คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : หอแตก : 11
-11-
“ห๊ะ” ผมร้องเสียงหลง จู่ๆเสียงไอ้ปาร์คแม่งก็สั่นเครือเหมือนคนกระสันอยาก ผมสบตามันที่มองมาที่ผม แม่งมีแต่ความหมายบ้าบออะไรไม่รู้เต็มไปหมด ผมแกะมือมันออกจากเอวตัวเองก่อนจะคลานหนีแต่ไอ้ชานยอลกลับรั้งเอวผมไว้แล้วให้กลับมานั่งบนที่เดิม
ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลยกู
จริตมารยาหญิงใครที่ว่าใช้ได้ กูว่าผิดแล้วล่ะ
นี่แม่งเป็นแผนยั่วสวาทมากว่ามั้ง!!
“มะ....ไม่ไหวอะไร”
“อยากรู้?”
“ไม่ดีกว่า” ผมรีบตอบกลับไปแทบจะทันทีรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดถนัดที่ดันเสือกถามอะไรโง่ๆออกไป ชานยอลหมุนตัวผมให้กลับไปสบตา ผมรีบแกล้งทำเป็นมองอย่างอื่นในห้องไปเรื่อยเปื่อย
อย่ามามองกูด้วยสายตาร้อนแรง(?)แบบนั้น ขนลุก แงงงงงงงงงงงงงง
“ซักที”
“ซักทีเหี้ยไร! ไอ้….!!!!”
ไม่ทันแล้ว.....ริมฝีปากผมถูกไอ้ชานยอลปิดด้วยปากมันแล้ว บางทีผมควรจะระวังตัวเองตั้งแต่มันมีหนังสือน้องนมฟูอยู่ในห้องแล้ว ผมทุบไหล่มันไปหนึ่งทีที่จู่ๆก็มาชิงจูบกันแบบนี้ มันดันผมให้ล้มตัวลงบนเตียงก่อนที่ร่างโย่งๆจะตามมาคร่อมทับ จูบคราวนี้แตกต่างจากคราวที่แล้ว ไอ้ชานยอลแม่งค่อยๆบรรจงละเลียดริมฝีปากผมช้าๆ ใจผมนี่สั่นเหมือนกับกลองในงานกีฬาสี จากตอนแรกที่ทุบมันจู่ๆก็กลายเป็นว่ากำแขนเสื้อมันไว้แน่นเสียอย่างนั้น
รู้สึกดีหมดเลยให้ตายห่า
ผมค่อยๆหลับตาลงก่อนจะเลิกพยศ รสมินต์ของยาสีฟันกำลังแผ่ซ่านมายังปากของผม ไม่นานนักไอ้ชานยอลก็สอดลิ้นเข้ามาทำให้จูบคราวนี้ดื่มด่ำมากกว่าที่ควรจะเป็น ผมกำแขนของมันแน่นอีกครั้งแล้วพยายามจะจับลมหายใจของตัวเองที่ตอนนี้เหือดหายไปไหนหมดไม่รู้
มันผละออกไปเมื่อเห็นผมหน้าแดงก่อนจะประกบปากลงมาอีกครั้ง ผมครางฮือเบาๆในลำคอก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อมือเย็นๆของไอ้โย่งเริ่มสอดเข้ามาใต้เสื้อ ผมถลึงตาใส่ไอ้คนที่หลับหูหลับตาดูดปากผมอยู่นี่ ก่อนจะเห็นว่ามือตัวเองกำอยู่ที่แขนเสื้อมัน และก่อนที่ไอ้ชานยอลจะสูบพลังผมไปอีกครั้งผมเลยตัดสินใจดึงแขนเสื้อมันออกทันที
แควก!!
คนที่ถูกดึงแขนเสื้อชะงักจูบไปนิดหน่อย ไอ้โย่งลืมตาขึ้นมามองซากแขนเสื้อที่อยู่ในมือผม เห็นแบบนั้นก็ยักคิ้วเย้ยมันน้อยๆแต่ไม่ทันไรไอ้ชานยอลก็เบียดริมฝีปากอีกทีแถมยังจูบแรงกว่าเดิมด้วย
ไอ้เหี้ยยยย เอกราชของกู!!
