คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : หอแตก : 09
-9-
เข้าสู่ช่วงเทศกาลงานประเพณีหออย่างเต็มตัวไปแล้ว
เหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวก็จะถึงวันจริง ศักดิ์ศรีของความแมนนี่ตัดสินกันวันนั้นเลย ทุกวันนี้พอเลิกเรียนผมก็ขลุกอยู่ที่สนามบาส....ที่ไปนี่ไม่ได้ไปเล่นนะแต่ไปวิ่งเอาแรง ให้อยู่ในสายตาพี่คริสที่ทำเท่อวดสาว(?)ชู้ตบาสสามลูกติด ส่วนไอ้จงอินกับเซฮุนก็อยู่ในสนามเหมือนกัน ได้แต่วิ่งตามพวกพี่ๆปีสามไปอย่างนั้น
ไอ้ชานยอลเงียบหายไป ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน มันก็คงยุ่งจัดการอะไรหลายๆอย่างเห็นว่าเรื่องกล้องวงจรปิดเหมือนจะติดได้ไม่ทันวันงาน ถ้าเป็นแบบนั้นจริงมีปัญหาแน่ไอ้พวกที่เคยมีเรื่องกันมันก็กะจะมาเอาคืนงานนี้
แผนที่วางไว้ไม่มีอะไรมากจะแบ่งออกเป็นสี่พวกด้วยกัน แบ่งกันไปหอหนึ่งหอสองและหอพิเศษ ส่วนธงก็ให้พี่ลู่หานที่เป็นกรรมการนักเรียนเมื่อปีที่แล้วเป็นคนรักษาธง มีประมาณยี่สิบคนคอยกันไว้ไม่ให้ไปถึง
พี่คริสแม่งอยู่หอหนึ่ง....เคยพยายามจะล้วงความลับมันออกมาว่าธงอยู่ที่ใครแต่เฮียไม่พูดอะไร ท่าทางว่าลูกอ้อนของผมจะไม่ได้ผล
ใจแข็งกว่าที่คิด ฮอลลลลล
ผมวิ่งออกจากสนามมานั่งพักอยู่ข้างๆ หยิบน้ำขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ แฝดขาววิ่งมานั่งข้างๆแล้วแย่งน้ำผมไปกิน หอบหายใจน้อยๆแล้วยกแขนเสื้อขึ้นมาปาดเหงื่อตัวเอง ใครจะหาว่าซกมกก็ช่างล่ะ เด็กผู้ชายก็งี้ไม่มีเวลาพกหรอกผ้าเช็ดนงเช็ดหน้าอะไร
“ร้อนว่ะ ทำไมอากาศแม่งร้อนจังวะ”
“ก็หน้าร้อน มึงจะให้หนาวเหมือนปีใหม่เลยไง”
ผมหันไปค้อนใส่ไอ้แฝดซักทีแล้วกระพือเสื้อตัวเองแรงๆ ไล่ความร้อนที่แผ่ออกมาจากกายให้ออกมาด้านนอก ผมปลดประดุมตัวเองอย่างเงียบเชียบดีว่าพี่คริสกำลังแย่งบาสจากพี่ลู่หานอยู่เลยไม่ได้สนใจผมมากเท่าไหร่
ค่อยยังชั่วหน่อย
“.....เฮียไม่ชอบให้ถอดเสื้อไม่ใช่ไง”
ผมสะดุ้งเมื่อใครบางคนเดินมาจากทางด้านหลังโยนผ้าเย็นลงบนตัก ผมเงยหน้าไปมองก่อนจะพบว่าเป็นไอ้ประธานนักเรียนที่ไม่ได้เห็นหัวมาหลายัน ไอ้เซฮุนเห็นแบบนั้นก็สบถออกมาหน่อยๆแล้วฉุดแขนมันให้นั่งลง ผมรีบหันไปมองเฮียคริส กลัวว่าระเบิดจะลงกลางสนาม แต่พี่ไม่ได้สนใจผมเลย
“โผล่มาโต้งๆระวังพี่เมียแหกอกเอานะ เฮียคริสหมายหัวมึงไว้อันดับหนึ่งเลย”
ชานยอลหัวเราะเบาๆ ส่วนผมก็โบกหัวไอ้แฝดคนน้องไปที ผงะนิดหน่อยเมื่อเห็นรอยยิ้มแบบนั้นก่อนจะหันหน้าหนีกลับมาแกะผ้าเย็นออกจากซองแล้วเอาเช็ดหน้า เซฮุนกับไอ้ชานยอลคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ตกลงว่ามันไม่ได้มาหาผมใช่ปะวะ?
