ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` [exo] เด็กป่วน ก๊วนหอแตก {chanbaek}

    ลำดับตอนที่ #11 : หอแตก : 10

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 57






    -10-

    โอเค ผมพร้อมแล้ว

    ก่อนจะกลับหอเฮียคริสกำชับย้ำเด็ดขาดว่าห้ามผมบุกไปที่หอพิเศษคนเดียว แต่มันก็แหงอยู่แล้วล่ะ คู่แข่งเต็มไปหมดแถมธงคะแนนของหอพิเศษยังมากกว่าหออื่นเพราะฉะนั้นครึกครื้นกันเลยทีเดียว ผมจำใจต้องใส่เสื้อยืดสีชมพูแล้วให้คนในหอมโนเอาว่าเป็นสปาย สปงสปายอะไรที่ไหน สก๊อยอะสิไม่ว่า....

    เสียงในห้องประชุมดังหึ่งๆมาเป็นระยะ ส่วนพี่ลู่หานก็อยู่บนห้องของตัวเอง เห็นหน้าหวานๆแบบนั้นแต่แรงเยอะใช่ย่อย ไม่เคยเห็นต้นขาพี่เขาแล้วอย่าพูดอะไรเยอะนะครับ ระวังจะได้เห็นพร้อมๆกับตายโดยไม่รู้ตัว

    “แปลกเนอะที่พี่ปีสามยอมให้เราไปบุกหอพิเศษ” จงอินเอ่ยขึ้นมาลอยระหว่างที่กำลังนั่งรอสัญญาณอยู่ในห้องประชุม ผมหันไปมองแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

    “จะไม่ยอมได้ไงในเมื่อถ้าเราไปได้ของง่ายกว่าเยอะ”

    “หือ?” ผมครางขึ้นมาเบาๆในลำคอ ไอ้สองแฝดหัวเราะขึ้นมาพร้อมกันแล้วชี้มาทางผม

    “ก็เมียประธานแม่งนั่งอยู่เนี่ย ไม่ให้ธงเมียก็ให้มันรู้ไปดิวะ” ว่าจบพวกมันก็แทคมือใส่กันแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    ตบหัวอีกซักคนละทีดีมั้ยเนี่ย....

    ผมทำเป็นมองผ่านปล่อยให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวานอนแผ่อยู่กลางห้องประชุม เหลือเวลาน่าจะอีกประมาณครึ่งชั่วโมง รอให้ข้าวที่กินมาย่อยซักหน่อยเวลาวิ่งจะได้ไม่จุก ผมนอนบนตักเซฮุนหลับตาลงไปได้ซักพัก ไม่นานนักก็ถูกปลุกขึ้นมาเพราะมีคนสะกิด

    “น้องเรียกว่ะ”

    “น้อง?”

    “ไอ้เด็กประทัดอะ”

    เซฮุนว่าผมเลยลุกขึ้นมานั่งก่อนจะหันมอง คิมแทฮยอนเด็กปีหนึ่งห้องสองศูนย์แปดที่เมื่อวานเล่นงานซะจนไปไม่เป็น แต่เหมือนไอ้สองแฝดจะยังไม่รู้อะไร ผมยกขาขึ้นตั้งข้างหนึ่งแล้วเอาแขนวางลงบนนั้น

    “มีอะไร”

    “เอาน้ำมาให้ครับ”

    “นี่ถามจริงๆ คิดว่าหน้าตาอย่างผมนี่ชอบผู้ชายหรือไง” ผมเปิดประเด็นแบบตรงไปตรงมา แทฮยอนผงะไปเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ามาเป็นปกติพลางวางน้ำลงตรงหน้า ไอ้เซฮุนกระตุกชายเสื้อผมเบาๆพลางกระซิบที่ข้างหู “มีอะไรวะ”

    “บอกไว้ก่อนเลย ที่เมื่อวานผมไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมให้โอกาสคุณหรอกนะ ผมแค่ไม่ทันได้พูด”

    “แล้ว....ถ้าอย่างนั้น ประธานนักเรียนทำได้หรอครับ?”