“อื้ออออ! อื้ออออออออ!!” ผมครางเสียงหลงเมื่อไอ้ชานยอลลูบเอวผมเบาๆ ตอนนี้สติสัมปชัญญะมาเต็มแล้ว ผมเริ่มดิ้นและยกมือขึ้นผลักมันออก แต่อย่างว่าตอนมีอารมณ์แม่งก็หน้ามืดตามัวกันหมดล่ะ ชานยอลละจากริมฝีปากผมไปกัดที่หูของผมเบาๆ
“อะ.....”
ชิบหายแล้ว......ระทวย
ผมหมดแรงทันทีเมื่อริมฝีปากร้อนทาบลงบนหู ไอ้ชานยอลหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะกดจูบลงที่หน้าผาก เสียงหัวใจพากันเต้นแข่งกันดังกระหน่ำปนกันจนไม่รู้ว่าเป็นของใคร และก่อนที่มันจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ผมจึงตัดสินใจงับลงบนหัวนมมันอีกที
“โอ๊ย! เตี้ย!!!”
มันลุกขึ้นนั่งทันทีในขณะที่ผมก็ถอดกรูดไปชิดที่หัวเตียงอีกครั้ง จับหน้าอกตัวเองที่ตอนนี้เหมือนจะระเบิดออกมาพลางหอบหายใจน้อยๆ ไอ้ชานยอลถูหัวนมที่โดนผมกัดซ้ำๆแล้วทำท่าจะคลานเข้ามาหาอีกรอบ ผมรีบยกมือชี้หน้ามัน
“กูฆ่ามึงแล้วชานยอล! เอาธงมา”
“......ทีเผลอนี่หว่า”
“ได้ไปเยอะแล้วก็อย่ามาพูดมาก!”
“ถึงกับยอมเอาตัวเข้าแลก?”
“พูดจาให้มันดีๆหน่อย กูไม่ประทับใจ”
ไอ้ชานยอลหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะคลายปมของธงที่มันผูกไว้ที่เอว เห็นมันแก้ตรงนี้แบบไม่อายใครก็เบิกตากว้างก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อพบว่ามันใส่กางเกงไว้ข้างใน
“อย่าให้เอาคืนนะไอ้เปี๊ยก สาบานเลยว่าคราวหน้ามึงไม่รอดจริงๆแน่”
ผมรับธงมาก่อนจะยกนิ้วกลางใส่ไอ้ชานยอลแล้ววิ่งออกนอกห้องนอนก่อนจะชะโงกหน้าออกไป เห็นพี่ปีสามนั่งกอดเข่าอยู่ตรงนั้น ผมตะโกน
“พี่!! รับ!!” พี่ปีสามคนนั้นลุกขึ้นยืนก่อนจะรับธงของหอพิเศษที่ผมโยนลงไปให้แล้วยกนิ้วโป้งขึ้นมา บ่งบอกว่ายอดเยี่ยมสำหรับการทำงานในครั้งนี้
เมื่อเสร็จสิ้นหน้าที่ผมก็มาข้างนอกก่อนหยุดพักเพื่อให้หัวใจได้ปรับตัว มันกำลังเต้นแรงจนผมกลัวว่าจะหลุดออกมานอกอก ผมเอามือขึ้นลูบแก้มตัวเองหลายๆทีเพราะมันร้อนจนแทบจะระเบิดออกมา
ไอ้ชานยอล!! ไอ้บ้า!!!! ไอ้โรคจิต!!!!
ผมค่อยๆเดินลงมาจากชั้นสอง เหลือเพียงเทาที่ยืนอยู่ตรงนั้น ไอ้สองแฝดหายไปไหนวะ?
“ลงมาพอดีเลย~~ ประธานเป็นไงมั่งมึง”
“ตายแล้ว”
“เหี้ย กาก”
“เออ ประธานมึงอะกาก” ผมย้ำอีกทีก่อนจะเดินลงมาจากชั้นบน ไอ้เทาไม่ทำอะไรมากไปกว่ามองหน้าผม ไม่เดินเข้ามาหาไม่คิดจะดึงแขนเสื้ออย่างที่คนอื่นๆทำเวลาเจอกัน
“ว่าแต่......ปากเจ่อขนาดนี้ ได้กันไปกี่ยก?”
