ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♂♂Will Love , So I Love [Kihae,etc.]

    ลำดับตอนที่ #23 : Will Love , So I Love[Part19]=อาซิ้มกับอาแปะ

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 53











    19

    อาซิ้มกับอาแปะ

     

     

     

    “ว่างมากนักรึไง”

     

    น้ำเสียงแข็งๆดังออกมาจากปากบางได้รูป ก่อนจะตวัดสายตาที่บ่งบอกว่ารำคาญมากเพียงใดไปยังคนที่นั่งยิ้มบางๆข้างเขา ฮยอกแจถอนลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีด้วยความรำคาญ ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการให้ฮันคยองที่มาหาเขานั้นกลับๆไปเสียที มาอยู่ที่นี่คอยดูแลแทคแคร์จนน่ารำคาญ ผมไม่ได้ท้องซักหน่อย บอกแล้วว่าไม่ต้องรับผิดชอบ!

     

    “อือ แล้วนายก็ไม่ต้องไปทำงานแล้วนะ ฉันลาออกให้หมดแล้ว”

     

    “นี่! ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน แล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟวะเนี่ย!

     

    “ฉันออกให้”

     

    “ฮันคยอง ฉันบอกแล้วไงว่าไม่จำเป็นจะต้องทำอะไรแบบนี้ แค่ต่างคนต่างอยู่ไม่เจอไม่รู้จักกันแบบเมื่อก่อนจะสบายใจมากกว่า”

     

    “นายแน่ได้ยังไงว่าก่อนที่เราจะคุยกัน ฉันไม่เคยเจอนาย”

     

    “หมายความว่ายังไง?”

     

    “นายคิดว่า ทำไมฉันถึงตามไปรับไปส่งคอยดูแลนายทั้งๆที่เราเจอกันแค่แปปเดียว”

     

    “กะ...ก็เพราะว่าฉันเป็นเพื่อนของทงเฮไง”

     

    “คิดผิดแล้วฮยอกแจ อย่างนี้ต้องโดนทำโทษนะรู้มั้ย”

     

    ร่างบางกำลังจะอ้าปากเถียงแต่ก็โดนริมฝีปากของอีกคนปิดลงมาเสียก่อน ด้วยความไม่คุ้นทำเอาฮยอกแจดิ้นเร่าๆอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนก่อนจะแกล้งกัดริมฝีปากของคนฮันคยองเพื่อให้ถอนออกไป

     

    “เจ็บนะ”

     

    “อย่ามาฉวยโอกาสกัน ฉันยังไม่ชินนายก็รู้ ตกลงจะบอกมาได้รึยังว่าทำไมนายถึงตามรังควานฉันแบบนี้”

     

    “เรียกว่าตามรังควานเลยเหรอ- -* เอาเถอะๆ นายรู้ใช่มั้ยว่าคิบอมจับตามองทงเฮมานานเท่าไหร่ ก็เท่ากับที่ฉันคอยมองนายเท่านั้นนั่นแหละ”

     

    “ไม่เข้าใจอยู่ดี”

     

    “ฉันเจอนายมานานเกินกว่าที่นายจะรู้ตัวแล้วฮยอกแจ คอยมองการกระทำของนายตลอด ดูแลนายห่างๆเพราะไม่อยากให้ไก่ตื่น” คนฟังพยักหน้าเบาๆพลางหลับตาคิดตามเพื่อทำความเข้าใจก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายที่ดูขัดหูยังไงๆชอบกล เมื่อแปลออกมาได้เจ้าตัวก็ลืมตาแล้วยกมือค้างเตรียมฟาดลงที่ไหล่หนาทันที

     

    “อา....นายนี่มันเหมือนอาซิ้มที่ไม่ได้มีอะไรกับอาแปะมานานแล้วนะ”

     

    “ฮันคยอง! ที่ฉันมีอะไรๆกับนายไม่ได้หมายความว่านายจะมาล้อฉันเล่นแบบนี้ได้นะ”

     

    “เอ้า! พูดซะเต็มปากเต็มคำเลยฉันตามอารมณ์นายไม่ทันแล้วนะเนี่ย”

     