    “ห๊ะ?”

    “ก็ผมได้ยินมาว่าประธานนักเรียนจีบรุ่นพี่อยู่”

    ผมยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเบาๆ กรอกตาไปมา แสดงว่าเรื่องนี้แม่งไปทั่วโรงเรียนแล้วจริงๆ ผมวางขาลงกลับมานั่งขัดสมาธิ ตบตักตัวเองแรงๆแสดงถึงความมาดแมนที่มีอยู่ในตัว

    “ผม ชอบ ผู้หญิง เข้าใจไหมคิมแทฮยอน”

    “แต่......”

    “เอาล่ะ ผมไม่คุยกับคุณแล้วเชิญครับ” ผมผายมือไปทางอื่น รุ่นน้องคนนั้นมองหน้าผมนิดหน่อยก่อนจะลุกขึ้นยืน “ผมไปตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าผมยอมแพ้นะครับ” และโค้งเสียหนึ่งทีก่อนจะเดินออกไป

    “เสน่ห์ของบยอนแบคฮยอนไม่ธรรมดา มีผู้ชายมาผัวพัน...เอ้ย พัวพันถึงสองคน แล้วแบบนี้ชอบแบบไหนมากกว่ากันครับ” ไอ้จงอินเขยิบเข้ามาใกล้ กำมือตัวเองใช้แทนต่างไมค์แล้วยื่นมาจ่อปากผม เห็นแบบนั้นแล้วก็กัดมือมันไปหนึ่งที ไอ้แฝดดำกัมจงร้องเสียงดังแล้วหันมาด่าผม

    “ไอ้หมา!!

    “หุบปากเถอะ”

    “ขอให้โดนไอ้ชานยอลปล้ำ!!

    “ปากมึงหรอน่ะ” ผมตีปากไอ้จงอินหลายๆทีโทษฐานพูดจาส่อเสียดกระเดียดไปทางที่ทำให้ผมเสียตัวไวๆ มันเบะปากออกมาแล้วหยิบขวดน้ำของไอ้เด็กแทฮยอนไปพิจารณา มันเปิดฝาขวดออกแล้วขมวดคิ้ว “แกะอยู่แล้วนี่หว่า”

    “อะไร ทำไม?”

    “มันต้องใส่ยาอะไรแหงเลย อย่าแดก ให้ไอ้ฮุนแดก”

    “กูน้องมึงนะ อยากให้กูเสียตัวรึไงไอ้จงอิน” แฝดน้องบ่นงึมงำแล้ววางขวดน้ำลงไกลๆมือ ผมเลิกสนใจก่อนจะนอนลงบนตักของโอเซฮุนอีกครั้ง มันวุ่นวายกับแฝดคนละฝาอยู่ซักพัก ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงแรงสะกิดที่ต้นแขน เลยเพิ่งรู้ตัวว่าหลับไป เสียงสัญญาณดังขึ้น ผมลุกขึ้นยืน สมาชิกหอสามตะโกนพร้อมกัน

    “สู้!!!

    เพื่อผู้หญิงทำได้หมดแหละครับ.....

    ผมกับสองแฝดเริ่มออกจากหอทางประตูหลัง แล้วอ้อมไปหน้าตึก ไฟที่สนามก็เป็นสลัวๆเหมือนปกติ มีพี่ปีสามมาด้วยสามคนและปีหนึ่งอีกห้าคน คนของแต่ละหอเริ่มออกมา ผมมองไปที่หอพิเศษที่ตอนนี้เริ่มปิดไฟทีละดวง ผมได้แต่สบถในใจ แม่งเอ๊ย ถ้ามันปิดไฟหมดแล้วผมจะกล้าขึ้นตึกเงียบๆคนเดียวได้ไง!

    “เปลี่ยนแผนป่าววะมึง ส่งไอ้เซฮุนไปห้องไอ้ประธานแทน”

    “เหี้ยไรล่ะแบคฮยอน กูไปไอ้ชานยอลก็ทำกูออกอยู่ดี”

    “ก็มันมืดอะ!