“ได้กันกับพ่อมึงสิไอ้เทา!!!”
ผมตะโกนออกมาดังลั่นในขณะที่คนอื่นๆก็หันมามอง ผมดึงเสื้อขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ชี้ไปที่หน้าไอ้จื่อเทาแล้วชูนิ้วกลางอีกครั้ง มันหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจแล้วหันไปหาจงฮยอนที่เป็นคู่ผีพนัน “สามพันวอนเอามา กูบอกแล้ว”
“แบคฮยอน มึงทำกูเสียตังมาหลายรอบแล้วนะ หัดหวงเนื้อหวงตัวมั่งครับ”
“กูไม่ได้โดนทำอะไรซักหน่อย!!”
“แล้วไอ้รอยแดงๆที่คอคือไรวะ? มดกัด? ตัวหย๊ายใหญ่เนอะ”
ไอ้จงฮยอนชี้ไปที่คอตัวเองผมรีบจับคอก่อนจะลูบไปมา ชิบหายแล้ว!! รอยอะไร! ไอ้ชานยอลทำหรอ! ตลกตายห่าล่ะ มันยังไม่ได้ยุ่งกับคอผมแม้แต่น้อยเลยนะ
“อย่ามาหลอก!”
“อะแหน่ะ จับใหญ่เลย แสดงว่าทำอะไรจริงๆด้วย”
“จบงานประเพณีหอเถอะกูจะกลับมาคิดบัญชี!”
ผมชี้หน้าไว้ก่อนจะเดินออกจากหอพิเศษ ยังไงตอนนี้ผมก็เหลือตัวคนเดียวไม่รู้ว่าไอ้เซฮุนหายไปไหน เดินออกมาข้างนอกมองซ้ายมองขวาแล้วทิ้งตัวลงนั่งที่พุ่มไม้ยกแขนเสื้อเช็ดที่ริมฝีปากตัวเองแรงๆ
รู้สึกว่าตัวเองโคตรพลาด
พลาดตรงที่ใจเต้นไปด้วยเนี่ยแหละ
“ได้ธงแล้วหรอวะ” ผมสะดุ้งเฮือกก่อนจะหันไปมองพบว่าเป็นเซฮุนที่เดินเข้ามา แขนเสื้อมันยังอยู่แสดงว่ายังไม่โดนใครฆ่า มันทิ้งตัวนั่งลงข้างๆผม “ไอ้จงอินล่ะ?”
“ฟัดกับคยองซู ตายทั้งคู่”
“แล้วมึง?”
“พอส่งมึงเสร็จก็เผ่น เข้าไปนี่แม่งมีแต่เด็กหอพิเศษ แรงอย่างกับควายใครจะไปสู้ได้” มันบ่นพึมพำไปเรื่อยในขณะที่ผมก็ค่อยๆเอนศีรษะลงบนบ่าของไอ้แฝดนรกคนน้องด้วยความเหนื่อยอ่อน แทนที่จะเหนื่อยกายกลับเหนื่อยใจ ไอ้ชานยอลแม่งนิสัยไม่ดีจริงๆ
“เป็นอะไร โดนไอ้ชานยอลปล้ำเอาไง”
“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงวะ” ผมบ่นพึมพำไอ้เซฮุนถอยบ่าตัวเองออกก่อนจะมองหน้าผมด้วยความตกใจ “ว่าไงนะ”
“เปล่า ไอ้เวรนี่อยู่นิ่งๆได้มั้ย กูเหนื่อยนะเนี่ย"
“มึงว่าไงนะ มึงโดนปล้ำหรอ” ไอ้เซฮุนหันมาเอามือทาบแก้มผมเอาไว้พลางทำหน้าตกใจก่อนจะขยับมือของมันไปมาเพื่อสำรวจทุกซอกทุกมุม พอมันจ้องอยู่ที่ริมฝีปากผมนานเข้าก็รีบเอามือไปยันหน้ามันไว้ก่อน
“เลิกมองได้แล้วไอ้ห่า!”