    คนที่ถูกล้อว่าเป็นอาซิ้มกัดริมฝีปากด้วยความขัดใจก่อนจะเหวี่ยงมือที่ค้างไว้ลงบนไหล่ของคนที่พูดมากไม่เหมือนเมื่อก่อน แต่ว่าข้อมือบางถูกคว้าไว้ก่อนจะตามด้วยสีหน้ากวนประสาทของร่างสูงที่จะเห็นได้ยากนัก ปกติฮันคยองจะทำแต่สีหน้าอ่อนโยนหรือไม่ก็ยิ้มบางๆเห็นด้วยกับทุกการกระทำของเขาเท่านั้น

     

    อิธ่อ! ไอ้เราก็นึกว่าจะโขกสับมันได้

     

    “ฉันชอบนายนะ”

     

    “ไม่ได้เข้ากับหน้าและบรรยากาศเล้ยยยย อ๊ะ? นี่นายบอกชอบ???”

     

    “อาซิ้มแท้ๆ-_- ฉันชอบนาย ชัดมั้ย อีฮยอกแจ”

     

    สายตาจริงจังที่มองมาทำเอาคนฟังอดหน้าแดงไม่ได้ ฮยอกแจทำเป็นไม่สนใจก่อนจะหันไปพยายามบิดมือออก ฮันคยองอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกระชากข้อมือบางให้ร่างเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด คนถูกเอาเปรียบดิ้นน้อยๆแล้วพยายามเตือนสติตัวเองว่ายังไงก็แมนเพราะไม่อย่างนั้นใจจะยิ่งเต้นแรงขึ้นไปทุกที

     

    แต่ดูแล้วยังไง๊ยังไง บทสนทนาเมื่อครู่ก็ทำเอาแมนไม่ขึ้นแล้วล่ะ- -

     

    “แล้วตกลงว่านาย จะยอมรับฉันเป็นสามีได้รึยัง”

     

    “สามีบ้าอะไรอย่าพูดสั่วๆนะ ปล่อยแขนฉันได้แล้วเจ็บ”

     

    “ก็เรามีอะไรกันแล้ว ฉันที่เป็นรุกก็ต้องเป็นสามี ส่วนนายเป็นรับก็ต้องเป็นภรรยา ผิดธรรมเนียมตรงไหน? แล้วพูดสั่วๆยังไงในเมื่อพูดถูกต้องทุกประการ”

     

    “ไอ้ฮันบ้า! ฉันอยากเป็นรุกมากกว่ารับนะ”

     

    “รุกเค้าไม่ดิ้นหรือโวยวายเวลาที่อีกคนถูกเนื้อต้องตัวหรอก แถมจะดีใจด้วยซ้ำไป......เข้าใจมั้ยครับ คุณภรรยา

     

    “อะ....ไอ้มังกรบ้าเอ๊ย!

     

     

     

     

     

     

    ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆผลิกตัวไปทางด้านซ้ายช้าๆเพราะยังเจ็บระบมที่สะโพกไม่หาย บทรักเมื่อคืนทำเอาเช้านี้แทบไม่มีแรงจะลุกขึ้น พอผลิกตัวได้ก็ลืมตาขึ้นมองก่อนจะสะดุ้งเล็กๆเมื่อเจอใบหน้าหล่อที่ยังคงหลับตาพริ้ม คนตัวเล็กแย้มยิ้มเบาๆก่อนจะลุกขึ้นนั่งพลางเบ้ปากเล็กน้อย

     

    เมื่อคืนคิบอมมัน เอา เบาซะที่ไหนล่ะ

     

    ป๊าด!! พูดเองก็เขินเอง>////<

     

    เมื่อลุกขึ้นนั่งได้ก็เอื้อมมือไปเกลี่ยหน้าม้าของคนที่กำลังหลับไม่รู้เรื่องแล้วยิ้มกว้างๆอีกรอบพลางหันไปมองแขนที่พาดอยู่ที่เอวของตัวเองแล้วต้องยกออกไปเพราะความหนักของมันทำเอารวดร้าวไปถึงสะโพกพลางคิดไปว่าเมื่อคืนไม่น่ายั่วคิบอมเพื่อสนองนี้ดของตัวเองเล้ยย ดูสิเนี่ย จะลุกไปอาบน้ำก็ปวดกันแทบจะทรุดอยู่แล้ว

     

    “โอ๊ะ!.....” เมื่อลุกขึ้นยืนทงเฮก็เซน้อยๆก่อนจะโดนคนที่นอนอยู่บนเตียงรั้งเอวไว้ให้ลงไปนอนเหมือนเดิม แรงกระแทกถึงจะไม่แรงมากแต่ก็ยังรู้สึกเจ็บทำเอาคนตัวเล็กไม่อยากลุกไปไหนอีก

