ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♂♂Will Love , So I Love [Kihae,etc.]

    ลำดับตอนที่ #24 : Will Love , So I Love[Part20]=ก่อนเที่ยวไทย

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 53









    20

    ก่อนเที่ยวไทย

     

     

     

    “ฮยอกแจ~~ นายไปเที่ยวกับฉันนะ นะๆๆๆ”

     

    [อ่า.....ที่ไทยน่ะหรอ เมื่อกี้ฮันคยองก็โทรมาบอกแล้วแหละ แต่ต้องขอดูก่อนว่าติดอะไรรึเปล่า]

     

    “โหยยย เดี๋ยวนี้ฮันคยองชักเฮิมเกริมแล้วนะ โทรหานายก่อนฉันได้ยังไง”

     

    [แหม~ พี่อีทึกบอกตอนพักกลางวัน แล้วนายโทรมาตอนกำลังจะนอนเนี่ยนะ เดี๋ยวนี้มีคิบอมแล้วนี่ จะสนใจคนไก่ๆอย่างฉันไปทำไมกัน~]

     

    เสียงในสายตัดพ้อด้วยความน้อยใจเล็กๆเรียกเสียงหัวเราะคิกจากร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียงได้อย่างดี ทงเฮล้มตัวลงนอนก่อนจะเหลือบตาไปมองซองมินที่กำลังนั่งซบไหล่แฟนของตัวเองแล้วก็อดที่จะแอบเบ้ปากเล็กๆไม่ได้

     

    เดี๋ยวนี้คยูฮยอนมันไม่มีอะไรทำรึไง มาที่ห้องของเขาอยู่ได้!~ น่าเบื่อโว้ยยย

     

    [นี่ทงเฮ! ก่อนนอนอย่าลืมกินนมล่ะ จะได้ตัวสูงๆ]

     

    “ฮยอกแจ พูดแบบนี้ไม่เอาค้อนมาทุบหัวฉันเลยล่ะ เหมือนนายจะสูงมากกว่าฉันนักแหละ ก็ไม่กี่เซ็นเองแหละว้า~ ที่ดูเหมือนสูงกว่ามากมายเค้ารู้หรอกว่าเสริมส้น”

     

    [เฮ้ย! นายมาคุ้ยรองเท้าบ้านฉันหรอ]

     

    “เปล๊า! ฮันคยองบอกมา”

     

    [หนอย ไอ้อาแปะขายปาท่องโก๋ มาแอบคุ้ยรองเท้าบ้านฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ]

     

    ทงเฮหัวเราะคิกคักเมื่อได้ยินเสียงสาปแช่งออกมาตามสายเพราะนานๆทีจะได้ยินฮยอกแจด่าฮันคยองทั้งๆที่เมื่อก่อนเอาอกเอาใจกัน ตัวเขาเองว่านิดว่าหน่อยก็ไม่ได้ เมื่อเงยหน้ามองนาฬิกาก็ต้องถอนหายใจเบาๆเมื่อพบว่าคุยกับฮยอกแจมานานมากเกินไปแล้ว เสียงใสบอกลาคนในสายก่อนจะกดวางแล้วกระแอมเรียกให้คนที่หลุดเข้าโลกส่วนตัวตื่นขึ้นมาเสียที เพราะเวลาที่กำลังจะบอกว่าห้าทุ่มทำเอาเขาอยากจะนอนเต็มทน แต่ทว่ากลับไม่มีใครได้ยินเจ้าตัวเลยต้องเดินไปใกล้แล้วกระแอมดังๆจนสะดุ้งกันทั้งคู่

     

    “โธ่! ทงเฮตกใจหมดเลย”

     

    “เดี๋ยวเหอะ!~ เดี๋ยวเรียกแหคิบอมมาจับปลาซะเลย”

     

    คยูฮยอนแยกเขี้ยวใส่พลางเอ่ยปากแซว ทำเอาคนที่กำลังเขินต้องคว้าหมอนขึ้นปาใส่เพื่อกลบเกลื่อนอาการหน้าร้อนผ่าวๆพลางชี้ไปยังนาฬิกากระต่ายสีขมพูที่แขวนไว้กลางห้องเพื่อบอกเวลาให้ไอ้ตัวใหญ่ของซองมินกลับไปนอนที่ห้องเสียที