“ปากมึงเจ่อขนาดนี้.....เหี้ย”
“กูเดินชนประตู”
“กูไม่ได้โง่นะ” ไอ้เซฮุนหรี่ตาลงก่อนจะจับคางผมหันซ้ายทีหันขวาที ทำมันอยู่อย่างนั้นจนชักจะรำคาญผมเลยปัดมือมันทิ้ง “พอได้แล้วน่า”
“แล้วตกลงมึงไปทำอะไรมา” ผมนิ่งเมื่อแฝดนรกคนน้องถาม เหลือบตาไปมองนิดหน่อยก็พบว่ามันกำลังจ้องผมอยู่ ครั้นจะเบี่ยงประเด็นแบบที่ทำก็คงจะไม่พ้นว่ามันจะคาดคั้นจนเอาคำตอบให้ได้ ผมบิดตัวซ้ายทีขวาทีด้วยความสะดีดสะดิ้ง และมันก็ทนไม่ไหวตบหัวผมเข้าเสียหนึ่งที
“อย่าสะดิ้งให้มาก ไอ้ชานยอลทำอะไร”
“ก็......จูบ นิดหน่อย”
“อะไรนะกูไม่ได้ยิน”
“จูบบบบบ ปากกูเจ่อขนาดเนี้ยยย! แม่งจูบกูไง ชัดมั้ยยย!!” หลับหูหลับตาพูดออกไปก่อนจะระเบิดตัวเองเสียหนึ่งที ถ้ามุดหัวเข้าไปในพุ่มไม้ได้ทำแล้วนี่บอกเลย ไอ้เซฮุนนิ่งค้างไปพักหนึ่งก่อนจะส่ายศีรษะตัวเองน้อยๆ
“แค่จูบเองหรอวะ?”
“มึงใช้คำว่าแค่หรอ? กูโดนขนาดนี้ยังใช้คำว่าแค่หรอวะ?”
“ชานยอลแม่งอ่อนว่ะ ส่งให้ถึงเตียงขนาดนั้นแล้ว” มันบ่นพึมพำไปแค่นั้นในขณะที่ผมก็ได้แต่นั่งถูปาก บ้าเอ๊ย! โมโหตรงที่แม่งไม่ได้ทำแค่จูบนี่แหละ
เสือกทำผมใจเต้นด้วยอีกไง!
ผมกับเซฮุนตัดสินใจเดินกลับไปที่หอ มีเวลาอีกประมาณชั่วโมงครึ่งถึงจะจบงานประเพณีหอวันนี้ ผมไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องของพี่ลู่หาน เห็นพี่คริสอยู่ในนั้น ทั้งสองคนกำลังแย่งธงกัน
“เฮีย!”