     

    “ยังเจ็บอยู่ไม่ใช่รึไง”

     

    “กะ....ก็.....อื้อ แต่ผมอยากอาบน้ำ ////” จู่ๆก็หน้าแดงอย่างไม่มีสาเหตุเมื่อสมองวกกลับไปคิดเรื่องเมื่อคืนอย่างไม่ได้ตั้งใจ คิบอมดีดหน้าผากของคนลามกเบาๆแล้วปัดหน้าม้าออกเบาๆ

     

    “ไม่ไหวก็อย่าฝืนเลย วันนี้ก็วันหยุด”

     

    “เหนียวตัวอ่า”

     

    “หรือจะให้ฉันอาบให้”

     

    “ไม่เป็นไรฮะคิบอม! ผมนอนรอให้หายปวดก่อนก็ได้”

     

    คนตัวเล็กสวนกลับแทบจะทันทีทันใดทำเอาคิบอมอมยิ้มเล็กๆก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากอีกรอบทำเอาคนถูกจูบถึงกับม้วนหลายตลบด้วยความเขินก่อนจะนอนนิ่งๆให้คนข้างๆกอดแต่โดยดี

     

    “ทีหลังนะทงเฮ.....จะไปไหนมาไหน ต้องบอกฉันก่อน”

     

    “อ่า....ครับ”

     

    “แล้วที่สำคัญ ถ้าหากไม่มีความจำเป็น ก็อย่าออกไปกับมันอีก ฉันไม่ชอบ”

     

    “ได้......ได้ครับ”

     

    “ขอโทษทีนะ ที่อารมณ์เสียใส่”

     

    “ไม่เป็นไรฮะ”

     

    “ฉันรักนายนะ”

     

    “อ่า....ครับ ห๊ะ!?! เมื่อกี้ คิบอมว่าอะไรนะ” ทงเฮลุกขึ้นนั่งอีกครั้งก่อนจะเอามือขยี้หูตัวเองราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน คิบอมลุกขึ้นนั่งตามก่อนจะตีหน้าขรึมแล้วก้มหน้าลงไปใกล้

     

    “ของดี มีครั้งเดียวนะเจ้าปลา”

     

    “คะ....คิบอมอ่ะ! ผมอยากได้ยินอีก”

     

     

     

     

     

     

    “คุณยายฮะ~ ผมช่วยนะ” หญิงชราที่ถูกเรียกหัวมายิ้มบางๆให้กับคนขี้อ้อนแล้วก็ยื่นตระกร้าที่อยู่ในมือให้กับอีทึกที่ยืนยิ้มร่า ในสวนผลไม้ตอนเช้ามืดแบบนี้เป็นอะไรที่ร่างบางไม่เคยทำมาก่อน ยิ่งได้ยินจากเด็กในบ้านว่าคุณยายออกมาเก็บส้มด้วยแล้วล่ะก็ เลยทำให้เจ้าตัวอดที่จะระรี้ระริกอยากออกมาเสียมิได้

     

    และแน่นอนว่า คังอินก็ตามมาออกมาทั้งๆที่ยังอ้าปากหาวหวอดๆ

     

    แสงแดดอ่อนๆที่ทอลงมายามเช้าทำเอาหญิงชราต้องหันไปสะกิดคนที่กำลังจ้องส้มอย่างเอาเป็นเอาตายให้หันมามอง แต่เมื่อร่างบางไม่สนใจทำเอาคนที่ยืนมองอยู่วงนอกอย่างคังอินต้องเดินเข้าไปแล้วแตะลงที่ไหล่ของเพื่อนเบาๆเพื่อให้หันไปตามที่คุณยายของเขาบอก

     

    “หือ? อา.......สวยจัง”

     

    “ใช่มั้ยล่ะจองซู”

     

    “ฮะคุณยาย^^ ส้มผลนี้ใช้ได้รึเปล่า??”