     

    “ดึกแล้วไอ้หมาป่า กลับไปหลุมของนายได้แล้ว”

     

    “นี่ทงเฮ! พูดดีๆกับฉันมันจะตายมั้ยฮะ”

     

    “นายเคยสนใจฉันด้วยรึไง ไปๆคนจะหลับจะนอน วู้~

     

    คนตัวเล็กบู่ปากก่อนจะวิ่งหนีคนที่กางเล็บออกมาแล้วไล่กวดเขาไปทั่วห้อง เมื่อจับได้ก็ถูกจั๊กจี้เสียยกใหญ่ มือเล็กฟาดลงไปที่ไหล่หนาเพื่อให้หยุดแล้วก็เอามืออีกข้างปาดน้ำตาที่ไหลเพราะแรงจี้ที่ท้องทำเอาเขาขำจนหยุดไม่อยู่ ซองมินมองนาฬิกาอีกครั้งพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินไปสะกิดคนรักของตัวเองที่กำลังสนุกกับการแกล้งเพื่อนของเขา

     

    “ตัวใหญ่ กลับห้องไปเถอะ นี่มันก็ดึกมากแล้วนะ สงสารทงเฮด้วย ดูดินอนตัวงอไป

    หมดแล้ว”

     

    “เหอะ! เพราะตัวเล็กบอกหรอกนะถึงได้หยุด เป็นบุญของแกแล้วไอ้ปลา”

     

    แหม! ที่ตอนแรกล่ะมาชมว่าน่ารักกันนักหนา เพราะมีเมียขึ้นมาล่ะมองฉันขี้เหร่เลยนะไอ้บ้าเอ๊ย!

     

    “งั้นเค้ากลับห้องก่อนนะตัวเล็ก แล้วพรุ่งนี้จะมารับไปที่ตึก><!

     

    “ไม่ต้องหรอก เค้าเดินไปกับทงเฮได้ ใช่มั้ยทงเฮ?”

     

    “ช่าย~ ไม่ต้องแบกตูดใหญ่ๆของนายมาที่ห้องฉันหรอก ลำบากแทน!

     

    “เดี๋ยวคราวนี้ใช้เท้าแล้วนายจะรู้สึก”

     

    “โอ๊ะ!~ ซองมิน~~ ดูมั๊นดูมันหยาบคายกับฉันสิ”

     

    “เอาล่ะๆ ไปนอนเถอะ ดึกมากแล้ว ฝันดีนะตัวใหญ่”

     

    “อื้อ ขอรางวัลก่อนไปหน่อยสิ”

     

    “รางวัลอะไรล่ะ? ตัวใหญ่ทำอะไรดี?”

     

    “ก็อดทนที่ไม่ฆ่าสัตว์ไง เข้าห้องไปเลยไอ้นีโม่!

     

    “เออ!! ไปก็ได้วะ” คนถูกไล่กระแทกเท้าปึงปังเบาๆเพื่อเรียกร้องความสนใจเล็กๆก่อนจะเลี้ยวกลับมาแอบมองคู่รักสุดหวานที่กำลังยืนจูบกันอยู่หน้าห้องโดยไม่แคร์สายตาใคร ทงเฮส่ายหัวนิดๆก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอน เมื่อเห็นว่าซองมินเดินกลับเข้ามาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำก็อดแซวด้วยควาหมั่นไส้เสีนมิได้

     

    “แหม~ มีให้รางวัลกันด้วยนะ! ฉันล่ะสงสัยจริงๆคยูฮยอนยังปล่อยให้นายบริสุทธิ์ได้ยังไง”

     

    “ทงเฮ!!! เดี๋ยวก็ลากตกเตียงซะเลยนี่”

     

    “หน้าแดงหมดแล้วนะตัวเล็ก”

     

    “อ๊า~ หยุดแซวเหอะ! ฉันเขิน”

     