“ขอบคุณซักคำน่าจะมี”
“มึงเอามาให้กูเองไม่ใช่ไง”
“งั้นเอาคืนมา”
“ห่า ทวงคืนหน้าด้านๆ” ผมปาผ้าเย็นไปคืนมันแล้วชูนิ้วกลางไปให้ ไอ้ชานยอลใช้นิ้วคีบออกด้วยท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์สุดๆ ผมยกแขนทำท่าจะต่อยมันเข้าให้แต่ชานยอลก็ยกมือยอมแพ้ซะก่อน
“มาแค่นี้ล่ะ”
“มาเพื่อกวนประสาทแค่เนี้ย?”
“อื้อ อยากเห็นหน้า ไปล้ะ”
...ว่าไว้แค่นั้นไอ้โย่งก็ลุกออกไป
ห๊ะ! อะไรนะ!? หูฝาดไปป่าววะ!!?
บึ้ม!~
Chanyeol Part
วูบหนึ่งผมคิดไปว่าตัวเองคงเสียสติ.....
แต่ในที่สุดแล้วผมก็คิดได้ว่า ผมเสียสติไปแล้วจริงๆ
อุบัติเหตุที่โรงยิมนั่นไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอกครับ ทับไอ้เปี๊ยกไปเต็มๆน่าดีใจตรงไหนถ้ามันทับผมสิค่อยน่าดูหน่อย....แถมยังปากชนปาก วินาทีนั้นหัวใจผมเต้นแรงมาก แรงกว่าตอนที่มันหลับอยู่ข้างๆผม แรงยิ่งกว่าตอนที่ผมได้กลิ่นแป้งเด็กจากมันอีก
แล้วมีอย่างที่ไหน เดินมาหาเรื่องในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า จูบด้วยอีกแน่ะ ผมเลยอดรนทนไม่ไหวสั่งสอนไปนิดหน่อย เวลาเห็นหน้ามันตอนเหวอเป็นอะไรที่น่าสนุกออก
แต่ผมรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้แค่อยากจะแกล้งมันหรอก
ถ้าเป็นคุณ มีปากเล็กๆแดงๆมาขยับเจื้อยแจ้ว(ถึงส่วนใหญ่ที่พ่นออกมาจะเป็นคำด่าก็เหอะ)อยู่ตรงหน้า แถมยังจูบอีก ผมอดใจไม่จูบแบบลึกซึ้งให้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว พอตอนกลางวันก็มีเรื่องขึ้นมาทันที เฮียคริสบุกมาอาละวาดในห้องอาหาร ผมทำใจไว้แต่เนิ่นๆเลยไม่ได้ป้องกันตัวอะไร
‘ที่มึงจูบน้องกูในโรงยิมนั่นคือเหี้ยอะไรชานยอล!’
‘ในโรงยิมเป็นอุบัติเหตุ แต่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผมยอมรับ ผมตั้งใจ’
‘นี่มึงยังมีรอบสองอีกหรอไอ้ห่า!!’
ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ไอ้เตี้ยจะอารมณ์ร้อน พี่คริสเข้ามากระชากคอเสื้อ ผมส่งสายตาให้จื่อเทาที่ทำท่าจะเดินเข้ามาห้าม ยังไงซะผมเป็นคนทำก็ต้องรับผิดชอบ
‘อย่าคิดจะเล่นๆกับน้องกู!’
‘ผมไม่ได้จะเล่นๆ ผมชอบแบคฮยอน’
‘ว่าไงนะมึง!!’