“มาพอดีเลย ช่วยพี่หน่อยดิวะ ไอ้คริสแม่งส้นตีน จะปล้ำพี่แล้วเอาธงไป”
ผมเลิกคิดอย่างอื่นก่อนจะพุ่งเข้าไปในห้อง ไม่ได้ล่ะ ยังไงธงของหอผมก็ห้ามไปไหน ไม่งั้นก็แพ้สิวะอุตส่าห์ได้ธงจากหอพิเศษมาแล้วทั้งที เฮียคริสสบถออกมาเบาๆแล้วปล่อยมือจากธงของหอผมแล้วยกมือเหมือนจะยอมแพ้เพราะผมมีคนเยอะกว่า
“โอเค....กลับมาแล้วหรอ? เดี๋ยวแบค ปากแก”
ผมรีบเอามือปิดปากก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้แฝดนรกคนน้อง ชิบหายแล้วครับ เหมือนหายนะจะมาเยือนลางๆ จากตอนแรกที่มีเป้าหมายที่ธงเฮียเสือกเปลี่ยนมาจับผิดผมแทน ผมส่งสายตาให้พี่ลู่หานให้ใช้จังหวะนี้ที่เฮียเผลอดึงแขนเสื้อออกไวๆ แต่เหมือนพี่ลู่หานก็สนใจกับปากผมอยู่ไม่ใช่น้อย
“ไปโดนอะไรมา” เฮียหรี่ตาลงก่อนจะจับคางผมให้เงยหน้าขึ้นไปมอง ผมหลบสายตาก่อนจะเอ่ออ่าอยู่พักใหญ่
“เฮียถามว่าโดนอะไรมา”
“ชนประตู!” ไอ้เซฮุนตะโกนขึ้นมา ถึงก่อนหน้านี้มันจะพูดประมาณว่าคำตอบนี้เป็นอะไรที่ดูโง่ๆแต่มันก็เอามาใช้กับเฮียผม พี่คริสหันไปมองแฝดกล้วยหอมบีสองแล้วหันกลับมามองผม
“ไม่เชื่อ คิดว่าเฮียโง่หรอ”
“ชนประตูจริงๆเฮีย” ผมรีบพยักหน้าหงึกหงักแล้วแกล้งทำเป็นร้องโอดโอยเมื่อมือใหญ่ๆของพี่จับลงบนมุมปาก ไอ้เซฮุนเบะปากให้กับความตอแหลระดับสิบของผม ส่วนพี่ลู่หานก็ขมวดคิ้วพลางส่ายหน้า
“พี่ว่าไม่ใช่นะแบค เฮ้ยไอ้คริส กูว่าของแบบนี้ต้องพิสูจน์”
“ยังไง?”
“ให้กูลองจูบน้องมึง”
“กวนตีนล้ะไอ้เชี่ยลู่” ผมทำหน้าเหยเมื่อได้ยินว่าพี่ลู่หานจะจูบแต่ดีว่าโดนพี่คริสโบกศีรษะไปซะก่อนพี่แกเลยไม่ทันได้ทำอะไร ผมส่งสายตาไปให้เซฮุนพยายามมองไปที่แขนเสื้อของเฮียคริส มันทำท่าเข้าใจแต่เหมือนจะไม่ค่อยกล้า ผมเลยกรอกตาไปมาก่อนจะตะโกน
“ดึง!!”
แควก!!!
“เหี้ย!!” พี่คริสร้องลั่นก่อนจะหมุนตัวกลับไป ไอ้เซฮุนรีบวิ่งเมื่อเห็นสีหน้าที่เหมือนคนจะแปลงร่าง ส่วนไอ้พี่ลู่หานเบิกตากว้างออกมาหน่อยๆก่อนจะตบมือด้วยความชอบอกชอบใจก่อนจะหัวเราะออกมา ร่างสูงของพี่ชายผมสบถพรืดยาวเหยียดออกมาเป็นสาย
“อยู่เฝ้าธงดีๆไม่ชอบ อยากมาปีนเข้าห้องกูทำไม”
“ระวังตูดมึงไว้เถอะไอ้ลู่หาน”
“โอ๊ยก่อนจะถึงตูดมึงฝ่าแข้งกูไปให้ได้ก่อนเถอะ”
บทสนทนามันแปลกๆนะว่ามั้ย?
พอหลังจากที่โดนทำให้ออกเฮียก็เลิกสนใจเรื่องปากผมไปโดยปริยายแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างว่าง่าย ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องโล่งอกทั้งที่ความจริงแล้วน่าจะปล่อยให้พี่คริสรู้และไปจัดการกับไอ้ตัวการที่ทำให้ผมปากเจ่อแบบนี้
เออ! ทำไมไม่ฟ้องเฮียคริสไปวะ
โอ๊ยยยยย ผมเป็นอะไรวะเนี่ย
“กลัวพี่ลู่หานไม่รู้รึไงวะว่าโดนไอ้ชานยอลจูบ ทำท่าสับสนซะสะดิ้งเหมือนนางเอกนิยายเลยนะมึง”
“กูว่าแล้ว ไอ้คริสแม่งหละหลวม กะกูนี่แน่นจังแตะปลายนิ้วก้อยกูยังไม่เคยได้ นี่ไอ้ชานยอลได้จูบไปแล้ว”
พี่ลู่หานบ่นงึมงำเบาๆในขณะที่ผมก็ได้แต่ถลึงตาใส่ไอ้แฝดนรกคนน้องที่พูดออกมาด้วยสีหน้านิ่งๆ ผมยกมือขยี้ศีรษะตัวเองแรงๆ “อย่าบอกเฮียนะพี่”
“แล้วพี่จะได้อะไร”
“พี่จะเอาอะไร”
“รักกับเขานานๆ เจ็บเมื่อไหร่บอกพี่ พี่จะรักษาใจน้องเอง”
“ตลกมาก”
“เออออ ก็รักเหมือนน้องนั่นแหละน่า ไม่บอกหรอก แต่ไอ้คริสแม่งเซ้นส์ดี ทำอะไรก็ระวังๆหน่อยแล้วกัน”
“ไอ้ทำอะไรนี่คืออะไร?”