     

    “ถูกต้องแล้ว ยายว่าได้เยอะแล้ว เรากลับกันเถอะ ป่านนี้มินซูคงยกกับข้าวออกมาเตรียมไว้แล้วล่ะ ยายมีของโปรดของเธอด้วยนะ”

     

    “แหม~ คุณยายน่ารักจัง” อีทึกยิ้มอีกครั้งก่อนจะเดินโอบหญิงชราเข้าตัวบ้าน ส่วนคังอินก็ทำเพียงส่ายหัวน้อยๆเมื่อใบหน้าสวยหันมาคล้ายจะเยาะเย้ยเขา รอยยิ้มบางๆแต่งแต้มบนใบหน้าของร่างสูงเมื่ออีทึกหันกลับไปให้ความสนใจกับผู้ที่เป็นยายของเขาต่อ

     

    “มินซู นายจะไปไหนล่ะ ไม่มานั่งด้วยกันหรอ? ปกติก็กินเป็นเพื่อนคุณยายนี่”

     

    “ไม่เป็นไรหรอกฮะพี่จองซู^^ พี่ยองอุนมาแล้ว พี่เองก็มาด้วย ฉะนั้นผมไปดีกว่าฮะ”

     

    “ไม่ต้องหรอกมินซู นั่งกินด้วยกันนี่แหละ” เสียงประกาศิตจากผู้อาวุโสทำเอาคนที่มีฐานะเพียงเด็กรับใช้ในบ้านต้องยกจานมานั่งทานข้าวด้วยกันอีกคน คังอินไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาแต่รังสีที่แผ่ขยายไปทั่วอาณาบริเวณทำเอาอีทึกต้องกันไปมองเพื่อนที่ทำหน้าอึมครึม(?)เล็กน้อยก่อนจะหันไปตักกับข้าวเอาอกเอาในคุณยายที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ

     

    “เป็นอะไรไปยองอุน นายแผ่รังสีบัดซบๆนี่ออกมาทำไม-_-

     

    “เปล่า กินข้าวต่อไปเถอะ” ร่างสูงเบี่ยงประเด็นก่อนจะพยายามเก็บรังสีนี่ให้พ้นร่างบางไม่งั้นมีหวังทะเลาะกันเพราะคาดคั้นไม่ได้อีกแหงๆ แต่รังสีที่อีทึกว่าบัดซบนั้นก็ถูกปล่อยออกมาอีกครั้งเมื่อมินซูตักกับข้าวให้กับคนสวยที่ไม่ยอมกินข้าวเพราะมัวแต่โฟ่วไม่หยุด

     

    “ยองอุน- - ฉันว่านายต้องไม่พอใจอะไรแน่ๆเลย”

     

    “อืม นายชักจะประจบยายฉันเกินไปแล้วนะ”

     

    “อ๊ะแหม~ ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง ของอย่างนี้ มันใครดีใครได้นะ^^~

     

    ว่าจบเจ้าตัวก็ไม่ได้ใส่ใจก่อนจะหันไปเอาอกเอาใจมากกว่าเดิมทำเอาร่างสูงถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่แต่ทว่าไม่มีใครสังเกตเห็น เมื่อไหร่กันนะอีทึก.....ที่นายจะมองเห็นฉันซักที

     

    เมื่อกินข้าวเสร็จ อีทึกเลยขอตัวออกมาเพื่อไปเดินเล่นที่สวนผลไม้อีกรอบโดยที่ไม่ลืมพ่วงเพื่อนสนิทหน้าตายออกมาด้วยกัน อากาศที่ไม่เย็นและไม่ร้อนทำให้ร่างบางยอมใส่เสื้อแขนสั้นออกมาเดิน คังอินที่เดินตามด้านหลังก็ทำเพียงแค่มองคนที่ตัวเล็กกว่าหลั่นล้าไปตามอารมณ์ของเจ้าตัวที่จะดีเหลือเกินตามสภาพอากาศ

     

    “นี่! ส้มพวกนี้ อีกนานมั้ยกว่าจะได้เก็บ”

     

    “ไม่รู้สิ ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่สีแบบนี้อีกไม่นานแล้วล่ะ”

     

    ร่างบางพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะละมือจากผลส้มแล้วเดินต่อเข้าไปในสวน คังอินมองแผ่นหลังของเพื่อนสนิทแล้วก็ได้แต่นึกถอนใจที่ไม่ยอมบอกความรู้สึกของตัวเองเสียที คำพูดของพนักงานที่เกมเซ็นเตอร์กลับมาหลอกหลอนเขาครั้งแล้วครั้งเล่าและมีหลายครั้งที่เกือบเผลอกระชากแขนเล็กนั่นให้หันมามองกันแล้วรับรู้ถึงความในใจของตัวเองเสียที