     

     

     

     

     

     

    “คุณน้าไม่ว่าอะไรใช่มั้ยครับที่พี่ฮีชอลจะหยุดเรียน”

     

    “จริงๆแล้วน้าว่ามันก็ไม่ดีหรอกนะที่จะต้องหยุดสามวัน แต่เห็นช่วงนี้ฮีชอลกลับมาแล้วหน้าตาดูเครียดเกิน แถมบางวันหลับอยู่ในห้องน้ำจนน้าต้องไปพาตัวออกมา ไปก็ดีเหมือนกันจ้ะ จะได้ไปคลายเครียด แต่เรื่องนี้ซีวอนต้องไปคุยกับฮีชอลดูอีกทีละกันนะ”

     

    “ขอบคุณครับ แล้วพี่ฮีชอลอยู่ข้างบนใช่มั้ยฮะ?”

     

    “จ้ะ ตามสบายนะ น้าว่าจะไปซื้อของซักหน่อย สิบเอ็ดโมงแล้วฮีชอลยังไม่ตื่นเลย ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนอนกี่โมง” ผู้เป็นแม่มองขึ้นไปบนบ้านอย่างเป็นห่วงก่อนจะส่งยิ้มเป็นเชิงอนุญาตให้คนที่นั่งอยู่ขึ้นไปบนห้องได้ ซีวอนเลยลุกขึ้นยืนแล้วโค้งตัวอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนไป เมื่อมาหยุดอยู่หน้าห้องก็ค่อยๆหมุนลูกบิดเพราะได้ยินมาว่าคนสวยยังหลับอยู่ เมื่อเดินเข้าไปก็เจอสภาพห้องที่หนังสือวางเกลื่อนกลาดไปหมดพร้อมด้วยเจ้าตัวที่นอนฟุบอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ ซีวอนส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจก่อนจะไปประคองร่างบอบบางให้ลุกขึ้นแล้วพาไปนอนที่เตียงอย่างแผ่วเบา

     

    “ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไงล่ะเนี่ย”

     

    ซีวอนบ่นเบาๆพลางเอื้อมมือไปปัดหน้าม้าที่ลงมาปรกหน้าของอีกฝ่าย ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินหาผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับคนที่ไม่รู้จักดูแลตัวเอง ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์แท้ๆแต่ต้องอ่านหนังสือจนดึกดื่น อะไรจะเครียดกับการเอนทรานซ์ขนาดนั้น

     

    “อื้อ.......เอ็มจีเท่ากับเอ็มวีกำลังสองส่วนอาร์....

     

    “หือ= = ขนาดหลับยังท่องออกมาเลย”

     

    “ไม่เอาแล้วคุณ.......”

     

    “คุณ? นี่พี่กล้าละเมอถึงมันต่อหน้าผมงั้นหรอ??”

     

    “คุณ.....ฉันจะสอบที่เดียว......กับนายละกัน”

     

    “ไม่อนุญาต! เหอะ~ ทำไมต้องสอบที่เดียวกับมันด้วย”

     

    “นายต้องอยู่กับฉันนะคุณ”

     

    ว่าจบมือบางที่วางอยู่บนท้องของตัวเองก็ยกขึ้นมากุมมือของอีกคนไว้ เกือบจะหลุดยิ้มด้วยความดีใจหากแต่ว่าต้องหุบยิ้มเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่ร่างบางกำลังละเมอถึงคือใคร ซีวอนทำหน้าตึงก่อนจะสะบัดมือออกมาทำให้คนที่กำลังละเมอค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย

     

    “หือ?....ใครวะ?? ซีวอน!!!

     

    “ขอบคุณที่ยังจำกันได้ ผมไม่ใช่คุณอะไรนั่น”

     

    เมื่อเห็นซีวอนน้ำเสียงนิ่งได้ขนาดนี้ก็ทำเอาวีนไม่ออก แต่ยังมิวายส่งเสียงตะกุกตะกักออกไปถามเป็นเชิงไล่ยิ่งทำให้คนฟังอารมณ์เสียขึ้นไปอีก

     

    “นะ....นายเข้ามาได้ยังไง คะ...ใครใช้ให้นายขึ้นมามิทราบ”

     

    “ใช่สิ! ผมไม่ใช่นิชคุณนี่ถึงจะได้เข้ามาได้ตามสบาย”

     

    “พูดอะไรของนาย แล้วทำไมนิชคุณถึงเข้ามาเกี่ยวด้วย??”