‘ผมจะจีบน้องเฮียอะ’
โอเค....เฮียเกือบจะชกผมแล้ว ดีว่าไอ้เตี้ยเข้ามาก่อนหน้าผมเลยไม่ต้องฟกช้ำ
หลังจากนั้นก็เจอกันแค่ตอนเย็นและไม่ได้เจอกันอีกเลย สามสี่วันที่ผ่านมาผมยุ่งๆเพราะเรื่องของการติดตั้งกล้องวงจรปิด เหมือนบริษัทกำลังจะเบี้ยวว่าไม่สามารถทำให้เสร็จได้ในวันที่กำหนด ผมเลยต้องไปกับอาจารย์เพื่อชี้แจงถึงความจำเป็นที่จะต้องให้เสร็จทันวันงาน และต้องเช็คเรื่องเสื้อของแต่ละหอนั่นอีก
พอวันนี้ว่างๆก็เลยหนีออกมาซักหน่อย เห็นคยองซูว่าเดี๋ยวนี้ไอ้แบคฮยอนชอบไปอยู่แถวสนามบาส ไอ้เปี๊ยกได้แต่วิ่งตามลูกดิ๊กๆเหมือนลูกหมาไม่มีผิด ใบหน้าขาวขึ้นสีเข้มเนื่องจากอากาศที่ร้อน ริมฝีปากบางนั่นก็แดงแจ๋ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา และในที่สุดผมก็เดินไปซื้อผ้าเย็นมาก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ พอเห็นมันกำลังค่อยๆปลดกระดุมเสื้อตัวเองแล้วถอดเสื้อตัวนอกออกมาผมก็ขมวดคิ้วแน่นพลางโยนผ้าเย็นลงไปบนตักเล็กๆนั่น มันหันมาทำหน้าตกใจพร้อมๆกับเซฮุนที่นั่งอยู่ด้วย ฝาแฝดคนน้องก็ทำหน้าที่ได้ดีเหลือเกิน กลัวผมจะโดนด่าเลยฉุดมือลงให้นั่ง
ผมนั่งอยู่นานมากไม่ได้ โทรศัพท์ในกระเป๋าเริ่มสั่นทำให้รู้ว่าคงมีอะไรเร่งด่วนแหง ผมลุกขึ้นยืนแล้วพูดอะไรซักอย่างตามใจคิดออกไป
ไอ้เตี้ยหน้างี้แดงแปร๊ด ผมได้แต่หัวเราะเบาๆ ไม่รู้ว่ามันเขินหรือว่าอะไรกันแน่
ได้มากวนอารมณ์มันก็ทำให้ผมรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเป็นกองแล้ว
“อีกไม่กี่วันจะถึงวันงานแล้ว มึงมีแผนอะไรบ้างล่ะ”
คยองซูเดินเข้ามาในห้องประชุมที่ผมกับจงฮยอนกำลังเช็คเสื้อที่เพิ่งส่งมาถึงวันนี้ ผมนิ่งไปซักพักก่อนจะคิด จะว่าไปผมก็ไม่ได้มีแผนอะไรเลย เพราะไม่ว่ายังไงหอพิเศษชนะก็ไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากเท่าไหร่
“ก็.....คงไม่ต้องบุกหอไหน ป้องกันหอเราไม่ให้ใครแย่งธงไปได้ก็พอ”
ผมว่าก่อนจะนับเสื้ออีกครั้ง เสื้อของหอสามถูกเปลี่ยนเป็นสีฟ้า แต่มีเพียงตัวเดียวที่เป็นสีชมพู แน่นอนว่าไม่พ้นร่างเล็กที่เป็นประธานหอ ผมอุตส่าห์สั่งแยกเป็นพิเศษ
ไอ้เตี้ยได้ด่าเป็นของแถมมาอีกชุด
แต่ก็นั่นแหละ...เวลาเห็นมันโมโหแล้วน่าสนุกจะตาย แก้มมันแดงทุกทีเวลาโกรธ เป็นภาพน่าดูไม่น้อยล่ะถ้าได้มาเห็น เดี๋ยวนี้มันก็ไม่ได้มาทำความสะอาดห้องผมแล้ว เหงาหูไปบ้างนิดหน่อย
“แผนอะไรของมึงวะประธาน กาก”
ไอ้จื่อเทาที่นั่งเล่นเกมอยู่ที่มุมห้องตะโกนขึ้นมา ผมขมวดคิ้วนิดหน่อยแล้วถามกลับ “แล้วมึงมีแผนอะไรที่ดีกว่านี้”
“จะรับมือกับหอหนึ่งยังไง หอสองล่ะ แล้วหอสามจะให้ใครรับผิดชอบ”
ผมนิ่งไปอีกครั้งแล้วมองหน้าคยองซูอย่างขอความเห็น แต่อย่างว่าเพื่อนผมไม่ค่อยถนัดเรื่องแบบนี้ซักเท่าไหร่ มันยกมือขึ้นขอบายกับการวางแผนครั้งนี้ ไอ้เทาพอเห็นผมเงียบไปนานก็ตัดสินใจหยุดเกมแล้วเดินเข้ามาหา
“หอหนึ่งเจโล่กับแดฮยอนจะเป็นทีมรับหน้า หอสองก็เป็นไอ้มินโฮกับแทมิน ส่วนหอสาม....”