    “กูเชื่อว่ามึงไปได้ ไป!” มันดันผมออกไปจากหลังต้นไม้ มีเด็กจากหอหนึ่งวิ่งเข้ามา พี่ปีสามจัดการเชือด(?)อย่างเลือดเย็น ทำให้พวกที่เหลือไม่กล้าเข้ามาใกล้

    แล้วในที่สุดผมกับลูกทีมก็มาหยุดอยู่ที่หน้าหอพิเศษ ผมเปิดประตูเข้าไปเงียบๆ มองซ้ายมองขวาก่อนจะพบว่ามีกลุ่มของหอพิเศษกลุ่มนึงกำลังมาทางนี้ ผมส่งสัญญาณให้พี่ปีสามไปทางด้านหลังตึกเพื่อรอรับธงจากห้องของไอ้ชานยอลเผื่อกรณีฉุกเฉินที่ผมหรือไอ้สองแฝดไม่สามารถออกมาจากห้องมันได้

    ไอ้สองแฝดมองหน้ากันแล้วเริ่มจัดการคนของหอพิเศษ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเข้ามายุ่งกับผมเลย ตัดสินใจเก็บอาการกลัวผีขี้ขึ้นสมองไปก่อน ผมรู้ว่าห้องนอนของไอ้ชานยอลอยู่ที่ไหน คนที่ยืนว่างๆอยู่ตอนแรกก็ทำท่าจะวิ่งเข้ามาแต่พอเห็นเป็นหน้าผมมันก็หยุดก่อนจะถอยกลับไป

    เอ่อ.....กูเป็นพิ้งเรนเจอร์รึไงทำไมไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้

    ตัวแทนจากดวงจันทร์จะลงทัณฑ์แกเอง!

    ผมคิดว่าผิดเรื่อง.....

    มองเสื้อยืดสีชมพูของตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เดินไปตามทางเรื่อยๆก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของไอ้ชานยอล ตอนแรกผมถอยออก จู่ๆก็เกิดไม่กล้าจะเข้าไปคนเดียว เดี๋ยวแม่งเกิดปล้ำผมขึ้นมาทำไงอะ! แต่พอนึกถึงใบหน้าน่ารักๆของสาวๆอีกฝากรั้วผมก็กลั้นใจก่อนจะหมุนลูกบิด ไฟในห้องปิดสนิท....

    แอ๊ด.....

    โอ๊ยพ่อมึงงงงงงง กูไม่ได้มาแค่อาทิตย์สองอาทิตย์นี่สนิมแดกบานพับไปแล้วรึไงค้าบบบบบ

    ไฟในห้องปิดมืดสนิท ผมมองนาฬิกามันบอกว่าผมใช้เวลาทั้งหมดไปยี่สิบห้านาที กวาดสายตามองไปรอบๆห้องพยายามจะหาธงจากในความมืดและมองหาไอ้ชานยอลไปด้วย

    แม่งหายไปไหนวะ.....

    ผมค่อยๆก้าวเข้าไปในห้องอย่างระวังระวัง มองซ้ายมองขวาก่อนจะปิดประตูให้เงียบเชียบที่สุด(แต่ไอ้บานพับที่แม่งสนิมแดกก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือ ส่งเสียงแอ๊ดๆเหมือนกับจะล้อชื่อพ่อใครก็ไม่รู้) เมื่อบานประตูปิดลงผมก็ขนลุกซู่ บรรยากาศในห้องมันโคตรวิเวกวังเวงมาก

    ผมเปิดประตูเข้าไปดูในห้องน้ำ ชะโงกหน้าไปที่ระเบียง เห็นพี่ปีสามยืนแสตนด์บายรออยู่แล้วก็ทักทายกันแบบไร้เสียง ที่สุดท้ายคงหนีไม่พ้นห้องนอนแน่ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

    แป้นธงแม่งก็อยู่นี่แล้วธงทั้งผืนหายไปไหน!!