     

    “อ้อ! นิชคุณนี่แตะไม่ได้เลยใช่มั้ยฮะ”

     

    “เดี๋ยวๆซีวอน ฉันเพิ่งตื่นนะ อย่าเพิ่งมาประชดประชันได้มั้ย ตามไม่ทันแล้วนะ อ๊า! เวรเอ๊ย!!~ ทำไมปวดหัวงี้วะ” คนสวยสบถลั่นพลางกุมหัวหลังจากที่ลุกขึ้นนั่งได้ คนที่กำลังงอนเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะทำเป็นคอแข็งต่อ แต่พอเสียงฮีชอลร้องหนักๆเข้าก็ต้องหันไปดูอาการอย่างช่วยไม่ได้

     

    “เป็น....เป็นอะไรน่ะพี่”

     

    “ไม่รู้ รู้แต่ว่าปวดหัว สงสัยเมื่อคืนอ่านเยอะไปหน่อย”

     

    “ทำไมพี่ทำแบบนี้นะ เรียนเครียดเกินไปแล้วนะรู้รึเปล่า ดีนะที่ไม่มีไข้ เดี๋ยวผมลงไปเอายามาให้กิน”

     

    ว่าจบร่างสูงก็เดินออกไปนอกห้องทำเอาคนที่นั่งปวดหัวอยู่ก็หัวเราะออกมาเบาๆ ที่ทำแบบนี้ก็เพราะไม่อยากให้ซีวอนพูดจาไม่รู้เรื่องออกมา บวกกับอาการมึนหัวนิดๆเพราะลุกขึ้นมานั่งเร็วไปหน่อยเลยทำให้เผลอร้องออกไปอย่างช่วยไม่ได้ พอเห็นอาการท่าทางน่าหมั่นไส้ของคุณชายก็เลยขอโอกาสแกล้งต่อไปเลยก็แล้วกัน

     

    ช่วยไม่ได้นะซีวอน~ อยากทำตัวน่าแกล้งทำไมกัน~~

     

    พอได้ยินเสียงเปิดประตูห้องเลยแกล้งทำเป็นร้องโอดโอยต่อ คนที่เป็นคุณชายยกกล่องยาขึ้นมาทั้งชุดพร้อมกับน้ำแก้วหนึ่ง พอกล่องยาวางลงที่เตียงเจ้าตัวเลยเกิดอาการตกใจลืมปวดหัวไปทันที

     

    “เฮ้ย~~ แบกขึ้นมาทำไมทั้งกล่องเนี่ย”

     

    “ก็.....ก็ผมไม่รู้นี่ว่าต้องกินอันไหน อันไหนคือยาแก้ปวดหัวล่ะ?”

     

    “อ่า.......นายไม่เคยหยิบยากินเองเลยรึไง เคยได้ยินมั้ยพาราเซตามอลน่ะ”

     

    “เคยได้ยิน แต่ไม่เคยหยิบยากินเอง ปวดหัวทีไรก็เรียกหมอมาดูตลอด แล้วนี่พี่ไม่ปวดหัวแล้วหรอ”

     

    “ฉันว่าฉันกำลังจะปวดหัวเพราะพฤติกรรมคุณชายของนายเนี่ยแหละ ทำอย่างนี้แล้วเมื่อไหร่จะเป็น เผื่อนายอยู่ตัวคนเดียวแล้วจะทำยังไง ไม่มีคนมาคอยดูแลนายตลอดเวลาหรอกนะ”

     

    “พี่พูดเหมือนพี่อีทึกเลย”

     

    “เอาล่ะๆ จำไว้บ้างก็ดี พาราน่ะหาไม่ยากหรอก เป็นแผงสีขาวแบบนี้แล้วเวลากินกินครั้งละสองเม็ด”