ผมมองหน้าไอ้คนวางแผนที่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์กรุ้มกริ่ม “หอสามยังไง”
“ก็ไม่ยังไง กูกับคยองซูจะจัดการเอง”
“...........”
“แต่ไอ้ตัวหัวหน้า คงต้องปล่อยให้มึงไปจัดการล่ะนะ”
อ่า.....ไอ้จื่อเทานี่ใช้ได้เลย J
End Chanyeol Part
ผมจัดการแจกจ่ายเสื้อให้กับสมาชิกในหอที่ห้องประชุม ไอ้ชานยอลจัดการเปลี่ยนสีเสื้อให้เป็นสีฟ้าไม่ใช่สีชมพูแบบที่บอกตอนแรก ผมค่อนข้างพอใจนิดหน่อย แต่เมื่อแจกจ่ายเสื้อครบแล้วก้นถุงของเสื้อก็มีเสื้อสีชมพูเหลืออยู่ ผมขมวดคิ้วก่อนจะพบเศษกระดาษที่สอดไว้ในถุงเขียนไว้ว่า
‘ของไอ้เตี้ย’
ไอ้ชานยอลแม่งท้าทายผมมาก!!
“ของใครวะ? ของมึงหรอ?”
“เซฮุน! แลกเสื้อกับกู”
“เรื่องอะไร มันทำเพื่อมึงขนาดนี้แล้ว”
“ทำเพื่อกูเหวอะไรล่ะ! ดูก็รู้ว่าแกล้งกันชัดๆ!!” ผมคลี่เสื้อสีชมพูหวานแหววออกมา คนอื่นๆจ้องมาที่ผมนิดหน่อยเพราะสีเสื้อที่แตกต่าง ผมสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะกระแทกเสื้อสีชมพูใส่มือไอ้จงอิน สูดลมหายใจเข้าลึกๆระงับอารมณ์โมโหก่อนจะเดินไปหยิบไมค์มาเพื่อทำหน้าที่ต่อไป
“เสื้อที่แจกให้คือสิ่งที่จะต้องใส่ในคืนพรุ่งนี้”
“แล้วทำไมของประธานหอถึงเป็นสีชมพูครับ? งานนี้มีสปายด้วยหรอ?”
เสียงฮือฮาในห้องประชุมดังขึ้นเมื่อพูดถึงคำว่าสปาย ผมอ้าปากค้างนิดหน่อยก่อนจะเออๆออๆตามนั้นไป จะให้บอกได้ยังไงว่าโดนแกล้ง
เสียศักดิ์ศรีประธานหอมาก
“อะไรประมาณนั้น แล้วก็...วันนี้สภานักเรียนจะมาตรวจหอ หากใครมีอาวุธให้เอาออกมาไว้ที่ผมเดี๋ยวนี้ เพราะถ้าหากโดนประธานนักเรียนจับได้ เราจะถูกปรับแพ้ทั้งหอ”
เสียงในห้องประชุมเงียบไป ผมถามย้ำอีกครั้ง “ไม่ว่าจะปืนประทัดดอกไม้ไฟหรืออะไรก็ตามที่อยู่ในข่ายของอาวุธและอุปกรณ์ที่ผิดกฎของโรงเรียน ให้เอาออกมาไว้ที่ผมก่อนที่คณะกรรมการจะมา เพราะไม่อย่างนั้นนอกจากจะถูกปรับแพ้แล้ว คุณได้ไปเยือนกิจการนักเรียนแน่ ตกลงว่ามีใครมีไหมครับ?”
“........”
“ถ้าไม่มี......”