“แบบ...คิสซึ ป่ามป๊ามอะบาละฮามอะไรประมาณนั้น เอ้อ อย่าลืมยืดอกพกถุงด้วยนะ”
“ไอ้พี่ลู่!!”
‘เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง’
เสียงประกาศมาตามสายในขณะที่ผมก็นอนกระดิกนิ้วเท้ารออยู่ในห้อง ตอนนี้สบายแล้วครับมีทั้งธงของหอพิเศษและธงของหอตัวเอง ค่อนข้างมั่นใจว่าพี่ลู่หานจะไม่ยอมให้ใครเอาธงไปได้ นอนไปได้ซักพักก็มีคนเปิดประตูพรวดพราดเข้ามา พบว่าเป็นเพื่อนของเฮียคริสหรือพี่ลู่หานคนแมนของหอสาม วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นๆ
“แบคฮยอน!! ไอ้ประธานแม่งมาเอาธงหอเราไป!!”
“ห๊ะ?” ผมร้องเสียงหลงก่อนจะสะดุ้งตัวลุกขึ้นมา ท่าทางว่าจะไม่ได้ล้อเล่นผมเลยรีบสวมรองเท้าก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินว่าเป็นประธาน
เดี๋ยวนะ มีอะไรผิดพลาดป่าววะ?
“ผมทำมันออกไปแล้วนะพี่”
“ออกบ้าอะไรล่ะ มันมีสองชีวิต”
ชิบหายแล้ว!!
“ทำไมไม่มีใครบอกวะ”
“เฮ้ย เด็กหอพิเศษแม่งมีสองชีวิตทั้งนั้นอะ คนมันน้อยกว่าของเรา กติกานี้มาตั้งนานแล้ว โอ้ยย ทำไงดีเหลืออีกครึ่งชั่วโมงด้วย”
‘ประกาศจากหอพิเศษ หากใครจับตัวบยอนแบคฮยอนมาส่งที่หอพิเศษได้ จะมอบธงของหอสามให้ ประกาศอีกครั้ง หากใครจับตัวบยอนแบคฮยอนมาส่งที่หอพิเศษได้ จะมอบธงของหอสามให้’
ทั้งพี่ลู่หานและไอ้เซฮุนมองหน้าผมทันที
“เดี๋ยว!”
ผมรีบร้องห้ามก่อนจะทำหน้าตาตื่นถอดรองเท้าออกแล้วปีนขึ้นไปบนเตียงตัวเองพลางเงยหน้ามองลำโพงที่เป็นตัวขยายเสียงประกาศ หนอยแน่! เล่นกับกูแบบนี้เลยหรอไอ้ปาร์ค!
“แบคฮยอน เพื่อหอ”
“เพื่อหอแต่เอกราชผมอะพี่!?”
“เขาอาจจะไม่ทำอะไรแกก็ได้น่า”
“ไอ้ชานยอลไม่ปล่อยผมไว้แน่ เฮียคริสไม่ยอมแน่!”