    ผมรีบตบสวิตซ์ไฟแล้วเดินเข้าไปในห้องก่อนจะมองซ้ายขวาหน้าหลัง หรือว่าจะมีใครมาเอาไปก่อนแล้ว? ยกมือขึ้นขยี้ศีรษะตัวเองแรงๆก่อนจะมองไปที่ประตูตอนนี้มีร่างของปาร์คชานยอลยืนอยู่

    อยากจะกรี๊ดออกมาเป็นภาษาตุรกี

    ไอ้เวร!! เอาธงไปนุ่งแทนผ้าขนหนู!!!

    ผมถลึงตาใส่ไอ้เจ้าของห้องที่ดันทำพิเรนท์ เอากับมันสิ นี่ไม่ทราบว่าก่อนหน้านั้นแม่งเช็ดอะไรไปบ้างสะอาดทุกซอกทุกมุมเลยมั้ย ห้องเครื่องคงสะอาดเอี่ยมอ่องแล้วสินะ แล้วผมจะเอากลับไปยังไง แม่งเป็นสังคังรึเปล่าก็ไม่รู้ โอ๊ยยยโคตรพ่อโคตรแม่ใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนี้

    “มาเมื่อไหร่วะ?”

    “ทำไมกูต้องตอบ” ผมเอ่ยถามพลางยกยิ้มหยันๆส่วนสายตาก็จับจ้องไปยังธง ไอ้หูกางเห็นแบบนั้นก็ทำท่ากวนประสาทด้วยการเอามือปิดเป้าตัวเองด้วยความหวงแหน “กูรู้ว่าของกูดี แต่ไม่ต้องจ้องขนาดนั้น”

    “กวนตีนแล้วไอ้สัด!

    “มาเอาธง?”

    “มาเอามึงมั้ง!

    “เฮ่ย.....ไม่ดีนา เฮียมึงอนุญาตแล้วหรอ”

    “กูประชดไอ้ควายยยยย” โอ้โห....มีการทำหน้าจริงจังด้วย

    ไอ้ชานยอลหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินเข้ามาในห้องพลางล็อคประตู ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคลิ๊กที่บ่งบอกว่ามันกำลังปิดทางหนีของผม ร่างสูงโย่งเดินเข้ามาใกล้ในสภาพที่แม่งใส่เสื้อยืดสีดำกับนุ่งธงที่เขียนคำว่า หอพิเศษ เอาไว้ ได้แต่มองแล้วก็ใจเต้นโครมคราม

    ไม่ได้ใจเต้นเพราะหวั่นไหวหรือว่าอะไรหรอกนะ

    แต่ประตูหลังกูเนี่ย อาจจะอยู่ไม่ถึงคืนนี้ก็ได้!!

    “เอาธงมา”

    “อยากได้ก็มาดึงไปเองสิวะ”

    ไม่ว่าเปล่าแม่งยังแอ่นเอวเข้ามาด้วย พลิ้วดีจริงๆเลยให้ตายห่า อย่าคิดว่าไม่กล้าดึงนะครับ แต่ที่ยังสะดีดสะดิ้งอยู่เนี่ยกลัวว่ามันจะไม่ใส่อันเดอร์แวร์ ความคิดแม่งยิ่งประหลาดๆอยู่ ผมยิ่งชั่งใจอยู่นานพลางจ้องสลับไปที่ส่วนล่างของไอ้ประธานนักเรียน

    “ถ้ามึงไม่เอาธง.......”

    “.........?”

    “กูจะเอามึงแทน”

    ทันที่พูดจบมันก็ไม่ปล่อยให้ผมได้คิด แขนยาวๆของมันรั้งตัวผมเข้าไปใกล้ก่อนจะรัดเอาไว้ ไอ้แบคก็ได้แต่งงสิครับ ผมเบิกตากว้างแล้วหันไปทุบไอ้โย่งที่เริ่มจะฉวยโอกาส ว่าแล้วเชียว! ไม่น่ารับปากตกลงว่าจะเป็นด่านหน้าขึ้นมาหามันเลย นี่ผมต้องเสียตูดก่อนได้ธงป่าววะ!?