“ผมขออนุญาตไปเอาของบนห้องครับ”
ในที่สุดก็มีนักเรียนปีหนึ่งคนนึงลุกยืนขึ้นมาแล้วฉุดเพื่อนที่อยู่ข้างๆให้ลุกไปด้วยกัน ผมมองทั้งสองคนด้วยสายตานิ่งๆไม่ได้จะตำหนิอะไร ผมว่าของแบบนี้ยอมรับสารภาพมายังดีกว่าไปเจอเอง
“แล้วคนอื่นมีใครอีกมั้ยครับ?”
ผมถามอีกทีเพื่อความแน่ใจ แต่เมื่อไม่มีคนอื่นอีกแล้วก็ทำเพียงรอ น้องทั้งสองคนก็วิ่งลงมาก่อนจะวางพวกประทัดลงบนพื้น ผมมองเล็กน้อยก่อนจะส่งสัญญาณว่าให้กลับไปนั่งได้
“จริงๆเรื่องนี้ผิดกฎของหอนิดหน่อย แต่ผมจะลงโทษพวกคุณหลังจากที่เสร็จงานประเพณีหอ ด้วยความที่คุณยอมสารภาพเองผมจะลดโทษลงให้กึ่งหนึ่ง” เด็กปีหนึ่งหน้าซีดเผือดไป แต่พอได้ยินคำว่าลดโทษสีหน้าก็ดีขึ้นมา
“งานจะเริ่มตอนสองทุ่มตรง ถ้าได้ยินเสียงสัญญาณแล้วให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ว่ายังไงเราจะต้องชนะ เข้าใจไหม?”
“เข้าใจ!!”
“ดีครับ เดี๋ยวอีกซักพักพวกสภานักเรียนจะมา เชิญทุกคนกลับห้องได้”
ผมจัดการปิดไมค์แล้ว เดินกลับไปหาสองแฝดที่กำลังจัดการกับประทัดกล่องขนาดย่อม คนในห้องประชุมเริ่มทยอยหายไป ไม่นานนักพวกคณะกรรมการนักเรียนก็มา เป็นชานยอลคยองซูและจื่อเทาสามคน ผมขมวดคิ้ว ของแบบนี้ประธานนักเรียนไม่จำเป็นต้องมาเองด้วยซ้ำ
“หวัดดีแบคฮยอน” คยองซูส่งยิ้มมาให้ ในมือมีแผ่นกระดาษโบกมันไปมา ผมส่งยิ้มกลับก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้โย่งที่กวาดสายตาไปรอบๆแล้วหยุดอยู่ที่ผม เห็นแบบนั้นก็สะดุ้งก่อนจะหยิบกล่องประทัดใส่มือของมันทันที
“นี่ตรวจรอบแรก เค้นถามเด็กมา”
“หืม? ประทัด?” มันอ่านชื่อบนกล่องก่อนจะเอาไปถือ ไม่.....เอากล่องไปอย่างเดียวไม่พอ มันจับมือผมด้วย
“ไอ้ชานยอล....เนียนแล้วมึง”
“อืม....เนียนจริงๆนั่นแหละ มือมึงอะ”
ผมตบหัวมันเข้าให้หนึ่งทีแล้วกระชากมือข้างที่เหลือออกมา ดีว่าคุยกันสองคนเบาๆคนอื่นไม่ได้ยินเลยไม่ได้โดนล้ออะไร ส่วนไอ้เซฮุนก็เอาแต่บ่นเรื่องที่ผมตบหัวประธานนักเรียนอีกแล้ว ไอ้ชานยอลยักคิ้วกวนตีนเสียหนึ่งทีก่อนจะส่งกล่องประทัดให้กับคยองซู คุยอะไรกันซักพักแล้วจึงหันกลับมา
“ถือว่าสารภาพก่อนจะตรวจ ไม่ปรับแพ้”
“นั่นคือสิ่งที่มึงควรทำ”
“ถึงกูจะชอบมึงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสั่งกูได้หรอกนะ”
“พูดห่าอะไรของมึงเนี่ย!!!”
ไอ้ตอนแรกก็ท่าทางเป็นการเป็นงานดีอยู่หรอก แล้วไหงทำไมวกกลับมาเรื่องของผมได้วะ ไอ้จื่อเทาผิวปากโดยมีสองแฝดนรกส่งเสียงตามเป็นลูกคู่ตบท้าย ผมส่งสายตาค้อนใส่ไอ้โย่งที่ทำท่าไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวและก่อนที่จะไร้สาระไปมากกว่านั้นก็เริ่มเดินตรวจโดยเริ่มจากห้องของผมและไอ้สองแฝดเป็นอันดับแรก
“ตุ๊กตาก๊อตซิลล่า?”