     

    มองข้ามฉันไปทำไม.....จองซู

     

    คนข้างนายคนนี้....มีสิทธิ์แค่คำว่าเพื่อนใช่มั้ย

     

    “ยองอุน! ยองอุน!! เหม่ออะไรน่ะ”

     

    “เหม่อ? อ้อ! เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร เดินต่อไปสิ”

     

    “มาเดินข้างๆฉันนี่มา เดี๋ยวนายหยุดเดินอีก”

     

    ว่าจบก็คว้าแขนของร่างสูงมาคล้องไว้ก่อนจะดึงให้เดินไปข้างๆกัน ปากเรียวบางขยับไม่หยุดทำเอาคังอินเหม่อมองด้วยความเผลอ ความรู้สึกอยากสัมผัส อยากเป็นเจ้าของประดังเข้ามาจนทำให้หยุดเดินอีกครั้ง เมื่อร่างบางหันมาหวังจะต่อว่าอีกรอบริมฝีปากหนาที่นานๆจะเปิดออกก็ประกบลงทันที อีทึกเบิกตาขึ้นด้วยความตกใจแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน คังอินทำเพียงแค่แตะริมฝีปากลงไปเฉยๆเท่านั้น ความร้อนจากริมฝีปากถูกถ่ายถอดสู่ริมฝีปากของร่างบางที่ยืนนิ่ง

     

    เวลาผ่านไปไม่นานนัก จู่ๆก็ต้องลืมตาโพลงด้วยความตกใจแล้วผลักร่างบางที่ไม่ยอมขัดขืนออก ดวงหน้าคมขึ้นสีระเรื่อก่อนจะสะบัดไปทางอื่นไม่ให้อีกคนได้เห็น ส่วนอีทึกที่เหมือนสติจะเพิ่งกลับเข้าร่างก็ส่งเสียงเอ๋อๆอ๋าๆออกมาราวกับว่าไม่อยากให้บรรยากาศตรงนี้เงียบไปนัก

     

    “อ่อ.......เอ่อ.......เอ่......อ่า...”

     

    “ไม่เอาแอ่โอ่เอี่ยไอ่ เติมลงไปให้ครบสระทุกตัวเลยล่ะ”

     

    “มันนึกไม่ออกน่ะสิ”

     

    “ขอโทษทีนะอีทึก ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

     

    “ทำไมเรียกฉันว่าอีทึกอีกแล้วล่ะ เราไม่ได้ทะเลาะกันซักหน่อย นายมึนหัวใช่มั้ย เหม่อมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วฉันคงจะโชคไม่ดีเองแหละที่หันไปตอนนายเซล้ม มันก็เลยป๊ะกันถูกจังหวะไปหน่อย”

     

    “อ่อ.....ก็คงจะเป็นแบบนั้นแหละ”

     

    คังอินพยักหน้าเออออไปกับร่างบางที่ยังยิ้มออกมาได้เหมือนเดิม เมื่อเห็นร่างสูงยืนยันอย่างนั้นอีทึกเลยเลือกที่จะเดินกลับเข้าบ้านเพราะกลัวว่าคังอินจะล้มลงไปอีก ดีไม่ดีลิ้นของร่างสูงคงจะมาอุดปากเขาอีกรอบ ตัวเองไม่ได้นึกพิศวาสการจูบกับผู้ชายซักเท่าไหร่หรอกนะ

     

    แต่ทำไม....................ใจเต้นแรงงี้วะ!!

     

     

     

     

     

     

    Mon, 12:09 pm.

     

    “เฮ้~ ทุกโคน~~~ ฉันมีเรื่องจะบอก”

     

    ร่างโปร่งของอีทึกลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่หน้าห้องซึ่งเป็นที่ที่อาจารย์ยืนสอน นักเรียนภายในห้องที่มีไม่ถึงสิบคนหันมาให้ความสนใจก่อนจะพยักหน้าให้คนที่ยืนอยู่หน้าห้องพูดต่อ อีทึกกระแอมเบาๆก่อนจะชูกระดาษขึ้นมาพลางจิ้มลงไปแรงๆเป็นการประกอบการพูด

     

    “มันคืออะไรฮะรุ่นพี่ ผมมองไม่เห็น”

     

    “อ้อ! ไม่มีอะไรหรอกทงเฮ คือพี่จะบอกว่า ได้ทริปที่จะไปเที่ยวที่ประเทศไทยแล้วนะ”