    “ปล่อยกูนะไอ้โย่ง!!

    “พูดเพราะๆก่อนได้ป่าววะ”

    “ไม่! ฝันไปเหอะไอ้สัด!

    ผมโวยวายใส่มันแล้วดิ้น แต่ก็เท่านั้น....ไอ้ชานยอลไม่ได้สะทกสะท้าน ผมทั้งผลักทั้งทุบทั้งต่อย นี่ถ้าไม่เกรงใจจะต่อยหน้าแล้วหนีออกไปเลย ธงเธิงอะไรช่างแม่งแล้วครับ สวัสดิภาพของประตูหลังผมต้องมาก่อน “หยุดดิ้น”

    “ไม่! ไม่หยุด!! เรื่องนี้ถึงหูเฮียเมื่อไหร่มึงไม่ตายดีแน่ไอ้ชานยอล!!

    “ขี้ฟ้องว่ะ”

    “นี่ลวนลามกูแล้วยังด่ากูอีกหรอห๊า!?” ผมตะโกนอีกรอบแล้วลงมือทุบอีกครั้ง ท่าทางนี่สะดีดสะดิ้งเหลือเกินแต่ถูกรัดอยู่แบบนี้ผมจะไปทำอะไรมากกว่านี้ได้ ไอ้ชานยอลเห็นว่าผมไม่ยอมหยุดเลยก้มหน้าลงมาใกล้ ยิ่งลมหายใจร้อนๆเป่ารดบนกบาลผมยิ่งทุบแรงขึ้น จนกระทั่งริมฝีปากมันแตะเบาๆลงบนศีรษะผมถึงได้หยุด

    ............เดี๋ยวนะ?

    จูบหัว?

    แล้ว.....กูสระผมครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

    นั่นใช่ประเด็นมั้ยไอ้เหี้ยแบค!!!

    “นิ่งแล้วค่อยยังชั่ว เมื่อกี้อย่างกับควายออกลูก” มันว่างพลางก้มหน้าลงมาสบตา ผมซัดมันไปอีกหนึ่งอั้กและคราวนี้ไอ้ชานยอลร้องออกมา นอกจากจะไม่สงสารแล้วผมยังสมน้ำหน้ามันอีกด้วย

    สมน้ำหน้า! เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับพี่แบคหอสาม!!

    “ยะ...อย่าคิดว่ากูไม่กล้าดึงธงนะชานยอล” ชิบหายแล้วเสียงเริ่มสั่น ผมกำมือตัวเองแน่นแล้วทิ้งน้ำหนักไปทางด้านหลัง แต่ไอ้โย่งก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ ผมกระแทกตัวแรงๆอีกหลายทีจนในที่สุดมันก็ทนไม่ไหวจับผมโยนลงบนเตียงหลังใหญ่ ยังไม่ได้ทันจะได้ลุกขึ้นนั่งมันก็ตามมาคร่อมทับเอาไว้

    ผมตาเหลือกแล้วตะโกนดังลั่น

    “ไอ้ชานยอล!!!!

    “เมื่อยแล้ว ตัวก็เปี๊ยกนึงแต่หนักชิบหาย”

    “แล้วมันคือเหี้ยอะไรกับการที่มึงต้องมาคร่อมกูเนี่ย!!

    “ขังนักโทษ”

    “นักโทษอะไร”

    “นักโทษหัวใจ”

    กูผิดเองที่รับมุขมัน.....

    ผมกรอกตาไปมาด้วยความหน่าย และคิดได้ว่านี่มันออกนอกประเด็นเรื่องธงมากเกินไปแล้ว ผมกลิ้งลูกใสๆในตามาอีกรอบแล้วจ้องมองไปที่ธง ไม่ต้องคิดอะไรมากผมทำท่าจะกระชากมันออกมาแต่ชานยอลจับไว้ได้เสียก่อน ไอ้ที่จับได้นี่แขนผมนะไม่ใช่ธง แล้วมันยังกดแขนของผมไว้เหนือหัวให้จมลงไปในเตียงอีก

    ฟหวสกกกดาสงดวสเสหากด

    ท่าบัดซบนี่มันอะไรกัน!?!