“ให้มาหาของที่ผิดกฎ ไม่ได้ให้มองของของกู”
ผมคว้าตุ๊กตาตัวเองมากอดหลังจากที่ไอ้ชานยอลถือวิสาสะจับมันขึ้นมา น้องก๊อตตุ๊กตาตัวโปรดไม่เคยมีบทเลยตั้งแต่เปิดเรื่องเพราะผมเพิ่งเอามันมาไว้เนื่องจากเอาไปซัก มันกระตุกยิ้มน้อยๆแล้วเดินห่างจากเตียง ผมเบะปากออกให้กับท่าทีที่เหมือนจะเท่แบบนั้น
คนแมนๆจะมีโมเม้นต์มุ้งมิ้งบ้างมันไม่ผิด เข้าใจป้ะ!?
“ว่าแต่ประธาน เสื้อของแบคฮยอนน่ะ มันเป็นสีชมพู ประธานสั่งอะไรพลาดไปป้ะ”
ไอ้จงอินนอนเล่นอยู่บนเตียงของแฝดน้องเอ่ยถามขึ้นมา ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ลืมเรื่องเสื้อไปซะสนิทใจ ไอ้ชานยอลหันมาพลางยกยิ้มกวนตีนให้ “ไม่ผิดหรอก เหมาะกับมันแล้ว”
“กวนตีน!!”
ผมตะโกนก่อนจะปาหมอนไปใส่ไอ้โย่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูระเบียง มันใช้มือรับไว้แล้วยักไหล่ตัวเองน้อยๆ ในขณะที่ผมก็ชี้หน้า “นี่กวนตีนกูใช่ป้ะ!”
“เสื้อมึงพิเศษกว่าคนอื่นไม่ดีตรงไหน หรือต้องให้กูสกรีนคำว่าแบคฮยอนใส่ไปด้วย”
มันเลิกคิ้วขึ้นในขณะที่ผมก็ยกนิ้วกลางใส่ กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวไปแล้ว ใครไม่โดนผมยกนิ้วกลางใส่นี่ถือว่าพลาดมาก ชานยอลขมวดคิ้วเหมือนมันจะไม่ชอบการกระทำแบบนี้ของผมซักเท่าไหร่นัก แต่ก็ช่วยไม่ได้ ใครอยากให้มันมากวนตีนผมก่อน
“ไม่สุภาพ ไม่ประทับใจ”
“กูไม่ใช่กสิกรนะจะได้มาบริการทุกระดับประทับใจ”
“ห้ามทำแบบนี้อีกเข้าใจมั้ย?” มันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า จับมือของผมข้างที่ยกนิ้วกลางใส่มันขึ้นไปตีหนึ่งเพี๊ยะ เห็นการกระทำที่โคตรปัญญาอ่อนของไอ้โย่งแล้วผมก็อ้าปากค้างก่อนจะสบถออกมาเบาๆเมื่อพบว่าไอ้จื่อเทากำลังส่งสายตาล้อเลียน แล้วไอ้ที่ตีน่ะเบาที่ไหนให้ตายห่า! ไม่นานนักมือผมก็ขึ้นเป็นรอยปื้นแดงๆ เห็นแบบนั้นแล้วก็หันไปหาไอ้เซฮุน เบะปากฟ้อง
“ไอ้แฝด มึงดูนะ เป็นพยานให้กูด้วยว่าแม่งทำกู แดงเลย”
“เฮ้ยมึง จะทำอะไรก็เกรงใจพี่เมียบ้าง ทำน้องเขาเป็นรอยแบบนี้ต้องรีบสู่ขอ”
“ไอ้เซฮุน! สัด!” ไม่.....ทำอะไรมันไม่ได้เพราะอยู่ไกลเกินไป ผมเลยลงกับไอ้จงอินที่นอนอยู่เตียงข้างๆด้วยการกระโดดขึ้นไปนอนทับมัน
“มึงดูให้ดีนะเมียหลวง วันนี้แหละกูจะปล้ำผัวมึง!”