     

    “หือ? เที่ยวประเทศไทย? นึกคึกอะไรขึ้นมาล่ะครับพี่สาว”

     

    แปรงลบกระดานที่กำลังพุ่งมีจุดมุ่งหมายไปยังหัวทุยๆของคนที่มีชื่อว่าโจวคยูฮยอนซึ่งเกิดอาการปากหาเรื่องชาวบ้านไปทั่ว อีทึกยิ้มเย็นให้กับคนที่หลบแปรงได้อย่างเฉียดฉิวก่อนจะตอบคำถามที่เพิ่งออกมาจากปาก(หมาๆ)เมื่อซักครู่

     

    “เดี๋ยวเราจะมีวันหยุดยาวเนื่องจากฉลองครบรอบ 38 ปีมัธยมฮันวอง พี่เลยว่าจะพาพวกเราไปเที่ยวที่ไทย อ๊ะๆขอโทษที ไม่ได้เที่ยวอย่างเดียวนะ เราต้องไปทำประโยชน์ให้กับที่นู่นด้วย”

     

    “ทำไมไม่เที่ยวในประเทศล่ะฮะ” ซองมินที่นั่งเงียบอยู่นานก็เอ่ยถามขึ้นก่อนจะผลักหน้าของคนรักให้ออกห่าง

     

    “ในประเทศน่ะ เที่ยววันไหนก็ได้ แต่นี่หยุดยาวทั้งที! เราก็ไปเที่ยวกันไม่เห็นจะเป็นไรไป อีกอย่างทริปนี้ก็ได้ราคาไม่แพง เขาว่าทะเลเมืองไทยสวยนะ ใช้เวลาจัดการเรื่องทั้งหมดไม่น่าจะเกินสองอาทิตย์ก็คงไปได้แล้ว เรื่องวีซ่าหรืออะไรนี่ใครยังไม่มีก็ไปทำกันซะนะ”

     

    “แล้ว พาฮยอกแจไปด้วยได้รึเปล่า”

     

    “ตามสบาย เรื่องของนายก็แล้วกันแค่เอาเงินมาจ่ายให้ครบค่าเครื่องบินก็พอ^^ เป็นอันว่าตกลงนะ”

     

    “เดี๋ยวก่อนๆพี่อีทึก! ไปวันไหนอ่ะ”

     

    “แล้ววันที่โรงเรียนสั่งหยุดยาวอาทิตย์นึงมันวันไหนล่ะซีวอน”

     

    “ผมกลัวว่าพี่ฮีชอลจะไปไม่ได้น่ะสิ”

     

    “แหม่~ ยากที่ไหนกัน แม่สาวชุดน้ำเงินนั่นนายก็ใช้เทคนิคเดียวกันกับที่ลากมางานโรงเรียนนั่นแหละ”

     

    “อย่าบอกนะว่าพี่สนใจคนของผม

     

    “โอ๊ะ! เผอิญว่าฉันมันเป็นคนชอบคนสวยซะด้วยสิ” อีทึกยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิมทำเอาซีวอนแยกเขี้ยวยิงฟันใส่ด้วยความหมั่นไส้ ส่วนทงเฮที่ได้ยินว่าจะไปเที่ยวไทยก็เกิดอาการตื่นเต้นไม่ใช่เล่น เพราะไม่เคยออกนอกประเทศไปที่ไหน แถมยังเป็นที่แรกที่จะได้ไปอีกต่างหาก

     

    “ซองมิน! นายว่าเราจะได้เล่นน้ำมั้ย”

     

    “โอ๊ย! ทำไมจะไม่ได้เล่นล่ะทงเฮ ถ้าไปเมืองไทยแล้วไม่ได้ไปเล่นทะเล นายก็อย่าไปเลยจะดีกว่า”

     

    “นายเองระวังให้ดีๆนะ คยูฮยอนยิ้มแปลกๆด้วย”

     

    ว่าจบคนตัวเล็กก็หันไปมองคนที่ยิ้มแปลกๆก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกที่ต้นแขนแข็งแรงนั่นเบาๆเมื่อเห็นว่าคยูฮยอนทำหน้าเคลิ้มกว่าที่ควรจะเป็น พอได้ยินเสียงร้องโอดโอยก็ค่อยยิ้มออก

     

    “คิดลามกอะไรอยู่ตัวใหญ่”