     

    “แต่ด้านหลังเขียนไว้ว่าเม็ดเดียวก็ได้”

     

    “สำหรับเด็กต่ำกว่าสิบสอง นายแหกตาดูซะบ้างสิเจ้าบื้อ”

     

    “โหย~~ ผมว่าพี่ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะมั้ง นี่คิดจะแกล้งกันใช่มั้ยเนี่ย”

     

    “เออน่ะสิ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอเปลี่ยนไอ้นิสัยคุณชายหน่อยเหอะ ถ้านายไม่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมนั้นๆล่ะก็นายตายแน่”

     

    “ผมก็อยู่สภาพแวดล้อมดีๆทั้งนั้นแหละน่า จะไปทำไมแย่ๆ ไม่ต้องเบี่ยงประเด็น มาให้ผมลงโทษซะดีๆ เอาความรู้สึกของคนอื่นมาล้อกันเล่นแบบนี้ได้ยังไง”

     

    พอได้ยินว่าความรู้สึกก็ทำเอาคนสวยหน้าซีดทันที ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะโดนซีวอนพูดอะไรใส่แบบนี้ แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยขอโทษอะไรก็โดนร่างสูงก้มลงมาฉกชิงความหอที่แก้มไปอย่างรวดเร็วจนหน้าแดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกผิดที่เกาะกุมใจเมื่อครู่ถูกสะบัดทิ้งทันที

     

    “หนอย~ ไอ้หื่นชเว! คิดว่าจะทำอะไรตามใจชอบแบบนี้ได้ยังไง”

     

    “อ่า.....ปากพี่เหม็นมากเลย ไปแปรงฟันซะไป”

     

    “ไอ้เด็กบ้า!!!

     

    หลังจากที่ไล่ให้แขกผู้มาเยือนห้องออกไปได้ก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพพร้อมกับเดินลงมาชั้นล่างก็พบแม่และเจ้าตัวปัญหาคุยกันด้วยท่าทางสนุกสนานทำเอาแอบเบ้ปากนิดๆด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ ฮีชอลกระแอมไอก่อนจะเดินมานั่งลงที่โซฟาแทรกกลางระหว่างแม่ของตัวเองกับคุณชายขี้ประจบ

     

    “แม่ฮะ~ ผมหิว”

     

    “ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะฮีชอล ดึกดื่นไม่รู้จักนอน อ่านหนังสือไม่เป็นเวล่ำเวลา แล้วที่ปวดหัวน่ะหายรึยัง?”

     

    “หือ?? ปวดหัวหรอ?? อ้อ~ หายแล้วครับแม่ ทำไงได้ล่ะ เด็กเตรียมเอนท์นะ”

     

    “ไม่ต้องมายกข้ออ้างเลย มีเวลาอีกตั้งเทอม หักโหมแบบนี้ได้ยังไง นี่ซีวอนบอกว่ากลุ่มของเขากำลังจัดทริปไปเที่ยวไทย ได้ราคาถูกด้วยเพราะไปเป็นกลุ่ม แม่ว่าแม่จะให้ไปด้วย”

     

    “ห๋า??”

     

    “ไม่ต้องมาหงมาห๋า หยุดเรียนไปเลยสามวัน แม่ไม่อยากให้เรียนหนักแบบนี้อีกแล้ว ถือซะว่าพักผ่อน เห็นว่ามีรุ่นเดียวกันฮีชอลสองคนใช่มั้ยจ๊ะ”

     

    “ใช่ครับคุณน้า”

     

    “งั้นดีเลย ซีวอน น้าฝากลูกตัวยุ่งนี่ไปด้วยนะ ส่วนเรื่องค่าตั๋วเครื่องบิน น้าจัดการเอง”

     

    “???” << ส่วนฮีชอลยังไม่เกทอะไรทั้งนั้น= =

     

     

     

     

     

    หนึ่งวันก่อนไปเที่ยว

     