“กูรู้สึกดีจังเลยที่มีคนมาแย่งเนี่ย” ไอ้จงอินกรอกตาไปมาก่อนจะพยายามผลักผมที่กำลังปลุกปล้ำ(?)ร่างกายมัน ลืมไปหมดแล้วว่าตอนนี้มีคนนอกอยู่ด้วย ใครบางคนรั้งเอวผมขึ้นมาก่อนะพบว่าเป็นปาร์คชานยอลที่ทำหน้าตาหงุดหงิด ผมทำหน้าเหวอหน่อยๆแล้วค่อยร้องโวยวาย
“อุ้มกูทำไมเนี่ย! ปล่อย!!”
“อย่าทำให้ต้องหึงได้ปะ”
“ว่าไงนะ”
“คิดว่ามึงจะนอนบนตัวผู้ชายคนไหนก็ได้รึยังไง ไซร้เขาไปทั่วอย่างนั้นหรอ?”
“ดะ...เดี๋ยว อะไรของมึงเนี่ย!!”
“อย่าทำให้ต้องหวง ไม่งั้นมึงจะโดนหนักแน่”
“ไม่ธรรมดา ประธานนักเรียนของเราไม่ธรรมดา”
ระหว่างที่เดินตรวจไปรอบๆหอไอ้แฝดนรกคนพี่ตัวดำที่ยืนรออยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมา ผมเลิกคิ้วไปมองมันนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะคนที่มันกำลังพูดถึงคือประธานนักเรียนที่ตอนนี้สมองชักจะเพี้ยนเข้าไปใหญ่ สามคนจากหอพิเศษและเซฮุนกำลังตรวจห้องของชั้นสอง ผมและจงอินยืนอยู่ด้านนอกไม่อยากจะเข้าไปให้เกะกะ
“ทำไมเขาถึงชอบมึงวะ...โอ๊ย ตบหัวกูอีกแล้ว”
ไม่ต้องตอบอะไรให้เปลืองน้ำลายผมก็ตบหัวของไอ้จงอินแทนคำตอบไปเรียบร้อย เป็นการบอกไปในตัวว่าห้ามพูดอะไรแบบนี้อีก ไอ้ดำถลึงตาใส่ผมก่อนที่มันจะเอาคืนด้วยการล็อคคอแล้วใช้มืออีกข้างดึงแก้มผมแรงๆ ไอ้ห่านี่เล่นแรงตลอด ลืมไปว่าถ้าเป็นไอ้เซฮุนมันจะไม่ทำอะไรคืน แต่นี่เป็นไอ้จงอินไง
“เจ็บนะ!!”
“ดึงแก้มนิดหน่อยทำเป็นหวง ไหนว่ากูเป็นผัวมึงไง”
“เราเลิกกัน”
“ใช่สิ มีผัวใหม่ไปแล้วนี่”
“ผัวใหม่เหี้ยไร!” ยังไม่ทันจะได้ฟัดกันอีกรอบคนในห้องก็เดินออกมาซะก่อนผมเลยจำต้องสงบศึกชั่วคราว ผมลูบแก้มตัวเองน้อยๆแล้วเดินตามคนที่เหลือไป คราวนี้เซฮุนให้ผมเข้าไปในห้องแทน ส่วนสองแฝดก็ยืนรออยู่ข้างนอก น้องปีหนึ่งในห้องสามคนหันมา ผมจำได้ว่าเป็นคนที่เอาประทัดไปสารภาพเมื่อซักครู่
“จะนอนกันรึยัง?”
“ก็ใกล้แล้วครับ” น้องปีหนึ่งตอบกลับมาในขณะที่ผมก็พยักหน้าน้อยๆ กวาดสายตามองรอบห้องปล่อยให้ชานยอลเดินตรวจนู่นนี่นั่น
“รุ่นพี่ครับ.....”