“ไอ้พวกที่ออกแล้วเขาจับไปรวมไว้โรงยิมโน่น ไม่ได้ยินประกาศ”
ผมแทบจะพ่นไฟแล้วส่ายศีรษะตัวเองแรงๆ ให้ตายก็ไม่ไป ยังไงหอเราก็ชนะอยู่แล้วไม่ใช่รึไงวะ! มีธงของหอพิเศษอยู่ตั้งสามคะแนน ถ้าหออื่นมันมีกันคนละสอง เราก็ชนะใสๆ!
“ไอ้หอหนึ่งแม่งมีธงของหอสองอยู่ ถ้าแกไม่ไป....แพ้แหง แบคฮยอน...สาวๆนะเว้ย สาวๆอีกฟากรั้วนะเว้ย”
พอได้ยินคำว่าสาวๆอีกฟากรั้ว...ก็เหมือนโดนมนต์สะกด ผมโดนหิ้วปีกไปยังหอพิเศษแบบไม่รู้ตัวทันที
“ลู่หานกับโอเซฮุนจากหอสามพาตัวแบคฮยอนมาส่ง”
“ตัวจริงป่าว?” จื่อเทาผิวปากหวือเมื่อพบว่าผมยอมเดินมาที่หอพิเศษอย่างง่ายดาย ผมกรอกตามาก่อนจะยกนิ้วกลางขึ้นส่งให้กับไอ้หมีแพนด้าที่ยืนอยู่หน้าหอ เห็นแบบนั้นก็หัวเราะชอบใจแล้วเดินไปหยิบธงของหอสามมาให้ เมื่อได้ธงพี่ลู่หานและไอ้เพื่อนแฝดที่รักก็แทบจะถีบผมให้เข้าไปในหอทันที มีการหันมาให้กำลังใจผมอีกด้วยแน่ะ
“มึง....สู้ตายนะ ปกป้องเอกราชตัวเองเอาไว้ให้ได้ กูไปล้ะ!”
“บัดซบเอ๊ยยยยย”
“ประธานรออยู่ที่ห้องแน่ะ”
“ไม่ไปเว้ย!” ผมตัดสินใจทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นหน้าหอกอดอกอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ล่ะ ไอ้จื่อเทาเหวอไปนิดหน่อยเมื่อเห็นผมทำแบบนั้น มันโทรศัพท์ขึ้นไปรายงานเจ้านายที่นั่งรออยู่ผมอยู่บนห้อง นี่ใครครับพี่แบคหอสาม ไม่ลงมาต้อนรับก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นหน้า นี่อุตส่าห์มา(เพื่อสาวๆอีกฟากรั้ว)ก็ดีเท่าไหร่แล้ว
“เมียมึงนั่งอยู่เนี่ย......สงสัยรอมึงมาอุ้มมั้ง แหม่ ไม่ธรรมดา แผนสูงใช่เล่นนะเราอะ”
“กูเดินขึ้นไปเอง ไม่ต้อง!” ผมรีบยกมือขึ้นห้ามพลางลุกยืนแล้วปัดฝุ่นที่ก้นซักสองสามที คนในหอพิเศษหัวเราะเบาๆก่อนจะเปิดทางให้ผมเดินขึ้นไปยังห้องของไอ้ประธานนักเรียนตัวแสบที่วันนี้เล่นผมซะแสบคันไปหมด หนอย....หลอกกูได้นะไอ้หูกางนี่!
