่เหมือน กัน แอบมองพี่งั้นหรอ~”
“ชิ! ตังค์แอบชอบพี่ พี่ไม่รู้รึไง”
“เฮ้= = สเปกพี่น่ะผู้หญิงสวยนะ แล้วก็ไม่ดำด้วย”
“โหยยยย!~ พี่ทึกเงียบไปเลย เค้าไม่ได้เรียกว่าดำนะ ผิวสีน้ำผึ้งอ่ะพี่ไม่รู้จักรึไง! แล้วก็หยุดพูดว่าสเปกพี่คือผู้หญิงสวยได้แล้วนะ พี่ไม่ได้ชอบผู้หญิง!! จำไว้สิ เอาล่ะๆ ทำใจให้ดีๆแล้วบอกพี่คังอินไปนะ ได้พล็อตเพิ่มแล้วลั้ลลา~~ บ๊ายบายค่ะ ส่วนเรื่องรุกเรื่องรับไปตกลงกันเอาเองนะ โดยส่วนตัวแล้วตังค์อยากให้พี่รับ สะใจตังค์ดี แบร่:’P”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk กับยัยตัวประกอบอีกซักหน= =
แฮ่-.,-v ตังค์ไม่หายไปง่ายๆหรอกน่า แต่ก็ไม่อยู่จนจบเรื่องเหมือนกัน เดี๋ยวรีดเดอร์จะเคืองกันไปใหญ่ แหะๆ บอกแล้วนะว่าตังค์ไม่โผล่ออกมาเพียงเพราะต้องการออกมาเท่านั้นนะ
เห็นมั้ย~ พี่อีทึกเลยคิดอะไรได้หลายๆอย่าง ก็เพราะตังค์เนี่ยแหละเอิ๊กๆ
ฮันฮยอกก็เข้าใจกันแล้วนะ><! ออกแนวผู้ใหญ่ๆนิดนึงไม่มีอะไรหวือหวาเพราะเป็นคนมีเหตุผลทั้งคู่ แต่ถ้าถามว่าแล้วทำไมฮยอกแจตอนแรกถึงไม่ยอมรับให้ฮันคยองรับผิดชอบก็เพราะว่า เขามีเหตุผลที่หนักแน่นของเขาว่าเขาเมะ(น่าน= =) เขาเลยไม่ยอมจะให้ใครมาเมะใส่ แต่สุดท้ายก็ชี้ช้ำไปเพราะเฮไม่ยอมเคะให้เจ้าตัว(ก๊าก)
ส่วนตอนนี้เมนหลักพุ่งไปยังคังทึกเพราะตังค์ตั้งใจไว้แล้วว่ายังไงก็ตามทึกจะต้องเขาใจโดยการคุยกับยัยตัวประกอบเนี่ยแหละ 55+ อย่าเพิ่งเบื่อตังค์นะ เพราะตังค์จะโผล่มาจนกว่าจะกลับเกาหลีเลย หลายคนบอกอิจฉา โฮะๆลองแต่งฟิคดูซักเรื่องแล้วเป็นตัวประกอบเองบ้างแบบนี้ก็ถือว่าเป็นรางวัลสำหรับเราที่ได้ใกล้ชิดล่ะนะ ฮ่าฮ่า
เอาล่ะๆ มาซีเรียสกันนิดนึงได้มั้ย?
คือว่าช่วงนี้ตังค์จะงดแต่งนิยาย จนถึงวันที่ 6 พฤษาคม เพราะตังค์ลงเรียนที่เดอะเบรน แม่เลยบอกว่า แม่ขอร้องให้ตั้งใจเรียนก่อนได้มั้ย? นิยายน่ะเลิกไปก่อนได้รึเปล่า? ตังค์ก็เลยไม่อยากจะมีปัญหาเลยรับปากไว้ แล้วหลังจากวันที่ 6 พฤษภา ตังค์จะกลับมาแต่งเหมือนเดิม
แต่! แต่ว่าตังค์ยังมีที่แต่งเสร็จแล้วอีกตอน อาจจะหาเวลาเหมาะๆมาลง ส่วนเรื่องตอนที่ 26นั้นตังค์วางพล็อตและแต่งเสร็จแล้ว เพียงแต่ว่าตอนเอ็นซีเท่านั้นที่ยังไม่เสร็จ ถ้าอยากอ่านออร์เดิร์ฟ(?)นิดๆตังค์ก็จะเอามาลงให้ แต่ว่าเอ็นซีจะยังไม่ได้อ่านนะคะ เพราะยังไม่เสร็จ แต่ก่อนเปิดเทอมตังค์จะพยายามทำให้จบตอนที่ 26 นะ^^
ตังค์ไม่อยากจะรั้งให้รีดเดอร์รอคอยฟิคเรื่องนี้เท่าไหร่นัก เพราะตังค์เองตอนนี้ก็อยู่ ม.3 แล้ว และมีจุดมุ่งหมายไปที่เตรียมอุดมฯ ซึ่งใครหลายๆคนในครอบครัวหวังไว้กันมากพอสมควร ตังค์เองก็ไม่อยากทำให้ใครผิดหวัง แต่ตอนนี้ตังค์อาจจำเป็นต้องปล่อยฟิคเรื่องนี้ให้ร้างไปชั่วครู่เท่านั้น ไม่ถาวรนะคะ เพราะฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกและตังค์อยากทำให้มันจบแบบสมบูรณ์ แต่ถ้าหากใครอยากรอตังค์ก็โอเคค่ะ วันนี้พอเท่านี้ดีกว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะปล่อยให้ร้างจริงๆรึเปล่า เพราะเป็นพวกรักฟิคมากพอสมควร บ๊ายบายค่ะ^^~
Qreaz. 10
ความคิดเห็น