    “อย่าทำกับกูแบบนี้นะชานยอล กูมีพ่อมีแม่นะเว้ย!

    “แล้วคิดว่ากูจะทำอะไร? ทะลึ่งว่ะเตี้ย”

    “ก็มึง.....มึงจะปล้ำกู!!

    “ตรงไหน? อะไรที่ทำให้บอกว่ากูจะปล้ำมึง”

    “นี่ไง! ท่าทางที่มึงคร่อมกูอยู่เนี่ย เหลือไซร้กับเสียบก็จะครบสูตรแล้ว”

    มันเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินคำว่าไซร้กับเสียบ ผมตั้งใจจะยกขาขึ้นตั้งใจจะกระแทกให้ถูกจุดยุทธศาสตร์แต่ไอ้ประธานมันก็ฉลาดเกินไป แม่งใช้ขาของตัวเองหนีบขาผมเอาไว้ซะแน่น ผมหายใจฟืดฟาดบ่งบอกว่าอารมณ์เสียขนาดหนักที่ทำอะไรไม่ได้

    ในเมื่อใช้ไม้แข็งแล้วไม่ได้ ก็เหลือแต่วิธีนี้แหละวะ

    ผมเบะปากออกแล้วทำท่าจะร้องไห้ ไอ้ชานยอลก็คงรู้ทันแม่งรีบเอ่ยปากดักคอ

    “วิธีนี้มึงใช้กับเฮียคริสได้แต่กับกูไม่ได้ เปลี่ยน” ผมรีบตีสีหน้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วเริ่มขยับปากด่ามันแบบไร้เสียง

    คอ วอ ยอ

    “พูดจาไม่เพราะ” มันว่าพลางรวบมือผมไปจับไว้มือเดียวก่อนจะใช้มือที่ว่างตีลงบนริมฝีปากผมเบาๆ

    “มันเจ็บนะ!

    “เจ็บจะได้จำ”

    “อย่ามามุ้งมิ้งได้มั้ยไอ้ห่ากูขนลุก” ผมสั่นตัวเบาๆแต่ขนทั้งร่างนี่พากันลุกเกรียวเพราะท่าทางที่โคตรโนเนะของไอ้ประธานนักเรียน มันขมวดคิ้วแล้วตีปากผมอีกที “ชานยอล!!

    “ถ้าอยากให้ปล่อยต้องพูดเพราะๆ”

    “ไม่เว้ย! ดูปากกูนะครับไอ้หูกาง ไม่ มี ทาง”

    “งั้นไม่เป็นไร อยู่ท่านี้นานๆกูเผลอจูบมึงก็ไม่รู้ด้วยนะ”

    ฟร๊าคคคคคคคคคค!

    ผมเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นก่อนจะถลึงตาใส่ไอ้โย่งที่คร่อมตัวผมอยู่อีกครั้ง พูดเรื่องจูบออกมาได้หน้าตาเฉยนะไอ้เวรนี่ มีผู้ชายปกติที่ไหนเขาจูบกันมั่งวะ ไอ้ชานยอลขยับหน้าใกล้เข้ามาผมก็ตะโกนหน้ามันไปที แต่ดูเหมือนว่าการด่าจะยิ่งทำให้หน้าของเราใกล้กันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ผมเบือนหน้าหนีจนปลายจมูกโด่งๆของไอ้โย่งแตะลงบนแก้มผม และในที่สุดก็ตัดสินใจได้

    “.....ปล่อย”

    “อะไรนะ?”

    “ปล่อยเราได้แล้ว.....”