“หืม?” เด็กคนเดิมเอ่ยเรียกชื่อผมแบบกล้าๆกลัวๆ ผมหันกลับไปมองแล้วครางตอบกลับ เด็กนั่นมองไปที่ชานยอลและมองมาที่ผม “ผมชื่อแทฮยอน คิมแทฮยอน”
“อาหะ”
“รุ่นพี่......คบกับประธานนักเรียนจริงหรือเปล่า?....แต่ผมคิดว่าไม่” เด็กนั่นเสียงแผ่วลงเมื่อเห็นหน้าตาที่ไม่ได้ยินดีกับคำถามนั้นซักเท่าไหร่ของผม ท่าทางว่าไอ้โย่งจะได้ยินมันหันกลับมามอง ส่วนจื่อเทาที่ยืนอยู่ข้างๆก็เอามือมาคล้องคอผมไว้และเป็นคนตอบคำถามแทน
“ยังหรอก ไม่ได้คบกัน” น่าแปลกที่คราวนี้มันไม่คิดจะยัดเยียดประธานนักเรียนของมันให้ผมอย่างเคย
“แต่กำลังจะได้กัน เร็วๆนี่แหละ”
“ไอ้เหี้ยเทา! กูกับมันไม่มีอะไรกันเว้ย แทฮยอน ไม่ต้องไปฟังมันมาก เข้าใจไหม”
เด็กนั่นทำหน้าเหวอเมื่อได้ยินคำตอบที่ค่อนข้างแปลกประหลาด ผมรีบตะครุบปากของคนที่ปากรั่วแล้วแก้ตัวกับแทฮยอนที่นั่งอยู่บนเตียง พอได้ยินแบบนั้นเด็กนั่นก็ยิ้มออกมาหน่อยๆ
“เข้าใจแล้วครับ”
“เข้าใจว่า?”
“รุ่นพี่ไม่ได้คบกับประธานนักเรียน”
“เออ ถูกต้องแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น....ผมพอจะมีสิทธิ์มั้ยครับ?”
“..........?”
“เหยด....ไอ้ชานยอล! มึงได้ยินมั้ย! เด็กนี่แม่งจะจีบแบคฮยอนว่ะ”
ผมเบิกตากว้าง ตบหัวไอ้จื่อเทาไปที ยังไม่ทันจะได้ตอบคำถามของเด็กนั่นก็โดนปาร์คชานยอลที่โยนงานให้คยองซูลากออกมา แทฮยอนส่งยิ้มตามมาในขณะที่ผมก็ถลึงตาใส่มันไปที ไอ้เด็กบ้านี่มันอะไร! ไอ้โย่งพาผมกลับมาที่ห้อง เปิดประตูเข้าไปแล้วผลักผมเข้าไปในนั้นแต่ตัวมันกลับยืนอยู่ที่ประตู
“ไม่ต้องไปตรวจแล้ว อยู่ที่นี่ ปล่อยให้จงอินกับเซฮุนจัดการ”
“........อะไรวะ?”
“แล้วอย่าไปน่ารักใส่คนอื่นให้มากได้มั้ยวะ กูหวง”
ไอ้เหี้ยยยยยยย กูน่ารักตอนไหน ตอบ!!!
Talk -9-
อุปสรรค ข้างหน้า อาจมีฝน
ทั้งข้างหลัง อาจมืนมน ไม่แจ่มใส
มีสมอง มีสองเท้า จงก้าวไป
เพิ่มถานใจ สุมใส ให้ลุกโชน
ที่มา : http://krunikornpanrana.wordpress.com/คำกลอนสอนใจ/
มาไวติดสปีดความเร็วแสง #เต้นระบำหน้าท้อง
งืม....ตอนหน้าไม่รับประกันนะว่าจะลงวันไหน
หมดสต๊อก..........
*วิ่งวนไปรอบๆบ้าน* ดีใจที่ชอบฟิคเรื่องนี้นะ*___*
คือมันไม่มีสาระไรเลย แต่แบบ..ก็มีคนอ่านง่ะ 5555
อ่านแทคแล้วก็นั่งขรรมอะแกร...บ้าไปแล้ว~~
ตอนนี้พี่ชานรวดเร็วทันใจมาก
ช่วยตอบพี่แบคเขาหน่อยว่านางน่ารักตรงไหน
ส่วนเด็กคนนั้นเป็นใคร...ช้านตอบได้คำเดียวว่า
นางเป็นตัวประกอบที่ผ่านมาและผ่านไป
กิซ กิซ กิซ ไปแล้วนะ รักครัชทุกคน
ปล. พี่รู้มั้ย...ฉันนอนรอแทคที่หน้าทวิตเตอร์ทุกวันเลยนะ
ปล.สอง นอกจากนั้นยังนอนรอเม้นทุกวันที่หน้าฟิคอีกด้วย
55555
#ฟิคหอแตก #พี่แบคหอสาม
ความคิดเห็น