“ไฮ J”
“กระแดะ” ผมว่าสั้นๆก่อนจะเตะประตูให้กว้างขึ้นพลางเดินกระแทกเท้าเข้าไปในห้องของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นประธานนักเรียน สมองผมแม่งร้องบอกอยู่ตลอดเวลาว่าผมไม่ควรจะขึ้นมาเพราะรู้ดีว่าครั้งนี้ไอ้ชานยอลไม่ปล่อยผมไว้แน่ แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ! มีเพื่อนและพี่ที่มีอุดมการณ์ทำเพื่อหอขนาดนั้น
ถ้าผมไม่ยอมมันก็เอาหินทุบหัวยัดผมใส่กระสอบทรายแล้วลากมาให้อยู่ดีนั่นแหละ
“หื้อ ใครให้นั่งตรงนั้น”
พอผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาไอ้ชานยอลก็รีบร้องขึ้นมาแล้วทำหน้านิ่ว ผมกรอกตาไปมานิดหน่อยก่อนจะลุกขึ้นยืน “แล้วจะให้นั่งตรงไหน บนตักมึงเลยมั้ย”
“ตรงนี้” ผมมองตามนิ้วมันที่กำลังชี้ ไอ้ชานยอลชี้ลงบนพื้นข้างโซฟา ผมขมวดคิ้วแน่น “อะไรนะ”
“บนพื้น ที่ของมึงคือนั่งบนพื้น”
ไม่ว่าเปล่ายังเดินมากดบ่าผมให้นั่งลงไปบนพื้นเย็นๆ ผมร้องเสียงหลงเมื่อไอ้ชานยอลจับบ่าผมแรงเกินไป แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสะทกสะท้านเท่าไหร่ ผมหรี่ตาของตัวเองลงเล็กน้อยก่อนจะนั่งขัดสมาธิ ชานยอลทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาก่อนจะยกขาขึ้นพาดบนโต๊ะ ขายาวๆของมันอยู่ห่างจากหน้าผมไปไม่เท่าไหร่
“ย่าห์!!!”
“ฮื่อ ห้ามเสียงดัง”
“นี่.....มึง!!”
“นวดขาให้หน่อย” ตาผมนี่แทบจะถลนออกมาจากเบ้าตาเพราะไม่ว่าเปล่ายังสั่นขาไปมาจนเข้าใกล้หน้าผม แต่ไอ้ประธานนักเรียนก็ไม่ได้สนใจ
“นี่กวนตีนกูหรอ!?”
“ฮื่อ เป็นเชลยแล้วอย่าพูดมากดิ”
ผมทำตาโตเมื่อได้ยินคำว่าเชลย โอ๊ย นี่มันดูหนังพีเรียดย้อนยุคอะไรมากเกินไปปะ?
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นแล้วนวดขาให้กูเลย จนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ ต้องอยู่ที่นี่ห้ามไปไหน”
“ห๊ะ? อะไรใครบอก?”
“กูนี่แหละบอก”
“.........”
“มึงกลายเป็นทาสแล้วแบคฮยอน”
ใครก็ได้เอาไอ้ชานยอลไปเก็บทีเถอะไป!!!
Talk -11-
อันรูปรสกลิ่นเสียงนั้นเพียงหลอก
ไม่จริงดอกอวิชชาพาให้หลง
อย่าลืมนะร่างกายไม่เที่ยงตรง
ไม่ยืนยงทรงอยู่คู่ฟ้าเอย
(จากหนังสือเก่าโบราณ)
อย่าทำร้ายช้านนน อย่าเพิ่งกระทืบช้านนนน
ฉานคิดว่ามันอาจจะเร็วเกินไปถ้าหากจะได้กันตอนเน้....
น้องแบคจะดูไม่งาม นางเคะ นางจะเป็นฝ่ายเสียหาย
#ก็แถกันไป อย่าใจร้อนนะ รับรองว่ามีแน่ แต่ไม่ใช่ตอนเน้
พี่เมียยังจะฆ่าจะแกงกันอยู่ เดี๋ยวได้กันขึ้นมาไอ้แบคเป็นม่ายทำไง?
555555555555
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ ขอบคุณสำหรับแทค
รู้สึกปลื้มและตื้นตันใจเป็นอย่างยิ่ง อ่านแล้วเขิน ฮอลลล
ส่วนสำหรับเรื่องรวมเล่ม...มองๆไว้อยู่ คงยังไม่ใช่ตอนนี้=.,=
ก็...เก็บตังไว้ก่อน กิกิกิ เรื่องใกล้จบ(ซึ่งจะจบมั้ย?)แล้วเจอกัน
สำหรับตอนนี้ สวยต้องลาก่อน
ถ้ายังไม่รู้จักกัน ไรท์ชื่อสตังเกิดปี 2539 นะอ๊ะอ๊ะอ๊ะอ๊ะ
รักทุกคนครัชชชชชชช
ความคิดเห็น