     

    Chanyeol Part

    “ปล่อยเราได้แล้ว.....ชาน”

    ใจแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นไอ้เตี้ยทำท่าเหมือนจะอายแล้วพูดจาด้วยน้ำเสียงเบาๆ ผมนิ่งอึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะกระพริบตาปริบๆเหมือนมึนงง มองคนใต้ร่างที่หน้าแดงก่ำแถมยังไม่สบตาผม เห็นแบบนั้นเลยยอมปล่อยให้ไอ้เปี๊ยกเป็นอิสระ แบคฮยอนถอยกรูดไปติดหัวเตียง

    “แหยะ! เราบ้าเราบออะไรตอแหลสิ้นดี”

    ว่าแล้ว....ไอ้เมื่อกี้ไม่ใช่มันจริงๆด้วย

    ผมถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ว่าตัวเองโดนท่าทางของไอ้เตี้ยหลอกไปเต็มๆ มันยังคงนั่งทำท่าขนลุกกับคำพูดตัวเอง ผมตัดสินใจนั่งลงที่กลางเตียง ไอ้เตี้ยเบิกตากว้าง

    “อย่านั่ง!!

    “ทำไม? ไม่ให้นั่งแล้วจะให้กูคร่อมมึงแบบเดิมมั้ย?”

    “ไม่ใช่แบบนั้น! กูหมายถึงมึงใส่กางเกงในป้ะเนี่ย!!” ผมกระตุกยิ้มออกมาหน่อยๆแล้วจัดการลงขยี้สะโพกตัวเองลงบนเตียง ไอ้เปี๊ยกครางเหมือนคนจะตายแล้วทำหน้าขยะแขยง “อยากรู้ก็มาลองเปิดดูดิ”

    “ไอ้สัด เพื่อนเล่นมึงหรอ ตลกมากไปแล้ว”

    “แล้วตกลงมึงจะเอายังไง อยู่ในห้องกับกูสองต่อสองแบบนี้หรอ?”

    “มึงก็เอาธงมาให้กูสิวะ หาถุงมาใส่ด้วย”

    “ถุงยาง?”

    “พ่อมึง!!!!” ผมยิ้มเมื่อเห็นแบคฮยอนหัวเสีย เอาจริงๆคือเวลามันโกรธนี่น่าดูนะ กลายเป็นว่าตอนนี้มีความสุขเวลาโดนมันด่าเสียอย่างนั้น มันสบถพรืดออกมายาวๆก่อนจะหันมามองผมแว้บหนึ่งแล้วนิ่งไป เออเอาสิ มันจะหาแผนอะไรของมันมาเอาธงอีกล่ะ

    แล้วห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ไอ้เปี๊ยกชันเข่าตัวเองขึ้นกอดพลางหันหน้าหนีไปทางหน้าต่างไม่สบสายตากับผม ได้ยินมันบ่นอะไรไม่รู้พึมพำแล้วในที่สุดใบหน้าหวานนั่นก็เงยขึ้นมา ผมยืดตัวขึ้นนิดหน่อยแล้วรอคอยไอ้เตี้ยอย่างเงียบๆ มันหันมาสบตาผมแล้วรีบหันหน้าหนีกลับไปทางเดิม

    เอาตรงๆป้ะ?

    น่ารักว่ะ

    ผมถึงได้บอกไงว่าผมคงเสียสติไปแล้วที่จู่ๆก็มองมันว่าน่ารักทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย ก็แค่ผู้ชายหน้าตาบ้านๆตัวเล็กผิวขาวปากแดง แถมยังชอบด่ากราดทำตัวห่ามไปทั่ว แต่ผมก็ชอบมันไปแล้วไง

    ถ้าผ่านด่านเฮียคริสได้ผมว่าได้ไอ้เปี๊ยกคงไม่ยาก

    ได้ในที่นี้หมายถึงได้ใจนะครับไม่ใช่อย่างอื่น

    เฮ้อ~ มีคนอ่านหื่นก็งี้พระเอกทำใจได้ครับ

    “ชาน......” ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ สติกลับมาอีกทีไอ้แบคฮยอนก็อยู่ตรงหน้าซะแล้ว มันนั่งคุกเข่าอยู่หน้าผมก่อนจะเรียกชื่อสั้นๆด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างสั่น ใจผมกระตุกวูบขึ้นมาอีกครั้ง บอกตัวเองซ้ำๆว่าอย่าหลงกลไอ้ลูกหมาขี้อ้อนนี่เด็ดขาด

    “อะไร?”