    “จ๊ะเอ๋? คิบอม??” คนตัวเล็กชะโงกหน้าเข้าไปข้างในก่อนจะมองซ้ายขวาเจอคนที่ตัวเองมาพบนอนอยู่บนเตียง ทงเฮปิดประตูเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปใกล้พลางหยิบอะไรที่ยาวๆติดไม้ติดมือไปอย่างเช่นไม้บรรทัดที่วางอยู่บนโต๊ะ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็เว้นระยะห่างไว้พอสมควรแล้วเอาไม้บรรทัดจิ้มเบาๆเข้าที่หน้าอกของคนที่นอนหลับ เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวกระตุกยิ้มเล็กๆทงเฮก็ถอยออกห่างพร้อมกับคว้าหมอนที่โซฟาใกล้ๆปาเข้าใส่

     

    “ทำอะไรของนาย”

     

    “เปล่าฮะ เห็นคิบอมนอนก็เลยไม่อยากปลุกด้วยมือ”

     

    “แล้วทำไมไม่ปลุกด้วยปาก”

     

    -o-///// พะ...พูดอะไรน่ะ!

     

    “ก็เปล่า แล้วมาทำอะไร?”

     

    ร่างสูงเบี่ยงประเด็นก่อนจะเดินเข้าไปคว้าเอวคนตัวเล็กมานั่งลงบนตักของตัวเอง ทงเฮดิ้นเล็กน้อยๆก่อนจะหยุดดิ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมาที่ห้องนี้ทำไม

     

    “ผมนึกออกแล้ว! พรุ่งนี้เราก็จะไปไทยกัน คิบอมเก็บของรึยัง?”

     

    “นิดหน่อย”

     

    “ไหน? ไอ้นิดหน่อยที่ว่าน่ะอยู่ไหน??”

     

    ทงเฮหันหน้าไปหาร่างสูงก่อนจะประกบหน้าแล้วเร่งถาม เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องยังไม่เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าเลยซักใบ ไม่เหมือนกับของเขาที่เตรียมนั่นเตรียมนี่ไปเยอะทั้งๆที่ไม่ใช่คนจุกจิก แต่ว่าของสารพัดอย่างที่อยากให้เอาไปเลยจำเป็นจะต้องใช้กระเป๋าใบที่ใหญ่เสียมิได้

     

    “นั่งแบบนี้นายไม่กลัวฉันปล้ำรึไง”

     

    “งั้นลงก็ได้” เมื่อเห็นว่าร่างบางทำท่าจะถอยลงจากตัวของเขาคิบอมเลยโอบเอวไว้ก่อนจะรั้งเข้ามาแนบชิดทำเอาใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อขึ้นมาด้วยความเขินก่อนจะทุบไหล่ของคนชอบแกล้งเบาๆแล้วบ่นมุบมิบว่าไม่เล่นพลางเอามือดันใบหน้าหล่อที่กำลังเลื่อนเข้ามาใกล้ให้ออกไป

     

    “ผมรู้หรอกน่ะว่าคิบอมยังไม่ได้จัดกระเป๋า สารภาพมาซะดีๆ”

     

    “ก็บอกว่าจัดนิดหน่อย”

     

    “ไอ้นิดหน่อยของคิบอมนี่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวรึเปล่าเถอะ”

     

    “แสนรู้นะเรา” เมื่อโดนคิบอมงับที่ที่สันจมูกทำเอาทงเฮดิ้นแล้วลงจากตักของอีกคนทันทีรอยยิ้มแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าหล่อจนทำให้ตาตี่ คนตัวเล็กก็ยิ้มบ้างก่อนจะหวนไปนึกถึงเมื่อก่อนที่ดีแต่แสยะยิ้มเล็กๆจนทำให้หงุดหงิดอยู่หลายรอบ เมื่อเห็นว่ามือหนาของคิบอมกำลังจะรวบตัวเขาเข้าไปอีกครั้งเจ้าตัวก็กระโดดถอยห่างอย่างฉิวเฉียดแล้วปั้นหน้าเครียด

     