     

    “เปล่านะ! เค้าไม่ได้คิดจะทำอะไรตัวเล็กเลยนะ”

     

    “นั่น! ตัวใหญ่คิดหาทางจะลวนลามเค้าใช่มั้ยห๊ะ!~ เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่แล้วนะ”

     

    “แหงสิตัวเล็ก ถ้าเอาเล็กแล้วมันจะไปสนุกอะไรล่ะ”

     

    “ห้ามพูดกันชั่วโมงนึง!!! งอนโว้ยยยย ไอ้ตัวใหญ่ทะลึ่ง”










    ______________________________________________________________________________

    Part 19

    Talk กันมันส์ๆก่อนไป

    ตอนนี้ตังค์มีความรู้สึกว่ามันสั้น อาจจะเป็นเพราะด้วยหัวสมองที่ตื้อหรืออย่างไรก็ตาม

    ตอนที่กำลังนั่งปั่นอยู่นั้นแม่โทรมาขัดจังหวะก่อนจะพูดเรื่องซีเรียสทำเอาหัวสมองไม่ได้จดจ่อกับฟิคเลย แต่ก็ยังตะบี้ตะบันแต่งต่อ เลยต้องขอโทษรีดเดอร์ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะTT

    ขอตัดช่วงเม้าธ์ออกไปเพราะไม่ไหวจะเคลียร์= = อาจจะเอามารวมกันเลย ใครจะอ่านก็อ่าน ไม่อ่านตังค์ก็ไม่สนใจในช่วงนี้ เพราะมันเป็นความเคยชินไปแล้วในการบ่นให้รีดเดอร์รำคาญเล่น (ฮา)

    ฮันฮยอกตอนแรกตังค์ตั้งใจว่าจะให้เครียดกว่านี้อีกนิดนึง แต่ไหงออกมาเป็นหวานไปได้ซะอย่างนั้นก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะปั่นช่วงของฮันฮยอกตอนเที่ยงคืนเลยออกมาเบลอๆแบบนั้น (อ่า-o- เป็นอาการของไรเตอร์ที่เป็นกันทุกคน ไม่อยากจะบอกว่ายัยเจ๊เรื่องของ VPก็เป็น) ช่วงนี้นอนดึกบ่อยเพราะอยากใช้ชีวิตตอนกลางคืนดูบ้าง แต่ไม่พ้นเที่ยงคืนก็ต้องขอตัวนอนทุกที

    คังทึกก็ออกแนวมึนๆเพราะที่ตั้งใจไว้ก็ไม่ใช่แบบนี้อีกเหมือนกัน กะว่าจะให้คังเผลอ ย้ำว่าแค่เผลอเกือบจูบเท่านั้น กลายเป็นว่า ผ่าง~~ จูบไปแล้ว=[]=! ทำไงล่ะทีนี้ ตามน้ำไปเลยสิครับ เพราะบรรยายออกมาแล้วก็ไม่อยากให้เสียเปล่า

    ส่วนฉากหลังเอ็นซีจะบอกว่ามันเป็นอะไรที่แต่งไม่ยากแล้วก็ไม่ง่าย เพราะจะให้เฮตื่นขึ้นมาแล้วเขินทุกรอบมันก็จะดูซ้ำซากไปนิด แต่ยังไงมันก็ต้องเขินเลยขอแบบพอประมาณ เจอบอมบอกรักเลยนิ่งค้างแล้วว่ากันไปนั่น-_- แล้วตังค์จะมาย้ำเหตุการณ์เพื่อ????(ได้ข่าวว่าตอนช่วงเม้าธ์ย้ำมันทุกตอน)

    ส่วนชื่อตอนอย่าถือสาเพราะตอนนี้เป็นอะไรที่หาจุดสำคัญไม่ได้จริงๆ ออกแนวแถให้จบตอนเป็นเสียส่วนมาก เลยขอเมนชื่อตอนมาจากฮันฮยอกละกัน มันดูน่ารักดี อยากจะให้สองคนนี้เรียกกันว่าอาซิ้มกับอาแปะด้วย แต่ว่ามันจะซ้ำกับตัวเล็กกับตัวใหญ่ แต่ถ้ารีดเดอร์อยากได้ก็จะจัดไปอะไรอย่างนั้น

    ไปแล้วค่ะๆ ไม่อยากแพล่มมาก เอิ๊กกกก

    Qreaz. 10

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×