    “ขอธงให้เราได้มั้ย?”

    “เรา? เมื่อกี้ยังบอกว่ารงเราอะไรตอแหล”

    “งื้อ” ไอ้เปี๊ยกครางเหมือนลูกหมาหลงทางพลางทำหน้าน่าสงสารเมื่อผมย้อน

    โอ๊ย!! ให้ตายห่าเถอะครับ เวลาแม่งจะเอาอะไรจากพี่คริสมันก็ทำงี้ด้วยใช่มั้ย?

    เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ๆมันถึงได้หวงน้องจะเป็นจะตายขนาดนั้น

    ผมหลับตาลงน้อยๆก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ไอ้แบคฮยอนรุกคืบอย่างรวดเร็วจนผมผงะก่อนจะเบี่ยงแขนของตัวเองให้พ้นทางเพราะรู้ดีว่ามันอาจจะดึงแขนเสื้อของผมไป เห็นไอ้เปี๊ยกทำหน้าเสียดายนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนท่าทาง มันสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนตักผม

    ไอ้เตี้ย....โอเค ถ้าคืนนี้มันเสียซิงอย่าลืมเตือนผมว่าให้เตรียมสู่ขอมันด้วย

    “เราอยากได้ธงอะ” ไม่ว่าเปล่ายังจับมือผมไว้โอบรอบเอวมันไว้ สติสตังเริ่มพร่าเลือนเมื่อกลิ่นแป้งเด็กลอยเตะจมูก ผมบอกแล้วไงว่าแพ้แป้งกลิ่นนี้ ใจสั่นทุกทีที่ได้กลิ่น  ผมวางคางของตัวเองไว้บนศีรษะไอ้เตี้ยมันชะงักไปนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้โวยวาย

    “ถ้าให้แล้วจะได้อะไร?”

    “ชานอยากได้อะไรอะ” แน่ะ....มีการช้อนตาขึ้นมามองด้วย

    “นี่แบคฮยอน.......”

    “หืม?”

    “กูว่ากูจะไม่ไหวแล้วว่ะ”

    End Chanyeol



     



    Talk -10-

    เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง
    เหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขน
    ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน
    ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา


    ที่มา : http://www.ข้อความโดนๆ.comกลอนธรรมะสอนใจ-ให้ผ่อนคลายใจเย็น-ทำใจให้เป็นสุข.html

    ไม่ไหว? อะไร....?
    ฟหกสวด่หฟา ไปลุ้นเอา
    พี่แบคหอสามจะเสียตูด เอ้ยเสียตัวหรือไม่
    #งานนี้เอ็นซีต้องมา
    หื้ม? รอลุ้นกันเอานะ 555555
    ฮือออ นางอ่อย? นางอ้อน? นางไม่น่ารอด
    #ฉันถามุณเจนญาณทิพย์มาแล้ว
    ช่วงนี้ยังอัพได้บ่อย...แต่หลังๆไม่บ่อยอย่าทิ้งเค้านะ
    *ส่งสายตาวิ้งๆๆ*
    บอกเลยว่า เม้นยาวไม่เป็นไรนะ ชอบอ่าน
    เม้นหยาบเพราะอิน เราไม่ว่า เพื่ออรรถรสตามบาย
    สวยเป็นคนสบายๆไม่ว่ากัน
    กิ้ กิ้ กิ้ 
    อ่านเรื่องนี้อย่าตามหาสาระ มันไม่มี 
    ด้วยความปราถนาดีจาก คนสวย
    ปล.รักนะครัชรีดเดอร์ของเลาาาา


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×