    “ไม่เล่นแล้วคิบอม! ไปพรุ่งนี้แล้วนะ ต้องไปถึงที่อินชอนตอนตีห้าด้วย ถ้าไม่รีบจัดคิบอมอดไปแน่”

     

    “งั้นหรอ.......เหมือนจะน่าเสียดาย”

     

    “บอกไว้ก่อนนะว่าผมไป ไม่ยอมอยู่กับคิบอมหรอก ค่าตั๋วก็เสียไปแล้ว”

     

    “ตั้ง 4 คืน 5 วัน คงมีเวลาทำอะไรอีกเยอะ ไปเก็บเสื้อผ้ากัน”

     

    สีหน้าเจ้าเล่ห์ที่โผล่ออกมาทำเอาคนตัวเล็กนึกกลัวก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้าด้วยกัน หลังจากที่เปิดออกมาทงเฮก็ต้องส่ายหน้าอีกรอบเมื่อพบว่ามันรกไม่มีชิ้นดี เห็นเงียบๆขรึมๆแบบนี้นึกว่าจะสำอางเหมือนคุณชายทั่วไป กลับกลายเป็นว่าซกมกยิ่งกว่าเขาเสียอีก คิบอมหยิบนู่นหยิบนี่ออกมาจากตู้เสื้อผ้าใบโตก่อนจะกองๆไว้ที่พื้นแล้วสั่งให้คนที่ยืนนิ่งอยู่พับเข้ากระเป๋า

     

    “พับให้ด้วย”

     

    “ตู้ของคิบอมมันรกบัดซบจริงๆเลย” ถึงจะบ่นอย่างนั้นแต่ก็ย่อตัวลงไปนั่งกับพื้นแล้วพับเสื้อทีละตัวอย่างบรรจง เพราะที่บ้านเปิดเนอสเซอรี่เลยทำให้ทงเฮต้องช่วยแม่พับผ้าอ้อมของเด็กบ่อยๆ เมื่อคิบอมรื้อเสื้อผ้าออกมาเสร็จก็ย่อตัวลงมาช่วยร่างบางอีกคน

     

    “ผมว่าคิบอมจ้างแม่บ้านซักคนเถอะ ตู้เสื้อผ้ามันรกไม่ไหวจะเคลียร์แล้วจริงๆ”

     

    “งั้นนายมาทำให้ฉันมั้ยล่ะ”

     

    “ไม่ล่ะ ผมไม่มีความอดทนพอ เหมือนตู้ของคิบอมจะเล็กนะใหญ่กว่าเตียงนอนของผมแบบนี้จ้างแม่บ้านนั่นแหละเข้าท่าที่สุด”

     

    “นายก็มานอนที่ห้องฉันเกือบทุกวัน...........”

     

    “ไม่ใช่นะ! คิบอมอย่าพูดมั่วๆสิ แค่ศุกร์เสาร์อาทิตย์เหอะ ///

     

    “บอกแล้วนะว่าอย่าหน้าแดงให้ฉันเห็น”

     

    “งั้นผมกลับห้องก็ได้” ทงเฮทำท่าจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ถูกคิบอมคว้าไว้อีกครั้งเจ้าตัวเลยพยามจะทำหน้าให้เป็นปกติที่สุดแต่ก็ยังมิวายแอบหน้าขึ้นสีเล็กๆ คิบอมเลยถือโอกาสฝังจมูกลงบนแก้มแดงๆนั่นด้วยความหมั่นไส้

     

    “ก็แค่หอมแก้ม ไม่หวงใช่มั้ย”

     

    “มากกว่านี้คิบอมก็ทำไปแล้ว ยังจะมาพูดแบบนี้อีก”

     

    “ไม่ไหวแล้วทงเฮ นายยั่วเกินไปแล้ว”

     

    “ไม่เอานะคิบอม!! จัดเสื้อผ้าก่อนสิ จะมาหื่นทำไมตอนนี้เนี่ย”







    Talk คันๆ(?)

    กุ๊กกิ๊ง(เสียงอะไร?) 55+ อย่าไปสนใจค่ะ มันเป็นอารมณ์ของตังค์ในตอนนี้ ก๊ากกก

    ความรู้สึกในการแต่งตอนนี้ อืมมม ไม่คิดว่าเฮจะกวนประสาทได้ขนาดนี้ หรือเป็นเพราะว่าอ่าน Slam Drank มากเกินไปก็ไม่รู้เลยทำให้ติดออกมาเพราะทันทีที่อ่านจบก็แต่งปั๊ปเลย ก็เป็นฉากน่ารักๆกันไปสำหรับคยูมินเฮ เอ๊ะ!~ไอ้คนสุดท้ายนี่รู้สึกจะเป็นเพียง(ก้าง)ปลาเท่านั้น ตอนแรกคยูอาจจะไม่กวนประสาทมาก แต่ที่วางคาแรกเตอร์ไว้เป็นคนที่กวนประสาทพอควรค่ะ- - อาจจะเพิ่งมาออกลายหลังๆเพราะไม่ต้องวางมาดหมาป่าแสนดี(?)จีบกระต่ายตัวไหนต่อไปเพราะมีอยู่แล้วที่ตัวเอง ก๊ากกก ถ้าถามว่าคยูมินอาจจะมีอุปสรรคมั้ยก็ต้องตอบไว้เพียงว่าไม่แน่ใจเพราะอาจจะให้เป็นตัวน่ารักของเรื่อง หรือไม่ก็อาจจะมีเล็กๆน้อยๆเพื่อความสมจริง^^

    แต่งๆไปแล้วมีความรู้สึกว่า ทำไมมันวนกลับมาที่วอนซินแล้วอีกแล้ว(วะคะ?) เพราะจำได้ลางๆว่าเพิ่งแต่งไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่พอเลื่อนๆไปดูก็หายไปแล้วเหมือนกัน เลยขอวกกลับมาที่วอนซินอีกครั้ง ส่วนเรื่องสูตรอย่าถามตังค์ว่ามันคือสูตรของอะไร เพราะตังค์ก็ไม่รู้เหมือนกัน

    นั่นแหน่~ คิดอะไรกันอยู่สำหรับตอนคิเฮ ตังค์แต่งเอ็นซีติดๆกันไม่ไหวหรอกนะ เดี๋ยวเลือดหมดตัวซะเปล่าๆ ก็กลายเป็นว่าตัดเข้ากำแพงไปละกัน โฮะๆ(การทรมานรีดเดอร์เป็นสิ่งที่ไรเตอร์ควรกระทำ ก๊าก) ฉากกุ๊กกิ๊กน่ารักของคิเฮก็ยังหวานได้เหมือนเดิมจนตังค์นึกเลี่ยนขึ้นมาซะแล้ว- - น่าจะไปแต่งเครียดๆคังทึกน่าจะดีกว่านะ 55+

    ส่วนเรื่องเอ็นซีที่ไทยนั้น ตังค์ขอดูคอมเม้นต์ก่อน ถ้ารีดเดอร์ทำตัวน่ารัก ไรเตอร์ก็ทำตัวน่ารักตอบแทน^^ ฉะนั้นคงรู้กันนะคะว่าต้องทำตัวกันยังไง ดีไม่ดีอาจจะมากันทุกคู่(ป๊าดดด ไม่ต้องนอนกันพอดี หมายถึงตัวของตังค์เองอ่ะนะ= =)

    ไปกันตั้งห้าวันแน่ะ! จะให้แต่งตอนเดียวก็คงไม่จบหรอก แล้วขอกระซิบนิดนึง จะมีตัวประกอบที่ทุกคนรู้จักกันดี โผล่มากุ๊กกิ๊กกับเฮให้บอมหึงเล่นแน่นอน รอดูนะคะว่าเป็นใคร เดี๋ยวอ่านแล้วจะต๊กกะใจ(วิบัติเพื่ออารมณ์ ขออนุญาตไว้ ณ ที่นี้)ก็ขอบอกไว้ว่าให้ไปทำใจไว้ก่อนเพราะเป็นคนที่รีดเดอร์คาดไม่ถึง ก๊ากกก     ลาก่อนทุกคน^^~~

     


    Qreaz. 10 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×